วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 881 พญามังกรฟ้าผู้ยิ่งใหญ่


ตอนที่  881  พญามังกรฟ้าผู้ยิ่งใหญ่
กำไลข้อมืออสูรยังจะต้องศึกษาค้นคว้ากันต่อไป  แม้ว่าทิศทางศึกษาจะมาถูกต้อง  แต่ก็ยังมีหนทางอีกยาวไกล

แต่ก่อนจะได้ผลสรุปที่ชัดนั้น เย่ว์หยางไม่กล้ารบกวนจักรพรรดิหัวซิ่วรี่อีก
คาดว่าฝ่าบาทคงไม่พิโรธเกินไป
มิฉะนั้นคงไม่ทำแค่ยันเย่ว์หยางจนปลิวออกมาเท่านั้นเป็นแน่
แม้ว่าจะมีพลังจักษุทิพย์ แต่เย่ว์หยางก็รู้ว่า อะไรคือเรื่องไร้สาระ เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นเงาร่างวุ่นวายสับสนภายนอก
เดิมทีเย่ว์หยางต้องการพักอยู่อย่างสงบเสงี่ยมทำการค้นคว้าสักสองสามวันเพื่อให้ได้ผลการค้นคว้าที่ดี  แต่อาจารย์จิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามาฉุดลากเขาออกไปข้างนอก  ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการประชาสัมพันธ์กองกำลังอัศวินมังกร  ดังนั้นจะขาดเย่ว์หยางไปได้อย่างไร?
เวลาพลบค่ำในวันต่อมา
 “นั่นอะไร?”
 “นั่นดูคล้ายเมฆดำ  แต่เคลื่อนไหวแปลกมาก”
 “นั่นไม่ใช่เมฆดำแน่นอน หรือว่าจะเป็นนก, โอว..พระเจ้า ไม่ ไม่ใช่นก นั่นคือมังกรบินที่ซ่อนอยู่ในท้องฟ้า”
ทหารรับจ้างที่พักอยู่ในจัตุรัสใหญ่นอกหอทงเทียนพบเห็นเมฆดำกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาทีละนิด ในที่สุดก็รู้ว่านั่นเป็นมังกรบินจำนวนหลายพัน มังกรบินแทบทุกสายพันธุ์บินอยู่ในท้องฟ้า  แม้ว่าพวกมันไม่มีความคิดจะโจมตี  แต่พวกทหารรับจ้างก็หวาดกลัวจนแทบปัสสาวะราดกางเกง  มังกรบินที่สามารถฆ่ากลุ่มทหารรับจ้างได้ จะมีสักกี่ตัว?  มีมากเกินกว่าจะคำนวณได้ อย่างน้อยก็หมื่นตัว  ถ้าพวกมันต้องการโจมตี  คาดกันว่าเมืองใหญ่หรือแม้แต่ประเทศก็อาจถูกทำลายได้โดยตรง  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ฝูงมังกรบินเกือบหมื่นตัวนี้  มีอยู่หลายร้อยตัวเป็นจ้าวมังกรบินระดับทอง
จ้าวมังกรทองบินเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นอสูรชั้นทองเท่านั้น  แต่หลายตัวมีสติปัญญาอย่างต่ำพอๆ กับมนุษย์ มีพลังเทียบเท่ากับนักรบปราณก่อกำเนิด
มังกรบินแถวหน้ามีอัศวินขับขี่อยู่บนหลัง
ไม่ว่าผู้ใหญ่และผู้เยาว์
ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี
เกือบทั้งหมดเป็นนักรบสตรีที่แข็งแกร่ง
พวกหัวหน้าทหารรับจ้างหลายคนจำนักรบสตรีเหล่านี้ได้ว่าพวกนางคือมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ บริวารของคุณชายสาม  เป็นสตรีที่แข็งแกร่งทรงพลัง แต่มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
พวกนางทรงพลัง แต่เป็นเหมือนทาสแรงงานที่ไม่ชอบดิ้นรนต่อสู้
อย่างไรก็ตาม พวกนางเพียงแต่จดจำว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นเจ้านายคนหนึ่ง  นอกจากคุณชายสามแล้ว ทั่วทั้งหอทงเทียนไม่มีผู้ใดสั่งพวกนางได้.....
นักรบสตรีผู้สวมมงกุฏขับขี่จ้าวมังกรพิษก็คือราชินีซิก
ที่อยู่ไม่ไกลจากราชินีซิก มีบัณฑิตคนหนึ่งอยู่บนหลังมังกรพลาสมา  ทหารรับจ้างจำได้ว่าเขาคือสุ่ยตงหลิวผู้อำนวยการสถาบันฉางชุนเฉิง เขาคือปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้เพิ่งจะกลายเป็นเสาหลักของพันธมิตรปราณก่อกำเนิดเมื่อไม่นานนี้  มีบางคนจำได้ว่าเขาเป็นครูของคุณชายสามตระกูลเย่ว์
