วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 788 ความเจ็บปวดเลื่อนระดับทักษะหกรับรู้


ตอนที่  788  ความเจ็บปวดเลื่อนระดับทักษะหกรับรู้
ผู้อาวุโสตำหนักกลางต้องการจะอวดสถานะของตนเป็นการดักคอฝ่ายตรงข้าม

คิดไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เปิดโอกาสให้เขา
นางชูดาบเทพจักรพรรดิอวี้ พลังของสนามพลังกระจายออก ทุกที่มืดลงในทันใด เมฆครึ้มกระจายตัว  มังกรฟ้าปรากฏร่างในที่สุด สายฟ้าแปลบปลาบกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า สายฟ้านับสิบสายฟาดลงพื้นล่าง  ภายใต้การควบคุมขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน สายฟ้าเหล่านั้นเชื่อมโยงและกลายเป็นเงื่อนสายฟ้ารูปดอกเหมยที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น
นี่คือเงื่อนสายฟ้ารูปดอกเหมย
ความจริงนี่เป็นการผสานพลังจนออกมาเป็นรูปเงื่อนสายฟ้า
สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์  ตรงปลายเงื่อนข้างหนึ่งถูกผู้อาวุโสตำหนักกลางกั้นไว้ได้
 “ฝีมือธรรมดา”  ผู้อาวุโสไม่เคยเห็นทักษะแบบนี้ ไม่เคยเห็นวงเวทของสายฟ้า ดูผิวเผินทำสีหน้าหยิ่งยโส แต่ลอบตกใจ คลื่นพลังของเขาถูกเร่งเร้าพลังปราณฟ้าจนถึงระดับสี่  ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่มีดาบเทพอยู่ในมือ เขาคงไม่ต้องทุ่มเทกำลังมากมาย  เพราะในสายตาของเขา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่แค่ระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น  สู้กับนักรบเตรียมปราณฟ้าด้วยพลังปราณฟ้าระดับสี่ทั้งยังเป็นสตรี ถือเป็นเรื่องน่าอดสู
ผู้อาวุโสตำหนักวาดยันต์เวทดาวหกเหลี่ยมปกป้องร่างกาย
จากนั้นควบพลังสร้างบอลพลังแสงสายฟ้า
เสียงครืนครันดังลั่น  เขายิงพลังระเบิดในมือออกไปทันที.... เขามีความมั่นใจในพลังบอลพายุสายฟ้าว่าจะทำให้วงเวทสายฟ้าที่ซับซ้อนพังสลายไปได้!
นี่คือพลังปราณฟ้าระดับสี่  แล้วพลังระดับเตรียมปราณฟ้าจะต้านทานได้หรือ? ขณะนั้นบอลพลังสายฟ้าระเบิด ผู้อาวุโสตำหนักรีบควบแน่นพลังสร้างหอกเพลิงและขว้างออกไปอย่างรวดเร็ว ตั้งใจจะฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก่อนที่เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียจะทันเข้าช่วยเหลือ
 “ร่างมังกรฟ้า”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดเนิบนาบ
สายฟ้ารูปดอกเหมยถูกสร้างโดยพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์เชื่อมกับพลังสายฟ้าบนดาบเทพจักรพรรดิอวี้ ขณะที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระชับดาบแน่นทันที
บอลสายฟ้าที่ระเบิดนั้นมีคุณสมบัดเดียวกับโซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพลังที่สมบูรณ์มากกว่า
