ตอนที่ 1351 ข้าคือนักรบ!
“ปรากฏว่านางถึงขีดจำกัดก่อน ไม่สามารถยืนหยัดได้!” เหล่าปีศาจเฒ่าพูดคุยกัน
“ฉวนคงซ่างนั้นตายอย่างไม่ยุติธรรมหรือเปล่า?” มีใครบางคนสามารถแทนฉวนคงซ่าง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าไม่ทำการถ่วงเวลา อย่างนั้นก็ชนะไปแล้ว
“ใครให้เขาไปยั่วยุคู่ต่อสู้เล่า?” มีบางคนเยาะเย้ย “สมควรแล้ว”
“ข้าคิดว่าเด็กสาวนี่แปลกเกินไป นักสู้ระดับเทพเดิมทีเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันได้ทันที” มีคนเห็นด้วยกับมุมมองนี้มากขึ้น
“ข้าขอบอกก่อนว่า ไม่ต้องกังวลว่านางแปลก หรือปกติ ในขณะที่นางหมดสติและไม่ได้เตรียมพร้อม นี่เป็นเวลาดีที่สุดที่จะฆ่านาง” นักสู้ระดับเทพที่สู้กับจื้อจุนต่อจากเจี้ยนจางเซิงกล่าว “ถ้าเจ้าพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดนี้ไป ถ้านางฟื้นขึ้นมา นางอาจฆ่าปีศาจเฒ่าอีกคนหนึ่งก็ได้ แต่ข้าไม่รู้ว่าคนที่โชคร้ายต่อจากฉวนคงซางจะเป็นใครในพวกเจ้า”
“ชี่ตันจื้อ เจ้าดีแต่พูดแต่ไม่ได้ร่วมลงมือ ทำไมเจ้าไม่ลงมือเล่า? เจ้ารู้ได้ยังไงว่าคนต่อไปจะไม่ใช่เจ้า?” มีเสียงชราเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ข้าสู้กับนางไปแล้ว ตอนนี้จะว่าข้าไม่ได้ลงมือกับนางได้อย่างไร?” นักสู้ชั้นเทพชื่อชี่ตันจื้อหัวเราะ
“ถ้าเจ้ายังยุแหย่ให้เราสู้กับนางอย่างสิ้นหวังเพราะสาวน้อยนั้นฆ่าอสูรศึกขยะของเจ้าไปหลายสิบตัว นั่นไม่จำเป็นเลย อย่างน้อยเราผู้เฒ่าก็ไม่ยอมให้คนอื่นใช้เป็นหน่วยหน้ากล้าตายแน่” เสียงชราพึมพำเหยียดหยามไม่พอใจ
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอะไร” ชี่ตันจื้อไม่พูดต่อเท่าใดนัก
“อย่าส่งเสียงดัง จะฆ่าเด็กหญิงที่เป็นลมอยู่ไม่ใช่หรือ? นั่นเป็นอะไรที่ง่ายมาก!” บุรุษเสียงอู้อี้และแหบแห้งส่งเสียงดังราวกับงูพิษที่ซุ่มอยู่ในความมืดกล่าว “พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเทพชั้นสูง เหยียดหยามการกระทำสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างนี้ไม่ใช่หรือ? ไม่เป็นไร ข้าจะลงมือจัดการให้! ฮ่าฮ่า สิ่งที่ข้าชอบที่สุดก็คือการสร้างความสุขให้กับคนอื่นไม่ว่าเมื่อใดหรือที่ไหน มันไม่สำคัญตราบเท่าที่ข้าระบายความในใจออกมา พวกเจ้าต้องการให้ข้าข่มขืนนางก่อนแล้วค่อยฆ่าให้พวกเจ้าดูไหมเล่า? ข้าสาบานได้ ในนามของเทพอสรพิษโบราณข้าสัญญาว่าจะบิดหัวนางออก และอภิรมย์กับนาง นางจะไม่ตายอย่างสมบูรณ์ ถ้าพวกเจ้าไม่ชอบเนื้อเผ็ดร้อนใช่ไหม? ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ชิมสาวน้อยที่แสนอ่อนโยนอย่างนี้มานานแล้ว!”
“จะย่างเนื้อ?” สตรีเสียงยั่วยวนส่งเสียงแหลม “จิวหลาน เจ้ามันโรคจิต!”