บัณฑิตสุ่ยตงหลิวผู้นี้แม้ว่าจะไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน  แต่เขามีพลังที่ไม่ธรรมดา มีภูมิปัญญากว้างขวางดุจทะเล
ผู้เยาว์ที่โดดเด่นของหอทงเทียนอย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์, เสวี่ยทันหลาง, เหยียนพั่วจวิน, ฟงชิซา, ไห่ต้าฟู่, เย่คง, หลี่ชิว, หลี่เกอ ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นศิษย์ของเขา
 “โอว!
ขณะที่ทหารรับจ้างมองขึ้นมาบนท้องฟ้า กำลังคิดว่าใครคือผู้นำใหญ่ในวันนี้
ที่จุดสูงสุดของท้องฟ้ามีเสียงมังกรตัวหนึ่งคำรามขึ้น
มีจุดสีดำพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
สายลมพัดกระโชก
มีพลังกดอากาศชนิดหนึ่งที่ไม่มีใครแทบทนได้  ทหารรับจ้างในที่นั้นรู้สึกได้ พวกเขารู้สึกว่าหายใจแทบไม่ออก
ปีกมังกรที่สยายกางออกมีขนาดสามสิบเมตร ใหญ่กว่ามังกรบินธรรมดากางปีกต่อกันถึงสามตัว   เกล็ดสีทองเป็นประกายสะท้อนจนลืมตาไม่ขึ้น เสียงคำรามดุจฟ้าร้องดังมาจากท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งสร้างความยำเกรงให้กับมังกรบินนับหมื่นตัว มังกรทองยักษ์ปราณฟ้าชั้นแพลตตินัมระดับสิบบินออกมาจากใต้ก้อนเมฆ.... เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่ทวีปมังกรทะยานไม่มีอสูรชั้นจักรพรรดิอย่างนี้  นอกจากมังกรบินเกือบหมื่นตัว ยังมีมังกรทองยักษ์อีกหนึ่งตัวด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้ขับขี่อยู่ด้วย
ทั่วทั้งทวีปมังกรทะยานใครกันเล่าที่สามารถขับขี่มังกรทองอสูรปราณฟ้าได้?
แน่นอนว่าต้องเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์  นอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว ใครอื่นจะมีพลังขนาดนั้นได้เล่า?  นอกจากคุณชายสาม ใครจะมีคุณสมบัติเช่นนี้
 “นั่น นั่น นั่น....”
 “มังกรยักษ์  มังกรทองยักษ์จริงๆ!
พวกทหารรับจ้างและหลายๆ คนส่งเสียงดีใจ แต่ก็กังวลว่าเสียงของตนจะเป็นการไม่แสดงความเคารพต่อเหล่านักสู้
ทันทีที่มังกรระดับปราณฟ้าปรากฏ  มังกรบินเกือบหมื่นตัว ก็แยกตัวและจัดขบวนทันที และก้มหัวเพื่อแสดงความคารวะ
มนุษย์มังกรแดนสวรรค์ซึ่งขี่อยู่บนหลังของมังกรบินพากันมองดูเย่ว์หยาง ทุกคนล้วนหลั่งน้ำตา
พญามังกรฟ้า นี่คือจักรพรรดิมังกรฟ้าในใจของพวกนาง
พวกนางชูดาบตะโกนพร้อมกัน
เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งเพื่อแสดงการคารวะต่อเจ้านายและการกลับมาของตำนานนับตั้งแต่เวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคน
จักรพรรดิมังกรฟ้ากลับมาแล้ว!
เดิมทีเขาหายสาบสูญไปกับตำนาน แต่วันนี้เขากลับมาด้วยรูปลักษณ์ใหม่  เขากลับมาแล้ว!
เสียงตะโกนโห่ร้องของมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ดังผสานพร้อมกับเสียงของมังกรบิน เสียงนั้นดังสนั่นสั่นสะเทือนไปไกลถึงเก้าไมล์  ที่เบื้องล่างอสูรทั้งหลายจะไม่บินต่อหน้ามังกรทองของคุณชายสามตระกูลเย่ว์  พวกมันจะลงสู่พื้นอัตโนมัติเพื่อแสดงความเคารพยำเกรงสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขามนี้