แสงพลังพุ่งโค้งของผู้อาวุโสตำหนักแตกเป็นเสี่ยงๆ  ภายใต้โซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่พลังปราณฟ้าระดับสี่ก็ไม่สามารถต้านทานได้  ยิ่งไปกว่านั้นในดอกเหมยสายฟ้านั้น เป็นเย่ว์หยางสร้างให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแฝงไว้ด้วยอักษรรูนสวรรค์อยู่ในโซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์  ผู้อาวุโสของตำหนักกลางเห็นสถานการณ์ รอตอบโต้แล้วค่อยหนี  แต่ก็สายเกินไป สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์บิดรัดร่างเขา กระแสพลังสายฟ้าที่น่ากลัวแล่นเข้ามาในร่างของเขา  ขณะนั้นเมื่อผู้อาวุโสตำหนักกลางกลายเป็นอัมพาต องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สนใจหอกเพลิง และฟันดาบเทพใส่ทันที
หอกเพลิงถูกดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันขาดสองท่อน
และถูกดาบเทพทำลายล้างหายไปไม่เหลือ
แต่ผู้อาวุโสตำหนักตะลึงมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟาดฟันดาบลงมาอย่างน่ากลัว
โลหิตฉีดพุ่งอยู่ในท้องฟ้า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟาดฟันดาบผ่าร่างผู้อาวุโสตำหนักขนาดครึ่งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
 “ระวัง!  เย่ว์หยางร้องเตือน
 “ไปให้พ้น!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าการฆ่าผู้อาวุโสของตำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย  ร่างที่เพิ่งถูกฆ่าไปนั้น คาดว่าเป็นแค่ร่างแทนหรือเป็นตัวตายแทนของอสูร  นางขวางดาบอยู่ข้างตัว ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ถูกน้ำมาใช้เต็มที่ เมื่อนางพบว่ามีเงาบินมาที่ด้านหลังนาง นางตวัดดาบกลับหลังฟันใส่เงานั้นขาดสองส่วนทันที
 “ดาบเทพคมกล้าดีมาก  เป็นสมบัติระดับเทพจริงๆ  ใช่แล้ว!
ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร ผู้อาวุโสตำหนักแสร้งทำเป็นยืนอยู่ที่นั่น และระหว่างคิ้วจนถึงปากมีรอยเลือดหยดซึม
เมื่อครู่นี้หากไม่มีอสูรตายแทนเขาในสถานการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้  ภายใต้การผสานพลังฆ่าของดาบเทพและร่างมังกรฟ้าเป็นไปได้ว่าเขาอาจได้รับบาดเจ็บหนัก... ผู้อาวุโสตำหนักรอดพ้นจากความตายได้หวุดหวิดตกใจถึงขีดสุด  แต่ทำเป็นแสดงออกว่าไม่มีอะไร  “เด็กน้อย, อย่านึกว่าใช้ดาบเทพได้แล้วจะฆ่าเราผู้อาวุโสได้!  อาศัยเด็กน้อยสามคนอย่างพวกเจ้า ฝีมือยังห่างไกลนัก!
นิ้วของเขากระดิกเล็กน้อย ก็มีร่างเงาสิบร่างสร้างวงล้อม
เงาเหล่านั้นเข้าไปล้อมองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพร้อมกัน
ในฐานะผู้อาวุโสของตำหนัก อย่างน้อยเขาไม่กลัวการต่อสู้!  ถ้าฝ่ายตรงข้ามคนที่สองไม่ได้เข้ามาช่วยแล้ว  เขามั่นใจว่าภายในไม่กี่กระบวนท่า เขาสามารถเอาชนะสตรีนี้ได้ ทั้งเป็นไปได้ว่ายังจะชิงดาบเทพได้อีกด้วย
และมีใครที่จะเรียกอสูรออกมาสู้ได้มากเท่ากับผู้อาวุโสตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้บ้าง?   อย่าว่าแต่ต่ำกว่าระดับปราณฟ้าเลย  แม้แต่อสูรระดับปราณฟ้าผู้อาวุโสตำหนักไม่เคยขาดแคลน!
