วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1397 เทพบรรพตทลายทะเลเหือดแห้ง

 

ตอนที่ 1397  เทพบรรพตทลายทะเลเหือดแห้ง

“ฮ่าาาาาห์....”

 

นิ้วของเทพธิดากระบี่ฟ้าชี้ เหมือนมีดาวตกแห่งปัญญาพุ่งผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ภายใต้การนำของนางพลังเทพชะตาในร่างของเย่ว์หยางระเบิดออกราวกับภูเขาไฟ ปราณกระบี่รวมกับสาวปราณกระบี่เป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้การกระตุ้นสองครั้งเย่ว์หยางรู้สึกว่าพลังแห่งเทพชะตาที่ยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์นี้เขาสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ และเขาสามารถระเบิดพลังได้ตามประสงค์ดังใจ

ยักษ์ชะตายืนตระหง่าน

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนนอบน้อม

ทั้งหมดในโลกและสวรรค์ ทุกชีวิตในโลกแกนสมดุลล้วนถูกข่มราบคาบ

เย่ว์หยางชูแขนทั้งสองข้างขึ้นในจังหวะเดียวกับยักษ์ชะตา ในจังหวะเดียวกันนั้นเทพบรรพตถูกยกชูขึ้น  ในเวลานี้เองโลกแกนสมดุลกำลังสั่นสะเทือน  ทะเลมรณะสั่นสะท้านกรีดร้องคร่ำครวญอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางราวกับว่าวิญญาณถูกพิพากษา ทั่วทั้งท้องฟ้าบิดเบี้ยวไปมาและมีรอยแตกแยกไปทุกที่

“จงไปเสียเถิด,  ชะตากรรมอันน่าเศร้าของหอทงเทียนจะต้องจบลงในมือของข้า  และข้าจะจบเรื่องราวน่าเศร้าทั้งหมดในนามของเทพจอมราชันย์ในอนาคต” เย่ว์หยางทุบเทพบรรพตและทะเลมรณะอย่างกราดเกรี้ยว ในเวลานี้โลกแตกสลายขนาดพลิกฟ้าคว่ำดินกฎสวรรค์สองชุดที่แตกต่างปะทะกัน  การปะทะกันอย่างรุนแรงหลังจากเสียสมดุลทำให้กฎเหล่านั้นกลืนกินกันเองและสลายตายไปกลายเป็นกฎสวรรค์ชนิดใหม่  พลังแห่งความโกลาหลได้ทำลายมิติทั้งหมดไม่เพียงแต่โลกเท่านั้น ยังรวมไปถึงห้วงเวลาปัจจุบัน อดีตและอนาคต

ไม่ต้องพูดถึงโลกแกนสมดุล แม้แต่สามเผ่าพันธุ์ใหญ่ที่เข้าไปในโลกคัมภีร์เทพก็ยังได้รับผลจากพลังเทพชะตาของเย่ว์หยาง โลกทั้งหมดตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายหลังจากการแทรกแซงของพลังเทพชะตา

ผู้คนที่ถูกพลังกดดันกับพื้นไม่มีเวลาจะรู้สึกตัว พวกเขาหมดสติไปภายใต้พลังกดดันจากเทพชะตาที่ไม่มีใดเทียบ

นอกจากเย่ว์หยางที่เป็นร่างทรงของยักษ์ชะตาแล้ว

ยังมีมารดาผู้ลึกลับ

ไม่มีใครสามารถยืนอยู่ในโลกแกนสมดุลนี้ได้

แม้ว่ามารดาผู้ลึกลับจะมีคัมภีร์เทพสองเล่ม แต่ก็ยังถูกพลังเทพที่ทรงพลังนี้ครอบงำได้

เย่ว์หยางยื่นมือทั้งสองผ่านคำภีร์เทพและคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในโลกใหม่ที่มารดาผู้ลึกลับให้กำเนิดและปกป้องยอดฝีมือสามเผ่าพันธุ์ใหญ่ของหอทงเทียนอย่างอ่อนโยน  ด้วยการพิทักษ์ของยักษ์เทพชะตาและเจตจำนงของเย่ว์หยางสิ่งมีชีวิตจากสามเผ่าพันธุ์ใหญ่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากยักษ์เทพชะตานี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาใช้ฝ่ามือคุ้มกันเสวี่ยอู๋เสียและพวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้ปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย

ขณะนั้นเองชะตาของพวกนางเชื่อมโยงกับเย่ว์หยาง

นับตั้งแต่นั้น

จะไม่มีวันแยกจากกัน

ไม่มีใครที่ไม่มีสายแพรชะตาเชื่อมโยงขยายออกมาจากวิญญาณเชื่อมโยงกับเขาอย่างแน่นหนา

มารดาผู้ลึกลับ นางพญาอสรพิษเฟ่ยเหวินหลี หัวซิ่วรี่ จักรพรรดินีราตรี แม่สี่และจื้อจุนซึ่งถูกโอบกอดอยู่ในอ้อมแขนเจ้าแม่จันทราหลับไป เพราะความก้าวหน้าและเลื่อนระดับอย่างกะทันหัน ไม่ว่าสถานะของเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิงจะเป็นเช่นไร พวกนางจะไม่มีความแตกต่างกันในการรับรู้กฎแห่งโชคชะตา  บนหน้าผากของพวกนางมีตราสัญลักษณ์ที่เป็นของเย่ว์หยางซึ่งเป็นเทพจอมราชันย์ในอนาคต เพื่อแสดงและยืนยันอนาคตโชคชะตาของพวกนาง  แม้แต่มารดาผู้ลึกลับก็ยังมีสัญลักษณ์ของเย่ว์หยางที่ระหว่างคิ้ว

เพราะความสำเร็จและชะตาของนางมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับบุตรรักของนาง

โซ่ตรวนชะตากรรมเดิมของสามเผ่าพันธุ์หอทงเทียนถูกทำลายหายไป

ชะตาใหม่ของหอทงเทียนซึ่งปกครองโดยเย่ว์หยางถูกสร้างขึ้นใหม่จากซากปรักหักพังนั้น กลายเป็นชะตาใหม่ในนามเย่ว์หยางและเป็นกฎนิรันดร

ยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่มารดาผู้ลึกลับจะบรรลุขอบเขตใหม่ของนาง

พอปิดคัมภีร์เทพ

สามเผ่าพันธุ์ใหญ่จากหอทงเทียนที่ออกมาจากโลกแกนสมดุลต่างทะยอยกันได้สติ

ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขาคือโลกใหม่ที่งดงาม... มันถูกทำลายและสร้างโดยเย่ว์หยาง เทพจอมราชันย์  แต่เป็นของเทพจอมราชันย์อื่น นี่คือโลกแกนสมดุลใหม่ที่เป็นของมารดาผู้ลึกลับ เป็นบัลลังก์และอาณาจักรของนางที่เป็นเทพจอมราชันย์ เป็นสถานที่แห่งการเสียสละในอดีตและเป็นอนาคตของหอทงเทียน

“งดงามมาก!

“นี่คือโลกใหม่หลังจากเทพบรรพตทลาย ทะเลมรณะเหือดแห้งหรือนี่?

“เหลือเชื่อ ข้าไม่อยากเชื่อสายตาเลย  ปรากฏว่าการดำรงคงอยู่ของโลกแกนสมดุลคือความสำเร็จของว่าที่เทพจอมราชันย์!

หลังจากที่สามตระกูลเผ่าพันธุ์ใหญ่ในหอทงเทียนฟื้นคืนสติ พวกเขาสงสัยว่ากำลังฝันไป  เย่คงและเจ้าอ้วนไห่กับคนอื่นพยายามลองลูบต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบๆ พวกเขา อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและจุนอู๋โหย่ว และเหล่าผู้เฒ่าผู้อาวุโสรู้สึกมีความสุขปลื้มจนหลั่งน้ำตา...  ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกท่านคือโลกที่งดงามกว่าความฝันเป็นร้อยเท่า

คำสาปและเจตจำนงร้ายไม่มีอีกแล้ว

สายลมที่สดชื่นในฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านให้พลังแก่สรรพชีวิตบนภาคพื้น

หญ้าสีเขียวงอกและเติบโตอยางเงียบๆ และดอกไม้ก็ผลิบานทั่วทั้งภูเขาและที่ราบมีดอกไม้เบ่งบานโดยไม่รู้ตัว  ต้นไม้ใหญ่เติบโตทีละต้นจนกลายเป็นป่าสีเขียว พุ่มไม้รอบนอกปกคลุมไปด้วยผลไม้นานาชนิดและมีกลิ่นหอม ผีเสื้อเต้นรำท่ามกลางดอกไม้ หมู่สกุณาบินไล่และส่งเสียงร้องอยู่บนกิ่งไม้

