ตอนที่ 1033
ทดสอบจุดอ่อนของมนุษย์?
ผ่านเข้าประตูทางเข้ายุคโบราณ
เย่ว์หยางและหลิวเย่ว์เทเลพอร์ตเข้าไปยังพื้นที่มืด
เป็นพื้นที่มืดสนิท
มีความคล้ายคลึงกับผนึกมิติหลุมดำ แต่ไม่มีพลังกลืนกินที่น่ากลัว
ในพื้นที่มืดมิดนี้เย่ว์หยางคิดว่าคงจะมีกฎสวรรค์ห้ามแสง ไม่ว่าจะเป็นเปลวไฟ
มุกส่องแสงหรือพลังงานส่องสว่างจะถูกตัดไม่ให้ใช้
ไม่มีแสง
สำหรับหลิวเย่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่ช่วยปิดบังความอายให้นางในเวลานี้
การใช้ทักษะมองกลางคืนสำหรับเย่ว์หยาง
ถือว่าเป็นทักษะเด็กๆ
นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยตา
แต่ด้วยพลังจิตหรือสนามพลังของเขา เย่ว์หยางสามารถเดินผ่านโลกมืดนี้ได้อย่างสบาย
หลิวเย่ตกอยู่ใต้แรงกดดันของความอาย
กังวลและกลัว ปล่อยให้เย่ว์หยางจูงมือนางเดินนำ นางได้แต่ติดตามเขา
ไม่ทราบว่าเขาจะนำนางไปยังเป้าหมายใด ตราบใดที่อยู่กับเขา
นางมั่นใจเต็มร้อย ไม่ต้องไปนึกถึงเรื่องไม่พึงประสงค์อื่นๆ
หลิวเย่ไม่พูดอะไรและนางรู้สึกถึงความร้อนจากมือของเย่ว์หยางเงียบๆ
บางทีอาจเดินไปแค่สักสิบนาที
หรืออาจจะนานกว่านั้น
หลังจากที่หลิวเย่ตั้งสติได้
นางพบว่าเย่ว์หยางนำนางออกจากความมืดเข้ามาในพื้นที่แสงสว่าง ในพื้นที่นั้นมีแสงสว่างสดใสตรงข้ามกับความมืด
ทุกอย่างสว่างสดใสจนนางแทบลืมตาไม่ได้
ถ้านางฝืนใช้ตามอง จะรู้สึกแสบตายิ่งกว่ามองดวงอาทิตย์ตอนกลางวัน แสงสีขาวนั้นสว่างซึมซาบลึกจนถึงวิญญาณ ตอนนี้ไม่มีร่องรอยที่มืดอับแสง เมื่อเทียบกับความมืดที่เพิ่งผ่านมา
หลิวเย่ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเข้าไปอยู่ในที่มีแสง นางอึดอัดใจกับการเดินผ่านในพื้นที่มีแสงมากกว่าเดินในความมืดที่ยากจะจำแนกแยกแยะความแตกต่างของทิศทางและสถานที่
หลิวเย่ในขณะนี้
ไม่รู้สึกถึงอย่างอื่นนอกจากการปรากฏตัวของเขาเย่ว์หยาง
เดินตามเย่ว์หยางเหมือนหุ่นยนต์
เมื่อผ่านไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นดูเหมือนว่าพวกเข้าก้าวเข้าไปในภูมิประเทศแปลกประหลาด
จู่ๆ
ความมืดแผ่เข้ามาหา
หลิวเย่ไม่มีเวลาตั้งตัวได้ทัน และพบว่าตัวนางเองเดี๋ยวจมอยู่ในความสว่างและก็มืดทับซ้อนสลับกันระหว่างความเร็ว
นางเข้าไปในช่องทางใหญ่ ในช่องทางนั้นมีแสงสลับกับความมืดเป็นวงๆ นับไม่ถ้วนในทางผ่าน
ตอนนี้หลิวเย่รู้สึกเวียนหัว
และอึดอัด นางรู้สึกอยากอาเจียน
แสงกับความมืดเปลี่ยนแปลงสลับเร็วเกินไป นางไม่คาดว่าจะเป็นพลังที่น่ากลัวขนาดนั้น หลิวเย่ตกใจ
ถ้านางต้องสู้กันในภูมิประเทศเช่นนี้
นางจะสู้ได้สักเท่าใด?
