วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 887 นี่คืออสูรในตำนาน?


ตอนที่  887  นี่คืออสูรในตำนาน?
ขณะที่วาฬภูเขาไฟและเลเวียธานกำลังจะจับเย่ว์หยาง  พวกมันหายไปทันที
 
วงเวทอักษรรูนกระพริบและพลังกดดันเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามหนึ่งในนั้นคือฮุยไท่หลางถูกกักเอาไว้  เป้าหมายที่แท้จริงก็คือเย่ว์หยาง เขาไม่รู้ว่ามันหายไปเมื่อใด  ภูตฟ้าปั่นป่วนควบคุมพายุเพลิงหมุนสูบเปลวเพลิงและฮุยไท่หลางไว้ภายในจากนั้นหมุนปั่นเป็นพายุเพลิงหมุนขึ้นไปบนฟ้า  ภายใต้สายตามองที่เหลือเชื่อของจ้าวอัคคีปีศาจ เมฆดำที่มีแรงกดสลายหายไปไม่เหลืออะไร
จ้าวอัคคีปีศาจไม่ได้ใช้ความพยายามอะไร  แต่พลังแรงกดดันจากวงเวทรูนเพลิงถูกใช้ไปมากกว่าสิบเท่า
ภูตฟ้าปั่นป่วนและฮุยไท่หลางเหมือนกับว่าไม่มีความคงอยู่
มันใช้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ฮุยไท่หลางและภูตฟ้าปั่นป่วนหนีไปได้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดมากที่สุด ที่สำคัญ ทั้งสองเป็นอสูรคุณสมบัติธาตุไฟ  อักษรรูนเพลิงไม่ส่งผลเต็มที่ด้วยคุณลักษณะของไฟ ที่สำคัญวงเวทอักขระรูนเพลิงคือพลังไฟล้วนๆ
สิ่งที่ทำให้จ้าวอัคคีปีศาจรู้สึกเหลือเชื่อมากที่สุดก็คือ เจ้าเด็กโอหังนั่นหายหัวไปไหน?
เขาเป็นนักสู้สายธาตุน้ำแข็ง สอดคล้องกับการต่อสู้กับวงเวทอักษรรูน ก็ควรจะได้รับผลกระทบมากจากแรงกดดัน แล้วเขาหลบหนีไปได้อย่างไร?  นอกจากนี้ ต่อให้เขาสามารถหลบหนีไปได้ เขาสามารถหลบหนีพ้นไปจากสำนึกความรู้สึกของเขาได้อย่างไร?  จ้าวอัคคีปีศาจรู้สึกงุนงง เขาขยายปณิธานสนามพลังออกไปค้นหาทั่วทุกพื้นที่  แต่ยังไม่มีอะไรสำเร็จ  เจ้าเด็กร้ายกาจนั่นเหมือนกับว่าโผล่มาแล้วก็หายไป  เขาหายไปไม่เหลือร่องรอย
 “หากันต่อไป  ต้องหาเขาให้เจอ ตราบใดที่เขายังอยู่ในโลกเพลิง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบหนีการไล่ล่าของข้าไปได้!  จ้าวอัคคีปีศาจโกรธจริงๆ
วาฬภูเขาไฟและอสูรเลเวียธานที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงเป็นอสูรที่เพิ่งถูกอัญเชิญออกมา
ตัวหนึ่งค้นหาร่องรอยเย่ว์หยางจากตะวันออกไปตะวันตก
แต่จ้าวอัคคีปีศาจเรียกเหยี่ยวเพลิงวิเศษอสูรปราณฟ้าระดับสาม สั่งให้มันบินเข้าไปในเมฆครึ้มไล่ตามภูตฟ้าปั่นป่วนและฮุยไท่หลาง ภูตฟ้าปั่นป่วนเป็นอสูรพิทักษ์ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำสัญญาด้วย ต่อให้อยากได้ก็ไม่มีประโยชน์ แต่ฮุยไท่หลางเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมของจ้าวอัคคีปีศาจ
เมื่อได้ฮุยไท่หลางอสูรเทพก็จะทำให้พลังของจ้าวอัคคีปีศาจเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ในเวลานี้เย่ว์หยางนำฮุยไท่หลางและภูตฟ้าปั่นป่วนบินทะลุเมฆครึ้มดำ
