วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 14 อสูร – ตอนที่ 18 ทะเลสาบจันทรา


เล่มที่ 14 อสูร ตอนที่ 18 ทะเลสาบจันทรา
 “ลินลี่ย์!  คนหัวล้านที่ชื่อแคลมป์ตันนั่นอยู่ที่นี่เช่นกัน”  เดเลียก็สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคย
ลินลี่ย์สามารถเห็นแคลมป์ตันและอสูรอื่นเข้ามาในอสูรโลหะอย่างชัดเจน  เพียงแต่พวกอสูรจะเข้าไปในห้องโดยสารส่วนด้านหน้าของอสูรโลหะ

 “ผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูรทุกคนจะนั่งอยู่ในห้องโดยสารด้านหลัง ขณะที่พวกอสูรจะอยู่ห้องโดยสารหน้า”  ลินลี่ย์โล่งใจเล็กน้อย  แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกกังวล  “ทำไมนักสู้อสูรเหล่านี้ถึงเข้ามาเกี่ยวข้อง?”
ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องอสูรเข้ามาเกี่ยวข้อง  สิ่งที่เขาใส่ใจก็คือพวกอสูรที่เดินทางไปด้วยมีแคลมป์ตันรวมอยู่ด้วย
ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบแคลมป์ตันผู้นี้  และในทางกลับกันแคลมป์ตันจะมีความได้เปรียบในเรื่องโอกาส  เขาคงต้องฆ่าลินลี่ย์เพื่อระบายอารมณ์เป็นแน่
 “ถ้าแคลมป์ตันทุ่มกำลังฆ่าเรา  เราสามคนก็มีโอกาสน้อย”
แคลปม์ตันเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายเทพ  เขาเป็นเทพชั้นสูงที่อ่อนแอที่สุด
คนที่หลอมรวมกับประกายเทพจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกฎธรรมชาติ  ไม่ได้หล่อเลี้ยงและเสริมพลังจากกฎธรรมชาติ วิญญาณของพวกเขาค่อนข้างอ่อนแอ
และลินลี่ย์เป็นเพียงเทพแท้ที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับของชีพจรโลกและแก่นธาตุดินเข้าด้วยกัน  การโจมตีวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมากกว่าเทพธรรมดาถึงสิบเท่า  การโจมตีวิญญาณของลินลี่ย์มากพอจะคุกคามชีวิตของแคลมป์ตันได้
อย่างไรก็ตาม...
ลินลี่ย์ไม่มั่นใจโดยสิ้นเชิง  ที่สำคัญคือฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพชั้นสูงก็หมายความว่ามีความเชี่ยวชาญเคล็ดลับของกฎธาตุ  ต่อให้เขาไม่ได้หลอมรวมเคล็ดลับใดๆ ก็ตาม  ก็ไม่อาจดูแคลนเขาได้
 “ในการรับมือกับแคลมป์ตัน  ถ้าบีบีและข้าทุ่มกำลังกัน เรายังมีโอกาส  แต่... แคลมป์ตันไม่ได้อยู่ตามลำพัง  เขามีสหาย!  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ลินลี่ย์กังวลที่สุด  “เราไม่ได้อยู่ในเมืองแล้วในตอนนี้  เราอยู่นอกเมือง ไม่มีข้อห้ามในการต่อสู้  เมื่อแคลมป์ตันสังเกตเห็นเรา  เขาอาจมาล้างแค้นได้!
ลินลี่ย์คิดกลับไปมา แต่เขาก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำยังไง
 “แย่จริงๆ  มีพวกอสูรมากมายเกินไป  ทำไมข้าต้องโชคร้ายที่มีเจ้าหัวล้านอยู่ร่วมในภารกิจนี้ด้วย?”  ลินลี่ย์อดสบถในใจไม่ได้ 
แต่แม้ว่าเขาจะโกรธ  เขาก็ต้องมีสีหน้าจริงจัง!
