วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 347 ตะขาบแดนสวรรค์



 เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์  ตอนที่ 347  ตะขาบแดนสวรรค์

อสูรปีศาจไม่ได้มาจากทวีปมังกรทะยาน พวกมันเป็นอสูรที่อยู่ในหอทงเทียนชั้นสูงๆ ขึ้นไป
อสูรปีศาจโดยทั่วไปจะอยู่ในดินแดนของเผ่าปีศาจบูรพาอาศัยดินแดนร่วมกัน
อสูรปีศาจจะมีสติปัญญาอาจพัฒนาเป็นมนุษย์เผ่าปีศาจบูรพาระดับต่ำได้หลังจากผ่านเวลาไปชั่วระยะหนึ่ง  ตัวอย่างเช่น ปีศาจเสือดาวและปีศาจหมีดำที่ต่อสู้กับเย่ว์หยางระหว่างการแข่งขันในตอนนั้น  พวกเขาวิวัฒนาการมาจากอสูรปีศาจ  แน่นอนว่า  ใช่ว่าอสูรปีศาจทั้งหมดจะมีโอกาสวิวัฒนาการไปเป็นเผ่าปีศาจบูรพา  เพื่อให้เกิดวิวัฒนาการ  อสูรปีศาจต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างต่อเนื่องเคร่งครัด  ความยากลำบากในการวิวัฒนาการเป็นชาวอสูรเผ่าบูรพาก็เหมือนกับอสูรธรรมดาวิวัฒนาการเป็นจ้าวอสูรทอง
หลังจากได้รับสืบทอดความรู้ของมารดาสหายผู้น่าสงสาร เย่ว์หยางได้รู้ความลับอย่างหนึ่ง
 
อสูรปีศาจเหล่านั้นที่แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ยังกลัวไม่ใช่อสูรปีศาจธรรมดา  แต่เป็นอสูรปีศาจที่มาจากดินแดนระดับสูง  เช่นหอทงเทียนชั้นที่สิบหรือแดนสวรรค์  อสูรปีศาจจากแดนสวรรค์มีอยู่แต่ในตำนาน  ตามความรู้สึกจากบันทึกของมารดาสหายผู้น่าสงสาร  อสูรปีศาจเหล่านี้อาจไม่มีปัญญาเทียบเท่ามนุษย์  แต่อสูรปีศาจของแดนสวรรค์มีร่างกายที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง  พวกมันไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาเปรียบเทียบกับอสูรปีศาจธรรมดาหรือปีศาจในระดับทั่วไป อาจกล่าวได้ว่าไม่ว่าจะเป็นอสูรปีศาจแดนสวรรค์ตัวใดๆ ก็ตาม ก็มีความสามารถฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับต่ำได้
อสูรปีศาจแดนสวรรค์คือฝันร้ายสำหรับนักสู้ปราณก่อกำเนิด
โชคดีที่พวกมันมีชีวิตอยู่ในหอทงเทียนระดับชั้นสูงๆ  ดังนั้นพวกมันจึงไม่แสดงอาการคุกคามใดๆ ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์
ทันทีที่เขาได้ยินผู้เฒ่าเต่ามังกรพูดถึงอสูรปีศาจ  เย่ว์หยางก็ตระหนักได้ทันทีว่าอสูรปีศาจเหล่านี้เทวทูตสายลมคงปล่อยออกมาขัดขวางเขา
 “ทุกคน, อยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะออกไปดูข้างนอก
เย่ว์หยางชักดาบวิเศษฮุยจินแล้วรีบเหินออกไปจากพื้นที่มิติผนึก
