เล่ม
20 มงกุฎปริศนา - ตอนที่ 11 เจ้าแคว้นสกายเมาท์
อสูรโลหะรูปกระบี่สีดำเร่งบินผ่านท้องฟ้าของแดนนรก
ภายในอสูรโลหะ
กลุ่มของลินลี่ย์ห้าคนนั่งล้อมโต๊ะ
“ลินลี่ย์!
เหตุผลที่ไดอาน่ากับข้าได้อยู่ร่วมกันอีกครั้งเป็นเพราะความช่วยเหลือจากเจ้าทั้งหมด
ขอบคุณจริงๆ” โอลิเวอร์ชูแก้วเหล้า
จากนั้นดื่ม
“ฮ่าฮ่า...”
บีบีที่อยู่ใกล้หัวเราะลั่น
“โอลิเวอร์!
ระหว่างทางมาแคว้นสกายเมาท์ข้าไม่เคยเห็นเจ้ายิ้มเลยสักครั้ง ถึงเจ้าจะยิ้ม แต่ดูเหมือนเป็นการฝืนยิ้ม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า..เจ้ายิ้มกว้างมากจนตาตี่ไปหมดแล้ว” บีบีตั้งใจหยอกล้อเขา
โอลิเวอร์เมื่อได้ยินเช่นนี้
ก็แค่หัวเราะและมองดูไดอานาที่อยู่ใกล้ๆ
สองสามีภรรยามองดูกัน ราวกับมีชีวิตคู่ที่หวานชื่น
ลินลี่ย์มองเห็นภาพนี้อดหัวเราะไม่ได้
แต่จู่ๆ เขาขมวดคิ้ว
“น่ารำคาญ!” บีบีบ่นพึมพำเหยียดหยาม
โอลิเวอร์ที่อยู่ในอารมณ์ที่ดีแค่หัวเราะ “อย่าไปใส่ใจพวกเขาเลย อสูรโลหะของเรากำลังบินอยู่ในอากาศ และแดนนรกก็เต็มไปด้วยกลุ่มโจรนับไม่ถ้วน
เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะใช้สำนึกเทพเพื่อตรวจสอบเรา แม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างน่ารำคาญ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เราทำได้ อะไรกัน.. จะให้เราออกไปลงโทษพวกเขาทีละคนๆ
หรือไง?”
ขณะนี้สำนึกเทพกวาดผ่านเข้ามาในอสูรโลหะ
แดนนรกมีกลุ่มโจรมากมายนับไม่ถ้วน แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อย แต่ละครั้งที่มีการสอดแนมผ่านสำนึกเทพ ทุกคนก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี
“ฮึ่ม..พวกโจรทั้งหมดกล้าสอดแนมเราหรือ เมื่อพบว่าเราเป็นเทพชั้นสูงพวกเขาไม่กล้ารบกวนเราต่อไป” บีบีพูดอย่างเหยียดหยาม
“โอลิเวอร์”
ลินลี่ย์กล่าว “อีกไกลเท่าไหร่กว่าเราจะไปถึงที่ๆ
เจ้าพูดถึง?”
การเดินทางของพวกเขาเที่ยวนี้ก็คือไปยังที่ๆ
เลยาลูกชายคนโตของโอลิเวอร์ตาย
ลูกชายของนางตาย แต่ไดอาน่ายังต้องไปดูหลุมศพเขา ถ้านางไม่ไปนางจะรู้สึกสบายใจได้ยังไง?
