วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 40 เจตจำนง (ปณิธาน)


เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 40 เจตจำนง (ปณิธาน)
 “ท่านเป็นพารากอนจริงๆ!  ลินลี่ย์แม้ว่าจะเตรียมใจอยู่แล้วแต่ก็อดสูดหายใจหนาวเหน็บไม่ได้

หมายความว่ายังไงสำหรับคนที่เป็นพารากอน?  หมายความว่าเขาสำเร็จเชี่ยวชาญในกฎธาตุทุกกระบวนความรู้  จำนวนคนที่สามารถกลายเป็นพารากอนยังน้อยกว่าจำนวนคนที่กลายเป็นมหาเทพเสียอีก  จากเหตุนี้ก็คงบอกได้โดยไม่มีข้อยกเว้นว่า แต่ละคนที่มาถึงระดับนี้ได้ต้องเป็นคนยอดเยี่ยมมีทักษะพรสวรรค์, ความเข้าใจ, โชควาสนาและการฝึกฝนอย่างหนัก
ไม่อาจขาดแคลนด้านใดด้านหนึ่ง  มีแต่ความสมบูรณ์แบบจึงจะทำให้พารากอนถือกำเนิด
ตาของบีบีกลมโต  เขาจ้องมองบลูไฟร์อยู่เป็นเวลานาน ไม่สามารถพูดอะไรได้
 “ดูพวกเจ้าทำหน้าสิ?  ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”  บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะ
 “ท่านหมายความว่ายังไง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้?  พารากอนเชียวนะ!!!  บีบีร้องออกมาอย่างตกใจ  “ท่านเลย์ลินรวมทั้งตัวท่านด้วย  พิภพจักรวาลทั้งสิ้นมีพารากอนรวมกันไม่ถึงสามสิบคน!  แดนโลกธาตุมีมากมายนับไม่หวาดไม่ไหว  แต่ในเวลาเป็นอสงไขยปีมีพารากอนถือกำเนิดจากพวกเขาเท่าไหร่เอง?  เป็นไปได้ว่าทวีปยูลานจะมีแต่เพียงท่านเท่านั้น!
บลูไฟร์เริ่มหัวเราะ  แม้ว่าหัวใจเขาจะสงบเหมือนกับน้ำ  แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็อดรู้สึกภูมิใจขึ้นมาบ้างไม่ได้
เมื่อบรรลุถึงระดับพารากอน เป็นเรื่องจริงที่คนผู้นั้นสมควรภูมิใจกับชีวิตที่เหลือ
 “ท่านเลย์ลิน, น่าเลื่อมใส  เลื่อมใสจริงๆ”  ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจร้อนระอุเช่นกัน  อีกนานเท่าใดกว่าเขาจะไปถึงระดับเดียวนี้?
บลูไฟร์อดหัวเราะไม่ได้  ขณะที่บีบีพูดทันที  “พี่ใหญ่ ปู่บอกว่าเมื่อท่านถึงระดับเดียวกับท่านเลย์ลิน ท่านจึงจะมีสิทธิ์เข้าสุสานเทพเจ้าไม่ใช่หรือ?  อือ... เขาเป็นพารากอนแล้ว พี่ใหญ่  เมื่อไหร่ท่านจะเป็นพารากอนบ้าง?  นั่นหมายความว่าการเข้าสุสานเทพเจ้าของเทพเป็นเรื่องที่ห่างไกลเกินไปไม่ใช่หรือ?”
 “นั่นคือสิ่งที่เบรุตพูดหรือ?”  บลูไฟร์ตกใจ
 “ใช่แล้ว  เขาพูดอย่างนั้น”  ลินลี่ย์พูดถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์ยังคงมีความหวังบ้าง  แต่ตอนนี้พอเขารู้ว่าบลูไฟร์เป็นพารากอน... “เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะต้องถึงระดับพารากอนก่อนจึงจะเข้าสุสานเทพเจ้าได้หรือ?  จะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี?”  ลินลี่ย์รู้ขีดจำกัดของตนเอง  ยิ่งไปกว่านั้นการหลอมรวมเคล็ดสักอย่างจะต้องใช้เวลามาก  ลินลี่ย์สงสัยว่าเขาจะต้องใช้เวลานานนับปีไม่ถ้วน  เขายังไม่สามารถกลายเป็นพารากอนได้
ที่สำคัญ มีคนหลายคนที่ฝึกฝนได้รวดเร็ว  แต่เมื่อถึงระดับหนึ่งก็ไม่สามารถฝึกเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป  พวกเขาถึงขีดจำกัดของตนเอง
 “ฮ่าฮ่า...”  บลูไฟร์ส่ายศีรษะและหัวเราะ  “เมื่อข้าเข้าไปในสุสานเทพเจ้า  ข้าก็หลอมรวมได้ห้าเคลดแล้ว  ข้าคิดว่าสิ่งที่เบรุตหมายความถึงก็คือเมื่อเจ้าลินลี่ย์ไปถึงระดับของข้าในตอนนั้น ที่หลอมรวมเคล็ดได้ห้าเคล็ด  เจ้าจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไป!  ไม่มีทางที่ต้องรอให้เจ้าเป็นพารากอนก่อน  นั่นเข้มงวดเกินไป”
