วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 365 สหายใหม่

ตอนที่  365  สหายใหม่



ผู้แข็งแกร่งที่สุดมักได้เป็นนายใหญ่
ประโยคนี้เหมาะกับรังโจรอย่างป้อมสายฟ้า  เมื่อเย่ว์หยางเคลื่อนไหว ปัญหาทั้งหมดก็ถูกคลี่คลาย
แม้หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากหลุมได้สองกิโลเมตร เจ้ากบอ้วนยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เขาได้เห็น  กระทั่งพวกเขามาจนเกือบถึงตลาดมืดตรงสุดถนน  ในที่สุดเขาก็กลืนน้ำลายและพูดว่า “ไตตัน!  เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นคนที่สามารถรับมือหัวหน้ายามในป้อมสายฟ้าอย่างนั้น... พวกมันมักทำตัวเป็นปีศาจชั่วร้ายคอยกัดกินมนุษย์ทั้งหมด  พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าจะรีดเค้นคนที่ต้องการเข้าป้อมสายฟ้าจนกว่าจะแห้ง นอกจากต้องคอยให้สินบนพวกมันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว  ข้ายังต้องหาทาสหญิงเป็นร้อยคนให้พวกมันทุกปี  มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถผ่านด่านตรวจแรกได้เลย”

