วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 45 เตรียมจัดการ


เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 45 เตรียมจัดการ
ประมุขตระกูลออกุสตาขมวดคิ้ว  เขายืนนิ่งอยู่บนระเบียง หันไปมองทะเลก็อดโกล  เขายังคงเงียบ
 
 “ท่านประมุข”  มอนเตโลรีบกล่าว  แต่ออกุสตาไม่เห็นด้วย  มอนเตโลรู้..ว่าประมุขตระกูลพิจารณาหลายอย่างด้วยความระมัดระวัง  ดังนั้นเขาไม่เร่งรัดอีกต่อไป  ในความคิดของเขา เขารู้สึกตื่นกลัว  “ด้วยอารมณ์ของท่านประมุขตระกูล  เป็นไปได้ว่าท่านประมุขตระกูลจะไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้  ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าจะขอให้ใครฆ่าหนูกินเทพและอีกคนหนึ่งเล่า?”
 “ไม่, ข้าต้องฆ่าเจ้าสองคนนั่นให้ได้”  มอนเตโลไตร่ตรองถึงสิ่งที่เขาจะทำ
แม้ว่ามอนเตโลเป็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูลออกุสตา  แต่เขาไม่มีความสัมพันธ์ที่สำคัญกับเทพชั้นสูงพารากอน
เป็นเรื่องยากมากที่จะล้างแค้นหลังจากถูกฆ่าในสมรภูมิมหาพิภพ  ที่สำคัญผู้บัญชาการที่สามารถฆ่าผู้บัญชาการอื่นในสมรภูมิมหาพิภพล้วนทรงพลังทั้งนั้น  มีเพียงพารากอนเท่านั้นที่จะฆ่าพวกเขาได้อย่างแน่นอน
มีเทพพารากอนอยู่น้อยคนมาก และพวกเขาแยกย้ายกระจายอยู่ในพิภพต่างๆ  เทพชั้นสูงพารากอนบางคนก็ซ่อนตัวอยู่ในโลกธาตุธรรมดา  ขณะที่เทพพารากอนอื่นปลีกสันโดษในที่อื่น  จะเชิญเทพพารากอนได้นั้นเป็นงานที่ยากเย็นแสนเข็น
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบเอลฟ์อ็อคคลัวที่มีพารากอนติดค้างหนี้เขา
อย่าว่าแต่มอนเตโลเลย  แม้แต่ประมุขตระกูลออกุสตาตระกูลอันดับหนึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเชื้อเชิญเทพพารากอนได้
 “อธิบายรายละเอียดพลังของหน่วยรีสเจมซิ”  ประมุขตระกูลออกุสตายังคงทอดสายตามองทะเลก็อดโกลขณะที่พูดอย่างเยือกเย็น
 “ขอรับ”
มอนเตโลดีใจ  เขารีบกล่าว  “หน่วยของพวกเขามีกันสี่คน  รีสเจม  ยอดฝีมือคนสนิทชื่อเรย์โฮม เด็กหนุ่มเผ่ามังกรฟ้า และหนูกินเทพตัวนั้น!  ในบรรดาคนทั้งสี่รีสเจมแข็งแกร่งที่สุด  แต่แน่นอนว่าหนูกินเทพก็น่ากลัวเช่นกัน  ทักษะเทพธรรมชาตินั้นน่ากลัวเกินไป”
 “เหรอ...”  ประมุขตระกูลออกุสตินหันควั่บทันทีจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่น่ากลัว  “ยอดฝีมือนั่นพลังใกล้โอมานไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขาหรือ?”
 “โอมานก็เพียงพอจะจัดการเขาได้”  มอนเตโลพูดด้วยความมั่นใจ
ถ้าโอมานสู้กับเรย์โฮม แน่นอนว่าโอมานมีอาวุธมหาเทพ  เขาย่อมตอบโต้เรย์โฮมได้...แม้ว่าการต่อสู้จะยากเย็นก็ตาม  แต่โอมานก็คงฆ่าเรย์โฮมได้
 “แต่การฆ่าเจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าและหนูกินเทพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”  ประมุขตระกูลออกุสตาส่ายศีรษะเล็กน้อย  ความจริงเขาค่อนข้างลังเลว่าจะส่งกองกำลังไปหรือไม่  ลูอี้และโชวีย์ก็ไม่ใช่คนของตระกูลออกุสตาโดยตรง  แม้ว่าพวกเขาจะตายไป  พลังอำนาจของตระกูลก็ไม่ได้รับผลกระทบเท่าใดนัก
