วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 353 อาญาสวรรค์

ตอนที่  353 อาญาสวรรค์


เย่ว์หยางอยู่ข้างหน้าขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้าอยู่ด้านหลัง
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไรก่อนที่เขาจะทันเห็นหมัดที่มีเพลิงอมฤตลุกไหม้พุ่งเข้าหาตัวเขาอย่างรวดเร็ว
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ขณะที่เย่ว์หยางต่อยใส่หน้าอกเขาอย่างรุนแรง
ยิ่งกว่านั้นในขณะเดียวกัน  นางเซียนหงส์ฟ้าโจมตีรุกกระหนาบจากด้านหลังของเขาสุดกำลัง

 “มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้แน่นอน” ร่างของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์สั่นเล็กน้อย และทันใดนั้นเองเขากระแทกทั้งเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้ากระเด็นออกไปราวกับลูกกระสุน  เลือดพุ่งออกจากปากของเขา  แต่สายตาของเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงรวดเร็วในเพราะเหตุนี้  เขาพยักหน้ากล่าวว่า “น่าสนใจดีนี่”
แม้ว่าเขาจะมีพลังป้องกันสูงส่ง  แต่หลังจากรับการโจมตีของเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าที่เพิ่มพลังโดยแปลงร่างที่สองในสภาวะคลุ้มคลั่งและเพลิงชีวิตสามสิบเท่าตามลำดับ  แต่ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้ถือตรีศูลก็ยังได้รับบาดเจ็บ  ไม่ใช่แค่เลือดออกจากมุมปากอย่างที่ผ่านมาเท่านั้น  แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ  อย่างไรก็ตาม  ข้อเท็จจริงที่ว่าเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าร่วมมือโจมตีเขา สามารถทำร้ายเขาได้จริงๆ  แต่เขาก็เหวี่ยงเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้ากระเด็นออกไปเป็นการโต้ตอบได้ทันที
เขาผลักตรีศูลของเขาซึ่งเปล่งแสงต่อเนื่องยื่นออกมาด้านหน้า  พลังเริ่มทะลักออกจากตัวของเขากระจายออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม  มันไม่ใช่พลังทำลายแม้แต่น้อย มันแค่สร้างสนามพลังขนาดใหญ่อยู่รอบตัวเขา
 “แรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า” ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์โยนตรีศูลของเขาลงบนพื้น  อักษรรูนสวรรค์นับไม่ถ้วนมารวมตัวอยู่ที่แทบเท้าเขาก่อตัวเป็นวงเวทอักษรรูนขนาดยักษ์
 “บึ้ม!” เย่ว์หยางที่กำลังลอยกระเด็นอยู่ร่วงกระแทกใส่พื้นราวกับดาวตกทันที
 “เอ๊ะ?” นางเซียนหงส์ฟ้า ที่เสียสละใช้พลังเพลิงชีวิตสามสิบเท่า รู้สึกว่าร่างของนางค่อยๆ ร่วงลงมา  เมื่อนางถึงพื้น แผ่นหินบนพื้นได้แตกจากน้ำหนักของนางเป็นรอยเหมือนใยแมงมุม  อีกด้านหนึ่ง ขาของเย่ว์หยางจมลึกลงไปในแผ่นหิน อย่างไรก็ตามเขายังอยู่ในสภาวะร่างแปลงคลุ้มคลั่งร่างที่สอง  เย่ว์หยางจึงไม่สนใจต่อกลอุบายที่คู่ต่อสู้ของเขาใช้  ตราบใดที่ร่างของเขายังคงเคลื่อนไหวได้  เขาก็ยังคงโจมตีต่อไป  เย่ว์หยางเคลื่อนไหวร่างกายได้ช้า  ก้าวไปบนแผ่นหินทีละก้าวมุ่งหน้าเข้าหาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
