ตอนที่ 1017
ความลับใต้น้ำ
เย่ว์หยางดึงหลิวเย่เข้ามาใกล้ตัว
และว่ายวนดูพบว่า เจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนเนินเขาใต้น้ำ แต่ความจริงไม่ใช่เลย
นี่คือเนินเขาอำพรางเป็นบอลโลหะขนาดมหึมา
นอกจากนี้
หลังจากเย่ว์หยางตรวจสอบ
ทราบว่าข้างในกลวง
ที่รอบๆ
มันมีท่อเหล็กขนาดใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรเชื่อมคดเคี้ยวเข้าไปในเมืองไป๋เหอ
อีกเส้นทางหนึ่งไปทางเส้นทางที่เย่ว์หยางกับหลิวเย่จะไปสำรวจผนึก หลิวเย่ไม่จำเป็นต้องคาดเดา นางเข้าใจ
นี่ต้องเป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์แห่งเมืองไป๋เหอที่มาพบความลับใกล้ผนึกขุมทรัพย์และพยายามจะปลดผนึก
ตอนนี้จะไปปลดผนึกอีกครั้งนั่นคงไม่ดีแน่นอน
ควรทำอย่างไรดี?
หลิวเย่อดเงยหน้ามองดูเย่ว์หยางอย่างช่วยไม่ได้และรอให้เขาตัดสินใจ
“เราจะเข้าไปสำรวจข้างใน บางทีอาจได้ผลลัพธ์ใหญ่ก็ได้!”
เย่ว์หยางเป็นคนที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน
เกี่ยวกับการปลดผนึกของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์
เขาเองก็จะปลดผนึกและค้นหาสมบัติลับโบราณ เขาสามารถรับสมบัตินั้นไว้ด้วยตนเอง ในแดนสวรรค์ ผู้ใดแข็งแกร่ง ผู้นั้นเป็นเจ้า
“เอาอย่างนั้นก็ได้!” หลิวเย่เป็นคนจิตใจดี ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง นางคงไม่ยอมเป็นนางโจรสาวแน่ ดังนั้นนางยังคงกังวลเล็กน้อย
มีเย่ว์หยางอยู่ใกล้นาง นางตัดสินใจลงมือ
และเพื่อเป็นการรายงานเขาเกี่ยวกับผลการฝึกฝนเร็วๆ นี้ของนาง
กวางทะลุมิติ
นางเรียกอสูรพิทักษ์ของนางออกมาเงียบๆ
หลังจากผ่านการฝึกฝนและต่อสู้มานับไม่ถ้วน
ด้วยการฝึกฝนอย่างระมัดระวังจากเย่ว์หยาง
กวางทะลุมิติซึ่งเป็นอสูรที่ยกระดับได้ยากมากตอนแรกเป็นแค่อสูรเงินระดับสอง
ตอนนี้เติบโตจนอยู่ในชั้นแพลตตินัมระดับห้า
แม้ว่ากวางทะลุมิติจะไม่ใช่อสูรชนิดใช้สู้รบ
แต่มันสามารถเคลื่อนย้ายระยะไกลช่วยเหลือเจ้านายในการต่อสู้ได้
สมคำที่กล่าวว่าทักษะแฝงเร้นสวะ
อสูรขยะไม่มีในโลก มีแต่เจ้านายสวะที่ใช้ไม่เป็นเท่านั้น
กวางทะลุมิติถ้าตกอยู่ในมือคนอื่น
มันอาจถูกทำลายความสามารถได้
อย่างไรก็ตามภายใต้การฝึกฝนของเย่ว์หยางและหลิวเย่ มันไม่เพียงเติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้น
แต่ยังกลายเป็นอาวุธที่เอาชนะในสนามรบหรือในการผจญภัยได้
เช่นเดียวกับการฝึกตามปกติ เมื่อกวางทะลุมิติทะลุผ่านเข้าไปในสิ่งก่อสร้างโลหะกลมขนาดยักษ์
ผ่านพื้นผิวเข้าไปข้างใน เมื่อกวางทะลุมิติเข้าไปในพื้นที่ภายใน หลิวเย่ก็หายตัวเข้าไปด้วย
เทเลพอร์ตเพียงครั้งเดียว
นี่คือพื้นฐานที่เย่ว์หยางฝึกให้หลิวเย่
ไม่ต่างอะไรกับการฝึกฝนตามปกติ
กวางทะลุมิติผ่านทะลุเข้าไปในวัตถุธาตุเหล็กขนาดมหึมา ขณะที่กวางทะลุมิติผ่านเข้าไป
หลิวเย่ก็นำเย่ว์หยางผ่านเข้าไปได้สำเร็จ
ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในดินแดนของศัตรู
สาวน้อยหลิวเย่คงร่าเริงดีใจ
ในช่วงเวลาปกตินางสามารถเทเลพอร์ตด้วยตนเองซึ่งทำได้ง่ายทุกเวลา
