ตอนที่ 896 ตัดสินใจ..จะเอาอย่างไรดี
เมื่อจุ้ยมาวอี้ลืมตาตื่น นางพบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียงเหมือนกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่
ไม่มีใครช่วยงานทดลองของเย่ว์หยางหรือ?
จุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวอย่างนี้
และนางจำได้ว่านางหมดสติไปเพราะทุ่มเทเกินกำลังช่วยงานสร้างวงเวทรูนเจ็ดสิบสองดาวกับเย่ว์หยางจนสำเร็จ
แม้ว่าวงเวทเจ็ดสิบสองดาวเป็นเพียงหนึ่งในสามวงเวทรบชั้นล่าง
แต่ก็สามารถทำได้สำเร็จ การสร้างกำไลอสูรจะผ่านเวลาช่วงนี้ไปได้ ด้วยความสำเร็จในการค้นคว้านี้ จะเป็นมาตรฐาน
นางเชื่อว่าอีกสองวงเวทจะสามารถสร้างขึ้นได้ในไม่ช้า
โชคดีที่นางมีส่วนร่วมและช่วยให้เขาสร้างวงเวทเจ็ดสิบสองดาวจนสำเร็จก่อนที่นางจะหมดสติ
จำได้ว่าในเวลานั้นเพราะแรงระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เสื้อผ้าของนางฉีกขาดรุ่งริ่ง
ในเวลานั้นนางไม่รู้สึกอะไรในเมื่อนางมีแรงบันดาลใจ แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกอายและขายหน้า
นางอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยถึงสามวัน นั่นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง และนางไม่รู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะคิดยังไงกับนาง
“ตื่นแล้วหรือ?”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันมายิ้มให้ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเหนื่อย
ข้าเข้ามาดูเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าไม่ฟื้นจนกระทั่งตอนนี้”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรินน้ำชาให้จุ้ยมาวอี้
และส่งให้นาง
จุ้ยมาวอี้หยิบผ้าห่มมาคลุมร่าง และรับน้ำชา ตอนนี้นางอยู่ในห้องขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ทันใดนั้นนางรู้ตัวว่านางคงไม่สามารถช่วยอะไรได้จึงถูกพามาจากห้องทดลอง นางจิบน้ำชารู้สึกชุ่มคอ
ทั้งยังช่วยสงบความรู้สึกว้าวุ่นใจได้
เสียงที่พูดออกจากปากนางเบาเหมือนเสียงกระซิบ “ข้าทุ่มเทกำลังมากไปหน่อย ลืมไป...”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะ “พี่เย่, ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังก็ได้ ดีแล้วที่ทุ่มเทค้นคว้าทดลอง
ท่านไม่ต้องอายถ้าท่านจะร่วมทำงานพร้อมกับเขา
ที่สำคัญท่านเป็นเจ้าสาวที่จะต้องร่วมทำงานกับเขาอยู่แล้ว
และแม่สี่ก็เห็นดีกับเรื่องนั้นด้วย”
“ข้าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?
