วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 758 ข้าต้องโกรธ


ตอนที่  758  ข้าต้องโกรธ
เมื่อเย่ว์หยางกับมาถึงปราสาทสายรุ้ง เขาพบว่ามีกลุ่มคนที่ดูเหมือนพวกอพยพหนีความยากไร้นอนระเกะระกะอยู่บนพื้น

ใช้เวลาอยู่ครึ่งค่อนวันเขาถึงสังเกตออกว่าเป็นเย่คง เจ้าอ้วนไห่กับพวกพ้อง
พอเห็นเย่ว์หยางกลับมาแล้ว
เดิมทีเย่คงและคนอื่นๆ ยังมีความภูมิใจอยู่เล็กน้อย เพราะเย่ว์หยางไม่ได้จัดเตรียมการเอาไว้ก่อน พวกเขาก็ยังสามารถเอาชนะแผนการร้ายของซุ่นเทียนและคนอื่นได้    ในการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น เสวี่ยทันหลางเอาชนะสื่อจินโหวร่างแยกสุดท้ายของราชันย์พันปีศาจได้  เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวและคนอื่นๆ ร่วมมือกันฆ่าองค์ชายดำที่แสดงเจตนาพยายามหลบหนี  หลิวเย่ เป่าเอ๋อ พี่น้องตระกูลหลี่ ฟงชิซา เหยียนพั่วจวิน เย่ว์ถิงได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ ผู้เฒ่าเต่ามังกรและเซี่ยอีกำจัดประธานผู้อาวุโสทวีปกวงหมิงและบีบบังคับให้ประมุขนิกายพันปีศาจยอมจำนน 
 “พวกเจ้าไม่ตายหรือนี่?”  นางเซียนหงส์ฟ้ามีน้ำเสียงค่อนข้างประหลาดใจ ทำให้เย่คงและคนอื่นๆ อดลอบภูมิใจมิได้
 “ถ้าเราไม่รีบมาช่วยชีวิตไว้ คิดว่าป่านนี้พวกเขาคงเข้าไปนอนคุยกับบรรพบุรุษในหลุมไปแล้ว”  ราชันย์ปีศาจใต้พูดขึ้นลอยๆ อย่างไม่สบอารมณ์  “เจ้าพวกสมองหมูปัญญากระบือนี้, ทั้งที่ได้รับคำเตือนก่อนแล้วว่าจะเผชิญกับอันตราย ให้รีบพาพวกไปที่ทางเข้าวิหารจักรพรรดิอวี้  เพราะว่าที่นั่นมีพื้นที่ต้องห้ามที่ศัตรูส่วนใหญ่ไม่ยินดีย่างเท้าเข้าไป พวกเขาเอาแต่โอ้อวดทำตัวเป็นวีรบุรุษคอยอยู่รั้งพวกศัตรูสุดกำลัง ไม่อย่างนั้นยังจะมีการบาดเจ็บอย่างนั้นได้หรือ?”
 “ท่านป้า, ข้าผิดไปแล้ว  ข้าเป็นพวกสมองหมูจริงๆ ละเว้นข้าสักคราเถิด”  เย่คงรีบขอความเมตตา
ตอนแรกเขายังไม่เข้าใจ
ต่อมาเขาจึงได้พบคำตอบ
ใจของเย่ว์หยางไม่ได้มีความสิ้นหวัง แต่เขาปล่อยให้กลุ่มพวกเขาได้เรียนรู้วิธีคิดในการต่อสู้
ถ้าทุกคนคิดจากจุดนี้ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ก็คงไม่ต้องรอให้ซุ่นเทียนและพวกมาโอบล้อม  จะต้องถอนกำลังไปอยู่ข้างผู้เฒ่าเต่ามังกร จะได้ไม่ต้องพบกับความยากลำบาก
แน่นอนว่านี่สายเกินไป  เมื่อเซี่ยอีมาถึงพร้อมกับนักสู้ปราณก่อกำเนิด เช่นมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์  ราชาฉลาม ราชาฉงนี่และราชันย์ปีศาจใต้รวมทั้งนักรบเผ่าภูตบูรพา  ฝ่ายมารจึงต้องพบจุดจบ  และโชคดีที่เสวี่ยทันหลางและเจ้าอ้วนไห่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งทั้งคู่  มิฉะนั้นคงตายแน่นอน
