วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 31 ชั้นที่สิบเอ็ด


เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 31 ชั้นที่สิบเอ็ด
เหนือทุ่งหญ้า ยอดฝีมือทุกคนเห็นรอยฉีกในมิติปรากฏขึ้น  แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินมาว่าเวทคมมีดมิติทรงพลังน่าทึ่งเพียงไหนก็ตาม  แต่เมื่อมาเห็นด้วยตัวเอง รอยฉีกในมิติที่สร้างขึ้นโดยคมมีดมิติก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกกลัว

 “เวทคมมีดมิติสมชื่อของมันจริงๆ เวทต้องห้ามเป้าหมายเดี่ยวที่ทรงพลังที่สุด”  เฟนถอนหายใจตกใจ  “แม้แต่ข้า.. ถ้าเซียนจอมเวทลอบทำร้ายข้าด้วยเวทนี้ ถ้าเราไม่อยู่ห่างเกินไป บางทีข้าคงหลบไม่ทันเวลา”
เวทคมมีดมิติอาจนับได้ว่าเป็นสุดยอดเวทโจมตีเป้าหมายเดียวในสายธาตุลม
ความเร็วของมันถึงขีดจำกัดของความเร็ว และพลังโจมตีของมันก็ถึงขีดจำกัดด้วยเช่นกัน
 “นี่คือสาเหตุที่ข้ามักจะระมัดระวังให้ความสนใจเซียนจอมเวทธาตุลม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขามีความแค้นกับข้า”  เดลี่หัวเราะ  “กล่าวโดยทั่วไป เมื่อใดก็ตามที่ข้ารู้สึกว่ามีปริมาณแก่นธาตุลมมหาศาลรวมตัวอยู่ใกล้ข้า  ข้าจะเผ่นไปซ่อนตัวให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้”
 “ฮ่าฮ่า...”  ยอดฝีมือทุกคนเริ่มหัวเราะลั่น
 “เดลี่, เจ้าก็กลัวด้วยหรือ?”  เฟนหัวเราะลั่นขณะกล่าว
สำหรับลินลี่ย์สามารถกลายเป็นเซียนจอมเวทได้คือเรื่องที่ทำให้เดลี่ เฟน และยอดฝีมืออื่นรู้สึกประหลาดใจแกมดีใจ  พลังของลินลี่ย์จะเพิ่มขึ้นอีกมากซึ่งทำให้กลุ่มมีโอกาสสูงจะได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์บนชั้นที่สิบเอ็ด
 “พอเถอะ มีเวลาอีกสองเดือนกว่าจากนี้ไปก็จะครบกำหนดปีครึ่งที่เราตกลงกันไว้  ทุกคนพักผ่อนในช่วงสองเดือนสุดท้ายนี้ดีกว่า”  เดลี่พูดชัดเจน
ยอดฝีมือทุกคนพยักหน้า  จากนั้นแยกย้ายกันอีกครั้ง
ตอนนี้ บีบีอยู่กับลินลี่ย์
 “พี่ใหญ่, ในที่สุดท่านก็ถึงระดับเซียนจอมเวทแล้ว นี่สุดยอดจริงๆ”  บีบีมีความสุขมากขณะกระโดดโลดเต้นไปมาและโบกกรงเล็บน้อยอย่างมีความสุข  ดวงตาน้อยของเขาหรี่เป็นประกาย
 “แม้ว่าข้าจะกลายเป็นเซียนจอมเวท นั่นก็แค่หมายความว่าโอกาสรอดในชั้นที่สิบเอ็ดของข้าสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “ดูเถอะ ระดับความยากเพิ่มขึ้นมาจากห้าชั้นแรก กับห้าชั้นที่สองสูงขึ้นมากเพียงไหน  ชั้นที่สิบเอ็ดนี้...”
บีบีผงกหัวเช่นกัน
ชั้นที่สิบเอ็ดบางทีอันตรายกว่าชั้นหกที่มีอสูรจ้าวอัคคีเป็นสิบเท่าหรืออาจร้อยเท่าก็ได้
พวกเขาจะทำได้สำเร็จไหม?
ความจริง ทั้งลินลี่ย์ เดลี่หรือยอดฝีมือคนไหนๆ ก็ไม่มั่นใจทั้งนั้น  แต่กลุ่มของเดลี่พยายามต่อเป้าหมายกลายเป็นเทพมาหลายพันปีแล้ว  และตอนนี้พวกเขาใกล้จะถึงเป้าหมายของพวกเขา จึงไม่ยอมแพ้เป็นธรรมดา
 “ในช่วงสองเดือนสุดท้าย เราจะต้องเตรียมตัวให้ดี”
เข้าถึงเซียนจอมเวทและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณของเขาเปลี่ยนไป  ลินลี่ย์รู้สึกว่าตัวตนของเขาเปลี่ยนไปในระดับใหม่  ความจริงบีบีสามารถรู้สึกได้..ตอนนี้ ลินลี่ย์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเหมือนดาบที่คมที่เล็งขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่มีอะไรจะตรึงไว้ได้
…………

