วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1278 เหตุเปลี่ยนแปลง

 

ตอนที่  1278  เหตุเปลี่ยนแปลง

อาณาจักรหลิงหวิน ภูมิภาคซีเหอ แดนสวรรค์ตะวันตก

เมืองลี่จ้าวที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง

 

“ในที่สุดก็มาถึงจนได้...”  หลังจากที่ได้รับข่าวแดนสวรรค์รุกราน มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร และจักรพรรดิใต้พิภพรีบเร่งตามมาทันที ในที่สุดก็มาถึงรอยแยกมิติเวลาที่สามารถพากลับหอทงเทียนได้  ต้นทางเข้าสู่แดนสวรรค์ ด้วยพลังของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะเทเลพอร์ตผ่านระยะทางที่ไกล อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีฝีมือดีพอเท่าเย่ว์หยาง  แต่พวกเขาก็มีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง ร่างกายของพวกเขาเลื่อนระดับเข้าสู่ขอบเขตใหม่อย่างไม่เคยนึกจินตนาการมาก่อน!

ด้วยเจตจำนงที่กล้าแข็งดุจเหล็กกล้า พวกเขาเทเลพอร์ตระยะไกลอย่างบ้าคลั่งแทบไม่ต้องเก็บรั้งพลังใดๆ ทั้งนั้น

ก่อนที่พวกเขาจะทรุดตัวลงเพราะหมดเรี่ยวแรง

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงปลายทางได้สำเร็จ

ราชาคุกฟ้าเกาเผิงกำลังรอพวกเขาเงียบๆ พร้อมกับกลุ่มผู้อาวุโสที่เคยถูกกักขังอยู่ในแดนสวรรค์ รอพวกเขาอยู่เงียบๆ

ความจริงในการสนทนากันทีแรกราชาคุกฟ้าเกาเผิงและสหายเก่าไม่ต้องการให้มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพ เย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัว ฯลฯ ผู้เยาว์รุ่นหลังมีส่วนร่วมในการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในหอทงเทียน พวกเขาไม่สามารถมองเห็นอนาคตของพวกเขา ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะหรือแพ้ในที่สุด และกองทัพแดนสวรรค์มีพลังมากมายเพียงไหน?  พวกเขารู้สึกว่าหากเก็บผู้เยาว์รุ่นหลังไว้ ปล่อยให้การต่อสู้กันทั้งหมดได้พบกับความพินาศถูกทำลาย เก็บลูกหลานที่มีพรสวรรค์โดดเด่นจำนวนหนึ่งไว้ และรอให้เย่ว์หยางค่อยกลับมาโน้มน้าวการกระทำของเขา

ไม่ว่าเย่ว์หยางเต็มใจรับช่วงดูแลหอทงเทียนหรือไม่ ราชาคุกฟ้าเกาเผิงและสหายคนรุ่นเก่าของเขาถือว่าเย่ว์หยางเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ไปแล้ว

เย่ว์หยางโน้มน้าวพวกเขาด้วยเหตุผล

เป็นเรื่องง่ายมาก

มีอยู่เพียงประโยคเดียว คือ “ต้องทำทุกอย่างเพื่อหอทงเทียน  มิฉะนั้นหอทงเทียนอาจถูกทำลายอย่างราบคาบ  ไม่มีความเป็นไปได้โดยประการอื่น

ในการเผชิญหน้ากับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังน่าเกรงขาม ผ่านการวางแผนมาเป็นเวลาหลายพันหลายหมื่นปีโดยพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาใช้กองกำลังแดนสวรรค์ที่มิอาจต้านทานได้ ถ้าผู้คุ้มครองหอทงเทียนประมาทสักเล็กน้อย  หอทงเทียนจะถูกทำลายราบคาบ

แทนที่จะอยู่รอความหวังเก็บออมกำลัง มิสู้กลับไปต่อสู้ให้เต็มที่ดีกว่า

อย่างน้อยก็พอมีโอกาสรอดได้บ้าง

ยังมีแววเป็นไปได้

“เราจะไม่กลับไป เราเฒ่ากระดูกผุกร่อนจะอยู่สู้ที่นี่  หอทงเทียนไม่จำเป็นต้องให้เราผู้ติดตามจักรพรรดิอวี้รุ่นก่อนผู้ล่วงลับไปแล้วคอยปกป้อง อนาคตของหอทงเทียนขึ้นอยู่กับพวกเจ้า!” ราชาคุกฟ้าตัดสินใจอยู่ในแดนสวรรค์ต่อไป แสวงหาโอกาสที่ดีที่สุดและขอพินาศไปพร้อมกับแดนสวรรค์  สำหรับมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นๆ ที่จะเร่งรีบกลับไปให้ทันเวลาในการต่อสู้ขั้นเด็ดขาด พวกเขาโบกมือเล็กน้อย แสดงว่าสำหรับพวกเขาไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวและเขาตัดสินใจไว้ก่อนแล้ว