“ไม่มีรสชาติเลยแม้แต่น้อย เจ้าลองนึกดู ถ้ามีรากยาวแทงมาจากข้างล่างทะลุท้องน้อยทะลวงถึงคอทะลุออกปากที่มีริมฝีปากแดงมีฟันสองแถว ได้ภาพอย่างนั้นจะวิเศษขนาดไหน สมมติว่ายังมีไฟย่างกรุ่นอยู่ข้างล่างดูมันค่อยๆ สุกและสูดดมทีละนิดได้กลิ่นหอมอบอวล ต้องกินตอนร้อนๆ หั่นชิ้นใหญ่และยัดใส่ปากให้เร็วที่สุดเพื่อให้กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั้งปาก.... นี่คือความสุขสูงสุดในชีวิต!” จิวหลานพูดอู้อี้อย่างนั้น ต้องบอกว่าปีศาจเฒ่าหลายคนที่รู้จักเขา อดไม่ได้ที่จะอยู่ห่างๆ จากเขา
เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้ว พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีงานอดิเรกที่ผิดปกติอย่างนี้
ต้องซ่อนตัวให้ห่างจากเจ้าผู้นี้ให้ดี!
แน่นอนว่าอาจไม่ใช่แค่จิวหลานที่ต้องซ่อนตัวให้ดี แต่ที่แกนสมดุลโลกนี้ไม่มีโอกาสให้เขาแสดงออก ในแกนสมดุลโลกแห่งนี้มีแต่นักสู้ระดับเทพ สำหรับจิวหลานที่มีพลังปานกลาง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกินพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ถึงอยากจะกินก็ทำได้ยาก ดังนั้นจึงไม่มีการเอางานอดิเรกมาแสดงโอ้อวด
เสียงของตัวประหลาดหญิงอดสบถด่าไม่ได้ นางมีความสัมพันธ์กับจิวหลานไม่เลว
ตอนนี้นางคิดว่าบุรุษคนนี้อาจจะคิดไปเอง เมื่อนึกถึงการที่ตัวนางเองถูกวางบนตะแกรงมันน่าขยะแขยง
“ต่อไปอย่าได้คุยกับยายแก่และอย่าบอกว่ารู้จักยายแก่อีกเลย” เสียงของสตรีผู้เย้ายวนแสดงความรักรังเกียจอย่างยิ่ง “ไม่อย่างนั้นยายเฒ่านี้จะฆ่าเจ้า!”
“ดี, แม้ว่าเจ้าจะเคยนอนกับข้า แต่ข้าก็จะไม่พูด!” จิวหลานหัวเราะ
“อยากตายนักหรือ?” เสียงสตรีนั้นดังขึ้นด้วยความโมโห
“ก็ได้ ก็ได้ ไม่ต้องทะเลาะกันในเรื่องอื่น มีบางเรื่องต้องกลับมาพูดกันอีกครั้ง ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปนอนหรือทะเลาะกัน เราผู้เฒ่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้พวกเจ้าต้องจัดการกับนางทันที มิฉะนั้นจะสายเกินกว่าที่พวกเจ้าจะเสียใจ ก่อนที่จิ๋วซื่อจะวางโดมท้องฟ้าลง” เสียงของคนชราผู้ถือว่าแก่กว่า เขาห้ามการทะเลาะนี้ได้อย่างรวดเร็ว
“เจ้างูที่น่าตาย เรายายเฒ่ายังไม่ยอมจบเรื่องลงง่ายๆ เจ้ารอดูได้เลย!” เสียงสตรียั่วยวนข่มความคิดจะทะเลาะกัน แต่ก่นด่าด้วยความโมโห
“ที่ไหนเล่า? บนเตียงดีไหม” จิวหลานไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่เขาพอใจเป็นอย่างมาก
“เจ้าหยุดหน่อยได้ไหม!” เสียงคนชราตะโกน “จิวหลาน เรื่องครั้งนี้ให้เจ้ารับผิดชอบ เจ้าชอบนึ่ง ชอบปรุง ชอบย่าง เผา อบ ทำได้ตามสบาย เราไม่สนใจ แต่เจ้าต้องแบกบาปนี้ด้วยตัวเองในกรณีที่มีคนที่อยู่เบื้องหลังเด็กสาวนี่พยายามสอบสวนตามมา พูดง่ายๆ คือเจ้าอย่าลากเราลงน้ำ”
“เข้าใจแล้ว ในเมื่อท่านอยากเพลิดเพลินกับอาหารก็ต้องจ่ายมา” จิวหลานหัวเราะ “แล้วความผิดเล่า? ข้าอยู่ที่นี่มานานไม่ได้ออกไปจากที่นี่ได้เท่าที่ต้องการได้! ถ้ามีอาหารดีๆ ข้าไม่สนใจบาปกรรมใดๆ ทั้งนั้น แม้ว่าโลกจะแตกทำลายในอนาคต ข้าจะสนุกกับมันทันที... ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าสนใจ เจ้าสามารถมาแบ่งปันกับข้าได้ แต่ข้ามีความสุขมากที่ได้พบกับคนสนิทที่มีใจเดียว ได้สำราญอาหารแห่งชีวิตร่วมกัน!”
