วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

บทที่ 22 เก็บเกี่ยวคะแนนประทับใจ

บทที่ 22 เก็บเกี่ยวคะแนนประทับใจ

 “สู้ได้ดีนี่!”

จินมู่เจี๋ยชื่นชม

“อะ อะ…อาจารร์จิน…” 

 

ชีเซิ่งเจี่ยตื่นเต้นจนเขาไม่สามารถพูดได้ นี่เป็นคำชมของมหาคุรุ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน!

นักเรียนคนอื่นๆ อิจฉาจนตาแดงก่ำ จินมู่เจี๋ยที่มีกลิ่นอายของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ไม่เพียงแต่สวยงดงามเท่านั้น แต่รูปร่างของนางก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ความสามารถในการสอนของนางถือได้ว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันจงโจว การได้รับคำชมจากนางเป็นสิ่งที่ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝันแม้ในความฝัน

“เผิงว่านลี่! ฝีมือความเชี่ยวชาญของเจ้าไม่เลว น่าเสียดายที่ปณิธานของเจ้าอ่อนเกินไปทั้งยังขาดประสบการณ์การต่อสู้ส่งผลให้จิตใจของเจ้าสั่นคลอนในสงครามจิตวิทยา มิฉะนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า การเอาชนะเขาได้จะไม่ส่งผลกระทบต่ออาการบาดเจ็บของเจ้ามากนัก”

จินมู่เจี๋ยระบุสาเหตุของความพ่ายแพ้ของเผิงว่านลี่

เผิงว่านลี่ฝืนหัวเราะอย่างขมขื่น เขายืดตัวตรงและมือแนบที่ด้านข้างในขณะที่ก้มตัวคำนับ “ศิษย์ผู้นี้ได้ประโยชน์จากคำแนะนำของอาจารย์แล้วขอรับ”

“ชีเซิ่งเจี่ย! ฝีมือในการแสดงของเจ้าย่ำแย่มาก หากเจ้าเผชิญหน้ากับอัจฉริยะอย่างจูถิ่ง พวกเขาจะไม่ถูกหลอกอย่างแน่นอน”

จินมู่เจี๋ย แสดงความคิดเห็น

“ศิษย์น้อมรับคำชี้แนะสั่งสอนของอาจารย์”

ชีเซิ่งเจี่ยกลืนน้ำลายเอี๊อก เขาเพียงทำตามคำแนะนำของซุนม่อในจดหมาย โดยไม่ได้คาดหวังว่ามันจะได้ผลดีนัก แต่เมื่อไหร่กันที่เขาเคยทำสงครามจิตวิทยา? เขาเป็นคนตรงไปตรงมาและบริสุทธิ์สุจริต ตัวเขาอาจจะให้อภัยภรรยาของเขาแม้ว่านางจะนอกใจในวันแต่งงานของพวกเขา

“ฝีมือของเจ้าแม้ไม่ยอดเยี่ยม แต่เจ้าไม่ควรประเมินตัวเองต่ำเกินไป หมัดหมาป่าฟ้าของเจ้านั้นยอดเยี่ยมมาก!”

หลังจากหยุดครู่หนึ่ง นางก็เพิ่มอีกหนึ่งประโยค “ในบรรดานักเรียนทั้งหมดใน สถาบันจงโจว จำนวนผู้ที่มีความสำเร็จในวิชาหมัดหมาป่าฟ้านั้นพวกเจ้านับได้ด้วยนิ้วไม่เกินสองมือของพวกเจ้า!”

ว้าว~

หลังจากได้ยินประเมินของจินมู่เจี๋ย ทุกคนส่งเสียงฮือฮา และคนที่เคยดูหมิ่นดูแคลนในตอนนี้ตกใจเป็นอย่างมากและหันไปมองชีเซิ่งเจี่ย

เจ้าเด็กบ้านนอกคนนี้มีพลังแข็งแกร่งมากขนาดนั้นเชียวเหรอ? นี่เป็นการประเมินโดยมหาคุรุระดับ 3 ดาว ดังนั้นจึงไม่น่าจะผิดพลาดอย่างแน่นอน

ชั่วขณะหนึ่งชีเซิ่งเจี่ยกลายเป็นเป้าหมายของความอิจฉาของฝูงชน นักเรียนหลายคนที่ฝึกฝนหมัดหมาป่าฟ้าด้วย ก็เตรียมที่จะนำของขวัญมามอบเพื่อขอคำแนะนำจากชีเซิ่งเจี่ยในเรื่องนี้

“หลอกกันใช่มั้ย? นี่ต้องเป็นความฝันแน่ๆ”

โจวชี่พึมพำ เขาอิจฉาจนแทบจะเป็นบ้า ชีเซิ่งเจี่ยได้รับการประเมินที่ดีจากอาจารย์ จินมู่เจี๋ย ทำไมเขาถึงมีคุณสมบัติที่จะได้รับการประเมินเช่นนี้?

