เล่ม
19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 52 เส้นทางสู่พลังสุดยอด
ในใจลินลี่ย์นั้นต้องการทำความเข้าใจให้ชัดถึงพลังในปัจจุบันของเขา
เทพพารากอนอย่างบลูไฟร์คือหินลับมีดเพื่อทดสอบตัวเขาเองที่หาได้ยากอย่างเหลือเชื่อ ใครอื่นจะกล้าประลองแลกเปลี่ยนความรู้กับลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้ได้เล่า?
“เอาอย่างนั้นก็ได้” ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า
รีสเจมและบีบีที่อยู่ใกล้ๆ
รู้สึกตื่นเต้นมาก
รีสเจมเป็นนักสู้ประเภทชอบเรื่องป่วนวุ่นวายนัก “ฮ่าฮ่า, มีพารากอนคนหนึ่งในฝ่ายเรา และมีนักสู้วิญญาณกลายสภาพที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ไม่ต้องออมมือหรอกนะ พวกเจ้าสองคนสู้กันให้สนั่นไปเลย ต่อให้ถ้ำนี่พังก็ไม่เป็นไร”
ลินลี่ย์แค่หัวเราะ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ การสู้ครั้งนี้แค่ทดสอบพลังของข้าเท่านั้น
ท่านเลย์ลินสำหรับการสู้ครั้งนี้ใช้แค่พลังกายกับพลังปณิธานของเราก็พอ
ไม่ต้องใช้พลังเทพหรือพลังมหาเทพก็ได้”
“เป็นความคิดที่ดี” บลูไฟร์เห็นด้วยกับข้อเสนอของลินลี่ย์ ถ้าลินลี่ย์ทรงพลังเกินไปหรือถ้าบลูไฟร์ทรงพลังเกินไปและเกิดเรื่องที่เกินคาดหมาย
นั่งคงไม่ใช่เรื่องดี
ด้านนอกภูเขา
พื้นที่รกร้างกว้างใหญ่
ลินลี่ย์และบลูไฟร์ยืนห่างกันร้อยเมตร ขณะที่รีสเจม
บีบีและเรย์โฮมรวมตัวกันอยู่อีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตาของบีบีฉายประกาย “รีสเจม
ข้ากล้าพนันได้เลยว่าพี่ใหญ่ข้าไม่อ่อนแอกว่าบลูไฟร์แน่นอน เขาอาจแข็งแกร่งกว่าก็ได้”
“ใครจะบ้าพนันกับเจ้า?” รีสเจมแค่นเสียง “ดูๆ พวกเขาเริ่มกันแล้ว”
ลินลี่ย์สวมชุดยาวสีฟ้า ขณะที่บลูไฟร์อยู่ในชุดยาวสีขาว
ทั้งสองคนยิ้มให้กันจากนั้นเริ่มโจมตีกัน!
ลินลี่ย์พุ่งไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่วเหมือนกับสายลม
มีเงาร่างหลายร่างออกมาจากตัวเขาเช่นกัน
ขณะที่บลูไฟร์ เขาเคลื่อนไหวได้เร็วมากราวกับว่าเป็นการเทเลพอร์ต
ขณะที่ทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหว ผู้ชมดูทั้งสามคนตกใจอย่างหนัก “บีบี!
พวกเขาใช้แต่เพียงพลังร่างกายล้วนๆ หรือ?
ความเร็วของลินลี่ย์ถึงระดับที่เหลือเชื่อจริงๆ”
ขณะนี้เอง
ลินลี่ย์กับบลูไฟร์เคลื่อนไหวช้ากว่าเมื่อตอนที่บลูไฟร์เข้ามาช่วยเหลือลินลี่ย์
เมื่อเขาเร่งรีบก็ต้องยอมใช้กระทั่งพลังมหาเทพ ตอนนั้นในการเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง
บลูไฟร์เดินทางไปได้ครั้งละหลายกิโลเมตร
ลินลี่ย์ในปัจจุบันไม่ได้อาศัยพลังมหาเทพหรือพลังเทพ
แค่ใช้แต่เพียงพลังร่างกายอย่างเดียวและพลังของปณิธานของเขา
“เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกดีใจในใจ “แค่อาศัยพลังร่างกายของเขาและปณิธาน
ความเร็วของข้าก็เพิ่มขึ้นจนเร็วกว่าแต่ก่อน ถ้าข้าใช้พลังเทพ
มีความเป็นไปได้ว่าข้าคงอ่อนแอกว่าบลูไฟร์ไม่มาก”
พลังควบคุมของลินลี่ย์ในพื้นดินโดยรอบทำให้การเคลื่อนไหวทำได้อย่างเรียบง่าย
ความเร็วของเขาน่าตกใจ ขณะที่ทั้งสองเคลื่อนไหว พวกเขาเริ่มผลัดกันจู่โจม ทั้งสองคนรับพลังหมัดโจมตีของพวกเขาพร้อมกัน
“ครืนนน...”