ถ้าทูตมหาเทพแพ้  มหาเทพสามารถรับอีกคนหนึ่งได้
มอนเตโลลนลาน  เขารีบกล่าว  “ถ้าพวกเขาแค่ฆ่าข้า นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง  แต่ครั้งนี้พวกเขาฆ่าเราไปสี่คน และท่านประมุขตระกูล ท่านก็รู้ว่ารีสเจมเป็นยังไง  เขาเป็นพวกที่ชอบสร้างปัญหาก่อเรื่อง  เขามีปัญหากับตระกูลของเรามานานแล้ว  ตอนนี้พอเขาได้รับชัยชนะ  เขาจะต้องไปโอ้อวดกับทุกคนแน่นอน  ถ้าตระกูลของเราไม่สนองตอบแม้แต่น้อย  อย่างนั้น....”
ประมุขตระกูลออกุสตาขมวดคิ้ว  จุดสีแดงเพลิงที่หน้าผากของเขาดูเหมือนกับเปล่งแสง
ประมุขตระกูลออกุสตาออกคำสั่งทันที  “มอนเตโล, ไปเรียกโอมานมา   พร้อมกันนั้นส่งคนไปเชิญเชกวินมาด้วย”
แม้ว่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดของโอมานจะอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพ  แต่เขายังคงทิ้งร่างแยกร่างหนึ่งไว้ที่ตระกูล  สำหรับเชกวิน เขาอาศัยอยู่ในทะเลก็อดโกล  เขายังเป็นทูตของประมุขมหาเทพแห่งแสง และสนิทกับตระกูลออกุสตามาก
 “ขอรับ”  มอนเตโลอดตื่นเต้นดีใจไม่ได้
 “ดูเหมือนจะมีความหวังบ้าง”  มอนเตโลตื่นเต้นเหลือเชื่อ  แม้ว่าเขาจะไม่รู้สิ่งที่ประมุขตระกูลกำลังเตรียมการ  เนื่องจากเขาสอบถามเกี่ยวกับกำลังของหน่วยรีสเจม  มอนเตโลเชื่อว่าประมุขตระกูลจะส่งหน่วยทีมงานที่ประสบความสำเร็จไปแน่นอน
ไม่โจมตีก็แล้วไป  แต่ถ้าพวกเขาโจมตี พวกเขาจะต้องประสบผลสำเร็จ
สมรภูมิมหาพิภพยังคงรกร้างเหมือนเคย
 “ควั่บบ”  สายลมหนาวหวีดหวิวและทรายปลิวฟุ้งไปทั่วบริเวณ  มีสองร่างเดินเคียงไหล่คู่กัน เมื่อระยะใกล้เข้ามา จะเห็นได้ว่าคนหนึ่งไว้ผมสั้นสีขาว สวมชุดทองใบหน้าแข็งกระด้าง  นี่คือผู้รอดตายคนเดียวในการต่อสู้ก่อนนั้น  โอมาน
ข้างโอมานเป็นบุรุษร่างสูงโปร่งชุดเขียว  ดวงตาที่สามอยู่ที่หน้าผากยังคงปิดอยู่  คนผู้นี้คือเชกวิน
 “ประมุขตระกูลรักและตามใจมอนเตโลจริงๆ  ความจริงเขาตั้งใจจะแก้แค้นเรื่องนี้” โอมานแค่นเสียง  “และเขายังเชิญให้เราทั้งสองมาทำงานด้วยกัน”
เชกวินหัวเราะอย่างเยือกเย็นซึ่งดูเหมือนน่ากลัวมาก  “โอมาน ประมุขตระกูลก็เป็นลูกรักที่สุดของประมุขมหาเทพ  ประมุขตระกูลขอให้ข้ามาเป็นการส่วนตัวเอง  แล้วข้าจะไม่เห็นแก่หน้าของเขาได้ยังไง?  แต่โอมาน...สำหรับกลุ่มรีสเจมทั้งสี่คนที่ฆ่าพวกเจ้าทั้งสี่คนไปได้  ก็หมายความว่าพวกเขาแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน”
 “ข้าบอกเจ้าก็ได้  คนเดียวที่ยากจะจัดการได้ก็คือหนูกินเทพนั่น”  โอมานพูดอย่างไม่เข้าข้างตัวเอง
ถ้าผลของการต่อสู้กระจายออกไป จะส่งผลต่อเชื่อเสียงของโอมานด้วยเช่นกัน
 “แต่ครั้งนี้ เขามั่นใจในชัยชนะจริงๆ”  โอมานยิ้ม
 “ไม่จำเป็น  เว้นแต่คนผู้นั้นเห็นด้วย”  เชกวินส่ายศีรษะ  “เขาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย”
