วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 369 เงินของใคร คืนคนนั้น

ตอนที่  369  เงินของใคร คืนคนนั้น
 



ทันทีที่เอ้อเมิ่งตาย คัมภีร์อัญเชิญของเขาและอสูรฝันร้ายของเขาก็ระเบิดเสียงดังสนั่น
คัมภีร์ทองกลายเป็นสีหมองทึมกลับอยู่ในสภาพไร้เจ้าของ
อสูรฝันร้ายหายไปกลายเป็นภาพลวงและหลงเหลือไว้แต่เพียงลูกปัดสีดำกลิ้งมาอยู่แทบเท้าเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางก้มลงเก็บลูกปัดและคัมภีร์ทองทั้งสองไว้  จากนั้นเขาเก็บของทั้งสองไว้ในแหวนลิชอย่างรวดเร็ว  เหมือนวิธีที่เขาทำตอนเล่นเกมออนไลน์ในอดีต
 
คนที่ไวกว่ามักได้รับของดี  แน่นอนเย่ว์หยางไม่เคยช้าอยู่แล้ว
เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์เริ่มเข้าใจที่มาของคัมภีร์แพลตตินัมแล้ว  คัมภีร์เหล่านั้นเย่ว์หยางได้รับมาหลังจากเอาชนะคู่ต่อสู้เขาได้แล้ว
พระเจ้า!  คู่ต่อสู้แบบไหนกันที่เขาฆ่าไปแล้ว
ขณะที่เอ้อเมิ่งทรุดตัวล้มลง ทั่วทั้งสนามต่อสู้ก็ส่งเสียงเชียร์ลั่น  ร่วมทั้งพวกนักพนันที่พนันว่าเย่ว์หยางจะแพ้ก่อนนั้นด้วย
ไม่เคยมีใครต้านทานคู่หูทั้งสอง เอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ได้  แต่ขณะที่พวกเขาถูกจำกัดโดยขีดจำกัดของพลัง  พวกเขาจึงได้แต่ยอมตามเท่านั้น  หลังจากเห็นเอ้อเมิ่งถูกสังหาร  และเหนียนหู่มีสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัว  ใครเล่าจะไม่มีความสุขจนส่งเสียงเชียร์?
เหนียนหู่ดึงไม้กายสิทธิ์สีดำออกมาโบกไปมาช้าๆ
แสงสีดำวาบผ่านออกมา
ทันใดนั้นไม่มีผู้ใดสามารถพูดได้ ขณะที่ปากของพวกเขาดูเหมือนจะถูกผนึกไว้
ความเงียบปรากฏไปทั่วเวที
 “ไม้กายสิทธิ์ไร้เสียง เครื่องมือระดับทอง!  ทุกคนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว  แต่ไม่มีผู้ใดสามารถพูดได้ภายใต้คาถาสะกดของไม้กายสิทธิ์ไร้เสียง  ไม้กายสิทธิ์ไร้เสียงเป็นเครื่องมือชั้นทองที่ไม่มีพลังโจมตี  แต่สำหรับนักรบบางคน มันเป็นอาวุธที่น่ากลัว  ตัวอย่างเช่น มันอาจถูกใช้กับคู่ต่อสู้ที่จำเป็นต้องออกเสียงอัญเชิญสัตว์อสูร  จากนั้นเขาก็จะประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
ไม่เพียงแต่เหนียนหู่จะใช้ไม้กายสิทธิ์ไร้เสียงผนึกปากทุกคนในสนามต่อสู้ เพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่สามารถส่งเสียงเชียร์เย่ว์หยางได้  เขายังคงเรียกสัตว์อสูรขนาดยักษ์ออกมาในขณะเดียวกัน
อสูรที่ดูเหมือนพยัคฆ์ตัวหนึ่ง
