วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 14 อสูร – ตอนที่ 17 หลอมรวมเคล็ดความรู้เพิ่มพลัง


เล่ม 14 อสูร ตอนที่ 17  หลอมรวมเคล็ดความรู้เพิ่มพลัง
 “เมื่อบรรลุจากระดับเทียมเทพไปเป็นระดับเทพแท้  การชะลอลงมาของกฎธรรมชาติที่ล้อมรอบวิญญาณข้าคงอยู่เพียงชั่วขณะสั้นๆ  แต่การเปลี่ยนแปลงของวิญญาณข้าเทียบกันแล้วให้ผลเท่ากับดูดซับอะเมทิสต์สิบเอ็ดชิ้น”  ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจ

เมื่อสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา อะเมทิสต์ทั้งสิบเอ็ดชิ้นที่เขาซื้อมานั้นถูกซึมซับหมดไปนานแล้ว
พลังจิตวิญญาณของลินลี่ย์ในตอนนี้ทรงพลังยิ่งกว่าในอดีตอย่างเทียบกันไม่ได้  หลังจากกลายเป็นเทพแท้วิญญาณของเขาเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง มีผลดียิ่งกว่าดูดซับแก่นวิญญาณเสียอีก
 “เดเลีย!  เจ้าดูดซับมุกวิญญาณทองทั้งสองเสร็จแล้วใช่ไหม?” ลินลี่ย์มองดูเดเลีย
ลินลี่ย์ให้เดเลียซื้อมุกวิญญาณทองมาเสริมพลังวิญญาณนางเช่นกัน  วิธีนั้นนางจะพบกับวิธีต่อต้านพลังโจมตีวิญญาณของคนอื่นได้ง่ายกว่า  เวลานั้นเดเลียไม่เพียงแต่ซื้อมุกวิญญาณทองสองชิ้นเท่านั้น  แต่นางยังซื้ออะเมทิสต์มาอีกหนึ่งชิ้น
 “ข้าดูดซับมุกวิญญาณทองหมดไปแล้ว  แต่การดูดซับอะเมทิสต์ทำได้ช้ามาก”  เดเลียถอนหายใจ  “มิน่าเล่า ถึงมีคนมากมายยินดีซื้อมุกวิญญาณทอง  แต่คนซื้ออะเมทิสต์มีน้อยมาก”
 “พี่ใหญ่! เมื่อไหร่เราจะไปสอบเป็นอสูร?”  บีบีรีบกระตุ้นเตือน
บีบีรอวันนี้มานานแล้ว
 “เมื่อไหร่หรือ?”  ลินลี่ย์มองดูท้องฟ้า จากนั้นหัวเราะ  “ไม่ต้องเร่ง นี่ยังไม่เที่ยงเลย  ไปกินอะไรฉลองกันที่ร้านอาหารก่อน  หลังจากกินแล้ว เราค่อยไปปราสาทอสูรกัน”
 “ร้านอาหาร?”  บีบีตาเป็นประกาย
หลังจากกลุ่มของลินลี่ย์ออกจากร้านอาหาร ก็เป็นเวลาเกือบค่ำแล้ว  อย่างไรก็ตามปราสาทอสูรเปิดตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน  กลุ่มของลินลี่ย์ไปที่ปราสาทอสูรทันที  เมื่อมาถึงปราสาทอสูร  พวกเขาเห็นว่ามีคนไม่กี่คนที่ปราสาทอสูรแห่งนี้
พวกเขาตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ชั้นที่หนึ่งของปราสาทอสูร
 “หน้าคุ้นๆ”  ลินลี่ย์เห็นยูนะที่ยังอยู่หลังเคาน์เตอร์  ทั้งสามเดินเข้าไปหาทันที
 “แม่นางยูนะ  ข้าต้องการเข้าร่วมสอบเป็นอสูร”  ลินลี่ย์กล่าว
ยูนะเงยหน้าขึ้นมองพวกเขา จากนั้นนางเบิกตากว้างทันทีขณะที่นางเริ่มหัวเราะ  “เป็นพวกเจ้าทั้งสามคนนี่เอง?”  ลินลี่ย์ทิ้งความประทับใจลึกๆ ให้กับยูนะ  ที่สำคัญในวันนั้นแม้แต่เจ้าเมืองรอยัลวิงก็ยังปรากฏตัว  ยูนะจำวันนั้นได้ชัดเจนเป็นธรรมดา
 “โอว, เจ้าเข้าถึงระดับเทพแท้แล้ว”  ยูนะมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