ข้าอาวุโสกว่าเจ้าถึงสองรุ่น แม้ว่าเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่
แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เจ้าเรียกเองโดยพลการ จะต้องมีการจัดลำดับญาติใหม่อย่างแท้จริง
เพราะรุ่นของข้าสูงเกินไป” จุ้ยมาวอี้เขินอายมากจนนางกลัวเรื่องการพูดหัวข้อนี้ที่สุด คำพูดของฝ่าบาทนางคงไม่กล้าฝืน สำหรับแม่สี่ นางยังคงให้ความเคารพ และสำหรับเย่ว์หยางเจ้าเด็กร้ายกาจ
อาจพูดได้ว่านางชื่นชมลับๆ
แม้ว่าข้อบกพร่องของเขาจะมีมากมาย
แต่นางแค่แสดงความรังเกียจอย่างผิวเผิน
แต่ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบเขา การแต่งงานกับเขาจุ้ยมาวอี้คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการนับรุ่น อู๋เสีย,
อู๋เหินและเชี่ยนเชี่ยน พวกนางลำดับสูงกว่า
ยังมีทั้งโล่วฮัวและอี้หนาน
พวกนางทุกคนนับว่ามีลำดับอยู่ก่อนกว่า
“ความสัมพันธ์อาวุโสก่อนหลังอะไรกัน
ถ้าท่านยังไม่ต้องการจะแต่งงานมีลูกกับเจ้าตัวร้ายสักคน ข้าเกรงว่าวันคืนจะผ่านไปเปล่าๆ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดจริงจัง
“ข้ายังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้”
จุ้ยมาวอี้รู้สึกอึดอัด นางหมกตัวอยู่ในผ้าห่ม
“ก่อนนี้
อู๋เสียไม่รู้ความจริงของเรื่องราว ข้าไม่รู้ว่าเรื่องจริงจังเพียงไหน
จนกระทั่งตอนนี้ ถ้าพ่อหนุ่มตัวร้ายไม่ปรากฏตัวขึ้น
ข้าเกรงว่าตระกูลร้อยบุปผาคงจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของหอทงเทียน
ความจริงแล้วการที่เราได้พบเจอกับเขาอาจเป็นเรื่องของชะตาลิขิต ในท่ามกลางความเมตตาของเทพโบราณและความพยายามตลอดหลายปีของมารดาของเย่ว์หยาง
คิดดูสิ ว่าเราโชคดีขนาดไหน”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจ
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ?”
จุ้ยมาวอี้มองหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“แล้วเจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้มและย้อนถาม
“บางครั้งก็คิดเหมือนกัน...” จุ้ยมาวอี้ไม่กล้าสบตา นางก้มหน้า เสียงของนางเบาลงๆ
จนกระทั่งไม่มีเสียงออกมา
“ในเมื่อนี่เป็นชะตาลิขิต
เจ้ายังต้องกังวลเรื่องอะไรอีก?
นอกจากนี้ความสุขในชีวิตไม่ใช่หาได้ง่าย ต้องกล้าหาญเหมือนอี้หนาน,
กล้าแสดงแสดงออกเหมือนโล่วฮัว
อดทนเหมือนอู๋เหินและรักครอบครัวเหมือนอู๋เสียถึงจะถูก”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเอามือแตะไหล่จุ้ยมาวอี้เบาๆ “ข้ารู้ว่าท่านสามารถหาความสุขนั้นได้ อย่างไรก็ตาม
เราต้องพยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ตระกูลร้อยบุปผารุ่งเรืองขึ้นมาอีก
เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้าจะออกไปฝึกดาบก่อน!”
“เชี่ยนเชี่ยน...” จุ้ยมาวอี้มองตามหลัง จากนั้นพรวดพราดลุกขึ้น
แต่เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันหน้ากลับมา นางรีบส่ายหน้า “ข้าสบายดี ไม่มีอะไร!”
“ความจริงถ้าเจ้าตั้งใจทำ เจ้าก็ทำได้ดี”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว นางยิ้มให้ “ด้วยความทุ่มเทของเจ้า
ทำให้พี่หวี่,
อู๋เหินและอู๋เสียช่วยให้เขาสร้างวงเวทติดตั้งกำไลอสูรสำหรับทำสัญญาวิญญาณได้สำเร็จ ตอนนี้มีปัญหาเล็กน้อยแค่สองข้อ
ประการแรกคือคนทดสอบ ประการที่สองคือ วัสดุสังเคราะห์ขั้นสุดท้าย
เมื่อเห็นการทุ่มเทแสดงออกของท่าน อู๋เสียตัดสินใจมอบหมายให้ท่านเป็นคนแก้ปัญหาสองข้อนี้!”