เมื่อปราศจากเทพบรรพตและทะเลมรณะ โลกแกนสมดุลเต็มไปด้วยชีวิต  วิหารในตำหนักกลางดั้งเดิมของเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ซึ่งมีคุณลักษณะต่างๆ ถูกทำลายในระหว่างการต่อสู้ ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยเทพจอมราชันย์ซึ่งก็คือมารดาของเย่ว์หยางที่เพิ่งเลื่อนระดับ ด้วยรังสีจากมือของนางวิหารจำนวนหนึ่งเกิดขึ้น และการเกิดขึ้นของวิหารเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการต่อสู้หรือการปราบพิชิตอีกต่อไป  แต่เพื่อให้ชีวิตข้างในนั้นจะได้ใช้ชีวิตอยู่  ตำหนักเหล่านี้ลดความสง่างามและลดทอนความก้าวร้าว ลักษณะแข็งแกร่งของตำหนักเหล่านี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่รูปลักษณ์สวยงามขึ้นและพลังเทพของวิหารเหล่านี้มีความอ่อนโยนนุ่มนวลมากขึ้น

สิ่งที่สำคัญก็คือ วิหารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นใหม่และไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเทียนอี้อีกต่อไป

“ไม่!

“เป็นไปไม่ได้!

“ข้าไม่ยอมรับความจริงนี้!

เจ้าวิหารสูงสุดเทียนอี้ยังไม่ตายและเขารอดชีวิตจากการทำลายในโลกแกนสมดุล

อย่างไรก็ตาม หลังจากฟื้นขึ้นมา เขารู้สึกว่าเขาเหมือนกับพบฝันครั้งใหญ่ ความพากเพียรอย่างหนักในชีวิตของเขาหายไป และจิตใจของเขาสูญเสียความสมดุลทันที

เขารู้ว่าเขาล้มเหลว และเขายอมรับความจริงไม่ได้  เขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในแดนสวรรค์  เขาได้รับการยอมรับตั้งแต่วันที่เขาถือกำเนิดและได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเทพจอมราชันย์ในอนาคต...  ตอนนี้เขาใช้ความพยายามและเสียสละอย่างหนัก แต่สิ่งที่เขาได้รับจากความเสียสละมากมายเช่นนี้คือการเห็นประจักษ์ด้วยความอับจนหมดหนทางและอับอาย

เป็นประจักษ์พยานในการส่งเสริมให้คนอื่นเป็นเทพจอมราชันย์!

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ พระเจ้า เขาไม่ต้องการอย่างนี้!

เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ยื่นมือขึ้นไปบนท้องฟ้า และเขาหวังว่าเทพเจ้าจะให้ของขวัญเขาบ้างสักเล็กน้อย ตราบใดที่มีพลังเพิ่มขึ้นบ้างสักเล็กน้อย เขาจะสามารถเลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์ได้ในที่สุด

ทำไม?

ทำไมท่านต้องตระหนี่กับข้าในก้าวสุดท้ายด้วย?

“ก่อนหน้านี้ ข้าอดทนไม่พูด แต่ตอนนี้ข้าสามารถพูดได้ มันเป็นแค่การเสียสละ และการยึดติดไป ก็ไม่มีประโยชน์”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพยุงร่างนางด้วยดาบศึกเช็ดใบหน้าที่เปื้อนเลือดของนาง และทันใดนั้นนางยิ้มทรงเสน่ห์ราวกับดอกไม้บาน รอยยิ้มของนางสดใสงดงามราวกับเทพธิดาผู้ได้รับชัยชนะ  “ข้าเคยเดินเส้นทางนี้มาก่อน  ตั้งแต่วันที่ข้าถูกผนึก ข้าตระหนักรู้ว่าหนทางพิชิต ไม่ใช่เส้นทางหลักเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งเทพจอมราชันย์  เจ้าต้องมีสภาพจิตใจที่สูงส่ง เสียสละและมีความผูกพันเพื่อให้เข้ากับสถานะและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของเทพจอมราชันย์  นั่นเป็นสำนึกเทพชนิดหนึ่งที่สามารถแบกรับชะตาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด สลายล้างความทุกข์ ชำระบาปและให้ความหวังและความสุขที่อยู่ในมือทุกวันเป็นนิรันดร์กาล”