 “ความจริง ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีใดก็ตาม  ก็นับว่าเป็นวิธีที่ดีทั้งนั้น  ตราบใดที่เจ้ายังสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้”  เย่ว์หยางตอบอย่างไม่ไยดีนัก
 “ใช่แล้ว เจ้าพูดถูก”  คราวนี้ เจ้ากบอ้วนเพิ่มความยกย่องนับถือเย่ว์หยางขึ้นมาก  ก่อนนั้น เขาเพียงแต่ถือว่าเย่ว์หยางเป็นเหมือนลูกค้าชั้นพิเศษที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ  ทว่าในตอนนี้ เขารู้สึกกริ่งเกรงเย่ว์หยางขึ้นมาบ้าง  ส่วนใหญ่เป็นความกลัวที่คาดเดาไม่ได้  “ท่านไตตัน! ข้าทำงานให้ได้ไม่ดีนัก บางทีข้าควรคิดค่าจ้าง 500 เหรียญทอง ไม่ใช่สิ ข้าลดให้ 1000 เหรียญทอง!
 “ไม่จำเป็น  ทองไม่มีความหมายกับข้า”  ทัศนคติของเย่ว์หยางเป็นเหมือนจักรพรรดิ
ทัศนคติแบบนั้นเห็นทองเหมือนกับไม่มีอะไร เกือบทำให้เจ้ากบอ้วนอยากร้องไห้จนน้ำตาเป็นแม่น้ำนัก  พอคิดถึงว่าเขาต้องทำงานหนักขนาดไหน ต้องวิ่งรอกเดินทางไปทั่วทุกที่  ปีหนึ่งๆ เขาสามารถทำเงินได้มากเพียงไหน?   ทีแรกเขาแค่ต้องการทำเงินก้อนเล็กๆ ไว้ซื้อบ้านพักหลังเล็กในทำเลที่คึกคักของหอทงเทียนชั้นหก  จากนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัว  เขาปรารถนาจะใช้ชีวิตในระดับสูงโดยปราศจากความกังวลใจในชีวิต  ใครกันจะรู้ว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แล้ว ความคิดของเขาไม่ต่างกับการผายลม
เงินไม่สำคัญต่อเย่ว์หยางแน่นอน
เขามีเงินไม่มาก  แต่เขาก็ไม่ถึงกับขาดแคลน
เย่ว์หยางเพียงแต่ขาดแคลนเทพศัสตรา  แน่นอนว่าในหอทงเทียนไม่มีผู้ใดพูดพล่ามว่ามีเทพศัสตรามาก  เขาเชื่อว่าจื่อจุนก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในเมืองใต้ดินของป้อมสายฟ้า
ตลาดมืด
ตลาดมืดแห่งนี้ใหญ่โตมาก  นอกจากคนผู้อาศัยอยู่นอกหลุมมืดแล้ว ถนนทุกสาย ถ้ำทุกแห่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของตลาดมืดทั้งนั้น  ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถหาพบได้ในเมืองใต้ดิน  รวมทั้งอาหาร น้ำ สัตว์อสูร ทาส อาวุธ แร่ธาตุ สตรี ฯลฯ ไม่ว่าคนหรือสิ่งของทุกอย่างล้วนมีอยู่ในตลาดมืด  แม้แต่สิ่งที่ไม่มีผู้ใดคิดว่ามี  ก็อาจหาพบได้ที่นี่
ในเขตตลาดรอบนอก มีแผงลอยขายอาหารริมทางจากชนต่างเผ่าพันธุ์  มีทั้งหนูปิ้ง, งูเสียบไม้ หรือตุ๊กแกคั่ว  ของเหล่านี้ถือเป็นอาหารขบเคี้ยวยามว่างยอดนิยมที่สุด
คนที่ผ่านไปมาจะรู้สึกดีเมื่อได้กลิ่นอาหารที่น่ากิน
ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องกินแกล้มเบียร์คนแคระ นั่นเป็นความเข้าใจความหมายว่าอาหารอร่อยลิ้นของคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่นี่
พอเดินลึกลงไปในเมืองใต้ดิน เย่ว์หยางพบว่า สินค้ามากมายจะขายกันที่นี่ ส่วนใหญ่ตั้งเป็นแผงลอยเล็กๆ ยังคงมีร้านค้าแผงลอยบางส่วนสร้างขึ้นมาใต้ดิน