ในใจของเย่ว์หยางมีความรู้สึกแปลกประหลาดทำให้เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องบินผ่านเมฆครึ้มไปให้ได้ตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะพบข้อบกพร่องของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วก็ตาม แต่เขายังสังเกตวงเวทรูนเพลิงของจ้าวอัคคีปีศาจผ่านจักษุทิพย์ แต่เย่ว์หยางยังไม่ทำอะไร   เมื่อเขาสามารถมองเห็นวงเวทรูนอัคคีของจ้าวอัคคีปีศาจ เขามีความรู้สึกว่าค้นพบความลับในโลกทะเลเพลิงเพิ่มขึ้น... เมื่อเย่ว์หยางหนีออกมาจากวงเวทรูนอัคคี และเข้าไปในเมฆครึ้มเขาพบว่ายิ่งสูงขึ้นไปในเมฆครึ้ม ก็ยิ่งมีพลังพิเศษที่แผ่วเบาเหมือนลมหายใจใกล้ขาดห้วง
บางทีนั่นไม่ใช่การอัญเชิญที่แท้จริง แต่เป็นการสะท้อนของวงเวทอักษรรูนลับ
อะไรกันนั่น?
ไม่ใช่มีเพียงเมฆครึ้มอยู่บนโลกอัคคีหรอกหรือ?
ไม่รู้ว่าต้องบินนานเพียงไหน ทันใดนั้นแสงสว่างเจิดจ้าปรากฏอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยาง ฮุยไท่หลางและภูตฟ้าปั่นป่วน
ข้างหน้าพวกเขาเป็นเมฆขาวกว้างไกลไม่สิ้นสุด  ถ้าเย่ว์หยางหันกลับไปจะมองเห็นเมฆดำที่เบื้องหลังและเมฆขาวอยู่ข้างหน้าดูคล้ายกันมาก  เป็นทะเลเมฆไร้ขอบเขต แตกต่างกันเพียงสี
เย่ว์หยางกับฮุยไท่หลางรู้สึกเหมือนกับว่าผ่านอุปสรรคบางอย่าง  แต่พวกเขามองไม่เห็นแต่อย่างใด  และมีความรู้สึกที่แปลกตามมา  ยิ่งเข้าใกล้ทะเลเมฆก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น  ภูตฟ้าปั่นป่วนหยุดบิน นางเห็นว่าเย่ว์หยางไม่กลับไปที่ทะเลเมฆสีดำนางจึงกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์แต่โดยดี และไม่ยอมฝ่าเข้าไปในทะเลเมฆขาวข้างหน้า
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แม้แต่ฮุยไท่หลางก็รู้สึกอึดอัดบ้าง
เหมือนกับว่ามันถูกจับโยนลงไปในสระน้ำตลอดทั้งตัวเริ่มเปียกชุ่ม
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงความรู้สึก...เย่ว์หยางมุ่งหน้าไปต่อไม่ทำตามอำเภอใจเหมือนกับภูตฟ้าปั่นป่วน
หนึ่งคนหนึ่งสุนัขบินด้วยความเร็วสูงมุ่งไปข้างหน้า พวกเขาต้องการพิสูจน์ความจริง  ทำไมถึงมีสถานที่ซึ่งมีพลังน้ำที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในโลกอัคคี
ตัดกันกับกลุ่มเมฆดำ
เย่ว์หยางกับฮุยไท่หลางเหนื่อยล้ามากขึ้นจากการเดินทางผ่านทะเลเมฆสีขาว
สายตาของเย่ว์หยางมีแววตกใจ จนอดอุทานมิได้
เขาบินอยู่ในท้องฟ้าและฉับพลันก็พบตัวเองว่ามาถึงอีกโลกหนึ่ง  โลกวารีที่มีแต่เพียงน้ำ
แตกต่างจากโลกอัคคีที่ร้อนระอุของจ้าวอัคคีปีศาจ  ที่นี่เต็มด้วยพลังน้ำมีต้นไม้น้ำและมีแมลงน้ำแหวกว่ายไปมา บางครั้งก็เห็นปลาสีเงินกระโจนออกมาจากน้ำอย่างคึกคะนอง
นี่คือมิติที่เป็นน้ำทั้งหมด กว้างไกลไม่สิ้นสุด
เย่ว์หยางกับฮุยไท่หลางเหลียวมองดูรอบๆ ตัว
ท้องฟ้ายังคงเป็นเมฆขาว
เมฆขาวไม่สิ้นสุด
