วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1396 แบกชะตาหอทงเทียน

 

ตอนที่ 1396  แบกชะตาหอทงเทียน

แพ้ พ่ายแพ้หมดรูป

แม้ว่าเทียนอี้เชื่อว่าเขายังมีพลัง เขาสามารถสู้ต่อไปได้

 

แต่ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่ว่าเขาจะดิ้นแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถพลิกฟื้นตัวได้  เจตจำนงของเทพบรรพต เจตจำนงทะเลมรณะและกฎสวรรค์โบราณของโลกแกนสมดุลยอมรับฝ่ายตรงข้าม  ในการประลองชะตาที่แข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่นี้ มารดาผู้ลึกลับนี้ คือผู้ชนะที่แท้จริง  หากนางไม่ตั้งใจอยู่ที่นี่ พลังที่น่ารังเกียจของโลกแกนสมดุลคงโยนเทียนอี้ที่ล้มเหลวออกไปจากประตูเทพนานแล้ว

อาซีออกไปแล้ว

เทพพิทักษ์ทะเลมรณะอาจางผนึกตนเอง ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พังทลาย  เขาอยู่ในสถานะที่ยากลำบากในทะเลดอกไม้ บริวารตายในสนามรบหมด ทำให้เทียนอี้ผู้มั่นใจตนเองอย่างไม่มีใดเทียบรู้สึกหมดหวัง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....” เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  เพื่อไล่ตามตำแหน่งเทพจอมราชันย์อันศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสต่างๆ ของเขากวงหมิงทั้งเบื้องต่ำและเบื้องสูงล้วนเสียสละทุกอย่าง  เสียสละแล้วเสียสละอีก

แต่ผลตอบรับคืนมา ยังคงเป็นความล้มเหลว

นี่เป็นชะกรรมที่น่าขันที่สุด

ทำให้เทียนอี้กลายเป็นบ้า

กฎสวรรค์โบราณเข้ามากดข่มเทียนอี้ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

หากปราศจากเจตจำนงของมารดาผู้ลึกลับ เจ้านายใหม่แห่งโลกแกนสมดุล เทียนอี้จะเป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิตไม่สามารถผ่อนคลายได้ พลังไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าเจตจำนงของเทพจอมราชันย์ เทียนอี้กลายเป็นบ้า แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาเลยทุกคนมองไปที่มารดาผู้ลึกลับ

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่นางจะต้องแบกรับชะตาของนางและเลื่อนระดับไปเป็นเทพจอมราชันย์

ชาวประมงเฒ่าลูบเครายาวพยักหน้าด้วยความโล่งอก เขาตบไหล่เย่ว์หยางและยิ้ม  “เด็กน้อย  ข้ามีเวลาถ่ายทอดทักษะตกปลาที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดให้เจ้าแล้ว...  ข้าจะไปตกปลาและจะทิ้งกิจการของหอทงเทียนไว้ให้เจ้าในอนาคต ข้าไม่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาได้เสียเวลาไปกับปัญหาเหล่านี้มากแล้ว”

เย่ว์หยางได้ยินอดทำตาเหลือกมิได้  สำหรับท่าน ข้าอายที่จะบอกว่าถ้าท่านควบคุมดูแลหอทงเทียนสักวันหนึ่ง เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้

โชคดีที่ข้าเทียวไปมาอยู่รอบๆ หอทงเทียนจึงมีจุดลงเอยที่ดี

มิฉะนั้นบาปของบรรพบุรุษเจ้าคงร้ายแรง

“ใครว่ายากกัน...อ่า...ข้าหมายถึง  การตกปลามันเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ดี ขณะที่ท่านดื่มอะไรสักอย่างขณะตกปลาไปด้วย”  เย่ว์หยางต้องการให้ชายชราออกไปทันที  แต่เมื่อแม่สี่ยังอยู่ที่นั่นเขาต้องทำตัวเป็นเด็กดี แม่สี่คอยชำเลืองมอง เขาจึงต้องทำตัวเป็นเด็กดี

“น้อมพบผู้อาวุโส”  แตกต่างจากเย่ว์หยาง แม่สี่และคนอื่นๆ ให้ความเคารพประมงเฒ่าเป็นอย่างมาก แม้แต่จื้อจุนและนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ไม่เว้น

“ช่างเถอะๆ ทุกคนไม่ต้องมากมารยาทกับข้า!  เฒ่าประมงเหมือนจะหงุดหงิด เย่ว์หยางกัดฟันกรอด

ถ้าไม่ใช่เพราะแม่สี่อยู่ด้วย

เขาคงเหาะหนีไปแล้ว ถ้าไม่เตะตาแก่นี่เขาคงรู้สึกเหมือนตายไปครึ่งหนึ่ง!