 “กลายเป็นว่าเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจ้าสูญเสียความรู้สึก...”  เมื่อผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์เห็นความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง  ก็เข้าใจได้ทันทีถึงเหตุผลที่นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ห้ามเขาเมื่อเขาใช้การสะกดจิตก่อนหน้านั้น  นางไม่ได้ลบล้างผลกระทบจากการสะกดจิต  กลับกลายเป็นว่าเด็กหนุ่มนี่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเขาสูญเสียสัมปชัญญะ
สถานการณ์แบบนี้ได้รับการพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่ง
และนั่นก็คือเด็กมนุษย์คนนี้ครอบครองศักยภาพมหาศาลจริงๆ ยังเหนือกว่าพลังของเขาในตอนนี้  เป็นแต่เพียงว่าเขายังไม่เติบโตกล้าแกร่งเต็มที่
ด้วยสัมปชัญญะที่ครบถ้วนของเขา  เขายังไม่สามารถตระหนักถึงพลังเต็มที่ของเขาได้  เพราะเขายังไม่มั่นใจในศักยภาพที่แท้จริงของเขา  แต่เมื่อเขาสูญเสียสัมปชัญญะและเข้าสู่สภาวะคลั่ง  พลังของเด็กหนุ่มคนนี้จะระเบิดออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ที่สำคัญที่สุด  สภาวะคลั่งที่ทำให้เขาสูญเสียสัมปชัญญะนี้จะไม่ทำอันตรายร่างกายเขาเลยแม้แต่น้อย  เพราะเด็กคนนี้ครอบครองพลังดับแล้วเกิดจากเพลิงอมฤตของเขานั่นเอง
จากจุดนี้ อาจเห็นได้ว่า ศักยภาพที่แท้จริงในตัวของเด็กคนนี้สูงมากกว่าที่แสดงออกตอนนี้มากมายนัก
เห็นได้ชัดว่าผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่มีตรีศูลคงไม่ปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป
เขาควงตรีศูลแล้วชี้มาที่เย่ว์หยาง “ปัดเป่า”
แสงประหลาดพุ่งกระจายออกมาจากตรีศูลตรงเข้าที่หน้าผากของเย่ว์หยาง
ในทันใดนั้นพลังสะกดจิตที่กล้าแข็งถูกขจัดกระจายหายไป  และเย่ว์หยางกลับคืนสู่สภาะปกติของตน
 “ข้าปวดหัว!” สภาวะจิตของเย่ว์หยางกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว  เหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นจากฝันร้าย  เขาปวดหัวราวกับว่าถูกเข็มแทง  สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางทรมานที่สุดเป็นเพราะสัมปชัญญะของเขากลับคืนมาและผลสะท้อนจากแปลงร่างคลุ้มคลั่งร่างที่สองหายไปอย่างรวดเร็ว  พลังของเขาที่เพิ่มอย่างรวดเร็วก็ลดลงฮวบฮาบ  เย่ว์หยางแทบหายใจไม่ออกกับการต้องทนแบกรับแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า
ภายในสนามพลังของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์  สิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามล้วนได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า
อย่างไรก็ตาม นางเซียนหงส์ฟ้าสังเกตเห็นรายละเอียดได้เล็กๆ น้อยๆ
หินทั้งหมด อาคารและสิ่งของที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด  ของเหล่านั้นยังมีสภาพน้ำหนักโน้มถ่วงเป็นปกติ
พอเรียกคัมภีร์อัญเชิญและกางโล่ป้องกันก็ไม่ได้ลดผลกระทบจากแรงกดดันแต่อย่างใดเลย  เป็นที่ชัดเจนว่าสนามพลังของคู่ต่อสู้เป็นทักษะที่ส่งผลทะลุโล่ปกป้องได้  คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์  ไม่ใช่นักสู้ธรรมดา  โล่ปกป้องของคัมภีร์ใช้กับเขาไม่ได้  นางเซียนหงส์ฟ้ารีบโต้ตอบโดยเพิ่มพลังเพลิงชีวิตเป็นห้าสิบเท่าทันที  ขณะที่นางร่ายบทอัญเชิญ  เย่ว์หยางใช้พลังแปลงคลุ้มคลั่งร่างสองซึ่งยังไม่หายไปสิ้นเชิงกระโจนสูงขึ้น  ขี่บนหงส์เพลิงของเขา พุ่งเข้าหาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลนัยน์ตาเป็นประกาย
เขาไม่ยอมรับการโจมตีโดยตรงของเย่ว์หยาง แต่กลับชูตรีศูลขึ้น