 “แสดงว่าเจ้าก็ใกล้ๆ จะบรรลุระดับใหม่เมื่อครั้งสุดท้ายที่เจ้ามาใช่ไหม?”  ยูนะหัวเราะ
นางไม่ประหลาดใจมาก  ขณะที่นางเห็นครั้งล่าสุดลินลี่ย์น่าจะสดุดติดอยู่ที่คอขวดของระดับเทียมเทพ  จากเทียมเทพไปเป็นระดับเทพแท้ การบรรลุอาจจะไวหรือช้าก็ได้
ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะ  “ช่วยรับสมัครให้เราสามคนเข้าสอบเป็นอสูรด้วย”
ยูนะมองดูกลุ่มของลินลี่ย์แล้วพยักหน้า  “ได้เลย, พวกเจ้ารู้กฎแล้ว  คนละหมื่นศิลาดำ สามคนก็สามหมื่น”  ยูนะหัวเราะขณะที่นางยื่นมือรับเงินอะซูไรท์สามชิ้นที่ลินลี่ย์ยื่นส่งให้
เมื่อรับเงินสามอะซูไรท์แล้ว ยูนะดึงตราที่มีสัญลักษณ์ตาปีศาจส่งให้กลุ่มของลินลี่ย์
 “นี่คืออะไร?”  บีบีมองดูภาพและถามด้วยความสงสัย
 “นี่เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าพวกเจ้าได้รับอนุญาตให้เข้าสอบเป็นอสูร”  ยูนะหัวเราะ  “จริงสิ, บอกที่อยู่ของพวกเจ้าให้ข้าทราบด้วย  ข้าจะบันทึกลงไป”
 “แม่นางยูนะ  เจ้าไม่บอกเราหรือว่าภารกิจคืออะไร  ทำไมถึงต้องการที่อยู่เราเล่า?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
ยูนะส่ายศีรษะ  “ภารกิจในการสอบเป็นอสูรจะอธิบายให้ชัดเจนเมื่อเจ้าเข้าร่วมจริงๆ  ตอนนี้...ไม่มีใครรู้  แม้แต่เวลาของการเข้าทดสอบก็ยังไม่แน่นอน  ทั้งนี้เป็นเพราะ กล่าวอย่างทั่วไปแล้วเมื่อจำนวนสมาชิกเต็ม การสอบเป็นอสูรจะเริ่มขึ้น”
 “เมื่อมีจำนวนเต็ม?”  ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ
เพียงแต่เมื่อจำนวนผู้เข้าร่วมสอบถึง การสอบเป็นอสูรจะเริ่มต้น
พวกเขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าใครจะเข้ามาสมัครอีก  ดังนั้นจึงกำหนดเวลาที่การสอบเริ่มต้นเองไม่ได้
 “ยังจะต้องรออีกหรือ?  เราคงไม่ต้องรอกันนานยี่สิบสามสิบปีหรอกนะ?” บีบีรีบกล่าว
 “แน่นอนว่าไม่  ความจริง เมื่อสองวันที่แล้ว  ก็มีกลุ่มหนึ่งไปเข้ารับการทดสอบ  เพียงแต่ผลที่ออกมาโหดร้ายเหมือนอย่างเคย  ที่สำเร็จไม่ถึงร้อย  มีตายมากมายเหลือเกิน”  ยูนะถอนหายใจ  “โอว.. ไม่ต้องรีบ  ราวๆ เดือนหนึ่งสมาชิกก็จะพร้อม”
เดือนหนึ่ง?  กลุ่มของลินลี่ย์ไม่รีบ
 “หลังจากสมาชิกที่พร้อมเข้าสอบเต็มแล้ว และภารกิจถูกเลือกแล้ว  เจ้าหน้าที่ของปราสาทอสูรจะแจ้งไปยังที่อยู่ของพวกเจ้า  ดังนั้นพวกเจ้าก็ต้องอยู่ในที่พักด้วย”  ยูนะหัวเราะ
กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจ  พวกเขาบันทึกที่อยู่ไว้ทันที
 “เฮ้, แม่นางยูนะคนงาม” บีบีหัวเราะ  “ข้าขอถามได้ไหม ครั้งก่อนนั้นคนชื่ออันจิที่สอบตกมาสองรอบ แต่ก็ยังต้องการเข้าร่วมสอบเป็นอสูรครั้งที่สาม เขาทำได้สำเร็จหรือว่าสอบตกในครั้งที่สาม?”