“ผู้อาวุโส, อย่างนั้นเราขอลาก่อน”  มารสัมฤทธิ์ฟ้าคำนับเขา

นี่คือการอำลา

บางทีนี่อาจกลายเป็นการอำลาตลอดกาล แต่นี่คือผู้ปกป้องหอทงเทียนที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น  แม้ร่างกายจะตาย แต่วิญญาณจะยังปกป้องต่อ  ตอนแรกเย่ว์หยางยังไม่เติบโต จักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงพาเผ่าพันธุ์เข้ารุกราน  ผู้อาวุโสในวังมารไม่ลังเลเพื่อจะกลับไปพลิกสถานการณ์เข้าต่อกรกับศัตรู... เปลี่ยนเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ ถ้าสักวันพวกเขาเห็นเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เชื่อได้ว่าพวกเขาจะทำอย่างเดียวกัน

นี่คือจิตวิญญาณแห่งการเสียสละของนักสู้หอทงเทียน ทั้งยังเป็นนักสู้ผู้ปกป้องหอทงเทียน

เพราะนี่สำคัญยิ่งกว่าชีวิต

หอทงเทียนกำลังมีปัญหา

แต่อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

“รอเดี๋ยว”  ราชาคุกฟ้าเกาเผิงมอบของวิเศษสามอย่างให้มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ

“นี่คือ?”  มารสัมฤทธิ์ฟ้าถือกระบี่วิถีกำศรวลสมบัติชั้นเทพที่เย่ว์หยางทิ้งไว้ให้เขา   ในดินแดนมิติฝึกฝน ก่อนที่ซื่อเสินจะสละชีวิตตายอย่างกล้าหาญ เย่ว์หยางได้สัญญากับบุรุษผู้น่าทึ่งน่านับถือผู้นี้ไว้แล้ว จะต้องส่งมอบกระบี่คู่มือของเขาให้กับเจ้าของที่เหมาะสมที่สุด ก่อนที่จะเปลี่ยนมือเจ้าของ ตอนแรกเย่ว์หยางมีความโลภอยากได้กระบี่เทพโบราณนี้ แต่การกระทำของซื่อเสินทำให้เขาใจสั่นสะท้าน  เด็กหนุ่มข้ามโลกไม่ต้องการทิ้งกระบี่วิถีกำศรวลไว้กับเจ้าของ ดังนั้นเขาตัดสินใจหาเจ้าของสมบัติเทพโบราณที่เหมาะสมรับสืบทอดปณิธานของซื่อเสิน และเขาพิจารณาแล้วว่าผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือบุรุษอันดับหนึ่งแห่งวังมาร มารสัมฤทธิ์ฟ้า

ไม่มีใครในโลกที่เหมาะสมจะใช้กระบี่วิถีกำศรวลอีกแล้วนอกจากมารสัมฤทธิ์ฟ้า

ไม่ใช่ว่าเย่ว์หยางไม่สามารถรับกระบี่วิถีกำศรวล

อย่างไรก็ตามเจตจำนงราชันย์ของเขาเกินกว่าเจตจำนงของกระบี่ของซื่อเสินไปมาก เมื่อเขายอมรับเป็นเจ้าของกระบี่วิถีกำศรวล ความทรงจำของซื่อเสินจะถูกลบไปด้วย แทนที่จะเป็นเช่นนี้ การมอบให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าจะเป็นการดีกว่า

และด้วยศักยภาพของมารสัมฤทธิ์ฟ้าควบคู่ไปกับการได้รับสืบทอดจากซื่อเสิน ในอนาคตเขาจะได้รับความสำเร็จที่สูงส่งแน่นอน

