วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565

บทที่ 3 ตาทิพย์

 


บทที่ 3 ตาทิพย์

ซุนม่อต้องการแช่งชักหักกระดูก 

  เป็นผู้ช่วยสอน? มันไม่ง่ายขนาดนั้น  ตอนนี้งานของเขาในแผนกส่งของก็ยังไม่ปลอดภัย ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาเคยเป็นครูผู้ดูแลมาหกปีแล้วเคยมีประสบการณ์การเมืองในที่ทำงานมาก่อน


หากไม่มีใครสั่งให้หลี่กงทำเช่นนี้  หัวหน้าแผนกขนส่งอย่างเขาคงไม่เล็งเป้าหมายมาที่เขาโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะอยู่เฉย เป็นแน่

“มีใครบางคนบงการอยู่ในเงามืด มุ่งเป้ามาที่ข้างั้นหรือ?  ข้าจะค้นหาให้พบว่าเจ้าเป็นใคร?  แล้วตะเพิดเจ้าออกไปจากโรงเรียน”

  ซุนม่อสาบาน หลังจากก้มหน้าแล้ว สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติ  ครูใหญ่คนก่อนเคยกล่าวไว้ว่า แม้ว่าคนจะคลั่งไคล้ แต่หัวใจของเขาก็ยังเยือกเย็น  พวกเขาจะไม่ยอมให้ใครเห็นการแสดงออกมาภายนอกของพวกเขา

   หลังจากเดินผ่านห้องบรรยายวิทยายุทธการต่อสู้ เขาก็เดินผ่านสนามต่อไป จากนั้นก็เห็นห้องเก็บของทางตะวันตกเฉียงเหนือจากที่นี่ โกดังเหล่านี้ใช้เก็บขยะ

     ซุนม่อเดินไปได้ซักพักและรู้ว่าหลี่กงจงใจสร้างเรื่องยุ่งยากให้เขา ห้องเก็บของเหล่านี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมเป็นเวลาหลายปี   สนิมเขรอะอยู่ตามประตู เห็นได้ชัดว่าไม่ใด้ใช้งานมาเป็นเวลานานโขแล้ว

   เขาตั้งใจเลือกโกดังและเปิดประตู กลิ่นฝุ่นละอองที่อยู่บนไม้ที่ขึ้นรูปแล้วฟุ้งเข้ากระทบจมูกของเขา

“ทำความสะอาดทุกอย่างภายในพรุ่งนี้เช้า? เป็นไปไม่ได้แม้ว่าจะจำกัดเวลาเป็นสัปดาห์ก็ตาม”

   ซุนม่อถูจมูก ไม่จำเป็นต้องถาม เขาจะต้องถูกหลี่กงด่าทอในเช้าวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

  เขาหยิบของบางอย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะที่เสียหายหรือกระสอบทรายแตก และบางครั้ง ก็เห็นกลุ่มลูกธนูขึ้นสนิมบนพื้น

   ซุนม่อหมดความสนใจในการจัดสถานที่นี้ทันที เขาพบโต๊ะที่ออกแบบมาสำหรับเล่นหมากล้อมและเช็ดโต๊ะสองครั้งก่อนจะนั่งลง ขณะที่เขาผึ่งแดดอยู่นั้น เขาเริ่มวิเคราะห์คาถาตาทิพย์ ที่เขาได้รับจากระบบมหาคุรุ เมื่อวานนี้

   “เมื่อผู้ใช้มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมาย ผู้ใช้จะสามารถเห็นทุกข้อมูลของเป้าหมายได้ เป้าหมายรวม  แต่ไม่จำกัดเฉพาะมนุษย์ สัตว์ ศิลปะการฝึกปรือ และสิ่งของ แต่จะมีผลดีที่สุดต่อมนุษย์!”

 “หมายเหตุ: ยิ่งความสามารถของท่านสูงเท่าไหร่ ท่านก็ยิ่งเห็นรายละเอียดมากขึ้นเท่านั้น”

ระบบเตือนเขาทันที

  “แม้แต่วิชาฝึกปรือและสมบัติวัตถุก็สามารถมองสำรวจได้?  นี่มันยอดเป็นบ้า!