“ข้าเองก็สนใจ แต่เด็กสาวนี่ไม่ใช่ง่ายอย่างที่เห็น คราวนี้ลืมไปก่อน ไว้คราวหน้าข้าค่อยเพลิดเพลินกับอาหารร่วมกัน” ปีศาจเฒ่าแสดงความสนใจ แต่ก็ระมัดระวังพอๆ กัน อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่ามีใครอยู่เบื้องหลังจื้อจุนหรือไม่
“รีบกำจัดนางได้แล้ว ก่อนที่จิ๋วซื่อจะมาถึงเร็วๆ นี้” เสียงชราเร่งรัดจิวหลาน
“ดี ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องอิ่มอร่อยกับอาหารมื้อนี้ด้วยตนเอง” จิวหลานผู้มีเสียงอู้อี้แหบแห้งปรากฏตัวขึ้นจากความมืดพร้อกับร่างหางงู ตางูที่น่ากลัวกระพริบเหมือนไฟฟอสฟอรัส ระหว่างริมฝีปากบางครั้งจะมีอักขระงูกระพริบวิบวับ ไม่เป็นไร เขาบิดร่างของเขาและโน้มตัวมาข้างหน้า แม้จะดูหยิ่งผยองแต่ความจริงแล้วเขามีความระมัดระวังและกลัวว่าจื้อจุนจะฟื้นขึ้นมา
จื้อจุนเพิ่งสังหารฉวนคงซางทำให้ผู้ชมดูตกตะลึง
ถ้าไม่ใช่เพราะนางหมดสติล้มลงกับพื้นโดยไม่มีการคุกคามใดๆ แม้ว่าเขาจะมีความกล้ามากกว่านี้ร้อยเท่า จิวหลานก็ไม่กล้าจับนางเป็นอาหาร
แม้ว่าการกระทำของจิวหลานจะน่าขยะแขยง แต่สตรีผู้มีเสียงเย้ายวนก็ไม่คัดค้าน แม้แต่นางก็กลัวว่าจื้อจุนอาจตื่นขึ้นมาอีกครั้งในไม่กี่วินาที
อย่างไรก็ตามเมื่อจิวหลานเลื้อยเข้ามาใกล้จื้อจุน จู่ๆ ก็มีคนที่คาดไม่ถึงมายืนขัดขวาง
อย่างข้างหน้าจิวหลาน
คนผู้นี้
ไม่ใช่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ แต่เป็นคนที่ต่อสู้กับจื้อจุนในรอบแรก นามเจี้ยนจางเซิง
การต่อสู้ระหว่างเจี้ยนจางเซิงและจื้อจุนยังไม่ได้ผลสรุปที่ดีทั้งสองฝ่าย คู่ต่อสู้ทั้งสองสู้กันยืดเยื้อ เขาไม่สามารถเอาชนะจื้อจุนได้ด้วยวิธีการทั้งหมด และจื้อจุนก็เคลื่อนไหวอย่างดุดันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ใช่เพราะชี่ตันจื้อหมดความอดทนที่จะรอและเข้าร่วมกลุ่มต่อสู้ การต่อสู้อาจไม่ดำเนินมาถึงตอนนี้!
“เจี้ยนจางเซิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” จิวหลานรู้สึกงุนงง
“ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น” เสียงของเจี้ยนจางเซิงดังเฉื่อยชา “ข้าแค่ทนดูไม่ได้!”
“ไม่ใช่กงการของเจ้า, ไสหัวไป!” จิวหลานโมโห สงสัยว่าเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ เขาคิดว่าอยู่ฝ่ายของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ? เขาเป็นเผ่าพันธุ์เทีที่เสื่อมโทรม เป็นนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ในทะเลมรณะ แล้วทำไมเจ้าต้องรักษาความยุติธรรม? นอกจากนี้วีรกรรมช่วยหญิงงามไม่ได้ทำให้เจ้าเด่นกว่าดาวร้ายทั่วไป!
“ถ้าเจ้าต้องการฆ่านาง อย่างนั้นข้าไม่สนใจ แต่ถ้าเจ้าต้องการกินนาง อย่างนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่” เจี้ยนจางเซิงพูดถึงหลักการ
“ข้าก็แค่ต้องการนางเป็นอาหาร เพื่อดูถูกนาง เจ้าจะทำอย่างไรเล่า?” จิวหลานรู้สึกว่าบุรุษคนนี้กำลังต่อต้านเขาโดยเจตนา ทุกคนเห็นด้วยกับเขา ทำไมเจ้าถึงต้องคัดค้าน
“เจ้าต้องการดูถูกนาง ก็เท่ากับดูถูกข้า นางคือศัตรูที่แข็งแกร่งของข้าเจี้ยนจางเซิง ไม่ใช่อาหารแน่นอน!” เจี้ยนจางเซิงแค่นเสียง “ถ้าเจ้าสามารถข้ามศพข้าไปได้ อย่างนั้นข้าไม่มีคำอะไรจะพูด ก่อน ตอนนี้นางขยับนิ้วไม่ได้ด้วยซ้ำ มาได้เลย ถ้าเจ้าต้องการเราจะสู้กันก็ได้!”