พวกมันไม่มีศักดิ์ศรีพอจะแสดงความเคารพต่อสุดยอดฝีมือข้างหน้าได้โดยตรง
เพราะจักรพรรดิที่พวกมันเคารพ เป็นแค่เพียงพาหนะของสุดยอดนักสู้ข้างหน้านี้
พวกพ่อค้าและกรรมกรทั่วไปที่อยู่บนภาคพื้นดินต่างหวาดกลัวจนเข่าอ่อน ภายใต้อำนาจมังกรที่น่ากลัว  พวกเขาหวาดกลัวเมื่อมังกรเหล่านั้นกวาดตามองมาทางพวกเขา พวกทหารรับจ้าง และทหารอาชีพยังดีกว่าเล็กน้อย  พวกเขาคุ้นชินกับการต่อสู้เสียเลือดเนื้อเป็นอย่างดี  แม้จะค่อนข้างกลัวแต่ตื่นเต้นมากกว่า ทหารรับจ้างนับไม่ถ้วนอดคุกเข่าลงไม่ได้ แสดงความเคารพต่อบุรุษหนุ่มผู้ยืนอยู่บนหลังมังกรทองปราณฟ้า
แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้?
นี่นักสู้จริงๆ  เขาคือนักสู้ที่แท้จริง
ผู้คนแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า มังกรทองส่องประกายระยิบระยับในยามอาทิตย์ใกล้อัสดงค์
บุรุษผู้ไม่มีใครรู้จักนี้มีรัศมีรายล้อม บางทีเขาอาจเป็นเทพเจ้าในตำนาน ไม่, ไม่ใช่อย่างนี้!
 “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ขับขี่มังกรทองยักษ์อสูรปราณฟ้าเหมือนกับจักรพรรดินำพามังกรบินนับหมื่นมายังหอทงเทียนและตรงมาที่อาณาจักรต้าเซี่ย”
 “จักรพรรดิต้าเซี่ยจุนอู๋โหย่วลงไปต้อนรับทุกคนด้วยพระองค์เอง”
 “นักสู้สี่ตระกูลใหญ่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง  ตระกูลใหญ่ร่วมร้อยตระกูลเข้าร่วมยินดี!
ข่าวด่วนแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง  ในทันใดนั้นแทบทุกเมือง ร้านเหล้าและสถานที่สาธารณะทั้งหมดต่างพูดคุยกันถึงข่าวที่สั่นสะเทือนโลกนี้ ข่าวลือนั้นไม่เป็นเท็จ ไม่ได้พูดเกินจริงจนเกินไปจากประกาศจองสมาคมใหญ่ทั้งสาม  สมาคมนักรบ สมาคมทหารรับจ้าง สมาคมขโมย (จารกรรม) ล้วนเป็นข่าวเดียวกันทั้งหมดว่า  คุณชายสามตระกูลเย่ว์เตรียมก่อตั้งกองกำลังอัศวินมังกร  ไม่จำกัดบุรุษ สตรี ไม่จำกัดสถานะ และอายุ ขอเพียงแต่เพื่อให้ได้พัฒนาศักยภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น
แทบทุกร้านเหล้าล้วนมีคำขวัญประชาสัมพันธ์ของสามสมาคมใหญ่ติดไว้ที่ประตูทางเข้า
มาเข้าร่วมเป็นอัศวินมังกรกันเถอะ  ยังจะรอช้าอะไรอยู่อีก?
คนมีฝีมือดีต่อไปอาจเป็นท่านก็ได้!
ท่านอาจไม่รู้ว่าท่านมีศักยภาพมากมายเพียงไหน  ท่านอาจไม่รู้ว่าขอบเขตความสำเร็จของพวกท่านจะมีได้ขนาดไหน  แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ  ตราบใดที่ท่านพร้อมจะก้าวเท้าออกมา ท่านจะมีชีวิตที่ฝันใฝ่มานาน  อย่ามัวลังเลต่อไป  ตราบใดที่พวกท่านมีปณิธาน คุณชายสามจะมอบทุกอย่างให้ท่าน
ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่น้อย ตราบใดที่ท่านมีจิตใจที่กร้าวแกร่งตลอดไป อย่างนั้นท่านอาจจะเป็นอัศวินมังกรคนต่อไป หรือเป็นนักรบเลือดมังกรก็ได้!
ถ้าท่านไม่มีความทะเยอทะยาน ทำไมไม่ให้ลูกหลานของท่านลองดูเล่า? อัศวินมังกรคนต่อไปอาจจะเป็นลูกหลานของท่านก็ได้!
พ่อแม่บุพการีย่อมหวังให้ลูกหลานเติบโตประสบความสำเร็จ  เส้นทางที่ดีที่สุดอยู่เบื้องหน้าท่านแล้ว!
ลูกๆ ของพวกท่านต้องการโอกาสนี้
……