“ไม่นะ
ทำอย่างนั้นไม่ได้!” จุ้ยมาวอี้ทั้งประหลาดใจ ทั้งมีความสุข
อายและกังวล
นี่ชัดเจนว่าเป็นการมอบความดีความชอบให้กับนางทั้งหมด
นอกจากนี้ยังให้โอกาสนางสร้างทัศนคติที่ดีต่อเขา
แม้ว่าจิตใจพวกนางจะน่านับถือ แต่นางก็ยังรู้สึกน่าอึดอัดเกินไป
ความจริงทั้งสองคนไม่ได้คิดอะไร...การทดลองนั้นไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายอะไรกับเขา
เชี่ยนเชี่ยนและอู๋เสียไม่รู้เหตุการณ์เบื้องหลังการทดลองนี้
จุ้ยมาวอี้พอคิดถึงเรื่องนี้ นางรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
“ท่านแม่,
แม่ไม่สบายเหรอ?”
หนูน้อยแพนด้าวิ่งเข้ามาหาในมือยังถือว่าวตัวใหญ่
ดูเหมือนเธอกำลังเล่นกับซวงเอ๋อและบังเอิญผ่านมา แต่ก็ไม่ลืมเข้ามาทักทายมารดา
“ไม่ได้ป่วย, เจ้าไปเล่นต่อเถอะ!” ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ
นางต้องให้หนิวหนิวฝึกและให้เล่นน้อยลง
แต่วันนี้นางลูบศีรษะของหนิวหนิวด้วยความเอ็นดูเป็นพิเศษ
แพนดาน้อยหนิวหนิวพอได้ยินเท่านั้นก็ร่าเริงดีใจ
อย่างไรก็ตามขณะที่เธอจะออกไปเล่นข้างนอก จุ้ยมาวอี้เรียกเธออีกครั้ง “หนิวหนิว! เจ้าชอบพี่ชายหรือเปล่า?”
“ชอบสิ,
นอกจากแม่แล้ว หนิวหนิวชอบพี่ชายที่สุด!”
เมื่อหนิวหนิวพูดถึงเย่ว์หยางเธอพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน
“ชอบก็ดีแล้ว...ไปเล่นเถอะไป” จุ้ยมาวอี้โบกมืออนุญาต แพนดาน้อยร่าเริงวิ่งออกไปนอกประตู
ได้ยินเสียงแว่วเธอคุยกับซวงเอ๋อ
“วันนี้แม่ไม่ร้องไห้แล้ว
แล้วยังอนุญาตให้ข้าไปเล่นได้ด้วย
ดีจริงๆ เราไปหาพี่ชายกันเถอะ!”
“พี่ชายเพิ่งหลับ
แม่บอกว่าอย่าไปรบกวนเขา
เราไปชวนเสี่ยวเหวินหลีเล่นว่าวกันเถอะ!”
ดีแล้ว
พอได้ยินเสียงหนิวหนิวเล่นอย่างร่าเริง จุ้ยมาวอี้อดละอายใจมิได้
เมื่อก่อนนั้นนางอารมณ์ไม่ค่อยดีแอบร้องไห้จริงๆ
หนิวหนิวเห็นด้วยหรือ? หรือว่าเธอไปฟ้องเจ้าเด็กร้ายกาจนั่น? ถ้าเขารู้เขาจะคิดยังไง? เรื่องนี้น่าอายจริงๆ
ต่อให้แอบร้องตอนกลางคืน ต่อไปในภายหลังเขาจะต้องเอาเรื่องนี้มาล้ออย่างแน่นอน
เรื่องนี้คงถูกยกมาพูดในอนาคตแน่
เมื่อจุ้ยมาวอี้เอนกายลงนอน
นางรู้สึกเหมือนว่าสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ดูเหมือนอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางอยู่ในหัวใจนางถูกยกหายไปโดยไม่รู้ตัว
แต่งงาน?
