ตอนที่ 1347 ค้อนชะตา
เลือดสาดกระเซ็น
หมัดทั้งหกแยกกันและเข้าเป้าเสียงดังกึกก้องไม่มีพลาด
ยักษ์เทพยืนตัวตรงมั่นคงอยู่กับที่ มังกรปีศาจเซถอยหลังไปสามก้าว เย่ว์หยางกระเด็นไปถึงเก้าชั้นฟ้า แขนของเทพยักษ์ชูขึ้นในท้องฟ้า พลังเทพควบสร้างเป็นคมดาบเงื้ออยู่เหนือคอมังกรปีศาจ ตราบเท่าที่เขาคิดขยับ อย่างนั้นมังกรปีศาจคงถูกผ่าเป็นสองเสี่ยง มังกรปีศาจไม่ถอยแต่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“หือ?” ยักษ์เทพงงงวยในตอนแรก
แต่จากนั้นเขาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่ามีปลายดาบทะลุผ่านหัวใจของเขาออกมาจากข้างใน
ดาบเล่มนี้แทงเข้ามาเมื่อไหร่? และทะลุออกมาจากหัวใจของเขาได้อย่างไร? นี่เป็นดาบแบบไหน?
เขายื่นมือออกและกำลังจะถอนดาบออกมา แต่มังกรปีศาจที่อยู่ตรงข้ามกลับหัวเราะจนน้ำตาไหล มันไม่ง่ายเลย ในที่สุดเขาก็แทงทำร้ายเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงได้ ถ้าคนผู้นี้ไม่มีความมั่นใจ บางที....
ยักษ์เทพตกใจหันกลับไปมองข้างหลังม่านตาสีทองขยายออกหลายเท่าและสิ่งที่ดึงดูดนัยน์ตาเขาก็คือหัวมังกรที่โกรธเกรี้ยว
มังกรพิโรธอ้าปากขนาดใหญ่เพื่อกลืนท้องฟ้า
ศัตรูไม่ยอมให้ดิ้นรนต่อสู้ และมันกัดกินโดยตรง ด้วยพลังดาบเทพในท้องฟ้าก็ถูกมันกลืนเข้าไปในลำคอด้วย
หากไม่มีการช่วยเหลือจากบัลลังก์เทพ แม้แต่สิ่งมีชีวิตอย่างเทพพิทักษ์เขากวงหมิง ภายใต้การร่วมมือโจมตีของมังกรปีศาจและเย่ว์หยาง ก็จะต้องล่าถอยและกลายเป็นฝ่ายแพ้ทันทีแม้จะเป็นเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงก็ตาม ภายใต้การผนึกกำลังกันของเย่ว์หยางกับมังกรปีศาจพวกเขาจะต้องหายไปทันที มังกรพิโรธในเส้นทางมิติโบราณ
“จัดการได้ไหม?” เย่ว์หยางไม่รู้กลับมาตั้งแต่เมื่อใด เขาถามด้วยความประหลาดใจ
“อ๊า.....ควรจัดการได้แล้ว...” มังกรปีศาจไม่มีความมั่นใจ แม้ว่ามังกรจะกลืนกินได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามคือระดับหัวหน้าใหญ่ของเขากวงหมิง!
“บัลลังก์เทพตรงนั้นดูเหมือนจะไม่สลายไป” เย่ว์หยางที่ยังมีรอยกำปั้นขนาดใหญ่ที่หน้าอกเอามือแตะที่ซี่โครง เข้าต้องการรักษาตนเอง เขาพบว่าบัลลังก์เทพยังคงอยู่ไกลและรีบตะโกนร้อง
“มันไม่คล้าย!” มังกรปีศาจตาเปลี่ยนเป็นสีดำ
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เย่ว์หยางกลืนน้ำลายด้วยความกลัว
“หมายความว่าข้าเท่ากับไม่ได้ทำ และต้องลงมือทำอีก!” หน้าของมังกรปีศาจแสดงออกเหมือนกัน
“เอาอีกหรือ?” เย่ว์หยางรู้สึกว่าตลอดทั้งร่างแทบทรุดลงทันที ลงมืออีกครั้ง โธ่เว้ย แล้วนี่จะไม่โดนอีกฝ่ายทุบเอาหรือ? เขาถามผู้อ้างตัวเป็นพี่ใหญ่เพิ่ม “เจ้ามีทักษะพิเศษอะไรอีกไหม?”