เสวี่ยทันหลางและสื่อจินโหวต่างได้รับบาดเจ็บหนักทั้งคู่
ตั้งแต่แรกสื่อจินโหวมีพลังระดับปราณก่อกำเนิดระดับแปด เหนือกว่าเสวี่ยทันหลาง  ทั้งพลังและประสบการณ์  เมื่อเสวี่ยทันหลางหมิ่นเหม่ใกล้ตาย  เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและตกลงไปในก้นทะเลสาบดำ  เขาผสานร่างกับอสูรสายฟ้าและยักษ์พายุ  ในที่สุดก็ได้รับประสบการณ์ปาฏิหาริย์  แม้แต่เย่ว์หยางก็คิดเองว่าการหลอมรวมยากจะสำเร็จได้  อสูรประเภทวิญญาณของเขาหลอมรวมกับตัวแปรทำให้อสูรเลื่อนระดับเป็นอสูรพายุสายฟ้าระดับปราณฟ้า
อสูรพายุสายฟ้า อสูรระดับปราณฟ้าช่วยให้เสวี่ยทันหลางได้มีโอกาสตอบโต้อย่างหนัก
ท่าสุดท้ายของเขาทะลวงหัวใจปีศาจของสื่อจินโหว
ตัดสินชัยชนะได้ในช่วงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
ถ้าหากบอกว่าเสวี่ยทันหลางกระดูกซี่โครงหักมากกว่าสิบท่อน แขนหัก กระดูกหักทั่วทั้งตัวพันผ้าพันแผลมีไอคุกรุ่นราวกับซาลาเปานึ่งแล้ว  ทั้งผสานฝีมือกับอสูรพายุสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์สำเร็จเอาชนะศัตรูได้ในที่สุดแล้ว  การที่เจ้าอ้วนไห่เอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างซุ่นเทียนได้ในที่สุดทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเป็นคนจริง
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเจ้าอ้วนไห่ต่อสู้กับซุ่นเทียนแล้วรอดชีวิตมาได้อย่างไร
ทุกคนรู้แต่เพียงว่าซุ่นเทียนลงมือกับเจ้าอ้วนไห่อย่างบ้าคลั่ง
ในท้ายที่สุดเจ้าอ้วนไห่พูดอะไรถึงทำให้ซุ่นเทียนผู้แข็งแกร่งทั้งกายและจิตใจกลายเป็นบ้าไปได้?
นี่คือปริศนาลึกลับ...เมื่อเย่คงพยายามลากสังขารตนเองที่บอบช้ำเต็มไปได้บาดแผลไปที่ปราสาทสายรุ้ง สิ่งแรกที่เขาทำคือตามหาเจ้าอ้วนไห่ก่อนและพบว่าเจ้าอ้วนไห่นอนกองดูไม่ต่างอะไรจากกองขยะ  และที่อัศจรรย์มากกว่าก็คือเขายังมีชีวิต  อสูรทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแรดเพชร ฮิปโปน้อย แมมม็อธสายฟ้า ฯลฯ อยู่ในสภาพปางตาย มีแต่นางนวลสายลมที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างเขา..”
 “นี่คือปาฏิหาริย์” เย่ว์หยางชื่นชมเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นทำราวกับเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ที่ชื่นชมบริวารที่ต่อสู้และเอาชีวิตรอดได้สำเร็จ
 “เป็นไปได้ว่าไหมว่าเจ้าอ้วนไห่เป็นเหมือนมนุษย์งูทะเลในตำนานต่อให้ถูกแทงฟันยังไงก็ยังรอดชีวิตได้!  ราชันย์ปีศาจใต้สงสัย