“เจ้าพูดเล่นลิ้น เฟ่ยเหวินหลี เจ้าก็ไม่ถึงสถานะเทพจอมราชันย์ และเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะชี้หน้าข้า”  เทียนอี้คำราม

“ถือเสียว่าข้าไม่ได้พูด”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไม่เหลียวมองคนแพ้อย่างเทียนอี้แล้วในตอนนี้

“ท่านปลอดภัยหรือเปล่า?” เย่ว์หยางกล้ากอดจื้อจุนที่กำลังหลับ

“รู้สึกตัวด้วยหรือ?”  จื้อจุนฟื้น และแสงเทพปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ปรากฏในดวงตาของนาง กระบวนการเลื่อนระดับของมารดายังสาวและร่างของเย่ว์หยางรู้สึกได้ถึงการควบกลั่นขอบเขตที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขา นางพึมพำโดยไม่รู้ตัว  “เพียงแค่ตื่นรู้เท่านั้น เราจะเป็นอิสระได้จากทุกอย่าง?  ขนาดนั้นเลยหรือ?  เข้าใจแล้ว!  ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว....”

“เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ แท้จริงแล้วเจ้าก็เป็นอัจฉริยะ  แต่เจ้าไม่ควรโทษคนอื่นและอย่าโทษโชคชะตาของเจ้าเอง  ทั้งหมดนี้เกิดจากเจ้าทำตัวเองจริงๆ”   หัวซิ่วรี่พูดแดกดันเทียนอี้ที่ยังสับสน  “เจ้าเชื่อหักปักหัวปำในเรื่องพลังอำนาจมากเกินไป และยอมรับการเสียสละของผู้อื่นโดยไม่มีการสงวนรั้ง  แต่เจ้าไม่ได้ใช้ความพยายามใดๆ เพื่อตอบแทน  ภูเขากวงหมิง ตำหนักกลาง ปรมาจารย์ฉีหัง เทพพิทักษ์เขากวงหมิง และคนอีกจำนวนมากที่เสียสละให้เจ้า!  เทียนอี้!  เจ้าคิดว่าถ้าเจ้าชนะในที่สุด แม้ว่าเจ้าสามารถเลื่อนระดับเป็นเทพจอมราชันย์ได้  แต่จะมีใครทนแบกชะตาให้กับความสำเร็จของเจ้าที่จะเป็นเทพจอมราชันย์ในอนาคต?”

เทียนอี้สั่นไปทั้งตัว

แสงเทพในม่านตา

หรี่ลง

เขาเป็นเหมือนคนที่อยู่ในความมืดมิดมานาน จู่ๆ ก็มีแสงสว่างเจิดจ้าสว่างในใจทำให้เขาได้รู้ความจริงทั้งหมด

แต่เขารู้ความจริงอย่างชัดเจน

เพียงแต่เขาไม่เต็มใจยอมรับ

เพราะ

เขาไม่สามารถมองย้อนกลับไปได้

เทียนอี้ในตอนนี้เหมือนเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ของโลก  ตั้งแต่เยาว์วัยก็นุ่งห่มผ้าไหม กินอาหารเลิศรส เป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุดในโลก กล้าพูดได้ว่าเป็นที่รักของคนมากมาย  อย่างไรก็ตามวันหนึ่งเขาพบเจอความจริงที่น่ากลัว  ความจริงก็คือเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ต่อสู้แลกได้มา สถานะที่แท้จริงเป็นเพียงขอทานน้อยผู้น่าสงสารจึงไม่เต็มใจจะยอมรับสถานะใหม่ของตัวเอง และความจริงที่โหดร้ายเช่นนั้น  เขาต้องรักษาความลับนี้เพื่อรักษาสถานะของตนเอง ฆ่าคนทุกวันจนเหลือตัวคนเดียวในท้ายที่สุด

ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ

เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาพบว่าสถานะเจ้าชายที่เขารักษาไว้ พังพินาศไปทั้งหมด

ช่างเป็นความสิ้นหวังสิ้นดี

เทียนอี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นโอรสสวรรค์ไม่สามารถคงเหตุผลได้ต่อไป

เทียนอี้คำรามอย่างไม่มีเหตุผล  “ไม่ ข้าไม่ยอมรับ มันไม่ใช่แบบนี้  ความจริงไม่ใช่แบบนี้แน่นอน  เห็นได้ชัดว่าข้ามีพลังอำนาจมากขึ้นชัดๆ ทำไมข้าถึงล้มเหลว  ข้าแค่ถูกเส้นแบ่งคั่นสถานะเทพจอมราชันย์ไว้เล็กน้อยเท่านั้น  ทำไมถึงไม่ใช่ข้า  แต่เป็นคนอื่นที่เอาชนะในการประลองชะตา ข้าไม่เชื่อ  ข้าไม่เชื่อ!