ที่ปลายทางมิติผนึกก็คือโถงวิหารที่สอง  เมื่อเย่ว์หยางออกมา เขาถึงกับตะลึงอย่างหนัก เมื่อเห็นตะขาบยักษ์สองตัวมีความยาวมากกว่าร้อยเมตร พวกมันบุกจู่โจมใส่บริวารของหนีกั่วผู้มีพลังนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 6 และนักรบแดนสวรรค์อีกสองคนซึ่งเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5  ที่ยังคงต่อสู้อย่างเต็มกลืน มีพวกของเขามากกว่าสิบคนถูกฆ่าทันทีไม่มีโอกาสหลบหนี
อสูรที่พวกเขาเรียกออกมาสู้กับตะขาบยักษ์ทั้งสองตัวถูกตายทันที
ไม่ว่าจะยาวขนาดไหนก็ตาม  ขนาดตัวที่มโหฬารทำให้พวกมันน่ากลัว
มดมีขนาดเล็กและอ่อนแอ  แต่เมื่อพวกมันกลายเป็นมดแดงไฟยักษ์ พวกมันกลายเป็นฝันร้ายของนักผจญภัย
ตะขาบโดยทั่วไปไม่มีอะไรน่ากลัวมาก  พวกมันอาจถูกฆ่าตายง่ายๆ เมื่อคนธรรมดาเหยียบย่ำพวกมัน  อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นสัตว์ประหลาดตะขาบยักษ์  พวกมันน่ากลัวกันทั้งหมด  ตะขาบอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดบางทีอาจเป็นตัวที่มีหัวแดงเป็นราชาตะขาบก็ได้  มันเป็นราชาของตะขาบทั้งหมดและตัวมันยาวมากกว่าสามสิบเมตร  เปลือกภายนอกของมันแข็งเหมือนแผ่นเหล็ก  มีดดาบไม่อาจสร้างความระคายเคืองให้มันได้ ขามากมายของมันเหมือนกับหอกแหลมคม และพิษที่อยู่ในเขี้ยวของพวกมันสามารถฆ่าศัตรูได้ทันที
ราชาตะขาบสามารถฆ่าราชสีห์เพลิง, โคโดศึก, แมมม็อธยักษ์และอสูรแข็งแกร่งอื่นๆ ได้
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีอยู่ในทวีปมังกรทะยาน
ผู้ที่จำเป็นต้องไปที่หอทงเทียนชั้นที่หก  อย่างน้อยที่สุดก็ตั้งใจเพื่อไปหาดูพวกมัน
ราชันย์ตะขาบพออายุได้ที่จะกลายเป็นหนึ่งในห้าราชาอสูรสายแมลง, รวมทั้งตั๊กแตนมัจจุราช, แมงมุมปีศาจ, แมงป่องมหาสงครามและผึ้งพิษจ้าวเวหา  ในห้าจ้าวอสูรสายแมลงนี้ราชันย์ตะขาบกับตั๊กแตนมัจจุราชจะแข็งแกร่งที่สุดในแง่การต่อสู้
ถ้าตั๊กแตนมัจจุราชไม่สามารถบินได้  ราชันย์ตะขาบอาจจะแข็งแกร่งกว่ามันมาก
ราชันย์ตะขาบยาวเพียงสามสิบเมตร  มันยังสามารถเอาตัวรอดอยู่ได้ในหอทงเทียนชั้นที่หก  ตอนนี้ ตะขาบยักษ์แดนสวรรค์จะน่ากลัวแค่ไหน ตัวมันยาวเกินกว่าร้อยเมตรใหญ่กว่าราชันย์ตะขาบสามถึงห้าเท่าเชียวหรือ เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาไม่สามารถเห็นพลังของตะขาบยักษ์ที่แท้จริงแม้จะด้วยสัมผัสที่แหลมคมของเขา  แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับหมิงรี่ฮ่าวหรือหวงซา เทียบขนาดกับมนุษย์ ร่างของตะขาบยักษ์แดนสวรรค์พวกนี้ทรงพลังเกินไป..