 “ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ทั้งหมดที่ข้าทำได้ตอนนี้ก็คือหวังว่าเจ้าหัวโล้นจะไม่สังเกตเห็นเรา”  ลินลี่ย์หวังอย่างเงียบๆ
นี่เป็นไปไม่ได้
ที่สำคัญกลุ่มของลินลี่ย์อยู่ในห้องโดยสารหลัง  ขณะที่แคลมป์ตันอยู่ในห้องโดยสารหน้า  ตราบเท่าที่พวกเขาไม่วิ่งมาเจอกัน ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ
 “ลินลี่ย์”  เดเลียมองดูเขา ตาของนางแฝงไปด้วยแววกังวล
 “ไม่ต้องห่วง”  ลินลี่ย์พูดเบาๆ
บีบีมองดูลินลี่ย์เช่นกัน  แม้ว่าบีบีจะชอบก่อเรื่องยุ่ง  แต่เขาไม่โง่  เขารู้ว่าด้วยกำลังของเจ้าโล้นกับกลุ่มของเขาก็อาจกลายเป็นหายนะได้  บีบีพูดทางใจทันที  “พี่ใหญ่,  ถ้าเข้าไปพบกับความยุ่งยากจริงๆ ข้าจะจัดการกับเจ้าโล้นนี่เอง!  แม้ว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะได้  แต่ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถขัดขวางเขาได้ทั้งที่ยังมีชีวิต”
ลินลี่ย์มองดูบีบีด้วยความประหลาดใจ
บีบีเพิ่งถึงระดับเทพแท้ไม่กี่สิบปี แต่เขามั่นใจว่าจะขัดขวางถ่วงเวลาเทพชั้นสูงได้หรือ?  แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะหลอมรวมกับประกายเทพก็ตาม....
 “จริงหรือ?”  ตาของลินลี่ย์มีแววขำขัน
 “ฮึ่ม!  บีบีเชิดหน้าภูมิใจ  จากนั้นพูดผ่านสำนึกเทพ  “พี่ใหญ่, ข้าคือหนูกินเทพตัวที่สองที่มีอยู่ในทั่วทั้งจักรวาล  อย่าดูถูกข้าเชียวนะ!  บีบีสามารถกินประกายเทพได้ง่ายๆ  เขาจะไม่มีความสามารถพิเศษได้ยังไง?
อสูรโลหะเริ่มเคลื่อนที่!
 “วืดดด!
เงาดำมหึมาพุ่งตัดผ่านไปในอากาศและหายไปจากเหนือเมืองรอยัลวิงกลายเป็นภาพเงาเลือนรางหายลับขอบฟ้า  และจากนั้นในพริบตา ก็หายไปอย่างสิ้นเชิง
ภายในอสูรโลหะ ทุกคนมองออกไปข้างนอก
 “เกิดอะไรขึ้น?  จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าภารกิจคืออะไร”  บีบีบ่นพึมพำ
 “อย่าเพิ่งเร่งร้อน”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
สตรีคนหนึ่งที่นั่งถัดจากลินลี่ย์มีผมสีเงินพูดขึ้น  “ภารกิจสอบเป็นอสูรได้จัดตำแหน่งไว้แล้ว  ต้องห่างไกลจากเมืองรอยัลวิงมาก  มีแนวโน้มว่า การเดินทางครั้งนี้คงจะไกลทีเดียว  คนของปราสาทอสูรไม่รีบร้อนบอกเราเรื่องการสอบเป็นอสูรเหมือนกัน”
ลินลี่ย์พยักหน้าให้กับตนเอง
 “ข้าชื่อลินลี่ย์”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาทักทายสตรีผมเงิน
สตรีผมเงินอยู่ในชุดสีเงินเช่นกัน นางเป็นคนเปิดเผยชัดเจน  นางมองเขาและยิ้มที่มุมปาก  “ข้าชื่อเรจิน่า  ลินลี่ย์, แล้วสองคนที่เดินทางร่วมกับเจ้าเล่า?”
