วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1353 ข้ายินดีจะแบกท้องฟ้าแทนเจ้า

 

ตอนที่ 1353  ข้ายินดีจะแบกท้องฟ้าแทนเจ้า

ด้วยร่างกายที่ต้องแบกรับพลังเทพและสะสมพลังไฟ อสูรพิทักษ์โผล่ขึ้นมาช่วยแบกเพดานสวรรค์  นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งของเซียะเยี่ยนฮัวที่ดำรงความเป็นกลางในสงคราม

 

ไม่เพียงแแต่ชี่ตันจื้อและจิวหลานเท่านั้น แม้แต่เจี้ยนจางเซิงที่ยังรอดชีวิอยู่ก็งงงวยเช่นกัน

รักชีวิตตัวและกลัวตาย เซียะเยี่ยนฮัวมักเป็นเช่นนี้เสมอมา!

ทำไม?

“ข้ารู้ว่าเจ้าดูถูกข้า ข้ารู้ข้าอัปลักษณ์น่าเกลียดจริงๆ ใครจะชอบแมงมุมพิษกันเล่า!  แต่เดิมข้าคิดว่าในชีวิตนี้จะไม่มีความรัก ข้าใช้ความแค้นเป็นจุดแข็งมาโดยตลอด เลือดของศัตรูและเสียงที่ครวญครางเจ็บปวดคือสิ่งที่ข้าชอบ  อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาข้าเห็นจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่าทำเรื่องที่โง่เขลาทุกอย่างเพื่อคนรักของเขาโดยเปล่าประโยชน์และไม่เคยเบื่อหน่ายเลย นั่นทำให้ข้ารู้สึกโหยหาขึ้นมาในใจอย่างกะทันหัน  หากมีใครสักคนที่สามารถทำบางอย่างให้ข้าได้เหมือนอย่างจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่โง่เง่าที่สุด น่าเบื่อหน่ายที่สุดและผิดพลาดที่สุด ข้าก็พอใจเช่นกัน!  ร่างของเซียะเยี่ยนฮัวแตกทำลายเป็นเสี่ยง เหลือแต่เพียงศีรษะ เมื่อเจี้ยนจางเซิงประคองหัวของนางด้วยมือข้างเดียวทำให้นางตกใจ แต่ยังยิ้ม

“แต่ข้าไม่เคยทำอะไรเพื่อเจ้าเลย!  เจี้ยนจางเซิงจำไม่ได้จริงๆ ว่าเขาทำอะไรเพื่อนาง

“ยังมีเวลาก่อนที่วิญญาณของข้าจะสลายไป เจ้าจะทำอะไรเพื่อข้าบ้างได้ไหม?”  คำพูดของเซียะเยี่ยนฮัวยังพูดไม่ทันจบจิวหลานปล่อยหมัดสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

“ไสหัวไป!  เจี้ยนจางเซิงโกรธจิวหลานจนตัวสั่น และเขาพบว่าวิญญาณของเซียะเยี่ยนฮัวเริ่มสลายไปอย่างรวดเร็ว เจี้ยนจางเซิงหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด “ไม่!

จิวหลานต้องการผลเช่นนี้

เขาแค่นเสียงเยาะเย้ย

ใช้ความโศกและความแค้นโจมตีคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย นั่นคือความภาคภูมิใจของฝ่ายเทพทะเลมรณะ

เจี้ยนจางเซิงกอดศีรษะของเซียะเยี่ยนฮัวด้วยความสิ้นหวังมองดูวิญญาณนางค่อยๆ แตกดับไปทีละน้อย

“ไม่เป็นไร ข้ารู้สึกได้ว่าเจ้าร้องไห้เพื่อข้า  ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่เจ้าร้องไห้เพื่อข้า ถ้าเป็นประสงค์ของมหาเทพโบราณให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ข้าจะติดตามเจ้าอย่างกล้าหาญ ให้เจ้าได้เกิดความรักแท้กับข้า  อย่าให้เหมือนกับตอนนี้อีกต่อไป  อย่าได้พบเห็นเจ้าทนทุกข์อยู่คนเดียวและโทษตัวเองมาเป็นหมื่นๆ ปี  ข้าจะอยู่กับเจ้า จะไม่ยอมจากเจ้าไปแน่นอน..”