เย่ว์หยางรู้สึกว่าที่แห่งนี้คล้ายกับตลาดใต้ดินในเมืองจีนมาก
อึกทึกวุ่นวาย แต่ก็มีชีวิตชีวา
และดูเหมือนว่าการตั้งแผงร้านค้าที่นี่ยังดีกว่าในเมืองจีน  เพราะไม่มีอุปสรรคที่ยุ่งยากที่นี่ อย่างเช่นเจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นต้น
พอเดินผ่านฝูงคนที่แน่นขนัดมาได้ เย่ว์หยางเดินต่อไปอีกหลายกิโลเมตร
ขณะที่เขายังคงเดินต่อไป  ทันใดนั้นบริเวณด้านหน้าของเขาปรากฏเป็นเมืองใต้ดินที่โล่งกว้างใหญ่อยู่ด้านหน้าเย่ว์หยาง  เมืองใต้ดินนี้ใหญ่พอๆ กับสนามฟุตบอลสิบสนาม  หลังคารูปโดมสูงกว่าพื้นราวๆ 300 เมตรและมีถ้ำปกคลุมอีกทีหนึ่ง  คูหาถ้ำต่างๆ มีไฟสว่างเรืองรอง เป็นไฟของสถานที่อาศัย ทำให้ภาพข้างหน้าดูเหมือนยามค่ำคืนดารดาษไปด้วยดาวสีแดง
 “แม้ว่าสถานที่นี้จะเทียบไม่ได้กับเมืองของพวกวายร้ายที่ด้านบน  แต่ที่ดินก็ยังมีราคาแพงมาก  คนที่แข็งแรงกว่า มั่งคั่งกว่าจะอาศัยอยู่ในพื้นที่สูง  หอการค้าของพวกเราต้องจ่ายปีละ 30000 เหรียญทองเป็นค่าเช่าห้องซึ่งแคบกว่าเปลือกหอยทากเสียอีก  แต่ไม่มีทางเลือกอื่น  นั่นเป็นวิถีของไอ้ที่บ้าๆ แห่งนี้ จะหาที่ๆ เหลือจากนี้เป็นเรื่องยากจริงๆ ยกเว้นแต่เช่าทั้งถ้ำ” เจ้ากบอ้วนบ่นพึมพำอยู่ไม่กี่คำ  จากนั้นแนะนำตนเอง “ข้าชื่อจั๊ดด์  ข้าเป็นชาวเผ่ากบทอง  แน่นอนว่าอยู่ต่อหน้าคนอี่นๆ ให้ท่านเรียกข้าว่าไวเออร์ดีกว่า ข้าใช้นามแฝงนี้มาเกือบร้อยปีแล้ว”
 “ไวเออร์, แก เจ้ากบบัดซบ  ข้าบอกไปครั้งที่แล้วว่าข้าต้องการผีเสื้องาม เจ้านำมาด้วยหรือเปล่า?”  ทันใดนั้นมีเสียงโหวกเหวกลั่นมาแต่ไกล
 “ผีเสื้องาม?”  ทุกคนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หยุดการสนทนาของพวกเขาไว้และหันมาที่เจ้ากบอ้วน
 “....”  เย่ว์หยางรู้ว่าผีเสื้องามก็คือของที่หาได้ยาก  มันคืออัญมณีจากเผ่าพันธุ์ผีเสื้อ  แต่เย่ว์หยางไม่เคยรู้ว่า  พวกเขาก็เป็นที่นิยมในป้อมสายฟ้าแห่งนี้ด้วย
 “คำนับท่านนักรบผู้กล้า, ข้าเผ่ากบผู้ต่ำต้อยจะกล้าลืมคำสั่งท่านได้อย่างไร!  เราจับผีเสื้องามได้  แต่ข่าวลือกระจายออกไปข้างนอก  ดังนั้นข้าไม่อาจนำนางมาที่นี่ได้  โปรดรออีกสักสิบวันเถิด บางทีข้าคงคิดหาหนทางได้”  เจ้ากบอ้วนพยักหน้าและคำนับอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังขำ
บุรุษผู้นี้มิใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์   แต่พวกเผ่าพันธุ์อื่น
เย่ว์หยางไม่รู้ว่าเจ้าผู้นี้เป็นเผ่าพันธุ์ใด  แต่เขาเห็นว่าเจ้าผู้นี้เป็นนักสู้ระดับ 8 ชั้นต้น  พลังของเขาแข็งแกร่งเหนือคนที่เหลือโดยรอบมากมายนัก  เขามองดูเหมือนพวกนักเลงคุมถิ่นเสียมากกว่า  เย่ว์หยางไม่สนใจสายตาเคลือบแคลงของเขา  แต่ประเมินคนที่อยู่รอบๆ แทน   คนนับไม่ถ้วนประกอบการค้าอย่างลับๆ เบียดเสียดอยู่ในกลุ่มต่างๆ มีโคมประทีปแขวนอยู่ตามผนังผา ส่องแสงเรืองรองเป็นพยานการแลกเปลี่ยนซื้อขายในตลาดมืดแห่งนี้  สาวเผ่าเสือดาวและงูบิดเอวไปมาอยู่ในกรงของพวกนางคอยยั่วยวนอย่างเงียบๆ  ทั้งหมดเป็นสินค้าดีคุณภาพสูง
