วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 21 หลอมรวมพลังเทพทั้งสี่


เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 21 หลอมรวมพลังเทพทั้งสี่
ความเจ็บปวดรุนแรงลามขยายไปทั่วร่างลินลี่ย์  มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีแมลงตัวน้อยกำลังกัดแทะตัวเขา  ความเจ็บปวดกินลึกถึงกระดูกรุนแรงจนคนอย่างลินลี่ย์ไม่สามารถจะทนได้  ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือกดฟันอดทนสู้  ขณะเดียวกันสำนึกเทพของลินลี่ย์ส่งผ่านไปตามร่างของเขา
 
มืดสนิทไม่มีสีอื่นปะปนอยู่เลย
มวลพลังสีดำโคจรไปรอบตัวลินลี่ย์ ไม่มีจังหวะหรือคำสั่ง  คลื่นพลังสีดำเติมเข้าไปในกล้ามเนื้อทุกมัด เส้นเลือดทุกเส้น กระดูกทุกชิ้น จุดพลังสีดำเหล่านั้นดูเหมือนจะพบบ้าน และพวกมันฝังตัวเข้าไปในกระดูก กล้ามเนื้อและอวัยวะภายในของเขาทำให้ทุกส่วนของร่างกายลินลี่ย์เกิดการเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้า
 “เปรี๊ยะ...แครก...”
กระดูกของเขาทั้งหมดสั่นสะท้านจนเกิดเสียงแตกปะทุดังขึ้น
 “การหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบเป็นผลให้เกิดสีดำสนิทนี้  พลังเทพสีดำสนิทนี้มีพลังมากกว่าพลังมหาเทพ!  ลินลี่ย์ก็คาดเรื่องนี้ไม่ถึงเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้เพราะลินลี่ย์ใช้พลังเทพสามรูปแบบหลอมรวมกันจึงเทียบได้กับการใช้พลังมหาเทพ  แต่ตามตัวอย่างแม้ว่าจะเทียบกับตอนเมื่อลินลี่ย์ใช้พลังมหาเทพสายทำลายล้าง แต่ก็ยังอ่อนกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลินลี่ย์ใช้พลังมหาเทพสายธาตุดิน
ขณะที่ลินลี่ย์เห็น การหลอมรวมพลังสี่สายธาตุให้ผลทำให้พลังเพิ่มถึงสิบเท่า ทำให้เห็นว่าช่วยให้พลังแข็งแกร่งขึ้นมากถึงสองสามเท่าเมื่อตอนที่เขาใช้พลังมหาเทพธาตุดิน
แต่ตอนนี้ที่เขาหลอมรวมพลังเทพสี่รูปแบบ การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จึงเกิดขึ้น พลังเปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิทได้อย่างน่าอัศจรรย์ และลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานสีดำนี้ทรงพลังมากขนาดไหน
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับปีไม่ถ้วน  ไม่มีใครเคยครอบครองร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างและประสบความสำเร็จในการกลายสภาพวิญญาณ!
ลินลี่ย์ทำได้สำเร็จ  ดังนั้นเขาจึงสามารถหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่ได้
ดิน ไฟ น้ำ ลม การหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบนี้ทำให้เกิดพลังเทพสีดำ  และทรงพลังมากจนทำให้ลินลี่ย์สั่นสะท้านได้
ทันใดนั้น...
เกล็ดสีทองฟ้าที่คลุมไปทั้งร่างของลินลี่ย์เริ่มคลุมไปด้วยเส้นสายพลังงานสีดำ  แม้แต่หนามแหลมบนตัวเขา  แนวเส้นสีดำพาดผ่านเกล็ดมังกร หนามแหลม หางมังกรของเขา  และยังซึมลึกเข้าไปในร่างของเขา  ใครก็ตามที่เห็นลินลี่ย์จะรู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งตัวลินลี่ย์คลุมไปด้วยอักษรรูนขนาดมหึมา