สองเดือนต่อมา
ภายใต้เสาโบราณ ด้านนอกทางออกชั้นที่สิบเอ็ด ยอดฝีมือรวมตัวกันอยู่
ลินลี่ย์อยู่ในร่างมังกรมีเกล็ดมังกรสีฟ้าเข้มคลุมทั้งตัว  ขณะเดียวกันประกายเกราะเหมือนกับเพชรคลุมอยู่ทั่วตัวลินลี่ย์ รวมทั้งหางมังกรของเขาด้วย  นี่คือเวทปกป้องสายธาตุดินระดับเซียน... เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์
รอบๆ เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์ ยังมีชั้นปราณน้ำเงินคลุมอยู่รอบตัวลินลี่ย์
พลังป้องกันของนักรบเลือดมังกร เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์คอยเสริมกันและกัน  พลังป้องกันทั้งหมดของลินลี่ย์มีแนวโน้มว่ายิ่งใหญ่ที่สุด แม้แต่บีบีก็ยังเทียบไม่ได้กับเขา
เดลี่และโรซารี่คลุมไปด้วยเกราะธาตุระดับเซียนเช่นกัน  ขณะที่เฟน, โอลิเวอร์, ถูลี่และคนอื่นคลุมไปด้วยชั้นปราณยุทธ  ทุกคนเตรียมตนเองพร้อมเต็มที่  แม้แต่ร่างบีบียังมีแสงสีดำจางรายล้อม
 “เป้าหมายที่เราแสวงหามาเกินกว่าห้าพันปี... จะมาถึงที่สุดในวันนี้”  ตาของเดลี่เป็นประกาย
ตาของเฟน ถูลี่ โรซารี่ ราชสีห์ทองหกตาและจ้าวแมงป่องเกล็ดดำมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
 “ในชั้นที่สิบเอ็ด  อันตรายที่เราจะต้องเผชิญจะมากกว่าชั้นล่างเป็นสิบเท่าร้อยเท่า พวกเราอาจจะมีการตายสักคน สองคนหรือมากกว่านั้น!  เดลี่กวาดตามองทุกคน  เขาพูดเสียงจริงจัง “แต่คนที่รอดได้และประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรืออสูรวิเศษจะต้องช่วยผู้ตายของคลี่คลายบุญคุณความแค้นพวกเขา ในโลกปกติ”
ยอดฝีมือทุกคนพยักหน้าอย่างเงียบงัน
ในชั้นที่สิบเอ็ด ไม่มีใครสามารถแยกตัวทำตัวเป็นวีรบุรุษตามลำพังได้  พวกเขาทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้มีความหวังประสบความสำเร็จ
เฟนกวาดตามองพวกเขาแต่ละคน เขาพูดด้วยเสียงทุ้มเบา  “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าหวังว่าอย่างน้อยหนึ่งในพวกเราจะกลายเป็นเทพได้”  สิ่งที่เฟนกลัวที่สุดก็คือ... ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดพากันพินาศอยู่ในชั้นที่สิบเอ็ดกันหมด
 “ไม่ใช่ความหวัง แต่เป็นความเชื่อมั่น  เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าเราจะประสบความสำเร็จ”  ตาของถูลี่เป็นประกายดุร้าย
 “ไปกันเถอะ”  เดลี่หันไปมองที่ทางออก และจ้องมองดู
 “ไปกันเถอะ!
สายตาของยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดมุ่งมั่นมาก พวกเขาร่วมกันเข้าไปในทางออกที่มีรัศมีดำ ขึ้นสู่ชั้นที่สิบเอ็ด
ชั้นที่สิบเอ็ดสุสานเทพเจ้า!
แสงอาทิตย์อุทัยสาดส่องไปทั่วโลกนี้ นี่คือโลกแห่งโลหะ และพื้นโลกที่กว้างขวางคลุมไปด้วยโครงสร้างโลหะทั้งหมด  ภูเขาโลหะขนาดมหึมาและหุบเขาโลหะสามารถมองเห็นได้ทั่วทุกที่ และสายลมหวีดหวิวที่นี่เหมือนกับคมมีด
ทันใดนั้น...
ยอดฝีมือสิบเอ็ดคนของทวีปยูลานปรากฏขึ้นในชั้นที่สิบเอ็ด