ไกลออกไปเหมือนกับจะมีฝนเล็กน้อย และมีสายรุ้งพาดผ่านระยะไกล... ไฟและน้ำเป็นโลกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับรวมกันอยู่ได้  สิ่งที่เปราะบางที่สุดก็คือทั้งสองโลกยากจะเข้ากันได้พร้อมกัน หากไม่เห็นกับตาก็จะไม่เชื่อว่าเป็นความจริง
 “นี่โลกอะไรกัน?”  เย่ว์หยางก้าวไปบนผิวทะเลสาบและพบว่าพลังน้ำที่นี่มีเพียงพอไม่ต้องอยู่ภายใต้ทะเลเพลิงในโลกอัคคี
 “ที่นี่คือโลกนาฬิกาทราย ไฟอยู่อีกด้านหนึ่งและน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง  ทุกๆ สามเดือนจะแปลงพลังงานกลับกัน แน่นอนว่าน้ำที่นี่และไฟที่ฝั่งตรงข้ามจะไม่หายไป และจะไม่ถูกสลับตำแหน่ง แต่ตำแหน่งพื้นที่มิติจะเปลี่ยนไป  ความจริงข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่เป็นการรอคอยที่น่าเบื่อหน่ายถึงหมื่นปี ข้าคำนวณได้อย่างนั้น”
บนผิวน้ำมีน้ำใสกลุ่มหนึ่ง
เปลี่ยนร่างเป็นรูปมนุษย์  ดูเหมือนจะมีลักษณะของสตรีและนางพูดทักเขา
สิ่งที่แปลกที่สุดคือสตรีมนุษย์น้ำถือร่มสีฟ้าที่มีราคาสูงล้ำ... ร่มนี้แค่มีระดับด้อยกว่าสมบัติเทพขั้นหนึ่ง  เย่ว์หยางมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง  สตรีมนุษย์น้ำนี้ถือร่มระดับรองจากสมบัติเทพ  พลังของนางไม่ควรจะเป็นรองจ้าวอัคคีปีศาจ
เย่ว์หยางเปลี่ยนท่าทีมารยาทต่างจากที่เคยแสดงต่อจ้าวอัคคีปีศาจ  “ผู้อาวุโส, อย่างนั้นท่านก็คือภูตไหมฟ้าจากในอดีตกาลใช่ไหม?  ผู้เยาว์เย่ว์ไตตันอนุชนรุ่นหลังจากทวีปมังกรทะยาน”
สตรีน้ำผู้ถือร่มทำให้เย่ว์หยางเปลี่ยนมารยาทท่าที  สีหน้านางแปลกใจเล็กน้อยและกลับคืนเป็นปกติทันที  “คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว  ยังมีคนจำชื่อข้าได้  หอทงเทียนเจริญรุ่งเรืองมากไหม? ผู้เยาว์อย่างเจ้ามีพลังปราณราชันย์สุดยอดถึงเพียงนี้ ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ!
ฮุยไท่หลางปิดปากหัวเราะ
เพราะคนอย่างเย่ว์หยางมีเพียงคนเดียวในทั่วทั้งหอทงเทียน และไม่มีทางพบเจอมานานถึงหมื่นปีแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเย่ว์หยางปรากฏตัวออกมาขู่ขวัญคนจากแดนสวรรค์ ป่านนี้หอทงเทียนคงถูกแดนสวรรค์ดูถูกดูแคลนไปแล้ว
เย่ว์หยางถลึงตามองมันไม่ให้มันเสียมารยาท  ฮุยไท่หลางหุบยิ้มพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่
สำหรับคำถามของภูตไหมฟ้านั้น เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นขัดเขิน  “ถูกแล้ว, หอทงเทียนในปัจจุบันเจริญรุ่งเรืองมาก และผู้เยาว์อย่างข้าก็มีมากเหมือนขนโค ชาวแดนสวรรค์ผู้โชคร้ายบอกเราแบบนั้น อัจฉริยะมีมากมายเหมือนสุนัขจรจัดแทบจะเดินชนกัน ตอนนี้ข้าดีขึ้นบ้าง เมื่อก่อนเคยเป็นสวะอยู่ในตระกูล เพราะข้าก้าวหน้าได้ช้าทำให้คนอื่นดูดีอยู่หลายปี!  เย่ว์หยางพูด คนไม่รู้มักจะถูกหลอก