มันมีร่างกายใหญ่โตมโหฬาร มีความยาวจากหัวถึงหาง 20 เมตร
ร่างปานภูเขาของมันดูเหมือนเหมาะกับการต่อสู้เต็มกำลัง  เขี้ยวแหลมคมเต็มอยู่ในปากกว้างๆ ของมัน  ขณะที่เขาบนหัวของมันเปล่งแสงเขียวดูน่าขนลุก  ร่างของมันขยายจากเดิมกว่าครึ่งจากขนาดเดิมของมัน  กรงเล็บแหลมคมดุจใบมีดในเท้าทั้งสี่และนัยน์ตาที่คมประดุจเหยี่ยว อสูรร้ายกระโจนใส่เย่ว์หยาง กางกรงเล็บขณะที่มันเตรียมฉีกเย่ว์หยางให้เป็นชิ้นๆ
ตั๊กแตนมัจจุราชโฉบลงมาจากอากาศโดยไม่หวั่นเกรง
ตั๊กแตนมัจจุราชเพบกับอสูรแข็งแกร่งมามาก แต่ก็ไม่มีอะไร
มันฆ่าอสูรเหล่านั้นมามากแล้ว  ไม่เพียงแต่อสูรพยัคฆ์เท่านั้น  ต่อให้เป็นมังกรยักษ์ มันก็ฆ่าได้ไม่ลังเลเลย  มันไม่ใช่ตั๊กแตนมัจจุราชธรรมดา  มันได้รับการเลี้ยงดูด้วยผลึกมังกรเป็นจำนวนมหาศาลและด้วยปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง  อีกทั้งยังได้รับอักษรรูนสวรรค์และถูกชำระด้วยเพลิงอมฤต  มันเป็นตั๊กแตนมัจจุราชที่มีศักยภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์  มันมีความทะเยอทะยานที่จะกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือแม้แต่เทพอสูรในอนาคต  ดังนั้น อสูรพยัคฆ์ชั้นทองระดับ 8 ยังจะขู่ขวัญตั๊กแตนมัจจุราชที่สามารถฆ่าอสูรใดๆ ก็ได้ และยังกล้าฆ่ามังกรยักษ์ได้ยังไง?
แน่นอนว่าไม่
แม้ว่ามันจะมีระดับต่ำกว่าเล็กน้อย  แต่ตั๊กแตนมัจจุราช มีชั้นที่สูงกว่า มันเป็นอสูรชั้นแพลตตินัม
แขนเคียวของตั๊กแตนมัจจุราชแทงลึกลงไปในร่างของอสูรพยัคฆ์  ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ที่คอและกระดูกสันหลังส่วนล่าง
แม้ก่อนนั้น คู่ต่อสู้ของมันสามารถรับมือได้  แต่ตั๊กแตนมัจจุราชก็ฉลาดพอ  มันเหวี่ยงศัตรูลอยขึ้นไปในอากาศเพื่อเตรียมจู่โจมครั้งที่สอง.. ความจริง  การโจมตีครั้งแรกก็ทำให้มันบาดเจ็บที่คอและกระดูกสันหลังแล้ว ตอนนี้มันอยู่ไม่ห่างจากความตายนัก
จากการโจมตีด้วยแขนเคียวครั้งนี้  ตั๊กแตนมัจจุราชเชือดใส่หลอดลมของอสูรพยัคฆ์  ศีรษะของอสูรพยัคฆ์เกือบขาด
ภายใต้สถานการณ์ปกติ อสูรพยัคฆ์จะต้องตายแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เกิดเรื่องน่าขนลุกตามมา
ศีรษะของอสูรพยัคฆ์ที่เกือบจะขาดอยู่แล้วไม่มีเลือดอยู่ในบาดแผลของมัน  บาดแผลเหล่านั้นสมานตัวอย่างรวดเร็ว
ไม่ถึงสิบวินาที บาดแผลรุนแรงก็หายไปไม่เหลือร่องรอย  เหมือนกับว่าไม่เคยมีบาดแผลมาตั้งแต่แรก  เขาของอสูรพยัคฆ์เรืองแสงสีเขียว  ขณะที่ปีกคู่หนึ่งเริ่มงอกจากหลังของมัน เป็นปีกคล้ายค้างคาวและเริ่มสยายออก