แม้ว่าจะค่อนข้างสนิทกับเขา
แต่ถ้านางต้องเร่งรัดแต่งงานกับเขา นางจะไม่เร่งรัดให้เขาสัญญามากขึ้น อย่างไรก็ตาม นางจะไม่ตีเสมอกับเชี่ยนเชี่ยน
มิฉะนั้นคนอื่นจะมองว่านางเห็นแก่ตัว
จุ้ยมาวอี้ผลอยหลับไปอย่างง่ายดาย
ในช่วงที่นางหลับดูเหมือนว่านางฝันถึงบางอย่างที่น่าสนใจ
ใบหน้านางปรากฏรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข
ภาพนี้ถ้านางให้หนิวหนิวเห็น
เธอคงคิดว่าเธอไม่เห็นแม่ยิ้มมาเป็นเวลานานแล้ว
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งจุ้ยมาวอี้จู่ๆ
ก็อยากพบเย่ว์หยางทันที แต่นางหักห้ามใจไว้ หลังจากผ่านไปสามวัน แสดงออกต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกนางคุยถึงเขา จุ้ยมาวอี้จะทำเป็นเหมือนไม่ตั้งใจฟัง
เมื่อได้ยินว่าเย่ว์หวี่ช่วยเขาลงวงเวทรูนขั้นสุดท้ายในกำไลอสูรจนเสร็จสิ้น นอกจากนี้ด้วยการออกแบบพื้นฐานของอู๋เสียและอู๋เหินทำให้ได้กำไลอสูรสามรูปแบบ นางอดลอบถอนหายใจมิได้
ความจริงเย่ว์หวี่ผู้อ่อนโยนและสนิทกับเขากลับมาแค่วันเดียว
ยังช่วยให้เขาสร้างแบบมาตรฐานได้ เขาใช้เวลาสามวันก็ทดลองวงเวทรูนระดับสูงได้
นางยังห่างไกลจากเย่ว์หวี่ช่วงใหญ่จริงๆ
เวลาเที่ยงคืน
“เจ้ายังไม่หลับใช่ไหม?”
เย่ว์หยางเคาะประตูห้องจุ้ยมาวอี้
“ข้าจะหลับอยู่แล้ว เจ้าจะทำอะไร?” จุ้ยมาวอี้คิดถึงเรื่องงานค้นคว้าทดลองกับเย่ว์หยางแล้วร่างกายนางอดร้อนผ่าวมิได้ นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะมาตามหานาง
นางตกใจตะโกนตอบ “ข้าไม่มีอะไรมาก แค่อยากพัก พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่!”
นางกลัวว่าเขาจะเข้ามาและทำอะไรบางอย่างโดยพลการ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นางไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขายังไง
แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงจูบ และแม่สี่จะเห็นดีด้วย
และเชี่ยนเชี่ยนกับอู๋เสียไม่ได้คัดค้านอะไร
แต่พวกเขายังไม่พร้อม นั่นเร็วเกินไป!
เย่ว์หยางผลักเปิดประตูเข้ามาข้างในทันที เมื่อจุ้ยมาวอี้ตกใจพรวดพราดลุกขึ้นจากเตียง “พี่หวี่มาแล้ว แต่นางปฏิเสธไม่ได้ช่วยข้าทดลอง
และเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่รู้หายไปไหน
จับได้ต้องตีก้นเสียบ้าง
เหมียวเหมียว เจ้ามาช่วยข้าก่อน!”
“อย่ามาเรียกข้าว่าเหมียวเหมียว..
ข้าไม่ได้ชื่อเหมียวเหมียว!” จุ้ยมาวอี้รีบกล่าว แต่นางไม่รู้สึกว่าคำว่าเหมียวเหมียวไม่ดี
แต่นางรู้สึกว่าสนิทเกินไป
“เร็วเข้า!” เย่ว์หยางไม่ได้ใส่ใจถึงชื่อนาง เขาฉุดดึงนางไป
“รอให้ข้าเปลี่ยนชุดก่อน!” จุ้ยมาวอี้ยังคงสวมชุดนอน
นางพยายามแกะมือเย่ว์หยางเพื่อกลับไปเปลี่ยนชุด
“มันยุ่งยากเกินไป ชุดนั้นนั่นแหละ!”