   ซุนม่อตกใจมาก แม้แต่ครูธรรมดาก็ยังเข้าใจว่าเวทนี้ทรงพลังเพียงใดต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ตาม

ครูต้องการอะไรมากที่สุด? ก็ต้องเป็นความเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติของนักเรียนแต่ละคน  ตอนนี้เขาสามารถอ่านความเข้าใจของนักเรียนแต่ละคนได้  เช่นเดียวกับค่าศักยภาพที่เป็นไปได้ของพวกเขา โดยเน้นไปที่ข้อมูลเหล่านั้น เรื่องนี้มันน่ากลัวแค่ไหน?

   ระบบไม่ตอบ แต่ซุนม่อได้แต่เพ้อฝันอย่างเงียบๆ หากระบบมีใบหน้า แน่นอนว่าจะต้องมีการสงวนไว้แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหนือชั้นกว่า

    “ระดับปรมาจารย์เป็นดัชนีความสามารถใช่ไหม”  ซุนม่อได้แต่คาดเดา

  “ถูกแล้ว ดัชนีความชำนาญเป็นวิธีการพิเศษของระบบมหาคุรุ เพื่อประเมินมาตรฐานและระดับของทักษะและเทคนิค”

   ระบบทำหน้าที่เหมือนพี่เลี้ยงผู้ใส่ใจ “ดัชนีความชำนาญสามารถแบ่งได้เป็นระดับเบื้องต้น, ดี, ผู้เชี่ยวชาญ, ปรมาจารย์, บรรพบุรุษ และระดับตำนาน!”

  เนตรทิพย์ในระดับเบื้องต้น จำนวนรายละเอียดที่ได้รับนั้นแทบจะไม่น่าพอใจเลย ในระดับดี ถึงจะแสดงข้อมูลพื้นฐานของเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ในระดับผู้เชี่ยวชาญ เขาจะสามารถเห็นมูลค่าที่เป็นไปได้ของเป้าหมาย

   และในระดับปรมาจารย์ เนตรทิพย์จะสำแดงจุดแข็ง จุดอ่อน พรสวรรค์ สภาพร่างกายล่าสุด ฯลฯ ของเป้าหมาย ไม่ว่าในกรณีใด ข้อมูลที่ได้รับจะละเอียดและละเอียดมากยิ่งขึ้น

    “ฮ่าฮ่า ได้รับเวทเนตรทิพย์ระดับปรมาจารย์…ชุดของขวัญสำหรับมือใหม่ช่างใจกว้างสำหรับมือใหม่เสียจริง”

    หลังจากอ่านคำแนะนำโดยละเอียดแล้ว ซุนม่อก็มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เขาดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกที่ขโมยองุ่นจากสวนผลไม้ได้สำเร็จ

   “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา หากเจ้าเชี่ยวชาญเนตรทิพย์ ระดับปรมาจารย์อย่างสมบูรณ์ แม้แต่เด็กผู้หญิงที่เป็นโรคริดสีดวงทวารก็ไม่สามารถซ่อนเร้นจากดวงตาของเจ้าได้”

   ระบบตอบด้วยความภาคภูมิใจ

   “ข้าจะเพิ่มระดับให้ถึงระดับบรรพบุรุษได้อย่างไร”

  ซุนม่อเลียริมฝีปากและเพ่งมองอย่างอดใจไม่ไหว ขณะที่จ้องมองไปที่ขยะที่อยู่รายรอบ

  [โต๊ะทำงานทำจากไม้เนื้ออ่อน ระดับความเสียหายมากกว่า 70% ไม่สามารถซ่อมแซมได้]

   [ลูกศรขึ้นสนิม ในระหว่างการสร้าง ความเข้มของไฟไม่สูงพอ นี่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ด้อยค่า]

  [กำแพงสร้างด้วยวัสดุหินจากภูเขาหวู่หมัน ผู้สร้างใช้ความพยายามอย่างมากในการเจียรมัน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้]

 

  ต่อหน้าต่อตาซุนม่อ ข้อมูลจำนวนมหาศาลก็ลอยขึ้นมาทันที แทบจะทำให้เขาตามืดมัว อย่างไรก็ตาม เขาอดที่จะหลับตาไม่ได้ ความรู้สึกของการรับข้อมูลในทันทีนั้นน่าพอใจเหลือเกิน เหมือนกับว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นสาวงามที่เปลื้องเสื้อผ้าทั้งหมดออก ทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งเกี่ยวกับพวกนางได้

“เป็นภาพที่น่าทึ่งมาก”