ถ้านางต้องเทเลพอร์ตผ่านเส้นทางระยะไกลในภูมิประเทศอย่างนี้
นางจะไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จหรือไม่?
สีหน้าของหลิวเย่ตกตะลึงเมื่อพบว่าในพื้นที่ภูมิประเทศนี้
พลังการต่อสู้ของนางอ่อนแอลงจนแทบถึงที่สุด
และการเทเลพอร์ตทางไกลออกไปแบบเดียวกัน นางคิดว่าคงจะทำได้ไม่สำเร็จ
“โชคดีที่ไม่มีศัตรูอยู่ที่นี่!” หลิวเย่อดรำพึงความในใจไม่ได้
“ศัตรู? อาจจะมีแต่เรายังไม่พบ” เย่ว์หยางจูงมือหลิวเย่เดินไปข้างหน้า
บางครั้งหลิวเย่ก็ทึ่ง เขาแยกแยะเส้นทางได้อย่างไร? ถ้านางต้องการเปลี่ยนแปลงตนเอง ก็อย่าตำหนิตนสร้างกำแพง นางเกรงว่าจมูกน้อยๆ
ของนางอาจบวมเป่งก็ได้
ขณะผ่านพื้นที่มีแสงและความมืดตัดกัน หลิวเย่เห็นเส้นทางประหลาดทางซ้ายและขวา
คดโค้งเหมือนกับไส้เดือน
ทั้งโค้งและบิดเบี้ยว
ดินแดนมหัศจรรย์แห่งความมืดสลับแสงทำให้นางเห็นแล้วหลังเหงื่อเยียบเย็น
นี่เป็นมิติทางเข้าโบราณแบบไหน? มีสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้อย่างไร?
หลังจากเดินผ่านเส้นทางที่มีแสงสว่างเล็กน้อย
เย่ว์หยางพาหลิวเย่ออกไปยังบริเวณที่มืดมิดไร้แสงภายนอกส่องเข้ามาสิ้นเชิง มีแต่จุดแสงสว่างเหมือนดวงดาวเล็กน้อย
ตอนนี้หลิวเริ่มเห็นชัด ปรากฏว่าดวงดาวเหล่านั้นเป็นสมบัติหรือหีบสมบัติที่เปล่งแสงระยิบระยับ ในท่ามกลางความมืดดูเหมือนว่าจะมีทางเดินเหมือนเขาวงกตที่สามารถเข้ามาถึงแสงดาวเหล่านั้นได้
และอาจจะถูกกลไกกับดักกักขังไว้ที่ครึ่งทาง
หลิวเย่รู้ว่าโอกาสของนางมาถึงแล้ว
ด้วยแสงเหมือนแสงดาวนำทางเป็นเป้าหมาย
และนางมีกวางทะลุมิติใช้เทเลพอร์ตผ่านกำแพงอีกครั้งได้อย่างไร นางจะพาเขาเดินผ่านเขาวงกตตรงไปยังด้านหน้าของขุมทรัพย์หรือหีบสมบัติที่เปล่งแสงเหมือนดวงดาว
หลิวเย่เรียกกวางทะลุมิติ
กวางเดินไปถึงขอบหีบสมบัติที่เต็มไปด้วยประกายแสงดวงดาว
ขณะเดียวกันนั้นหลิวเย่จูงมือเย่ว์หยางใช้ทักษะลับเทเลพอร์ตมาถึงพร้อมกันโดยไม่สนใจว่ามีอุปสรรคขวางกั้น
หลังจากเปิดหีบสมบัติทองคำแล้ว
หลิวเย่พบว่าข้างในหีบทองเต็มไปด้วยอัญมณีคุณภาพดีที่สุด มุกส่องแสงและสร้อยดารา
มีแม้กระทั่งกริชดำศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ต้องพยายามให้หนักต่อไปในอนาคต นางชอบของวิเศษและต้องช่วยให้เขาได้สมบัติที่ดีกว่ายิ่งขึ้น
ถึงตอนนั้นเขาจะได้ฝึกฝนอย่างเคร่งครัดไม่พบกับความพ่ายแพ้...
