ตอนที่ 975
เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตาย
ทะเลเลือดพลันระเบิด พลังทำลายล้างกวาดได้ทั้งสวรรค์และโลกหล้า....
เมฆสิงห์ทองในท้องฟ้าถูกพลังแสงโลหิตแทรกซึมกระจายกลายเป็นแสงสีทองหายไปในทะเลแสงโลหิต ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอสูรพิทักษ์ที่ไม่มีวันตาย
มันจะไม่มีทางรอดได้ในท่ามกลางพลังทำลายล้างของทะเลแสงโลหิต
คลื่นของทะเลคลั่งโหมกระหน่ำอย่างหนัก
คลื่นเดือดพล่าน
มิอาจสงบได้อยู่เป็นเวลานาน
ที่ด้านข้างของราชาเฉินม่อ
แปดขุนพลบริวารรวมตัวกันอยู่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ภายในพลังของอสูรค้ำจุน
อสูรพิทักษ์ของราชาเฉินม่อและทักษะแฝงเร้นศรัทธา สนามพลังอธิษฐานพลังพิเศษสามชั้น
ซือเหริน ผู้เฒ่าเครายาว บุรุษอ้วน โนม จอมเกียจคร้าน คนเถื่อนและจอมหักหลังและคนอื่นพากันรอดภัยพิบัติ
ทะเลโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วต้องทุ่มราคาด้วยชีวิต
“ปัง!” จอมหักหลังตกใจ
แต่เขาพบว่าได้รับการปกป้องจากราชาเฉินม่อ หลังจากเขาปลอดภัย เขาแค่นเสียงด่าทอทันที
“ประเมินฝีมือตัวเองสูงเกินไปเสียแล้ว” โนมหัวเราะเช่นกัน
“ฮึ..”
ราชาเฉินม่อเหมือนกับภูผายิ่งใหญ่คอยปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
ในท่ามกลางความเงียบ เขาไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะ ไม่แสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยาม แม้ขณะที่ยืนอยู่ในท่ามกลางทะเลคลั่ง
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแผดเผาพลังหยกศิลาล้วนแหลกลาญ เป็นการส่งท้าย
มีร่างคนสองคนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
พวกเขาคือราชาจินกวนที่แขนขวาหัก
และพระยาราชสีห์ที่อสูรพิทักษ์ถูกฆ่า
ขณะนั้นราชาทั้งสอง
เนื่องจากจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วระเบิดตัวเอง พวกเขาอยู่ในรัศมีระเบิด
และเป็นสองคนแรกที่ถูกแรงระเบิดจากทะเลแสงโลหิตโจมตี
แม้จะไม่ถึงกับเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำร้ายพวกเขาจนแทบไม่เหลือพลัง
ภาพมารโลหิตเหนือท้องฟ้าค่อยๆ
สลายหายไปช้าๆ
ในเวลานี้
ไม่มีความโกรธบนใบหน้าของเขาอีกต่อไป
มีแต่การแสดงถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาด
นั่นคือการปล่อยวาง...การปล่อยวางเช่นนั้น
เหมือนกับความปรารถนาที่ซ่อนเร้นปกปิดมานานหลายปี ในที่สุดก็สมหวังเสร็จสิ้น
กล่าวให้ถูกก็คือการปลดปล่อยจิตวิญญาณ ผ่อนคลายสบายใจ มีความสุขสุดจะพรรณนาต่อหน้าหลายๆ
คน คนเราเมื่อใกล้จะตาย กลับได้สติก่อนตาย
สีแดงโลหิตที่ภาพปีศาจเปล่งออกมาไม่มีความโกรธชัง
ไม่มีความกระหายเลือดอีกต่อไป
แม้ว่าหน้าของเขาจะไม่มีรอยยิ้ม
แต่ใบหน้าภาพฉายปีศาจโลหิตกลับมีรอยยิ้ม
ภาพนั้นค่อยๆ จางลง
จักรพรรดิฟู่โฉวถูกพลังแสงทะเลโลหิตคลุมทั้งร่าง
ร่างของเขาลอยใกล้เข้ามาทุกขณะ
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังแสงโลหิตป้องกันร่างของเขาไว้