“มันเหลือเชื่อเกินไป เซิ่งเจี่ยชนะจริงๆ เหรอ?

หวังฮ่าวพูดไม่ออก

“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปได้แล้ว การต่อสู้คู่ต่อไปจะเริ่มในไม่ช้า!”

จินมู่เจี๋ยนั่งลง จากทักษะของชีเซิ่งเจี่ยที่แสดงออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เข้าใจหมัดหมาป่าฟ้าด้วยตัวเขาเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ต้องมีใครบางคนกำลังสอนเขาอยู่

“ครูฝึกคนนั้นน่ะเหรอ?”

จินมู่เจี๋ยรู้สึกสนใจชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ ถ้าไม่ใช่เพราะนางเคยเห็นภาพซุนม่อด่าว่าชีเซิ่งเจี่ยในก่อนหน้านี้ นางคงไม่รับประเมินให้แน่นอน

ต้นร่มจีนสูงเรียงรายสองแถวถูกปลูกไว้สองข้างทาง ทอดเงาลงมาบนทางเดินหินปูน

ซุนม่อเดินทอดน่องอย่างสบายๆ พร้อมชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของสถาบันพร้อมๆ กัน ขณะฟังการแจ้งเตือนจากระบบ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา ทำให้เขาดูเหมือนชาวประมงที่เพิ่งกลับมาพร้อมลาภผลเต็มลำเรือ

ติง!

คะแนนความประทับใจจาก ชีเซิ่งเจี่ย +50   นี่คือการเทิดทูนบูชาที่ชีเซิ่งเจี่ยรู้สึกได้หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะด้วยการต่อยเผิงว่านลี่ กระเด็นตกจากเวที

ติง!

คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +50 นี่คือความพลุกพล่านทางอารมณ์ของเขาหลังจากได้รับการประเมินจากอาจารย์ จินมู่เจี๋ยมหาคุรุ หากปราศจากคำแนะนำของซุนม่อ เขาคงไม่ได้รับคำชมจากมหาคุรุในชีวิตของเขา

ติง!

คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +50 นี่คือความรู้สึกเทิดทูนบูชาในหัวใจของ ชีเซิ่งเจี่ย เติบโตขึ้นหลังจากที่เขาได้ยินคำชมจากมหาคุรุจินมู่เจี๋ย เกี่ยวกับหมัดหมาป่าฟ้าของเขา

หากปราศจากคำแนะนำของซุนม่อ หมัดหมาป่าฟ้าของเขาก็คงไม่มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด การได้รับการประเมินในเชิงบวกจากมหาคุรุ 3 ดาวก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นความสามารถในการสอนของซุนม่อได้

ติง!

คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +50 นี่คือความขอบคุณจากใจจริงของชีเซิ่งเจี่ย ต่อซุนม่อ  ถ้าไม่มีซุนม่อชีเซิ่งเจี่ยจะต้องออกจากโรงเรียนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างแตกต่างออกไป

ติง!

คะแนนความสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจี่ย : มิตรภาพ (358/1,000)

“ดูเหมือนว่าเราสามารถสร้างคะแนนความประทับใจสูงสุดได้เพียง 50 คะแนนไม่ว่าในเวลาใดก็ตาม”

ซุนม่อพอใจมาก

'ติ๊ง! ร่างสถิตช่วยชีเซิ่งเจี่ย ให้ผ่านการทดสอบของโถงประลอง เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ รางวัล: หีบสมบัติทองคำหนึ่งกล่อง'       

เมื่อเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น หีบสมบัติสีทองแวววาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าซุนม่อ

"สวย!"

หีบสมบัติสีทองมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะบรรจุสมบัติชั้นยอด เมื่อเขากำลังจะเปิดมัน ก็มีเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหูของเขา

“อาจารย์ซุน เขาชนะแล้ว!”