 “ครืน....”
เกล็ดมังกรบนร่างของลินลี่ย์กำลังสั่น  เพราะความถี่ของการสั่นสะเทือนสูงมาก  เกล็ดเหล่านั้นจึงเปล่งเสียงกึกก้องจนเกิดระลอกมิติกระเพื่อม
 “เป็นไปได้ยังไงที่พลังเทพเหล่านี้ส่งผลได้ประหลาดขนาดนี้?”  แม้ว่าทั้งร่างของเขาจะเจ็บปวดไปทั้งหมด  แต่ลินลี่ย์ก็ยังยังคงฝึกยอดพลังต่อไป  เขาสามารถรักษาสติได้อย่างสมบูรณ์  เขาส่งสำนึกเทพไปยังทุกส่วนของร่างกายที่กำลังเปลี่ยนแปลง  กล้ามเนื้อของเขากำลังเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าอัศจรรย์  และกระดูกของเขาก็มีความแข็งเพิ่มขึ้น
ระดับความก้าวหน้าที่น่ากลัวนี้ทำให้แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกกลัว
 “ตามตำนาน บรรพบุรุษของเผ่ามังกรฟ้าของข้า  มังกรฟ้าสามารถใช้พลังมหาเทพเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายได้จนเทียบได้กับสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้อง  เป็นไปได้ว่านี่เป็นเพราะพลังของมหาเทพธาตุน้ำและพลังอสูรศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำส่งผลได้อย่างสมบูรณ์  สำหรับการหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบนี้  เมื่อใช้พลังเทพเพื่อหล่อเลี้ยงสมบัติเทพ”
ลินลี่ย์รู้วิธีซึ่งสามารถเสริมพลังร่างกายได้อยู่สองสามวิธี
การช่วยพื้นฐานในการเสริมพลังนักสู้จะทำให้ร่างนักสู้สามารถดูดซับพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มความแข็งแรงได้ต่อเนื่อง  แต่แม้ว่านี่อธิบายกันอย่างง่ายๆ  แต่ปริมาณพลังงานที่ต้องการใช้มีจำนวนมหาศาล    นักรบผู้นั้นจะดูดซับไปได้อย่างไร?  นี่เป็นเรื่องที่ยาก  นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสามารถโดยธรรมชาติ  ตัวอย่างเช่น อสูรเทพอย่างหนูกินเทพและมังกรฟ้าทั้งหมดมีวิธีเสริมพลังเป็นของตนเอง
เห็นได้ชัดว่าพลังเทพสี่รูปแบบนี้ยังคงเป็นการเสริมพลังที่ส่งผลต่อร่างกายเป็นพิเศษ
เมื่อฝึกฝนกับสมบัติเทพ สิ่งที่นักรบทำจริงๆ ก็คือดูดซับพลังเทพเข้าไว้ในสมบัติอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สมบัติค่อยๆ แข็งขึ้นและคมมากขึ้น  ขณะเดียวกันผู้ฝึกฝนจะผสานกับพลังวิญญาณบางส่วนเข้าไว้ด้วย  เพื่อให้มันเพิ่มความรู้สึกได้
 “เอ๊ะ?”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพเข้าไปในร่างของเขา  เขาพบว่าภายใต้ผิวหนังของเขามีการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษเกิดขึ้น  เช่นเดียวกับเกล็ดมังกรของเขา
 “ดูเหมือนว่ากระบวนการเสริมพลังความแข็งแกร่งนี้จะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน”
ลินลี่ย์เข้าใจว่าจริงๆ แล้วกระบวนการเสริมพลังความแข็งแกร่งนี้จะถูกชักนำไปในแนวเหมือนเสริมพลังวิญญาณของเขา  อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาปล่อยให้พลังเทพหลอมรวมความแข็งแกร่งในร่างกายของเขาตามสะดวก... จะส่งผลเช่นไร?
 “ท่านพ่อบรรลุระดับใหม่  ทำไมเขายังไม่ออกมาอีก?”  เทย์เลอร์จ้องมองปลายทางที่อยู่ห่างออกไป