โอลิเวอร์ถอนหายใจ “อีกไม่นาน เนื่องจากความเร็วของอสูรโลหะที่เจ้าควบคุมการบินอยู่นั้น
ลินลี่ย์ เป็นไปได้ว่าในอีกราวๆ ห้าหรือหกวัน เราก็คงจะไปถึง ลินลี่ย์..เมื่อถึงเวลา
ช่วยลดระดับความเร็วลงด้วย ข้าต้องการดูเหมือนกัน
เนื่องจากข้าจำเป็นต้องยืนยันตำแหน่ง
ที่นั่นเป็นพื้นที่ภูเขา”
“ไม่ต้องห่วง เรารีบมาจนถึงแคว้นสกายเมาท์ แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องรีบกลับ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์ตั้งใจจะไปโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์
แต่หลังจากเบรุตจัดการส่งข้อความนั้นให้เขา ลินลี่ย์ยกเลิกความตั้งใจชั่วคราว
ภายในเทือกเขาที่กว้างใหญ่ไพศาล มีร่างคนสองคนยืนอยู่บนยอดเขา
“อสูรโลหะรูปกระบี่สีดำ มีคนอยู่ข้างในห้าคน
คนหนึ่งเป็นเซียน ใช่แล้วเพิ่งจะบินผ่านไปนี่เอง”
บุรุษคนหนึ่งในนั้นมีผมสั้นสีทอง จ้องมองไปยังทิศทางที่อสูรโลหะบินผ่าน บุรุษหนุ่มหัวโล้นที่อยู่ข้างเขาหัวเราะ
“นี่ตรงกับรายงานที่ส่งมาให้เราผ่านหน่วยสื่อสารก่อนนั้น อย่างไรก็ตามอสูรโลหะนี้บินเร็วมาก
รายงานครั้งล่าสุดมาจากที่ห่างออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตร เวลาห่างกันสองวันนับแต่ได้รับรายงาน โดยทั่วไปก็หมายความว่าเดินทางได้วันละราวๆ
สิบล้านกิโลเมตร”
ความเร็วขนาดนี้น่าตื่นตะลึงจริงๆ
ที่สำคัญอสูรโลหะทั้งหมดแค่เดินทางได้วันละล้านกิโลเมตรก็น่าประทับใจมากแล้ว
พวกเขาไม่รู้อะไร...ว่าความเร็วในการเดินทางวันละสิบล้านกิโลเมตรนั้น
ลินลี่ย์ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่
นอกจากนี้อสูรโลหะก็เป็นชนิดธรรมดา
ไม่ใช่ระดับสูง
“ด้วยระดับความเร็วในการเคลื่อนที่
อสูรโลหะนี้จะต้องมีคุณภาพระดับสูง
นอกจากนี้คนควบคุมต้องเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลัง” หน่วยข่าวกรองได้ข้อสรุป
ขณะที่ติดตามความเคลื่อนไหวของลินลี่ย์
พวกเขารายงานกลับไปที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ทันที
ศูนย์บัญชาการใหญ่ของพวกเขาแจ้งข้อมูลนี้ส่งไปยังด่านอื่นๆ
การเดินทางของลินลี่ย์ถูกติดตาม
อสูรโลหะสีดำรูปเคียวยมทูตลอยอยู่ในอากาศเหนือเทือกเขา
ภายในอสูรโลหะ
เจ้าแคว้นสกายเมาท์ผมดำกำลังยืนอยู่ข้างหน้าจ้องมองข้างหน้าผ่านโลหะใส มีคนสามคนคยืนนนอบน้อมอยู่ด้านข้างเขา หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษคิ้วขาว
“หืม?