มันเหินขึ้นไปในท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาตั๊กแตนมัจจุราชกลางอากาศ
บนภาคพื้น เหนียนหู่ยิ้มเยือกเย็น  ขณะที่เขาปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งของเขาในฐานะนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 3 สะกดให้ทุกคนตะลึงจากคลื่นอัดกระแทกจากตัวของเขา
เขาควงหมัดพุ่งเข้าจู่โจมเย่ว์หยาง
ทุกๆ หมัดทำให้ผู้ชมอึดอัดหายใจไม่สะดวก  วิธีเหวี่ยงหมัดของเขาทำให้ทุกคนคลื่นไส้และรู้สึกแน่นในอกลึกลงไปจนถึงกระดูก  ไม่เคยมีใครเคยคิดว่าพลังของคลื่นหมัดจะถูกสกัดโดยไตตันที่ยังยืนสงบอยู่หน้าเหนียนหู่  บรรดาผู้ชมที่นั่งอยู่ใกล้เวทีหรือนั่งอยู่ในระดับสายตาเดียวกับหมัดของเหนียนหู่รู้สึกเหมือนทนทุกข์ทรมาน พวกเขาต้องรวบรวมพลังทั้งตัวป้องกันตนเอง และพวกเขาสามารถทำได้เพียงอดทนต่อพลังหมัดที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรหรือกระทั่งร้อยเมตร
เย่ว์หยางไม่ได้ตอบโต้ ไม่ได้ถอยหลังเพื่อแก้ขัดเขิน
ทั้งหมดที่เขาทำคือเคลื่อนร่างท่อนบนเล็กน้อย
เพียงแค่นั้น  เขาก็สามารถหลบหมัดที่เหนียนหู่เหวี่ยงออกมาได้ทั้งหมด
แม้ว่าแต่ละหมัดที่เหนียนหู่เหวี่ยงออกมานั้นจะอันตรายถึงตายได้
ตั๊กแตนมัจจุราชในอากาศฟันใส่อสูรพยัคฆ์ที่ประเมินความสามารถของมันและพยายามโจมตีใส่มัน  ตั๊กแตนมัจจุราชฉีกร่างมันเป็นสองท่อนและโยนทิ้งลงพื้น  อย่างไรก็ตาม อสูรพยัคฆ์ที่แปลกประหลาดที่ได้รับบาดเจ็บ ยังคงเชื่อมต่อร่างที่ขาดครึ่งได้อีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที  มันกลับคืนสู่สภาพเดิมที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จั๊ดด์รู้สึกอยากตะโกนบอกเย่ว์หยาง  “เจ้าอสูรตัวนี้เรียกว่า เหนียน (ปี) นอกจากเสียงแล้ว ไม่มีอะไรเอาชนะมันได้”
นอกจากนี้เขาต้องการบอกเย่ว์หยางว่า  เขาสามารถเอาชนะอสูรเหนียนตัวนี้ได้โดยใช้พลังเสียง
แต่เขาไม่อาจตะโกนคำใดๆ ออกมาได้
เนื่องจากทุกคนถูกเหนียนหู่ใช้ไม้กายสิทธิ์ไร้เสียง เปลี่ยนทั้งสนามต่อสู้ให้กลายเป็นที่เงียบสงัดเหมือนป่าช้า ไม่มีผู้ใดสามารถใช้เสียงได้
ตั๊กแตนมัจจุราชได้ฆ่าอสูรพยัคฆ์ตายไปหลายครั้งแล้ว  แต่แม้ว่ามันจะตัดอสูรเหนียนนั้นเป็นล้านๆ ชิ้น  ความพยายามฆ่าของมันใช้ไม่ได้ผล  อสูรพยัคฆ์ฟื้นคืนชีพได้เร็ว  ตรงกันข้ามกับอสูรเหนียน มันใช้กรงเล็บยักษ์และเขี้ยวที่แหลมคมและหางที่เหมือนแส้เหล็กทำร้ายตั๊กแตนมัจจุราชได้ง่าย  แม้ว่าตั๊กแตนมัจจุราชจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบได้เร็วลดอาการบาดเจ็บของมันได้ แต่อาการบาดเจ็บสะสมและสถานการณ์ที่ดูเหมือนหมดหวังนี้เป็นที่ชื่นชอบของอสูรเหนียน