 “รกร้างน่าประหลาด”  โรซารี่มองดูพื้นที่โดยรอบขณะที่นางพูดทางใจกับพวกเขา  ตามข้อตกลง หลังจากเข้ามาในชั้นที่สิบเอ็ด เว้นแต่จำเป็นจริงๆ จะไม่มีใครพูด  ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่นี่  ความสามารถพูดทางใจด้วยวิญญาณเป็นสิ่งที่ลินลี่ย์สามารถทำได้ดีในตอนนี้เช่นกัน
หลังจากมีพลังวิญญาณเพียงพอแล้ว ทั้งหมดจึงเรียนรู้เคล็ดนี้ไปด้วย
 “ทุกคน, ระวังไว้ เมื่อเราเผชิญกับ ราชันย์เนตรมายา ที่ชั้นแปด ที่นั่นยังเงียบมากในตอนแรก  ไม่มีใครทำอะไรที่ไร้มารยาท  ตอนนี้เราตามหาประกายศักดิ์สิทธิ์กันเถอะ”  ลินลี่ย์ซึ่งในตอนนี้ได้รับการยอมรับว่ามีพลังมากที่สุดในยอดฝีมือทั้งสิบ นำทางไปข้างหน้า
ยอดฝีมืออื่นตามหลังลินลี่ย์  เดลี่ โรซารี่และโอลิเวอร์อยู่ในใจกลาง เนื่องจากพลังป้องกันอ่อนที่สุด
ลินลี่ย์มีพลังป้องกันถึงสามชั้น  ขณะที่ร่างของเขายังมีมุกชีวิต
พลังวิญญาณของเขามีพลังสูงขึ้นและมีเวทระดับเซียนจอมเวท  ลินลี่ย์ในตอนนี้เป็นผู้ทรงพลังที่สุดในตอนนี้
 “ทุกอย่างที่นี่เป็นโลหะ  ข้าไม่รู้สึกถึงชีวิตแม้แต่น้อย”  หลังจากบินมานานลินลี่ย์เริ่มหงุดหงิด
แต่ลินลี่ย์ไม่กล้าประมาท  เขาให้ความสนใจกับการระมัดระวังตัว  ตรวจสอบพื้นที่อย่างระมัดระวังเผื่อว่าจะมีศพเทพตนใดตนหนึ่งอยู่ที่นี่  หรือประกายศักดิ์สิทธิ์  ขณะเดียวกันเขาต้องระมัดระวังอย่างมากถ้ามีสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งปรากฏตัว หรือว่าซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่หาพบได้ยาก
สิ่งมีชีวิตที่นี่อาจใหญ่เท่าภูเขา หรือเล็กเท่ากำปั้นก็ได้
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดระมัดระวังพอเผื่อแผ่กัน
 “มีหุบเขาอยู่ข้างหน้า ดูเหมือนจะมีรัศมีพิเศษอยู่ที่นั่น”  เสียงของเดลี่ดังก้องในใจทุกคน
ลินลี่ย์ยังสังเกตเห็นหุบเขาไกลโพ้นซึ่งดูเหมือนจะมีรัศมีที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างแผ่ออกมาจากภายใน  นอกจากนี้รัศมีนี้ยังทำให้หัวใจสั่นและรู้สึกกดดัน
 “หรือว่านั่นจะเป็นรัศมีประกายศักดิ์สิทธิ์?”  เสียงของลินลี่ย์ขึ้นในใจพวกเขา
ดวงตาทุกคนทอประกายวูบ  บางอย่างสามารถสั่นสะท้านหัวใจพวกเขาได้ทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน... นั่นอาจเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ก็ได้  ที่สำคัญ ไม่มีใครในที่นี้เคยเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์มาก่อน  แต่พวกเขารู้สึกถึงการแผ่ประกายศักดิ์สิทธิ์ของชั้นเทพมาก่อน
 “อาจเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ก็ได้  แต่อาจเป็นอสูรที่พิทักษ์รักษาชั้นสิบเอ็ดนี้ไว้ก็ได้”  หน้าของโรซารี่เคร่งเครียด  และเสียงของนางดังขึ้นในใจของทุกคน
 “อสูรเฝ้าพิทักษ์?”
ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นรู้สึกหัวใจสั่นไหว  พูดตามความเป็นจริง ระดับความยากของชั้นที่สิบเอ็ดนี้น่าจะมากกว่าชั้นหกและชั้นที่เจ็ดสิบเท่าหรือร้อยเท่า  อสูรจ้าวอัคคีและนางพญาพฤกษามีพลังมากอยู่แล้ว...  อย่างนั้นสัตว์ประหลาดในชั้นที่สิบเอ็ดจะทรงพลังมากขนาดไหน?
 “ทุกคนตัดสินใจเอง  เราจะเข้าไปในหุบเขาหรือไม่?”  ลินลี่ย์ถามยอดฝีมือ