หลิวเย่ยินดีอยู่ในใจและลอบหันไปมองหน้าเขา บางครั้งก็ยิ้มให้
“......”
สีหน้าของเย่ว์หยางแปลกประหลาด
ไม่เพียงแต่ไม่ตื่นเต้น
แต่ยังขมวดคิ้วแทบติดกัน
นี่
นี่เหมือนกับไม่ได้รับสมบัติอะไรเลย!
หลิวเย่ไม่เข้าใจ
เขาไม่ชอบสมบัติจริงๆ
หรือ?
ทำไมหลังจากเปิดหีบสมบัติแล้วเขาต้องขมวดคิ้ว?
“มีกับดักใต้หีบใส่สมบัติเหล่านี้หรือไม่?” ใจของหลิวเย่มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
และนางตระหนักว่าปัญหาบางอย่างอาจมีอยู่
ไม่ว่าหีบทองคำนี้จะเป็นกับดักหรือไม่
หรือว่าเมื่อนำของออกมาอาจไปกระตุ้นกลไกที่น่ากลัว? ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงขมวดคิ้ว? ทำไมไม่เก็บสมบัติเหล่านั้น?
“ไปดูที่หีบสมบัติอื่นกันก่อน!” เย่ว์หยางตัดสินใจ
“ก็ได้!”
หลิวเย่ใช้กวางทะลุมิติไปยังหีบสมบัติที่ส่องประกายเหมือนดวงดาว
ขณะเดียวก็พาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปด้วย
เมื่อเปิดหีบสมบัติที่สองออกดูปรากฏว่าพบเจอ
‘หญ้าเงินสามวิญญาณ’
แต่มีขวดน้ำทิพย์อยู่หลายขวดและกระดาษแผ่นหนึ่งดูคล้ายเป็นเคล็ดวิชาลับในตำนาน
เย่ว์หยางเห็นแล้วยิ่งขมวดคิ้วแนบแน่นกว่าเดิม
หลิวเย่ตะลึงถาม “มีอะไรหรือ?
ทั้งหมดนี้เป็นของปลอมใช่ไหม?”
เย่ว์หยางลูบศีรษะนางเบาๆ “เป็นของจริง!”
หลังจากได้ยินคำตอบของเย่ว์หยาง
หลิวเย่ยิ่งประหลาดใจมากกว่าเดิม
ถ้าเป็นของปลอม ไม่มีความสุขพอใจก็เป็นเรื่องปกติ แต่นี่เป็นของจริงทำไมถึงไม่มีความสุข? นางประหลาดใจแต่ไม่พูดออกมา นางเชื่อในตัวของเขา แม้ว่านางจะไม่ทราบว่าเหตุผลคืออะไร แต่เขาทำเช่นนี้ต้องมีเหตุผลแท้จริง
ในใจของหลิวเย่คิดได้เท่านี้
หีบสมบัติที่สาม
ที่สี่ ที่ห้าและที่หกถูกเปิดตามๆ กัน
สิ่งที่อยู่ข้างในเป็นสมบัติวิเศษที่หาได้ยากทั้งหมด
เย่ว์หยางไม่เหมือนกับที่เคยเป็นมาตามปกติ
เมื่อพบเห็นสมบัติมากมาย เขาไม่เตะต้อง แต่ขมวดคิ้วมากขึ้นทุกที
“นี่เหมือนกับประตูเป็นตายในหอทงเทียน
สิ่งที่เห็นเป็นภาพลวงตาที่แท้จริงหรือ?”