เรจิน่ารู้ดีว่าระหว่างสอบเป็นอสูรหลายๆ คนร่วมกำลังกันก็มีโอกาสสำเร็จสูง  ถ้านางเผชิญกับอันตรายระหว่างทดสอบ ถ้ามีคนช่วยนางได้บ้างสักเล็กน้อย นั่นอาจเปลี่ยนชะตานางได้
ดังนั้นนางต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มของลินลี่ย์
 “ใช่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า  บีบีที่อยู่ใกล้ตาเป็นประกาย เขาหันมามองทางนี้ทันที “แม่นางเรจิน่า ตาเจ้ามีเสน่ห์จริงๆ อ่า, ข้าลืมแนะนำตัวเองไป  เจ้าเรียกข้าว่าบีบีก็ได้”
เรจิน่ามองดูบีบีและนัยน์ตาที่กระตือรือร้นและร่าเริงของเขาสะดุดตานาง  “บีบี, ตาของเจ้าก็ดูมีเสน่ห์อยู่นะ”  บีบียิ้มกว้างทันที
 “เรจิน่า, เจ้ารู้ไหมทำไมอสูรเหล่านั้นถึงเดินทางไปกับเราด้วย?”  ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย  “นี่คือการสอบเป็นอสูร  คนเหล่านั้นก็เป็นอสูรอยู่แล้ว  แต่พวกเขากลับมาด้วยกัน...”
เรจิน่าสายศีรษะ  “ข้าก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน”
ลินลี่ย์ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจอีกครั้ง
อสูรโลหะบินตลอดทั้งวัน  พอตกตอนกลางคืนคณะทำงานของปราสาทอสูรก็เข้ามาที่ห้องโดยสารหลัง
 “คณะทำงานปราสาทอสูรอยู่ที่นี่แล้ว”  เรจิน่ากล่าว
กลุ่มของลินลี่ย์นั่งตัวตรงทันที  พวกเขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองร่างทั้งสามที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าห้องโดยสาร  คนทั้งสามนี้เป็นคณะทำงานที่ปราสาทอสูรส่งมา  มีชายชราผมขาวโพลนเป็นหัวหน้า
 “ทุกคน!  ชายชราผมขาวมีรอยยิ้มบนใบหน้า  เขาพูดด้วยเสียงชัดเจน  “มีคนจำนวนรวมพันคนจะเข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรครั้งนี้!  ข้าคาดว่าทุกคนคงจะรู้เรื่องนี้ดีแล้ว  การสอบคัดเป็นอสูรนั้นอันตรายมาก  และอัตราการเสี่ยงตายสูงมาก!  แต่ทุกคนก็มา แม้ว่าจะมี.. ในเรื่องของความกล้า  อย่างน้อยพวกเจ้าทุกคนคู่ควรกับการเป็นอสูร”
ชายชราผมเงินมีสีหน้าจริงจังขึ้น  “แต่ความกล้าแต่เพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ  พวกเจ้าต้องมีพลัง!
 “การสอบเป็นอสูรนี้จะใช้พื้นที่ในรัศมีสามสิบล้านไมล์ห่างจากเมืองรอยัลวิง  สถานที่นี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่าทะเลสาบจันทรา!  เนื่องจากอสูรโลหะบินด้วยความเร็วสูง ข้าคาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนก่อนเราจะไปถึงจุดหมายปลายทาง”  บุรุษผมดำกล่าว
ขณะนั้นเองห้องโดยสารหลังของอสูรโลหะตกอยู่ในความเงียบอย่างสิ้นเชิง
ผู้เข้าสอบเป็นอสูรพันคนตั้งใจฟังกันทุกคน
 “มีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ชัดเจน  ภารกิจการสอบเป็นอสูรไม่ใช่เรื่องที่ถูกออกแบบหรือจัดการขึ้นโดยปราสาทอสูร”  เสียงชายชราผมเงินดังก้องไปทั้งห้องโดยสารหลัง  “ทุกคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับอสูรมาบ้างก็ควรจะรู้ว่าเหล่านักสู้อสูรจะรับภารกิจที่ปราสาทอสูร!  ภารกิจแบ่งเป็นตามระดับความยาก!
 “สำหรับการเข้าสอบของพวกเจ้าถูกเลือกจากภารกิจที่มีอยู่มากมาย  ภารกิจหนึ่งดาวซึ่งเหมาะสมกับพวกเจ้า!
ชายชราผมเงินพูดอย่างจริงจัง  “ตราบใดที่พวกเจ้าทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ เจ้าจะกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว!