หลี่จื่อฉีวิ่งเหยาะๆ เพราะนางรีบพยายามที่จะหยุดเมื่อเข้าใกล้ซุนม่อ นางจึงสะดุดล้มคะมำไปข้างหน้า

โชคดีที่ปฏิกิริยาของซุนม่อนั้นรวดเร็ว เขาเหยียดแขนขึ้นและรับสตรีนางนี้ที่มีคะแนนความคล่องแคล่วเพียง 1 คะแนนเท่านั้น

“อ๊ะ!”

หลี่จื่อฉีรู้สึกอับอายอย่างมาก นางก้มศีรษะลงและแสร้งทำเป็นเต่าหดหัวในกระดอง

“ทุกคนมีสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญต่างกันไป อย่าไปใส่ใจมากนัก”

ซุนม่อหัวเราะ ภายใต้แสงแดด เขาก็ดูหล่อมากขึ้นไปอีก

“คำแนะนำของท่านมีประโยชน์มากเหลือเกิน!”

เมื่ออยู่กับซุนม่อตลอดเวลา หลี่จื่อฉีได้สัมผัสกับวิธีที่ซุนม่อจัดการการต่อสู้ทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่า ชีเซิ่งเจี่ยชนะเพราะคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมของซุนม่อ ซึ่งแนะนำเขาทีละขั้นตอนใน 'การต่อสู้ตามจังหวะ' นี้

ติง!

คะแนนความประทับใจจากหลี่จื่อฉี +30

“เป็นกลาง!”

ก่อนหน้านี้เมื่อซุนม่อเห็นเผิงว่านลี่ยืนอยู่บนเวที เขาได้ใช้เนตรทิพย์ทันทีและมองผ่านข้อมูลของเผิงว่านลี่ หากซุนม่อไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้และใช้มันอย่างเต็มที่ เขาคงเสียทีที่มีวิชานี้

“ท่านถ่อมตัวเกินไป!”

 หลี่จื่อฉีพูดขึ้น นี่อาจเป็นผลของการเป็นครูที่ดีที่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของนักเรียนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะซุนม่อ ชีเซิ่งเจี่ยก็อาจต้องออกจากสถาบันและและถูกขายไปทำงานตลอดไป

“ไม่ต้องมากมารยาท ไม่งั้นข้าจะถือว่าเจ้าทำกับข้าเหมือนเป็นคนนอก” ซุนม่อยิ้ม จากนั้นเขาดีดนิ้ว “วันนี้ข้าอารมณ์ดี ดังนั้นข้าจะเลี้ยงอาหารเจ้า เจ้าจะสั่งอะไรก็ได้ตราบใดที่ค่าอาหารไม่เกินหนึ่งตำลึง”

“อาจารย์ ท่านขี้เหนียวมาก แค่เงินหนึ่งตำลึง? แค่สั่งเหล้าองุ่นเย็นสักขวดก็ยังไม่พอ”

หลี่จื่อฉีก็แค่หยอกเล่น นางเป็นเหมือนนกน้อยที่มีความสุขที่เดินตามซุนม่อ นางไม่รู้ว่าทำไม แต่นางรู้สึกมีความสุขมากเสมอเมื่ออยู่กับเขา

ชีเซิ่งเจี่ยไม่เห็นซุนม่อหลังจากการต่อสู้ของเขาสิ้นสุดลง เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาพร้อมที่จะมองหาเขา แต่เขาก็ถูกหวังฮ่าวกับโจวชี่ขวางไว้

“เจ้าชนะได้อย่างไร? บอกเรามาว่าเกิดอะไรขึ้น!”

โจวชี่กระโดดข้าม มือขวาของเขาคล้องคอของชีเซิ่งเจี่ย "ไปกันเถอะ ข้าจะเลี้ยงมื้อกลางวันเจ้าในวันนี้ เราจะมีงานเลี้ยงที่จุ้ยเซียนเหลา!”

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอาจารย์ซุน”

เมื่อพูดถึงซุนม่อ ชีเซิ่งเจี่ยก็ยิ่งเพิ่มความเคารพเขามากขึ้น

“เจ้าทะลวงสู่ระดับ 5 ของขอบเขตการปรับสภาพร่างกายได้อย่างไร?”