 “ถ้าเขาไม่เห็นด้วย อย่างนั้นสองเราเพียงลำพังคงจะหาทางค่อนข้างยาก”  โอมานมองดูข้างหน้า
ขณะที่พูดคุยกันทั้งสองคนมาถึงที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง  ทหารของค่ายมองดูพวกเขาอย่างระมัดระวัง  โดยทั่วไปมีแต่เพียงสุดยอดฝีมือจึงจะกล้าเที่ยวไปในสมรภูมิมหาพิภพอย่างนี้  โอมานพูดทันที  “ไปรายงานผู้บัญชาการของเจ้า  บอกว่าข้า, โอมานมาเยี่ยมคำนับเขา”
 “ใต้เท้า!  โปรดรอสักครู่”  หนึ่งในทหารคำนับเล็กน้อย จากนั้นถอยเข้าไปรายงานข้างใน
ครู่ต่อมา...
 “ท่านทั้งสอง, ท่านผู้บัญชาการของเราขอเชิญท่านเข้ามา”  ทหารรายงาน
โอมานและเชกวินยิ้มขณะที่พวกเขาเดินเคียงไหล่เข้าไป  พวกเขามาถึงลานโล่งว่างไม่ได้ตกแต่งที่ดูเก่าแก่  ตอนนี้ที่ประตูลานมีบุรุษหนุ่มรูปงามผมทองคนหนึ่งยืนอยู่  บุรุษหนุ่มผมทองมองดูโอมานและเชกวิน  จากนั้นเริ่มหัวเราะทันที  “โอมาน, อ่า.. ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านเชกวินก็มาด้วยเช่นกัน  ยากนักที่ท่านทั้งสองจะมาเยี่ยมเยือนข้าได้  เชิญเข้ามา เชิญ!
โอมานเดินเข้ามาและพูดเสียงเบา  “แรมสัน! ท่านแมกนัสอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” 
 “เขาน่ะหรือ”  บุรุษหนุ่มผมทองตะลึง  “ท่านมาเพื่อพบเขาหรือ?”
 “ใช่แล้ว”  โอมานพยักหน้าเบาๆ
ขณะนั้นเอง เสียงเยือกเย็นดังขึ้นจากภายใน  “โอมาน เชกวิน ในเมื่อเจ้าทั้งสองมาพบข้าก็เข้ามาเถอะ  ข้าเองก็ไม่ได้พบเจ้าทั้งสองมานานแล้วเหมือนกัน”
โอมานและเชกวินไม่ลังเลอีกต่อไป เดินตามบุรุษหนุ่มผมทองเข้าไปทันที
ภายในลานว่างมีโต๊ะหินและเก้าอี้หินสีดำ มีบุรุษคนหนึ่งกำลังพลิกดูหนังสือเล่มหนา  บุรุษผู้นี้มีผมสีเงินยาวตรงจนถึงเอว  เขามีผิวขาวใสเหมือนแก้วผลึกและใบหน้าของเขาสะอาดสะอ้านไม่มีริ้วรอย
ที่ด้านหน้าคิ้วสีเงินยาวจรดหู
 “ท่านแม็กนัส”  โอมานและเชกวินคำนับเล็กน้อย
แม็กนัสวางหนังสือลงบนโต๊ะ จากนั้นหัวเราะพลางปรายตาให้พวกเขา  “เชิญนั่ง”
โอมานและเชกวินนั่งลงทั้งคู่  พวกเขามองหน้ากันเองโดยไม่รู้ตัว  ทั้งสองมีความรู้สึกถึงแรงกดดัน  แม็กนัสผู้นี้ที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาเป็นสุดยอดฝีมือของแดนสวรรค์อย่างแท้จริง  โลกภายนอกเล่าลือกันว่าแม็กนัสน่าจะเป็นพารากอน  แต่โอมานและเชกวินรู้จริงๆ ว่าแท้ที่จริงแล้ว...
แม็กนัสเป็นเทพพารากอน
ในฐานะเทพพารากอนผู้ฝึกฝนในวิถีชะตา อาจกล่าวได้ว่าความเชี่ยวชาญในเรื่องวิญญาณของแม็กนัสสูงที่สุดในหมู่เทพชั้นสูง
 “ดูเหมือนว่าเจ้าทั้งสองคนมีเรื่องที่ต้องการพูดคุยปรึกษา  แต่ยากตกลงใจได้”  แม็กนัสหัวเราะอย่างใจเย็น
เชกวินสูดหายใจลึก  “ท่านแม็กนัส ให้ข้าอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านฟังก่อน  ไม่นานมานี้รีสเจมพาหน่วยเล็กๆ ของเขาซึ่งอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพประหารฆ่าหน่วยที่มีมอนเตโลเป็นผู้นำ  สมาชิกสี่คนตาย  เหลือแต่เพียงโอมานที่รอดมาได้”