หลิวเย่คิดถึงความเป็นไปได้อีกครั้ง
“ไม่ ที่นี่เหมือนกับประตูเป็นตาย
แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่ และสมบัติเหล่านี้เป็นของจริงไม่ใช่ภาพลวงตา ถ้าสิ่งของเหล่านี้เป็นภาพลวงตา
ข้าสามารถมองออก
ปัญหาก็คือของเหล่านี้จริงทั้งหมดทำให้ข้ารู้สึกสงสัย” เย่ว์หยางพูดจบ เขาหยุดนิ่งเล็กน้อยและพูดต่อ “นี่อาจเป็นการทดสอบ ไม่ใช่เป็นการทดสอบเจ้า แต่เป็นการทดสอบข้า”
“มีบางคนลอบสร้างเหตุผีสางนี่หรือเปล่า?” หลิวเย่ตกใจ และเริ่มตัวสั่น ร่างของนางจะให้คนภายนอกเห็นได้อย่างไร?
“ไม่มีใครแน่ น่าจะเป็นพลังกฎสวรรค์!”
เย่ว์หยางรีบโบกมือปลอบใจนาง
“ข้ากำลังคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง
พลังของกฎสวรรค์นี้รู้ว่าจิตใจของเจ้าบริสุทธิ์แค่ไหน
จากนั้นจึงทำการทดสอบความโลภของข้า?”
“ทดสอบความโลภ?” หลิวเย่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
“พลังของกฎสวรรค์ที่นี่จงใจตั้งหีบสมบัติไว้ที่นี่แน่นอน
ในกรณีแรกนี้คือวิธีการที่นักออกแบบคนแรกใช้เพื่อทำการทดสอบความโลภ ถ้าข้าเก็บเอาสมบัติเหล่านี้
ใช่แล้วข้าสามารถเก็บเอาไปได้
แต่ถ้าข้าเก็บไปมากกว่าหนึ่งหีบจะทำให้เกิดข้อจำกัดของกฎสวรรค์ที่นี่ คาดว่าข้าอาจถูกเนรเทศออกไป
นี่คือการทดสอบความโลภสำหรับผู้ที่เข้ามาในนี้
และข้ารู้สึกได้อย่างไร?
เจ้าไม่มีความคิดครอบครองสมบัติเหล่านี้
และเจ้าไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของพลังกฎสวรรค์ ข้ามีความตั้งใจจะค้นหาสมบัติ
ข้าจึงรู้สึกได้ว่ามีพลังกฎสวรรค์กำลังรอให้ข้าถูกหลอก และมันจะใช้พลังเล่นงานข้า!” ต่อหน้าของวิเศษดีๆ
มากมายในหีบสมบัติเย่ว์หยางถอนหายใจเบาๆ และตัดสินใจไม่ยอมแพ้
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร?” หลิวเย่รู้สึกเสียดาย เห็นได้ชัดว่ามีสมบัติวิเศษต่อหน้านาง แต่กลับเป็นของใช้ทดสอบความโลภ
เมื่อแตะต้องไม่ได้นับเป็นของเสียเปล่า!
“ถ้าเราต้องการเดินหน้าต่อ
เราต้องไม่สนใจของวิเศษที่อยู่ต่อหน้าเรานี้” เย่ว์หยางหัวเราะ “ตรงกันข้าม
ถ้าเราพอใจกับสถานการณ์เพียงเท่านี้เราก็แค่เก็บหีบสมบัติแล้วออกไป”
“อย่างนั้นก็เดินหน้าต่อ!”