มารดาผู้ลึกลับเรียกคัมภีร์อัญเชิญของตนเอง  คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สีหยกและคัมภีร์เทพฉายรัศมีสูงสามหมื่นเมตร

พิธีรับชะตาเริ่มขึ้นแล้ว และลำแสงแห่งโชคชะตาพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า

นักรบสามเผ่าพันธุ์ใหญ่ของหอทงเทียนคุกเข่าลงทั้งหมด

แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรมีแววสำรวมเคร่งขรึม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า จุนอู๋โหย่ว และผู้เฒ่าเย่ว์ไห่  ในช่วงชีวิตของพวกท่านไม่เพียงแต่ช่วยให้เย่ว์หยางให้เติบโตและเลื่อนระดับไปเป็นถึงเทพจอมราชันย์  แต่ตอนนี้พวกเขายังสามารถมีส่วนช่วยให้มีเทพจอมราชันย์คนที่สอง ช่างเป็นโชคอุดมมงคลของชีวิตพวกเขานัก!

“โชคชะตาที่ตกต่ำจมทุกข์และไม่อาจคาดเดาได้ของหอทงเทียนจะต้องจบลงในมือของข้า” มารดาผู้ลึกลับลอยขึ้นไปบนฟ้ฟา  ร่างของนางเหมือนเป็นผลงานชิ้นเอกยิ่งใหญ่ของเทพมือเรียวงามของนางกางออกประกายรัศมีดวงดาวสดใสหลายร้อยล้านดวงมารวมกันอย่างนุ่มนวล  ดอกไม้เทพธิดาหมุนรอบตัวนาง ทั้งยังเบ่งบานส่งกลิ่นหอมระรื่นชื่นใจ “ข้าเต็มใจจะแบกรับชะตากรรมของสามเผ่าพันธุ์ใหญ่แห่งหอทงเทียน ในนามของเทพจอมราชันย์ในอนาคต เพื่อสร้างความสวยงามและความสุข ขจัดภัยพิบัติและความโชคร้าย สร้างสิ่งมีชีวิตให้มีความอมตะ”

“ขอให้ผู้ตายจงสู่สุขคติ ความตายเป็นนิรันดร์ ชีวิตเป็นนิรันดร์” มารดาผู้ลึกลับมองขึ้นไปในท้องฟ้า  “ไม่ว่าอดีตจะเป็นเช่นไร อนาคตจะเหมือนกันเสมอ”

คัมภีร์เทพทั้งสองฉายรัศมีเกี่ยวพันเป็นเกลียวขึ้นไปด้านบน

ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นลำแสงแห่งโชคชะตาที่สูงถึงหมื่นสองพันเมตร

นี่คือชะตากรรมที่เผ่าพันธุ์ในหอทงเทียนต้องแบกรับรวมถึงอดีตและอนาคตชีวิตทั้งหมดและพลังแห่งโชคชะตาที่ต้องการปลดปล่อย  เนื่องจากก่อนหน้านี้เย่ว์หยางเคยแบกรับชะตาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของหอทงเทียนในปัจจุบัน  เงื่อนไขการเลื่อนระดับของมารดาผู้ลึกลับในเวลานี้จึงค่อนข้างสมเหตุสมผล แม้ว่าจะผ่านไปแล้วแต่ว่าก็ไม่เกินไป

เมื่อเห็นความสูงของลำแสงแห่งโชคชะตา นางพญาเฟ่ยเหวินหลีรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย และนางเหยียดมือออกทันที แม้ว่าร่างนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

คนที่เร็วกว่านางก็คือฝ่าบาท

และจักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ที่อยู่ไม่ห่าง พวกนางยื่นมือแบกรับชะตาของมารดาผู้ลึกลับ

เจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่ยกขึ้น นักรบจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ของหอทงเทียนรอช่วงเวลานี้

มารสัมฤทธิ์ฟ้า และจักรพรรดิมังกรพวกเขาอยู่แถวหน้า

อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและจุนอู๋โหย่วตามมาใกล้ๆ และยกมือขึ้น