ดวงตาของหวังฮ่าวเป็นประกาย จากความแข็งแกร่งที่ชีเซิ่งเจี่ยปล่อยออกมาในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาอยู่ที่ระดับ 5

“อาจารย์ซุนใช้หัตถ์จับมังกรโบราณกับข้า โอ้ ใช่ เขาใช้น้ำมันวาฬขวดหนึ่งที่มีราคาแพงมากด้วย เมื่อเขาเปิดมัน กลิ่นหอมก็อบอวลไปทั่วทั้งห้องรับรอง”

เมื่อเขาคิดถึงกลิ่นหอมนั้น ชีเซิ่งเจี่ยก็มีสีหน้ามึนเมา

หวังฮ่าวและโจวชี่ต่างสบสายตากัน รู้สึกตกใจอย่างมาก สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกเสียใจ พวกเขาควรให้เกียรติยกย่องเขามากกว่านี้

ในขณะนั้น ซุนม่อได้รับการแจ้งเตือนสองครั้งจากระบบ

ติง!

คะแนนประทับใจจากหวังฮ่าว +30

คะแนนเชื่อมสัมพันธ์กับหวังฮ่าว :  เป็นกลาง (63/100)

ติง!

คะแนนประทับใจจากโจวชี่ +35

การเชื่อมสัมพันธ์กับโจวชี่ : เป็นกลาง (50/100)

“แค่นี้เองเหรอ?

ซุนม่อขมวดคิ้วรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งหยิบเหรียญสิบขึ้นมาจากข้างถนน เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นเพราะชีเซิ่งเจี่ย ได้อธิบายเหตุผลสำหรับชัยชนะของเขาต่อโจวชี่และ หวังฮ่าว

 

 “เจ้าคิดว่าเขาจะใช้หัตถ์จับมังกรโบราณของเขาเพื่อช่วยข้าเพิ่มระดับฝึกปรือได้หรือไม่ถ้าข้าไปขอร้องเขาตอนนี้?

โจวชี่มีความหวังที่ฟุ่มเฟือย

“กำลังฝันอยู่เหรอ? วิธีที่ทรงพลังมากเช่นนี้จะใช้ออกง่ายๆ ได้ยังไง?”

หวังฮ่าวรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง เขามีตาแต่ไม่มีแวว พลาดโอกาสที่จะได้เอาใจซุนม่อ ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรเพื่อชดเชยเรื่องนี้ได้

“นักเรียนชีเซิ่งเจี่ย กรุณารอสักครู่!”

เผิงว่านลี่รีบวิ่งเข้ามา

"มีอะไรหรือเปล่า?"

น้ำเสียงของโจวชี่ ไม่เป็นมิตร เขาคิดว่าเผิงว่านลี่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา

ชีเซิ่งเจี่ย ก็รู้สึกประหม่าเช่นกัน

“อย่าเข้าใจผิด ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าบอกได้อย่างไรว่าไหล่ขวาของข้าได้รับบาดเจ็บ?”

เผิงว่านลี่จ้องมองชีเซิ่งเจี่ย เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีใครควรจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และเขาปกปิดไว้เป็นอย่างดี ทำไมถึงถูกเปิดเผย? หากเขาไม่ชี้แจงอย่างชัดเจน เขาจะรู้สึกยากที่จะวางใจหรือกินได้อย่างสงบ

“อาจารย์ซุนม่อเป็นคนบอกข้า”

 ชีเซิ่งเจี่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา

หวังฮ่าวอยากจะกลอกตาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ (เจ้าต้องจริงใจขนาดนั้นเลยเหรอ?)  "ใครนะ?"

เผิงว่านลี่ คิดว่าเขาได้ยินผิด “เจ้าพูดว่าซุนม่อ? คู่หมั้นของอาจารย์ใหญ่อัน? 'ข้าวนุ่ม' คนนั้นน่ะเหรอ?

"ถูกต้อง!"

 ชีเซิ่งเจี่ย พยักหน้า

 “เฮ้ นักเรียนชีเซิ่งเจี่ย ต่อให้เจ้าไม่อยากบอกข้า ก็ไม่จำเป็นต้องหลอกข้าแบบนี้!”

เผิงว่านลี่ถอนหายใจเย็นชา ขณะที่เขาหันหลังจะจากไป ชื่อ 'ซุนม่อ' เนื่องจากความสัมพันธ์กับอันซินฮุ่ยเป็นที่รู้จักกันดีในสถาบันจงโจว หากเขามีวิจารณญาณที่ดี เหตุใดเขาจึงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นครูผู้ช่วยสอน?