หมัดของลินลี่ย์เหมือนกับสายฟ้าฟาด อัดกระแทกผ่านท้องฟ้าทำให้เกิดเสียงสั่นสะเทือน
มิติพื้นที่เกิดอาการปั่นป่วนและมิติบิดจนเกิดริ้วระลอกตามมา
“ปัง!” เหมือนกับการระเบิด
บลูไฟร์ยิงหมัดออกมาราวกับสายฟ้าฟาด
ความเร็วของหมัดเร็วกว่าหมัดของลินลี่ย์มองเห็นแต่ประกายแสงสีแดง
หมัดทั้งสองเหมือนกับจะดูธรรมดา
ไม่มีทางหลบเลี่ยง หมัดปะทะกันโดยตรง
“ปัง!”
เสียงทึบดังเบาๆ
“ครืน...”
ที่จุดปะทะพื้นที่มิติไม่สามารถทนต้านทานพลังที่น่ากลัวนั้นได้อีกต่อไป รอยแยกมิติปรากฏขึ้นทันทีเจ็ดแปดรอย
ลินลี่ย์และบลูไฟร์ต่างถอยคนละก้าวอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งคู่เสมอกัน!
“ฮ่าฮ่า, ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ลินลี่ย์!
ไม่จำเป็นที่เราต้องงำพลังเทพเลย
มาทุ่มพลังสู้กันเต็มที่สักตั้งเถอะ”
บลูไฟร์ที่มักมีท่าทางสง่างามและไว้ตัวอยู่เสมอมีความรู้สึกตื่นเต้น ตาของเขาเป็นประกาย
“อย่างนั้นก็ระวังด้วย” ลินลี่ย์พูดพลางยิ้มเล็กน้อย “พลังเทพหลอมรวมของข้าอ่อนกว่าพลังมหาเทพไม่มาก”
“ข้าไม่จำเป็นต้องระวังเกินไปเลย” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะ “เจ้าหลอมรวมพลังเทพได้ แต่ข้าจะใช้พลังมหาเทพโดยตรง
จากการปะทะกันก่อนหน้านี้ของพวกเขา
ลินลี่ย์เข้าใจว่ามีความแตกต่างระหว่างพวกเขาไม่มากนัก ในเมื่อเป็นแบบนั้น
ไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาจะหยุดใช้พลังเทพ
เมื่อไม่ใช้พลังเทพการสู้ครั้งนี้คงไม่สนุกมากพอ
สายลมเย็นของสมรภูมิมหาพิภพพัดหวีดหวิว
ชุดของลินลี่ย์โบกสะบัด
อย่างไรก็ตามสายตาของลินลี่ย์เพ่งมองอยู่ที่บลูไฟร์ที่ข้างหน้าเขา “เป็นเวลาหลายปีแล้ว ปู่เดลิน
ในที่สุดข้าก็ถึงระดับสุดยอดของพลังเทพได้อย่างแท้จริง
สุดยอดนักสู้ที่อยู่ต่อหน้าข้าเป็นเทพชั้นสูงพารากอน” ความปรารถนาจะสู้ของเขาเพิ่มพูนเต็มที่ และลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ
“ครืนนน...” พลังเทพสีหยกเข้มในร่างของลินลี่ย์เริ่มเคลื่อนตัวเหมือนกับมังกรว่ายน้ำในทะเล
สายตาของลินลี่ย์พลันดุร้ายทันที
“เฟี้ยววว!” ในกลางอากาศมีร่างเงาเลือนรางปรากฏ
ขณะที่ลินลี่ย์เริ่มผลัดกันโจมตีกับบลูไฟร์
พื้นที่มิติของสมรภูมิมหาพิภพเริ่มสั่นสะเทือน
ขณะที่ริ้วฉีกขาดของมิติปรากฏขึ้นรอยแล้วรอยเล่า
ก่อนนี้เมื่อลินลี่ย์และบลูไฟร์ใช้พลังร่างกายและปณิธานสู้กัน
รอยฉีกแยกของมิติยังเล็กกว่านี้ แต่ตอนนี้
ทุกรอยแยกของมิติเหมือนกับร่องที่ถูกขุด
ร่างทั้งสองที่เลือนรางแทบไม่ได้รับผลจากสภาพรอบด้านตัวพวกเขา
รอยแยกมิติเปิดออกและปิดลงเป็นบางครั้ง
รีสเจม
เรย์โฮมและบีบีมองดูอย่างมึนชา
พารากอนทั้งสองสู้กันเต็มที่โดยไม่มีการยั้งมือ? นี่หาได้ยากมาก
“นี่...นี่มัน...” บีบีตะลึง จนไม่รู้จะพูดยังไง
พื้นที่มิติด้านหน้าของพวกเขากำลังแตกแยก
รอยฉีกแยกเกิดขึ้นและสมานตัวอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างลินลี่ย์และบลูไฟร์ สองคนนี้เป็นสุดยอดฝีมือ ดูเหมือนว่าในพื้นที่สนามรบนี้มิติกำลังจะพังทลาย
รีสเจมและอีกสองคนตระหนักได้ถึงระยะห่างระหว่างพวกเขา!
ลินลี่ย์กับบลูไฟร์เหมือนกับยักษ์ใหญ่สู้กัน พวกเขาเป็นแค่เด็กทารก
“ทรงพลังมาก”
รีสเจมกระแอมคอ ถลึงตามอง
“พลังพารากอน!” เรย์โฮมกลั้นลมหายใจเช่นกัน สายตาของเขาจับจ้องดูพื้นที่ “และลินลี่ย์
เขาไม่ได้อ่อนแอกว่าท่านเลย์ลินแม้แต่น้อย”
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกพารากอนสู้กับข้าก็เหมือนกับแค่หยอกเล่นเท่านั้น” รีสเจมถอนหายใจเบาๆ
ก่อนหน้านั้นเมื่อพวกเขาทั้งสี่คนเผชิญหน้ากับไบเออร์ ไบเออร์ก็เหมือนกับหยอกพวกเขาเล่น เขาไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้แม้แต่น้อย โชคดีที่พลังป้องกันของบีบีแข็งแกร่งเกินไป
ซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขาโชคดีพอรอดชีวิตมาได้
แต่ถ้ารีสเจมไม่ยืนยันที่จะปกป้องบีบี ไบเออร์คงจะต้อนบีบีเข้ารอยแยกมิติ
ยั่วโมโหพารากอนน่ะหรือ?
