ตอนที่ 760 ร้านสัตว์อสูรเมืองลี่จ้าว
เมืองลี่จ้าว
เย่ว์หยางกับพวกพ้องโดยสารรถม้าบินโดยสารมาไม่ถึงสามชั่วโมง
พวกเขาจะถึงเมืองลี่จ้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
นี่เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่แตกต่างไปจากเมืองธรรมดา
มีถนนสายหลักที่ไม่มีใครเหมือนตัดผ่านแยกเมืองออกเป็นสี่ส่วน
จากตะวันออกถึงตะวันตกระยะเกือบ 50 กิโลเมตร
จากทิศใต้ถึงทิศเหนือเกือบ 20 กิโลเมตร
นอกเมืองมีกำแพงล้อมรอบสูงถึง 20 เมตร
ยกเว้นประตูเมืองขนาดใหญ่ทั้งสี่
นอกจากประตูใหญ่ทั้งสี่แล้ว
ไม่มีทางออกอื่นอีก
ถ้ามองดูจากในท้องฟ้าจะเห็นทั้งม้า
รถเทียมม้าและฝูงชนหลั่งไหลไปตามถนนกว้างอย่างไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะถนนใหญ่จากตะวันออกไปทางตะวันตก ถนนกว้างถึงหนึ่งกิโลเมตร
ถนนสายเหนือไปใต้กว้าง 400 เมตร
เมืองลี่จ้าวคือมหานครยุทธศาสตร์ที่สร้างขึ้นเมื่อหมื่นปีที่แล้ว
ในยุคราชินีผู้พิชิตนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
และขยายเมืองเมื่อหกพันปีก่อนยุคจักรพรรดิอวี้
อย่างไรก็ตามนางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้พิชิตถูกผนึกไปแล้ว
สามจอมภพแดนสวรรค์ในอดีตทำสงครามกับจักรพรรดิอวี้อย่างดุเดือดซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เมืองลี่จ้าว ผ่านมาจนบัดนี้ไม่มีฐานทัพทางยุทธศาสตร์อีกต่อไป แต่ห่างไกลออกไปเป็น ‘เมืองซาน’ ที่คึกคัก นั่นเป็นพื้นที่เปิดพัฒนา
รวบรวมผู้คนได้หลายล้านในปัจจุบัน
ผู้คนที่นี่พึ่งพาทรัพยากรแร่ที่อยู่ในเทือกเขารายรอบ
ซึ่งเป็นแหล่งแร่อุดมสมบูรณ์ นั่นจึงเป็นเหตุให้ใช้ชีวิตอย่างมีความกังวล
เพราะเมื่อหมื่นปีที่แล้ว และหกพันปีที่แล้วมีสงครามแถวๆ
เมืองลี่จ้าวเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง มีนักรบที่แข็งแกร่งเกิดขึ้น
และมีการพัฒนาอสูรพิเศษดึงดูดใจนักผจญภัย ทหารรับจ้างและพ่อค้าให้มาเพื่อล่า
“พวกเจ้าจะไม่ลงไปหรือ?”
เจ้าอ้วนไห่เชิญทุกคนให้ลงมา
เขาตบอกและกล่าวว่าอาการบาดเจ็บของเขาได้รับการรักษาแล้ว
“ช่างเถอะ,
ข้าไม่คิดว่าจะมีปัญญาถอนขนหน้าแข้งคนตระหนี่ได้แน่” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่เกิดมาเพื่อทะเลาะกันแท้ๆ
และเขาก็พูดถูกจริงๆ
แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่จะให้การรับรองและลงทุนสาบานว่าจะทำตัวดีๆ
นับแต่เขาตัดสินใจไปเที่ยวแดนสวรรค์
แต่คนที่จ่ายเงินก็คือเย่ว์หยาง
เพราะเจ้าอ้วนไห่ยืมเงินเย่ว์หยางหนึ่งล้านก่อนจะออกมา เย่คงไม่คิดว่าเจ้าอ้วนไห่จะใช้คืนได้ และเขาไม่คิดว่าเจ้าอ้วนไห่จะมีปัญญาใช้คืน
เขาคิดว่าเป็นไปได้ว่าเจ้าอ้วนไห่คงจะขอให้หักค่าแรงในอนาคตแทน
เอาเงินคนอื่นมาใช้
เจ้าอ้วนไห่ใจกว้างเสมอ
ไม่..เขากำลังเชิญทุกคนให้มากินดื่มในเมืองลี่จ้าว
“เจ้าลิงผอม!