กล่าวโดยทั่วไป หลังจากบรรลุระดับใหม่แล้ว  ลินลี่ย์จะออกมาจากห้องฝึกฝนเดินออกมาตามทางกว้างไปที่สนามหญ้าด้านนอก  ถ้าเขาทำเช่นนั้น  เขาจะต้องผ่านไปตามทางเดินนี้  ขณะนี้นอกจากเทย์เลอร์แล้ว  คนอื่นเช่น บีบี เรย์โนลด์และเยลยังคงให้ความสนใจเส้นทางเดินนี้  แม้แต่เดเลียพร้อมกับซาชาธิดาของนางก็ยังมองดูเส้นทางนี้ขณะพูดคุยกัน
 “ท่านแม่, หรือว่าท่านพ่อบรรลุระดับใหม่แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับร่างแยกธาตุไฟของเขา?”  ซาชาพูดเบาๆ
 “น่าจะเป็นร่างแยกธาตุไฟของเขา  ร่างแยกธาตุอื่นของพ่อเจ้าล้วนแต่ถึงระดับเทพชั้นสูงมานานแล้ว”  เดเลียขมวดคิ้วเช่นกัน  “แต่หลังจากบรรลุระดับใหม่แล้ว เขาน่าจะออกมาแล้ว”
ขณะนั้นเอง...
 “เดเลีย”  เสียงดังก้องในใจของเดเลียอย่างชัดเจน
 “ลินลี่ย์!  เจ้าเป็นยังไงบ้าง?”  เดเลียสงสัยและดีใจ และสนทนาผ่านสำนึกเทพ
 “ข้าบรรลุระดับใหม่ได้จริงๆ แต่ในตอนนี้ ข้าอยู่ในกระบวนการรู้แจ้งกระบวนการเสริมพลังร่างกายและตอนนี้ยังเป็นช่วงวิเคราะห์กระบวนการ  ดังนั้น..ในตอนนี้ ข้าจะยังไม่ออกไป  ไม่ต้องเป็นห่วง ขณะที่บรรลุระดับใหม่ อาจต้องใช้เวลาปีหนึ่งถึงหลายสิบปี หรืออาจจะถึงร้อยปีก็ได้”  ลินลี่ย์กังวลว่าสหายและครอบครัวของเขาจะห่วงใย เขาส่งข้อความผ่านสำนึกเทพบอก
 “ทราบแล้ว เจ้าตั้งใจฝึกต่อเถอะ”  เดเลียมีความสุขมากจริงๆ  ที่สำคัญลินลี่ย์ไม่ได้ใช้เวลาพัฒนามากมายเหมือนในพันปีที่ผ่านมา
เดเลียหัวเราะขณะที่นางมองดูทุกคนในตอนนี้  “เอาล่ะทุกคน, พวกเจ้าทุกคนไปจัดการธุระของตนเองได้แล้ว  ลินลี่ย์ยังคงฝึกต่อไป”
 “เขายังอยู่ในการฝึกอีกหรือ?”  บีบีพึมพำ
 “ข้าหวังว่าน้องสามจะออกมาและไปเที่ยวเล่นกับเราเสียอีก”  เยลบิดขี้เกียจจากนั้นกลับไปนั่ง เอาขาพาดบนโต๊ะพูดตามปกติ
 “เจ้าคิดว่าพี่สามจะเกียจคร้านเหมือนกับเจ้าหรือ?”  เรย์โนลด์ล้อ
แต่สำหรับพวกเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว  ลินลี่ย์อยู่ในห้องกำลังดูดซับกับกระบวนการเสริมพลังในร่างกายของเขา  นอกจากนี้ด้วยพลังจิตที่ทรงอานุภาพของเขา เขาสามารถชักนำกระบวนการเสริมพลังนี้ได้โดยตรง  ในเวลาเพียงวันแรก ร่างกายของลินลี่ย์ก็เสริมพลังแข็งแกร่งในปริมาณที่น่าทึ่ง  แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเร็วในการเสริมพลังเริ่มช้าลง
แต่แม้ว่าจะช้าลง  นั่นก็แค่เทียบกับวันแรกเท่านั้น  ในความเป็นจริง แต่ละวันนั้นร่างของลินลี่ย์เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น  ถ้าคนอื่นรู้ว่าร่างของเขาเสริมพลังแข็งแกร่งมากขึ้นเพียงไหน  เป็นไปได้ว่า อาจมองลินลี่ย์ด้วยสายตาตกตะลึงว่างเปล่า
เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบ เกือบสิบปี   ระหว่างช่วงเวลาที่ลินลี่ย์เพ่งสมาธิแน่วแน่ไม่หวั่นไหว  เขายังคงเพ่งกับแนวทางควบคุมกระบวนการเสริมพลังและขณะที่เขาทำเช่นนั้น  เขาพบวิธีการที่ดีกว่าเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง  เนื่องจากเขาทดสอบวิธีการต่างๆ อย่างช้าๆ   เขาควบคุมวิธีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายที่เหมาะเพื่อให้เหมาะกับการหลอมรวมพลังเทพและให้เหมาะกับร่างกายของเขา