ตะขาบจากแดนสวรรค์นี้ไม่เพียงแต่มีร่างกายมหึมาเท่านั้น   พวกมันยังว่องไวคล่องแคล่วถึงขนาดไม่อาจอธิบายได้
ในโถงใหญ่ยังมีงูหลามป่าอีกตัวหนึ่ง
มันเพิ่งจะถูกเจ้านายเรียกออกมา  น่าเสียดาย มันยังไม่ทันได้โจมตีก่อนที่ตะขาบแดนสวรรค์จะพุ่งเข้ามากัดหัวของงูอย่างรวดเร็ว
พอฉีดพิษลึกลงไปในหัวของศัตรูแล้ว  มันใช้ขาที่คมและมีพิษแทงไปตามลำตัวของงูหลามป่าซึ่งมีความยาวมากกว่าสามสิบเมตร  งูหลามป่ายักษ์เป็นอสูรทองระดับ 8 ถูกโจมตีทำร้ายเหมือนกับเป็นเหยื่อที่อ่อนแอ  เลือดไหลออกมาตามรูนับสิบๆ รูที่ถูกเจาะอยู่บนร่างกายมัน
งูหลามป่าไม่มีโอกาสได้ดิ้นรน   มันทรุดตัวลงกับพื้นทันที
ก่อน 10 วินาทีจะผ่านพ้นไป งูหลามป่าที่ยิ่งใหญ่สามารถฆ่าทุกอย่างที่ขวางทางมันได้กลับถูกฆ่าทันทีโดยไม่มีโอกาสดิ้นรน หางของมันกระดิกเล็กน้อยก่อนที่มันจะตาย
สำหรับตะขาบยักษ์แดนสวรรค์  มันไม่สนใจว่ามีศัตรูรายล้อมพร้อมจะโจมตีมันอยู่ มันกินงูหลามยักษ์ทันที
เป็นกระบวนการที่โหดร้ายอำมหิต
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนติดตามเย่ว์หยางออกมาด้านนอก  เมื่อพวกนางเห็นภาพที่น่ากลัวนั้นต่อหน้าต่อตา สีหน้าพวกนางขาวซีดทันที
พอเห็นตะขาบยักษ์ยาวเป็นร้อยเมตรกำลังกินงูหลามป่ายักษ์ไม่ห่างจากพวกเขา  เป็นฉากภาพที่น่าสะพรึงกลัว ที่คนธรรมดาไม่สามารถรับมือได้
ที่ล้อมรอบตะขาบยักษ์แดนสวรรค์ เป็นผนึกมิติ ขณะที่ตรงศูนย์กลางมีตาพายุจุดหนึ่ง, กระแสหมุนวนของสายลมวนเวียนอยู่รอบโถงวิหารที่สอง  กำแพงวายุที่เย็นยิ่งกว่าพายุหมุนน้ำแข็งป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าออกได้  ทุกคนติดอยู่ภายในกระแสลมหมุนจนกว่าจะพบจุดจบกลายเป็นอาหารของตะขาบยักษ์แดนสวรรค์  ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ใช้กับเย่ว์หยางเท่านั้น  แต่หนีกั่วและบริวารของเขาก็เช่นกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้เย่ว์หยางหนีจากไป  เทวทูตสายลมวางเครื่องมือขัดขวางไว้ในโถงวิหารที่สอง   เขาเรียกใช้หนึ่งในคาถาที่มีชื่อเสียงที่สุดในแดนสวรรค์นามว่า “เวทพายุโหยหวน”
สิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะไม่สามารถบินผ่านเขตเวทพายุโหยหวนได้
ต่อให้พวกเขาสามารถเดินได้  แต่ความเร็วในการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะลดลงอย่างมาก
เย่ว์หยางไม่คิดจะทดสอบพลังของเวทพายุโหยหวน ในเมื่อบริวารของหนีกั่วยังพบจุดจบที่น่าอนาถ
เวทพายุโหยหวนรวมกับอสูรปีศาจสองตัวผลก็คือจุดจบที่น่าอนาถ
ตะขาบยักษ์แดนสวรรค์ที่กำลังหิวโหยจะฆ่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามที่เข้ามาปรากฏในสายตาพวกมัน