ข้าขอเตือนเจ้าอย่างคนกันเอง ทำตัวดีๆ
ไว้ ขืนใส่ร้ายข้า ข้าจะฟ้องหมิ่นประมาท ข้าเป็นคนดี และตอนนี้ก็เป็นคนใจดีด้วย...
พี่น้องทั้งหลาย ค่าใช้จ่ายในเมืองลี่จ้าว
ข้ามีเงินเก็บไว้ทุกคนสนุกได้ไม่ต้องเกรงใจ เราจะกินและดื่ม กันอย่างสบายใจ
วันนี้ข้าในฐานะเป็นลูกพี่พร้อมทุ่มทุกอย่าง”
เจ้าอ้วนไห่พูดราวกับว่ากลัวทุกคนไม่รู้ว่าเขาแอบเก็บเงินเอาไว้
“นี่ไม่ใช่การช่วยประหยัดมากที่สุด
แต่เป็นการหาทุนด้วยใช่หรือเปล่า?”
เป่าเอ๋อมองดูกระเป๋าแห้งนางมีทองติดตัวอยู่ไม่กี่ชิ้น
นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้นางเวียนหัว
“ไม่มีทาง
เงินที่เก็บไว้ครั้งก่อนถูกเก็บไปแล้ว” เจ้าอ้วนไห่เกาศีรษะอย่างเก้อเขิน
“มิน่าเล่า เจ้าถึงได้ใจดีนัก” เย่คงและคนอื่นรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าพวกเจ้าต้องการดื่มกิน
อย่างนั้นก็ลงไปหาประสบการณ์ได้เลย
ฮุยไท่หลาง!
เจ้าทำหน้าที่คุ้มกัน”
เย่ว์หยางนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสมบัติ
แต่เขามอบค่าใช้จ่ายหลิวเย่ 3 พันเหรียญทอง ราคาของในเมืองลี่จ้าวจะแพงมาก
สามพันเหรียญทองสามารถทำให้ทั้งกลุ่มใช้ชีวิตอยู่ในเมืองได้”
“โฮ่ง!”
ฮุ่ยไท่หลางรับคำสั่งเจ้านายและทำหน้าที่คุ้มกันอย่างแข็งขัน นี่คือโอกาสดีที่จะรับใช้ให้บริการเจ้านาย
“ไปกันเถอะ”
เจ้าอ้วนไห่รีบรับถุงเงินมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นหลิวเย่ทำท่านจะปฏิเสธ
เขาร่าเริงและกระโดดบินลงจากรถม้าบิน
ทำให้มองดูเหมือนจ้าวปีศาจอ้วนลงมายังเมืองลี่จ้าว
“เราไม่ไป”
เสวี่ยทันหลางและพี่น้องตระกูลหลี่กำลังทุ่มเทกับการฝึกอย่างคลั่งไคล้ ไม่มีความสนใจการเที่ยวเล่น
ในสายตาของพวกเขา
วิธีเที่ยวสนุกในแดนสวรรค์เป็นวิธีเดียวกับที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกวาดล้างแดนสวรรค์ในอดีต แค่นั้นก็พอ
แน่นอนว่าด้วยพลังของพวกเขาเป้าหมายอย่างนี้เป็นฝันที่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จเมื่อใด
เพื่อไล่ล่าตามหาความฝัน
พวกเขาเพิ่มเวลาฝึกฝนให้นานขึ้นดีกว่าจะเสียเวลาไปแบบนี้ องค์ชายเทียนหลัวก็พลอยติดนิสัยไปด้วย
ตอนนี้กลายเป็นพวกบ้าฝึกฝนไปแล้ว
บนรถโดยสารบินเลิศหรู
มีตู้โดยสารสี่ตอน แต่ละตอนยาวสิบห้าเมตร