 “อา..เป็นไปได้หรือนั่น?”  เดิมทีเย่คงต้องการปฏิเสธ แต่พอดูเจ้าอ้วนไห่ที่นอนอืดเหมือนหมูตาย เขาไม่กล้ายืนยันว่าเป็นความช่วยเหลือจากเย่ว์หยาง  “เจ้าอ้วนไห่เป็นคุณชายจากตระกูลไห่ไม่ใช่หรือ?”
 “ศักยภาพลับของเจ้าอ้วนไห่อาจจะไม่ใช่งูทะเลก็ได้ ข้าคงสำคัญผิดไป”  คำตอบของเย่ว์หยางทำให้ทุกคนเหงื่อตก
 “เจ้าปีศาจอ้วนผู้นี้เคยเป็นเผ่ามนุษย์งูทะเลจริงๆ หรือ? หูย..น่ากลัวจริงๆ!  ปกติเป่าเอ๋อมักจะล้อเลียนเจ้าอ้วนไห่ที่กำลังนอนหลับว่าจอมปีศาจอ้วน ซึ่งมีสีสันยิ่งจอมปีศาจอ้วนในหอทงเทียนชั้นหก บางครั้งทุกคนก็เห็นดีด้วยและเรียกว่าปีศาจอ้วนตาม
 “จริงเหรอ?” มีแต่คนที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างหลิวเย่ที่เชื่อว่าเจ้าอ้วนไห่ได้รับอิทธิพลจากมนุษย์งูทะเล
 “ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเจ้าเชื่อหรือไม่  แค่ข้าเชื่อก็พอแล้ว”  เย่ว์หยางทำน้ำเสียงเหมือนกับเง็กเซียนฮ่องเต้อีกครา
จะเป็นลม
การกระทำของเขาแค่ต้องการเอาชนะคนอื่น
แม้แต่เย่ว์หวี่ยังอดตีศีรษะเขาเบาๆ มิได้และมองค้อนเขาไม่ได้
มีแต่เพียงเย่ว์หวี่กับแอนนาสองคนที่มีพลังในการรักษามากกว่าคนอื่น และพลังห้าธาตุที่อู๋เหินและเย่ว์หยางช่วยกันสร้างจากเวทอักษรรูน ทำให้อาการบาดเจ็บของทุกคนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและฟื้นตัวเร็วขึ้น
เย่ว์หยางไม่ได้กลับไปที่ปราสาทสายรุ้งเหมือนอย่างปกติ แต่อุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ยังหลับใหลไปนั่งที่สวนน้อยสนทนากับทุกคน
เสวี่ยอู๋เสียหนุนนอนหนุนตักเขาหลับอย่างเงียบงัน
เวลานางหลับดูอ่อนโยนนุ่มนวลเหมือนเจ้าหญิงที่งดงามที่สุดในโลก
มือน้อยๆ ที่ขาวผุดผ่องเหมือนหยกของนางยังถือคัมภีร์แห่งสัจจะ... เจ้าเมืองโล่วฮัวโอบแขนจากด้านหลังเย่ว์หยางและนวดให้เขาผ่อนคลาย  อี้หนานและเย่ว์ปิงกอดกันโดยไม่พูดอะไรและหลับไปโดยไม่รู้ตัว
นางเซียนหงส์ฟ้าเล่นหมากกระดานกับแม่สี่
ราชันย์ปีศาจใต้ใช้นิ้วที่เรียวงามบรรเลงผีผาหยกของนางขับกล่อมท่วงทำนองไพเราะ
ในขณะที่บรรเลงเพลงขับกล่อม ซวงเอ๋อที่ปกติจะซุกซนเหมือนเด็กจะเล่นซ่อนหากับหนูน้อยแพนด้า  แต่ตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างๆ มารดานั่งกินวุ้นถั่วหวานและแบ่งให้หนูน้อยแพนดาหนิวหนิว  หนิวหนิวตอนแรกยังไม่กล้าเธอโบกมือปฏิเสธ  แต่ซวงเอ๋อยืนคะยั้นคะยอให้เธอกินด้วย  หนิวหนิวมองดูจุ้ยมาวอวี้ (สาวขี้เมา) จากนั้นมองดูเย่ว์หยางพบว่าไม่มีใครเห็น  เธอรีบกินวุ้นถั่วโดยเร็ว แต่ไม่กล้าทำหน้าดีใจ ซวงเอ๋อยุให้เธอกินอีก