“เจ้ากับเย่ว์หยางน้อยเป็นผู้รับสืบทอดที่เหมาะสมที่สุด  อย่างไรก็ตามการต่อสู้อาจทำให้เวลาของเจ้าเหลือไม่มากนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น  ข้าหวังว่าในอีกสามวันข้างหน้าเจ้าจะสามารถรับตกทอดพลังได้สูงสุดและบรรลุขอบเขตระดับใหม่!  ราชาคุกฟ้าเกาเผิงบอกมารสัมฤทธิ์ฟ้ามีเวลาทำความเข้าใจสามวัน

ถ้าในเวลาสามวันเขายังไม่สามารถรับตกทอดพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างนั้นบางทีเขาอาจไม่มีทางได้ต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อหอทงเทียน.... หากไม่มีกระบี่วิถีกำศรวลในมือ พวกเขาสามคนรีบกลับไปจะมีพลังช่วยเย่ว์หยางได้เท่าไหน?

มารสัมฤทธิ์ฟ้ารับกระบี่วิถีกำศรวลแล้วเขาสั่นไปทั้งร่าง

ความตึงเครียดและตื่นเต้นอีกทั้งความปีติยินดีแทบทำให้มารอันดับหนึ่งทรุดตัวทันที

เขาลูบสัมผัสกระบี่วิถีกำศรวลอย่างนุ่มนวลด้วยหัวใจที่คารวะและรู้สึกซาบซึ้งสำนึกคุณ  เขารู้สึกถึงสำนึกที่ซื่อเสินเจ้าของคนก่อนได้ทิ้งไว้ก่อนนั้น  เขารู้สึกได้ถึงกระบี่วิถีกำศรวลระดับเทพ กระบี่โบราณที่ไม่มีใดเหมือนได้ส่งพลังวิญญาณที่ไม่มีที่สุดเข้ามาทีละนิด...  ในขณะเดียวกันเขาสัมผัสได้ถึงสำนึกความรู้สึกที่ส่งผ่านใจอธิบายให้เห็นถึงเจตจำนงสูงสุดของเขา!

“ปัง....”

ทันใดนั้นเสียงสะท้อนของสำนึกกระบี่สะท้องก้องกังวาลถ่ายทอดความทรงจำอันไม่มีที่สิ้นสุดของกระบี่นี้  ในเวลานี้เขาไม่เพียงแต่เห็นกำเนิดของกระบี่วิถีกำศรวล  แต่ยังเห็นการตายของเทพที่เป็นเจ้านายคนก่อน การฝึกฝนและความเข้าใจ การต่อสู้ในช่วงเวลาที่เขามีชีวิต!

ในขณะนี้มารสัมฤทธิ์ฟ้ารู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง เขารู้สึกว่าหัวใจเขากับหัวใจของบุรุษนามซื่อเสินคนแปลกหน้าเริ่มเต้นเป็นจังหวะพร้อมเพรียงกัน

จังหวะการเต้นของหัวใจเริ่มใกล้เคียงและเหมือนและพร้อมกันในที่สุด

ไม่มีความแตกต่าง

แตกต่างจากมารสัมฤทธิ์ฟ้าซึ่งได้รับตกทอดกระบี่วิถีกำศรวล  จักรพรรดิมังกรเริ่มใช้สมบัติเทพ แต่เป็นกระบองพิชิตมารสมบัติจากเผ่าภูตบูรพา

“นี่คือสมบัติพิเศษ แตกต่างจากเจ้าของที่มีสมบัติที่ทรงพลัง มันไม่เพียงแต่มีพลังสังหารที่ทรงพลังน่ากลัวเท่านั้น แต่เป็นเหมือนดาบสองคมที่สามารถทำร้ายศัตรู  เจ้าต้องมีความชัดเจนและเข้าใจ อาวุธนี้เปลี่ยนไปได้อย่างน่าอัศจรรย์โดยนักสู้เผ่าภูตบูรพา  ในใจของเจ้าต้องไม่มีความชั่วร้ายดุจปีศาจ มิฉะนั้นคนที่จะถูกกำจัดคนแรกก็คือเจ้า!  ราชาคุกฟ้าเกาเผิงมองดูจักรพรรดิมังกรอย่างจริงจัง  “บรรพบุรุษของเจ้าเคยใช้มันครั้งหนึ่ง ในที่สุดทั้งศัตรูและตัวของเขาเองก็พบกับความพินาศ นี่คือกระบองพิชิตมาร!