 “น่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?”  แม็กนัสค่อนข้างประหลาดใจ  เขาอดมองโอมานอย่างช่วยไม่ได้
โอมานพูดอย่างอึดอัด  “หน่วยของพวกเขามีหนูกินเทพ”
ตอนนี้แม็กนัสเข้าใจแล้ว และบุรุษหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆ หัวเราะทันที  “ข้าได้ยินเรื่องหนูกินเทพนี้มานานแล้ว  งั้นเขาก็เป็นคนของหน่วยรีสเจม  หน่วยของมอนเตโลเสียคนไปสี่คน มีเพียงโอมานที่หลบออกมาได้หรือ?  อย่างนั้นมอนเตโลเองก็ตายด้วยใช่ไหม?”
 “ถูกแล้ว”  โอมานพยักหน้า
 “เป็นท่านประมุขโกลด์แมนที่เชิญเจ้ามาใช่ไหม?”  แม็กนัสหัวเราะอย่างใจเย็น
โอมานหัวเราะอย่างจนใจ  “ท่านแม็กนัส ท่านคาดเดาทุกอย่างได้หมด  เราจะขอพูดอย่างตรงไปตรงมา  ความจริงท่านประมุขขอให้เรามาเชิญท่านให้ช่วยเรา  ที่สำคัญ... มีคนอยู่ไม่มากนักในสมรภูมิมหาพิภพที่จะยอมฟังตระกูลออกุสตา และมีน้อยคนยิ่งกว่าที่กล้าจัดการกับรีสเจม”
 “โกลด์แมนมีปัญหาทางจิตหรือยังไง?  เขาต้องการลงมือกับรีสเจมหรือ?”  แม็กนัสอดหงุดหงิดมิได้
มีคนไม่มากนักหรอกที่จะกล้าพูดว่าโกลด์แมนมีปัญหาทางจิต  แม็กนัสเป็นหนึ่งในนั้น  นอกจากนี้แม็กนัสและโกลด์แมนมีสัมพันธ์ค่อนข้างสนิทระหว่างกัน  ในอดีตเมื่อทั้งสองคนยังอ่อนแอ  พวกเขาท่องเที่ยวอยู่ในโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน  การเชิญพารากอนให้มาช่วย ต่อให้มีมหาเทพช่วยหนุนหลังก็ไร้ประโยชน์  สิ่งเดียวที่พึ่งพาอาศัยได้ก็คือมิตรภาพเก่าและหนี้บุญคุณ
 “ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”  โอมานหัวเราะ  “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น  ท่านประมุขตระกูลไม่ได้ตั้งใจจะลงมือกับรีสเจม  ท่านประมุขตระกูลต้องการจัดการอีกสามคน
 “ข้าไม่สามารถฆ่าหนูกินเทพได้”  แม็กนัสส่ายศีรษะ
 “อะไรนะ,  ท่านแม็กนัส ท่านก็กังวลเรื่องเบรุตด้วยหรือ?”  โอมานกล่าว
แรมสันบุรุษหนุ่มผมทองที่อยู่ใกล้ๆ หัวเราะ  “ท่านแม็กนัสไม่ได้กังวลเรื่องนั้นอย่างแน่นอน  เพียงแต่เป็นไปได้ยังไงที่เจ้าไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนั้นไม่นาน ท่านไบเออร์มาฆ่าหนูกินเทพนั้นด้วยตัวเอง?  เขายังไม่สามารถทำได้  ท่านไบเออร์ได้มาพักและพูดคุยเรื่องนี้ถึงสองสามเดือน”
 “ไบเออร์?”  โอมานและเชกวินมองหน้ากันเอง
 “พลังของหนูกินเทพแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ  และเขามีสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณ  มีวิธีเดียวก็คือต้อนเขาเข้าไปในมิติปั่นป่วน  มิฉะนั้นก็ไม่มีทางฆ่าเขา”  แม็กนัสส่ายศีรษะ  “แม้แต่ในมิติปั่นป่วน ด้วยพลังป้องกันวัตถุหยาบของเขา  เขาก็อาจจะเอาตัวรอดได้  อย่างมากที่สุดเขาจะหลงอยู่ในนั้น ถ้าเบรุตขอให้มหาเทพของเขาช่วยหาเขาในมิติปั่นป่วน ก็เป็นไปได้ว่ามหาเทพจะเข้ามาช่วย”
โอมานและเชกวินตอนนี้เข้าใจแล้วว่าหนูกินเทพรับมือได้ยากเพียงไหน