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ ก็อดพยักหน้าไม่ได้  ใช่แล้วเมื่อบลูไฟร์เข้าไป  เขายังไม่กลายเป็นพารากอน
บีบีบ่นพึมพำ  “แม้หลอมรวมได้ห้าเคล็ดก็ตาม แต่ก็ยังใช้เวลานานมากๆๆๆ  ยิ่งหลอมรวมเคล็ดเพิ่มก็ยิ่งยาก”
 “จะรีบร้อนไปทำไม?”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ  “บีบีเนื่องจากพลังปัจจุบันของข้า  ข้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ในท่ามกลางผู้บัญชาการอื่นๆ ได้  เมื่อสงครามมหาพิภพนี้ได้บทสรุป  เราจะกลับไปแดนนรก!  เมื่อไม่มีธุระสำคัญให้ทำ  เราก็ค่อยๆ ใช้เวลาสักสองสามพันล้านปีฝึกฝนต่อไป”
บลูไฟร์ยิ้มและพูดเชิงเห็นด้วย  “ไม่เลว, เจ้าไม่ทะนงตนเกินไป และไม่ใจร้อนเกินไป  อย่างนั้นขอเพียงเจ้าปล่อยให้หลายอย่างได้ผลสรุปตามธรรมดา  ยิ่งใจร้อนมาก ก็ยิ่งสำเร็จได้ยากมากขึ้นเป็นธรรมดา”
 “ไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึงเรื่องสุสานเทพเจ้าเลย”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
ตอนนี้ลินลี่ย์ไม่มีภาระอะไรจริงๆ  หลังจากใช้เวลาหลายปีมานี้ในสมรภูมิมหาพิภพ  เขาได้รับป้ายทองสามป้ายแล้ว  และยังขาดอยู่อีกป้ายเดียว  เนื่องจากพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกมาก  ลินลี่ย์มั่นใจว่าถ้าเขากับบีบีร่วมกำลังกัน  ก็คงไม่ยากที่จะหาป้ายได้เพิ่มอีกสักป้าย  หลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้ว  เขาคงโล่งใจได้จริงๆ  และสามารถไล่ติดตามความสมบูรณ์แบบได้ต่อไปอย่างสบายใจ
 “ท่านเลย์ลิน”  ลินลี่ย์มองบลูไฟร์และพูดจริงจัง  “ข้ายังมีคำถามหนึ่งอยู่ในใจ”
 “ว่าไปสิ”  บลูไฟร์จิบเหล้าและหัวเราะอย่างใจเย็น
 “ข้ายังมีความสับสนมากเกี่ยวกับเทพพารากอน”  ลินลี่ย์พูดพลางขมวดคิ้ว  มีผู้บัญชาการอยู่มากที่มีพรสวรรค์ธรรมชาติไม่ธรรมดา  อย่างเช่นรีสเจมและเรย์โฮม  พวกเขาเกิดมาพร้อมกับพลังมหาศาล  นอกจากนี้ พวกเขายังหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ดกฎธาตุ!  พูดโดยทั่วไปเนื่องจากร่างของพวกเขาทรงพลังขนาดไหนและความจริงที่ว่าพวกเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ด  ข้ารู้สึกว่าพวกเขาควรจะมีพลังเสมอกับเทพพารากอน  แต่เมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเขาสู้กับไบเออร์  ข้าพบว่า...มีความแตกต่างกันมากมาย  พวกเขาถูกปั่นราวกับเป็นของเล่น”
 “ถูกแล้ว, ไบเออร์ผู้นั้นน่ากลัวเกินไป  เขาสามารถบีบอัดพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย  พลังบีบอัดพื้นที่น่ากลัวมาก”  บีบีรีบกล่าว
 “นอกจากนี้, พลังโจมตีวิญญาณ  ธาตุลมเหมาะกับพลังโจมตีวัตถุ ไม่ใช่พลังโจมตีวิญญาณ  แม้ว่าพลัง ดนตรี และ พลังคลื่นเสียง จะไม่ธรรมดาก็ตาม  แต่เหตุผลที่เมื่อไบเออร์ใช้พลังโจมตีวิญญาณ ข้าจะตกอยู่ในสภาพมึนงงโดยไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
พารากอนทุกคนมีความแตกต่างกัน
พารากอนธาตุลมมีพลังโจมตีวัตถุที่แข็งแกร่งมาก  พารากอนธาตุน้ำมีพลังป้องกันการโจมตีวัตถุที่ไม่ธรรมดา  ก่อนนั้นแฮมเมอร์บอกว่าพารากอนธาตุน้ำยังอ่อนแอกว่าเขาในการปะทะกันตรงๆ
แต่ไบเออร์เป็นพารากอนธาตุลม  ทำไมพลังโจมตีวิญญาณถึงได้น่ากลัวเล่า?
ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆ
 “ฮ่าฮ่า...”  บลูไฟร์เริ่มหัวเราะลั่น
 “มันตลกตรงไหน?”  บีบีบ่น  “พารากอนเป็นตัวประหลาดพลังมหาศาล  ดูเหมือนกับว่าพวกเขาทรงพลังในทุกด้าน”  พารากอนที่มีความแตกต่างกันในองค์ประกอบธาตุจะมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน  แต่แม้ว่าพวกเขาอาจอ่อนแอในบางด้าน  แต่พวกเขาก็ยังมีพลังเหนือกว่าผู้บัญชาการโดยทั่วไป
ตัวอย่างเช่น แม้ว่าเทพชั้นสูงพารากอนธาตุน้ำจะอ่อนแอทางด้านพลังโจมตีวัตถุ  แต่เขาก็ยังสู้เสมอกับแฮมเมอร์
 “เทพชั้นสูงพารากอนไม่มีจุดอ่อน”  บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์และบีบีเริ่มตั้งใจฟังอย่างระมัดระวังทันที  ปกติเมื่อเทพชั้นสูงพารากอนพูดหัวข้อเรื่องนี้  พวกเขาจะพูดแค่ทฤษฎี
 “เทพชั้นสูงพารากอนทรงพลังในทุกด้าน!  ความแตกต่างกฎธาตุธรรมชาติและวิถีเป็นเพียงผลที่แตกต่างกันทำให้พารากอนแข็งแกร่งขึ้นในบางด้าน  ตัวอย่างเช่น  ข้าแข็งแกร่งที่สุดในเรื่องพลังโจมตีวิญญาณ!  ความจริงเทพพารากอนทรงพลังในทุกด้าน...เป็นเพราะความลับอย่างหนึ่ง”  บลูไฟร์ตอบ
 “ความลับ?”  ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
 “ถูกแล้ว”  บลูไฟร์ถอนหายใจชื่นชม  “ลินลี่ย์,  ข้าสามารถบอกเจ้าทั้งสองคนได้  แต่...ความลับเกี่ยวกับข้าเป็นพารากอน  นี่เป็นความลับด้วย? เจ้าไม่อาจบอกคนอื่น”
 “แน่นอน”  ลินลี่ย์ลินลี่ย์พยักหน้า
บลูไฟร์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นกล่าว  “ปีนั้น, เมื่อข้าหลอมรวมเคล็ดธาตุไฟทั้งหกได้  ข้าติดอยู่ที่ระดับคอขวด!  ข้าขาดอีกเพียงหนึ่งก้าวก็จะสำเร็จกลายเป็นพารากอน  ข้าทรงพลังมากเมื่ออยู่ในจุดนั้นอยู่แล้ว  อย่างไรก็ตามเมื่อข้าก้าวผ่านขั้นสุดท้ายกลายเป็นพารากอน เจ้ารู้ไหมว่ามีความแตกต่างระดับพลังมากมายเท่าใด?”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ข้าไม่แน่ใจ  อย่างไรก็ตามการบรรลุผ่านคอขวดได้กล่าวโดยทั่วไป  คงไม่ส่งผลให้พลังเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจใช่ไหม?”
 “เมื่อข้าผ่านก้าวย่างสุดท้ายไปได้  ข้ารู้สึกว่าตัวข้าเองเปลี่ยนแปลงไป!  บลูไฟร์ถอนหายใจ  “การเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”
 “ฟ้ากับดิน?”  ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
 “ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ว่าโดยทั่วไปแล้ว เทพชั้นสูงทุกคนแม้จะเป็นเทพที่ทรงพลังมากก็ยังไปไม่ถึงระดับพารากอน เมื่อไปรบกวนมหาเทพ ก็อาจถูกมหาเทพทำลายแค่เพียงคิด  มีเทพชั้นสูงประเภทหนึ่งที่ได้รับการยกเว้น ก็คือพารากอน!  ปณิธานของมหาเทพไม่สามารถฆ่าเทพชั้นสูงพารากอนได้!  บลูไฟร์หัวเราะ
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  เขารู้เรื่องนี้
 “ทำไมน่ะหรือ?”  บลูไฟร์พูดพร้อมกับหัวเราะ  “นี่เกี่ยวข้องกับความลับของพารากอน!  เมื่อกลายเป็นพารากอนแล้ว ในทันทีนั้นเขาจะเปลี่ยนแปลงไป”
ลินลี่ย์และบีบีฟังอย่างระมัดระวัง
 “การเปลี่ยนแปลงทันทีเมื่อกลายเป็นพารากอน!  บลูไฟร์ดูเหมือนจะระลึกถึงความรู้สึกที่เขาเคยมี  “กฎธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครซึ่งรายล้อมวิญญาณของข้า!  วิญญาณของข้าได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ทรงคุณภาพ  หลังจากการเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ  ข้าเข้าใจว่าพารากอนจะทรงพลังมากมายเพียงไหน”  บลูไฟร์เริ่มหัวเราะ