หลิวเย่รู้สึกว่าอาจมีบางอย่างที่ดีกว่ารอนางอยู่ข้างหน้า
“ถ้าเกี่ยวกับการผ่าน นี่คือข้อสอบเกี่ยวกับ ‘ความโลภ’ หรือ ‘ผลประโยชน์’ อย่างนั้นก็ต้องมีการทดสอบ ความโกรธ ความคลั่ง ชื่อเสียง
ความรักและอื่นๆ
ทั้งหมดนี้คือจุดอ่อนของมนุษย์
โดยเฉพาะสำหรับข้าในตอนนี้”
เย่ว์หยางหัวเราะทันที และหัวเราะพูดกับหลิวเย่เสียงดัง “บางครั้งก็เหมือนกับเจ้า ไม่มีความปรารถนานั้นเป็นความทรงพลังอย่างหนึ่ง”
“ข้าไม่ใช่คนดีเหมือนอย่างที่ท่านบอก!” หลิวเย่อายก้มหน้าเล็กน้อย
นางไม่รู้เกี่ยวกับการทดสอบอื่น
แต่นางเข้าใจว่ามีการทดสอบความรัก
นางคงไม่สามารถผ่านด่านทดสอบได้
กลับกันเถอะ เย่ว์หยางตัดสินใจทันที
“ว่าไงนะ?”
หลิวเย่ได้ยินคำพูดของเขา นางอดตกตะลึงไม่ได้
“มันยากมาก
ในที่สุดข้าก็ต้องเผชิญกับความโลภ
ไม่ง่ายเลยที่จะตระหนักถึงจุดอ่อนของข้า
ต่อไปจะมีการทดสอบสถานะปัจจุบันในจิตใจของข้า ข้าอาจไม่พบเจอก็ได้
อาจไม่สามารถผ่านด่านได้!
ข้ากล้าบอกได้ว่าในการทดสอบที่ยากขึ้นย่อมมีรางวัลที่ดีกว่า แต่น่าเสียดายที่ใจของข้ายังไม่ชัดเจนพอ
ยังไม่บริสุทธิ์พอ... แทนที่จะล้มเหลว
กลับไปเพิ่มความแข็งแกร่งและฝึกยืดหยุ่นสภาพจิตใจของข้าก่อนแล้วค่อยตอบสนองตามความต้องการ” เย่ว์หยางถอนหายใจเล็กน้อย
“ขุมทรัพย์ยุคโบราณนั้น ข้ายังไม่ดีพอที่จะฉวยเอามาได้ ข้าจะต้องไม่ปล่อยให้ความโลภครอบงำ
มิฉะนั้นคงโดนหัวเราะเยาะแน่นอน!”
“ไม่จริงเลย
ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนมีจุดอ่อน
ถ้าไม่มีข้อบกพร่องเลย นั่นไม่ใช่มนุษย์แล้ว แต่เป็นเทพเจ้า” หลิวเย่รีบปลอบเย่หยาง
ในใจนางก็คิดเช่นนั้นจริงๆ
เย่ว์หยางก็มีข้อบกพร่อง
แต่บางครั้ง
เป็นเพราะเขามีข้อบกพร่องดังกล่าว เขาจึงดูแตกต่างจากคนอื่นมากมาย
เป็นคนที่น่าสนใจมาก ถ้าไม่มีความผิด
มีแต่ความดีล้วนๆ นางคิดว่าเขาสูงส่งกว่านาง
นั่นจะเป็นความแตกต่างจนไม่กล้าเข้าใกล้... เทียบกับการมีอยู่ของเทพเจ้า
หลิวเย่รู้สึกว่านางชอบจอมลามกอย่างเย่ว์หยางมากกว่า
4 ความคิดเห็น:
เฮ้อ...เห็นแล้วไม่ได้แอ้ม...เย่ว์หยางน่าสงสารจัง555555
ใจจ้า
กวาดเท่าที่กวาดได้ก่อนออก
จิตใจไม่บริสุทธิ์พอ เป็นผมคงเด่งตั้งแต่หีบแรก
แสดงความคิดเห็น