คำถามของบีบีทำให้ลินลี่ย์และเดเลียหันมามองยูนะพร้อมกัน
 “อันจิน่ะหรือ?”
ยูนะเริ่มหัวเราะ  “โชคของเขาไม่เลวจริงๆ  เขาทำได้สำเร็จในการสอบเป็นอสูรครั้งที่สาม  หลังจากประสบความสำเร็จแล้ว  เขารับภารกิจระยะไกลที่ต้องออกจากเมืองรอยัลวิง  เป็นไปได้ว่าเขาอาจออกไปจากแคว้นไนท์บลาสนานแล้ว  แต่แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจเผชิญอันตรายระหว่างภารกิจและเสียชีวิตได้ ใครจะรู้?”
กลุ่มของลินลี่ย์ยินดีแทนอันจิ  ไม่ว่าจะลงเอยยังไง  แต่เจ้าคนหัวรั้นนั่นก็ทำสำเร็จจนได้
ดังนั้นกลุ่มของลินลี่ย์รออย่างใจเย็น  ในที่สุดก็รอคอยนานมากกว่ายี่สิบวัน
เมืองรอยัลวิง ในลานว่างน้อยที่เงียบสงบซึ่งกลุ่มของลินลี่ย์พักอยู่  พระอาทิตย์ฉายรัศมีสีแดงลงมายังลานว่าง  ลินลี่ย์ยังนั่งขัดสมาธิบนพื้นลานว่าง และชั้นรัศมีสีเหลืองหมุนวนอยู่รอบตัวเขา
 “พลังป้องกันของพี่ใหญ่ก้าวล้ำไปยิ่งกว่าสมบัติที่ใช้ป้องกันของระดับเทพแท้เสียอีก  และยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ”
บีบีนั่งอยู่กับที่บนเก้าอี้ในมือถือขวดเหล้าผลไม้และดื่มอย่างต่อเนื่อง  “เหล้าผลไม้แบบนี้ในแดนนรกนับว่าราคาถูก  หนึ่งศิลาดำซื้อได้สิบขวด  ขณะที่ดื่มได้ดีกว่าเหล้าผลไม้ชั้นดีของทวีปยูลานเสียอีก”
บีบีไม่เหมือนลินลี่ย์
ลินลี่ย์ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฝึกฝน  ขณะที่บีบีใช้เวลาส่วนใหญ่กับการกินและเล่น มีฝึกฝนบ้างเป็นครั้งคราว
รัศมีแสงสีเหลืองน้ำตาลรอบตัวลินลี่ย์หยุดไหล และเปลี่ยนเป็นชุดสีเหลืองน้ำตาล
เวทสายธาตุดินรวมเอาคาถาเกราะดินศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้วย
เกราะดินศักดิ์สิทธิ์เมื่อถึงระดับเทพสามารถสร้างเป็นเกราะระดับเท่าอดาแมนเทียมได้ โดยใช้พลังจิตที่ทรงพลังพอๆ กับพลังเทพ  แต่เกราะดินศักดิ์สิทธิ์แบบนี้เป็นอย่างที่ง่ายที่สุดและดั้งเดิมที่สุด  หลังจากลินลี่ย์เชี่ยวชาญเคล็ดแก่นธาตุดินก็สามารถสร้างเกราะธาตุขึ้นครอบคลุมร่างเขาได้
พลังของเกราะธาตุนี้ยังเหนือกว่าเกราะที่เป็นอดาแมนเทียมเสียอีก
พลังป้องกันของเกราะธาตุนี้เทียบได้กับสิ่งประดิษฐ์สำหรับป้องกันระดับเทพแท้
แต่เนื่องจากความเชี่ยวชาญในเคล็ดการเต้นของชีพจรโลก ลินลี่ย์ยังมีเคล็ดชีพจรป้องกันซึ่งมีพลังป้องกันที่น่ากลัวมากกว่าเกราะธาตุ
โชคดีที่ลินลี่ย์หลอมรวมเคล็ดแก่นธาตุและเคล็ดการเต้นของชีพจรโลกเข้าด้วยกัน ดังนั้นหลังจากฝึกฝนก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง  ในที่สุดลินลี่ย์ก็ประสบความสำเร็จสามารถประสานกระแส ชีพจรป้องกันได้คงที่ทำให้เกราะธาตุดินนิ่งคงที่ได้
ชุดเกราะธาตุดินที่ลินลี่ย์กำลังสวมใส่อยู่ก็คือเกราะกันชีพจรที่แท้จริง