 “ถ้าเจ้าต้องการโจมตี  เจ้าสามารถฆ่าได้เพียงเจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าและอีกคนหนึ่งเท่านั้น”  แม็กนัสหัวเราะอย่างเยือกเย็น
 “ท่านแม็กนัส  ถ้าท่านลงมือด้วยตนเอง อีกสามคนจะไม่มีปัญหาใดแน่”  โอมานรีบกล่าว  เชกวินมองดูแม็กนัสอย่างคาดหวังเช่นกัน
แม็กนัสหัวเราะเบาๆ  “เจ้าเด็กโกลด์แมนบอกอะไรเจ้า?”  แม็กนัสมองดูโอมาน
 “เขาบอกว่าถ้าท่านช่วยเขาครั้งนี้ ท่านแม็กนัส เขาจะให้ศิลาเมฆาแปรเปลี่ยนขอรับ”  โอมานพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ  เขาไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับความหมายของคำพูดประมุขตระกูล  แม้ว่าศิลาเมฆาแปรเปลี่ยนจะเป็นของหายากในโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์  แต่ไม่มีค่าต่างอะไรกับสมบัติเทพชั้นสูง
ศิลาเมฆาแปรเปลี่ยนเพียงพอจะขอให้แม็กนัสเข้าแทรกแซงหรือ?  ข้อตกลงราคาถูกนั้นจะเกิดขึ้นได้ยังไง?
 “เจ้าเด็กโกลด์แมนนั่น...วิเศษมาก”  แม็กนัสหัวเราะและลุกขึ้นยืน  “อย่างนั้นข้าจะรับทำงานนี้ให้สำเร็จ”
โอมานและเชกวินอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้  พวกเขาไม่คาดเลยว่าข้อเสนอนี้จะทำให้แม็กนัสยอมช่วยให้สำเร็จ
 “อย่างไรก็ตาม ข้าจะรับผิดชอบเพียงรั้งรีสเจมไว้ เจ้าสามารถไปฆ่าอีกสองคน  ขณะที่หนูกินเทพ...เจ้าไม่ต้องไปสนใจเขา”  แม็กนัสหัวเราะอย่างใจเย็น  เชกวินผู้ที่ประมุขตระกูลออกุสตาขอให้มาช่วยเป็นยอดฝีมือที่ไม่กลัวทักษะกินเทพ
ถ้าทั้งสามคนอยู่ด้วยกันก็สามารถจัดการกับกลุ่มของรีสเจมได้ง่าย  ความจริงแม็กนัสเองคนเดียวก็เกินพอ
 “แรมสัน!  ข้าจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้”  แม็กนัสพูดพลางหัวเราะ
 “ข้าจะรอการกลับมาพร้อมชัยชนะของท่าน”  บุรุษหนุ่มผมทองหัวเราะ
แม็กนัสพาโอมานและเชกวินออกไปจากค่ายทหารทันที  เมื่อเห็นสามคนแยกจากไป บุรุษหนุ่มผมทางถอนหายใจ  “คาดไม่ถึงเลยว่าประมุขตระกูลออกุสตาจะสามารถเชิญท่านแม็กนัสได้จริงๆ  ดูเหมือนไม่ต้องสงสัยเลยว่าการสู้รบครั้งนี้จะจบลงอย่างไร”

12 ความคิดเห็น:

555555 กล่าวว่า...

เจอของแข็งแล้ว

WingF กล่าวว่า...

หินลับมีดใหม่มาอีกแล้ว

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุณครัง

Boybravo กล่าวว่า...

แก้แค้นกันไม่หยุดหย่อน 555

ดุร้าย กล่าวว่า...

ได้พากันไปชุบตัวในมิติปันป่วนแน่

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ หินรองเท้ามาอีกก้อนแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Piyawat กล่าวว่า...

พารากอนมาบอกเลยครับลินลี่ย์ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแล้ว

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

สมประสงค์ อินทรกำแหง กล่าวว่า...

ลินลี่ใกล้ได้แปลงร่างแล้ว แอบสปอยๆ แปลงอะไรยังไงติดตามดีๆมันส์มากกก

nutzido กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น