ที่สำคัญคือ มีความแตกต่างกันระหว่างทั้งสองเมื่อฝ่ายหนึ่งทนการโจมตีได้  ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งได้แต่หลบเลี่ยง
 “ใช่แล้ว, ด้วยวิธีแบบนั้น เจ้าเด็กนี่จะต้องตายในเงื้อมมือข้า  พร้อมกับตั๊กแตนของมัน”  เจ้าอ้วนแอนตันรู้สึกตื่นเต้นจนอยากตะโกนร้องด้วยความพอใจ  แต่โชคร้ายที่ปากของเขาก็ถูกผนึกไว้เช่นกันและไม่สามารถส่งเสียงได้
 “.....”  ทั่วทั้งสนามต่อสู้ มีเพียงบุรุษลึกลับที่สวมหมวกปีกกว้างที่ยังคงยิ้ม  ดูเหมือนว่าเขายังคงคิดว่าเย่ว์หยางจะเป็นผู้ชนะ
พอเห็นว่าอสูรของเขากำลังได้เปรียบ  สีหน้ากระหายเลือดบนใบหน้าของเหนียนหู่ก็ยิ่งเด่นชัด
เขาตรงกันข้ามกับเอ้อเมิ่ง
เอ้อเมิ่งมีทักษะพลังจิตที่แข็งแกร่ง  แต่เขาไม่มีประสบการณ์สู้ในระยะใกล้ ทันทีที่เขาเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามผู้มีภูมิป้องกันการโจมตีด้วยพลังจิต เขาจึงถูกสังหารทันที
นอกจากอสูรเหนียนที่มีภูมิคุ้มกันการถูกโจมตี  เหนียนหู่ยังคงครอบครองพลังปราณก่อกำเนิดระดับ 3 ที่ทำให้เขาสามารถร่วมต่อสู้ในระยะใกล้ได้  ตราบใดที่อสูรของเขามีพลังเหนืออสูรของคู่ต่อสู้  เหนียนหู่ก็สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ง่ายในการสู้ระยะใกล้  ตัวอย่างเช่น เขาสามารถใช้เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาและลับที่สุด วิชาพยัคฆ์ทมิฬสามกระบวนท่า  ในอดีตเมื่อเขาถูกอาจารย์ครอบงำอยู่  เขาใช้อสูรเหนียนและสามกระบวนท่าพยัคฆ์ทมิฬร่วมกับพลังจิตสนับสนุนโดยเอ้อเมิ่ง  ทำให้พวกเขาฆ่าอาจารย์ได้และกินศพเขาส่วนใหญ่จนยกระดับเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด
แม้แต่อาจารย์ของเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5 ก็ยังถูกเหนียนหู่ฆ่าได้ในที่สุด
แน่นอนว่าเหนียนหู่ไม่เคยปฏิเสธว่าส่วนที่ทำให้ฆ่าอาจารย์ของเขาได้ก็คือ พลังจิตของเอ้อเมิ่ง ถ้าไม่มีเขาช่วยก็ย่อมเป็นไปไม่ได้  แต่ก็ยังมีความจริงอีกอย่างก็คือ สามกระบวนท่าพยัคฆ์ทมิฬใช้สังหารอาจารย์ผู้ทรงพลังของเขา
หลังจากกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามแล้ว  สามท่าพยัคฆ์ทมิฬเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเหนียนหู่ คู่ต่อสู้ที่เห็นมันไม่มีใครเคยรอดชีวิตไปได้