ถ้าใครขยายมันออกได้เป็นร้อยเท่า เขาจะพบเรื่องนี้
เส้นใยบางเบาของพลังเทพธาตุดินสานไปมากันเป็นตาข่าย เคลื่อนไหวเป็นจังหวะสานเข้ากันอย่างลงตัว  ระลอกพลังเทพที่สานเข้ากันในที่สุดก็กลายเป็นชุดที่ลินลี่ย์กำลังสวมอยู่
เกราะชีพจรคุ้มกันนี้ผสานกับพลังชีพจรคุ้มกันของเขาและเกราะธาตุของเขาเข้าด้วยกัน
ในแง่ของพลังป้องกัน ก็แทบจะดีกว่าชุดประดิษฐ์ป้องกันระดับเทพแท้ถึงสิบเท่า
 “นี่คือพลังของการหลอมรวมเคล็ดลึกลับหรือนี่!  ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นมาก  “ถ้าข้าไม่หลอมรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน  ต่อให้ข้ามีความเชี่ยวชาญเคล็ดพลังจังหวะเต้นชีพจรโลกและเคล็ดแก่นธาตุดิน พลังป้องกันก็ยังจะต่ำกว่านี้มาก”
ในที่สุดลินลี่ย์เริ่มเข้าใจสาเหตุที่พลังของเทพชั้นสูงมีความห่างชั้นกันมาก
 “ข้าเป็นแค่เพียงหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ดเข้าด้วยกันเท่านั้น  แต่พลังกลับมากมายเป็นสิบเท่า  ถ้าข้าหลอมรวมได้สามเคล็ดเล่า? สี่เคล็ดเล่า?”  ลินลี่ย์ถอนหายใจไม่หยุดหย่อน  “มิน่าเล่าแคลมป์ตันที่กลายเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์ จึงหวาดกลัวตัวสั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเจ้าเมือง!
ความจริง
หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎธาตุแล้ว  พลังก็ขยายเพิ่มขึ้นอีกมาก
 “ข้าเชี่ยวชาญเคล็ดการเต้นของชีพจรโลก จากนั้นพัฒนาเป็นดาบคลื่นสลาย  แต่ตอนนี้.. ด้วยการหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสองเข้าด้วยกัน พลังดาบคลื่นสลายของข้าเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า  ไม่แต่เพียงแค่นั้น  ถ้าข้าใช้พลังจิตเป็นพื้นฐานในการโจมตี  อย่างนั้นการโจมตีก็จะเป็นการโจมตีด้วยพลังจิตวิญญาณ!  แต่ถ้าข้าใช้พลังเทพเป็นพื้นฐานโจมตี  อย่างนั้นก็จะเป็นการโจมตีทางธาตุหยาบ”
เคล็ดแก่นธาตุดินเป็นการใช้ธาตุหยาบโจมตีธรรมดา
เคล็ดการเต้นชีพจรโลกเป็นการใช้พลังจิตวิญญาณโจมตี
ด้วยการหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสองเข้าด้วยกัน ดาบคลื่นสลายไม่เพียงแต่เพิ่มพลังในการโจมตีจิตวิญญาณเท่านั้น  แม้แต่การโจมตีธาตุหยาบผ่านเคล็ดแก่นธาตุดินก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเช่นกัน
 “ก๊อก ก๊อก...”
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น  “ข้าจะไปเปิดประตูเอง”  บีบีกระโจนไปที่ประตู
ลินลี่ย์และเดเลียเดินไปที่ประตูกันทั้งคู่  มีบุรุษหนุ่มผมดำคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก  “พวกท่านทั้งสามคนจะร่วมเข้าสอบเป็นอสูรใช่หรือเปล่า?”