หลังจากเงาทั้งสิบออกไปสู้แล้วเขาเรียกยักษ์สายฟ้าอสูรปราณฟ้าระดับสองออกมาเพิ่มสองตน
ในช่วงเวลาที่ยักษ์สายฟ้าร้องคำรามและเริ่มต้นคุ้มกัน และอินทรีสายลมอสูรปราณฟ้าระดับสามบินขึ้นท้องฟ้าเตรียมร่วมกันเข่นฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพร้อมกับร่างเงาอีกสิบร่าง  จากนั้นเรียกผึ้งพิษที่มีร่างบางยาวพลังระดับเตรียมปราณฟ้าออกมาอีกสามสิบตัว  ที่บินเต็มอยู่ในท้องฟ้าทั้งหมดเป็นอสูรร้าย  ขณะนั้นผู้อาวุโสตำหนักชี้นิ้วไปทางองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  แสงสีเงินเร็วกว่าสายฟ้าถึงสิบเท่ายิงเป็นสายมุ่งตรงไปที่ตำแหน่งหัวใจองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ด้วยวิธีการโจมตีที่มากมายอย่างนั้น ผู้อาวุโสตำหนักไม่คิดว่านักรบระดับเตรียมปราณฟ้าจะรับมือได้
ต่อให้รับมือได้ แต่เชื่อได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องสับสนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่บอกให้เขาทราบก็คือ
เขาผิดพลาด
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบเทพบังไว้ข้างหน้าและยืมผิวดาบสะท้อนแสงสีเงิน
เกิดแรงสั่นสะเทือนบนพื้น เต่าดำขนาดมหึมาผุดออกมาจากพื้นล่าง พ่นพลังรูปดาบน้ำแข็งพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ถูกยักษ์สายฟ้าอสูรปราณฟ้าทั้งสองตน  แต่มันไม่ถูกแช่แข็ง เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของมันกลายเป็นเชื่องช้าเหมือนทากคลาน  อินทรีสายลมในท้องฟ้าที่กำลังโฉบลงมาตกใจกลัว บินกลับขึ้นไปในท้องฟ้าอีกครั้ง
นางควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้  อสูรเงาแทนตัวระดับเตรียมปราณฟ้าทั้งสิบที่บุกเข้าหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก่อนหน้านั้นถูกฟันเอวขาดสองท่อนพร้อมกัน
รูปเต่านั้นดูเหมือนจะยกศีรษะขึ้น
และพ่นไอเย็นจัดออกมา
ผึ้งธนูพิษสามตัวร่วงตกทันที ตัวที่เหลือต่างแตกกระจายหนีไป
 “ตาย!” ภาพมายาพยัคฆ์ขาวฉายกระพริบอยู่เหนือศีรษะขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  ในเวลานี้นางกลายเป็นสาวพยัคฆ์ขาวที่แข็งแกร่งที่สุด  นางกระโดดใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ฟันใส่ศีรษะของยักษ์สายฟ้า  ภายใต้การคำนวณที่แม่นยำของทักษะแฝงเร้นหกรับรู้  ดาบเทพผ่าครึ่งศีรษะและตัดเข้าผลึกปีศาจอย่างแม่นยำ จากนั้นนางหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็วและใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้แทงใส่หน้าของยักษ์สายฟ้าอีกตนหนึ่ง  ปราณกระบี่ของดาบเทพทะลวงเข้าไปในผลึกปีศาจของยักษ์อีกตนหนึ่ง
ยักษ์สายฟ้าทั้งสองหมดพลังร่วงลงกับพื้น
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังไม่หยุดเคลื่อนไหว นางกระโจนเข้าหาพร้อมกับใช้ดาบฟันใส่ผู้อาวุโสตำหนัก
 “นึกว่าข้าจะกลัวเจ้านักหรือ? ไม่มีดาบเทพ เจ้าก็ไม่มีน้ำยา!  จนถึงตอนนี้ผู้อาวุโสตำหนักยังคงคิดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพึ่งพาความคมกล้าของดาบเทพ
 “ระบำพญาหงส์”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบหมุนตัว
วงกลมที่สง่าและงดงามเหมือนพญาหงส์บินโฉบเฉี่ยวอยู่ในท้องฟ้า
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้กลายเป็นปีกที่งดงามของนาง และปราณกระบี่กระจายเต็มท้องฟ้าหมุนเป็นวง
ผู้อาวุโสตำหนักแค่นเสียงเยาะเย้ย แต่ยังรอบคอบ “ฮึ, แค่ระบำยังจะฆ่าใครได้หรือ? แค่ลูกไม้ตื้นๆ...หือ?”