ที่สาธารณะทุกแห่งมีประกาศโฆษณาเชิญชวนนี้ให้พบเห็น
ต้องบอกว่าถ้าไม่มีใครตื่นเต้น นั่นเป็นเรื่องผิดปกติแน่นอน
ไม่มีใครเคยมองว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ใจกว้างให้ทุกคนทดสอบศักยภาพฟรี แต่ไม่ได้บอกว่าจะมอบเกียรติยศและมังกรบินให้  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไม่เคยมีคนที่มอบโอกาสให้กับคนธรรมดาได้ลุกขึ้นยืนหยัดเหมือนกับเขา
ต่อให้ตนเองไม่สามารถเป็นอัศวินมังกรที่ยิ่งใหญ่ แต่ลูกหลานของพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในนั้นได้!
ความจริงการได้เป็นอัศวินมังกรยังไม่อาจเชื่อได้ แต่ใครเล่าจะเห็นใจสามัญชนผู้ดิ้นรนเอาตัวรอดจากระดับล่างได้เล่า? ใครจะให้โอกาสแก่เหล่าทหารรับจ้างผู้มีชีวิตเสี่ยงตายบ้างเล่า? ใครเล่าจะให้โอกาสและดูแลผู้ลี้ภัยผู้รอคอยความตายอยู่ในชุมชนแออัดเล่า? ตั้งแต่เกิด ยกเว้นแต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์  ใครจะให้โอกาสพลิกผันชะตาชีวิตเล่า? ใครจะทำอย่างนี้ได้?
ไม่มีใครอื่น มีแต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น
มีแต่เขาเท่านั้น...
ทวีปมังกรทะยานไม่เพียงแต่มีบรรยากาศของวิชาการต่อสู้เท่านั้น  แต่ยังมีความต้องการอยู่รอด ความเชื่อในโชคชะตา และอื่นๆ ทั้งหมดปะทุขึ้นเหมือนภูเขาไฟระเบิด
ใครก็ตามที่เดินอยู่บนถนนสามารถเห็นได้ว่าแต่ก่อนนี้มีการสัญจรไปมาอย่างไร้ชีวิตชีวาไม่มีสง่าราศี แต่ตอนนี้ประกายความหวังเปล่งขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของเขา
ท้องพระโรงใหญ่ พระราชวังต้าเซี่ย
 “ท่าน จะเอาข้าไปขึ้นเวทีอย่างนี้ ข้าไม่เห็นด้วย  ข้าไม่มีเวลาว่างถ้าท่านจะให้ทำอย่างนี้”  เย่ว์หยางไม่ได้ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาคิด  เขาอึดอัดใจมากเพราะจุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่รู้สึกดีกับประกาศโฆษณาของเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและอู๋เหินแล้วเขาคงได้ทุบผู้เฒ่าทั้งสองแน่
 “นอกจากช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ในเวลาปกติ เจ้าไม่ต้องออกมาก็ได้  เจ้าสามารถไปจัดการธุระของเจ้าได้”  อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าปลอบโยนเย่ว์หยางไม่ให้โมโห
 “กล่าวกันว่าการเป็นเทพ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือสร้างศรัทธาความเชื่อมั่นให้กับหลายๆ คน” จุนอู๋โหย่วเสริม
 “นี่พวกท่านคิดว่าการเลื่อนเป็นระดับเทพง่ายเหมือนกินกะหล่ำปลีอย่างนั้นหรือ?”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก
 “นี่เป็นเรื่องของเวลา!  จุนอู๋โหย่วหัวเราะ เขามีสถานะเป็นพ่อตาเย่ว์หยางไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วย
 “เสี่ยวหยาง!  ความรู้สึกเช่นนี้มีความหมายมากนะ”  เมื่อแม่เฒ่าอู่เถิงช่วยพูด เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรได้  เขาเป็นคนที่เคารพให้เกียรติครูบาอาจารย์อย่างแท้จริง และยอมรับฟังการจัดการของพวกท่าน  เพราะความหมั่นไส้เย่ว์หยาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเตะจากใต้โต๊ะ  เมื่อเย่ว์หยางหันไปมองนาง นางทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันหน้าไปคุยกับเย่ว์ปิง
แต่ด้วยความฉลาดของเย่ว์หยาง เขาคาดเดาความหมายของนางได้ทันที
ดูเหมือนว่าแม่เสือสาวจะมาเยี่ยมข้าตอนกลางคืน  อะไรหลายๆ อย่างก็คงพัฒนาในทางที่ดีขึ้น!

8 ความคิดเห็น:

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

555555เย่ว์หยางก้็ยังเป้็นเย่ว์หยาง...ขนาดถูกเตะยังคิดเรื่องผสานหยินหยางอยู่อีก..แต่ว่า อีกกี่ตอนถึงจะสำเร็จเล่านี่

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

555เอาอีกขออีกตอน

นัดบ้า กล่าวว่า...

เอาเท้าสะกิดใต้โต๊ะหมายถึงเจอกันคืนนี้ ??? เดียวต้องไปลองบ้าง

zen zen กล่าวว่า...

จักรพรรดิเทียนหลัวเป็นผู้หญิงชัวๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

ทักษะเตะมาก็เข้าใจ

แสดงความคิดเห็น