แสงประหลาดพุ่งกระจายจากปลายตรีศูลสู่ท้องฟ้า  วงเวทอักษรรูนสวรรค์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ส่องแสงแพรวพราวเหมือนกับแม่น้ำแห่งดวงดาว  ผสานเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบอักษรรูนที่ลึกลับซับซ้อน
 “สุญญากาศ”
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ใช้ตรีศูลชี้ทันที  พื้นที่ทั้งหมดเปลี่ยนสภาพเป็นไร้แรงโน้มถ่วงทันที เป็นมิติว่างเปล่า
เย่ว์หยางผู้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านพลังแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่าไม่สามารถใช้พลังของเขาได้เต็มที่  ภายในวินาทีเดียว  เย่ว์หยางก็พุ่งขึ้นฟ้าเหมือนดาวตกและกระแทกใส่โดมหลังคาวิหารเทพจักรพรรดิอวี้  แรงปะทะกระแทกทำให้โถงวิหารที่สามสั่นไหวรุนแรงเป็นเวลานาน
นางเซียนหงส์ฟ้าสังเกตเห็นว่าเศษอิฐเศษหินและดินร่วงลงพื้นช้าๆ
นอกจากสิ่งมีชีวิต  สิ่งไม่มีชีวิตไม่ได้รับผลกระทบจากสนามพลังแต่อย่างใด
นางจดจำเงื่อนไขเช่นนี้ไว้ในใจ  นางรู้สึกว่านี่อาจเป็นจุดอ่อนของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลก็ได้...  แน่นอน ตรีศูลอาจมีมาตรการที่เขาคิดขึ้นเพื่อป้องกันจุดอ่อนของเขาก็ได้  หากปราศจากมัน พลังของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์จะต้องลดลงแน่นอน
 “พลังแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า” ทันทีที่ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์เปลี่ยนแรงโน้มถ่วง  ร่างของเย่ว์หยางก็กระแทกเข้ากับพื้นอีกครั้ง
 “สุญญากาศ”  ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ชูตรีศูลในท้องฟ้า  เย่ว์หยางที่พยายามต้านทานแรงโน้มถ่วงด้วยพลังทั้งหมดก็พุ่งออกไปเหมือนดาวตกใส่โดมของวิหารที่สามอีกครา
 “อย่าลืมสิ ข้ายังอยู่ที่นี่ รังแกแต่เด็กยังจะมีความหมายอะไร?” นางเซียนหงส์ฟ้าปรากฏตัวที่ด้านหลังผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ นางใช้มือคว้าไหล่ขวาของเขาไว้
 “ควับ”
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์หายตัวทันที หลบพลังโจมตีของนางได้
เขายิ้มให้นางเซียนหงส์ฟ้าแล้วพูดว่า “เจ้ากำลังหลอกล่อให้ข้าสู้กับเจ้า  แต่ไม่, ข้าจะไม่สู้กับเจ้า  เจ้าต้องการแลกชีวิตของเจ้ากับข้า  ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถที่ทำเช่นนี้ได้  แต่ข้าไม่โง่ขนาดนั้น พัวพันข้าไปก็ไร้ประโยชน์!  เจ้าจะทนสภาพเพลิงชีวิตห้าสิบเท่าได้นานแค่ไหน?”
หัวใจนางเซียนหงส์ฟ้าสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น  คู่ต่อสู้ของนางไม่หลงกลนาง ตอนนี้นางจะทำอะไรได้?
นางจะคงอยู่ภายใต้เพลิงชีวิตห้าสิบเท่าได้นานแค่ไหน?
เป็นไปได้ไหมที่นางต้องใช้เพลิงชีวิตร้อยเท่า?
อย่างไรก็ตาม  ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้ถือตรีศูลตัดสินใจได้เร็วกว่านางเซียนหงส์ฟ้า  เขาตะโกนขึ้น “สนามพลังเต็มกำลัง พลังแรงโน้มถ่วงร้อยเท่า!
เย่ว์หยางยันร่างไว้ขณะที่มือและขาของเขาจมลงในแผ่นหิน
ภายใต้แรงกดดันของพลังโน้มถ่วงร้อยเท่า อย่าว่าแต่เขาเลย  แม้แต่นางเซียนหงส์ฟ้าก็ยากจะต้านทาน
ขาของนางบดพื้นข้างล่างขณะที่ตัวของนางซึ่งทนต่อแรงโน้มถ่วงร้อยเท่าก้มลงเล็กน้อย  หากมือของนางไม่พยุงร่างของนางโดยเกาะคัมภีร์อัญเชิญไว้  นางอาจไม่สามารถทนต่อพลังและล้มลงบนพื้นก็ได้