หญิงสาวเหล่านี้โชคดีกว่านางโลมที่เย่ว์หยางเพิ่งเห็นมา  นางจะยืนอยู่ตามอุโมงค์และเผยสัดส่วนร่างกายให้เห็นภายแสงคบเพลิง
พวกนางล้วนงดงามทุกคน  เพียงแต่ยังขาดเจ้านายคนใหม่
แน่นอนว่าสินค้าดี คุณภาพสูงเหล่านี้จะไม่เปิดเผยโดยทั่วไป  พวกนางจะถูกประมูลในโรงประมูลของตลาดมืดในที่สุด
ตัวอย่างเช่น สาวงามผีเสื้อหรือเอลฟ์สาวสวย
ต่อให้เจ้ากบอ้วนพาสาวงามผีเสื้อมาด้วย  เขาก็คงไม่ขายให้นักดาบคุมถิ่นคนนั้น  เขาคงส่งนางขึ้นโรงประมูลราคาเป็นแน่  เพื่อที่ว่าคนร่ำรวยจะได้แข่งประมูลเพื่อครอบครองนาง  ต่อให้เขาขายนางเป็นส่วนตัว  เจ้ากบอ้วนก็คงจะขายให้นักสู้ในป้อมสายฟ้า  ตัวอย่างเช่น นักสู้สิบอันดับแรกของป้อมสายฟ้าเป็นต้น  สำหรับนักดาบผู้นั้นเป็นแค่นักเลงคุมถิ่นผู้น้อย  มันค่อยรับมือกับเขาอย่างสุภาพในภายหลังได้
 “เจ้าก็แค่คุยโวโอ้อวดใช่ไหม? หอการค้าระดับสามของเจ้าจะจับสาวงามเผ่าผีเสื้อ เป็นไปได้อย่างไร? เจ้านึกหรือว่านักรบผู้แข็งแกร่งในเผ่าผีเสื้อจะโง่กันหมดใช่ไหม?”  นักดาบที่เป็นนักเลงผู้นั้นซึ่งมาจากต่างเผ่าพันธุ์ตบไหล่เจ้ากบอ้วนอย่างแรง และเขย่าแขนของเจ้ากบอ้วน  มืออีกข้างหนึ่งก็รับถุงเงินที่เจ้ากบอ้วนยื่นให้เป็นการเก็บส่วย  จากนั้นเขามองหน้าเย่ว์หยาง
ดูเหมือนว่าเขาไม่ชอบหน้าเย่ว์หยางมาก
เขาส่งสัญญาณให้เย่ว์หยางจ่ายเงินให้เขาด้วยเช่นกัน
เมื่อเขาพบว่าเย่ว์หยางไม่มีทีท่าว่าจะจ่ายส่วยให้เขาแม้แต่น้อย เขาถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาผลักเจ้ากบอ้วนที่กำลังจะพูดขอทางกับเขาไปพ้นทาง และจ้องดูเย่ว์หยางอย่างท้าทาย เป็นการหยามอยู่ในที
เย่ว์หยางไม่สนใจเขา
พอเห็นเช่นนี้ นักดาบผู้นั้นยิ่งโกรธมากขึ้น  จมูกที่ใหญ่กว่าปกติของเขาบานพะเยิบพะยาบเหมือนกับว่าจะพ่นไฟออกมาได้ สองมือจากสี่มือของเขารวบกำหมัดแน่น  มือข้างหนึ่งกันเจ้ากบอ้วนออกไปข้างๆ ขณะที่มือที่เหลือล้วงเข้าในจมูกและควักขี้มูกแห้งสีเขียวออกมา   จากนั้นเขาพยายามป้ายขี้มูกใส่หน้ากากของเย่ว์หยาง   เย่ว์หยางโยกศีรษะหลบมือของเขาได้อย่างรวดเร็ว
 “เอาละ, พอได้แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น  เขาเพิ่งมาที่นี่ เขายังไม่รู้ธรรมเนียม”  เจ้ากบอ้วนรีบใช้มือของเขาปัดขี้มูกออกจากมือของนักดาบต่างเผ่านั้น  ช่างเป็นเรื่องตลกที่นักดาบคุมถิ่นกล้าพัวพันไตตันผู้นี้  เขายังไม่เห็นหัวหน้ายามอยู่ในสายตาและต้องเจ็บตัวในเงื้อมมือเขาในที่สุด  แต่เจ้าผู้นี้ยังคงเป็นนักเลงคุมถิ่น  ทุกอย่างจะยังเป็นไปด้วยดี หากพวกเขาให้เงินเขาจำนวนหนึ่ง