เซียะเยี่ยนฮัวไม่ทันสมหวังปรารถนา วิญญาณของนางสลายไปอย่างสิ้นเชิง

อสูรพิทักษ์ที่ชักใยอยู่ข้างบนกลายเป็นสายธารแสงหายไปในตำแหน่งที่เจ้านายหายไปและสูญสลายไปพร้อมกับเจ้านาย

“ไม่ ไม่”  เจี้ยนจางเซิงทั้งเสียใจและทั้งโกรธและคำรามขึ้นฟ้า เขาเสียใจร่ำไห้ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของร่างกาย  เขาถนัดทางด้านทำลายมากกว่าชำนาญในการรักษา  ไม่สามารถช่วยชีวิตสหายของเขาได้ หลังจากฆ่าสหายผู้เป็นเหมือนพี่ชายของตนโดยไม่ได้ตั้งใจ เจี้ยนจางเซิงไม่ได้มีความพยายามเหมือนอย่างวันนี้

นี่มิใช่โชคชะตาที่เขาต้องการเลือก

เช่นเดียวกับปีนั้น เขาปล่อยหมัดทำลายหัวใจของสหายผู้เป็นเหมือนพี่

ชี่ตันจื้อไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเซียะเยี่ยนฮัวจะทำอย่างเดียวกัน

มีเพียงจิวหลานและคนอื่นที่ไม่แยแส  พวกเขาเป็นตัวชั่ววายร้ายทั้งนั้น จำเป็นต้องมีจิตสำนึกและคุณธรรมด้วยหรือ?  การเข่นฆ่าอย่างชั่วร้ายและการทำลายล้างอย่างไร้ความปราณีคือชีวิตทั้งชีวิต  ด้วยวิธีนี้ ความสุขขึ้นอยู่กับความเจ็บปวดของผู้อื่น และเฝ้าดูศัตรูต่อสู้และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดนั่นคือความเพลิดเพลินอย่างแท้จริง

“เสียงร่ำไห้เศร้าโศกนี้ฟังไพเราะนัก!  จิวหลานหัวเราะ  ราวกับจะกดข่มเจี้ยนจางเซิงผู้มีระดับนักสู้สูงกว่าเขา  เขาต้องการเห็นเขาโชคร้ายเป็นเวลานานอย่างตอนนี้ไม่ใช่หรือ?

“ดี ในเมื่อเจ้าพูดอย่างนี้  อย่างนั้นข้าจะทำอะไรสักอย่างให้เจ้าบ้าง!

เมื่อเจี้ยนจางเซิงตัดสินใจพูด หลายคนรู้สึกแย่ทันที

คนผู้นี้ต้องการจะทำอะไร?

ในสนามรบเจี้ยนจางเซิงใช้ร่างที่เหลืออยู่เปลี่ยนไปเป็นแสงหายขึ้นไปอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ใช้แขนที่เหลืออยู่ข้างเดียวค้ำโดมท้องฟ้าในโลกแกนสมดุลโลกที่เริ่มลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สนใจต่อความเจ็บปวดที่ไม่รู้จบ และตะโกนขึ้นท้องฟ้า “ดู!  เจ้าเห็นหรือยัง? นี่คือสิ่งที่ข้าทำเพื่อเจ้า!  ข้าไม่เคยทำอะไรเพื่อเจ้าเลย  บัดนี้เจี้ยนจางเซิงยินดียกโดมท้องฟ้าทั้งหมดเพื่อเจ้า...”

พวกฝ่ายทะเลมรณะพากันโกรธทั้งหมด

เจ้าเด็กนี่ทรยศ?

นอกจากนี้เขายังค้ำโดมท้องฟ้าให้ศัตรูอย่างบ้าคลั่งปลดปล่อยจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อผู้โดดเดี่ยวและไม่มีคนช่วยอย่างเป็นทางการ

“ขอบคุณมาก ในที่สุดชะตาของข้าก็เริ่มขึ้นเสียที!  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมองดูคนรักอย่างอ่อนโยนด้วยดวงตาที่เหมือนดวงสุริยันต์จันทรา ดวงตาของเขาเปล่งประกายงดงามที่มิอาจบรรยายได้  การจากไปของข้าในครั้งนี้อาจไม่กลับมาอีก ดังนั้นข้าขอบอกลาอย่างเป็นทางการในตอนนี้เลย!  ถ้าข้าโชคดีพอกลายเป็นต้นไม้ใหญ่อยู่ร่วมกับเจ้าได้หลายๆ ปี นั่นจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่มอบให้กับชีวิตข้า”

“ลาก่อน!  ไม่ว่าเจ้าจะกลับมาได้หรือไม่ ในใจข้าจะมีต้นไม้ใหญ่ที่สามารถค้ำโดมท้องฟ้าได้เสมอ”  เทพธิดาบุปผาหัวเราะ แต่ดวงตาของนางหลั่งน้ำตาโดยไม่รู้ตัว

“พวกเทพมารแห่งทะเลมรณะ  ข้ากำลังมาแล้ว  ตอนนี้พวกเจ้าสั่งลาได้เลย!  ความโกรธที่ไม่มีใดเทียบของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่สะสมมาเป็นเวลาหมื่นปีปะทุขึ้นตอนนี้ราวกับภูเขาไฟระเบิด พวกเทพมารแห่งทะเลมรณะพากันสั่นสะท้าน แต่เดิมจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อผู้นี้ก็มีเจตจำนงมรณะที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว หากคนผู้นี้ทุ่มพลังโจมตีผลที่ตามมาคงมิอาจคาดคิด!