“ในฐานะเผ่าพันธุ์ทรยศเผ่าบูรพา ข้าไม่ต้องการจะกลับไปเส้นทางที่ถูกต้องทันที กลัวว่าถ้าใช้แล้วจะกลับมาย้อนทำร้ายตัวเอง  แต่ข้าหลงซ่วนยังรอด้วยความหวังเช่นกัน”  จักรพรรดิมังกรน้อมรับกระบองพิชิตมารด้วยความเคารพและแสดงมารยาทให้เกียรติระดับสูง

จักรพรรดิใต้พิภพก็ได้เช่นกัน

เป็นราชาคุกฟ้าเกาเผิงเป็นผู้มอบสมบัติกึ่งเทพให้เขาเอง พันธนาการฟ้า

นี่คือสมบัติที่ทรงพลังที่สุดที่ราชาคุกฟ้าเกาเผิงสามารถจัดหาได้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับนักสู้รุ่นหลัง และเพื่อปลดเปลื้องตนเองอย่างสมบูรณ์ เขาได้นำสมบัติที่ดีที่สุดของตนมาให้

“มีเพียงเท่านี้ที่ข้าพอทำได้ ต้องบอกว่าในฐานะรุ่นอาวุโส ข้าล้มเหลวจริงๆ!  เกาเผิงส่ายหน้าฝืนยิ้ม

“ไม่เลย”  จักรพรรดิใต้พิภพรับพันธนาการฟ้า สมบัติวิเศษชั้นกึ่งเทพ เขาไม่เคยคุกเข่า ไม่เคยร้องไห้มาก่อน กลับคุกเข่าหลั่งน้ำตา ทั้งที่ก่อนนั้นเขาคิดว่ามีแต่มนุษย์ที่อ่อนแอเท่านั้นที่ร้องไห้  “ตอนนี้ข้าโยวหมิงเข้าใจท่านได้อย่างเต็มที่แล้ว!  นอกจากนี้ข้าโยวหมิง มีความรู้ของตนเอง มีปัญญาเป็นของตนเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะรับการยอมรับจากสมบัติชั้นเทพ แต่สมบัตินี้เหมาะกับข้ามากที่สุดแล้ว .... ท่านผู้อาวุโสสักวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อข้าโยวหมิงกลับคืนบาดาล ข้าขอสัญญาว่าจะหาผู้เยาว์รุ่นหลังที่ดีที่สุดมาสืบทอดเจตนารมณ์ของท่าน!

“ฮ่าฮ่า ตราบเท่าที่พวกเจ้าไม่ตำหนิว่าเราผู้เฒ่าตระหนี่ก็ไม่เป็นไร ยังมีเวลาอีกสามวัน จงพยายามให้หนัก! สิ่งที่เราสามารถช่วยได้ก็คือความพยายามเล็กน้อยเหล่านี้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะนำพวกเจ้าไปสู่อนาคตแบบไหน แต่ข้าขอให้พวกเจ้าโชคดี!

ราชาคุกฟ้าเกาเผิงหัวเราะ

และหันหลังกลับไปยืนกับกลุ่มผู้เฒ่า มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร และจักรพรรดิใต้พิภพทั้งสามคนกระทำวันทยาวุธแสดงความเคารพสูงสุด

ก็เหมือนกับนักสู้แห่งหอทงเทียน พวกเขาคารวะตอบแสดงความยินดีเมื่อได้พบกัน ในช่วงขณะนั้นพวกเขาไม่ได้เป็นผู้อาวุโสกับผู้เยาว์นักสู้รุ่นหลังอีกต่อไป แต่เป็นกลุ่มสหายที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันและร่วมมือเพื่อปกป้องหอทงเทียน

ในท่ามกลางเสียงหัวเราะ

พวกเขาลอยตัวจากไป

บางทีในอนาคตพวกเขาอาจไม่มาอีก  แต่มีความมุ่งมั่นว่าพวกเขาอาจยอมพินาศไปพร้อมกับศัตรู และเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ตลอดไป

ไม่ว่าจะเป็นพันปีหรือหมื่นปีต่อมา หรือคนรุ่นต่อไปในอนาคตจะลืมไปนาน  แต่พวกเขายังคงอยู่ต่อสู้จารึกประวัติศาสตร์ตลอดไปโดยไม่อาจลบล้างได้ จากรุ่นสู่รุ่นของผู้พิทักษ์หอทงเทียนบางคนอาจมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งและเป็นอมตะ  และบางคนอาจจะคลุมเครือไม่ชัดเจน  แต่สิ่งที่พวกเขาทำ ล้วนมีเป้าหมายในการปกป้องไม่ต่างกัน