 “พยัคฆ์ร้ายตะปบเหยื่อ”  เหนียนหู่รวมพลังของเขาทั้งหมดสร้างเป็นร่างพลังงานคล้ายกับอสูรพยัคฆ์  จากนั้นก็ไปอยู่ร่วมกับอสูรพยัคฆ์เพื่อทำให้เย่ว์หยางไม่อาจจำแนกความแตกต่างของมันได้  เมื่ออสูรพยัคฆ์รู้สึกว่าได้เวลาเหมาะ มันจะเข้าจู่โจมเย่ว์หยางเหมือนกับพยัคฆ์ที่ดุร้าย
 “พยัคฆ์ตะปบเหยื่อ” สามารถจู่โจมผ่านแนวป้องกันได้  ไม่มีอะไรสามารถต้านรับมันได้
พลังงานรูปพยัคฆ์ขนาดมหึมาพุ่งผ่านร่างเย่ว์หยาง  ขณะที่เหนียนหู่เตรียมจะฉลองชัยชนะของตนเอง   แต่มันก็หายวับไป ไม่ปรากฏผลออกมาดังคาดหวัง
ในทำนองเดียวกัน อสูรเหนียนร่างพยัคฆ์พยายามโจมตีไล่จับตั๊กแตนมัจจุราชกลางอากาศในเวลาเดียวกัน   ขณะที่ตั๊กแตนมัจจุราชพุ่งลงมายังพื้น  มันฟันใส่อสูรเหนียนขาดสองท่อนและผลักมันลงมากับพื้น
เหนียนหู่ตกตะลึง  เขาคาดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างอสูรเหนียนร่างจริงและร่างปลอมได้อย่างไร   คนธรรมดาไม่อาจจำแนกความแตกต่างได้ด้วยตาเปล่า  อย่าว่าแต่ตามนุษย์เลย  ต่อให้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดจากตระกูลเหยี่ยวผู้มีพรสวรรค์ทางสายตาดีที่สุด  ก็ยังไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างอสูรเหนียนและร่างพลังงานที่เขาสร้างขึ้น
ยิ่งกว่านั้น  แม้ว่าร่างพลังงานรูปพยัคฆ์จะเป็นตัวปลอม  แต่พลังโจมตีของมันก็เท่ากับอสูรเหนียน   เจ้าเด็กนี่ยังคงเป็นเหมือนเดิมได้อย่างไร ทั้งที่พลังโจมตีพุ่งผ่านร่างของเขาไปแล้ว?
เกี่ยวกับเรื่องนี้  เหนียนหู่สับสนเป็นอย่างมาก
แต่เขาไม่มีเวลาคิด  เหนียนหู่ต้องจู่โจมครั้งที่สองทันทีหลังจากโจมตีครั้งแรก  ถ้าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง  ขณะที่เขาปลดปล่อยพลังงานครั้งที่สอง พลังงานร่างพยัคฆ์ก็ปรากฏอีกครั้ง มันถูกบีบอัดพลังจากร่างเสือดำขนาด 20 เมตรเหลือเพียง 5 เมตร  แต่แน่นอนว่า พลังของมันขยายเพิ่มเป็นสิบเท่าหลังจากถูกบีบอัดขนาดแล้ว  พยัคฆ์ดำเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า มันรวดเร็วมาก และพร้อมจะจู่โจมเข้าใส่เย่ว์หยางภายใต้การควบคุมของเจ้านายมัน  ในพริบตาเดียวมันก็ตะปบกัดเย่ว์หยาง
ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางเท่านั้น  มันยังทำลายกระทั่งหินและภูเขาที่แข็งแกร่งที่สุดได้
ไม่ต้องรอให้กระบวนท่าเสือหิวเขมือบแสดงผล  เหนียนหู่เริ่มโจมตีครั้งที่สาม