   ซุนม่อยังคงหันศีรษะมองหาต่อไป เขาเหลือบมองหนังสือที่ถูกทิ้ง จดหมายรักที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และร่องรอยของเด็กหนุ่มที่เพิ่งเริ่มตกหลุมรักที่มุมกำแพงเมื่อสองวันก่อน

   ระบบไม่ตอบ แต่ซุนม่อไม่สนใจ เขาสนุกเพลิดเพลิน หลังจากดูทุกอย่างในห้องเก็บของแล้ว เขาก็หันความสนใจไปที่ห้องเก็บของถัดไป

   ทันใดนั้น กระแสของตัวอักษรสีแดงก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางข้อมูลที่ซับซ้อน

   [ดาบไม้มะเกลือ ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ใช้เวลาทั้งหมดสามปีในการสร้างอาวุธนี้ในแคว้นเหลียง]

   [คุณภาพของไม้นี้มีความเหนียวและไม่ยืดหยุ่น เทียบได้กับเหล็ก นอกจากนี้ยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สามารถคงอยู่ได้นานหลายสิบปี ส่งผลน่ามหัศจรรย์ในการสงบจิตใจและปัดเป่าฝันร้าย]

  นี่เป็นอาวุธวิญญาณและจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ซุนม่อรู้สึกตกใจคือคำอธิบายที่เขียนด้วยสีแดง

  [บนตัวดาบไม้นี้ มีจารึกวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ มันเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้]

  “นี่เรื่องจริงหรือเปล่า”

   ซุนม่อพบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเชื่อยาก จากความทรงจำที่เขาได้รับหลังจากหลอมรวมเข้ากับร่างกายนี้ เขารู้ว่าวิชาฝึกปรือในแผ่นดินใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ – เซียน, นภา และปฐพี แต่ละระดับถูกแบ่งออกเป็นคุณภาพระดับต่ำ ปานกลาง สูง และระดับสูงสุด

   วิชาฝึกปรือระดับเซียนระดับที่ไม่มีใครเทียบถือเป็นวิชาฝึกปรือขั้นสุดยอดในแผ่นดินใหญ่

   “วิชาที่ทรงพลังเช่นนี้ถูกแกะสลักไว้บนดาบไม้?”

  ซุนม่อตรวจสอบทันที ที่ด้ามจับ คำเล็กๆ ขนาดเท่าแมลงวัน ถูกแกะสลักด้วยอักษรวิจิตรงดงาม สง่างามมากราวกับหงส์มังกร จากตรงนี้สามารถบอกได้ว่าผู้เขียนมีพรสวรรค์ด้านอักษรวิจิตรสูงมาก

    “ค่ำแล้ว เมฆดำลอยต่ำลง ข้าต่อสู้กับมิตรสหายรักของข้าในการเดินหมากรุกเป็นเวลาสามเดือนและไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ด้วยอารมณ์อันเบิกบานของข้า ข้าจึงแกะสลักวิชาระดับเซียนที่ไร้รูปแบบไว้บนใบดาบไม้และมอบให้แก่ผู้ถูกลิขิต”

   ซุนม่อพูดไม่ออก จากคำพูดเขาสามารถบอกได้ว่าผู้เขียนเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น หากเป็นเขาแทนนักเขียน เขาก็คงจะมีความสุขมากที่จะไปที่ร้านคาราโอเกะ เพื่อร้องเพลงจนสถานที่ระเบิดพังกันไปข้างหนึ่ง

    สิ่งที่ซุนม่อไม่รู้ก็คือผู้เคราะห์ร้ายที่พ่ายแพ้ตลอดสามเดือนนั้นได้เร้นกายอยู่อย่างสันโดษเป็นเวลาสามปีหลังจากเหตุการณ์นั้น หลังจากที่เขาออกจากความสันโดษ เขาได้เอาชนะยอดฝีมือระดับประเทศหลายสิบคนจากหลายประเทศในเก้าแคว้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนจึงให้ฉายาว่า 'เซียนหมากรุก' เขาไม่ได้แพ้การต่อสู้หมากรุกแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

     หลังจากอ่านอย่างละเอียด ซุนม่อก็อุทานเสียงดัง

     "เจ๋ง!"

      ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นการฝึกฝนเช่นไร แค่การเขียนด้วยลายมือเพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่าที่จะเอาใส่กรอบและนั่งชื่นชมทุกวัน

  แม้ว่าซุนม่อจะหลอมรวมกับความทรงจำของร่างกายนี้แล้วและเข้าใจแนวคิดของปราณวิญญาณและวิธีการฝึกปรือขั้นพื้นฐานบางอย่าง แต่เขาไม่ได้เร่งรีบฝึกฝนวิชาเซียนอันศักดิ์สิทธิ์มหาจักรวาลไร้ลักษณ์ เขาปิดประตูห้องเก็บของและตรงไปที่ห้องสมุดเพื่อตรวจสอบข้อมูลบางอย่าง ต้องการทำความเข้าใจเมืองนี้อย่างละเอียดก่อน

   นี่คือสิ่งที่ซุนม่อวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ในฐานะคนที่ชอบวางแผนและตอบโต้ รูปลักษณ์หล่อเหลาที่ดีของซุนม่อไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งครูผู้ดูแลไม่นานหลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษา

  หอสมุดของสถาบันจงโจวนั้นใหญ่โตมากและคนมากมายแต่ก็เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตก แม้ว่านักเรียนทุกคนจะเดิน พวกเขาก็พยายามที่จะชะลอฝีเท้าแผ่วเบา

“บรรยากาศของการเรียนรู้นั้นยอดเยี่ยม!”

ซุนม่อยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือไม้และจ้องมองนักเรียนเหล่านี้ที่ดูเหมือนเพิ่งออกมาจากละครย้อนยุคโบราณ เมื่อเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาก็ได้กลิ่นส่วนผสมของหมึกและธูป

    การอ่านประวัติศาสตร์เป็นทางลัดในการทำความเข้าใจประเทศและผู้คนอย่างมิต้องสงสัย

  แผ่นดินใหญ่ประกอบไปด้วยเก้าแว่นแคว้น คือจิ่วโจว, เหลียงโจว, เซี่ยโจว, หมานโจว, จิงโจว, จงโจว, โยวโจว, หวินโจว และไห่โจว

  ซุนม่อเป็นส่วนหนึ่งของชาวถังในภาคกลาง ตอนนี้เขาอยู่ในจิงหลิง สถานที่ใกล้ชิดกับยุคโบราณ มีจักรพรรดิ พระสนม อาสาสมัครและยอดขุนพล  รวมทั้งโจรและผู้ลี้ภัยด้วย อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือโลกนี้เต็มไปด้วยพลังปราณวิญญาณที่หนาแน่นระหว่างฟ้าและดิน

    การเข้าและออกของพลังปราณวิญญาณสามารถเสริมสร้างร่างกายได้ ผู้ฝึกปรือจึงถือกำเนิดขึ้น คนอ่อนแอก็มีแรงต่อยถึง 500 กก. และพวกเขาสามารถทำลายหินและโลหะได้อย่างง่ายดาย ผู้แข็งแกร่งสามารถเปลี่ยนภูเขาและพลิกทะเลได้ รวมถึงการเรียกลมและฝน

   ใครบ้างไม่อยากมีภูมิคุ้มกันโรคภัยทั้งปวง และใครไม่อยากอยู่เป็นพันปีโดยไม่ตาย? และนี่เองส่งผลให้สถาบันที่สอนวิธีการฝึกปรือได้ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดหลังฝนตก

     แต่ละแว่นแคว้นมีสถาบันระดับสูงสุด สถาบันจงโจวเคยเป็นสถาบันศึกษาอันดับต้นๆ ของของจงโจว และนี่คือสาเหตุที่ทำให้มีคำว่าจงโจว อยู่ในชื่อ ซึ่งแสดงถึงความรุ่งโรจน์และเกียรติประวัติของสถาบัน อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ มันได้ตกลงมาจากหนึ่งในเก้าอันดับสูงสุดเป็นระดับ 'สี่' หากไม่สามารถผ่านการแข่งขันประเมินได้ในช่วงปลายปี มันจะถูกลบออกจากระบบและถูกบังคับให้ยกเลิกการเป็นสถาบันศึกษา

  “เฮ้อ น่าเสียดาย!”