“เจ้ายังคงยึดติดอยู่ เจ้าสามารถเลือกที่จะสานต่อแนวคิดของเจ้า  นั่นเป็นสิทธิ์ของเจ้า  อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลื่อนไปเป็นเทพจอมราชันย์โดยการเดินตามลำพัง  เทพจอมราชันย์ไม่ได้ละทิ้งทุกสิ่งที่หามาได้ ต้องแบกรับหนักหน่วงมากขึ้นเหนือกว่าการควบคุมชะตาของตัวเองอย่างสิ้นเชิง ภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่นี้เป็นรากฐานของการเลื่อนสถานะ”  มารดาผู้ลึกลับมองดูเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้  “เทียนอี้ ความสามารถของเจ้าสูงส่งมาก เจ้ามีความอดทนแต่พึ่งพาตนเองมากเกินไป และเจ้าต้องเริ่มต้นบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ ชะตาของเจ้าจบลงด้วยมือของเจ้าเอง ไม่ใช่ข้าและโชคชะตา หวังว่าสักวันเจ้าจะเข้าใจมัน!

“ไม่ ข้าไม่เข้าใจ ข้าไม่ต้องการเข้าใจอะไรทั้งนั้น หลอกลวงทั้งนั้น ข้ารู้แต่ว่าข้าทุ่มเทไปมาก ลงทุนลงแรงไปมาก ทำไมข้าถึงไม่ได้รับผลตอบแทน  ข้าต้องได้รับผลตอบแทน ต้องได้รับรางวัลที่มากพอ!  เทียนอี้คำรามไม่หยุด

“เจ้าได้รับพลังพอแล้ว” มารดาผู้ลึกลับส่ายหน้าและกล่าว “เจ้าได้รับมาแล้ว แต่คนเหล่านั้นได้อะไรคืน”

“พวกเขาเต็มใจเอง พวกเขาเต็มใจปูทางให้ข้า!  เทียนอี้ยังคงปฏิเสธ

“เจ้ายอมรับความสามารถของพวกเขา แต่ไม่มีการให้คืนกลับไป เจ้าแบกรับชะตาของพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นเจ้าจึงไม่สามารถหลีกหนีชะตาของเจ้าเองได้”  มารดาผู้ลึกลับโบกมือ  “เจ้าสามารถใช้เส้นทางใดก็ได้ ที่เจ้ายินดีจะใช้ แต่เราไม่ได้อยู่ในเส้นทางเดียวกัน”

“เลิกคิดฝันได้เลย”  เทียนอี้ระเบิดพลังเทพด้วยความโกรธ  “การต่อสู้ของเรายังไม่จบ เมื่อข้าไม่ได้อะไร ข้าจะทำลายมัน และทำลายด้วยตัวข้าเอง!

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ไม่ใช่เลย”  มารดาผู้ลึกลับเลื่อนระดับเป็นเทพจอมราชันย์แล้วยิ้ม

นางสะบัดมือเบาๆ

พลังควบคุมโลกใหม่ที่เกิดจากกฎของโลกใหม่อยู่ในมือนางอย่างสมบูรณ์ ได้ขับไล่เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ออกไปอย่างง่ายดาย

รอเมื่อเทียนอี้รู้สึกตัว เขาพบว่าเขากลับมายังภูเขากวงหมิง  แต่ภูเขากวงหมิงในตอนนี้ไม่ได้เป็นที่พำนักของตำหนักกลางแดนสวรรค์อีกต่อไป และไม่ใช่อยู่ในจุดสูงสุดที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอีกต่อไป มีแต่ร่องรอยพินาศปรักหักพังอยู่ทั่วทุกที่...

เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าภูเขากวงหมิงที่ไม่สามารถทำลายได้จะปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา

มันจบแล้ว

การต่อสู้ทั้งหมดจบแล้ว!