ต่อให้ท่านมีสมบัติมหาเทพสามชิ้นและดูเหมือนอยู่ยงคงกระพัน
พารากอนก็ยังขับท่านเข้ารอยแยกมิติได้อยู่ดี เว้นแต่มหาเทพเข้ามาแทรกแซง
ท่านก็เสร็จอยู่ดี
และแม้ว่ามหาเทพต้องการแทรกแซง ก็ยังไม่ใช่งานง่ายอยู่ดี
“การต่อสู้ระหว่างสุดยอดฝีมือพารากอน
เฉพาะพารากอนแต่ละคนพวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์” บีบีถอนหายใจด้วยความทึ่ง “พี่ใหญ่, ท่านแข็งแกร่งมากจริงๆ”
“และนี่เป็นเรื่องประหลาดอย่างมาก” บีบีขมวดคิ้วทันที “พื้นที่มิติแตกเสียหายอย่างหนัก
แต่ก็ยังซ่อมแซมตัวเองได้แทนที่จะพังสลายไปอย่างสิ้นเชิง แปลกจริงๆ
เรื่องก็ประหลาดก็คือ...พี่ใหญ่กับบลูไฟร์ไม่ได้รับผลจากแรงดึงดูดของรอยฉีกมิติใกล้ๆ
เลยแม้แต่น้อย
พวกเขาไม่ตกเข้าไปในพื้นที่มิติปั่นป่วน”
รีสเจมและเรย์โฮมพยักหน้าเล็กน้อย
ตามธรรมดาเมื่อยอดฝีมือสู้กัน รอยขาดมิติจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ถ้ารอยแยกมิติปรากฏ
ยอดฝีมือจะหลีกเลี่ยงรอยฉีกนี่เล็กน้อย
แต่ลินลี่ย์และบลูไฟร์ไม่ให้ความสนใจรอยแยกมิติเลยแม้แต่น้อย แม้จะต่อสู้อยู่ชายขอบรอยแยกนั้นก็ตาม
“นั่นต้องเป็นพลังปณิธานของพวกเขาแน่” รีสเจมพูดเบาๆ
“เมื่อปณิธานของพารากอนแข็งแกร่งเท่ากับของมหาเทพ
แม้พื้นที่มิติปั่นป่วนก็ยังคุกคามไม่ได้
พวกเขาสามารถท่องเที่ยวไปได้ตามต้องการ”
หลังจากติดอยู่ในมิติปั่นป่วน ต้องแป็นคนระดับมหาเทพจึงจะช่วยท่านได้ พารากอนยังไม่ถึงระดับนั้น นี่เป็นพลังปณิธานของมหาเทพ
การคาดการณ์ของพวกเขาถูกต้อง
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงการควบคุมจักรวาลได้ทำให้พลังกลืนกินของรอยแยกมิติไม่ส่งผลต่อเขาแต่อย่างใด
“ครืน...” เขาปล่อยหมัดออกไป
และพลังมังกรสีหยกเข้มทั้ง 108
พุ่งออกจากหมัดของลินลี่ย์คลุมไปทั้งตัวบลูไฟร์ทันที
แรงดึงดูดที่ทรงพลังบีบอัดใส่บลูไฟร์ทุกทิศทาง
แรงโน้มถ่วงบีบีอัดนี้แฝงไปด้วยพลังของปณิธาน และมีความแข็งแกร่งมาก
สำหรับการเติบโตเปลี่ยนแปลงของลินลี่ย์
วิชานี้ส่งผลต่อผู้บัญชาการทั่วไป
แต่เหมือนการละเล่นของเด็กสำหรับพารากอน
แต่ตอนนี้...วิชานี้อันตรายมากแม้แต่พารากอนก็ตาม
“ควั่บ!” ประกายแสงแดงเหมือนกับสายฟ้ายิงออกมา
หมัดของบลูไฟร์เร็วอย่างน่าทึ่ง
“ปัง!”
หมัดของพวกเขาปะทะกัน
ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าภูเขาไฟระเบิดพลังออกมา
ราวกับว่าพลังระเบิดนั้นผ่านตรงมาที่เขา
ขณะที่บลูไฟร์เองก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีพลังเป็นชั้นเหมือนค้อนขนาดเท่าภูเขาถล่มใส่เขา
ทั้งสองคนถูกแรงปะทะทำให้ต้องถอยหลัง
“การต่อสู้สมควรหยุดลงเพียงเท่านี้ะ” บลูไฟร์ส่งสำนึกเทพบอก
ลินลี่ย์หัวเราะ
จากนั้นพยักหน้า
การต่อสู้ครั้งนี้ดึงดูดความสนใจพวกผู้บัญชาการที่อยู่ใกล้ๆ
บางส่วน
แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
และเห็นริ้วมิติฉีกขาดเป็นร้อยเมตรปรากฏแต่ไกล
พวกเขาหวาดผวาจนไม่กล้าเฉียดเข้ามาใกล้
การต่อสู้ครั้งนี้น่ากลัวเกินไป
พวกเขายังคงประหลาดใจเช่นกัน
เทพพารากอนสองคนไหนที่รู้สึกเบื่อหน่าย
หรือมีความขัดคอกันจึงได้ต่อสู้กันอย่างนั้น?
ภายในถ้ำ
ทั้งห้าคนนั่งเลี้ยงฉลองกัน
“พี่ใหญ่, ฮ่าฮ่า..ข้ามีความสุขมากจริงๆ” บีบีหัวเราะร่าเริง “จากวันนี้เป็นต้นไป
ใครยังจะกล้ามาหาเรื่องเราอีก?