ในขณะที่เขาอุทาน มีดาบเล่มหนึ่งแทงผ่านชายโครงของเขา เดิมทีดาบเล็งอยู่ที่หัวใจ แต่ภายใต้ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของผู้อาวุโสตำหนัก หัวใจสามารถหลีกเลี่ยงการถูกแทงจากดาบเทพได้ แต่กระดูกซี่โครงในร่างถูกดาบตัดไปสามซี่  เงาแห่งความตายทาบทับหัวใจของผู้อาวุโสตำหนัก เขาไม่มีเวลาพอใช้อสูรรับเคราะห์แทน แทบถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าได้ในทันที  จนถึงเดี๋ยวนี้ เขาจึงตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  ภาพระบำพญาหงส์ที่สวยงามเป็นเพียงภาพมายาตามหลังของฝ่ายตรงข้าม  ร่างจริงของศัตรูบินมาก่อนแล้วเริ่มโจมตีเขาอย่างรุนแรง
โชคดีที่นางมีพลังเพียงระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น
มิฉะนั้นดาบนี้จะต้องเอาชีวิตของเขาได้อย่างแน่นอน!
ถ้านางมีพลังมากและนิ่งในชั่ววินาที  เรื่องคงจบลงแล้ว
ผู้อาวุโสตำหนักที่เกือบจะตายรู้สึกโกรธและอาย  ร่างของเขาเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเขาระเบิดปลดปล่อยพลังเต็มที่ ขณะที่หลุดพ้นจากดาบเทพ เขาตวัดกรงเล็บตะปบที่ศีรษะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เผียะ เผียะ เผียะ!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนซ้อมฝีมือกับเย่ว์หยางไม่รู้ต่อกี่หมื่นครั้งแล้ว นางมีวิชาต่อสู้ระยะประชิดสูงส่งกว่าเสวี่ยอู๋เสีย  ถ้าผู้อาวุโสตำหนักกลางใช้พลังเข้าเผชิญหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงสู้ตามปกติ  แต่เมื่อเทียบในทักษะสู้ระยะประชิด เขาจะถูกกำจัดเพราะความถือดี!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมุนตัวเตะท้องน้อยของผู้อาวุโสตำหนัก นางเตะกวาดเท้าจนผู้อาวุโสหัวทิ่ม พร้อมกับตวัดปราณกระบี่ใส่ท้อง หน้า คอและหน้าของผู้อาวุโสตำหนัก
ผู้อาวุโสตำหนักเจ็บปวดปล่อยมือลง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตวัดศอกเข้าที่จมูกผู้อาวุโสวิหาร และใช้ดาบฟันใส่หน้าของผู้อาวุโสตำหนัก
ผมสองสามเส้น ใบหูครึ่งหนึ่งถูกดาบตัด... เพราะดาบศักดิ์สิทธิ์ทำให้ผู้อาวุโสหนีห่างออกไปสองสามกิโลเมตร เขาลูบจมูกและพบว่ามือของเขาเต็มไปด้วยเลือด.. ถึงตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่านักดาบหญิงผู้นี้ฝีมือดาบยังไม่เด่นนัก แต่การสู้ระยะประชิดจัดว่ายอดเยี่ยม
 “ไม่เลว, ค่อยน่าสนใจขึ้นมาบ้าง”  ผู้อาวุโสตำหนักกลางยิ้มได้ไม่กังวลใจแม้แต่น้อย
ขณะที่เขาพูด ร่างของเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
เขากลายร่างเป็นปีศาจหกตา เขาเป็นรูปสามเหลี่ยม สี่แขนและมีปีกคู่หนึ่ง หูที่ถูกตัดและจมูกที่มีรอยแผลหายไปหมด ร่างที่ถูกดาบเทพแทงบาดเจ็บหนักรักษาตัวอย่างรวดเร็วมองเห็นด้วยตาเปล่า ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที การกลายร่างเป็นปีศาจทำให้ผู้อาวุโสตำหนักฟื้นฟูพลังเต็มที่เหมือนตอนแรกเริ่ม
มองดูผิวเผินเหมือนกับว่าไม่เคยถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำร้ายบาดเจ็บ
สุดท้ายเขาก็ยังหลงตัวเองดึงกระจกออกมาส่องดูภาพตนเองและยิ้มให้กระจก
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยากอาเจียนยิ่งนัก  เจ้าผู้นี้รอดอยู่ในแดนสวรรค์ได้ยังไง?  ทั้งยังปะปนเป็นผู้อาวุโสตำหนัก  เทียบกันแล้วเฮยหู (ผู้อาวุโสแดนสวรรค์ที่เย่ว์หยางฆ่าตอนมาแดนสวรรค์ครั้งแรก) ดูดีกว่ามาก!
เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียมองหน้ากันเองและรู้สึกว่าผิดปกติเล็กน้อย
พวกเขาเตือนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้ระวังตัว
ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนกรานจะท้าสู้เองก่อน เย่ว์หยางคงวิ่งไปฆ่าเจ้าปีศาจที่หลงตัวเองนี้เสียแล้ว ปกติแล้วเย่ว์หยางรู้ว่าการเลื่อนระดับพลังให้เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นเรื่องสำคัญมาก  พลังรบของพวกนางจะส่งผลต่อชัยชนะและพ่ายแพ้ในอนาคต  การส่งเสริมพวกนางให้มีพลังแข็งกล้า และเข้าใกล้การท้าทายพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น  อีกอย่างการฝึกฝนแบบคู่รักสามารถช่วยเพิ่มระดับพลังได้  แต่ถ้าพวกนางมีพลังระดับปราณราชันย์  เย่ว์หยางยังต้องกังวลกับการบรรลุพลังปราณราชันย์ด้วยหรือ?  นอกจากนี้เขายังไม่สามารถเรียกคัมภีร์เทพฤทธิ์ออกมาใช้ได้ นั่นยังเป็นเรื่องน่าปวดหัว?
 “ก่อนหน้านี้ ข้าไม่รู้จักพวกเจ้า ก็เลยปล่อยให้เจ้าผยองอวดดีเล็กน้อย  อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความหมายอะไรนัก  ตรงกันข้ามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวที่น่าสมเพชของพวกเจ้า”  หลังจากที่กลายเป็นปีศาจแปลกประหลาด ก็ยังแค่นเสียงเหยียดหยามเหมือนตอนเป็นผู้อาวุโสที่น่ารังเกียจ  “จะให้เจ้าได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของข้า! หลังจากเจ้าได้เจอพลังที่ยิ่งใหญ่ของข้า  เจ้าจะต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แน่นอน!  กับคนที่เป็นศัตรูต่อต้านข้า จะต้องประสบเคราะห์ร้ายอย่างแน่นอน!
 “.....” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่พูด กระชับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ไว้แน่ เตือนให้ศัตรูระวังป้องกัน
 “กระจกวิเศษ! บอกข้าเถิด ตาทำหน้าที่อะไร?”  ผู้อาวุโสตำหนักหลงชื่นชมตนเองในกระจกวิเศษ
เย่ว์หยางแทบทนอาเจียนไม่ได้
ถ้าเป็นหญิงงามยังพอทำเนา เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงามใช้กระจกก็คงพอโชคดี แต่ปีศาจอัปลักษณ์ใช้กระจกหลงเงากระจกเห็นแล้วพาลขนลุก  เสวี่ยอู๋เสียไม่สนใจอารมณ์ขันของเย่ว์หยาง นางแผ่สำนึกศักดิ์สิทธิ์คลุมสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ ลอบปกป้ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เพื่อไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
นางกับเย่ว์หยางตัดสินใจผิดพลาด  ถ้าผู้อาวุโสตำหนักโจมตี ไม่เพียงแต่เสวี่ยอู๋เสีย  แต่เป็นเย่ว์หยาง เขาจะขัดขวางเพราะกลัวว่าองค์หญิงเชี่ยนจะไม่สามารถผ่านบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาไม่ยินยอมให้นางตกอยู่ในสถานะอันตราย
แต่ผู้อาวุโสตำหนักไม่ได้โจมตีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เขาเหยียดนิ้วและลูบหน้าตนเองเบาๆ จากนั้นควักตาออกมาทันใดพร้อมกับโลหิตที่ฉีดพุ่ง
 “กรี๊ดด!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่นางหลับตา  แม้ว่ามองผิวเผินนางไม่ได้รับบาดเจ็บ  แต่ตาของนางเป็นเหมือนมีอาการเจ็บลึกอยู่ภายใน  น้ำตาไหลพราก นางไม่อาจลืมตาได้  ดวงตาได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากนางมีทักษะหกรับรู้จึงทำให้นางเจ็บปวดมากกว่าคนธรรมดา  แต่นางว่องไวแต่ไม่วุ่นวาย นางหลับตาดาบเทพจักรพรรดิอวี้คุ้มครองร่างป้องกันการโจมตีที่คาดไม่ถึงของศัตรู