การเปลี่ยนแปลงคุณภาพของวิญญาณ?  ลินลี่ย์ตะลึง
จากเทียมเทพไปเป็นเทพแท้ เป็นเทพชั้นสูง วิญญาณจะมีพลังเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง  แต่เขาไม่คิดว่าเมื่อถึงระดับพารากอน วิญญาณจะเพิ่มคุณภาพอีกครั้ง
 “การเปลี่ยนแปลงวิญญาณแบบนี้ทำให้กฎธรรมชาติประทานอำนาจที่พารากอนพึงมี!  บลูไฟร์ยิ้ม  “อำนาจที่รวมทั้งปณิธานของกฎธรรมชาติของโลก!  นั่นคือปณิธานของพารากอน!
ลินลี่ย์ตะลึง
ทุกคนมีปณิธานอย่างหนึ่ง  แต่ปณิธานของเทพชั้นสูงธรรมดาเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญไม่มีพลังโจมตีแฝงอยู่  “ปณิธานของพารากอน...แฝงไว้ด้วยกฎธาตุธรรมชาติของโลก?”  ลินลี่ย์อดถามไม่ได้
 “ถูกแล้ว!  บลูไฟร์หัวเราะ  “ความจริงการเพิ่มพลังจากการหลอมรวมเคล็ดลึกลับ  ว่าด้วยตัวของมันเองแล้วยังมีขีดจำกัด  แต่เมื่อพลังโจมตีธรรมดาจากเรา พอหลอมรวมเข้ากับปณิธานจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่ากลัว!  นี่เป็นอำนาจชนิดหนึ่ง!  อำนาจที่ทางเอกภพประทานให้มา!  และนี่คือสิ่งที่เราอาศัยใช้ต่อต้านปณิธานของมหาเทพ!
ลินลี่ย์และบีบีเริ่มเข้าใจ
พวกเขาก็เช่นกัน ได้ยินมาว่าปณิธานของมหาเทพไม่อาจละเมิดได้  พลังของมหาเทพไม่พิเศษขนาดนั้น  อย่างไรก็ตามพลังของมหาเทพหลอมรวมกับปณิธานของมหาเทพจะทรงพลังน่ากลัว  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับมหาเทพก็คือ ปณิธานของพวกเขา
 “เป็นเหมือนกับจักรพรรดิ!  เขาไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง   แค่ราชโองการจากเขาอาจทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องศีรษะหลุดจากบ่า  สำหรับคนธรรมดา ราชประสงค์ของจักรพรรดิไม่อาจต่อต้านได้!  บลูไฟร์หัวเราะอย่างใจเย็น  “นี่คืออำนาจอย่างหนึ่ง  พลังของเขาก็คือปณิธาน!  ปณิธานของเทพชั้นสูงธรรมดาไม่สามารถใช้โจมตีได้  แต่สำหรับเทพชั้นสูงพารากอน  พวกเขามีพลังอำนาจชนิดนี้ ซึ่งได้รับประทานมาจากเอกภพ!
ตอนนี้ลินลี่ย์และบีบีเข้าใจแล้ว
สวรรค์โปรด!
งั้นสถานการณ์ก็เป็นเช่นนี้  ปณิธาน?  ในบรรดาเทพชั้นสูงนับไม่ถ้วน  เทพพารากอนเป็นเหมือนจักรพรรดิที่อยู่เหนือคนอื่น  ปณิธานของเทพพารากอนแฝงไปด้วยกฎธรรมชาติ  ดังนั้นพลังโจมตีธรรมดาของเทพพารากอนจึงทรงพลังน่ากลัว!
 “มิน่าเล่า!  ความเคลื่อนไหวธรรมดาของไบเออร์ก็ทำให้พวกเราสี่คนถูกจำกัดอย่างนั้น”  บีบีถอนหายใจชื่นชม  “โจมตีด้วยมือเปล่าเทียบเท่ากับใช้อาวุธมหาเทพโจมตี”
 “แล้วปณิธานของมหาเทพเป็นยังไง?”  บีบีรีบกล่าว  “แข็งแกร่งกว่าปณิธานของพารากอนมากแค่ไหน?”
 “แข็งแกร่งกว่ามาก!  บลูไฟร์หัวเราะ  “โดยหลักการเดียวกัน!  มหาเทพมีประกายมหาเทพ และพวกเขาก็ยังได้รับพลังกฎธรรมชาติจากเอกภพที่มีอำนาจมากมายมหาศาล!  นี่ทำให้ปณิธานที่พวกเขามีทรงพลังยิ่งใหญ่กว่า  มหาเทพอยู่ห่างไปเป็นล้านๆ กิโลเมตรก็ยังสามารถใช้ปณิธานของพวกเขาอย่างเดียวควบคุมพลังมหาเทพของพวกเขาโจมตีใส่พวกเราได้  เราเหล่าเทพพารากอนแทบไม่อาจรักษาชีวิตของเราเองไว้ได้  อย่างไรก็ตาม ถ้ามหาเทพมาด้วยตนเองและโจมตีเรา  ไม่มีทางที่เราจะสามารถต่อต้านได้”
ลินลี่ย์และบีบีเข้าใจเป็นอย่างดี
ปณิธานของมหาเทพได้รับมาจากกฎธรรมชาติของเอกภพยังเหนือกว่าพลังอำนาจของปณิธานของเทพพารากอน