เกี่ยวกับข้อสรุปของเจ้า
เจ้าบอกว่ากลุ่มนี้น่าจะผ่านตำแหน่งนี้ไปแล้วไม่ใช่หรือ?” เจ้าแคว้นพูดเย็นชา
หนึ่งในบุรุษสามคนที่อยู่ข้างเขา
ผู้อาวุโสผมขาวคนหนึ่งคำนับและกล่าว
“ท่านเจ้าแคว้น! ตามเส้นทางที่คาดการณ์กันไว้ของคนกลุ่มนี้ พวกเขาควรจะผ่านไปยังตำแหน่งทิศทางนี้แน่ นอกจากนี้เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานมาจากหน่วยข่าวกรองว่าอสูรโลหะก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางนี้ด้วยเช่นกัน”
“แต่ข้าไม่เห็นพวกเขา” เจ้าแคว้นชำเลืองมองดูเขา
ผู้อาวุโสผมขาวอดสั่นสะท้านไม่ได้ จากนั้นรีบเรียนด้วยความเคารพ “ท่านเจ้าแคว้นไม่ต้องเป็นห่วง แม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแนวเดินทางอ้อมไปบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของ
เราจะต้องพบเจอพวกเขาได้แน่นอน”
“ท่านเจ้าแคว้น” ขณะนั้นเองบุรุษคิ้วขาวพูดขึ้นทันที
ลอร์ดเจ้าแคว้นอดมองดูเขาไม่ได้ และบุรุษคิ้วขาวรีบคำนับและกล่าว “ท่านเจ้าแคว้น ข้าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เดี๋ยวนี้เอง”
“พูดไป!” เจ้าแคว้นพูดอย่างเยือกเย็น
“ท่านเจ้าแคว้น...ในอดีต
คุณชายโบนินส่งคนไปไล่ล่าตามฆ่าโอลิเวอร์นั่นและลูกทั้งสองคน
ตอนนั้นนักรบที่ถูกส่งออกไปเผชิญกับโอลิเวอร์ในพื้นที่ราวๆ
สองสามแสนกิโลเมตรจากตำแหน่งนี้
ในการต่อสู้ครั้งนั้น นักรบเราตายกันหมด
อย่างไรก็ตามพวกเขาฆ่าลูกของโอลิเวอร์ได้คนหนึ่ง!
ตอนนี้พอไดอาน่าและโอลิเวอร์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เนื่องจากไดอาน่าไม่เคยไปเยี่ยมลูกชายที่ตายไป
ข้าคิดว่า...บางที่นางอาจจะไปตอนนี้ก็ได้?” บุรุษคิ้วขาวกล่าว
ความจริงหลังจากลินลี่ย์และโอลิเวอร์ฆ่าโบนินแล้ว ไดอาน่าพูดเรื่องความต้องการไปเยี่ยมที่ซึ่งลูกชายนางถูกฆ่า แม้ว่าบุรุษคิ้วขาวและพวกทหารจะอยู่ห่างจากไดอาน่า แต่พวกเขาก็สามารถฟังคำของนางออก
แต่บุรุษบุรุษคิ้วขาวก็ยังไม่เข้าใจ..ว่าถ้าเขารายงานข้อมูลนี้กับเจ้าแคว้นทันทีแล้วและพวกเขาไปจัดเตรียมกับดักไว้ที่นั่นเหมือนกับนายพรานเฝ้ารอกระต่ายให้มาติดกับ
และจากนั้นกลุ่มลินลี่ย์เปลี่ยนแผนไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ท่านเจ้าแคว้นบางทีอาจจะโกรธและฆ่าบุรุษคิ้วขาวทันทีหลังจากรอคอยอย่างไม่ได้อะไร!
อย่างไรก็ตามสำหรับเขาการนำเรื่องนี้ขื้นเสนอก็หมายความว่าเป็นการสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่
เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตของเขา เขาต้องเลือกแนวทางนี้
“เหรอ?”