“ไม้ตายถูกนำมาใช้แต่แรกแล้ว!” มังกรปีศาจทำท่าเหลือกตาอารมณ์ไม่ดี
“อย่างนั้นก็แย่แล้ว!” เย่ว์หยางยิ่งเวียนหัวใหญ่
“ไม่ ไม่ ต่อให้เราต้องการลงมือทำ แต่ข้าเกรงว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็นด้วย” มังกรปีศาจกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาพบว่ายักษ์เทพกลับมาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาโดยร่างกายไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดทักษะแฝงเร้นพิเศษที่ไม่เหมือนใครอย่างมังกรปีศาจกลืนโลกไม่ได้สร้างผลเสียหายใดๆ เลย ยักษ์เทพและบัลลังก์เทพรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้งและบัลลังก์เทพเปล่งรัศมีเทพเป็นล้านๆ สายอาบร่างเจ้านายฟื้นฟูอาการบาดเจ็บภายในที่มองไม่เห็นของยักษ์เทพได้ตลอดเวลาทั้งยังดูเหมือนมีความก้าวหน้ามากขึ้น
“ไม้ตายของเจ้านี่ไม่ได้ทรงพลังน่ากลัว นั่นยังไม่ถือเป็นไม้ตายที่น่ากลัว!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นอดถ่มน้ำลายไม่ได้
“ถ้าข้าไม่มี อย่างนั้นเจ้ามีไม้ตายดีๆ บ้างไหมเล่า?” มังกรปีศาจโมโห
ไม้ตายส่วนตัวไม่ทรงพลัง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เดิมทีไม้ตาย ‘มังกรปีศาจกลืนโลก’ มีพลังทำลายทุกอย่าง แต่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้มีแค่มีบัลลังก์เทพเท่านั้น แต่ยังควบคุมเส้นทางโบราณนี้ไว้ถึงครึ่งหนึ่ง ที่นี่มังกรปีศาจไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของเขาได้ ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ที่ผิดธรรมดา ร่างกายก็แข็งแกร่งยากจะโค่นล้มลงได้ แล้วยังมีอะไรอื่นอีก?
ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กำจัดบัลลังก์เทพก็คงไม่พอ
ต้องหลีกหลีกเลี่ยงเส้นทางโบราณนี้ซึ่งถือว่าเป็นถิ่นของฝ่ายตรงข้าม มิฉะนั้นไม่มีทางสู้ต่อไปได้เลย
ยักษ์เทพไม่ได้โกรธ หน้าของเขายังคงสงบราวกับว่า คนที่ถูกมังกรปีศาจกัดและเย่ว์หยางไม่ใช่ เขาก้าวเดินไปหามังกรปีศาจและเย่ว์หยางข้างหน้าช้าๆ และพยักหน้าเล็กน้อยชมเชย
“พวกเจ้าคู่ควรกับการยอมรับนี้” ยักษ์เทพพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “จากนี้ไปเราผู้เป็นเทพยอมรับว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ รวมทั้งเจ้าด้วย เย่ว์ไตตัน เราผู้เป็นเทพความจริงไม่ควรปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นมดแมลง เจ้าห้าวหาญและร้ายกาจเกินคาดไปมาก เราผู้เป็นเทพเข้าใจผิดเจ้าเอง ความจริงเจ้าเป็นศัตรูที่อันตรายไม่ด้อยไปกว่ามังกรปีศาจเลย”
“เราคุณชายร้ายกาจขนาดนั้นเชียวหรือ?” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกดีใจ มังกรปีศาจที่อยู่ด้านข้างแทบไม่สามารถยืนขึ้นได้