แรงโน้มถ่วงร้อยเท่าไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาสามารถต้านรับได้แน่นอน
สิ่งที่ยากลำบากที่สุดก็คือผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์นั้นสามารถเปลี่ยนพลังโน้มถ่วงได้ฉับพลันทำให้สนามพลังของเขากลายเป็นสุญญากาศ  นางเซียนหงส์ฟ้ายังคงปลอดภัย  นางต้านทานความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยากลำบาก  เย่ว์หยางกลับตรงกันข้ามเขากำลังลำบาก ร่างของเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  เขาเจ็บปวดมากเหมือนกับว่ากำลังถูกช้างแมมมอธย่ำใส่
เขายื้อคัมภีร์อัญเชิญซึ่งลอยอยู่ในอากาศด้วยมือที่เปื้อนเลือดป้องกันไม่ให้ตัวเองร่วงใส่โดมของวิหารเทพ
ตราบใดที่คู่ต่อสู้ของเขายังคงสลับใช้พลังแรงโน้มถ่วงร้อยเท่าและพลังสุญญากาศ  เย่ว์หยางคิดว่าสิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือหลบหนี
นั่นไม่มีทางเอาชนะได้เลย
 “ข้าบอกมาก่อนแล้ว อย่าลืมสิว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!  นางเซียนหงส์ฟ้าพึมพำ
เมื่อผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์หันกลับมามองนาง  ทันใดนั้นเขาเห็นมือของนางยื่นออกมาเร็วกว่าสายฟ้า หนึ่งในพันส่วนเสี้ยววินาที  มือของนางอยู่ข้างหน้าและขยายใหญ่เมื่อเวลาผ่านไป
แรงต้านทานระเบิดออกมาราวกับคลื่นสึนามิ  ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลชะงักค้างทันที  เขาไม่มีเวลาจะเหวี่ยงตรีศูลของเขาและโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาก่อนที่เขาจะถูกโจมตี  ในสายตาของเย่ว์หยาง มีความประหลาดใจ เขาเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าตรึงผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ไว้กับพื้นสุดกำลัง  กรงเล็บแหลมคมของนางคว้าศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ไว้ และเมื่อคู่ต่อสู้ของนางพยายามหันกลับมามอง นางกระแทกหัวผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ลงกับพื้น
บึ้ม!
โถงวิหารที่สามทั้งหลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากพลังโจมตีครั้งนี้
เสียงระเบิดสะท้อนก้องตลอดวิหารเทพจักรพรรดิอวี้อยู่นาน
ไม่เพียงแต่เทวทูตสายลมและผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้เป็นเหมือนหลุมดำเท่านั้น  แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังไม่อยากเชื่อ
นี่ เป็นไปได้อย่างไร?
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดเปรียบได้ถูกนางเซียนหงส์ฟ้าจับกระแทกใส่พื้น?  ขณะที่ทุกคนตกตะลึงพูดไม่ออก  ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลก็ใช้มือยันและยกศีรษะขึ้นจากพื้น  เขาใช้ตรีศูลแทงกลับหลังใส่ร่างของนางหงส์ฟ้าอย่างดุเดือด  อย่างไรก็ตาม การโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ใช้กับนางเซียนหงส์ฟ้าไม่ได้
 “ไม่มีประโยชน์!  นางเซียนหงส์ฟ้าตะโกนลั่น
นางตวัดกรงเล็บใส่ส่งผลให้ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ปลิวกระเด็น
เขาพุ่งเข้าหาเสายักษ์เหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ ทันใดนั้นวิหารเทพทั้งหลังสั่นสะเทือนไปหมด  เขากระแทกเข้าใส่ผนังยุบลงไปจนเป็นหลุมรูปมนุษย์