ถ้าพวกเขาอยู่ห่างไปเป็นล้านล้านกิโลเมตร  มหาเทพคงไม่สามารถฆ่าพารากอนได้  แต่ถ้าพวกเขาอยู่ใกล้  พารากอนก็ยังจะต้องตาย  แต่แน่นอน...บรรดาพารากอนนั้น  ก็นับว่าไร้เทียมทานอยู่แล้ว
 “ปณิธานที่ครอบครองคือพลังอำนาจที่มีตัวตนจริง”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ
บลูไฟร์พูดคุยสนทนากับลินลี่ย์และบีบีเป็นเวลาสามวันเต็ม  ระหว่างสามวันนี้ทั้งสามคนกินและดื่ม  ลินลี่ย์เล่าเรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับพลังโจมตีที่พวกเขาประสบเจอที่สมรภูมิมหาพิภพแห่งนี้  และบลูไฟร์ถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ฟัง  หลังจากผ่านไปสามวันบลูไฟร์ก็ยังต้องแยกกับทางกับลินลี่ย์
ที่สำคัญบลูไฟล์มาที่สมรภูมิมหาพิภพด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างจากลินลี่ย์ บลูไฟร์รังเกียจการฆ่าคน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างนอกถ้ำ  ขณะที่ยืนอยู่ในที่รกร้างห่างไกล บลูไฟร์อำลาลินลี่ย์และบีบี
 “ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์, อย่างนั้นข้าขอให้เจ้าโชคดีได้รับป้ายผู้บัญชาการป้ายที่สี่ก็แล้วกัน”  บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “จริงสิ, ท่านพอจะบอกข้าได้ไหม  ก่อนหน้านี้พวกเจ้าอยู่ร่วมกับรีสเจมช่วงเวลาหนึ่ง  ครึ่งเดือนก่อนที่จะพบพวกเจ้า  ข้าพบรีสเจมและเรย์โฮมที่เจ้าอธิบายถึงในถ้ำแห่งหนึ่ง”
 “โอว?”  ลินลี่ย์และบีบีดีใจทันที
 “พวกเขาอยู่ที่ไหน?”  ลินลี่ย์ถาม  ลินลี่ย์ยังรู้สึกขอบคุณต่อรีสเจม
บลูไฟร์มองดูรอบๆ  และชี้ไปทิศทางหนึ่ง  “ตรงไปทางนั้นห่างไปราวหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นกิโลเมตร เจ้าจะพบภูเขาแห่งหนึ่งมีสองยอดคู่มองดูเหมือนเขาแกะ  เขาทั้งสองมีถ้ำอยู่ในภูเขา  แต่แน่นอนว่า.. ข้าไม่แน่ใจว่าพวกเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”
 “ขอบคุณท่านเลย์ลิน”  ลินลี่ย์ดีใจ
กล่าวโดยทั่วไป พวกเขาอยู่ในที่เดียวนานหลายปี  ขณะที่บลูไฟร์เห็นพวกเขาเมื่อไม่นานนี้  รีสเจมก็คงจะเห็นเช่นกัน
 “ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการจะกลับไปสมทบกับพวกเขาเช่นกันสินะ  อย่างนั้นเราแยกทางกันตรงนี้เถอะ”  บลูไฟร์หัวเราะ
ลินลี่ย์และบีบีอำลาบลูไฟร์ทันที จากนั้นพวกเขาไม่ได้กลับเข้าไปในถ้ำของพวกเขา บินตรงไปยังทิศทางที่บลูไฟร์ชี้บอกด้วยความเร็วสูง  ความจริงเมื่อได้ยินคำอธิบายว่าภูเขาที่คล้ายเขาแกะ ลินลี่ย์ก็มีความรู้แล้ว  เขามีแผนที่สมรภูมิมหาพิภพ  จึงเป็นธรรมดาที่เขารู้ว่าภูเขาตั้งอยู่ที่ใดกันแน่
บลูไฟร์มองดูทั้งสองคนหายไปในพื้นที่รกร้าง  จากนั้นอดหัวเราะไม่ได้  เขาถอนหายใจ  “เบรุตไม่ต้องใช้ความพยายามเข้ามาจัดการเลย!  อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่ลินลี่ย์หลอมรวมเคล็ดได้สี่เคล็ดก็อาจบอกได้ว่าเบรุตประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว  ขณะที่การหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่ห้ายังห่างไกลอีกมาก  ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้ในตอนนี้!  อืม.. ข้าไม่เคยดูสงครามมหาพิภพ  ข้ามิอาจพลาดดูศึกสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในอีกสามร้อยปีข้างหน้า”  บลูไฟร์จากไปอย่างสง่างาม