 “เดรัจฉาน! ข้าจะฆ่าเจ้า!  เย่ว์หยางโกรธจัดต้องการใช้ดาบฟาดฟันศัตรูในดาบเดียว แต่ว่าเกิดจากความกังวลคนรักของเขา แต่เขาบินเข้าไปกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้ แม้ว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็ตาม
 “ใจเย็นก่อน” เสวี่ยอู๋เสียไล่ตามเย่ว์หยางที่โกรธจนแทบคลั่ง
นางวิเคราะห์อย่างใจเย็น “ทักษะแฝงเร้นของเจ้าผู้นี้ก็คือ สะท้อนอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าเขาจะทำร้ายตัวเองหรือเราโจมตี เชี่ยนเชี่ยนจะได้รับบาดเจ็บ  ความจริงเราควรรู้ในเรื่องนี้ อย่าเพิ่งแตะต้องเขาก่อน  เราควรพาเชี่ยนเชี่ยนหนีไปจากที่นี่ ทักษะแฝงเร้นและความสามารถของเขาควรจะมีกำหนดระยะห่าง!
เย่ว์หยางต้องการกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้  แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับดิ้นหลุดและโบกมือห้าม “ไม่มีอะไร ข้าแค่เจ็บตาเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บจริง เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะถือโอกาสใช้ทักษะหกรับรู้ ต่อให้ข้าไม่มีตา ข้าก็สู้ได้...  ในอนาคตเราจะพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าข้าไม่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้ ต่อไปในอนาคต ข้าจะทำอะไรได้?  เจ้าถอยไปก่อน ตราบใดที่ไม่ใช่การเจ็บทางกายจริงๆ มันก็แค่เจ็บปวดทางจิต นี่ไม่มีอะไร ข้ายังสู้ต่อไปได้  ให้ข้าลองอีกครั้ง  ขอเวลาข้าสักหนึ่งนาที!
เมื่อเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแพ้  เขาได้แต่ส่งเสริมความตั้งใจนาง
เสวี่ยอู๋เสียและเย่ว์หยางไม่มีทางเลือก ได้แต่เห็นด้วย
ความจริงตาขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน แต่ใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราว และเป็นการเจ็บปวดทางวิญญาณราวกับถูกควักดวงตา  “ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ของข้าไม่ได้ยกระดับมาเป็นเวลานานแล้ว วันนี้ได้โอกาสเสียที!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวด ปล่อยให้น้ำตานองหน้า  แต่กางมือทั้งสองออกเหมือนจะสัมผัสรับรู้ที่ยังเหลืออีกห้าโอบกอดฟ้าและดินไว้  นางมีลางสังหรณ์ว่าถ้านางสามารถต่อสู้ภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้ เชื่อได้ว่าทักษะแฝงเร้นหกรับรู้จะต้องยกระดับอย่างแน่นอน  แม้ว่าจะเจ็บปวดจนถึงจุดเปลี่ยนแปลงได้ แต่โอกาสยกระดับพลังรออยู่ข้างหน้า  เพื่อเป้าหมายในใจ เพื่อไล่ตามคนรักที่ก้าวหน้าห่างไกลนางออกไปทุกทีให้ทัน
นางตัดสินใจสู้ต่อไป!

7 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

nutzido กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

บักซาดซัว กล่าวว่า...

โห พัฒนาไวมาก คนรุ่นก่อนๆกว่าจะมาถึงเตรียมปราณฟ้าได้ใช้เวลาตั้งหลายร้อยปี องค์หญิง ใช้เวลาพัฒนาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ไวมากจริงๆ รู้สึกเคืองๆใจ

แสดงความคิดเห็น