“ถ้าก่อนหน้านี้ข้ายังมีปัญหาเล็กน้อย แต่ตอนนี้เจ้าเจี้ยนจางเซิงโจมตีคนอื่นในเรื่องเล็กน้อยเพื่ออะไร?” จิวหลานคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเอาชนะนักสู้ที่อันดับสูงกว่าเขา
“อย่าว่าแต่แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ต่อให้ข้าเจี้ยนจางเซิงจะเหลือเพียงลมหายใจอึดสุดท้าย เจ้าก็อย่าคิดหวังจะท้าทายตำแหน่งของข้า!” เจี้ยนจางเซิงรู้สึกภูมิใจมาก
“เจ้าแน่ใจนะ?” จิวหลานหัวเราะครั้งแล้วครั้งเล่า และน้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป “เจ้าแน่ใจนะว่าพฤติกรรมโง่ๆ ของเจ้าจะไม่ทำให้ทุกคนขุ่นเคือง ยังไม่ถึงคราวเจ้าควบคุมอำนาจ เจี้ยนจางเซิง?”
“จิวหลานพูดถูก ตอนนี้ทำลายศัตรูก่อนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด” เสียงชราพูดห้ามอย่างรวดเร็ว “เจี้ยนจางเซิง เจ้าให้เกียรติแก่ศัตรูที่แข็งแกร่ง เราสามารถเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม นี่คือศัตรูคนหนึ่ง! จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออาจปล่อยวางโดมท้องฟ้าได้ทุกเมื่อและมาโจมตีเรา ตอนนี้เราไม่สามารถทำผิดพลาดได้! เจี้ยนจางเซิง เราหมายความว่า ต้องจัดการกับเด็กสาวนี้ก่อน เจตจำนงของนางและกฎสวรรค์นางอันตรายเกินไป! จิวหลาน เจ้าก็ต้องเคารพให้เกียรติ อย่างไรก็ตามสถานะของเขาอยู่เหนือเจ้า เจ้าควรดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อสังหารเป้าหมายแทนที่จะดูหมิ่นศพหรือกระทำการอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น ตราบใดที่เราได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เรื่องจะง่ายขึ้น และเจ้าก็เชี่ยวชาญ!”
“เข้าใจแล้ว” หลังจากได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิวหลานหัวเราะ “เจ้าได้ยินไหม? เจี้ยนจางเซิง ข้าชนะ ปล่อยข้า ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าข้าจะฆ่านังหนูนี่จากนั้นค่อยปรุงอาหารอีก”
“ไปตายซะ!” เจี้ยนจางเซิงต่อยจิวหลานที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยทันที
เขาเรียกไฟออกมาทันที
ดวงตาเขาสว่างเจิดจ้า
เขายืนอยู่หน้าจื้อจุนที่หมดสติกับพื้น ความตั้งใจของเขามั่นคงไม่สิ้นสุด “นี่คือศัตรูที่น่านับถือ ใครก็ตามที่ต้องการทำลายนางให้ข้ามศพข้าไปก่อน! ถ้านางมีสติ ข้าจะช่วยคนของเราและสู้กับนางจนถึงที่สุดโดยไม่เสียใจ แต่เมื่อนางหมดสติล้มลงกับพื้น พวกเจ้าปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตมานานเป็นหมื่นปีต้องการจะฆ่านางและทำลายร่างกายนาง อย่าบังอาจคิดเรื่องนี้ ข้าเจี้ยนจางเซิงเป็นคนร้ายกาจหยาบช้าก็จริง แต่ข้าคือนักรบ!”
*** *** ***
10 ความคิดเห็น:
ยามศึกเรารบ ยามสงบเราก็ฆ่ากันเอง
เหมือนประเทศตูเบย
อย่างเท่เลยพี่
ขอบคุณคับ
อย่างเท่ห์
ยังไงต่อค้าบ
เท่จริงๆ
เท่ห์
คนดี
ตัวโกง ที่มีคุณธรรม
ฝ่ายศัตรูไม่ได้ชั่วร้ายไปทั้งหมด
แสดงความคิดเห็น