ทุกสถานที่ แต่เมื่อนำพาผู้คนไปด้วย
นี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
ที่สำคัญนั่นเป็นสองแนวทางที่แตกต่างกัน
ในช่วงเวลาปกตินางมีโอกาสพาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปด้วยพร้อมกันมีโอกาสสำเร็จได้เพียงหนึ่งในสิบ คาดไม่ถึงว่าภายใต้แรงกดดันในวันนี้
สามารถทำได้สำเร็จในครั้งเดียว และทำได้สมบูรณ์แบบมากกว่าการฝึกตามปกติ
หลิวเย่ไม่กล้าส่งเสียงดังจนระงับใจไม่ได้
อดยื่นมือไปกอดเย่ว์หยางไม่ได้
เมื่อนางกอดไปแล้วถึงได้รู้สึกตัวทันที
นางก้มหน้าด้วยความอาย
เย่ว์หยางสังเกตเห็น
เขาลูบหน้านางเบาๆ
แทนคำชม และจากนั้นควบแน่นความชื้น
ลมหายใจของนางกลายเป็นบอลเล็กใส่เข้าไปในมิติว่างป้องกันไม่ให้ศัตรูใช้ความสามารถพิเศษในการหาตัวนางพบ
สำหรับตัวของเขาเอง
เว้นแต่จะเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับจ้าวสุริยา มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะหาตัวเขาพบโดยไม่ใช้สายตาโดยตรงได้
ต่อให้เป็นชางหลงเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ก็ตามก็ต้องยอมแพ้กับความคิดค้นหาตัวเขา แค่ทักษะแฝงเร้นอำพรางไม่ต้องพูดถึง
สนามพลังสร้างโลกไม่จำเป็นต้องอธิบายกันมาก เพราะเพิ่งยกระดับขึ้นมาสองระดับ จากเดิมตอนสู้กับจ้าวสุริยายังเป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับสาม
จนปัจจุบันนี้พลังเพิ่มเป็นระดับห้า
เย่ว์หยางกล้าพูดได้ว่าเหนือกว่านักสู้ระดับเดียวกับชางหลง
เมื่อมองสภาพแวดล้อมอย่างใกล้ชิด
เย่ว์หยางและหลิวเย่พบว่าไม่ง่ายเหมือนกับเป็นบอลเหล็กกลวง
นี่คือป้อมปราการเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ
สถานที่มาถึงนี้
คือห้องๆ
หนึ่ง
นี่ควรจะเป็นที่พำนักชั่วคราวหลังจากทหารปฏิบัติหน้าที่ มีสี่เตียงและตู้หลายใบตั้งไว้
เต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลาและเหงื่อ ของหวานและเหล้าที่หมดอายุ
หลิวเย่รีบเปลี่ยนคุณสมบัติของชุดรบจันทราเป็นคุณสมบัติลม นางสร้างโล่ลมอากาศอิสระเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
เย่ว์หยางเตรียมจะเปิดประตูแต่ก็ต้องหยุดทันที
เขาทำสัญญามือบอกหลิวเย่ว่านางไม่ควรแปลกใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ทำใจสงบ อย่าตื่นเต้น
หลิวเย่รีบพยักหน้าเข้าใจ
จากนั้นนางจับมือเย่ว์หยางด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย
ตราบใดที่เขาอยู่ที่นั่น
นางไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
เย่ว์หยางแง้มประตูเบาๆ ด้วยการถ่ายทอดพลังพิเศษของเย่ว์หยางทำให้ได้ยินเสียงคนหลายคน
หนึ่งในนั้นเป็นเสียงสตรีที่นางคุ้นเคยมาก
เมื่อหลิวเย่ได้ยินเช่นนี้
นางเข้าใจเหตุผลที่เขาต้องการให้นางสงบจิตใจ! แต่ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่.... หลิวเย่สงสัยและฟังอย่างระมัดระวัง
และฟังเสียงสตรีผู้นั้นอย่างงงงัน เสียงนั้นพูดอย่างไม่พอใจ
“ข้าพูดไปกี่ครั้งแล้วคนพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา
พวกเขามาเมืองไป๋เหอเพื่อทำธุรกิจ!