 “สำหรับรายละเอียดของภารกิจ...ลอเรน,  เจ้าบอกพวกเขาด้วย”  ชายชราผมเงินถอยมายืนด้านข้าง  ขณะที่ลอเรนหญิงสาวผู้งดงามเจ้าเสน่ห์อยู่ในชุดดำยาวก้าวเดินออกมาข้างหน้า
เสียงของลอเรนดังชัดสดใส  “สถานที่ที่จะไปทำภารกิจก็คือทะเลสาบจันทรา!  เหนือทะเลสาบจันทรามีปราสาทโบราณ  เจ้าปราสาทโบราณนี้ทรงพลังน่ากลัวเป็นอย่างมาก  เขามีพ่อบ้านดูแลอยู่หนึ่งคน  ทหารชุดดำแปดคน และทหารชุดทองอีกหลายร้อย!
 “ภารกิจของเจ้าก็คือฆ่าทหารชุดทองคนหนึ่ง  จำเอาไว้..หลังจากฆ่าทหารชุดทองแล้ว เก็บแหวนมิติของพวกเขาเอาไว้  นั่นคือแหวนจันทรา  และนำมันกลับมาที่ปราสาทอสูร  มีแต่ได้แหวนจันทรานี้จึงจะได้รับการยอมรับพิสูจน์ว่าพวกเจ้าทำภารกิจสำเร็จ
 “แต่แน่นอนว่า พวกเจ้าสามารถเอาสมบัติและสิ่งของที่บรรจุในแหวนจันทราออกไปได้”  ลอเรนหัวเราะขณะที่นางพูด  “ทั้งหมดที่ข้าบอก ก็มีเพียงเท่านี้”
ทันใดนั้นมีเสียงพึมพำดังขึ้นในห้องโดยสารหลัง  ขณะที่ทุกคนเริ่มพูดคุยปรึกษากัน
 “เงียบ”  เสียงของบุรุษผมเงินดังขึ้น
ทุกคนเบาเสียงลง
 “ถ้าพวกเจ้ามีปัญหาอะไร จงพูดออกมา”  ชายชราผมเงินพูด
ทันใดนั้นบุรุษชุดฟ้าร่างกำยำทรงพลังคนหนึ่งสูงราวสามเมตรยืนขึ้น   เขาพูดเสียงดังลั่น “ใต้เท้า, ท่านบอกว่าหลักฐานพิสูจน์ว่าภารกิจนี้สำเร็จก็คือแหวนจันทรา  ทหารชุดทองมีแหวนจันทรากันทุกคนใช่ไหม?”
 “ตามรายงานข่าวกรองของเรา พวกเขาทุกคนน่าจะมีแหวนวงหนึ่ง  ถ้าแหวนมิติของพวกเขาไม่ใช่แหวนจันทรา แหวนจันทราก็น่าจะเก็บไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติ”  ชายชราชุดเงินหัวเราะอย่างใจเย็น  “แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกกฎพิเศษได้”
 “แน่นอนว่า  ถ้าเจ้าฆ่าทหารชุดทองแต่ไม่สามารถหาแหวนจันทราได้ นั่นเป็นโชคร้ายของเจ้า  ไม่มีแหวนจันทรา  พวกเจ้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากปราสาทอสูร”  ชายชราผมเงินเม้มริมฝีปาก  “อย่างไรก็ตาม คงเป็นเรื่องยากที่ทหารชุดทองจะไม่มีแหวนจันทรา”
บุรุษคนนั้นนั่งลง
สตรีผมเงินที่อยู่ข้างลินลี่ย์นามว่าเรจิน่าลุกขึ้นยืน  “ใต้เท้า, ท่านบอกว่าเจ้าของปราสาทนั้นทรงพลังมาก และว่าเขามีพ่อบ้านและทหารชุดดำอยู่ด้วย!  ท่านเพียงแต่ต้องการให้เราฆ่าทหารชุดทอง   พวกทหารชุดดำและเจ้าปราสาทจะปล่อยให้เราทำตามอำเภอใจหรือ?”