 “เจ้ามาแจ้งพวกเราใช่ไหม?”  บีบีพูดอย่างดีใจ
บุรุษหนุ่มผมดำพยักหน้าและหัวเราะ  “ถูกแล้ว พวกท่านทั้งสาม ขอข้าดูสัญลักษณ์อสูรของพวกท่านด้วย  ไม่ต้องห่วง นี่เป็นวิธีการยืนยันสถานะของพวกท่าน”
ลินลี่ย์และพวกดึงสัญลักษณ์อสูรของพวกเขาออกมา
 “ใช่แล้ว,  พรุ่งนี้เช้าตรู่ให้ไปที่ประตูเมืองรอยัลวิงและเข้าร่วมการสอบเป็นอสูร  ท่านจะพบสมาชิกของปราสาทอสูรของเรารอท่านอยู่ที่นั่น”  บุรุษหนุ่มผมดำหัวเราะขณะกล่าว
 “พรุ่งนี้เช้าตรู่น่ะหรือ?”  กลุ่มของลินลี่ย์เต็มไปด้วยการคาดวัง
 “การสอบเป็นอสูรจะดำเนินการยังไง?”  เดเลียถาม
บุรุษหนุ่มผมดำส่ายศีรษะ  “ข้าไม่รู้  อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะบอกรายละเอียดพวกท่านถึงภารกิจในการทดสอบเมื่อพวกท่านไปที่จุดนัดพบ”
 “เมื่อเวลามาถึงและท่านไปที่ประตูเมือง  คนของปราสาทอสูรอาจจำท่านไม่ได้  ท่านเพียงแต่ต้องแสดงสัญลักษณ์อสูรของท่าน”  บุรุษหนุ่มผมดำกล่าวเสร็จก็เดินออกไป
กลุ่มของลินลี่ย์มองหน้ากันเอง
 “ว้าว..พี่ใหญ่ เรากำลังจะได้เป็นอสูรแล้ว”  บีบีตื่นเต้นมาก
 “สอบเป็นอสูร?”
ลินลี่ย์ตัดสินใจ  ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องถือว่าการปกป้องเดเลียและบีบีเป็นเรื่องที่สำคัญ
 “บางทีบีบีไม่จำเป็นต้องให้ข้าปกป้อง”  ลินลี่ย์ชำลองมองบีบี
เช้าตรู่วันต่อมากลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองแต่เช้า  เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์มาถึงที่ประตูเมือง  พวกเขาพบว่ามีอสูรโลหะลอยตัวอยู่ด้านนอกซึ่งมีสัญลักษณ์อสูรอยู่ด้านบน
 “ดูเหมือนว่าจะมีคนค่อนข้างน้อย”  ลินลี่ย์มองดูหน้าต่างโปร่งใสของอสูรโลหะสามารถมองเห็นร่างจำนวนไม่กี่ร่างภายในนั้น
กลุ่มของลินลี่ย์บินขึ้นไปที่อสูรโลหะทันที มีผู้อาวุโสผมขาวยืนอยู่ที่ทางเข้า  “พวกเจ้ามาสอบเป็นอสูรใช่ไหม?”
ลินลี่ย์พยักหน้า
 “โปรดแสดงเครื่องหมายอสูรของพวกเจ้าด้วย”  ชายชราผมขาวอดยิ้มไม่ได้
เมื่อเห็นเครื่องหมายอสูรในมือของลินลี่ย์และพวกทั้งสอง  ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย  “เข้าไปได้”
ภายในอสูรโลหะ มีระเบียงทางเดินยาวซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน  มีคนอยู่ในระเบียงทางเดิน  เมื่อเห็นกลุ่มของลินลี่ย์ พวกเขาตะโกน “ผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูร ให้เข้าไปที่ส่วนด้านหลัง”
พวกเขาเข้าไปที่ห้องส่วนด้านหลัง
 “มีคนมากนะ!  ลินลี่ย์อดตกใจไม่ได้
 “พี่ใหญ่ มีคนอย่างน้อยร้อยคนที่นี่”  บีบีพูดอย่างรู้สึกทึ่ง”
เดเลียถอนหายใจเช่นกัน  “และไม่ใช่ทุกคนอยู่ที่นี่  ลินลี่ย์ตรงไปนั่งที่ด้านข้างเถอะ”  ขณะที่พวกเขาพูด  กลุ่มของลินลี่ย์พบที่นั่งและนั่งลง  ในห้องส่วนหลัง แต่ละแถวจะมียี่สิบที่นั่ง แต่ละแถวจะมีทางเดินสี่เส้นทาง
บีบีมองผ่านหน้าต่างใสออกไปข้างนอก  “ตอนนี้ดูเหมือนมีคนน้อยที่กำลังมา  เฮ้..พี่ใหญ่ดูสิ มีคนที่สวมชุดที่ติดตราอสูร  และค่อนข้างน้อยด้วย”
 “ทำไมกลุ่มอสูรถึงมีมาด้วย?”  ลินลี่ย์มองดูเช่นกัน
แต่เมื่อเขามองดู  ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน
เขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย!
บีบีก็ตกใจเช่นกัน  “พี่ใหญ่,  เจ้าคนหัวล้านก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกัน!

5 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

มาเอาคืนพระเอกสินะ

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุนครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Piyawat กล่าวว่า...

เทพชั้นสูงใกล้จะตายเพราะเทพแท้แล้วสินะ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น