เราไม่อาจลงมือกับพวกเขาได้เพราะแค่ขาดเลือด
เพราะเบื้องหลังพวกเขาอาจมีคนแข็งแกร่งทรงพลังแฝงตัวอยู่ เราไม่สามารถตอแยศัตรูเช่นนั้นได้โดยไม่มีเหตุผล”
“ข้าคิดว่าเจ้าหลงรักพวกเขา
เจ้าจำได้ไหมว่าเจ้าคือฟู่ผิงแห่งเมืองไป๋เหอ?
อย่านึกว่าเจ้าได้สถานะใหม่แล้วเจ้าจะลืมบทบาทของเจ้าได้!”
มีเสียงบุรุษแหบแห้งชั่วดังคัดค้านขึ้น
“ลิงน้ำ! เจ้าหมายความว่ายังไง? ความแตกต่างของเจ้าก็คือ เจ้าหึงหวง
เจ้าเป็นคนที่ส่งข้าไปเป็นสายลับก่อน
ตอนนี้เจ้ามาสงสัยว่าข้ามีความสัมพันธ์กับพวกเขา นั่นเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป ทุกคนก็รู้ เผ่าพันธุ์เราต้องคำสาป จะแต่งงานกันในเผ่าพันธุ์เดียวกันเท่านั้น ข้าจะปะปนกับพวกเขาไปทำไม นั่นข้าทำไปเพื่อจุดประสงค์สอบถามข่าวกรอง นอกจากนี้ ลิงน้ำ! เจ้าต้องแยกเรื่องส่วนตัวให้ออก เจ้าไม่อาจสงสัยข้าได้
เพราะเพียงข้ามีสัญญาว่าจะแต่งงานกับพี่ชายของเจ้า! ข้าไม่กลัวกระทั่งเงา
นั่นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาทะเลาะกับข้า”
หลิวเย่คุ้นกับเสียงนั้นมาก
“ข้าไม่สงสัยเจ้า แต่การแสดงออกของเจ้าทำให้ข้าสงสัย!
ทำไมเจ้าห้ามข้าไม่ให้ฆ่าพวกเขา? ไม่ใช่เพราะพวกเขาหล่อหรอกหรือ พวกเขาทำให้เจ้าตื่นเต้นไม่ใช่หรือ” บุรุษเสียงแหบหัวเราะเยาะเย้ย
“เจ้ามีหลักฐานอะไรบ้าง?