 

ซุนม่อและหลี่จื่อฉีทานอาหารทอดในโรงอาหาร และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของพวกเขาต่ำกว่าเงินครึ่งตำลึง สาวเหล็ก (แบน) หลี่จื่อฉีต้องการเลี้ยงเขา แต่ในฐานะผู้ชายซุนม่อจะยอมได้อย่างไร

“อาจารย์ซุน ข้าขออำลาไปก่อน!”

หลังอาหารหลี่จื่อฉีโบกมือของนาง นางลังเลใจแต่หลังจากประสบกับเรื่องนี้ในวันนี้และได้เห็นความสุขที่ชีเซิ่งเจี่ยรู้สึกหลังจากเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขา นางจึงตัดสินใจ

“ซุนม่อเป็นครูที่คู่ควรกับความไว้วางใจของข้า!”

หลี่จื่อฉีพึมพำกับตัวเอง นางเอามือไพล่หลัง ขณะที่นางกระโดดในขณะที่เดิน จ้องมองไปที่ทะเลสาบม่อเปยที่อยู่ห่างไกล “นอกจากนี้ ข้าชอบทิวทัศน์ของ สถาบันจงโจว มาก!”

หลังจากที่ซุนม่อกลับมาที่หอพัก เขาได้ยินการสนทนาระหว่างหลู่ตี๋กับหยวนฟงคุยกันอย่างออกรส

“กู้ซิ่วสวินยอดเยี่ยมจริงๆ แม้ว่านางจะเป็นเพียงครูฝึกสอน แต่ก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่ต้องการให้นางเป็นอาจารย์ของเขาอยู่แล้ว”

คำพูดของหยวนฟงเต็มไปด้วยความอิจฉา

“นักเรียนคนนั้นชื่อจางเหยียนจงใช่ไหม? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าคนนี้เอาชนะไจ้ถานสมาชิกอันดับ 10 ในการต่อสู้ของโถงประลองในวันนี้ และกลายเป็นคนมีชื่อเสียงในการต่อสู้ครั้งเดียว"

หลู่ตี๋เดาะลิ้นของเขาและพูดต่อ “หลังจากที่เขาชนะ เขายังยกย่องกู้ซิ่วสวินและคำแนะนำของนาง เฮ้อ กู้ซิ่วสวินถือได้ว่าได้รับการจับตามองในวันนี้”

ชีเซิ่งเจี่ยชนะเผิงว่านลี่ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 106 เหตุการณ์นี้มีขนาดเล็กมากจนเหมือนก้อนกรวดที่โยนลงไปในน้ำ และสำหรับสิบอันดับแรกของหอโถงประลอง พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนในโรงเรียน เมื่อหนึ่งในนั้นพ่ายแพ้ มันจะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่

“ไจ้ถานน่าสงสารมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของนักเรียนชั้นปีที่สี่ แต่เขาถูกใช้เป็นหินขั้นบันไดโดยนักเรียนชั้นปีหนึ่ง

หยวนฟงรู้สึกยินดีเล็กน้อยและยินดีกับความโชคร้ายของไจ้ถาน ไม่มีอะไรที่เขารักมากไปกว่าการได้เห็นอัจฉริยะเหล่านี้ประสบความล้มเหลว

“ข้าได้ยินมาว่ากู้ซิ่วสวินใช้แนวโน้มของชัยชนะของนักเรียนของนางเพื่อสร้างเงื่อนไข นางต้องการให้ครูฝึกงานมีคุณสมบัติในการรับสมัครนักเรียนส่วนตัวในการพบปะนักศึกษาที่กำลังจะจัดขึ้น”

หลู่ตี๋ชื่นชมความทะเยอทะยานที่ยอดเยี่ยมมากของกู้ซิ่วสวิน  หากโรงเรียนเห็นด้วย ด้วยความกตัญญูของครูฝึกสอนทุกคนและความสามารถของนางเอง นางจะกลายเป็นบุคคลชั้นนำของครูฝึกสอนกลุ่มนี้

“ทางโรงเรียนตกลงไหม”

หยวนฟงเบิกตากว้างและมีใบหน้าประหม่า สิ่งที่ครูฝึกสอนต้องการมากที่สุดคือการเป็นครูสอนแทน นี่หมายความว่าพวกเขาได้เข้าร่วมทำงานอย่างเป็นทางการและกลายเป็นครูที่แท้จริงสามารถสอนนักเรียนและบรรยายอย่างโอ่อ่าผ่าเผยบนแท่นบรรยายได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น