เหนียนหู่สร้างร่างพลังงานรูปอสูรเหนียน ใช้มือทั้งสองควบคุมเขี้ยวและร่างท่อนบนควบคุมศีรษะ และร่วมโจมตีใส่เย่ว์หยางในเวลาเดียวกับเสือดำก่อนนั้น
เมื่อเขาหลอกล่อให้เย่ว์หยางไขว้เขวได้สำเร็จ  เขาหมุนร่างอย่างรวดเร็ว  ขณะที่เอียงตัวฟาดแขนทั้งสอง ร่างท่อนบนของเขาจะงอเล็กน้อย  จากนั้นเขาใช้เท้าซ้ายเป็นแกนหลักขณะที่เท้าขวาฟาดเข้าที่ชายโครงของเย่ว์หยาง
นี่จึงเป็นท่าที่ทรงพลังที่สุดในสามท่าพยัคฆ์ทมิฬ
ขนาดอาจารย์ผู้มีพลังมากของเหนียนหู่ยังถูกสังหารด้วยท่านี้  แม้ว่าเหนียนหู่จะไม่มีหาง  แต่เขาสามารใช้ขาของเขาต่างพลองเพื่อฟาดทำร้ายคู่ต่อสู้และพลังโจมตีของมันก็ทรงพลัง  เหนียนหู่ใช้ท่านี้กับนักสู้มาแล้วหกคน และทั้งหกคนถูกบดกระแทกอวัยวะภายในและซี่โครงหัก ในหกคนนี้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดสองคน  เหนียนหู่มั่นใจว่าเมื่อลำแข้งของเขาฟาดใส่ศัตรู มันจะต้องตายแน่นอน
ไม่เคยมีคู่ต่อสู้ที่รอดชีวิตจากพลังพยัคฆ์ทมิฬสามกระบวนท่าที่สามารถฟาดผ่านพลังป้องกันได้
 “บึ้ม!
สนามต่อสู้สั่นสะเทือนรุนแรง ทำให้ทุกคนสั่นจากพลังคลื่นอัดกระแทก
ทุกคนล้มกับพื้นระเนระนาด
นอกจากคนที่สวมหมวกปีกกว้าง  ไม่มีผู้ใดเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน
เหนียนหู่ยืนอยู่ห่างเย่ว์หยางสิบเมตร  สีหน้าของเขาไม่มีใครบอกได้ว่ามีอารมณ์เช่นใด  ไตตันมองดูซี่โครงด้านซ้ายของเขาที่มีรอยเท้าข้างหนึ่งชัดเจนและรอยหมัดสองรอยที่หน้าอก  รอยทั้งสามนี้เป็นผลของสามกระบวนท่าพยัคฆ์ทมิฬ
เจ้าเด็กมนุษย์ไตตันแพ้หรือยัง?
ทุกคนเป็นกังวล
ทันใดนั้น  เหนียนหู่เซ 2-3 ก้าวขณะที่ร่างของเขาสั่นและล้มลงกับพื้น
มือทั้งสองข้างกุมเป้ากางเกงขณะที่เหนียนหู่ตัวบิดงอด้วยความเจ็บปวดเหมือนงูดินที่ถูกฟาดอย่างหนัก
บุรุษผู้สวมหมวกปีกกว้างยิ้มกว้างเพราะเขาเห็นว่าเมื่อเหนียนหู่ฟาดแข้งใส่เย่ว์หยางด้วยท่าพยัคฆ์พิโรธฟาดหาง พยายามทำร้ายซี่โครงซ้ายของเย่ว์หยางด้วยขาขวาของเขา  เย่ว์หยางขยับตัวและดีดแข้งออกไปด้านข้าง  มิเพียงแต่หลบพ้นจากพลังโจมตีที่รุนแรงเท่านั้น  แต่เขายังกระแทกใส่เป้ากางเกงของเหนียนหู่... ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าตอนนี้เหนียนหู่เจ็บปวดขนาดไหน
อสูรเหนียนโถมตัวเข้าหาเย่ว์หยางเพื่อปกป้องเจ้านายของมัน
มันม้วนร่างเจ้านายมันไว้อย่างชาญฉลาดและพยายามหลบหนี