มันไร้สาระที่เจ้ามาประจานข้าแค่เพียงเพราะความสงสัยส่วนตัว ข้ารู้ว่าลิงน้ำเจ้าเป็นเช่นนี้เพราะเหตุใด เจ้าขอพ่อแม่ข้ายกข้าให้แต่งงานกับเจ้า แต่ข้าปฏิเสธ เจ้าก็เลยอิจฉาพี่ชายของเจ้า นั่นเป็นเหตุผลให้เจ้าเกลียดข้า ลิงน้ำเจ้าไม่ดีเท่ากับพี่ชายเจ้า เจ้าไม่ดีเทียบเท่าเขา
เจ้าเป็นเหมือนโคลนใต้เท้าของเขาเท่านั้น
ข้าไม่ผิด เจ้าไม่กล้าย่างเท้าเข้าเมืองไป๋เหอ ได้แต่อยู่ที่นี่ทั้งวัน
น่านน้ำเมืองไป๋เหอเป็นกำแพงคุ้มตัวให้กับคนอ่อนแออย่างเจ้า เอาไว้ให้เจ้าปลอบใจตัวเอง
ลิงน้ำเจ้าไม่กล้าออกจากสวรรค์ของเจ้าเหมือนกับกบก้นบ่อ! ถูกต้องแล้ว ข้าดูถูกเจ้า เจ้าไม่อาจเทียบกับพี่ชายของเจ้าได้ เจ้าก็ได้แต่ว่าเขาลับหลัง! และนั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องทำให้ข้าเสียชื่อเสียง เลวทราม
เจ้าทำอย่างนั้นมานานแล้วไม่ใช่หรือ? ลิงน้ำ เจ้าก็แค่คนอ่อนแอไร้ราคา
เป็นสุนัขกลายพันธุ์”
“ หุบ,, หุบปาก
ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้า...”
“พวกเจ้าพอได้แล้ว สิ่งที่ข้าต้องการมากที่สุดคือข้อมูลข่าวสาร ตอนนี้เนื่องจากการปรากฏของหมอกซ่อน
ทำให้พ่อค้าทาสชะลอการเดินทางของพวกเขา
ไม่มีการส่งมอบทาสที่มีชีวิตได้ทันเวลา พวกเจ้าบอกที
ว่าข้าควรทำอย่างไร?
เราต้องการเลือดของมนุษย์ปริมาณมาก และนี่คือปัญหาที่เราต้องการแก้ไข”
บุคคลที่มีเสียงดังกึกก้องมีอำนาจอย่างแปลกประหลาดนี้ หลิวเย่รู้สึกว่าคุ้น
คล้ายเคยได้ยินมาจากที่ใดมาก่อน
“ก็รีบๆ ฆ่าเจ้าหนุ่มรูปหล่อพวกนี้เร็วๆ
และกวาดล้างเมืองอีกครั้ง รอเวลาจนกว่าทาสชุดใหม่จะถูกส่งมา” ลิงน้ำเสนอความเห็น
“เจ้ากำลังหาศัตรูที่น่ากลัวมาให้เรา ข้าขอคัดค้าน!” เสียงสตรีคัดค้านดังขึ้น
“สำหรับในตอนนี้
จะให้ข้ารออีกสามวันคงทำไม่ได้
เราต้องใช้เลือดพวกเขาเป็นการด่วน
ฟู่ผิง!
ข้าเข้าใจว่าเจ้าต้องการพูดอะไร
แต่เจ้าฟังข้าให้ดี คืนชีพบรรพบุรุษสำคัญที่สุด หากเจ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้
เจ้าบอกข้าได้ แต่ถ้าไม่มี
อย่างนั้นก็จงร่วมมือกับเจ้าลิงน้ำ
สามวันจากนี้ต้องพาพวกเขามาที่นี่
ที่สำคัญคนนอกไม่อาจเชื่อถือได้
เจ้าไม่ควรรู้สึกดีกับพวกเขา เพียงเพราะพวกเขาใจดี จงจำไว้เสมอว่า เราคือเผ่าพันธุ์ทรยศ เราเป็นกบฏผู้ต้องสาปจากเทพ มนุษย์ไม่สามารถอยู่ร่วมกับเราได้
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ชาวหอทงเทียนหรือมนุษย์แดนสวรรค์
ไม่มีมนุษย์ใดจะเห็นใจเรามนุษย์เงือก
ดังนั้นเจ้าจงลืมเสียเถอะ! สำหรับลิงน้ำ เจ้าอย่ามากเกินไป เจ้าควรทำงานส่วนของเจ้าให้ดี อย่าคิดไม่ดีกับคนเผ่าเดียวกัน เมื่อทุกคนออกไปข้างนอก ข้าไม่อยากได้ยินเรื่องทะเลาะกันอีกต่อไป หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย คิดว่าที่ข้าพูดออกไปนี้ ชัดเจนเพียงพอแล้ว” เสียงที่ทรงอำนาจตัดสินใจครั้งสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นลิงน้ำ หรือสตรี