ความทรงจำอาจเสียไปและถูกลืม

แต่ประวัติศาสตร์จะปฏิบัติต่อนักรบเหล่านี้ไม่ต่างกัน  ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอมตะหรือไม่เป็นที่รู้จักในหอทงเทียน พวกเขาจะได้รับมรดกและสืบทอดประวัติศาสตร์ของหอทงเทียน

ไม่ว่าชีวิตจะยืนยาวหรือไม่ ไม่ว่าจะมีความสามารถแข็งแกร่งหรือไม่

ก็เป็นกันทุกคน

ทุกคนเป็นเหมือนดวงดาวที่ฉายประกายสว่างไสวรุ่งโรจน์ไม่รู้จบอยู่บนท้องฟ้า นั่นคือความทรงจำและความงดงามที่ประดับอยู่ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์

ภายใต้สนโบราณของหอทงเทียน โลกหมากรุก ในเกมกระดานหมากรุก บัณฑิตวัยกลางคนเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางพยายามระงับความโกรธและตรวจดูกระดานหมากรุกของเขา เขาเหนื่อยเมื่อพบว่าตำแหน่งหมากรุกของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง  การเปลี่ยนแปลงแบบนี้มีขนาดเล็กมากและดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม  แต่สิ่งที่ทำให้เกลียดก็คือการเปลี่ยนแปลงแบบนี้โดยไม่คาดคิด ทำให้เขาควบคุมไม่ได้และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้

เห็นได้ชัดว่ามีบางส่วนของหมากรุกที่ถูกควบคุมโดยตัวเอง  พวกมันกระโดดออกจากการควบคุมของผู้เล่นหมากรุกเองได้อย่างไร?

ใคร คอยช่วยเหลือหมากที่น่าสงสารเหล่านี้ในความมืด?

หากไม่มีเบื้องหลัง

เป็นไปไม่ได้ที่ตัวหมากจะไปได้ไกลกว่าตำแหน่งเดิม... แล้วใครคือคนนั้น เป็นเจ้าตำหนักสูงสุดที่เป็นเหมือนชาวประมงถือโอกาสหรือเปล่า? คิดว่าเขาโง่นักหรือ?  ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดนี้ จะให้หอทงเทียนพักหายใจได้หรือ? เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าตำหนักสูงสุดจะถือโอกาสยึดแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  เขาจะไม่ทำเช่นนั้น  หอทงเทียนจะต้องถูกทำลายอย่างสมบูรณ์  มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับสมบัติจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ไม่ใช่เขา อย่างนั้นเป็นใคร?  จักรพรรดิทอง? ไม่ จักรพรรดิทองจากไปแล้ว

อย่างนั้นเป็นใคร?

จักรพรรดิอสูร?

จักรพรรดิอสูรซ่อนตัวอยู่จนเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในที่ลับ?

หรือจะเป็นราชันย์ไร้ใจ  ต่อหน้ารักความสงบสุขแต่ต้องการพลังอำนาจไว้ในมือตลอดเวลาไม่ใช่หรือ?  ตาเฒ่านี่น่าสงสัยมากกว่า!

“ไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใดก็ตาม ตราบใดที่ยังเป็นตัวหมากในกระดานของข้า เป็นไปไม่ได้ที่จะพลิกเกมกลับมาได้ ต่อให้เป็นเย่ว์ไตตันผู้โชคดีก็ตาม!  เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางแค่นเสียงหรี่ตาด้วยความมั่นใจ  เพราะเขาลอบวางหมากในกระดานไว้แล้ว...

8 ความคิดเห็น:

Lazykuma กล่าวว่า...

อวดเก่งไปเหอะขอเวลา3วัน และศึกเฮียฮุยจบไงหว่าอยากรู้

CHANTANA กล่าวว่า...

พลิกไปพลิกมายากจะขลาดเดา

CHANTANA กล่าวว่า...

เป็นอาหารไปละ(เดา)

blakaros กล่าวว่า...

แค่ 3 วัน รอพี่เยว์ออกมาก่อนเถอะ

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

รอแปป เจ้าตำหนัก

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

ทำไมบางทีคอมเม้นไม่ได้คับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

อวดเก่งแบบนี้ โดนตบดิ้นทุกราย

แสดงความคิดเห็น