พวกเขาต้องขอบคุณเราแล้วที่เราไม่ไปหาเรื่องพวกเขา
ข้าต้องคงต้องกินเจ้าพวกไม่ได้เรื่องในสมรภูมิมหาพิภพเป็นแน่ ตอนนี้อย่างน้อยเราเตรียมเอาคืนได้เลย” ดูเหมือนว่าบีบีต้องการระบายความโกรธอัดอั้นของเขาทั้งหมด
“ฮ่าฮ่า
ดื่มเถอะ”
ลินลี่ย์ก็มีความสุขมากเช่นกัน
การบรรลุความก้าวหน้าในวันนี้ทำให้เขาไม่ต้องเป็นฝ่ายแหงนมองดูคนอื่นอีกต่อไป
การได้เป็นเทพระดับพารากอนหมายความว่ายังไง? ก็หมายความว่าในบรรดาพวกเทพทั้งหมด
ไม่มีใครสามารถคุกคามเขาได้
สำหรับมหาเทพ?
เว้นแต่จำเป็นมหาเทพจะไม่แทรกแซงการต่อสู้ของพวกเทพแน่นอน นอกจากนี้...
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่มหาเทพจะฆ่าเทพพารากอน
ถ้ามีอะไรผิดปกติ
เทพพารากอนจะหนีเข้าพิภพโลกธาตุทันที
นอกจากนี้พวกมหาเทพโดยทั่วไปจะดึงพารากอนมาอยู่ฝ่ายตน
มหาเทพต้องการให้พารากอนทุกคนเป็นทูตของพวกเขา แต่พารากอนเองจุกจิกมาก
พวกเขาจะเลือกคนที่พวกเขาชอบหรือคนที่แข็งแกร่งเท่ามหาเทพหนุนหลัง สำหรับผู้บัญชาการธรรมดากลับตรงกันข้าม มหาเทพจะเลือกพวกเขา
ขณะที่พารากอน
พวกเขาจะเลือกมหาเทพของพวกเขา
หรือสำหรับคนที่หยิ่งยโสกว่า
พวกเขาจะไม่ยอมเป็นทูตมหาเทพเลย
พวกเขาไม่ต้องการฟังคำสั่งของคนอื่น
นั่นก็นับว่าดี
พารากอนมีคุณสมบัติทำเช่นนี้ได้
“ลินลี่ย์”
รีสเจมเริ่มหัวเราะเบาๆ “เจ้าคิดจะเป็นทูตมหาเทพบ้างหรือเปล่า?”
ลินลี่ย์ตกใจ
เรย์โฮมที่อยู่ใกล้ๆ
พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว, ลินลี่ย์
พลังของเจ้ามีระดับสูง น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้ แต่เมื่อพลังของเจ้าเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป เจ้าจะดึงดูดความสนใจจากมหาเทพบางส่วนแน่
พวกเขาจะต้องพยายามเอายอดฝีมืออย่างเจ้าเป็นเป็นทูตแน่”
“ทูตมหาเทพ?”
ลินลี่ย์ค่อนข้างลังเล
บีบีพยักหน้าซ้ำๆ “ใช่แล้ว ปู่บอกไว้อย่างนั้นเหมือนกัน มีพารากอนอยู่น้อยมากๆ
และพวกเขาทั้งหมดก็หยิ่งมาก
พวกเขาไม่ต้องการกลายเป็นทูต
พารากอนผู้ที่เป็นทูตมหาเทพหาได้ยากมาก
มีไม่มากตั้งแต่แรกแล้ว ขณะที่มหาเทพมีถึง
77 คน พี่ใหญ่!
ข้าคาดว่าคนจะต้องสู้เพื่อแย่งตัวท่านแน่”
รีสเจมรีบกล่าวโน้มน้าว “ลินลี่ย์,
ความจริงท่านแม่ข้าก็เป็นมหาเทพที่ทรงพลังมาก
และนางก็ปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดีเช่นกัน
นางให้ศิลาวิญญาณกับเจ้า
เอาอย่างนี้, เจ้ามาเป็นทูตของท่านแม่ข้าดีไหม?”