“เจ้า, ถ้าเจ้ากล้าเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะฆ่านาง!” จิวหลานหวาดกลัวลนลาน แต่เขาเกิดไหวพริบและพบว่าจื้อจุนผู้นี้มีพลังเทพสีท้องฟ้าปกป้อง เขาดีใจรีบวิ่งไปข้างหน้ากลั่นความพลังเทพ เตรียมจับนางเป็นตัวประกัน

“โง่จริงๆ!  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้ยินแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  “พวกเจ้าเหมือนกับใช้ชีวิตอยู่ในท้องสุนัขมาหลายพันปีอย่างว่างเปล่า  เด็กสาวผู้นี้ไม่ได้แพ้พวกเจ้าแม้แต่น้อย นางแค่ใช้การต่อสู้ที่โหดร้ายเพื่อรู้แจ้งและสร้างบัลลังก์เทพใหม่ของนางขึ้นมาเอง! จากความเป็นไปสู่ความตาย จากความตายไปสู่ความเป็น การรู้แจ้งของนางลึกล้ำเหนือกว่าคนรุ่นก่อนที่อยู่มานานหลายหมื่นปีพวกเจ้าไม่รู้จักอายบ้างหรือ? สิ่งที่ข้าอยากจะบอกกับพวกเจ้าเหล่าเทพมารแห่งทะเลมรณะคืออะไร? ความโง่หรือเปล่า? ไม่เลย, นั่นยังไม่เพียงพอจะบรรยายลักษณะของพวกเจ้า  ต้องใช้คำว่าพวกเจ้ามันน่าสมเพชยังจะดูเหมาะสมยิ่งกว่า!

“น่าสมเพช?”  เหล่าเทพมารแห่งทะเลมรณะเมื่อได้ยิน สีหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวทันที จิตใจหดหู่แทบบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามคนที่พูดประโยคนี้ก็คือจักรพรรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

บุรุษผู้มีพละกำลังล้นเหลือ แม้พวกเขาจะไม่พอใจ ก็ทำได้แต่เพียงอดทน

จิวหลานที่อยู่ในสนามรบยังไม่เชื่อความรู้สึกที่ชั่วร้ายนี่  เขารู้สึกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกำลังหลอกเขาอย่างไร้เหตุผลหรือเปล่า?  เด็กสาวนี่หมดสติ และเขาก็ยังรู้จักว่าสิ่งที่เรียกว่าบัลลังก์เทพคืออะไรผู้รู้แจ้งบัลลังก์เทพต้องมาจากระดับสวรรค์ที่สูงกว่า คิดจะรู้แจ้งได้ด้วยตนเองน่ะหรือ?  นั่นมันเรื่องตลก!

เขากลั่นควบพลังเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและลอบโจมตีจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

เขาระเบิดพลังหวังสังหารจื้อจุนที่เป็นลมหมดสติอยู่

โลกระเบิดสั่นสะเทือน

เศษมิติที่แตกสลายปลิวกระจาย และสะพานงูลอยฟ้าพังทลายอีกครั้ง

ในพื้นที่ใจกลางการโจมตี ทุกอย่างพังพินาศเป็นผุยผง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นี่เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร บัลลังก์เทพหรือ?  นี่คือสิ่งที่เจ้าบอกว่าอยู่เหนือสติปัญญาเราใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  จิวหลานไม่สามารถระบายอารมณ์ออกมาได้ เพราะความกลัวที่อยู่ในใจ  ตอนนี้เขาได้พูดสบประมาทเล็กน้อยจึงอดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งไม่ได้  ความกดดันของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อทำให้เขาแทบคลั่ง ตอนนี้เขาสามารถรับมืออีกฝ่ายหนึ่งได้ จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร?

“ฮ่าฮ่าฮ่า.....” เจี้ยนจางเซิงที่ยืนค้ำโดมฟ้าอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือข้างเดียวพลันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

ขณะที่หัวเราะเขาหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด

เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเขาทำให้จิวหลานรู้สึกแปลก  เจ้าหัวเราะทำไม? นังเด็กนั่นตายไปแล้ว ทุกอย่างที่เจ้าทำล้วนสูญเปล่า เจ้าขำอะไร? เด็กสาวนี่ถูกฆ่าทำให้เจ้าขำนักหรือ?