 “เข้าไปเถอะ”  ราชสีห์ทองหกตากล่าว “ถ้าแค่นี้เรายังกลัว  อย่างนั้นต่อให้พบประกายศักดิ์สิทธิ์จริง  ก็อาจไม่มีใครกล้าพอนำเอาไปได้”
ยอดฝีต่างมองกันเอง
ถูกแล้ว  ถ้าพวกเขาขลาดกลัวจนต้องหลบเลี่ยงรัศมีเฉพาะอย่างที่พวกเขารู้สึก  แล้วพวกเขาจะหาประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?
 “เข้าไปกันเถอะ”  เฟนพูดทางใจ  และยอดฝีมือทุกคนหันไปมองหุบเขา
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคน มีลินลี่ย์เดินนำหน้าพุ่งไปที่หุบเขาโลหะที่อยู่ห่างออกไป  หุบเขาโลหะมีความกว้างเกินกว่าหนึ่งร้อยเมตร  ขณะที่ลินลี่ย์และพวกพ้องรวมสิบเอ็ดบินขึ้นไปในอากาศเหนือหุบเขาโลหะ  พวกเขารู้สึกได้ถึงรัศมีสั่นสะท้านใจ
 “หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยหมอกแดงจางๆ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
มองลึกลงไปในหุบเขา หมอกสีแดงจาง  เขาเห็นว่าหมอกม้วนตัวไปเรื่อย  มันให้ความรู้สึกลินลี่ย์เหมือนกับว่าอสูรขนาดใหญ่อยู่ภายใต้หมอกและหมอกนั้นก็คือลมหายใจของมัน
ลินลี่ย์สบตากับทุกคนและพูดทางใจกับพวกเขา  “ลงไปกันเถอะ”
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดบินลงไปข้างล่างอย่างไม่กลัวเลยสักคน  ยิ่งพวกเขาลึกเข้าไปในหุบเขา  ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นก็รู้สึกได้ว่าใจพวกเขาเต้นแรง  ในช่วงเวลาสั้นๆ  พวกเขาเข้าไปในพื้นที่หมอกแดงและยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดบินไปต้นแหล่งของรัศมีนั้น
 “ควั่บ”
ความเร็วในการบินของพวกเขาไวมาก  ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากอากาศก็ลงมาอยู่ข้างล่างของหุบเขาแล้ว  แต่เพียงไม่กี่วินาทีนั้น สำหรับยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดกลับยากจะทนทาน
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดลงมาอยู่ที่พื้นหุบเขา  หมอกค่อนข้างจาง ไม่หนามาก และยังสามารถมองเห็นได้ในรัศมีร้อยเมตร
 “นั่นอะไร?”  ลินลี่ย์เห็นได้อย่างคลุมเครือว่ามีร่างหนึ่งนอนอยู่บนหินราบแผ่นหินขนาดใหญ่ห่างออกไป
 “ศพเทพ?”  เดลี่ถ่ายทอดความรู้สึกให้พวกเขาอย่างตื่นเต้น
ลินลี่ย์รู้สึกในใจตึงเครียดอย่างหนัก  แม้แต่เฟนและถูลี่ยังหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย ยอดฝีมือทุกคนไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยย่องไปที่หินราบยักษ์นั้น
 “ฮ่าฮ่า...”  ทันใดนั้นเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งดังสนั่นไปทั่วหุบเขา  และดูเหมือนว่าเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งนั้นดังมาจากแผ่นหินราบซึ่งมีก้อนหินอยู่บนนั้น
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดรวมทั้งลินลี่ย์รู้สึกหัวใจหดลีบรุนแรง
 “แย่แล้ว”  ลินลี่ย์รู้ว่าสถานการณ์แปรผันเป็นน่ากลัว  และเขาส่งข้อความในใจทันที  “ถอย, ถอยเร็วเข้า!”
ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้น  นี่เป็นปฏิกิริยาของยอดฝีมืออีกสิบเช่นกัน  พวกเขาบินขึ้นไปในท้องฟ้ารวดเร็วราวกับประกายไฟ  ความเร็วของพวกเขาไวอย่างที่สุด  และในพริบตาพวกเขาบินออกจากหมอกเลือนราง แต่แล้วลินลี่ย์และยอดฝีมืออีกสิบก็หยุดอยู่กับที่
พวกเขาหยุดอยู่กับที่ในหุบเขา ไม่ก้าวบินออกไป
เพราะเหนือพวกเขา....
ร่างที่ทำจากโลหะ  แขนขาและหน้าผากทำด้วยดาบ  สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ปรากฏออกมา  พวกมันเป็นสิ่งที่มีชีวิตระดับต่ำเกิดขึ้นมาจากอเวจี เกิดมาเพื่อฆ่า... ปีศาจดาบอเวจี!
มันคือปีศาจดาบอเวจี!
ลินลี่ย์และคนอื่นเผชิญหน้ากับปีศาจดาบอเวจีที่ชั้นสิบมาแล้ว  แม้ว่าพวกมันจะไว แต่พลังป้องกันของพวกมันระดับทั่วไป  ... ทุกคนในกลุ่มของลินลี่ย์เมื่อทุ่มพลังสู้ ก็สามารถฆ่า
แต่ตอนนี้ ลินลี่ย์ เฟน เดลี่และยอดฝีมือทุกคนที่เหลือรู้สึกสิ้นหวังในใจ
พวกมันรวมเป็นกลุ่มหนาแน่นเหมือนมด  อย่างน้อยมีปีศาจดาบอเวจีเป็นหมื่นบินฉวัดเฉวียนเหนือท้องฟ้าของหุบเขา ขัดขวางจนแม้แต่แสงยังส่องไม่ผ่าน  เมื่อปีศาจดาบอเวจีของชั้นที่สิบฟันใส่เฟน  แม้จะใช้อาวุธสะกัดกั้นก็ยังทำให้กระอักโลหิต
ในแง่พลังโจมตีล้วนๆ  พวกมันเทียบได้กับถูลี่
 “ฮ่าฮ่า... เป็นเวลานานแล้วที่เราไม่เจอกับผู้บุกรุก  เด็กๆ ฆ่าพวกมันให้ข้า” ในทะเลปีศาจดาบอเวจีที่ไม่มีที่สุดนี้ ปีศาจดาบอเวจีร่างผอมเล็กสีแดงตวาดลั่น
 “ควั่บ!  “ควั่บ!  “ควั่บ!  “ควั่บ!
เสียงหวีดหวิวแหวกอากาศดังขึ้น ปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วนบุกโจมตีลงมาจากท้องฟ้า  แต่ละตัวกวัดแกว่งมือดดาบทั้งสอง  ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นรู้ว่าดาบนั้นคมกล้าขนาดไหน  อาวุธเหล่านั้นเทียบเท่ากับสมบัติเทพระดับต่ำ
 “ลงไป”  เดลี่หายใจแรง
ลินลี่ย์กับยอดฝีมืออื่นไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อย บุกโจมตีลงมาทันที
 “ควั่บ...”  หมอกแดงเลือนรางจู่ๆ ถูกดูดไปยังส่วนต่างๆ ของหุบเขาอย่างรวดเร็ว  ในพริบตา ลินลี่ย์และยอดฝีมือคนอื่นก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น  หมอกแดงจางถูกดึงไปโดยปีศาจดาบอเวจีสีแดงดูดเข้าไปในอกของมัน
มีปีศาจดาบอเวจีสีแดงอยู่เหนือพวกเขา  และมีปีศาจดาบอเวจีอีกตนหนึ่งอยู่ในหุบเขาเช่นกัน
 “มีปีศาจดาบอเวจีจำนวนมหาศาลอยู่ข้างล่างเราเช่นกัน”  เสียงของโรซารี่ดังขึ้นในใจของทุกคน
หุบเขามีอุโมงค์อยู่ในนั้น และสองอุโมงค์เต็มไปด้วยปีศาจดาบอเวจีสุดหูสุดตาซึ่งกำลังพรั่งพรูออกมา  อากาศเหนือพวกเขาเต็มไปด้วยปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วน  แต่ด้านใต้เขามีอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยพวกมันเช่นกัน

8 ความคิดเห็น:

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะคับ

pmt กล่าวว่า...

จะรอดกี่คน...

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ หลงเข้าไปยังรังของมันจะรอดไหมเนี่ย

Motto-mk กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

l3all กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น