วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1026 ไม่เคยเห็นคนโง่อย่างนี้มาก่อนในชีวิต


ตอนที่  1026  ไม่เคยเห็นคนโง่อย่างนี้มาก่อนในชีวิต
ทะเลหมอก
 
เรือสำราญท่องเที่ยวยังจอดนิ่งอยู่กับที่  แต่นักท่องเที่ยวบนเรือถูกสังหารและเป็นชาวมนุษย์เพื่อเอาเลือดไปใช้บูชายัญ  ที่ไม่ใช่มนุษย์ก็ตกเป็นอาหารปลาทั้งหมด  เลือดและศพจำนวนมากดึงดูดฉลามทรายมาเป็นจำนวนมากที่สามารถครอบครองน่านน้ำได้
ฉลามเสือเหล่านี้ มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันปรากฏในเมืองไป๋เหอ
อาจมีใครบางคนจงใจเก็บมันเอาไว้  หรือบางทีอาจเป็นสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่ในทะเลมาก่อนที่ทวีปจะล่มสลาย
ฉลามเสือทรายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังถึงปราณฟ้าระดับสาม  ตราบใดที่มันอยู่ในน้ำ เมื่อพวกมันเล็งเป้าหมายใดไว้ เป้าหมายนั้นก็เท่ากับถูกกำหนดไว้ว่าต้องตายแน่  เทียบกับฉลามอื่นหรืออสูรใต้น้ำที่อยู่แยกกัน  ฉลามเสือทรายทำงานเป็นกลุ่ม  พวกมันจะส่งกลุ่มพวกมันอย่างน้อยสิบตัวเข้าโจมตีศัตรู พวกมันรู้วิธีร่วมมือกัน  ประสิทธิภาพในการโจมตีของพวกมันถือว่าดีที่สุดในน่านน้ำเมืองไป๋เหอ!
ที่ฉลาดที่สุดก็คือฝูงฉลามเสือทรายเหล่านี้รู้วิธีทำงานร่วมกับมนุษย์เงือกกลายพันธุ์
ถ้ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์เอาอาหารดีๆ มากมายมาล่อพวกมัน  ฉลามเสือทรายเริ่มยอมตัวเป็นพาหนะให้มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ใช้ขับขี่เป็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างเช่นในตอนนี้
มนุษย์กุ้งขับขี่ฉลามเสือทรายชื่อ “เจ้าเขี้ยวหัก” ไล่ตามเจ้าอ้วนไห่อย่างย่ามใจ
เจ้าเขี้ยวหักเป็นฉลามเสือทรายมีพลังปราณฟ้าระดับสาม แม้ว่าจะไม่ใช่จ้าวฉลามแต่ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน มีพลังแข็งแกร่งอยู่ในสิบอันดับแรกของพวกมัน  มันเคยร่วมมือกับมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ฆ่าวานรทองแขนเหล็ก อสูรปราณฟ้าระดับห้า  มันโจมตีได้ดุร้ายเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าศัตรู และถูกวานรทองแขนเหล็กต่อยเข้าที่ฟันของมัน  ดังนั้นมันจึงได้ชื่อว่า “เจ้าเขี้ยวหัก” มันร่วมมือกับสหายที่เป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ผู้บ้าคลั่งจอมต่อยตีเอาชนะได้สำเร็จ  เสียสละเพียงเล็กน้อย แต่ในที่สุดได้รับรางวัลเป็นแขนแหล็กที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าผิวหนังเหล็กกล้า
ในระหว่างต่อสู้ มนุษย์กุ้งเจียวซีคอยช่วยเจ้าเขี้ยวหักและได้รับการยอมรับจากมัน เขากลายเป็นอัศวินที่คอยคุ้มครองเจ้าเขี้ยวหัก
ทันทีที่อยู่ในน้ำมนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะมีพลังรบเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า
เมื่อใช้ฉลามเสือทรายเป็นพาหนะ มนุษย์เงือกกลายพันธุ์กล้าพูดได้ว่าในน่านน้ำนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้พวกเขาได้  อย่างน้อยคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันไม่สามารถเอาชนะเขาได้!  เหมือนกับขณะที่เขากำลังไล่ล่าเจ้าอ้วนไห่ที่มองผิวเผินมีพลังปราณฟ้าระดับต้นๆ เท่านั้น  เจ้ามนุษย์ที่ร่างเหมือนหมูนี้  มนุษย์กุ้งเจียวซีรู้สึกได้ว่าสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย
ถ้าไม่ใช่เพราะท่านจอมพลสั่งไว้ก่อนแยกจากไปว่า ต้องฆ่าเป้าหมายที่หลบหนีไปให้รวดเร็วที่สุด  มนุษย์กุ้งเจียวซีอยากจะล้อเล่นกับศัตรูนี้สักชั่วขณะ
แหนเลือดเป็ดน้ำของฟูผิง?
วิชาลับของฟูผิงนั้น มนุษย์กุ้งเจียวซีเคยเห็นมาแล้ว
ถ้าเขาไม่มีเจ้าเขี้ยวหักเป็นพาหนะ  คาดว่าการตามไล่ล่าคงจะยุ่งยากบ้างเล็กน้อย  คงจะน่าขายหน้ากว่าจะไล่ตามได้ทัน  แต่ด้วยพาหนะน้ำ ความเร็วของฉลามเสือทรายสามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายเหมือนกับแมวไล่จับหนู  มนุษย์กุ้งเจียวซีรู้ว่าเขาจะต้องย้อนกลับไปหลังจากลงมือแล้ว ที่สำคัญมีคนต้องไล่ล่าไม่ใช่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น  เจ้าปลาหมึกยักษ์ไล่ล่าบุรุษน้ำแข็ง  จิ้งหรีดน้ำไล่ล่าองค์ชาย   เจ้าจระเข้ปากกว้างพอกินปราสาทได้ทั้งหลังไล่ตามเจ้าคนผอม... ฟูผิงคิดว่าใช้เลือดลับวิชาที่ดีที่สุดของนางช่วย  เพื่อให้คนพวกนี้หลบหนีไปได้  นี่เป็นเรื่องน่าตลก
ทุกอย่างอยู่ในเงื้อมมือท่านจอมพลแล้ว
อย่างไรก็ตามท่านจอมพลมักจะให้โอกาสฟูผิงได้กลับมาเสมอ  แต่ในที่สุดนางก็ต้องยอมแพ้
คนที่มีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นนางแมงมุมน้ำ  และคนที่เศร้าที่สุดย่อมเป็นเจ้าลิงน้ำพันปีอย่างมิต้องสงสัย  อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา  เขาไม่ต้องการเป็นเจ้าเมือง  ไม่ต้องการต่อสู้ทางความคิดของท่านผู้หญิงของเมืองในอนาคต  เรื่องของเบื้องสูงเขาจะไม่ยุ่ง    ชีวิตแบบนี้ปลอดภัยที่สุด!  เหมือนกับแมงมุมน้ำและเจ้าลิงน้ำที่ลอบปล่อยคน ลอบไล่ติดตาม  หลังจากรอแล้ว เท่ากับว่าลูกศิษย์ที่เหมือนลูกสาวตนเองก่อกบฏและหนีไป  จอมพลที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วจะไม่ให้อภัยพวกเขาแน่นอน  “เฮ้..เจ้าอ้วน  ข้าว่าเจ้าหนีมานานเกินไปแล้ว เจ้ายังจะหนีต่ออีกหรือ?  เจ้าเหนื่อยเป็นบ้างไหม?”  มนุษย์กุ้งเจียวซีเห็นร่วงลงมาจากแหนเลือดเป็ดน้ำ ดูเขาสิ้นหวังและพลังร่างกายถึงขีดจำกัด  เขายังสามารถว่ายน้ำหนีต่อโดยเชื่อมั่นว่าจะรอดได้
 “หึหึหึ เจ้าน้องชาย, เจ้าดีแต่ยืนพูดประชดประชัน ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร  เป็นเจ้า เจ้าจะหนีไหม?”  เจ้าอ้วนไห่ทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ แล้วทำตาเหลือก
 “อย่างไรก็ตาม เจ้าก็จะตายอยู่ดี แต่ให้ข้าฆ่าเจ้าด้วยดาบไวช่วยให้เจ้าตายเร็วขึ้นโดยไม่เจ็บปวดแล้วค่อยตัดหัวของเจ้ายังจะดีกว่า    แน่นอนว่าถ้าเจ้าไม่ยอมแพ้แต่โดยดีและทิ้งของมีค่าไว้ เราผู้เฒ่าจะไม่ยอมพูดดีๆ เด็ดขาด  ถ้าเจ้ากล้าต่อต้านหรือบังอาจหนีออกไปอีกเล็กน้อย ข้าบอกได้เลยว่าจะค่อยๆ แทงและแล่เนื้อของเจ้าเหมือนแล่ปลาบางๆ  เจ้าอ้วน เจ้าควรคิดให้ดี  เป็นมนุษย์ที่เลือกความเป็นความตายไม่ได้ ทำไมเจ้าต้องดิ้นรนให้เจ็บปวด?”  ตามข้อมูลที่ฟูผิงบอกไว้ก่อนนั้น มนุษย์กุ้งรู้ว่าเจ้าอ้วนผู้นี้มีทรัพย์สิน  เพื่อให้ได้ทรัพย์สินของเขาเขาแนะนำอย่างอดทน มิฉะนั้นคงฆ่าเจ้าอ้วนผู้นี้ไปแล้ว