เงาร่างสายหนึ่งเคลื่อนตัวอยู่ในอากาศด้วยความเร็วกว่าตั๊กแตนมัจจุราชถึงสิบเท่า ขณะที่มันพุ่งลงมาที่พื้น  โดยไม่สนใจไม้กายสิทธิ์ไร้เสียง มันปล่อยคลื่นเสียงกรีดลั่น  ระยะเวลาปรากฏตัวและหายไปใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที  อย่างไรก็ตามเสียงกรีดร้องของมันสร้างความกังวลมากและทำให้วิญญาณสั่นสะท้านได้  มากขนาดที่เสียงยังก้องอยู่นานหลังจากที่มันหายไปแล้ว   อสูรเหนียนที่ดูดีอยู่แต่ก่อนหน้านั้นขดตัวด้วยความเจ็บปวดจากเสียงกรีดร้องนั้น ดูแล้วอาการยังหนักกว่าเจ้านายของมันเสียอีก
เลือดพุ่งออกจากตา จมูกและปากของมัน เนื่องจากพลังชนิดหนึ่งที่อยู่ในหัวมันทำให้หัวมันระเบิด
จากนั้นตั๊กแตนมัจจุราชก็พุ่งเข้าใส่มันใช้แขนเคียวของมันตัดศีรษะของอสูรเหนียน
เลือดพ่นกระจาย  คราวนี้อสูรเหนียนไม่มีทางคืนสภาพได้อีก
มันตายแล้ว
ตั๊กแตนมัจจุราชมอบศีรษะของอสูรเหนียนให้เจ้านายมันอย่างเชื่องเชื่อและจากนั้นมันจึงกินศพของอสูรเหนียนต่อ
เหนียนหู่ได้แต่มองอย่างหวาดผวา
เขาดิ้นรนลุกขึ้นและเตรียมหลบหนี  แม้ว่าเขาจะโง่  แต่เขาก็เข้าใจในตอนนี้แล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศัตรูของเขา  เย่ว์หยางละเว้นเขาในตอนแรก  ขณะที่เขาเก็บไม้กายสิทธิ์ไร้เสียง  พอพิจารณาดูแล้ว เขาเก็บไม้กายสิทธิ์ด้วยความชำนาญ  เขาต้องฆ่าและชิงทรัพย์สินหลายๆ อย่างที่เขาคุ้นเคย
ความจริงเย่ว์หยางเคยได้คทาใบ้ในวิหารแกะมาครั้งหนึ่งแล้ว
แต่แน่นอนว่ามันมีผลกระทบชั่วคราว
แต่ไม้กายสิทธิ์นี้เป็นเครื่องมือระดับทองและผลของมันคงทนถาวร   การใช้งานไม้กายสิทธิ์นั้นเหมือนกัน  แต่คุณค่าราคาของมันต่างกันสิ้นเชิง
เกี่ยวกับไม้นี้ เย่ว์หยางรู้สึกว่าผู้คนมากมายจะคงต้องหมดโชค.. ด้วยไม้กายสิทธิ์ไร้เสียงในมือเขา  เขาสามารถใช้พลังของมันได้เต็มที่และทำให้คนอื่นร้องไห้ได้
เหนียนหู่กัดฟัน ขณะที่เขาพยายามอดทนต่อความเจ็บปวด
เขาต้องการหนี  แต่ก่อนที่เขาจะบิศิลาเทเลพอร์ต  เย่ว์หยางก็โจมตีเขาด้วยพลังพยัคฆ์ทมิฬของเหนียนหู่ตอบโต้คืน
เงินของท่านย่อมใช้หนี้คืนท่าน
ศิลาเทเลพอร์ตตกลงพื้นและกลิ้งห่างตัวเขาราวสิบก้าว
เหนียนหู่ทราบชัดว่าเขาไม่สามารถวิ่งได้เกินสองก้าว  อย่าว่าแต่ไตตันผู้นี้น่ากลัวดุจจอมมาร  แม้แต่ตั๊กแตนมัจจุราชของเขาก็ยังทำให้เขายากลำบากได้
เขาต้องเก็บศิลเทเลพอร์ตให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็ตายแน่นอน
เหนียนหู่ถูกเย่ว์หยางทำร้ายจนลอยอยู่ในอากาศพยายามกลั้นมิให้เลือดที่คั่งอยู่ที่คอหอยกระอักออกมา เขาดิ้นรนลุกขึ้นและกระโจนเข้าหาศิลาเทเลพอร์ต