ต่อให้ทั้งกลุ่มอยู่ในนั้นแต่ก็มีพื้นที่มากพอให้พวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ เอลฟ์สองสามีภรรยาไม่ต้องการลงไปเที่ยวสนุกด้วย
พวกเขาเทียมม้าเพกาซัสให้ลากรถโดยสาร
แต่ในความเป็นจริงรถโดยสารเลิศหรูที่บินได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ม้าบินลาก มันไม่ต่างไปจากเทวรถของแดนสวรรค์ มีระบบต้านทานแรงโน้มถ่วงคอยปกป้องผู้โดยสาร
จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ
ม้าเพกาซัสเหล่านี้ทำหน้าที่คอยฉุดลากตู้โดยสาร
เหมือนกับเครื่องประดับของคนรวยที่คนอื่นๆ ไม่มีปัญญาจ่ายซื้อ
เพกาซัสต้องฉุดลากอยู่ข้างหน้ายานโดยสารที่เลิศหรูอยู่หลายชั่วโมงแสดงอาการเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย
โชคดีที่เอลฟ์ทองอย่างลีนให้ความรู้สึกที่ดีและดูแลเพกาซัสเป็นอย่างดี...
ถ้าเปลี่ยนเป็นเจ้าอ้วนไห่
เขาคงต้องการควบม้าและบังคับให้มันบินเร็วอย่างลมพัดอย่างเดียว
อย่างไรก็ตามรถม้าเลิศหรูนี้เช่ามาจากอาณาจักรหลิงหวิน
จะต้องเอากลับไปคืน มิฉะนั้นจะต้องโดนหักค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงติดตามจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนเพื่อฝึกฝนต่อไป อี้หนานและเย่ว์ปิง ลี่เยี่ยนและจุ้ยมาวอวี้
(สาวขี้เมา) ยังคงฝึกฝนอยู่ที่ประตูเป็นตายไม่ได้มาเที่ยวแดนสวรรค์ด้วยในครั้งนี้ มีแต่เย่ว์หวี่ที่เย่ว์หยางรบเร้าฉุดดึงมาด้วย
แต่นางยินดีอยู่ในโลกคัมภีร์คอยช่วยเย่ว์หยางจัดสิ่งของต่างๆ
และนางไม่ปรากฏตัวออกมาภายนอก
เย่ว์หยางนั่งอยู่ในรถม้าโดยสารส่วนที่หนึ่งกำลังเขียนภาพประตูแดนสวรรค์จากความทรงจำ
ถ้าไม่วาด
ก็คงไม่รู้ เมื่อเย่ว์หยางวาดทำเครื่องหมายเสร็จเกือบทั้งหมด
เขาพบว่าสุสานที่ฝังนักรบแดนสวรรค์กลายเป็นภาพสนามรบเลือนลาง
สะท้อนกับประตูเทเลพอร์ตของชายขอบแดนสวรรค์ ได้ขนาบคลุมประตูแดนสวรรค์ไว้
นอกจากนี้เย่ว์หยางยังคาดว่าภายใต้นั้นจะต้องเป็นวงเวทอักษรรูนขนาดใหญ่
เมื่อนักรบบุกเข้ามา
มันจะเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
นอกจากมีเสียงเตือนแล้ว
ยังมีพลังกฎสวรรค์คอยกดหรือผนึกผู้บุกรุก
เย่ว์หยางอยู่ในช่วงสืบค้นประตูแดนสวรรค์
อาหงยื่นมือเข้ามาโอบไหล่เขาบีบนวดเบาๆ รอคอยคนรักเหมือนภรรยาที่ดี
เจ้าอ้วนไห่กังวลเกี่ยวกับเย่คง
ฟ่านหลุนเถี่ย หลิวเย่ เซี่ยอี เป่าเอ๋อและสี่สาวเผ่าคิวบัวร์