“ใช่แล้ว เจ้าซ่อนทุกอย่างไว้เบื้องหลังมังกรปีศาจ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อครู่หนี้ พลังโจมตีของเจ้าเกือบจะทำร้ายประกายเทพของข้าผู้เป็นเทพได้แล้ว ข้าผู้เป็นเทพก็ยังคงงมงายอยู่ในความมืด ปราณกระบี่ของเจ้ามีพลังทำลายล้างที่พิเศษ มันยังไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ดูเหมือนว่ายังไม่สมบูรณ์ แต่ไม่สามารถปฏิเสธและต้านรับได้ นี่คือปราณกระบี่อมตะชนิดพิเศษที่สุดเท่าที่เราผู้เป็นเทพเคยพบเจอมาในชีวิต ยากจะนึกคิดได้จริงๆ ว่าด้วยอายุขนาดเจ้าสามารถฝึกปราณกระบี่เทพที่คนอื่นใช้เวลาเป็นพันๆ ปีก็ยังฝึกไม่สำเร็จ” ยักษ์เทพพึมพำเบาๆ ในที่สุดเขาพูดคำนี้ “แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่เราผู้เป็นเทพนี้มีเหตุผลพอจะสงสัยว่าอาจารย์แบบไหนกันที่ดูแลอยู่เบื้องหลังเจ้า อาจจะมากกว่าหนึ่ง... เย่ว์ไตตันน้อย อนาคตของเจ้าไม่มีขีดจำกัด ตราบใดที่เจ้ายอมรับเงื่อนไขหนึ่งของเราผู้เป็นเทพ ข้ารับประกันได้ว่าเจ้ากับมังกรปีศาจจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ”
“เงื่อนไขอะไร?” เย่ว์หยางได้ยินเข้าก็ตาสว่าง ถ้าเป็นไปได้ใครก็ไม่อยากตาย
“ตราบเท่าที่เจ้าทั้งสองอยู่ที่นี่หนึ่งปี เราผู้เป็นเทพรับประกันว่าจะไม่ตรวจสอบเจ้า เจ้าสามารถพัฒนาบัลลังก์เทพใหม่ของตนเองได้” เทพอุปถัมภ์แห่งเขากวงหมิงมองดูเย่ว์หยางอย่างจริงใจ
“เมื่อครู่นี้เจ้ายังไล่ทุบตีเราอยู่ไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางถามอย่างไม่สบายใจ
“เราผู้เป็นเทพเองก็ถูกเจ้าไล่ทุบไล่ทำร้าย” ยักษ์เทพพูดอย่างเปิดใจและผายมือกว้าง
“ท่านไม่ต้องการลงมือกับเราอีกจริงๆ หรือ?” เย่ว์หยางตัดสินใจถามให้ชัดเจนขึ้นเพื่อไม่ให้เสียใจ
“เราผู้เป็นเทพไม่แน่ใจว่าเจ้ามีเทพคุ้มกันแบบไหนอยู่เบื้องหลังกันแน่” ยักษ์เทพพูดอย่างตรงไปตรงมา “เราผู้เป็นเทพไม่ยินดีจะล่วงละเมิดเทพเบื้องบนกว่า นั่นไม่มีประโยชน์ต่อเราผู้เป็นเทพเอง! ก็เหมือนกับมังกรปีศาจ ถ้าไม่ใช้เพราะความผิดที่ร้ายแรง เจ้าก็คงไม่ถูกตัดบัลลังก์เทพออกไป!”
“แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้ามีผู้พิทักษ์อยู่เบื้องหลังข้า?” เย่ว์หยางกังวลว่าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงลดความโกรธเกรี้ยวลงได้
“ถ้าเจ้าไม่มีในตอนนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าต่อไปในอนาคตเจ้าจะไม่มี เด็กที่โดดเด่นอย่างเจ้า จะต้องรู้ยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต และเจ้าจะมีความสุขยิ่งขึ้น” ยักษ์เทพแสดงคำมั่นปลอบโยนเย่ว์หยาง
“นี่ ความจริงข้าก็ไม่ต้องการสู้เช่นกัน แต่ข้าไม่สามารถทำได้!” เย่ว์หยางโยนเผือกร้อนให้มังกรปีศาจ “เจ้าเป็นพี่ใหญ่ไม่ใช่หรือ?”
“ไอ่เด็กเปรต, พอยอมรับข้าเป็นพี่ใหญ่ก็โยนเผือกร้อนให้ข้าเชียว!” มังกรปีศาจโมโห
“พี่ใหญ่ อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม?” เย่ว์หยางขอร้องอย่างอ่อนล้า
“ในเมื่อข้าเป็นพี่ใหญ่ อย่างนั้นหลายอย่างก็ง่าย คำเดียวสั้นๆ ลุย!” มังกรปีศาจอารมณ์เสียกับการแสดงออกของเย่ว์หยาง
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” เย่ว์หยางทำตาโต สถานการณ์ตอนนี้ยังจะสู้ไหวอีกหรือ? จะหาเรื่องตายหรือเปล่า? พี่ใหญ่ไม่ควรทำอย่างนี้!”