เจ้าแคว้นได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกได้ว่าสมเหตุผลทันที
เมื่อบุตรของมารดาตาย แน่นอนว่ามารดาจะต้องไปเยี่ยมเขาอีกครั้งหนึ่ง นี่จึงจะสมเหตุสมผล
“ดีมาก”
เจ้าแคว้นพยักหน้าให้บุรุษคิ้วขาวเล็กน้อย
“ตอนนี้เราไปที่ๆ ลูกของไดอาน่าตายกันเถอะ”
“ข้าน้อยขออาสานำทาง” บุรุษคิ้วขาวพูดด้วยความเคารพ
“อืม”
เจ้าแคว้นพอใจกับความฉลาดของบุรุษคิ้วขาวเป็นอย่างดี
อสูรโลหะรูปเคียวมัจจุราชพุ่งแหวกอากาศทันที
มันเคลื่อนที่เหมือนกับเป็นมีดยักษ์ขณะที่บินไปยังตำแหน่งที่โอลิเวอร์ต่อสู้กับศัตรูของเขา
เทือกเขานิรนามแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลและมียอดเขาและหุบเขาทอดตัวยาวเหยียดไปไกล
ความจริงเทือกเขาส่วนใหญ่ในแดนนรกใหญ่กว่าเทือกเขาอสูรวิเศษของทวีปยูลานมากมายนัก และเทือกเขาเหล่านั้นมียอดฝีมืออาศัยอยู่มากมายเช่นกัน แต่แน่นอนว่า ในสายตาของลินลี่ย์และโอลิเวอร์
พวกที่เรียกว่าเทียมเทพและเทพแท้ไม่มีความหมายอะไรเลยจริงๆ
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง
มีทะสาบซึ่งมีน้ำสีดำแห่งหนึ่ง
และที่ริมทะเลสาบมีหลุมศพที่สร้างจากหินสลักขนาดใหญ่
โอลิเวอร์
ไดอาน่าและเดยายืนอยู่ข้างหน้าหลุมศพนี้
ขณะที่ลินลี่ย์กับบีบียืนอยู่ด้านหนึ่ง
“เลยาลูกแม่..”
ไดอาน่าอดคุกเข่าหลั่งน้ำตาไม่ได้ เดยาเด็กหนุ่มผู้เย็นชา
และทำตัวห่างเหินเริ่มร้องไห้เช่นกัน
ความตายของพี่ชายของเขาเป็นสิ่งที่สลักลึกอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างเห็นได้ชัด
ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง พวกเขาไม่สามารถทำอะไร ได้แต่เงียบอย่างเดียว
จากสัมพันธ์ของครอบครัวทั้งสามนี้ ลินลี่ย์รู้สึกได้ว่าพวกเขาสนิทสนมกันมากเพียงไหน ไดอาน่ารักโอลิเวอร์และลูกๆ ของนางจริงๆ “บางทีไดอาน่าคงไม่ชอบคนอย่างโบนิน
และชอบมีบ้านที่อบอุ่นอ่อนโยนแบบนี้”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
โอลิเวอร์ ไดอาน่า โบนิน..เรื่องราวของพวกเขาเป็นโศกนาฏกรรมความรักอย่างแท้จริง
ร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของโบนินตาย แต่เขาสาบานว่าจะทำลายไดอานาให้ได้
“ด้วยความสามารถของโอลิเวอร์ ข้าไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องเขา”
ลินลี่ย์ทำอะไรไม่ได้จึงเดินไปที่ข้างทะเลสาบ
และบีบีเดินตามเขาไปด้วย
บีบีส่งสำนึกเทพคุยด้วยสีหน้าสุดฝืน
“พี่ใหญ่,
ข้ารู้สึกหดหู่เหมือนกัน
ดูครอบครัวของโอลิเวอร์แล้วน่าเศร้าจริงๆ”
“แค่รออยู่ตรงนี้ก็ได้” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบ
พอเวลาผ่านไปครู่ใหญ่
“ลินลี่ย์, ตอนนี้เราไม่เป็นไรแล้ว” โอลิเวอร์พาภรรยาและบุตรเข้ามาหา “ขอโทษด้วย เราทำให้พวกเจ้าต้องเสียเวลารอนาน กลับแคว้นอินดิโกกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร”
ลินลี่ย์พยักหน้า
และจากนั้นลินลี่ย์ขมวดคิ้วและมองดูในท้องฟ้าไกลออกไป เขาเห็นอสูรโลหะรูปเคียวมัจจุราชขนาดมหึมาบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง
ดูเหมือนกับมีดยักษ์ และบินตรงเข้ามาในหุบเขานี้ ไวมากจนทำให้ลมโดยรอบปั่นป่วน
ต้นไม้และกิ่งไม้มากมายพัดฟุ้งกระเด็นไปทั่วหุบเขา
“ใครกัน?”