หากปราศจากเทพพิทักษ์เขากวงหมิง เทพอารักษ์ของพวกเขา ภูเขากวงหมิงเป็นอันถึงกาลอวสาน

เพื่อไล่ตามสถานะเทพจอมราชันย์ เขาทำลายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคนหรือภูเขากวงหมิงล้วนถูกทำลาย

แม้ว่าเขาไม่เต็มใจจะยอมรับ แต่ความเป็นจริงที่โหดร้ายทำให้เทียนอี้ต้องตื่นขึ้น ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้เป็นความล้มเหลว ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง  ไม่เพียงล้มเหลว แต่ยังต้องจ่ายราคาที่หนักหน่วงที่สุดสำหรับสิ่งนี้เพื่อให้เทียนอี้เจ้าตำหนักสูงสุดมีพลังเจตจำนงที่ไม่มีใครอาจต้านทานได้

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้

เทียนอี้ยินดีจะมองย้อนกลับ

และไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

เขาจะไม่มีทางเลือกเส้นทางอย่างตอนนี้... อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่เขาทำได้อีก!

“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับการกลับมา สหายรักของข้า” ด้านหลังมีเสียงปรบมือ จอมปีศาจไคเทียนเดินยิ้มออกมา

“เจ้า? เป็นเจ้าเองหรือ?”   เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้จำตัวประหลาดนี้ได้

“เป็นข้าเอง” จอมปีศาจไคเทียนยิ้มอย่างเป็นกันเอง

“เจ้ามาหัวเราะเยาะข้าหรือ?”  เทียนอี้โมโห โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยยิ้มของจอมปีศาจไคเทียนทำให้เขารู้สึกละอาย

“ไม่, สหายรักของข้า ข้ามาที่นี่เพื่อต้อนรับเจ้า เพราะเจ้าเป็นสหายที่ดีที่สุดของข้า  เทียนอี้ ยินดีต้อนรับ เจ้ากับข้าไม่ต้องอยู่เดียวดายอีกต่อไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ จำได้ไหม?  สหายรัก ในวันที่เราพบกันครั้งแรก ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะเป็นเหมือนข้าในอนาคต... อย่าเพิ่งรีบเถียง นั่นไม่มีความหมายเลย  ความจริงก็คือความจริง เข้าใจไหม?  นอกจากนี้ข้ายังเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุด เป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีแนวโน้มมากที่สุด  แต่ทำไมข้าถึงไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเทพจอมราชันย์ หรือแม้กระทั่งถูกลดระดับเป็นอย่างข้าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน?  เพราะนี่คือจุดสิ้นสุดของการเดินทางที่ไม่มีวันหวนกลับของเรา  ใช่ เจ้าได้ยินถูกต้อง เราจะเป็นนักเดินทางข้ามเวลาท่องไปในห้วงเวลาที่ไม่มีที่สุด เดินอย่างไร้จุดหมาย ดำเนินชีวิตที่ไม่สามารถตายได้ด้วยความเจ็บปวดและทรมานเพราะความทรงพลังของเรา เราจะดำรงอยู่ได้นานปี แม้แต่จะตายก็เป็นไปไม่ได้ นี่คือราคาและการลงโทษสำหรับความเห็นแก่ตัวของเรา ข้ากล้าพูดได้ว่ายิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เจ้าก็ยิ่งมีพลังอำนาจมากขึ้นเท่านั้น เจ้าจะเจ็บปวด เบื่อหน่ายและเศร้าโศกมากขึ้น...  ตอนนี้ในฐานะรุ่นพี่ข้ามีความกระตือรือร้นที่จะแนะนำให้เจ้ารู้จักเวลาที่คนพเนจรอย่างเราทำได้  อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป สหายรัก!  เรายังสนุกได้!  ไคเทียนแหงนหน้าหัวเราะ

“เหลวไหล, ข้าจะฆ่าเจ้า!” เทียนอี้ไม่สามารถยอมรับคำพูดบ้าๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่ากันเอง ทั้งที่ไม่ประโยชน์  แต่นี่คือความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายและไม่สิ้นสุดของเรา”  จอมปีศาจไคเทียนหัวเราะจนน้ำตาไหล “เรายังมีเรื่องสนุกอะไรอื่นอีกไหม?  นอกจากการฆ่ากันเองอย่างน่าสมเพชแล้ว เรายังสามารถชักจูงคนอื่นได้เช่นเดียวกับข้า ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าที่หยิ่งผยองชักจูงให้เจ้าเริ่มต้นบนถนนสายนี้อย่างไม่มีวันหวนกลับ  ใช่ใช่ ต้องปล่อยให้ความเจ็บปวดของเราขยายไปสู่อัจฉริยะคนอื่นและเมล็ดพันธุ์อื่น ด้วยวิธีนี้เราจะได้รู้สึกดีในใจของเรา!  สหายรัก, ลองคิดดูสิมันน่ายินดีอะไรขนาดนี้!