“ถ้าเราไม่สู้ เราจะตายเร็วขึ้น เจ้าไม่เห็นหรือ เขาทดสอบปฏิกิริยาของเจ้าและต้องการทำลายความกระตือรือร้นในการต่อสู้ของเจ้า?” มังกรปีศาจแค่นเสียง “ตอนนี้เจ้าปล่อยให้เขาทดสอบเจ้าดู พอไม่มีใครหนุนหลังเจ้าอยู่ จิตวิญญาณนักสู้ของเจ้าก็แทบจะสลายไปแล้ว ถ้าเจ้าไม่สู้รอสักครู่เขาจะเอาชนะเจ้าด้วยเพียงมือเดียวได้เลย! การต่อรองกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตนเองเป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุด ไม่ต่างอะไรกับการแหย่พยัคฆ์!”
“ไม่, คงไม่กระมัง? อีกฝ่ายหนึ่งดูเหมือนมีความจริงใจอย่างมาก...” เย่ว์หยางหันไปมองยักษ์เทพเพียงแว่บเดียวก็ไม่สามารถพูดต่อไปได้
“ไม่ต้องกังวล เราผู้เป็นเทพจะไม่ฆ่าพวกเจ้า” ยักษ์เทพส่ายหน้าช้าๆ “เพราะเราผู้เป็นเทพไม่สามารถมองทะลุได้ว่ามีใครหนุนหลังเจ้า? แต่มังกรปีศาจ เราผู้เป็นเทพจะต้องฆ่า เราผู้เป็นเทพจะไม่ทิ้งเภทภัยคุกคามให้อยู่รอดต่อไปได้”
“ข้าคืออะไร? เจ้าถึงได้บอกว่าจะฆ่าๆ?” มังกรปีศาจนึกอะไรขึ้นมาได้ “ข้าถูกใครบางคนปกปิดซ่อนไว้!”
“ใคร” เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจ
“เทพมังกรทอง!” มังกรปีศาจตอบไม่เต็มเสียง
“เจ้าแน่ใจนะ? ดี” เย่ว์หยางไม่มีหวังในใจ เขาหวังว่าคนผู้ตัดบัลลังก์เทพและผนึกไว้จะเป็นตัวเขาเอง แต่ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก จึงไม่น่าแปลกใจว่าน้ำเสียงของมังกรปีศาจรู้สึกผิด
“ฮ่าฮ่า, ถ้าเป็นเช่นนั้นเราผู้เป็นเทพก็เสี่ยงจะถูกลงโทษจากเทพมังกรทอง เขาจะต้องมาตรวจสอบความถูกต้อง บางทีเทพมังกรทองอาจส่งทูตมาขอบคุณเราผู้เป็นเทพที่จับกุมและประหารชีวิตผู้หลบหนีให้กับเขา!” ยักษ์เทพหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้ เขารู้สึกว่าเรื่องที่ตลกที่สุดยังด้อยกว่าเรื่องนี้สามส่วน ใครก็รู้ว่าตอนนั้นเทพมังกรทองผู้ตัดสินปิดผนึกมังกรปีศาจฆาตกรอันดับหนึ่งในแดนสวรรค์ตอนนั้นมังกรปีศาจกล้าพูดว่าพี่ใหญ่ของเขาคือเทพมังกรทอง และเขาไม่กลัวที่จะเป็นที่หัวเราะเยาะของชาวโลก!
“บัดซบ...” หน้าของมังกรปีศาจเขียวคล้ำ ต่อให้เขาไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเลย!