จักรพรรดิทองและจักรพรรดิอสูรยิ้มให้กัน ฉงฉีมองดูมังกรสองหัวและแค่นเสียงไม่พอใจแต่ก็รีบชูมือใหญ่อย่างรวดเร็ว  มังกรสองหัวกู่อั๋งและราชินีว่านกูซูอยู่ไม่ไกล พวกเขารีบแสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว  “แม้ว่าเราจะไม่ได้มาจากหอทงเทียนและได้ทำผิดพลาดไป แต่เราได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีแล้วและยินดีจะเข้าร่วมเพื่อประโยชน์สูงสุดของว่าที่เทพจอมราชันย์  เรายินดีที่จะเสียสละทุกอย่างและทำอย่างดีที่สุดเพื่อแบกชะตากรรมของเรา...”

พวกเขาเคยเห็นพวกนักรบหอทงเทียนแบกรับชะตาเพื่อเย่ว์หยางมาแล้ว ตอนนี้มีโอกาสดีขนาดนี้แล้วจะพลาดได้อย่างไร

กลุ่มเทพที่อยู่ในเงาสีต่างๆ ประหลาดใจแต่ก็ยกมือร่วมด้วย

พวกเขายินดีทุ่มเทเพื่อเทพจอมราชันย์ในอนาคต

การมีส่วนร่วมในวันนี้จะเป็นโอกาสในการลงทุนที่หายากที่มีค่าที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในชีวิตของพวกเขา แม้ว่าจะไม่นับเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายหมื่นหรือหลายแสนปีในการนำเสนอโอกาส

อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มังกรปีศาจที่นอนอยู่บนพื้นก็ยกมือขึ้นอย่างยากลำบากหวังว่าจะช่วยได้สักเล็กน้อย

“เราร่วมด้วยได้ไหม?”

เสวี่ยอู๋เสียยื่นมือออกไป และนางพบว่านางที่ช่วยเหลือเย่ว์หยางอย่างสุดใจสามารถแบกชะตากรรมของนางในนามของมารดาผู้ลึกลับได้ด้วยความยินดี  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรอไม่ไหวขยับมือนางทันที  ในอีกด้านหนึ่งนางจับมือสาวงามโล่วฮัว ทุกคนจับมือกัน เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิง  อี้หนาน และเทียนฟ้าทุกคนจับมือเป็นวงกลมขนาดใหญ่โดยมีพลังแห่งชะตาอยู่ในใจแบ่งปันด้วยกัน

หมิงเยี่ยกวงกับพวกพ้องก็เข้าร่วม มือขาวนวลของนางทาบที่ด้านหลังตำแหน่งหัวใจของเสวี่ยอู๋เสีย

ฮุยไท่หลางวิ่งเข้ามาอยู่ข้างเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่น

ตอนนี้มันต้องการอยู่ใกล้เย่ว์หยาง

แต่เป็นเพราะเข้าใกล้เกินไป เกือบจะถูกเทพจอมราชันย์คนใหม่เตะกระเด็น ขืนเสนอหน้าตอนนี้เท่ากับหาที่ตาย

“ตกลง” จื้อจุนเดินมาเงียบๆ จ้องมองเย่ว์หยาง เย่ว์หยางโชคดีไม่เป็นไรเพราะยังไม่ใช่เวลาคิดบัญชี ความจริงนางไม่ได้โกรธอะไรมาก แต่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยกมือขึ้นเพื่อแบกรับชะตาให้มารดาผู้ลึกลับ

“เราร่วมด้วย!  เย่ว์หยางเข้าใจทันที  เขารวบรวมความกล้าจับมือของจื้อจุนอีกมือหนึ่งจับมือของเจ้าแม่จันทรา

“อืน”  เสี่ยวเหวินหลีตัวเล็กสูงไม่พอ ได้แต่กอดขาของเย่ว์หยาง

“....”  จื้อจุนได้แต่ถลึงตาใส่เย่ว์หยาง

แต่พลังชะตาท่วมทับนางจนไม่สามารถขยับได้ได้ ดังนั้นนางจึงต้องปล่อยให้โจรน้อยย่ามใจไปชั่วคราวก่อน

เทพจอมราชันย์กำลังจะถือกำเนิดภายใต้พลังชะตาแห่งหอทงเทียน  หอทงเทียนทั้งหมดกำลังสั่นสะเทือน  พลังกฎโบราณที่หลับใหล เป็นกฎโบราณที่เกิดจากเจตจำนงโบราณ เพราะการอัญเชิญที่พิเศษและการปลุกนี้ทำให้พลังกฎเทพโบราณรวมพลังชะตาสูงถึงสามพันเมตรและผสานเข้าไปในคัมภีร์เทพของมารดาผู้ลึกลับ