ในโลกมนุษย์มีคัมภีร์การใช้ปราณยุทธทุกรูปแบบ
แต่ในโลกของเทพ  พวกเทพเพียงแต่เพ่งพินิจกับการวิเคราะห์พื้นฐาน รากฐานของกฎธาตุและวิถีธรรมชาติ    สิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์สำหรับพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก  ตัวอยางเช่น ลินลี่ย์สามารถใช้คัมภีร์ยุทธได้เท่าที่เขาต้องการ!
ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้!
แม้เมื่อมาถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย  ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์ลับแบบนั้น  มีแต่เพียงวิชาที่เหมาะกับตัวเอง   มีแต่เฉพาะวิชาที่เหมาะกับตัวเองเป็นดีที่สุด  ร่างกายและสายเลือดที่แตกต่างกัน  พลังงานรูปแบบต่างกัน..สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเหมาะสมกับวิธีฝึกฝนที่เข้ากันได้
วิธีที่ส่งผลต่อมังกรฟ้าไม่จำเป็นต้องมีผลต่อลินลี่ย์  ที่สำคัญพลังภายในร่างของลินลี่ย์ก็คือพลังเทพสีดำนี้เกิดจากการหลอมรวมพลังเทพสี่รูปแบบซึ่งไม่เคยมีใครเห็นการสร้างรูปแบบนี้มาก่อนในเอกภพจักรวาล
 “ข้าเชี่ยวชาญกระบวนการนี้เพิ่มขึ้นแล้ว
ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน
ในเวลานี้ ร่างของลินลี่ย์คลุมไปด้วยชั้นเกล็ดสีเขียวเข้ม  ความจริงเนื่องจากกระบวนการเสริมพลังของพลังเทพสีดำ  เกล็ดมังกรของลินลี่ย์ควรจะกลายเป็นสีดำ  อย่างไรก็ตามเกล็ดมังกรเดิมของลินลี่ย์เป็นสีทองฟ้า และหลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เกล็ดจะกลายเป็นสีเขียวแก่  เกล็ดมังกรของลินลี่ย์ยังเกาะกลุ่มกันหนาแน่นมากยิ่งขึ้น
ถ้าเข้าไปใกล้ลินลี่ย์  ก็จะพบว่า..
บนผิวเกล็ดมังกรของลินลี่ย์ จะมีพังผืดของกล้ามเนื้อใสที่บางมาก  กล้ามเนื้อนี้ถูกสร้างโดยเนื้อใต้ผิวของลินลี่ย์  หลังจากเกล็ดมังกรของลินลี่ย์ได้รับการเสริมพลังโดยพลังเทพสีดำ  อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อบางมากจนดูใส  ถ้าใครค่อนข้างอยู่ห่าง เขาจะสังเกตไม่ออกเลย
ขณะที่หนามแหลบนหน้าผาก สันหลัง ศอกและเข่าของลินลี่ย์... ต้องบอกว่าผ่านการเปลี่ยนแปลงไปมาก
นี่เป็นเพราะหนามแหลมเหล่านี้ทั้งคมและแข็งตั้งแต่แรกเริ่ม  หลังจากผ่านกระบวนการเสริมพลัง ก็กลายเป็นสีดำสนิท  นอกจากนี้หนามแหลมยังหดสั้นลงเล็กน้อย
กรงเล็บมังกรของลินลี่ย์เมื่อก่อนนั้น... เล็บของเขาจะทั้งยาวและคม แต่ในตอนนี้กรงเล็บนั้นรั้งกลับได้  มือในร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์เป็นสีดำสนิทและกรงเล็บของเขาจะปรากฏคมออกมาเล็กน้อย นั่นคือลักษณะที่ปรากฏ
ผลของกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทำให้ลักษณะร่างแปลงมังกรที่ดูดุดันดูลดน้อยลงไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าลักษณะดุดันจะดูลดน้อยลงไป  แต่พลังกลับเพิ่มขึ้นมากมาย  พลังของร่างกายเขา เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแข็งแกร่งมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า หรืออาจจะถึงพันเท่าได้!