สตรีร่างน้ำผู้ถือร่มเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจ  “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าหอทงเทียนจะมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก   นักรบเผ่าปีศาจและบันไดสวรรค์เคยอยู่ร่วมกับคนของทวีปมังกรทะยานของเรา ข้าเคยต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ผู้เยาว์หลายคนในรุ่นต่อมามีพรสวรรค์มากมายต้องเสียสละในการสู้รบ เมื่อคนรุ่นเราถูกทำลายไป ก็ไม่มีอยู่อีกต่อไป นักรบหอทงเทียนผู้ได้รับบทเรียนมีแต่จะเจริญเฟื่องฟู!  น่าเสียดาย, ข้าติดอยู่ในโลกนาฬิกาทรายไม่สามารถออกไปได้  มิฉะนั้นข้าอยากจะเห็นความยิ่งใหญ่จริงๆ!
เย่ว์หยางยึดถือเป็นหัวข้อสนทนาทันที  “ผู้อาวุโส, อย่างท่านก็ทรงพลังมากมาย ท่านไม่สามารถทำลายมิติออกไปได้หรือ?”
สตรีร่างน้ำผู้ถือร่มส่ายศีรษะ  “นี่คือการลงโทษของบรรพบุรุษโบราณ ข้าต่อสู้กับจ้าวอัคคีปีศาจ ทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมา แทบจะทำให้ทวีปมังกรทะยานทั้งหมดถูกทำลาย บรรพบุรุษโบราณโกรธจัด ในช่วงที่เราปะทะต่อสู้ถึง 1985 กระบวนท่า เขาปรากฏตัวขึ้นทำลายข้าและร่างของจ้าวอัคคีปีศาจโดยตรง และจากนั้นจับเราโยนเข้ามาในโลกนาฬิกาทรายนี้ เพื่อลงโทษให้สาสมกับความผิดร้ายแรงที่เราก่อขึ้น... ในที่นี่มีแต่น้ำกับไฟรักษาสมดุลกันอยู่  ข้าและจ้าวอัคคีปีศาจไม่มีทางพบเจอกัน และจะไม่มีทางต่อสู้กันอีก  แน่นอนว่าทั้งไม่สามารถไปจากโลกนาฬิกาทรายได้  แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสของเจ้าเป็นใคร แต่ข้าอยากจะเตือนเจ้าว่าที่นี่ไม่ใช่โลกที่ปลอดภัย จ้าวอัคคีปีศาจจะรอซุ่มทำร้ายเจ้า  เขาเกลียดทุกสิ่งทุกอย่าง  โดยเฉพาะผู้เยาว์ที่มีความโดดเด่นอย่างเจ้า เขาจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!
 “จ้าวอัคคีปีศาจ  ถ้าท่านพูดถึงมนุษย์ไฟผู้หยิ่งลำพองนั้น ข้าพบเจอเขามาแล้ว เขาทรงพลังจริงๆ แต่เขาถูกจำกัดอยู่ในทะเลเพลิง แม้ว่าข้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้  แต่เรื่องหลบหนีย่อมไม่เป็นปัญหา”  เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย
 “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะผ่านเขามาได้ก่อน การต่อสู้กับเขาจะต้องเกิดขึ้นอีก หนุ่มน้อย เจ้าเป็นนักรบมีธาตุคุณสมบัติเป็นน้ำแข็ง  เจ้าไม่สามารถจะผ่านออกไปจากโลกอัคคีที่ด้านตรงข้ามนั้นได้?  และหมาป่าปีศาจนี้ น่าจะเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกใช่ไหม?  มันเป็นมิตรกับเจ้ามาก ทำไมเจ้าไม่ทำสัญญากับมัน? ระวังว่าผลของอสูรเทพตอนทำสัญญานั้นบางครั้งก็ให้ประโยชน์ต่อการฝึกฝนของตัวเจ้า!  สตรีน้ำผู้ถือร่มถามถึงฮุยไท่หลางที่ลงไปว่ายน้ำเล่นด้วยความสงสัย
 “การทำสัญญาเป็นเรื่องดี แต่มันจะไม่มีอิสระ”  เย่ว์หยางโบกมือ  “ข้ามีอสูรมากพอแล้ว  เจ้านี่ยังไม่จำเป็นต้องใช้”
 “เจ้าร่ำรวยอสูรเทพมากนักหรือ?” สตรีน้ำผู้ถือร่มได้ยินเข้าถึงกับตกใจ