ขณะที่เขาคว้าศิลาเทเลพอร์ตได้  มีเท้าข้างหนึ่งก็เหยียบย่ำมันเต็มกำลัง
เหนียนหู่เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เป็นเย่ว์หยางนั่นเอง
 “ไม่นะ ไม่ อย่าฆ่าข้า!
เย่ว์หยางไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจหรือให้อภัยต่อเหนียนหู่ที่ตัวโชกเลือด... สำหรับเย่ว์หยาง ความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจเป็นเรื่องที่หาได้ยาก  และต้องไม่แสดงต่อศัตรูของเขา
ต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด  เหนียนหู่ถูกโจมตีที่ศีรษะต่อเนื่องเพราะเย่ว์หยางใช้วิชาพยัคฆ์ทมิฬโจมตีเขา กระทั่งศีรษะของเขาแตก  เขาเสียชีวิตคาที่  เขาแบ่งปันชะตากรรมที่คล้ายกันกับศิษย์น้องของเขา เอ้อเมิ่ง  พวกเขาตายภายใต้ไม้ตายของพวกเขาเอง!  อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อคู่หูทั้งสอง  ขณะที่ทุกคนระเบิดเสียงฉลองชัยชนะของเย่ว์หยาง   พวกผีพนันที่คลั่งไคล้ถอดทุกอย่างที่เขามี ร่วมทั้งเสื้อผ้าด้วย  ขณะที่พวกเขาโบกสิ่งของไปมาและโยนขึ้นมาบนเวทีเป็นสัญลักษณ์แสดงความชื่นชมต่อผู้ที่คว้าชัยชนะ
รอบๆ เวทีมีการส่ายสะโพกฉลองด้วยความยินดี  เจ้าอ้วนแอนตันมีสีหน้าประหลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์พูด  ทำให้เขาถึงกับเป็นลมเนื่องจากขาดทุนอย่างรุนแรง
จั๊ดด์พูดว่า “ท่านแอนตันที่รัก  หนี้พนันโดยรวมของข้าก้อนไม่โตนัก  เราปล่อยวางไว้ก่อนก็ได้  แต่ท่านไตตันจำนำคัมภีร์แพลตตินัมห้าเล่มกับเจ้า  ดังนั้นหลังจากชนะสองรอบ  เจ้าจะต้องชดใช้คัมภีร์แพลตตินัม 50 เล่ม เนื่องจากเจ้ามั่งคั่งมาก...”
บุรุษลึกลับผู้นั่งอยู่ข้างๆ แอนตันถึงกับตกตะลึงพอกัน  คัมภีร์แพลตตินัม 50 เล่ม?
ดูเหมือนแอนตันคงไม่อาจชดใช้หนี้ให้เย่ว์หยางได้ แม้ว่าเขาจะขายตัวของเขาด้วยก็ตาม

13 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ^_^

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

j3est กล่าวว่า...

ขอคุณมากๆๆ

ohmmanee กล่าวว่า...

อิอิ สนุกมากค่ะ ได้ทั้งของ ได้ทั้งฝึกวิชา เลิสสส

Ton กล่าวว่า...

ไม่คณามือเย่วอยาง หึหึ

kk.putting กล่าวว่า...

มีแผนกซ้ำเติมมาเป็นพวกอีกคนละ

kk.putting กล่าวว่า...

มีแผนกซ้ำเติมมาเป็นพวกอีกคนละ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮิฮิ ไหนดูซิจะชดใช้ยังไง ตัวอ้วนๆ แบบนี้ตัดเอาไปแล่เนื้อขายน่าจะได้หลายตังค์อยู่มั้ง

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น