ไม่มีใครโต้แย้งได้ ต้องเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจและออกไปอย่างเงียบๆ
หลิวเย่ประหลาดใจ
นางคิดไม่ออกจริงๆ
นางสามารถได้ยินเสียงข้างในนี้โดยมิได้คาดคิด
ยังไม่ต้องพูดถึงนาง
แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังรู้สึกคาดไม่ถึงเช่นกัน
อาจกล่าวได้ว่าย่ำหาจนรองเท้าสึกไม่พบเจอ
ยามได้มาแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม
บางครั้งโลกก็เป็นเช่นนี้ ตั้งใจจะปลูกไม้ดอก แต่กลับแทรกต้นหลิวไปด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ
“?” เจ้าของเสียงมากอำนาจนั้นดูเหมือนรู้สึกถึงความผิดปกติได้
เขารวดเร็วกว่าสายฟ้า
ตรงไปยังจุดที่หลิวเย่และเย่ว์หยางอยู่
เมื่อเขาเตะเปิดประตูเตรียมจะโจมตีศัตรูให้เต็มที่ เขาพบทันทีว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน
ไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในอากาศ นอกจากกลิ่นคาวดั้งเดิม ที่สำคัญที่สุดไม่มีพลังงานที่ผันผวนในห้อง
เป็นเขาเข้าใจผิดไปเองหรือ?
คนผู้นี้ไม่รู้ว่าโลกมีสิ่งมีชีวิตอย่างกวางทะลุมิติและการเทเลพอร์ตผ่านมิติได้ ขณะที่เขาเข้ามาในห้องพัก หลิวเย่ได้นำเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปที่ตำแหน่งดั้งเดิมที่เขายืนอยู่
เย่ว์หยางพยายามทดสอบเด็กสาวผู้นี้ให้นางรับหน้าที่เป็นผู้นำ
โดยไม่ดำเนินการใดๆ หลิวเย่ลงมือภายใต้แรงกดดันจากการโจมตีของศัตรู
นางลงมืออีกครั้งโดยใช้กวางทะลุมิติสลับตำแหน่งกับศัตรู
บุรุษผู้มีเสียงน่าเกรงขามรู้สึกสงสัยอย่างมาก
แต่ไม่ใส่ใจ เขาค้นหาโดยละเอียด
เขาเตะเปิดห้องที่เหลือและค้นหาดูทั้งหมด
ในที่สุด เขาจากไปด้วยความสงสัย
เมื่อเขาจากไป
หลิวเย่พาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตกลับมายังตำแหน่งเดิม
สิบวินาทีต่อมา ดูเหมือนหลิวเย่จะคิดอะไรได้
นางพาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปที่ห้องรับรองสุดทางเดิน แทบจะทันทีที่นางจากไปมีคนปรากฏตัวที่นอกประตู บุรุษผู้นั้นรู้สึกระแวงที่หายไปและกลับมาอีก...
ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาของหลิวเย่
เขาคงจับนางได้
นี่ยังคงไม่ได้อะไร
บุรุษผู้ช่างระแวงเชื่อว่าเป็นความรู้สึกไปเอง เขาออกไปอย่างทำอะไรไม่ได้
หลิวเย่เทเลพอร์ตกลับมาที่ห้องรับรองเป็นครั้งสาม
และตอนนี้ปลอดภัยอย่างแท้จริง
ศัตรูจากไปแล้วจริงๆ
สาวน้อยถอนหายใจโล่งอก
และเห็นเย่ว์หยางยกนิ้วให้ นางอดแลบลิ้นมิได้
5 ความคิดเห็น:
ขอบคุณคับ
หลิวเย่เจ้าเล่ห์เหมือนเย่าหยางแล้ว
ใจจ้า
เดี๋ยวก็โดนกัดลิ้นหลอก
ไม่น่านะ แค่ดูดๆ
แสดงความคิดเห็น