ขณะเดียวกันเจตจำนงที่ทรงพลังปรากฏขึ้นที่พฤกษาโลกบันไดสวรรค์ผนวกกับเจตจำนงโบราณที่จัตุรัสเวลาในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ลำแสงสองสายพันกันเหมือนมังกรเกิดขึ้นต่อหน้ามารดาผู้ลึกลับและยังมีพลังแห่งโชคชะตาสูงสามพันเมตร

เจตจำนงของเทพบรรพตและทะเลมรณะทั้งสองมีการแบกรับอย่างละหนึ่งกิโลเมตรตามลำดับ

ประตูเทพโลกแกนสมดุล

เจตจำนงโบราณที่หลับใหลตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นเป็นเวลาหนึ่งวินาที และเวลาหนึ่งวินาทีแบกรับพลังชะตาหนึ่งกิโลเมตร

นอกจากนี้ยังมีพลังจากนอกแดนสวรรค์ ที่แม้แต่เย่ว์หยางก็ไม่รู้ จะเป็นเฒ่าประมงหรือยอดฝีมือยุคโบราณมิทราบ แบกรับพลังชะตาไว้ห้าร้อยเมตร

“คาดว่าท่านก็มีสำนึกบ้างเล็กน้อย” เย่ว์หยางค่อยมีความประทับใจที่ดีต่อเฒ่าประมงเป็นครั้งแรก แต่ก็เล็กน้อย

“มาเถอะน่า เราทำได้” เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นร้องด้วยความตื่นเต้น

ในท่ามกลางเสียงโห่ร้อง พวกเขาอ่อนล้าเหนื่อยหอบกับการแบกชะตาสูงมากกว่าแปดร้อยเมตรที่หลั่งไหลเข้าไปในคัมภีร์เทพ  เกือบสามร้อยเมตรเป็นผลความดีความชอบจากจักรพรรดิทอง จักรพรรดิอสูร ฉงฉี เทพในเงาสีต่างๆ และนักรบจากแดนสวรรค์ภายนอก แน่นอนว่าต้องไม่มีเจี้ยนจางเซิง ฉีตันจื้อและมังกรปีศาจที่ดูเหมือนใกล้ตาย พวกเขาไม่สามารถแบกลำแสงชะตาเหมือนกับจักรพรรดิทองและคนอื่นได้

ลำแสงชะตาความสูง 10,300 เมตรหลั่งไหลเข้าไปในคัมภีร์เทพ

เท่านี้ก็ถึงข้อกำหนดพื้นฐานในการเลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์

และมีเกินมาอีกเล็กน้อย

นางพญาเฟ่ยเหวินหลี หัวซิ่วรี่ จักรพรรดินีราตรี แม่สี่และเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นนำพาพลังชะตาเข้าไปยังคัมภีร์เทพของมารดาผู้ลึกลับอีกเล่ม แม้ว่าทุกคนจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ก่อนหน้านั้น แต่พวกเขาก็สามารถรองรับชะตาได้ถึงสองกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย

มารดาผู้ลึกลับจำเป็นต้องแบกชะตาที่ความสูง 12,000 เมตรจึงจะได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่

พลังเทพชะตาที่ได้รับจากเย่ว์หยาง จื้อจุนรวมทั้งเจ้าแม่จันทราและเสี่ยวเหวินหลียังไม่มีเวลาได้หลอมรวมกับพวกเขา ในช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดนี้ จิตใจเย่ว์หยางรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

“โง่จริงๆ!” สาวกิเลนปิงหยินทาบฝ่ามือที่หลังของเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่ว์หยางรู้สึก คือนั่นไม่ใช่พลังของนาง

แต่เป็นการถ่ายทอดพลัง

ปราณกระบี่จากสาวปราณกระบี่

นี่คือปราณกระบี่พิเศษที่สัมผัสได้จากการฝึกฝนในดินแดนแห่งความฝันเท่านั้น  พลังถ่ายทอดเข้าร่างกายอีกครั้งไปกระตุ้นพลังเทพจอมราชันย์ในร่างของเย่ว์หยางที่ถูกสะกดข่มมาเป็นเวลานานโดยไม่สามารถปลดปล่อยความโกรธออกมาได้ ด้วยการเชื่อมต่อทางใจ  จื้อจุนและเจ้าแม่จันทรารู้สึกเหมือนมีพลังเผาผลาญในร่างและพลังเทพชะตาที่ยิ่งใหญ่พลังเทพพุ่งออกมาราวกับน้ำบ่าแทบทำให้ผู้คนจมน้ำตาย  ในทันทีนั้นบาดแผลและความเหนื่อยล้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เย่ว์หยางตวาดลั่น