ลินลี่ย์มีความคิดทันที
ไม่ใช่แค่เพียงลินลี่ย์  หลายคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรก็พอเดาคำตอบได้
 “การเดินทางไปทะเลสาบจันทราครั้งนี้  ยังมีคนอื่นร่วมเดินทางด้วย  มีอสูรสามดาวและสี่ดาว และมีกระทั่งอสูรห้าดาวอยู่ในกลุ่มด้วย”  ชายชราผมเงินหัวเราะอย่างใจเย็น  “มีแนวโน้มว่าเมื่อพวกเจ้าออกจากอสูรโลหะแล้ว  กลุ่มอสูรก็คงมาถึงเช่นกัน”
 “เป็นอย่างที่ข้าคิด!  ลินลี่ย์แน่ใจว่าจะได้คำตอบทำนองนี้
ชายชราผมเงินยังคงพูดต่อ  “ภารกิจของพวกเขาก็คือจัดการกับทหารชุดดำ พ่อบ้านและเจ้าครองปราสาท!
จากสิ่งที่คณะทำงานของปราสาทอสูรได้อธิบาย  ลินลี่ย์และคนอื่นสามารถคาดเดาได้ว่าทหารชุดทองน่าจะมีพลังระดับเทพแท้  ขณะที่ทหารชุดดำ พ่อบ้านและเจ้าครองปราสาทคงจะเป็นเทพชั้นสูงกันหมด
พวกเขาใช้เวลาสองวันอยู่ในอสูรโลหะ  ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
 “หลังจากพวกเจ้าลงไปแล้ว ให้ทุกคนมุ่งหน้าไปทางใต้สองสามกิโลเมตร ทะเลสาบจันทราอยู่ที่นั่น”
ชายชราผมเงินพูดเสียงดังในห้องโดยสารหลัง  “สถานที่นี้ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง  การต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอาจเกิดได้ทุกเมื่อ  ทุกคนต้องระวังให้ดี  เราจะรอการกลับมาของพวกเจ้าอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ  ถ้าพวกเจ้ากลับมาได้สำเร็จพร้อมกับแหวนจันทรา  เจ้าสามารถกลับเข้าอสูรโลหะได้”
ทุกคนยังคงเงียบ
ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล!
คนหนึ่งพันคนมาร่วมสอบเข้าเป็นอสูร  แต่จะมีพวกเขารอดกลับมากี่คน?  จำนวนคนที่เข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรนี้เป็นการพิสูจน์ว่าการสอบเป็นอสูรนั้นอันตรายมากมายขนาดไหน
เนื่องจากปราสาทอสูรเลือกภารกิจนี้มาทดสอบพวกเขาอย่างเจาะจง  ระดับความยากคงไม่ต่ำแน่นอน
 “ทุกคนที่อยู่ห้องโดยสารหน้าลงไปแล้ว  ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนต้องลงไปบ้าง!  ชายชราผมเงินพูดอย่างใจเย็น  “ข้าขอให้คำแนะนำพวกเจ้าเพิ่มเติมอีกข้อก่อนแยกย้ายกันไป พวกเจ้าไม่ใช่แค่ต้องระวังคนที่อยู่ในทะเลสาบจันทราเท่านั้น  พวกเจ้ายังต้องคอยระมัดระวังป้องกันคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรด้วย  มักจะมีหลายคนที่ไม่ตายระหว่างภารกิจ  แต่ถูกผู้เข้าร่วมสอบคนอื่นฆ่าตาย  ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว”
หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย
จริงสิ ถ้าคนอื่นไม่มีแหวนจันทรา  แต่ท่านมี คนอื่นอาจลอบทำร้ายท่าน ถึงขั้นฆ่าท่านเพื่อชิงแหวนจันทราได้  นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก
ที่สำคัญ นี่ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง!
 “ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีตามขบวนออกไปด้านนอก  จำนวนคนมากมายค่อยๆ ออกไปจากอสูรโลหะ
ขณะนั้นอสูรโลหะเทียบท่าให้ลงพื้นที่ว่างเปล่า  มีอสูรรวมกันอยู่ที่นั่นราวยี่สิบสามสิบคน  รวมทั้งเจ้าโล้นแคลมป์ตันยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนกวาดมองไปตามปกติ  แต่แล้วสายตาของเขาหันกลับมาทันที
 “หืม?”  แคลมป์ตันจ้องมองที่ประตูอสูรโลหะ
และจากนั้นหน้าของแคลมป์ตันมีรอยยิ้มปรากฏทันที  “คาดไม่ถึงเลยว่าทั้งสามคนจะเข้าสอบเป็นอสูรในภารกิจนี้  ช่างบังเอิญจริงๆ”

6 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

thx

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น