 “ตะขาบกลัวอะไรมากที่สุด?”  เย่ว์หยางคิดว่าเป็นเรื่องยากแน่นอนหากจะใช้พลังโจมตีทางกายธรรมดาจะฆ่าพวกมัน พวกเขาต้องหาจุดอ่อนของตะขาบให้พบเสียก่อนและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของมันสร้างบาดแผลหนักให้กับพวกมัน  มิฉะนั้น แม้ว่าตะขาบยักษ์เหล่านั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย  แม้ว่าเขาจะสะดวกเข้าโจมตีพวกมันได้เท่าที่เขาต้องการ  แต่บางทีต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันถึงจะฆ่าได้หนึ่งตัว
 “พวกตะขาบจะกลัวไก่...” เสวี่ยอู๋เสียตอบได้ถูก
 “อย่างนั้น เห็นทีว่าจะต้องหาไก่ที่สูงอย่างน้อยร้อยเมตร  มิฉะนั้นมันคงไม่สามารถกินตะขาบแดนสวรรค์ได้”  เย่ว์หยางพูดไม่ออกอีกครั้ง  ไก่กินตะขาบ เรื่องนี้เขาก็รู้เช่นกัน  ปัญหาก็คือจะไปหาไก่ที่โตร้อยเมตรเพื่อให้มากินตะขาบจากที่ไหน  ยิ่งกว่านั้น  นี่เป็นตะขาบแดนสวรรค์ เป็นอสูรปีศาจ มันอาจไม่กลัวไก่แม้แต่น้อยก็ได้ พวกเขาเลิกคิดใช้ไก่เป็นกลยุทธโต้ตอบตะขาบยักษ์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางลำบากกลับไม่ใช่ตะขาบแดนสวรรค์เหล่านี้  แม้ว่าพวกมันดูเหมือนกำลังหิวโซ  แต่พวกมันก็ยังไม่มีท่าทีคุกคามเขา
ปัญหาที่แท้จริงก็คือ จะฝ่าออกจากเวทพายุโหยหวลได้อย่างไร
สองผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์จะคืนชีพในอีกหนึ่งชั่วโมง
ถ้าพวกเขาไม่หยุดพิธีคืนชีพ ผลที่ตามมาจะต้องยุ่งยากแน่นอน
เขาจะหลบตะขาบแดนสวรรค์และผ่านกำแพงเวทพายุโหยหวนและหยุดเทวทูตสายลมจากการคืนชีพสองผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ได้อย่างไร ?
ขณะที่เย่ว์หยางกำลังคิด นักรบแดนวรรค์ผู้มาถึงโถงวิหารที่สองและตายจากการต่อสู้
พวกเขากลายเป็นอาหาร
หนีกั่วและสหายผู้แข็งแกร่งทั้งสองหน้าซีดขาวเหมือนคนตาย  พวกเขาใช้คาถาล่องหนโบราณและซ่อนตัวอยู่ที่มุมโถงวิหารที่สอง  แม้ว่าสหายของพวกเขาจะถูกสังหารทีละคนๆ และมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง  แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปช่วยสหาย เพราะกลัวว่าตนเองจะพลอยติดร่างแหไปด้วย
นักรบแดนสวรรค์ที่รอดชีวิตอยู่เหลือเพียงไม่กี่คน
บางพวกผสานตัวเข้ากับอสูรของพวกเขาและกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์สูงยี่สิบเมตร
แน่นอนว่าร่างยักษ์ของพวกเขาไม่มีทางเทียบได้กับตะขาบยักษ์แดนสวรรค์
อยู่ต่อหน้าตะขาบยักษ์ยาวร้อยเมตร ร่างมหึมาของพวกเขาถือว่ายังเล็กมาก  แม้ว่าตะขาบยักษ์แดนสวรรค์แค่กระแทกใส่พวกเขาเพียงเบาๆ แต่ก็มีแรงกระแทกจนพวกเขาล้มกลิ้งลงไปกับพื้น
ไม่มีใครกล้าสู้กับอสูรปีศาจที่น่ากลัวทั้งสองนี้ตรงๆ ได้  นักรบบางพวกยิงบอลแสงจากระยะห่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตะขาบยักษ์ ขณะที่บางพวกเรียกเปลวเพลิงออกมาป้องกันตนเอง
นอกจากนี้ยังมีบางคนควงมีดยักษ์เข้าโจมตีใส่ร่างของตะขาบยักษ์
อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนี้มีแต่จะแสดงให้เห็นว่าไร้ประโยชน์
ไม่ว่าจะใช้พลังโจมตีที่ร่างของตะขาบยักษ์แดนสวรรค์ยังไง มันก็จะสร้างประกายไฟออกมาป้องกันได้  อย่าว่าแต่สับฟันให้เป็นแผลเลย  เปลือกด้านนอกของตะขาบเหล่านั้นแข็งพอๆ กับแผ่นเหล็ก แม้แต่จะฟันขาข้างหนึ่งของพวกมันให้ขาดยังเป็นเรื่องยาก  การโจมตีด้วยไฟ, และน้ำแข็งและพลังเฉพาะธาตุอื่นๆ ไม่ได้มีผลพิเศษโดยตรงต่อตะขาบยักษ์แม้แต่น้อย  เมื่อเย่ว์หยางเห็นเช่นนี้  เขาลอบตกใจ พลังป้องกันของตะขาบแดนสวรรค์นี้แข็งแกร่งมากจริงๆ
การโจมตีธรรมดาไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
การโจมตีทางกายภาพก็เท่ากับนักผจญภัยธรรมดาพยายามโจมตีใส่ด้วงจอมพลัง
ตะขาบแดนสวรรค์ทั้งสองตัวล้อมนักรบแดนสวรรค์เกินกว่าสิบคนไว้ภายใน
ถ้านักรบแดนสวรรค์ไม่หลบหนีโดยเร็ว  พวกเขาจะถูกฆ่าตายทันที  อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่มีบางคนพยายามผ่านกำแพงลมพายุออกจากโถงวิหารที่สอง  ตะขาบยักษ์ก็จะใช้ความเร็วสูงสุดไล่ตามและฆ่าผู้หลบหนีทันที มันกัดพวกเขาจนตาย ก่อนที่พวกเขาจะออกไปได้
แม้แต่นักสู้แดนสวรรค์ผู้สูงยี่สิบเมตรจากการหลอมรวมร่างกายกับอสูรที่เขาเรียกออกมาก็ยังต้านทานได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนจะกลายเป็นอาหารของพวกมัน
นอกจากหนีกั่วและสหายทั้งสองคนที่มีความสามารถแข็งแกร่งแล้ว  นักรบจากแดนสวรรค์คนอื่นๆหลบหนีจากการโจมตีของตะขาบยักษ์และเวทพายุโหยหวลไม่ได้
ตะขาบยักษ์ทั้งสองตัวเจ้าเล่ห์มาก  พวกมันฆ่าและกินอสูรอัญเชิญของนักรบแดนสวรรค์จนเต็มท้องก่อน
นี่สร้างความหวังให้กับนักรบแดนสวรรค์เล็กน้อย  พวกมันทำให้นักรบแดนสวรรค์รู้สึกเมื่อถึงจุดหนึ่งว่า  อสูรปีศาจเหล่านี้อาจจะอิ่มแล้วและปล่อยพวกเขาไปก็ได้ อย่างไรก็ตามจากมุมมองของเย่ว์หยาง  อย่าว่าแต่มนุษย์ไม่กี่คนและสัตว์อสูรที่อยู่ต่อหน้าตะขาบยักษ์เหล่านี้  ต่อให้มีนักรบแดนสวรรค์และอสูรอัญเชิญเป็นร้อย พวกมันจะไม่หยุดกินพวกเขาทุกคน ตะขาบยักษ์สองตัวที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่มีความฉลาดพอที่จะวางแผนเจ้าเล่ห์ได้  มันเป็นความสามารถแต่กำเนิดใช้กดดันศัตรูของพวกมัน  พวกมันจะยอมให้ศัตรูมีชีวิตยืนยาวได้อีกเล็กน้อย  จากนั้นค่อยๆ ทรมานพวกเขาช้าๆ
ยิ่งกว่านั้น  เหยื่อผู้หวาดกลัวจะไม่สามารถต่อสู้ด้วยพลังเต็มร้อยเช่นกัน
 “ฉวยโอกาสก่อนที่ตะขาบเหล่านั้นจะจับเจ้านั่นกิน  ข้าคิดว่าเราควรจะเคลื่อนไหวกันเอง  มิฉะนั้นอาจจะสายเกินไป”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในมือแน่น นางไม่แน่ใจว่านางจะทำร้ายตะขาบยักษ์แดนสวรรค์ทั้งสองตัวได้สำเร็จหรือไม่