บีบีขมวดคิ้ว
“มาตามหาเราหรือ?” ลินลี่ย์รำพึงในใจ
เนื่องจากพวกเขาบินเข้ามาในหุบเขา เห็นได้ชัดว่าคนภายในตามพวกเขามาจริงๆ
ขณะนั้นเองลินลี่ย์ขยายสำนึกเทพกวาดเข้าไปในอสูรโลหะรูปเคียวมัจจุราชเพื่อตรวจสอบภายใน “โอว, เทพชั้นสูงสี่คน!
หนึ่งในนั้นเป็นผู้อาวุโสผมดำดูน่ากลัว
นั่นควรจะเป็นเจ้าแคว้นสกายเมาท์ โมลด์”
ลินลี่ย์เคยได้รับหนังสือข้อมูลมาจากเบรุตศึกษาเกี่ยวกับยอดฝีมือในพิภพต่างๆ
โมลด์ก็มีชื่ออยู่ในหนังสือนั้นด้วย
“หรือว่าโมลด์จะมาเพื่อแก้แค้นให้ลูก?” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ เขาถอนหายใจที่โมลด์ช่างไร้เหตุผล แม้ว่าลินลี่ย์จะใช้พลังของเขาเต็มที่
พลังของลินลี่ย์ก็ใช้อยู่ที่ปราสาทยูสโตนเท่านั้น และจากนั้นลินลี่ย์จัดการกับโบนิน
ด้วยระดับพลังเกินกว่าที่เจ้าแคว้นธรรมดาจะมีได้
โมลด์ควรจะคาดการณ์ได้ว่าพลังที่แท้จริงของลินลี่ย์ยิ่งใหญ่กว่านี้ ทำไมเขายังกล้ามาหา?
หรือว่าโมลด์ทรงพลังมาก?
เท่าที่ลินลี่ย์รู้
แม้ว่าโมลด์จะเป็นทูตของมหาเทพบลัดริจ
และครอบครองอาวุธมหาเทพ
แต่ในแง่พลัง เขายังอ่อนแอมากกว่ายอดดฝีมืออย่างรีสเจม แฮมเมอร์เสียอีก
“ลินลี่ย์! เกิดอะไรขึ้น?” โอลิเวอร์เดินเข้ามาหาอย่างกังวล
“นั่นคือโมลด์ เจ้าแคว้นสกายเมาท์” ลินลี่ย์พูดเบาๆ “ไม่ต้องกังวล”
“เขา?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไดอาน่าตกใจ
แต่เมื่อนางคิดว่าลินลี่ย์ทรงพลังแค่ไหน นางจึงเบาใจได้
อสูรโลหะขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือพวกเขาสิบเมตรหายไปทันที
ปรากฏคนสี่คนลอยนิ่งอยู่ในอากาศ
ผู้นำเป็นผู้อาวุโสผมดำมีใบหน้าแข็งกระด้างเย็นชา และตาเป็นประกายเหมือนมีด
ขณะยืนอยู่กับที่เขาให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่พร้อมจะโจมตีได้ทุกขณะ
บนแขนขวาเขาสวมกำไลซึ่งมีไข่มุกสีเขียวเก้าเม็ดฝังอยู่ในนั้น
“เอ๊ะ, นำกำไลมาด้วยหรือ?” ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นคนสวมกำไลมือ ที่สำคัญเมื่อยอดฝีมือสู้รบ โดยทั่วไปพวกเขาจะสวมเกราะ ดังนั้นกำไลไม่ค่อยมีประโยชน์มาก มีคนจำนวนน้อยนักที่สวมกำไล เพราะบ้างก็ทำตามบรรพบุรุษ บ้างก็เพราะเป็นความเคยชินแบบท้องถิ่น ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพราะรสนิยมส่วนตัว
แค่เพียงเหลือบมอง
ลินลี่ย์ประหลาดใจเล็กน้อย แต่จากนั้นก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไป
โมลด์เจ้าแคว้นสกายเมาท์กวาดสายตามองดูกลุ่มลินลี่ย์อย่างเย็นชา เขามองดูคล้ายกับราชสีห์ที่แข็งแกร่งจ้องมองดูลูกแกะน้อยห้าตัว บุรุษคิ้วขาวด้านหลังโมลด์คำนับและเรียนด้วยความเคารพ
“ท่านเจ้าแคว้นในบรรดาห้าคนนี้คนที่มีผมดำขาวยาวคือโอลิเวอร์
เป็นคนที่ฆ่าคุณชายโบนิน
อย่างไรก็ตามคนที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่มนั้นคือคนผมสีน้ำตาล
เขาเป็นคนพันธนาการคุณชายและเปิดโอกาสให้โอลิเวอร์ฆ่าเขา ข้าไม่รู้จักชื่อของเขา”
โมลด์เจ้าแคว้นสกายเมาท์เหลือบมองโอลิเวอร์และกลับไปจ้องมองลินลี่ย์
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าโบนินเป็นลูกของข้า?” โมลด์คำราม
“ข้าทราบ” ลินพูดอย่างเยือกเย็น
รัศมีของโมลด์แปลกประหลาด แต่สำหรับลินลี่ย์
เขาเป็นเสมือนสุนัขน้อยที่แยกเขี้ยวใส่ยักษ์
“เฮ้, เจ้าคือโมลด์
เจ้าแคว้นสกายเมาท์ใช่ไหม?”
บีบีเริ่มหัวเราะ
“เราทำโทษเด็กน้อยไปคนหนึ่ง และตอนนี้ผู้ใหญ่ถึงกับต้องวิ่งโร่ออกมา! พี่ใหญ่กับข้ากำลังจะกลับกันเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้าไม่คิดจะทำอะไร อย่างนั้นก็ไปซะ ถ้าเจ้าต้องการจะล้างแค้นให้ลูกก็อย่ามัวเสียเวลา บุกเข้ามาได้แล้ว หลังจากจัดการเจ้าเสร็จแล้ว
เราจะได้เราจะได้กลับบ้านเสียที!”
“บังอาจ!” โมลด์จดจ่ออยู่กับลินลี่ย์
เขาไม่ให้ความสนใจบีบี
แต่คำพูดของบีบีทำให้เขาโกรธทันที
“ครืน...”
อากาศดูเหมือนระเบิดขณะที่โมลด์บุกเข้าโจมตีบีบีอย่างสบายๆ มือขวาของเขาเป็นรูปกรงเล็บแหวกอากาศจนระลอกมิติฉีกขาด
“แครก...”
กรงเล็บส่งเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศขณะปะทะอากาศ
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นร่างเลือนรางปรากฏอยู่ข้างหน้าโมลด์ ขณะเดียวกันเสียงดัง ‘ปัง’ ศีรษะของโมลด์ถูกเตะอย่างรุนแรง
และโมลด์กระเด็นออกไปเพราะแรงเตะนั้นราวกับดาวตกและกระแทกกับภูใกล้ๆ
ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร
เสียงระเบิดดังบึ้ม
รอยแยกเป็นรูปเหมือนใยแมงมุมปรากฏอยู่ที่ภูเขาด้านข้าง
โดยมีรูเป็นรูปมนุษย์ปรากฏอยู่ตรงกลางรอยแยกที่คล้ายใยแมงมุมนั้น
15 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
หาเรื่องผิดคนแล้ว
ขอบคุณครับ
สภาพเดียวกับเซย่าเลย 55555
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากค่ะ
มาอย่างเสือ โดนเตะอย่างลูกหมา
ขอบคุณครับ
เดาว่าเอาลูกปัดมาใส่มงกุฏเติมพลังงาน เหมือนถุงมือทานอส
เดาว่าเอาลูกปัดมาใส่มงกุฏเติมพลังงาน เหมือนถุงมือทานอส
กำไลมาเข้าคู่กะมงกุฎ พอดีเลย
มุขแห่งชีวิตทั้ง 9 จะได้รวมกับมงกุฏ
แสดงความคิดเห็น