เมื่อจิวหลานเห็นว่าร่างเทพหมื่นเมตรของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

ทันใดนั้นร่างของเขาเย็นวาบไปทั้งตัว

เขารีบหันหลังและเตรียมถอนตัวกลับไปเข้ากลุ่ม

ทันที่เขาหันกลับไปก็พบกับภาพที่น่าเหลือเชื่อข้างหน้า ภาพสตรีที่คุ้นหน้าคุ้นตายืนอยู่ในความว่างเปล่ากำลังมองดูเขาอย่างเย็นชา  เป็นเด็กสาวที่เขาเพิ่งฆ่านาง?  เป็นนาง! เป็นนางจริงๆ!  จิวหลานตอบสนองทันที  เขาหวาดกลัวมากจนสำนึกเทพแทบแตกสลาย และเขาไม่สนใจการโจมตีอะไรทั้งนั้นพยายามหนีกลับไปให้เราที่สุด

“ข้าอนุญาตให้เจ้ากลับไปได้แล้วหรือ?”  จื้อจุนยกมือขึ้น ทั่วทั้งโลกแกนสมดุโลกกลายเป็นโลกขาวดำทันที

ร่างเทพของจิวหลานบินกลับไปหากลุ่มเทพมารแห่งทะเลมรณะ

แต่วิญญาณของเขา

ไม่ทราบถูกดึงออกมาตั้งแต่เมื่อใด

มันอยู่ในมือเรียวงามของจื้อจุน

จื้อจุนยกมือขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ไม่สนใจวิญญาณของจิวหลานที่คร่ำครวญร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง แค่บีบเบาๆ วิญญาณเทพผู้อยู่รอดมานานเป็นหมื่นๆ ปีก็แตกสลายกระจายไปโดยตรง

เมื่อวิญญาณของจิวหลานสลายไปอย่างสิ้นเชิง โลกแห่งแกนสมดุลโลกกลับสู่สภาพเดิมและสีสันขาวดำกลับเข้าไปอยู่ในตัวจื้อจุนราวกับว่ามันเกิดเพื่อปกป้องโดยธรรมชาติ

“.....” เทพมารฝ่ายทะเลมรณะสูดหายใจหนาวเหน็บ เดิมทีเด็กสาวผู้นี้ก็ไม่แพ้อยู่แล้ว นางแค่ยืมความตายสร้างบัลลังก์เทพให้สมบูรณ์ นางไม่ได้พ่ายแพ้ น่าเสียดายที่เจ้าโง่เจี้ยนจางเซิงปกป้องอย่างสิ้นหวัง การโจมตีของทุกคนไม่ได้ผล  มิฉะนั้นนั่นก็เท่ากับว่าทุกคนสร้างบัลลังก์เทพที่สมบูรณ์ให้กับนางโดยตรง

ในท่ามกลางความสับสนงุนงง มีเพียงจิวหลานเพียงคนเดียวที่ถูกโจมตี  หญิงสาวผู้มีบัลลังก์เทพนี้ไม่ได้มีความสำเร็จอย่างแท้จริง

มิฉะนั้นนางคงไม่ต้องสู้แบบนี้แน่นอน

ไม่น่าแปลกใจที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่เคยพูดหรือช่วยเหลือ แต่ปล่อยให้นางใช้กำลังตนเองผ่านการฝึกฝนกับผู้อื่น... ตอนนี้พวกเขาจะทำอะไร?  มีหญิงสาวที่ผิดธรรมดาเพิ่มขึ้นมาอีกคน นางสามารถเรียนรู้ฝึกฝนผ่านความเป็นความตาย มีความน่ากลัวมากกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่กำลังโกรธเพราะไม่ได้ต่อสู้มานานถึงหลายหมื่นปี!

“ใครต้องการตายก่อน?”  จักรพรรดิไร้เทียนทานจิ๋วซื่อผู้ไม่ใส่ใจอะไรเอ่ยปากในที่สุด  “หรือพวกเจ้าจะเข้ามาพร้อมกันก็ได้!

***** ***** *****

7 ความคิดเห็น:

CHANTANA กล่าวว่า...

โหดจัด

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Unknown กล่าวว่า...

กี่คนก็ด้ายยย มัดรวมกันมาเลย

Badly กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Badly กล่าวว่า...

สงสารน้อนเเมงมุม มีใครเก็บเศษวิญญาณทันมั้ย งื้อออ -3-

Tingtong กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น