เย่ว์หยางไม่คิดว่าแค่ใส่ชุดนอนกลางคืนคงไม่มีอะไรผิด
แม้ว่าจะเหมือนยั่วยวนบ้าง แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ไม่มีอะไรผิด
“นี่, เจ้าช้าลงหน่อยได้ไหม,
ข้าไปกับเจ้าก็ได้
แต่ช่วยช้าลงหน่อย..” ตอนนี้จุ้ยมาวอี้ใจเต้นแรงขึ้น
แม้ว่านางต้องการปฏิเสธ
แต่ตัวของนางตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้
แน่นอนว่านางไม่ยอมรับว่านางประหลาดใจและดีใจ
และคิดว่าเขาคงฉุดดึงนางไปช่วยเขา
หลังจากจุ้ยมาวอี้เข้าไปในห้องทดลอง
เย่ว์หยางเตรียมทำงานทันที
นางมองดูแผนการทำงาน
นางเตรียมพร้อมทำความคุ้นเคยกับกระบวนการเพื่อให้เข้ากันได้กับเขาอย่างดีที่สุด
ใครไม่รู้
แค่เพียงมองวูบแรก นางถึงกับหลั่งน้ำตาทันที ตามที่อู๋เสีย อู๋เหิน
และเชี่ยนเชี่ยนออกแบบไว้ กำไลอสูรแรกจะต้องทำสัญญากับเย่ว์หยางเต็มที่ ถ้าแต่กายกับใจไม่เชื่อมโยงกันเต็มที่นั่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนได้ ที่สำคัญที่สุดในการทดลองครั้ง
สิ่งที่ต้องทำกับเย่ว์หยาง ไม่ต่างจากฝึกฝนพลังคู่รัก
เขาจะต้องเข้าไปสำรวจจิตใจในโลกวิญญาณสัมผัสความรู้สึกที่อ่อนไหวที่สุด
มิน่าเล่าเย่ว์หวี่ถึงปฏิเสธจะร่วมมือทดลองกับเย่ว์หยาง! การทดลองอย่างนี้เมื่อทดลองเสร็จแล้ว
ก็ไม่ต่างจากเป็นคู่รักของเขา
ถ้าเย่ว์หยางคิดมิดีมิร้าย ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไป นางจะทำอย่างไรดี?
ไม่น่ามาเลย แต่ก็ต้องทำ แต่นี่มันเป็นเรื่องเกินคาดไปมาก
หรือว่าคืนนี้ ข้าจะต้องสละโสด?
จุ้ยมาวอี้พอคิดเช่นนั้น ร่างของนางสะท้านเล็กน้อย และนางไม่ได้เตรียมใจมาก่อน
จะยอมเขาในลักษณะนี้หรือ? นี่, ไวเกินไปหรือเปล่า?
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องบอกเขาว่าไม่สามารถเข้าร่วมในการทดสอบครั้งแรกได้?
จะออกจากประตูไป หรือร่วมมือเต็มที่กับเขาทดลองและร่วมออกแบบกับเขา
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินอนาคตของนางเอง
นางจะทำอย่างไร?
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
อีกสองตนคงสำเร็จแน่..แม่แมวขี้เมา
แผนมอมสาว 555
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
กำไรอัญเชิญอสูร = ของขวัญวันแต่ง ไม่เกินสามตอนสวาขี้เมาได้เป็นเมียไอ้สามแน่นอน
มาพร้อมชุดนอนซะด้วย 😁
ขออนุญาตหื่นนะครับ
เหมียวๆ 555
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น