ทำให้เขายังไม่ตาย
เขาลืมตาและเห็นภาพมารโลหิตลอยเข้ามาใกล้และเปลี่ยนไปเป็นหน้าของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วดูเหมือนต้องการพูด แต่ไม่มีเสียง
ดูเหมือนว่าเขาต้องการยื่นมือเข้ามาสวมกอดจักรพรรดิฟู่โฉว
แต่ว่าเขาไม่มีร่างหยาบแล้ว
ก่อนนั้นเขาระเบิดร่างเป็นผุยผงในทะเลโลหิต
ในเวลานี้ร่างพลังงานของเขาสร้างจากพลังแสงโลหิต
เช่นเดียวกับพลังโลหิตที่คลุมรอบตัวจักรพรรดิฟู่โฉว แต่ขณะที่นิ้วของเขาจะสัมผัสร่างของจักรพรรดิฟู่โฉว
ร่างพลังงานของเขาก็สลายหายไปกับสายลม
ทะเลคลั่งพอไม่มีสนามพลังกดดันคอยข่มจำกัดพลัง จึงสะท้อนพลังเสียงดังกึกก้อง
สายลมพัดกระชากร่างพลังงานของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
ร่างของเขาเริ่มเลือนรางและหายใจ
สิ่งสุดท้ายจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังเจตปณิธานรักษาภาพศีรษะ ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อยเหมือนกับต้องการจะพูดความในใจกับจักรพรรดิฟู่โฉวที่เขาไม่เคยบอกมาก่อน
“น่ารำคาญจริงๆ อย่างไรก็ตาม
พวกเจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากทะเลคลั่งนี่ได้เลย” พระยาราชสีห์หงุดหงิด
เมฆสิงห์ทองอสูรพิทักษ์ของเขาแม้ว่าไม่อาจฆ่าตายได้จริงๆ
แต่พลังรบของเมฆสิงห์ทองได้ลดลงอย่างมากภายใต้แรงระเบิดทำลายล้างรุนแรง และไม่อาจเรียกใช้มันได้อีกเป็นเวลานาน
“ตายซะเถอะ” ราชาจินกวนยิ่งไม่พอใจมากกว่า
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
ได้หักเขนของเขาต่อหน้าทุกคน
เขาสูญเสียแขนที่ผสานเข้ากับดาบทองศักดิ์สิทธิ์ของเขา
การสูญเสียแขนทำให้พลังของเขาลดลง 30%
พลังเดิมของเขาเทียบได้กับพระยาราชสีห์
ตอนนี้พลังของเขาตามหลังพระยาราชสีห์
พระยาราชสีห์สูญเสียเมฆสิงห์ทอง แต่ยังดีที่นั่นเป็นอสูรพิทักษ์ และมันจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้า
ถ้าท่านสูญเสียแขนไป พลังของท่านจะลดลงอย่างมาก
เรื่องที่ราชาจินกวนกังวลที่สุดก็คือราชาสองหน้ามีพัฒนาการที่เร็วมาก
และพลังจะไล่ตามเขาทันในเวลาไม่กี่ปี ถ้าพลังของเขาได้รับความเสียหายต่อเนื่องอีก
ราชาสองหน้าจะต้องแทนที่เขาอย่างมิต้องสงสัย
ราชาจินกวนใช้แขนซ้ายที่เหลือวาดรูปเครื่องหมายโล่อักขระรูนในอากาศว่างเปล่า
ปากของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเหมือนกับพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิฟู่โฉว
เขาหมุนตัวกลับมาป้องกันโล่ทองที่ราชาจินกวนกระแทกลงมาหมายจะฆ่าทั้งสองคน โล่ปะทะที่ศีรษะของร่างพลังงานของจักรพรรดิ
จักรพรรดิฟู่โฉวมองดูจากด้านล่าง
โดยเขาไม่อาจป้องกันได้
เขาไม่พูดอะไร
ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น
หางตาของเขาปรากฏน้ำตารินไหล
เป้าหมายที่เขาเกลียดชังมากที่สุด
ที่เขาต้องการแก้แค้นได้ตายไปต่อหน้าต่อตาเขา
แต่เขากลับไม่มีความสุขหรือพอใจเลย กลับมีแต่ความเสียใจ เจ็บปวดจนพูดไม่ออก!