ที่ด้านข้างมีฮุยไท่หลางและทอเรนเลโอ
พวกเขาระมัดระวังและลงไปยืนบนพื้นถนนเหนือใต้ของเมืองลี่จ้าว เพราะถนนเป็นเส้นตรง
จึงสามารถเห็นเกาะลอยฟ้าสะท้อนแสงขาวอยู่ลิบๆ
ซึ่งนั่นก็คือเกาะสุริยันต์เป็นสถานที่ชุมนุมของเหล่านักสู้ และเป็นจวนที่พักของเจ้าเมืองลี่จ้าว
และตามระเบียบจะมีทหารสองกองลาดตระเวนไปตามถนนเส้นเหนือ-ใต้
ค่ายทหารทั้งสองข้างทางถูกเปลี่ยนไปเป็นร้านค้ามีสินค้าอยู่ภายในดูลานตาไปหมด
เนื่องจากการคมนาคมสะดวกและอุดมไปด้วยแหล่งแร่
ประชาชนท้องถิ่นจึงมีความเป็นอยู่ที่ดี
มีสินค้าฟุ่มเฟือยหมุนเวียนเข้ามาในตลาดผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พ่อค้านักธุรกิจเมื่อได้ทราบข่าว ต่อให้อยู่ไกลถึงแดนสวรรค์ใต้
ก็ต้องมาดูที่นี่ให้ได้
“ดูสิ, มีร้านขายอสูรที่นั่น”
ฟ่านหลุนเถี่ยไม่ได้ให้ความสนใจของจุกจิกข้างทาง
งานอดิเรกของนางคือสะสมอาวุธและเดินชมร้านอสูร แน่นอนว่าเบื้องหลังการตัดสินใจเช่นนั้นเพราะเย่ว์หยางตัดสินใจซื้ออสูรปราณฟ้าให้ทุกคน
ฟ่านหลุนเถี่ยเป็นทอเรนสตรี แม้ว่าในสงครามครั้งก่อนจะทำให้นางมีความก้าวหน้าอย่างมาก
แต่นางยังมีความรู้สึกว่าพลังของนางยังมีไม่พอและมีส่วนร่วมในกลุ่มน้อย ดังนั้นนางต้องการทำสัญญาดีๆ
กับอสูรระดับปราณฟ้า
กลุ่มพวกเขาพูดคุยหยอกล้อและเข้าไปในร้านอสูรขนาดใหญ่
ชื่อว่าเสริมศักยภาพ
แตกต่างจากร้านอสูรของหอทงเทียน
ร้านเสริมศักยภาพนี้ดัดแปลงมาจากค่ายทหารเก่า นอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่ มีการเปิดใช้ห้องใต้ดินเพื่อขายอสูรเต็มวัย
การขายอสูรเต็มวัยในหอทงเทียนค่อนข้างหายาก
เพราะอสูรเต็มวัยถึงแม้ว่าจะมีพลังน่ากลัว
แต่ศักยภาพที่มันมีไม่ต่างจากเด็กวัยเรียนรู้
นอกจากนี้อสูรเต็มวัยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเจ้านายใหม่ มันมีความคิดเป็นของตนเอง และถ้ามันยังมีพลังรบที่ด้อย
ความภักดีซื่อสัตย์ก็ยังเป็นปัญหา
ดังนั้นในหอทงเทียนคนจึงนิยมซื้อลูกอสูร ยิ่งเป็นไข่อสูรก็ยิ่งเป็นที่นิยม
ในทางตรงกันข้าม
ไข่อสูรกองพะเนินโดยตรง แทบไม่มีบัญชีแยกประเภท
ไข่อสูรในหอทงเทียนผ่านการทดสอบและประเมินในรูปแบบแตกต่าง
จากคุณลักษณะที่นักรบเห็นด้วย และบันทึกบัญชีแยกขาย
ไข่ที่ขายในร้านเสริมศักยภาพนี้ตั้งขายเหมือนกับร้านขายไข่ในตลาด
“ไข่เหล่านี้ขายยังไง?”