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์นั้นโต้ตอบทันที
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ออกมาจากหลุมนั้นด้วยความเร็วกว่าแสง ตรีศูลในมือของเขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าทรงพลังพุ่งเข้าหานางเซียนหงส์ฟ้า
ปีกปีศาจบนหลังของนางเซียนหงส์ฟ้ากระพือรวดเร็ว เพียงกระพือครั้งเดียว นางก็มาถึงด้านหลังผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แล้ว
กรงเล็บแหลมคมคว้าขาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
นางยกตัวเขาแล้วฟาดลงกับพื้นอย่างไม่ปราณี  ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ได้ตั้งตัว นางย่ำใส่หน้าของเขาซ้ำอีก  ขณะเดียวกัน นางชูมือขึ้นสูง พลังงานไร้ขีดจำกัดรวมอยู่ในมือนาง เหมือนกับเห็นภาพที่น่าประทับใจลอยอยู่ในท้องฟ้า  พลังทั้งหมดที่อยู่ในอากาศปั่นป่วนทันที เหมือนกับว่าเป็นกฎเกณฑ์เฉพาะที่  มันลงมารวมกันอยู่ในมือของนางเซียนหงส์ฟ้าอย่างรวดเร็ว  พลังงานที่น่ากลัวเริ่มไหลลงมาจากฟ้า   สายฟ้าสีม่วงพาดผ่านท้องฟ้าเหมือนงูร้ายฟาดลงทันที
 “กฎ...ฟ้า!
นางเซียนหงส์ฟ้าไม่เคยบอกเย่ว์หยางว่าสนามพลังของนางคืออะไร
นางไม่เคยแสดงต่อหน้าเขามาก่อน  แต่ตอนนี้เย่ว์หยางเข้าใจทุกอย่างได้ทันที กลับกลายเป็นว่าสนามพลังของนางเซียนหงส์ฟ้าก็คือ กฎฟ้า หรืออาญาสวรรค์นั่นเอง
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แสดงสีหน้าหวาดกลัว  ถ้าผู้เฒ่าเต่ามังกรมาเห็นเขาตอนนี้  เขาจะพบว่าผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่มีสีหน้าอย่างเดียวกับเมื่อตอนถูกผนึกอยู่ภายใต้คทาเทพจักรพรรดิอวี้มานานหกพันปี
นางเซียนหงส์ฟ้าที่พลังของนางขยายขึ้นด้วยพลังเพลิงชีวิตห้าสิบเท่ากำลังสู้กับผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ยังอ่อนเพลียหลังจากฟื้นคืนพลังมาได้
ท่าที่นางใช้ เป็นท่าสังหารฉับพลัน
ตอนนี้ นางก็ใช้ทักษะสูงสุดของนางจนได้ สนามพลังอาญาสวรรค์  ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่นางครอบครองมาทั้งชีวิต นางเตรียมใช้สังหารผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้นี้  แม้ว่านางจะต้องสละชีวิตของนาง  นางก็ไม่เสียใจ
นางจะทำสำเร็จหรือไม่?
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลนั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เผยสีหน้าหวาดหวั่นต่อหน้าสตรีชาวมนุษย์!

************

10 ความคิดเห็น:

Pert กล่าวว่า...

มาแล้ว!!!!

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Thedullman กล่าวว่า...

ไม่เข้าใจทำไมเยว์หยางไม่ใช้สนามพลังกลืนกินอ่ะถ้าใช้มันน่าจะได้สนามแรงโน้มถ่วงมาต้านกะแรงโน้มถ่วงได้น่ะ คิดว่า

ohmmanee กล่าวว่า...

ว้าววววว สู้ๆ คงไม่ตายใช่ไหม

QuadElement กล่าวว่า...

อย่าตายนะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณ

NabelrA กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮึ่ม!! ต่อสู้กันนานจริงๆ แบบนี้ต้องดอง! ดองให้ถึงตอนที่ 357 ตามที่ผู้แปลบอกว่าจะจบบทจักรพรรดิอวี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

หยางเอ้ยยยยยเมียจะตายแล้ววววว จะไม่ทำไรหน่อยรึ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

เละเป็น poop เลยแฮะ เย่ว์หยางเรา...

แสดงความคิดเห็น