 “เนื่องจากเขาเป็นคนมาใหม่  ข้าคงต้องสอนธรรมเนียมให้เขาสักหน่อย!  นักดาบคิดว่าเย่ว์หยางกลัว
เขาควักขี้มูกก้อนโตกว่าเดิมออกมาอีก    แต่เขายังไม่มั่นใจ  เพราะก้อนยังไม่โตพอ
เขาเอื้อมอีกมือหนึ่งมาควักขี้มูกจากรูจมูกอีกข้าง
ดูเหมือนว่าเขาต้องการทำให้เย่ว์หยางอับอาย  ก็แค่เด็กใหม่ที่เพิ่งมาถึงที่นี่ คนที่รายล้อมก็แค่มองดูอย่างคร้าน  เหมือนกับว่าภาพเช่นนี้เกิดขึ้นทุกวัน  พวกเขาเคยชินมานานแล้ว ฝูงชนแม้กระทั่งบริวารติดตามนักดาบคุมถิ่นแค่นเสียง ขณะที่พวกเขาต้องแสดงออกในด้านที่ดีของเขา  แต่ก็ต้องเยาะเย้ยอีกฝ่ายไม่กี่คำ เพื่อเอาใจนักดาบนักเลงเจ้าถิ่นนั้น
 “ปัง...”
เย่ว์หยางต่อยเข้าใบของนักดาบคุมถิ่นผู้นั้น
เขาต่อยอย่างรุนแรงจนจมูกของนักดาบคุมถิ่นผู้นั้นแตกยุบเหมือนเยื่อกระดาษ นิ้วของเขาซึ่งกำลังไชรูจมูกก็พลอยหักไปด้วย
นักดาบคุมถิ่นนั้นยังไม่ทันได้ร้องก่อนโดนเย่ว์หยางจับเขาบนศีรษะของเขาเหวี่ยงกระแทกเข้ากับผนังหน้าผาอย่างรุนแรง
เลือดเปรอะไปทั่วบริเวณ
ฟันที่หักและเลือดกระเด็นออกมา
นักดาบนักเลงใหญ่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสายตาของคนทั่วไป  แต่ศีรษะเขาแบะราวกับผลแตงโมที่แตก เลือดและมันสมองกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
เย่ว์หยางทำเหมือนกับว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย  เหมือนกับคนธรรมดาฆ่ายุงตายไปตัวหนึ่ง  ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน  เขาหมุนตัวสบายๆ หมายเตรียมจะจากไป
นักดาบผู้มีศีรษะแตกกระจัดจายไปแล้วลุกขึ้นยืนทันที  แม้ว่าเขาจะมีศีรษะเดียวก็ตาม แต่ในฐานะนักสู้จากเผ่าพันธุ์เก้อลู่เชี่ยว  เขายังคงสู้ต่อได้แม้จะไม่มีศีรษะก็ตาม  พลังชนิดนี้คล้ายกับสัตว์บางชนิดที่ยังมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีหัวหรือหาง  แต่มันแข็งแรงมาก  เย่ว์หยางไม่ประหลาดใจ  ด้วยทักษะจักษุญาณทิพย์  เขารู้จุดอ่อนของเจ้าผู้นี้แล้ว
 “ระเบิด!
เย่ว์หยางรวบนิ้ว
พลังระเบิดดวงดาวที่ถูกดันใส่ร่างของนักดาบนักเลงคุมถิ่นระเบิดในขณะนั้นทันที  อวัยวะภายของเขากระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  ทั้งชิ้นส่วนอวัยวะภายในและเลือดกระเด็นถูกเต็มหน้าของเจ้ากบอ้วน
แขนข้างหนึ่งของนักดาบคุมถิ่นนั้นร่วงลงแทบเท้าเย่ว์หยาง และกระตุกไม่หยุด
พอเห็นภาพเช่นนี้ บริวารของนักดาบคุมถิ่นผู้นี้ต่างทอดทิ้งความคิดจะรุมล้อมทำร้ายเย่ว์หยางทันที   พอมองเห็นสภาพนี้แล้ว  ยอมเปลี่ยนเจ้านายยังดีกว่าต่อสู้กับเจ้าเด็กผู้น่ากลัวข้างหน้าพวกเขา  พวกมันสามารถเปลี่ยนลูกพี่ได้  นั่นเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาในตลาดมืด  แต่ถ้าพวกมันตาย  พวกมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อีกต่อไป  เมื่อยามลาดตระเวนตรวจตรามาแต่ไกล เห็นว่าเย่ว์หยางฆ่านักดาบคุมถิ่นได้ง่ายดาย  เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไร  รีบเดินออกไปห่างเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยาก
ทะเลาะ, วิวาท บาดเจ็บล้มตาย
เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นปกติในแต่ละวันในป้อมสายฟ้า
ยกเว้นแต่ในวันนี้ที่คนนอกสามารถฆ่านักดาบคุมถิ่นได้ทันที  เขาอาจได้รับพิจารณาให้เป็นม้ามืดก็ได้
นักพนันหลายคนเสียดายที่ไม่ได้พนันผลของการต่อสู้  มิฉะนั้นพวกเขาอาจชนะได้เงินมาบ้าง  คนที่อยู่ในเหตุการณ์ผู้เสียใจมากที่สุดก็คือเจ้ากบอ้วน  เขาเป็นผู้เข้าใจความสามารถของเย่ว์หยางดีที่สุด  เย่ว์หยางเพิ่งทำร้ายหัวหน้ายามมาหยกๆ ดังนั้นนักดาบคุมถิ่นผู้นี้จะมีความหมายอะไรกับเย่ว์หยาง?  เขาเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้ตั้งค่าเดิมพันเอาไว้และดูดเอาเงินเดิมพันจากนักพนันในการชนะการต่อสู้  มิฉะนั้น นักพนันทุกคนที่นี่จะต้องกระเป๋ากลวงว่างเปล่าเป็นแน่
 “ต่อยได้ดี!  ความเร็วของเจ้าไวเหมือนสายฟ้า  และพลังของเจ้าก็อาจเหมือนสายฟ้าด้วย  ข้าชอบคนหนุ่มมีพรสวรรค์อย่างเจ้าจริงๆ”  บุรุษผู้หนึ่งอ้วนกว่าเจ้ากบอ้วนถึงสิบเท่ากำลังนอนเอกเขนกอยู่บนวอปูพรมที่ดูหรูหรา  เขาถูกแบกโดยทาสมนุษย์อสูรที่แข็งแรงห้าสิบคนที่ดูเหมือนจะยากลำบากในการแบกเขา  เหมือนกับว่าเขาเป็นดาวเด่นที่ปรากฏตัวออกมา  เขาภูมิใจที่ได้ปรากฏตัวออกมาจากฝูงชน  ด้านข้างเขา มีกระทั่งทาสเผ่าปีศาจสองตัวเสริฟเหล้าองุ่นให้เขาและอีกคนคอยนวดเฟ้นไหล่ให้เขา
 “.....”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก  ถ้าเขาไม่มีจักษุญาณทิพย์ตรวจดู  เขาคงไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนที่น้ำหนักมากขนาดนี้ความจริงเป็นมนุษย์
 “เจ้าสนใจจะต่อสู้ในเวทีกับข้าไหม? ผู้ชนะรับ 1000 เหรียญทอง”   คนตัวอ้วนพยายามใช้เงินล่อเย่ว์หยาง
 “ท่านแอนตันเป็นพ่อค้าทาสผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปฉีหลาน   พวกเราดีใจจริงๆ ที่ได้รับข้อเสนอจากท่าน  แต่สหายของข้าผู้นี้ไม่สนใจเรื่องทอง  บางทีเราน่าจะหาที่ๆ เหมาะกว่านี้คุยกัน เช่นเรื่องข้อตกลง การค้า”  เจ้ากบอ้วนรีบคำนับอย่างสุภาพ  เขารู้ว่าได้เวลาสำหรับให้เขาอวดอ้างสรรพคุณตัวเอง
 “ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าสู้กับหัวหน้าผู้คุ้มกันของเจ้า  ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะลองดู”  เย่ว์หยางยื่นเงื่อนไขออกมาทันที