ฟ่านหลุนเถี่ยยิ้มสดใส ไข่อสูรตั้งมากมาย
บางทีอาจมีอสูรที่เหมาะสมตราบเท่าที่ฝึกฝนให้ดี อาจจะมีอสูรปราณฟ้าอยู่ด้วย คนอื่นไม่กล้าพูดเช่นนั้น แต่เย่ว์หยางมีทักษะในการดูไข่อสูรว่าเป็นอสูรชนิดใด ต่อให้เย่ว์หยางเองหลับตา
เขาก็สามารถเลือกได้ไข่คุณภาพสูง
“โอว, นี่ดูเหมือนว่าไม่เลวนะ” เป่าเอ๋อชี้ไปที่ไข่สีเทา
แต่สัญชาตญาณเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ไม่ควรแน่ใจเกินไป
มีเด็กนำโชคอย่างเป่าเอ๋อ
คาดว่าน่าจะได้ของยอดเยี่ยมมาบ้าง
สายตานางอาจไม่ดี แต่นางมิอาจไม่เสี่ยงโชค
อัตราความสำเร็จในการซื้อไข่อสูรกับนางที่เป็นรองเพียงเย่ว์หยาง
รับประกันได้ว่าสำเร็จ
พนักงานบริการที่กำลังพูดคุยหัวเราะกับสหายเห็นฟ่านหลุนเถี่ยไม่เดินไปดูสัตว์อสูรโตที่ห้องขังใต้ดิน
แต่กลับเดินไปดูที่ไข่อสูรที่ไม่มีค่อยมีราคา เขาค่อยๆ ทำหน้าไม่พอใจ
แม้แต่สีหน้าของเขาก็ยังแสดงอาการดูถูก นี่ต้องเป็นปีศาจยากไร้สองตนแน่นอน
ถ้าเป่าเอ๋อชี้ไปที่ไข่มังกรขนาดใหญ่
บางทีสีหน้าของเขาอาจจะดีขึ้น
แต่ไข่ที่เป่าเอ๋อชี้นั้นแทบจะคล้ายกับกระเรียนหงอนเทาของเมืองลี่จ้าว
นี่เป็นอสูรบินระดับต่ำที่แทบไม่มีพลังรบเลย
แม้แต่ทหารรับจ้างชั้นสวะก็ยังไม่ชอบอสูรแบบนี้ ร้านเสริมศักยภาพรับไข่นี้ไว้เพราะลูกมังกรสายฟ้าและสุนัขนรกอัสนีบาตชอบกินนกกระเรียนหงอนเทาเป็นอาหาร
นกกระเรียนหงอนเทาโตเร็วและขยายพันธุ์ได้เร็ว ก็คล้ายกับกระต่ายป่า แม้แต่พวกทหารรับจ้างก็ยังให้ชื่อพวกมันว่ากระต่ายบิน
ตามปกติในป่าคนจะล่ามันเอาเนื้อมาเป็นอาหารอยู่แล้ว
อสูรสวะอย่างนั้น
อีกฝ่ายหนึ่งยังบอกว่าไม่เลวงั้นหรือ?
นี่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ
12 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ไม่รู้จักเปาเอ๋อ "เทพธิดาน้อยเเห่งโชคลาภ" สะเเล้ว!!! เดี๋ยวเจอ!!!!!!
ของคุณครับ
คุณสมบัตินกคล้ายในเรื่องผู้กล้าโล่เลยถ้าให้ผู้กล้าเลี้ยงจะกลายเป็นพันธ์ุราชินี
คุณสมบัตินกคล้ายในเรื่องผู้กล้าโล่เลยถ้าให้ผู้กล้าเลี้ยงจะกลายเป็นพันธ์ุราชินี
ขอบคุณครับ
ยืมเงินล้าน มีปัญญาคืนเหรอเนี่ย
ขอบคุณครับ
หาอ่านได้ที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น