เสียงน่าตกใจยิ่งกว่าคนเป็นพันคำราม

เขายกลำแสงชะตาและถ่ายเทเข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ จนแทบจะทำให้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ระเบิด

การแบกรับพลังชะตาและพลังเหนือธรรมชาติสิ้นสุดลงและการเลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์เป็นอันสำเร็จ แสงเทพจากคัมภีร์เทพทั้งสองสาดลงมาปกคลุมทั่วพิภพโลกแกนสมดุล เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นๆ กลายเป็นจุดแสงและถูกดูดเข้าไปในคัมภีร์เทพ  ขณะที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลี หัวซิ่วรี่ จักรพรรดินีราตรีและแม่สี่กลายเป็นแสงสายรุ้งพร้อมกัน เข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ มือของเย่ว์หยางว่างเปล่า จื้อจุนและเจ้าแม่จันทราเข้าไปอยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์  จากนั้นเขายืนเป็นอิสระอยู่คนเดียวโดยมีมารดาผู้ลึกลับอยู่ตรงข้าม

ไม่ ยังมีอีกหนึ่งคน

เทียนอี้

คัมภีร์เทพนั้นเทียนอี้ในฐานะผู้แพ้ประลองชะตาเห็นศัตรูเป็นเทพจอมราชันย์ และยังคงอยู่ในโลกแกนสมดุล  เขาดูสิ้นหวัง ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง แต่เปล่าประโยชน์

“อา ไม่ เป็นไปไม่ได้ เทพจอมราชันย์เป็นตำแหน่งของข้า คำทำนายไม่ได้เป็นแบบนี้เลย”  ดวงตาของเทียนอี้เป็นสีแดงด้วยความริษยา เทพบรรพตไม่ได้ทลายราบ  ทะเลมรณะไม่ได้เหือดแห้ง ไม่เป็นไปตามบททำนาย”

“นั่นคือคำทำนายเรื่องเทพบรรพตจะทลาย ทะเลมรณะจะเหือดแห้งใช่ไหม?” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็โกรธ มาถึงขณะนี้เจ้ายังไม่ยอมแพ้อีกหรือ? ก็ได้จะให้เจ้าตายไปเลย!

ดูเหมือนว่าเขามีความรู้สึกว่าเทพธิดากระบี่ฟ้าซ่อนอยู่ด้านหลังของเขา

นิ้วของนางแตะที่หลังศีรษะของเขา

เป็นการชี้นำภูมิปัญญาสูงสุดไม่มีใดเทียบ

ความเงียบสงัด

อยู่ในหัวใจของเขา

ปราณกระบี่รวมกับสาวปราณกระบี่กลายเป็นพลังนำทางนี้ พลังปราณระเบิดออกมาเป็นล้านๆ เท่า เย่ว์หยางรู้สึกว่าร่างของเขาเหมือนถูกเปิดผนึก ผนึกที่เริ่มฟื้นฟูถูกแทงด้วยปราณกระบี่กระตุ้นพลังเทพชะตาที่แฝงอยู่ในนั้นมาเป็นเวลานาน...

“ข้าต้องการยกภูเขาเทพบรรพตและเติมเต็มทุกอย่าง ข้าจะทำให้เจ้าสิ้นหวัง” เย่ว์หยางตะโกนขึ้นฟ้า

ยักษ์ชะตาปรากฏขึ้นในขณะที่เขามีสติสัมปชัญญะเป็นครั้งแรก

ยืดขยาย

**** *** ****

6 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

เตรียมปิดฉากเทียนอี้

Badly กล่าวว่า...

ใกล้แล้ว ขอบคุณครับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ใกล้จบแล้ว ขอบคุณครับ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

krailasr กล่าวว่า...

ไม่เห็นมีใครทวงตอนที่ 1386 เลย เหมือนผมไม่มีตอนนี้อยู่คนเดียว คนอื่นมีหมดทุกคน 555

แสดงความคิดเห็น