15 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

OTO_boy กล่าวว่า...

ผมเดาว่าเบรุตมีแผนให้ลินลี่กลายเป็นมหาเทพแน่เลยอาจจะเกี่ยวกับประกายมหาเทพในสุสานเทพเจ้าก็ได้นะครับ _ _

OTO_boy กล่าวว่า...

เห็นบอกว่ามหาเทพมีประกายมาเทพด้วย ^^

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

น่าคิดครับ ผมมองว่าไม่ว่าเบรุตแข็งแกร่งแค่ไหนไม่สำคัญ ผมว่าเบรุตเป็นคนมองการไกลมากคนหนึ่ง อาจเห็นศักยภาพภายในก็ได้

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

อาจไปได้ไกลกว่านั้นนะ สงสัยมงกุดที่พึ่งเก็บมาอะ ต้องไปได้ไกลกว่านั้น

Tiger กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เนพื กล่าวว่า...

รอหลอมรวมน้ำกับดินอยู่

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Rewma กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

สมประสงค์ อินทรกำแหง กล่าวว่า...

เรื่องนี้เรื่องนี้ผูกปมเรื่องได้ดีมากครับ อ่านไปเรื่อยปมจะคลายตอนท้ายๆ แต่บทนีแต่บทนี้มันส์มากกว่าจะจบบทอีกหลายตอน

Unknown กล่าวว่า...

ใช่คับ ที่ผ่านมานิยายไม่เคยเอ่ยว่ามหาเทพมีประกายเทพ

Unknown กล่าวว่า...

อีกยาวไกลเลยครับกว่าจะจบ
ผมตามอ่านอิ้ง จนตาแฉะ แต่รับรอง
มันส์มากครับ

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น