  ซุนม่อยังรู้สึกปวดหัวแทนคู่หมั้นที่เขายังไม่เคยพบหน้า   กลับสู่เก้าอันดับแรก? นี่เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้

  ในห้องสมุดมีคัมภีร์สำหรับฝึกปรืออยู่มากมายหลายเล่ม และนักศึกษาสามารถเปิดพลิกดูได้มีอยู่ทั่วไปดาดดื่น วิชาฝึกปรือที่ซุนม่อฝึกฝนในอดีตคือดาบพิรุณโปรย และสามารถพบได้ที่นี่เช่นกัน นี่เป็นวิชาที่พบหาได้โดยทั่วไป

   มีวิชาฝึกปรือระดับนภาและระดับเซียนน้อยกว่าน้อย  ดังนั้นซุนม่อจึงปฏิบัติต่อวิชาเซียนจักรวาลไร้ลักษณ์อันยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับโดยบังเอิญในฐานะเป็นสมบัติล้ำค่า เขาเริ่มอ่านมันอย่างจริงจัง

     การฝึกปรือนี้แบ่งออกเป็นเก้าระดับ สาระสำคัญคือการสร้างรูปลักษณ์จากความว่างเปล่า และใช้ไร้ลักษณ์เอาชนะรูปลักษณ์นับไม่ถ้วน กล่าวโดยสรุปก็คือ มันสามารถลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวทุกประเภทจากคู่ต่อสู้และสามารถสร้างพลังที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาได้

   หืมมม?

  ในฐานะครู ซุนม่ออ่อนไหวต่อคำเช่น 'ลอกเลียน' มาก แต่วิชานี้สามารถใช้เพื่อ หล่อเลี้ยงความเคลื่อนไหวให้กับนักเรียนได้

  ไม่ว่าจะเป็นแบบทดสอบ หมากรุก หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬา ยิ่งท่านสัมผัสคู่ต่อสู้ได้มากเท่าไร ท่านก็ยิ่งสะสมประสบการณ์ได้มากเท่านั้น หากท่านทำแบบฝึกหัดให้ลูกศิษย์เป้าหมายได้ ท่านจะชนะในการต่อสู้ไปก่อนถึง 30%

    “ถ้าศิษย์ของข้าเผชิญหน้ากับศัตรู และข้าใช้กระบวนท่าของศัตรูเพื่อหล่อเลี้ยงเขา ทำไมจะไม่ชนะล่ะ?”

     ซุนม่อไม่อาจหุบยิ้มได้ ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีกับงานสอนจริงๆ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถาบันศึกษา คนที่ทิ้งวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ควรเป็นครูบาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากและมีเกียรติภูมิสูงส่ง

    “ขอบคุณ!

  ซุนม่อแสดงความขอบคุณอย่างอ่อนโยน  ตอนแรกเขายังกังวลเกี่ยวกับวิชาชีพของเขา  แต่ด้วยวิชาเซียนนี้ถูกทิ้งไว้ในสถาบันธรรมดา  แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถาบันจงโจวแห่งนี้  เขามั่นใจว่าจะสามารถโดดเด่นท่ามกลางคนรอบข้างได้

   จากนั้นเขาก็ยืดตัวก่อนเอนตัวพิงเก้าอี้

     “เป็นครูผู้ช่วยให้ได้ภายใน 1 เดือน?  ข้าจะทำเรื่องนี้ให้ได้ภายในครึ่งเดือน”

  ซุนม่ออดกระหยิ่มใจไม่ได้ อย่างไรก็ตามความสุขของเขากลายเป็นความเศร้าทันที

   “อนุมัติตามที่ขอ”

เสียงจากระบบดังขึ้น คราวนี้ไม่เหมือนกับพี่เลี้ยงผู้เอื้ออาทร แต่กลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายที่คอยรังแกซินเดอเรลล่า  “ติง” ระยะเวลาของภารกิจเปลี่ยนแปลง  จงกลายเป็นครูผู้ช่วยสอนภายในครึ่งเดือน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ!

“หือ?”

ซุนม่ออยากร่ำไห้ แต่ไม่มีน้ำตา  “ข้าแค่พูดส่งเดช  เจ้าต้องถือเป็นจริงเป็นจังด้วย?”

วูบบบ

ทันใดนั้นรัศมีสีทองแผ่กระจายไปทั่วห้องสมุด  จิตใจของซุนม่อเหนื่อยล้าจากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด  ทว่าบัดนี้เขามีความสดชื่นเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจทันที ราวกับว่าฉีดสารกระตุ้นมาฉะนั้น

  “รัศมีมหาคุรุ!

นักเรียนบางส่วนอุทานด้วยความตกใจ

3 ความคิดเห็น:

Puisiwa กล่าวว่า...

ปากไวไปหน่อย555

ohmmanee กล่าวว่า...

ลุยยยยย

eak_sj กล่าวว่า...

อ่านจบน่าจะเป็นครูได้เลยนะ

แสดงความคิดเห็น