 “ยังคงมีอัตราว่างอยู่มาก แต่อาจมีทางเลือกที่ดีกว่าในอนาคต”  เย่ว์หยางไม่อายที่จะบอกผู้อาวุโสอายุเป็นหมื่นปีว่าถ้าอสูรไม่สวยงดงามเขาจะไม่ทำสัญญา  แน่นอนว่าเขาพูดว่าคนธรรมดากินกะหล่ำปลีจนคุ้น นั่นเป็นข้อแก้ตัวแบบแกนๆ
 “เด็กหนุ่มที่มีความคิดทะเยอทะยานอย่างเจ้ามีมากไหม? นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ มีเรื่องน่าตกใจที่ข้าไม่เคยมี ไม่เคยได้ยิน บางคนไม่มีโอกาสจะได้ทำสัญญากับอสูรเทพ ว่าแต่พ่อหนุ่ม!  เจ้ามีอสูรเทพอยู่เท่าใดกันแน่?”  นางได้ยินเย่ว์หยางตอบว่ามีสองสามตน ถึงกับนิ่งตะลึง มือที่ยังถือร่มสมบัติที่ใกล้ระดับเทพ ร่วงลงบนผิวน้ำ แต่นางไม่ทันสังเกต
ในที่สุดหลังจากผ่านไปนาน นางพึมพำ “เจ้ายังมีอสูรเทพอยู่สองสามตนหรือ?  เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดฝีมือของหอทงเทียน แต่ไม่มีอสูรเทพอยู่ในมือเลย เจ้ามีอยู่กี่ตัวกันแน่?”
เย่ว์หยางอายเล็กน้อย  เขาเอามือลูบหลังศีรษะ “มีอยู่สองสามตน  มีอยู่จำนวนหนึ่งที่มีศักยภาพเลื่อนไปถึงอสูรเทพได้เพราะการฝึก ดังนั้นการเลื่อนเป็นอสูรเทพไม่มีอะไรมาก   ฮุยไท่หลางนี้ได้เลื่อนระดับก่อน  แต่เนื่องจากขาดการพิจารณา นอกจากนี้อสูรที่ได้รับมาทีหลังจะมีความต้องการที่ต่างกันไป ถ้ามันก้าวหน้าเร็ว พลังอาจตกลง”
สตรีน้ำได้ยินคำพูดนี้ถึงกับตะลึง  “ข้าไม่อยากเชื่อเลย เจ้าเรียกออกมาเพิ่มสักหนึ่งตนได้ไหม?
ถ้าเป็นเวลาปกติเย่ว์หยางจะไม่กล้าอวดพลังของตน แต่วันนี้เพราะเขาต้องการถามผู้อาวุโสผู้นี้ เขาจึงทำตัวว่าง่ายเหมือนกับว่าเป็นเด็กดีตั้งแต่เกิด
ฮุยไท่หลางให้ความร่วมมือกับเจ้านายมันตามปกติ มันทำตัวแสดงให้เห็นว่ามันเป็นหมาป่าที่ดี
รอจนเย่ว์หยางเรียกเสี่ยวเหวินหลีปีศาจอสรพิษน้อยออกมาจากโลกคัมภีร์  สตรีน้ำผู้น่าจะเป็นภูตไหมฟ้าอุทานออกมาทันที  “นี่เป็นอสูรในตำนานไม่ใช่หรือ? พระเจ้า, เป็นไปได้ยังไงกัน เจ้ามีอสูรในตำนาน? เจ้าเป็นใครกันแน่?  เจ้าไม่ใช่คนของหอทงเทียน  เจ้าคงเป็นเผ่าพันธุ์ในตำนาน!

13 ความคิดเห็น:

dvdkeeper กล่าวว่า...

หลอกคนแก่

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

DexterAndDdy กล่าวว่า...

อำคนแก่ ใจมันช่างขี้แกล้งนัก

Unknown กล่าวว่า...

เเกล้งคนเเก่ให้ตกใจเล่น ไม่ไหวเลยนะเฮีย

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

น่าเสียดายที่ไม่อธิบายรูปร่างนางด้วย ไม่ยา่งอยา่งนั้นเย่ว์หยางต้องได้อสุรเทพอีกตัวแน่ๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณหลายๆ

นัดบ้า กล่าวว่า...

ไอ้หมานั่นก็ระดับเตรียม ตำนานอย่าให้มันเอาหนังสือออกมาเปิดเล่นไม่งั้นแม่นางคงร้องไห้แน่ ๆ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุฯครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ถ้าบอกว่ามีคัมภีร์สองเล่มจะเปนลมไหมนิ

แสดงความคิดเห็น