 “อย่าเพิ่ง, รออีกสักครู่เถอะ”  เย่ว์หยางรู้ว่าถ้าพวกเขาร่วมมือกับนักสู้แดนสวรรค์ที่ถูกตรึงอยู่นั้น  พลังต่อสู้ที่รวมกันนั้นจะยิ่งใหญ่มาก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถฆ่าตะขาบยักษ์ทั้งสองได้ราบรื่นด้วยการเพิ่มนักรบขึ้นมาอีกไม่กี่คน
ถ้าตะขาบยักษ์ถูกฆ่าได้ง่ายๆ เทวทูตสายลมคงไม่ปล่อยพวกมันมาง่ายๆ แน่
เย่ว์หยางคิดถึงจุดนี้และสั่นศีรษะคัดค้านความเห็นขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  เขาตอบนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พวกเจ้าอยู่ตรงนี้ อย่าก้าวออกไปข้างนอก ข้าจะไปขัดขวางการชุบชีวิตด้วยตัวข้าเอง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปฏิเสธทันที “ไม่ได้, เจ้าจะทิ้งเราไม่ได้  ยิ่งกว่านั้น เจ้ายิ่งไม่มีทางเอาชนะเทวทูตสายลมได้ตามลำพังแน่
นางเข้าใจความหมายที่เย่ว์หยางพูด  เขาไม่ต้องการให้คนอื่นต้องเสี่ยงชีวิต
จากทักษะหกรับรู้ของนาง  นางรับรู้ได้ลางๆ ถึงเรื่องที่ไม่ดีได้  นางรู้สึกเหมือนเย่ว์หยางจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงถ้าเขาไป  เพียงแต่นางไม่สามารถรู้ได้ชัดเจนว่าแหล่งอันตรายนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่
พวกเขาจะสามารถหยุดการปลุกสองผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ได้หรือไม่
พวกเขาจะทำได้ทันเวลาไหม?
หัวใจขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนว้าวุ่น  นางไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง
ดังนั้น นางยืนกรานปฏิเสธความคิดที่เย่ว์หยางจะบุกไปคนเดียว
แม้ว่าพวกนางไม่มีความสามารถช่วยเหลือเขาได้  แม้พวกนางจะช่วยเหลือเขาได้ไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาไปที่นั่นคนเดียว
เสวี่ยอู๋เสียกับตรงกันข้าม มีปฏิกิริยาที่ตรงกันข้ามกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  โดยทั่วไป นางจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของเย่ว์หยาง  ทว่าในช่วงวิกฤติที่สำคัญนี้ นางให้การสนับสนุนเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข  นางรู้ว่าเย่ว์หยางต้องมีเหตุผลของตนเองที่จะทำเช่นนั้น  แม้ว่าเขาจะไม่บอกเหตุผลของเขา แต่นี่ต้องเป็นวิธีที่ดีที่สุดแน่นอน  ถ้านี่ไม่ใช่วิธีเลือกที่ดีที่สุด  เขาจะไม่เลือกทำเช่นนั้น
ดังนั้น เสวี่ยอู๋เสียตัดสินใจสนับสนุนเขาเต็มที่  ยิ่งกว่านั้นนางจะช่วยโน้มน้าวคนอื่นให้สนับสนุนความคิดของเขา
สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือ การสนับสนุนของทุกคน
ทันใดนั้นนางยื่นมือมาโอบกอดเย่ว์หยาง  กระซิบบอกเขาแผ่วเบาว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เราจะรอเจ้าอยู่ที่นี่!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น