“ข้าเชื่อเจ้าจริงๆ” เย่ว์หยางกลัวว่าคนผู้นี้จะฆ่าตัวตายจึงแสร้งทำเป็นเชื่อ แต่สีหน้าของเขากับปากไม่ค่อยให้ความร่วมกัน นั่นยิ่งทำให้มังกรปีศาจโกรธมากกว่าเดิม
“ในเมื่อเจ้าไม่มีคนที่เหนือกว่าคอยหนุน เรื่องต่างๆ ก็ง่ายมากขึ้น” ยักษ์เทพยิ้ม
พลังเทพหลายล้านสายเปลี่ยนเป็นอุกกาบาตไม่มีที่สิ้นสุดคลุมเส้นทางโบราณไว้อย่างหนาแน่น
ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีแต่ดาวตกเต็มไปหมด
การชนปะทะกันของอุกกาบาตอาจทำให้เกิดพลังระเบิดดวงดาว... สิ่งเหล่านี้ยังไม่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือหมัดของยักษ์เทพซึ่งกลายเป็นหัวมังกรขนาดใหญ่สองหัวซึ่งแต่ละหัวมีขนาดใหญ่กว่ามังกรพิโรธที่มังกรปีศาจสร้างก่อนนั้นถึงสิบเท่า ตราบเท่าที่รอโอกาสที่ดีที่สุดหัวมังกรนี้จะระเบิดพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าพลังของมังกรปีศาจนั้น เพื่อกลืนกินมังกรปีศาจและเย่ว์หยาง
มังกรปีศาจกัดฟันและเขาพุ่งไปข้างหน้า ร่างกายของเขาแบกรับการโจมตีของดาวตกไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะเดียวกัน เขายังต่อสู้เพื่อเปิดโอกาสให้เย่ว์หยางซึ่งสนับสนุนหลังคอยตอบโต้กลับ
มังกรทั้งสองไล่ตามมาทีละตัว
ค่อยๆ ตามไล่กัด
มังกรปีศาจร้องอย่างบ้าคลั่งและร่างกายกลับคืนสู่สภาพร่างมังกรดำยาวสามกิโลเมตรม้วนรัดมังกรทั้งสองทะยานขึ้นสู่โดมท้องฟ้าด้วยกัน แล้ววกกลับลงมาหายักษ์เทพ
ดวงตาของยักษ์เทพตื่นเต้นและมีความดีใจ และนี่คือไม้ตายที่เขารอใช้
แทบจะในเวลาเดียวกันเมื่อมังกรดำถูกมังกรกัด ร่างหลักของเขายังขยายตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ร่างสุดท้ายกลับคืนสภาพเดิมที่มีความสูงสี่กิโลเมตร เพชฌฆาตโบราณร่างกำยำ เขากระโดดทะยานให้สูงกว่ามังกรดำใช้กรงเล็บจับมังกรดำและใช้หมัดทุบจมูกมังกรดำ
กรงเล็บคู่คว้าเขามังกรและกระแทกลงทันที
แต่มังกรดำมีปฏิกิริยารวดเร็วมาก และร่างของเพชฌฆาตโบราณถูกพันรัดทันที
เมื่อสัตว์ประหลาดทั้งสองต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง พลังเทพชะตาปะทุขึ้นทันที พลังเทพชะตาร้อยเมตรอยู่ในมือของเย่ว์หยาง เย่ว์หยางควบพลังสร้างเป็นค้อนชะตาซึ่งมีพลังไม่สิ้นสุด
เก้าอาวุธเทพชะตาเปิดตัวใช้งานครั้งแรก
การปรากฏของค้อนเทพชะตาทำให้เพชฌฆาตโบราณที่กลับคืนร่างเดิมตกใจเล็กน้อย น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสเสียใจ มังกรดำสู้อย่างสุดกำลังกวาดหางไปที่ด้านหนึ่ง ดึงเอาดาวตกหลายร้อยดวงมารายล้อมบัลลังก์เทพ บัลลังก์เทพสั่นสะเทือนเล็กน้อย บางทีอาจไม่ถึงเสี้ยววินาทีที่มันถูกตัดการติดต่อทางใจกับเจ้าของๆ มัน
“ปรากฏว่าเดิมทีเจ้าเป็นกอริลลานี่เอง! อย่างนั้นเราคุณชายจะให้กล้วยเจ้ากินเอง” เย่ว์หยางอดกลั้นไว้นานมาก เขาแทบรอไม่ไหวที่จะใช้ค้อนชะตาในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เขาใช้ค้อนหวดใส่เพชฌฆาตโบราณร่างทองที่หน้าผาก!
*** *** ***
6 ความคิดเห็น:
มันส์ ขอบคุณค้าบ
ฆ่ามานนน...
มันส์มาก
ตบไห้คว้ำ
สุดจัด...
เอากล้วยไปกิน
แสดงความคิดเห็น