“....” เทียนอี้ที่ตั้งใจจะฆ่าคนบ้าข้างหน้าหยุดทันที

“เรามีเวลาพอ ตราบใดที่เราอดทนก็จะมีคนมาร่วมงานกับเรามากขึ้น”  จอมปีศาจไคเทียนยิ้มอย่างมีความสุข

“พอได้แล้ว”  เทียนอี้คำรามอย่างโมโห

“ข้ารู้ว่าเจ้าเหมือนกับข้า  เมื่อเทียบกับเทพพิทักษ์เขากวงหมิง เจ้าอดทนมากกว่า  ดังนั้นเราจึงเป็นสหายที่แท้จริง  คนที่เลือกปลดปล่อยตัวเองด้วยความเจ็บปวดเป็นพวกขี้ขลาด ฮ่าฮ่าฮ่า!  จอมปีศาจไคเทียนหัวเราะและยื่นมือไปทางเทียนอี้  “มาเถอะ ข้ารู้ว่าในมุมหนึ่งของแดนสวรรค์มียอดอัจฉริยะเกิดขึ้น นั่นคือลูกนอกสมรสของจีอู๋ลี่ศิษย์เจ้า  เป็นอัจฉริยะที่ดีเยี่ยมกว่าศิษย์ของเจ้าถึงร้อยเท่า  เราจะพนันอะไรกันดี?  เขาจะกลายเป็นคนขี้ขลาดเหมือนกับคนรุ่นเดียวกับเราหรือไม่?”

“ข้าจะไม่ยอมให้คนขี้ขลาดโผล่หัวออกมาแน่” เทียนอี้กัดฟันกรอด

“ใช่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะสนุกมากยิ่งขึ้น และไม่น่าเบื่อเกินไป?”  จอมปีศาจไคเทียนหัวเราะ จากนั้นเขาชะงักเสียงหัวเราะ  “ข้าจะรอดูวันนั้น เมื่อเขาพูด เขาจะพูดว่าอะไร ฮ่าฮ่าฮ่า!

**** *** ****

*** อีก 2 ตอนสุดท้าย พรุ่งนี้ อวสาน ครับ ***

15 ความคิดเห็น:

BJ กล่าวว่า...

ติดตามมานาน​ สนุกมากๆขอบคุณผู้แปลสุดๆ

Pcha กล่าวว่า...

มีภาคต่อไหมคับ

Yukio กล่าวว่า...

เราตามกันมากี่ปีนะในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

Akirabas กล่าวว่า...

เฮ้อ อนาถแท้

000 กล่าวว่า...

ขอบคุณผู้แปลครับ

Popcorn กล่าวว่า...

สุดติ่งกระดิ่งมังกรคร๊าฟฟฟ

Tingtong กล่าวว่า...

-ขอบคุณครับ

blakaros กล่าวว่า...

อนาคตสองคนนี้ก็คงเป็นแบบนี้ไปตลิดกาลสินะ

อีเหมียว กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ😘😘😘

Badly กล่าวว่า...

ขอบคุณผู้แปลมากๆครับ อยู่กันยาวๆมาหลายปี

ZeNiTh>>> กล่าวว่า...

ติดตามอ่านมาตั้งแต่ตอนที่​ 1​ ในเด็กดี​ ตามมาจนถึงวันนี้สนุกมากครับ

ZeNiTh>>> กล่าวว่า...

ว่าแต่ราชันย์​ไร้ใจหายไปไหนน่ะครับ​ หรือว่าโดนเย่เมิ่ง​ฆ่าตายแล้ว

manit กล่าวว่า...

ขอบคุณผู้แปลมากๆครับติดตามมาตั้งแต่เด็กดี ตอนสุดท้ายทิ้งเลขบัญชีไว้ให้เลี้ยงชาเขียวซักแก้วหน่อยครับ

Kjui กล่าวว่า...

ใกล้จบแล้วคงรู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง หลังจากติดตามมานาน ขอบคุณครับ

INNOVATOR กล่าวว่า...

การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม... จึงจะเป็น เทพจอมราชันย์

"พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง"

แสดงความคิดเห็น