ลินลี่ย์ค่อนข้างลังเล
“ท่านเลย์ลิน?”
ลินลี่ย์มองดูบลูไฟร์ รอคำแนะนำจากบลูไฟร์
ที่สำคัญบลูไฟร์เองก็เป็นพารากอน
“ทำไมต้องเป็นทูตด้วยเล่า?” บลูไฟร์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้าปฏิเสธเป็นทูต มหาเทพคงไม่ลงมือกับเจ้าเพราะเหตุผลอย่างนั้น ที่สำคัญ หลังจากพลังของเจ้าแสดงออกไป มหาเทพอีกมากจะมาเชิญเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะต้อนรับพวกเขาได้ทั้งหมด
ที่สำคัญกว่าหลังจากเป็นพารากอนแล้ว
เป็นทูตมหาเทพจะมีประโยชน์อะไร?”
“เราฝึกฝนเพื่อแสวงหาความสมบูรณ์สุดยอด แม้ว่าการกลายเป็นทูต มหาเทพของเราก็ยังจะให้เกียรติเรา
และไม่สั่งเราหรือบังคับเราให้ต้องคุกเข่าต่อพวกเขา ข้ายังรู้สึกเหมือนกับว่าการเป็นอิสระจะดีกว่า” บลูไฟร์พูดอย่างเยือกเย็น
ในใจเขา
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับวิธีคิดของบลูไฟร์
“เป็นทูตมหาเทพไม่จำเป็นต้องเป็นผู้รับใช้เลย” รีสเจมจ้องมองบลูไฟร์และรีบคัดค้านเขา
“แน่นอนมหาเทพไม่ค่อยใส่ใจเกี่ยวกับทูตธรรมดา แต่พารากอน..พวกเขาเป็นที่มีปณิธาน
มหาเทพจะให้เกียรติพวกเขาเหมือนกับเป็นสหายมากกว่าเป็นผู้รับใช้”
บลูไฟร์อดหัวเราะไม่ได้ “รีสเจม เรากำลังพูดเรื่องคนอื่น นี่คือการตัดสินใจของลินลี่ย์”
“ลินลี่ย์! เจ้าคิดว่ายังไง?” รีสเจมหันมามองลินลี่ย์
ลินลี่ย์ยิ้ม “ไม่ต้องรีบ
ตอนนี้ ข้าไม่ตั้งใจจะเป็นทูตมหาเทพเลย
ที่สำคัญยิ่งกว่า ...
พารากอนถึงระดับสุดยอดของการหลอมรวมเคล็ดไม่มีช่องว่างให้ก้าวหน้าต่อไป บางทีพวกเขาอาจเป็นทูตมหาเทพเพื่อให้หายเบื่อ แต่สำหรับข้า
ข้ายังมีหลายอย่างต้องทำ
ที่สำคัญดูตามกฎธรรมชาติแล้ว
ข้ายังไม่ถึงขีดจำกัดเลย
ข้าแค่คิดว่าหลังจากผ่านมานานหลายปี การกลายเป็นพารากอนของกฎธาตุนั้นจะทำได้ยังไง? ข้าค่อนข้างกระตือรือร้นค้นหาเรื่องนี้”
19 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคัณครุบ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ไปให้สุดทางเลยพี่น้อง
ขอบคุณครับ
โหดเลย :0
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ก้าวเป็นเทพพารากอนจากการผ่านความเป็นความตายมาได้สุดยอด
ลินลี่ยังไม่เปน พารากอน แต่ระดับเทียบพารากอน ใช่ไหมครับ
เปนพารากอนเพราะกลายสภาพวิญฯ แต่ในกฎธาตุยังไม่เป็นสักอัยน งี้ปะครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
นี่ถ้าเป็นพารากอนทั่ง4สายธาตุแล้วผสานกันจะขนาดใหน
ขอบคุณมากค่ะ
ใข่ครับ
แค่มีพลังระดับพารากอนครับ ถ้าไม่บอกออกไปจะไม่มีใครรู้ได้ แค่สงสัยว่าเป็น ลินลี่ยังไม่เป็นพารากอนนะ
โหดเกิ้นนนนน
แสดงความคิดเห็น