 “อย่างไรก็ตาม พลังที่เพิ่มมากขึ้นที่สุดก็ยังประมาณเท่านี้...”
ลินลี่ย์ยิ้มเหยียดมือขวาออก กระบี่ยาวสีดำจู่ก็ปรากฏออกมา  นี่คืออาวุธประกายเทพ เงาลวง!
พลังเทพสามารถใช้หล่อเลี้ยงอาวุธเทพได้  ตามตำนาน อาวุธมหาเทพสร้างโดยมหาเทพใช้พลังมหาเทพหล่อเลี้ยงสมบัติชิ้นนั้นๆ  แต่แน่นอน การสร้างสมบัติมหาเทพ  มหาเทพจำเป็นต้องผสานปณิธานของมหาเทพหลอมรวมเข้าไว้ด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้สมบัติเหล่านั้นมีระดับพลังที่น่ากลัว
สำหรับอาวุธประกายเทพ เงาลวง นี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่ทรงพลังเหลือเชื่อตั้งแต่เริ่มแรก
ส่วนใหญ่แม้สมบัติมหาเทพทั้งหมดในแง่คุณภาพของวัตถุยังด้อยกว่าอาวุธประกายเทพนี้  เกินกว่าสิบปีมานี้ กระบี่เงาลวงถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังเทพสีดำต่อเนื่อง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตามจำนวนเวลาที่อาวุธเทพจำเป็นต้องใช้พลังหล่อเลี้ยงนั้นยังอีกยาวนาน
 “กระบี่เงาลวงมาถึงขีดจำกัดเสียแล้ว  อย่างไรก็ตามแม้แต่ตอนนี้ข้าคาดว่ากระบี่เงาลวงไม่ได้อ่อนแอกว่าสมบัติมหาเทพแม้แต่น้อย”  ลินลี่ย์เคยเห็นสมบัติมหาเทพมาก่อน  ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาสามารถตัดสินได้เช่นนั้น
อย่าว่าแต่กระบี่เงาลวงเลย  ลินลี่ย์ยังรู้สึกว่าร่างแปลงมังกรของเขาน่าจะใกล้เคียงกับพลังของสมบัติมหาเทพ
 “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าการหลอมรวมพลังเทพสี่แบบจะให้ผลเช่นนี้”  ลินลี่ย์ต้องการให้เกล็ดมังกรของเขาหายเข้าไปในร่างกาย และจากนั้นสร้างชุดยาวสีหยกเข้มที่เกิดจากพลังงาน  ความจริงหลังจากผ่านกระบวนการเสริมสร้างพลังครั้งนี้  ผิวและกล้ามเนื้อของลินลี่ย์อย่างเดียวก็แข็งแกร่งมากกว่าเกล็ดมังกรที่เป็นมาในอดีต  ไม่ต้องพูดถึงร่างแปลงมังกรในปัจจุบันของเขา
 “ดังนั้นพลังเทพสี่รูปแบบเมื่อหลอมรวมกันก็ได้ผลแบบนี้   ค่อยสมเหตุผล....เทพมังกรฟ้าบรรพบุรุษของเราสามารถทำเช่นนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าสามารถเสริมพลังของข้าได้”
ลินลี่ย์เหยียดมือขวา แต่แล้วพร้อมกับความคิดหนึ่ง...
 “ควั่บ!  มือขวาของเขาเปลี่ยนเป็นดาบ และด้วยการฟันเหมือนดาบ  ลินลี่ย์วาดแขนฟันไปข้างหน้าด้วยหลักการดาบผ่ามิติ
 “ครืน...”  เกิดการฉีกขาดของมิติ
 “หลังจากกระบวนการเสริมพลังครั้งนี้  พลังของร่างของข้าเพิ่มขึ้นในระดับน่ากลัว  แม้ว่าข้าใช้แค่เคล็ดลึกลับอย่างง่าย  พลังโจมตีของข้าก็ยังมหาศาล”  ในที่สุดลินลี่ย์ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าของเบรุตสำหรับตัวเขาเองได้!  พลังพื้นฐานของเขานับว่าน่ากลัวมาก  แม้ไม่ต้องใช้เคล็ดลึกลับหลายอย่าง  เขาก็ยังทรงพลังพอยืนหยัดไร้เทียมทานได้
ลินลี่ย์ยิ้มและผลักเปิดประตูออกไปที่ห้องโถง
ภายในคฤหาสน์ของลินลี่ย์
ลินลี่ย์เดินออกมาตามทางเดิน  จากนั้นจ้องมองโลกด้านนอกที่ว่างเปล่า มีคนอยู่ข้างนอกราวๆ สิบคน