 “สามหัวหน้าผู้คุ้มกันสู้กับเจ้าพร้อมกัน ข้าจะให้เจ้า 10000 เหรียญทอง  เจ้ากล้าพอไหม?”  คนตัวอ้วนใหญ่นามแอนตันมีหัวหน้าผู้คุ้มกันสามคนซึ่งเป็นชั้นเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด  คนทั้งสามเหล่านี้ใกล้จะได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดแล้ว  แต่เนื่องจากการฝึกฝนและสภาพภูมิปัญญาของพวกเขา  พวกเขาคงไม่อาจกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้เลยตลอดชีวิต  ดังนั้น พวกเขาเป็นได้เพียงเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดตลอดไป  พลังของพวกเขาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักสู้ในเมืองใต้ดินแน่นอน  แค่หัวหน้าคนหนึ่งก็สามารถฆ่านักดาบที่เป็นนักเลงคุมถิ่นได้ในท่าเดียว  ตอนนี้พวกเขาสู้พร้อมกันสามคน  ทุกคนคิดว่าเย่ว์หยางเป็นเด็กใหม่  ไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อตกลงของแอนตันแน่
ตราบใดที่ยังเป็นคนไม่โง่ ก็ย่อมจะเข้าใจว่าการสู้กับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ผนึกพลังสู้กันน่ากลัวมากขนาดไหน
แม้ว่าจะมีเงินเดิมพันมาก   พวกเขาก็ยังรักชีวิตและยังต้องการสนุกกับชีวิตต่อไป
เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นคิดหนักและพึมพำกับตนเอง  จากนั้นจึงพูดออกมาว่า “ข้าไม่ต้องการเงิน  แต่ถ้าข้าชนะ  เจ้าต้องให้อาวุธระดับดีๆ กับข้า”  เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนี้  แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเขาต้องการแร่สายฟ้า  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนไม่เคยคาดการณ์ไว้ก็คือ ความจริงเย่ว์หยางต้องการชีวิตของหัวหน้าผู้คุ้มกันทั้งสาม  หัวหน้าผู้คุ้มกันทั้งสามเป็นวายร้ายที่มีชื่ออยู่ในบัญชีวายร้าย  ขณะที่หอการค้าและสมาคนนักล่าค่าหัวทั้งสองก็ตั้งค่าหัวพวกเขาไว้  พวกเขาไม่มีที่ให้หนี ในที่สุดพวกเขาจึงมาอยู่ที่นี่ ป้อมสายฟ้าภายใต้ความคุ้มครองของแอนตัน
ตราบใดที่เย่ว์หยางกำจัดพวกเขาได้ ภารกิจที่เย่ว์หยางรับมาทำที่นี่ก็สำเร็จไป 20%
 “ไม่มีปัญหา”  คนอ้วนตัวใหญ่ชื่อแอนตันร่ำรวยและมีอิทธิพล เขาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นเหมืองแร่สายฟ้า  เขามีแร่สายฟ้าเก็บสำรองไว้มากมาย
 “เด็กน้อย, เจ้ารนหาที่ตาย!  หัวหน้าผู้คุ้มกันจ้องมองด้วยนัยน์ตาที่น่าหวาดหวั่น
 “คำสั่งเสียสุดท้ายของเจ้าไม่เลวเลยนะ”  เย่ว์หยางยักไหล่ไม่ยี่หระ
 เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างยุติธรรม  ข้าว่าเราจะเริ่มสู้กันในอีกชั่วโมงข้างหน้า  วิธีนี้เจ้าจะได้พักและมีเวลาเตรียมตัว  สำหรับพวกเรา  ก็จะได้ถือโอกาสเชิญคนมามากๆ เพื่อดูการต่อสู้ครั้งนี้และวางเดิมพันกับเรา” แอนตันหัวเราะลั่นขณะจ้องดูเย่ว์หยาง  “พ่อหนุ่ม!  เจ้าสามารถหาที่พักหรือจะมารอเราที่ห้องก็ได้   มีของมากมายที่นั่น อนุญาตให้เจ้าได้ใช้งานฟรี”