 “ข้าต้องรอจนกว่าปาฏิหาริย์จะมาถึง!  เจ้าอ้วนไห่บอกว่าเขาจะไม่ยอมละทิ้งความหวังสุดท้าย
 “ท่าว่ายน้ำของเจ้า ทำให้ข้ารังเกียจแทบตาย ฉะนั้นไม่มีทางที่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นได้”  มนุษย์กุ้งเจียวซีหัวเราะ  นี่คิดว่าปาฏิหาริย์เล็กๆ น้อยๆ จะเกิดขึ้นกับเขาหรือ?  ผิดแล้ว  คนอย่างเจ้าอ้วนถูกกำหนดให้ต้องพบกับโศกนาฏกรรมในชีวิต และถูกโชคชะตาทอดทิ้ง
เจ้าอ้วนไห่สบถด่ามนุษย์กุ้งเจียวซีด้วยภาษาแปลกประหลาด  มนุษย์กุ้งไม่สามารถเข้าใจได้ และเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นรหัสลับที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น  เพราะผู้เฒ่าหนานกงบอกว่าเย่ว์หยางต้องรักษาสง่าราศีของจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนเอาไว้  เย่ว์หยางจึงหลุดคำพูดประหลาดพิลึกออกมา และรู้กันภายในกลุ่มของพวกเขาเท่านั้นไม่เคยหลุดออกมาภายนอก  ไม่เพียงแต่เย่คงเทานั้น แม้แต่เจ้าอ้วนไห่เว้นแต่เขาดีใจลืมตัว ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่หลุดคำพูดนี้ออกมาอย่างง่ายดาย
 “เจ้าอ้วน, ดูสหายของเจ้าสองคนที่เพิ่งปรากฏตัว  เจ้าเอาแต่ผายลมคิดจะเล่นลูกไม้ใดอีก?”
ประโยคเหล่านี้ไม่ใช่คำพูดของมนุษย์กุ้ง  แต่นี่เป็นคำพูดที่มนุษย์กุ้งเจียวซีต้องการพูด
มนุษย์กุ้งตกใจ
ใครบางคนอาจโผล่มาในเวลานี้ นอกจากนี้คำพูดนั้นยังสอดคล้องกับความคิดของเขาอย่างน่าประหลาดใจ นี่ไม่ใช่พี่น้องของเขาที่แยกจากกันมาหลายปีหรือไม่?
ในใจของมนุษย์กุ้งเจียวซีมีความคิดหนึ่งผุดขึ้น  เขาเหลียวกลับไปมองและพบว่ามีคนห้าคนกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา คนหนึ่งเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง  คนหนึ่งยิ้มแย้มและสุภาพ คนหนึ่งทำหน้าขึงขังกับเจ้าอ้วนอีกสองคนนิ่งเงียบเตรียมพร้อมโจมตี.. คนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าถูกเจ้าปลาหมึก, จิ้งหรีดน้ำ, จระเข้ปากยักษ์ไล่ล่าไม่ใช่หรือ?
ทำไมพวกเขามาอยู่ที่นี่กันทั้งหมด
เจ้าปลาหมึก จิ้งหรีดน้ำ และจระเข้ยักษ์เล่า? พวกมันเกียจคร้านและหนีกลับไปเมืองไป๋เหอร่วมพิธีคืนชีพบรรพบุรุษหรือ?
หมายความว่าพวกมันทิ้งหน้าที่กำจัดคนพวกนี้ให้เขาคนเดียวอย่างนั้นหรือ?
มนุษย์กุ้งโมโห
ถ้าข้ากลับไป ข้าจะฟ้องท่านจอมพล
จ๋อม
มีบางอย่างถูกโยนออกมา  เจ้าเขี้ยวหักที่มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่รอให้เขาได้เห็นถนัด  มันกลืนลงท้องทันที
มนุษย์กุ้งตะลึง ดูเหมือนว่าเขาจะโยนศีรษะใครคนใดคนหนึ่งเข้ามา?
แม้ว่าศีรษะนั้นจะถูกเจ้าเขี้ยวหักกลืนกิน แต่รอยและกลิ่นคาวเลือดลอยอยู่ในน้ำ
เฮ้ เฮ้!
ในมือของเย่คงก้อนเงาดำสองลูกถูกโยนออกไป   มนุษย์กุ้งเจียวซีตกใจกลัวรั้งเจ้าเขี้ยวหักถอยห่างออกมาจนกระทั่งก้อนเงาสุดท้ายถูกบุรุษน้ำแข็งโยนออกมามา เขาจึงได้เห็น ก้อนเงากลมนั้นถูกแช่แข็งก็คือศีรษะคนตายอย่างเห็นได้ชัด  นั่นคือผู้เยาว์ฝ่ายมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ที่มีความแข็งแกร่ง มีเจ้าปลาหมึกเป็นผู้นำ  คาดไม่ถึงเลยว่ายอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างเขาก็ยังตายได้ ทั้งตายอย่างน่าสยดสยอง