เมื่อผู้ใหญ่มองดู หนิวหนิวจะทำเป็นเสมองท้องฟ้าบ้าง มองดูผีเสื้อบ้าง
แต่ไม่มีใครปิดบังท้องฟ้าด้วยฝ่ามือได้ ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทั้งนั้น
ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ แม่สี่และจุ้ยมาวอวี้ (พี่สาวขี้เมา) ก็คงจะดุว่ากล่าว  แต่วันนี้ยกเว้นเป็นพิเศษ  พวกนางยิ้มแล้วทำเป็นไม่เห็นเด็กน้อยซุกซนทั้งสอง
ในที่ห่างออกไปไม่ไกลลี่เยี่ยนและไห่อิงอู่กำลังดื่มกินกัน
ตามคำบอกเล่าของลี่เยี่ยน การดื่มเป็นวิธีบำบัดอาการบาดเจ็บที่ดีที่สุด... เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ที่ได้รับบาดเจ็บหนักกล่าวขออภัยที่ไม่สามารถรับการรักษาแบบนี้ได้  บำบัดด้วยการดื่มแบบนี้มีแต่จะเจ็บหนักและอาจถึงตายได้  ลี่เยี่ยนจึงได้แต่ดื่มกับไห่อิงอู่ราชินีสมุทรที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ยินดีจะร่วมดื่มเป็นเพื่อนด้วย  ไห่อิงอู่มีมุกฝนดาวตกเมามายสามพันปีใส่อยู่ในแก้ว ไม่อย่างนั้นนางไม่กล้าดื่มกับลี่เยี่ยนเป็นแน่  ที่นอนกองอยู่กับพื้นก็คือสาวเผ่าหัววัวฟ่านหลุนเถี่ย และสี่สาวเผ่ามนุษย์หมูป่า (คิวบัวร์) ต่างเมาพับกันทุกคน
 “ถ้าต้องการบาดเจ็บเพิ่ม พวกเจ้าก็ดื่มเลย”  ฟงชิซาและคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บไม่มากขยาด  ด้วยศักดิ์ศรีหมอของแอนนาและเย่ว์หวี่ ใครจะกล้าฝ่าฝืน  พวกเขาค่อยๆ นอนราบอย่างระมัดระวัง
 “เราไม่เป็นไร, เราไม่มีอะไรต้องรบกวน”  เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวปฏิเสธการรักษาจากเย่ว์หวี่
มีคนได้รับบาดเจ็บมากมาย เย่ว์หวี่ได้ใช้พลังรักษามากเกินไป
พวกเขาสามารถช่วยสนับสนุนเพียงเท่านี้เพื่อไม่ให้นางเหน็ดเหนื่อยเกินไป
นอกจากนี้นักรบที่มุ่งมั่นรักษาตนเองได้จะมีความก้าวหน้ามากได้มากกว่านักรบที่ต้องการให้คนอื่นรักษา  เย่คง องค์ชายเทียนหลัว พี่น้องตระกูลหลี่ตัดสินใจเริ่มต้นทุกอย่างทีละนิด    เย่ว์หวี่ไม่คัดค้านความจริงที่ว่ายาเม็ดพลังยุทธของเย่ว์หยางแก้ปัญหา นางมุ่งมั่นใช้พลังรักษาอาการกระดูกหักทั้งร่างของเสวี่ยทันหลาง  และยังมีเจ้าอ้วนไห่ที่ยังไม่รู้สึกตัว
นอกจากเสียงสนทนาเบาๆ แล้วก็ยังมีเสียงสะท้อนดังเป็นระยะๆ
ทั่วทั้งสวนน้อยในเวลานี้เป็นช่วงราตรีที่สงบนิ่งเหมือนกับผิวน้ำ ดวงจันทร์กระจ่างเต็มดวง
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์คลี่ผ้าห่มคลุมตัวเย่ว์หยางอย่างนุ่มนวล  ในการสู้รบนางไม่สามารถช่วยเย่ว์หยางได้  แต่ในการใช้ชีวิตประจำวัน นางจะดูแลเย่ว์หยางเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนาง
เย่ว์หยางคลี่ผ้าห่มคลุมให้เจ้าเมืองโล่วฮัวอย่างนุ่มนวล เขาเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาแต่ก็ยังทำให้นางตื่นขึ้นอยู่ดี
นางขยี้ตาตาและมองดูเขา จากนั้นยิ้มหวานให้เขา
นางโน้มตัวไปหาเขาแล้วจูบเขาอย่างแผ่วเบา
ริมฝีปากของนางประทับจูบเขาราวกับกลัวว่าจะมีคนแย่งจูบเขา นางรู้สึกมีความสุขท่วมท้นเต็มหัวใจ  เสวี่ยอู๋เสียนอนหลับเหมือนกับจะรู้ว่าอยู่ในท่าที่ไม่สบาย นางพลิกตัวเปลี่ยนตำแหน่งหาจุดที่สบายบนต้นขาของเย่ว์หยาง  เจ้าเมืองโล่วฮัวและเย่ว์หยางต้องหยุดเพราะกลัวนางจะตื่น จากนั้นรออย่างใจเย็นเพื่อจุมพิตอย่างดูดดื่มต่อ
อู๋เหินใช้เวทห้าธาตุตรวจสอบ เมื่อนางกลับมาและพบว่าสองคนกำลังแอบจูบกันอย่างดูดดื่ม นางกระแอมเบาๆ
เมื่อทั้งสองคนแยกจากกันก็มองเห็นนาง แต่ไม่แสดงอาการเก้อเขินอะไร
เจ้าเมืองโล่วฮัวชวนอู๋เหินมานั่งข้างๆ
นางทำท่าชี้ริมฝีปากแดงของนางและไปทางเย่ว์หยาง
ทำท่าเหมือนบอกใบ้ให้เย่ว์หยางจูบอู๋เหิน  นางยิ้มและปฏิเสธจะแสดงความรักกับเย่ว์หยางต่อหน้าทุกคน นางเป็นศรีภรรยาที่นุ่มนวลเอาใจ  แต่จะเขินอายถ้าจะให้แสดงความรักต่อหน้าทุกคน
เจ้าเมืองโล่วฮัวแกล้งจูบนางโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้นางรู้สึกเขินอาย
ไม่ใช่เรื่องดีกับการเอ่ยปากวิจารณ์นาง  นางได้แต่ปรายตาห้ามเจ้าเมืองโล่วฮัว นางจูบเย่ว์หยางเบาๆ และอดมองค้อนทั้งสองคนไม่ได้ เพราะเสวี่ยอู๋เสียพลิกตัว หนังสือแห่งสัจจะจึงร่วงบนไม้ดอก  อู๋เหินเอื้อมมือไปหยิบและค่อยสุ่มเปิดดู และนางชม้ายมองเย่ว์หยางและกระพริบตาล้อเลียนเย่ว์หยางคล้ายจะถามว่านางคล้ายอู๋เสียไหม? 
ยกเว้นทรงผมและนิสัยอารมณ์ ลักษณะของนางแทบจะคล้ายกับเสวี่ยอู๋เสีย ตอนนี้พอนางถือหนังสือแห่งสัจจะ เย่ว์หยางแทบจะแยกไม่ออก
เขามองจนลืมตัว
อู๋เหินไม่กล้าจูบเขาเหมือนกับเจ้าเมืองโล่วฮัว จึงได้แต่ยิ้มให้เขาเล็กน้อย
แม้ว่าเรื่องนี้จะน่าอายเกินกว่าจะให้คนอื่นพบเจอ นางได้แต่ก้มหน้า ไม่มีใครสนใจทางด้านนี้  ทุกคนพักผ่อนนอนชมดูดวงดาวและพระจันทร์ยามราตรีอย่างไม่กระตือรือร้น เป่าเอ๋อที่ชอบส่งเสียงดังก็หลับไปก่อนแล้ว   หลิวเย่และเซี่ยอีนอนอยู่ข้างนางและพึมพำละเมอเบาๆ  ใบหน้าของพวกนางแสดงออกว่ามีความสุขสงบ
เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ลืมตา
นางพบว่าตัวนางเองนอนอยู่ในอ้อมอกเย่ว์หยางปล่อยให้เขากอดเหมือนเด็กน้อย นางตะลึงเล็กน้อย หลังจากดึงผ้าห่มมาคลุมตัวและพลิกเปลี่ยนท่าเล็กน้อย นางรอให้เขามองดู แม่เสือสาวพูดอย่างแง่งอนทันที  “นี่..คนลามก, เจ้าทำมิดีมิร้ายอะไรหรือเปล่า?”
ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช่คนที่มาจากโลกอื่น และไม่ได้ยินคำว่าตัวร้ายมาก่อน คาดว่าเขาคงจะต่อปากต่อคำกลับไปแล้ว
สตรีสาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดึงดูดใจอยู่แล้ว  ถ้าเย่ว์หยางเป็นจอมลามกและต่อล้อต่อเถียงองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ก็คงจะโดนว่าเป็นตัวลามกอีกและคงถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบตีก็ได้  ถ้าเย่ว์หยางทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเกินไป ตอบอย่างคนมากมารยาทก็คงไม่ดึงดูดความรู้สึกสนใจขององค์หญิงและคงทำให้นางผิดหวังแน่ และอาจทำให้นางขุ่นเคืองไม่พอใจคิดว่าตนเองมีเสน่ห์ไม่พอ
โชคดีที่เย่ว์หยางเป็นคนกรุ้มกริ่มกะล่อนสามารถรับมือสาวๆ ในช่วงเวลาสำคัญ
พอเขาได้ยินแล้วก็ยิ้มตอบ
เขาหัวเราะอย่างสุภาพและตอบ  “เดาได้ไหม?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหน้าแดงจนถึงหู นางชายตามองเขาและพบว่าเขาไม่ได้อยู่ในผ้าห่มด้วย  ในที่สุดนางเผยอริมฝีปากจนเห็นเขี้ยวน้อย  “มาให้ข้ากัดเสียดีๆ ไม่อย่างนั้น...”  นางไม่ทันได้พูดต่อเย่ว์หยางประกบปากลงที่ปากนาง  ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเริ่มหายใจไม่ออกนางผละออกจากเย่ว์หยาง นางโต้เถียงเย่ว์หยาง  “นี่, อย่าเข้ามาใกล้เกินระยะอีกนะ ไม่งั้นโดน”
 “รับบัญชาองค์หญิง”  เย่ว์หยางกลับทำตรงกันข้าม เขาเข้าอยู่ในผ้าห่มด้วย
 “ข้าโกรธแล้วนะ!  ข้าโกรธจริงๆ ด้วย!  เวลานี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เหมือนแม่เสือสาว แต่กลับดูเหมือนดรุณีที่อ่อนแอแสร้งทำแง่งอนดูมีเสน่ห์
 “โอ๊ย..ข้ากลัวแล้ว” เย่ว์หยางแกล้งทำสีหน้ากลัว ก็ยิ่งทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโกรธจนอยากจะกัดเขา

10 ความคิดเห็น:

Dragon fly กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ หวานกันจริง55

dvdkeeper กล่าวว่า...

หลังปางตายก็ต้องหวานกันหน่อย

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เอีย กล่าวว่า...

ช่วงเวลาเเห้งความผ่อนคลายชินะ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ถึงศึกรักคุณชายสามก็ไม่หวั่น

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

ImFoMas กล่าวว่า...

ช่วงพักพ่อน

chay กล่าวว่า...

ครอบครัวสุขสันต์ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น