 “ขอบคุณ, เราจะไปปรากฏตัวตามเวลา”  เจ้ากบอ้วนรีบปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา  คงเป็นเรื่องตลกถ้าเขาจะไปใช้ของพวกนั้น  พวกเขาอาจตายทันทีโดยไม่รู้ตัวก็ได้
เมื่อแอนตันจากไป  เจ้าคางคกอ้วนเริ่มบ่นเย่ว์หยางที่ไม่ใส่ใจคนอื่นเลย “ไตตัน!  ใช่ว่าข้าจะตำหนิที่เจ้าประมาทนะ  แต่ตอนนี้เจ้าประมาทเกินไปแล้ว  และเจ้าก็ไม่พยายามจะปรึกษากับข้าที่เป็นสหายของเจ้าเลย  ถูกแล้ว ข้าเข้าใจแผนของแอนตัน แม้ว่าเจ้ามีมีพลังมากก็ตาม  แต่เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะเอาชนะพวกเขาได้  เจ้าเข้าใจไหม?  แอนตันมียาเสพติดชนิดพิเศษอย่างหนึ่ง สามารถเพิ่มพลังของคนได้หลายเท่าในช่วงเวลาสั้นๆ   ถ้าเขาใช้มัน  อย่างนั้นเจ้าคงไม่ใช่แค่สู้กับหัวหน้ารักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นชั้นเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด  แต่เจ้าจะต้องสู้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดสามคน  ถ้าเจ้าไม่มีความมั่นใจ  เราน่าจะหนีไปเสียในตอนนี้!   ถอยหนีไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย  บุ่มบ่ามต่อสู้ตายไปจะกลายเป็นความผิดพลาดยิ่งใหญ่ในชีวิตเจ้าได้  เจ้าอาจจะไม่เห็นด้วยกับความคิดข้า  แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะยอมฟังคำแนะนำของข้า  เรื่องเช่นนี้ เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ  ศัตรูตั้งใจจะกินเราจนถึงกระดูก  มิฉะนั้นพวกมันคงไม่ตั้งใจท้าสู้กับเรา... บางทีความเคลื่อนไหวที่แท้จริงของแอนตันก็คือหน้ากากของเจ้าและสมบัติเบื้องหลังของเจ้า”
เย่ว์หยางโบกมือ “จั๊ดด์  ขอบคุณสำหรับความตั้งใจดีของท่าน  ขอให้ข้าได้พูดอะไรสักอย่าง  ถ้าท่านต้องการเป็นสหายข้า  สิ่งเดียวที่ท่านต้องทำก็คือ เชื่อมั่นข้า”

************

13 ความคิดเห็น:

Lunoiiz กล่าวว่า...

ได้เวลาลุยอีกล้าววว ขอบคุณมากค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ได้เวลาปล้นน

Unknown กล่าวว่า...

กำลังกินข้าว โดนแคะขี้มูกใส่เต็มหน้าเลย

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

kk.putting กล่าวว่า...

เชื่อคะ เชื่อว่าไม่มีอะไรเหลือ
พี่กวาดเรียบ

kk.putting กล่าวว่า...

เชื่อคะ เชื่อว่าไม่มีอะไรเหลือ
พี่กวาดเรียบ

CNUregistOnline กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เปา กล่าวว่า...

กบอ้วน. เอาเงินที่มีไปแทงข้าง. มันเถอะ. ไอ้คนนี้ห้ามงัยก็ไม่ฟัง. มันฟังบ้างแต่เมีย

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ใช่แล้ว! จงเชื่อมั่น! แล้วเอาทรัพย์สินที่มีทั้งหมดลงพนันข้างเย่ว์หยางซะ! รับรองรวย มหารรวย!

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น