วอร์ตันกำลังคุยกับคนอื่นตามปกติ บังเอิญเหลือบตาสังเกตเห็นลินลี่ย์พอดี  เขารีบร้องเรียกด้วยความประหลาดใจและดีใจ “พี่ใหญ่..”  ขณะเดียวกันเขารีบวิ่งเข้ามาหา  เสียงเรียกของวอร์ตันเรียกความสนใจจากอีกหลายคน  และพวกเขาทุกคนต่างวิ่งออกมาดู  ขณะเดียวกันก็ออกมาชุมนุมและร้องเรียกอย่างตื่นเต้น  นี่ทำให้คนที่อยู่ในห้องอื่นหรือแม้แต่พวกที่อยู่ข้างนอกพลอยให้ความสนใจไปด้วย
 “ลินลี่ย์”  เดเลียเดินเข้ามาหาอย่างดีใจ
 “ฮ่าฮ่า, ตอนนี้คงไม่ต้องให้ร่างแยกของข้าทั้งหมดรั้งฝึกฝนต่อทั้งหมดแน่แท้”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น  กระบวนการเสริมพลังครั้งนี้ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อร่างหลักของลินลี่ย์เท่านั้น  แม้แต่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างก็ได้รับการเสริมพลังทั้งหมด  ความจริง  แม้ว่าร่างแยกสี่ร่างของเขาจะไม่สามารถแปลงเป็นมังกรได้  แต่ร่างของพวกเขาในตอนนี้ก็ทรงพลังเหลือเชื่อ
ตาของเดเลียทอประกายวูบ  ถ้าลินลี่ย์ไม่ต้องอยู่ฝึกสมาธิ  นั่นหมายความว่าเขาจะมีเวลาอยู่กับนาง
 “น้องสาม!  ข้าต้องการจะออกไปเที่ยวข้างนอกสักหน่อย  เรารอเจ้าอยู่คนเดียว”  เยลหัวเราะขณะที่เขากอดภรรยา
 “ใช่แล้ว  แต่พี่ใหญ่มักจะเอาแต่ฝึกอยู่เสมอ”  บีบีจงใจล้อเช่นกัน
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ  “ฮ่าฮ่า, ก็ได้, อย่างนั้นข้าจะไปเที่ยวกับพวกเจ้าทุกคน  อย่างไรก็ตาม บอกตามตรง มีหลายที่ในแดนนรกที่ไม่เคยไป   แดนนรกมีสถานที่อยู่มากมาย  เราไปเที่ยวแดนนรก และจากนั้นไปเยี่ยมชมพิภพโลกธาตุอื่นทีละแห่ง”
หลังจากถึงสุดยอดพลังระดับเทพแล้ว  ลินลี่ย์ไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไป  เขามีความสุขมากที่ได้อยู่กับครอบครัวเดินทางท่องเที่ยวแดนนรกและพิภพโลกธาตุต่างๆ

19 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับการแปลครับ ^^

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ๆ​เลย​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ถ้าไม่นับมหาเทพ ลินลีย์ถือเป็นเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลแล้วครับตอนนี้ โคตรโหดเลย

Toffee กล่าวว่า...

อับเกรด บวก10 ตันเลย นะลินลี่ร์ ขอบคุณครับผู้แปล

- Belphegor- กล่าวว่า...

โคตรเทพ

Natthapong sv Luffy กล่าวว่า...

🙏👍👍👍

pmt กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Paradin กล่าวว่า...

ไปตบมหาเทพเจิดจรัญเลยยยย

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Rannight กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆ เลยครับ ตอนนี้คงตบหมาเทพได้แล้วป่ะครับ

Rewma กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ เมื่อไหร่ละได้กลับไปสุนานนะ อยากรู้ละว่าอะไรเรียกลินลี่ครั้งก่อน

เนพื กล่าวว่า...

รอวิถีทำลายล้างอีกอย่าง

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

WingF กล่าวว่า...

แค่ตอนนี้เท่านั้น

แสดงความคิดเห็น