เมื่อมองดูก้อนเงาดำอื่น เขาพบว่าทั้งหมดคือศีรษะทั้งนั้น
จิ้งหรีดน้ำ จระเข้ปากโต ถ้ารวมกับหัวที่เจ้าเขี้ยวหักกินเข้าไปแล้วอย่างนั้นพวกเขาก็คงตายกันหมด
มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่โง่  และรู้ทันทีว่าผิดปกติ
 “หนี!
ทันใดนั้นเขาเร่งให้เจ้าเขี้ยวหักพาหนีทันที!
ในท้องฟ้ามีเงาปีศาจที่มีร่างงดงามที่กำลังรวบปีกหลีกเลี่ยงข้อจำกัดกฎสวรรค์ห้ามบินพุ่งร่างเข้าหามนุษย์กุ้งเจียวซี  มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่มีเวลาตั้งหลัก เขารู้สึกว่าร่างของเขาถูกฝ่ายตรงข้ามระดมหมัดใส่จนร่างแข็งทื่อเหมือนงูตายกระเด็นตกหลังเจ้าเขี้ยวหัก
เจ้าอ้วนผู้ว่ายน้ำช้ายิ่งกว่าหมูพลันทะยานขึ้นในอากาศ
ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมัดที่พุ่งเข้ามาราวกับดาวตก...
 “หมัดฮิปโปดาวตก!
นี่คือประโยคสุดท้ายที่มนุษย์กุ้งเจียวซีได้ยินก่อนตาย  หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าร่างของเขาถูกพลังฝนดาวตกบดกระแทกใส่!
ในเมืองไป๋เหอ หลิวเย่เพิ่งออกมาจากสมาคมเหล็ก
นางเพิ่งจะพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ และแลกเปลี่ยนแร่ดอกสายฟ้าสิบตันกับอัญมณีหลากสี  นางยิ้มอย่างอารมณ์ดี  แน่นอน อารมณ์นางดีไม่ใช่เพราะเพียงแต่พูดคุยธุรกิจเท่านั้น  แต่นางยังคงบรรลุพลังระดับใหม่   นางไม่รู้ว่าอยู่กับเขาตามลำพังหรือเปล่า  ถึงทำให้เข้าใจได้ดีเป็นพิเศษ  ระดับพลังที่นางคิดว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะบรรลุได้ แม้ในช่วงไม่กี่วันมานี้ก็ประสบผลเพียงเล็กน้อย
หลิวเย่เตรียมจะขึ้นรถไฟที่สถานีกลับไปยังโรงแรมกางเขนเหล็ก
อย่างไรก็ตามนางพบว่ามีคนขวางหน้านางไว้
นางหยุด
คนที่ยืนขวางหน้าหลิวเย่เป็นสตรีสวมชุดดำมีดวงตาหยิ่งยโสและอำมหิต  นี่คือสตรีอสรพิษ ทั้งสองฝ่ายประเมินกันและกัน
 “ดูเหมือนข้าไม่รู้จักเจ้า...”  แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีรังสีฆ่าฟัน แต่หลิวเย่ยังคงยิ้มได้
 “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้มาก!  สตรีชุดดำแค่นเสียหยิ่งยโส
 “พูดมีเหตุผล”  หลิวเย่พยักหน้าและพูดอย่างอารมณ์ดี  “เราจะออกไปนอกเมืองกันดีไหม?  ลงไม้ลงมือในเมืองข้าเกรงว่าจะทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่”  คำพูดของนางทำให้แมงมุมน้ำที่ยืนอยู่ด้านตรงข้ามขำแทบตาย  สู้ในเมืองจะทำร้ายคนบริสุทธิ์?  นางคิดว่าที่นี่คือที่ไหน?  นี่คือที่ของนางหรือ?  นี่คือถิ่นของนางแมงมุมน้ำ  คนที่จะพูดคำนี้ต้องเป็นนางพูด
 “ฮ่าฮ่าฮ่า  ดี ข้าจะทำตามความต้องการของเจ้าก่อนตาย ออกไปนอกเมือง”  นางแมงมุมน้ำรู้สึกว่านางไม่เคยเห็นสตรีที่โง่ขนาดนั้นมาก่อนในชีวิตนาง
เรื่องที่แปลกก็คือหลิวเย่ยังคงอารมณ์ดี
นางคิดอย่างนั้น!

3 ความคิดเห็น:

อ่าห้า กล่าวว่า...

ตายห่าหมด ถถถถ

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Outlaw12 กล่าวว่า...

มาไวตายไว

แสดงความคิดเห็น