“ฆ่าเขาซะ...” ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ข้างที่จมลงในทะเลสาบ
พุ่งออกมาจากน้ำเหมือนกับปลา
และเหมือนกับปลาที่ถูกชาวประมงตกขึ้นมาจากน้ำและตกอยู่ในมือของราชาจินกวนโดยมิผิดพลาด ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมรับเจ้านายเช่นนี้
มันส่งเสียงสั่นสะเทือนเล็กน้อย
แต่มันไม่อาจต้านทานพลังของราชาจินกวนได้ มันดิ้นรนส่งเสียงหึ่งๆ
เป็นครั้งคราวเหมือนกับปลาใหญ่ที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือชาวประมง
จากนั้นจึงค่อยสงบลงทีละน้อยไม่ดิ้นรนอีก
แต่ปิดผนึกปณิธานเอาไว้ และมันปฏิเสธจะยอมรับเจ้านายใหม่ ราชาจินกวนไม่สนใจมัน เขารู้ว่าตราบเท่าที่มันถูกพลังข่มเป็นเวลานาน
ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ จะช้าจะเร็วจะต้องถูกครอบงำ! เขาคาดดาบแสงไว้กับเข็มขัด
โบกมือสั่งแปดขุนพลบริวาร
ให้ฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้าของเก่าดาบแสงอย่างไร้ความปราณี
“ขอรับ”
จอมหักหลังและจอมโฉดกระโดดออกมารับคำสั่งตั้งใจชิงความดีความชอบ
ถ้าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่อยู่ในสภาพปางตายอย่างนั้น
พวกเขาต่อให้มีหลายคนย่อมไม่กล้าเคลื่อนไหวแน่นอน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่นักสู้ฝีมือดีระดับขุนพลเลย
แม้แต่นักสู้ปราณฟ้า แม้กระทั่งนักสู้ปราณดินก็ยังสามารถโจมตีระเบิดโล่แสงโลหิตที่คลุมร่างและฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวได้!
จักรพรรดิฟู่โฉวค่อยๆ หลับตา
สำหรับการตายเป็นเรื่องที่เขาคาดไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้เขาหวังว่าจะได้ตายจากทะเลแสงโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
แทนที่จะตายด้วยน้ำมือคนพวกนี้
แม้ว่าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะสามารถยืดชีวิตให้เขาหนึ่งนาที
จะมีความหมายอะไร?
แทนที่จะตายอย่างทรมานในเงื้อมมือของพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ตายในทะเลแสงโลหิตยังจะดีกว่า แน่นอนว่าความตายนั้นเลือกไม่ได้ นอกจากนี้การรอคอยนี้ ก็คงไม่นานเกินไป ศัตรูคงไม่ยอมเสียเวลาและคงจะลงมือในทันที
“อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน, เด็กคนนี้เป็นหนี้เงินข้ามากมาย พวกเจ้าถามเจ้าหนี้อย่างข้าก่อนหรือยัง?” ในทะเลคลั่งมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัว
คลื่นทะเลคลั่งดูเหมือนจะกลัวเขาสงบลงทันทีเหมือนกับลูกสุนัขหลบอยู่ที่มุมห้องด้วยความกลัว
“อะไร, อะไรกัน?”
อย่าว่าแต่ทะเลคลั่งเท่านั้นที่กลัว แม้แต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวนก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน
“เจ้าเด็กนี่......”
ราชาเฉินม่อหรี่ตาจนแคบเท่าเข็ม
ซือเหรินและขุนพลบริวารอื่นงงจนทำอะไรไม่ถูก
ตกตะลึง
พวกเขาไม่อยากเชื่อกับการปรากฏตัวของคนข้างหน้า
แน่นอนว่าผู้มาก็คือเย่ว์หยางที่จ้าวสุริยาเรียกว่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่!
ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม
เขายิ้มด้วยริมฝีปากแดงฟันขาวผ่อนคลายสบายๆ เฉิดฉันเหมือนดวงอาทิตย์
เหมือนกับว่าเขาเพิ่งไปดื่มกินงานเลี้ยงแล้วเพิ่งกลับมา
เมื่อเย่ว์หยางปรากฏตัว ด้านหลังของเขาปรากฏร่างบุรุษผมงู ราชาจื่อฟง
หญิงงามจูกวง ราชาชิงหลางและคนอื่นๆ ปรากฏตัวโดยไม่มีการขาดหายไป
กลับกลายเป็นว่าพวกเขาตั้งมากมายหลายคน
ไม่มีใครตาย
ตาของราชาเฉินม่อยังคงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง
มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รู้จักความน่ากลัวของบุรุษคนนี้
ตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่หนีพ้นจากการโจมตีของจ้าวสุริยาเท่านั้น แต่ยังช่วยกลุ่มสหายได้ต่อหน้าต่อตาของเขา
จุดที่สำคัญที่สุดก็คือข้อวิตกกังวลนี้สามารถพิสูจน์ได้ไหม?
พิสูจน์ว่าจ้าวสุริยายังจะไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ แม้ว่าราชาเฉินม่อจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเด็กหนุ่มนี้ล้มจ้าวสุริยาได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามรอยยิ้มอันผ่อนคลาย ราชาเฉินม่อมีความเข้าใจ
แม้ว่าราชาเฉินม่อจะค้นไม่เจอว่าเด็กหนุ่มนี้ไม่ถูกจ้าวสุริยากักตัวไว้ได้อย่างไร แต่เขายังมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย ราชาเฉินม่อเข้าใจว่าเจ้าเด็กนี่ไม่เป็นไร เขาเกรงว่าเขาจะปรากฏตัวในเวลานี้
“เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตาย
ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง”
เย่ว์หยางยังยิ้มและกล่าวขอโทษอย่างดูจริงใจ
“ราชาสองหน้าเล่า?” ราชาจินกวนตกใจ เขาถามถึงราชาสองหน้าที่ไปตามจับมารสัมฤทธิ์ฟ้า
ความจริงเขาต้องการถามถึงจ้าวสุริยามากกว่า แต่เขาไม่กล้าคิดถึงความล้มเหลวของจ้าวสุริยา
“หา, เจ้าคิดหรือว่าคนใช้สถานะต่ำอย่างเขา
จะต้องให้เราคุณชายไปรับหน้าเขาด้วยตัวเอง?
แค่คนคุ้มกันข้ากับสุนัขเฝ้าบ้านของข้าก็เพียงพอแล้ว ข้าไม่อยากทำอะไรรุนแรงเกินไป” ไม่ทราบว่าเย่ว์หยางล้วงพัดจีบออกมาจากไหน เขาคลี่พัดพูดพลางส่ายหัวพลาง
ท่าทางเหมือนกับคุณชายเจ้าสำราญเดินตามท้องถนน
พระยาราชสีห์ต้องการจะพูด
แต่ราชาเฉินม่อยื่นมือห้ามทันที
เขายืนอยู่หน้าเย่ว์หยางโดยตรง
นอกจากเขาแล้ว
ไม่มีคนอื่นเป็นคู่ต่อสู้เย่ว์หยางได้
แม้แต่พระยาราชสีห์ผู้กล้าที่สุด
ราชาจินกวนผู้หยิ่งภูมิใจที่สุดก็ยังแอบรู้สึกกลัวเด็กหนุ่มผู้เจ้าเล่ห์นี้ไม่ได้
แต่เด็กหนุ่มนี่แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังกักตัวเขาเอาไว้ไม่ได้หรือ
นี่คือเด็กหนุ่มที่เอาชนะซิวคงและจิ่วเซียวในสามจอมภพแดนสวรรค์
นี่คือเด็กหนุ่มผู้รบชนะเผ่าเก้าแสงและสังหารจักรพรรดินีฟ้าได้โดยตรง
เสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวด้านหลังราชาจินกวน
ราชาจินกวนสวมทั้งเกราะทอง
มีทั้งโล่ทอง
เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็ว
และโจมตีทันที
แม้ว่าราชาจินกวนจะถูกปีศาจอสรพิษน้อยจ้องมองด้วยดวงตากลมโตและถูกพันธนาการด้วยทักษะแฝงเร้นของเธอ
แต่เขาก็หลุดพันธนาการได้
เสี่ยวเหวินหลีเอื้อมมือดึงดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เอวของราชาจินกวนออกมาได้อย่างสบายไม่เร่งร้อน
ความเคลื่อนไหวสบายๆ ของเธอเหมือนเป็นการตบหน้าของราชาจินกวนโดยตรง
หลังจากดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ได้รับอิสรภาพ
มันได้รับพลังงานสนับสนุนจากเสี่ยวเหวินหลี
กลายเป็นดาบแสงสีเงิน
มันฉายรัศมีออกมา
มันทะลุโล่พลังแสงโลหิตและพาจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้านายมันบินไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยด้านหลังเย่ว์หยาง
บุรุษผมงูกระโดดสุดกำลังรับร่างจักรพรรดิฟู่โฉวและกลับมา ขณะที่ราชาจื่อฟง
ราชาชิงหลางและคนอื่นไม่รู้จะทำอะไร
เขาตวาดด่า “พวกเจ้าโง่หรือเปล่า, รีบกลับไปที่ทางผ่านมิติ ออกไปจากตรงนี้
อย่าเพิ่มภาระให้เย่ว์ไตตัน...”
คราวนี้ราชาจื่อฟงและราชาชิงหลางค่อยรู้สึกตัว
และรีบหนีไปที่ทางเข้ามิติทันที
พระยาราชสีห์เงยหน้ามองดูราชาเฉินม่อ
และพบว่าราชาเฉินม่อคล้ายกับจ้าวสุริยาตอนที่มองเย่ว์หยาง
เขารีบไปยืนข้างราชาจินกวนที่กำลังฟื้นฟูพลังต่อสู้ และรับหน้าที่ต้านทานศัตรู
ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าปีศาจอสรพิษน้อยซึ่งเงียบสงบอยู่นานนั้นไม่ใช่อสูรเทพธรรมดาอย่างที่เห็น
แต่เป็นนางพญาผู้พิชิตในร่างเด็ก
ขุนพลคนโฉดคำรามลั่นท้องฟ้าและวิ่งเข้าหานักสู้ปราณฟ้าอย่างราชาชิงหลาง
แม้ว่าจะไม่มีทางทำอะไรคุณชายไตตันได้ แต่ฆ่าราชาชิงหลาง พวกเขาทำได้ไม่มีปัญหา คนตัวใหญ่ คนตัวผอมนี้จะเลือกคู่ต่อสู้เอง
เฟี้ยว!
ธนูทองดอกหนึ่งปักเข้าที่ต้นขาของคนโฉด
ในทันใดนั้นต้นขาที่หนาใหญ่เหมือนกับขาช้างกลายเป็นเสาศิลาทันที
ไม่รู้ว่าด้านหลังของเสี่ยวเหวินหลีมีสี่อสูรพิทักษ์ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใด, สี่อสูรพิทักษ์?
อสูรพิทักษ์แต่ละตนมีระดับพลังใกล้เคียงอสูรเทพ อย่าว่าแต่นักรบระดับแปดขุนพลนี้เลย แม้แต่พระยาราชสีห์ ราชาจินกวน
เมื่อเห็นเมดูซาศิลา นางเงือกวายุ นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง
หัวใจพวกเขาตกวูบ
ศึกนี้หนักหนาสาหัสจริงๆ!
10 ความคิดเห็น:
จงกลายเปนหินซะดีๆ
ขอบคุณครับ
ยัง ยังไม่หมดนี่ เอาออกมาให้หมดเลยพี่เย่ว์
ดาบแสงหนีไปแล้ว จะเหลืออะไรอีกล่ะ เอาราชสีห์มาเป็นอาหารหมาไหม
เล่นผิดคนแล้วพ่อ 5555
ปุ๋ยๆๆๆๆๆๆ
เอาดอกหนามออกมากินมันเลย555
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น