เวลาผ่านไปรวดเร็วและชั่วพริบตาเดียว
นาฬิกาของปู่ในห้องโถงก็ตีบอกเวลาสิบเอ็ดครั้งเป็นสัญญาณว่าตอนนี้เวลาสิบเอ็ดโมงเช้า
“ท่านฮ็อกอยู่บ้านไหม?” เสียงที่ชัดเจนตะโกนออกมา คฤหาสน์บาลุคไม่มียามเฝ้า
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เข้ามาถึงในบริเวณบ้านแล้ว
ฮ็อกขมวดคิ้ววางตำราเล่มหนาลงข้างหน้าเขา
“ลินลี่ย์, วันนี้เราพอแค่นี้ก่อน”
ฮ็อกยิ้มกว้างหมุนตัวและเดินไปรับแขกที่ห้องโถง
“อา..ฮ็อกเพื่อนรัก!เมื่อวันก่อน ข้าได้ยินเสียงนกร้องบนราวตากผ้า
แล้วข้าก็รู้ได้เลยว่ามีสิ่งดีๆกำลังจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่าในตอนบ่ายข้าได้รับจดหมายของท่าน ข้ารีบอ่านมันทันที ข้ามีความสุขจริงๆ”
“ฟิลิป,
ข้าก็มีความสุขที่ได้พบท่านเช่นกันฮิลแมนรีบไปเอารูปสลักหิน ราชสีห์คลั่งมา ฟิลิป
มาเถอะ ไปรอที่ห้องโถงใหญ่รูปสลักจะมาถึงที่นี่โดยเร็ว
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้
ลินลี่ย์รู้สึกปวดใจ
“เรากำลังจะขายสมบัติของตระกูลอีกหรือ?”
ลินลี่ย์รู้ว่ารูปสลักราชสีห์คลั่งเป็นงานที่ท่านพ่อโปรดปรานมาก
แต่ตระกูลบาลุคเก็บภาษีจากชาวเมืองอู่ซันน้อยมาก ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในสภาพย่ำแย่
โชคดีที่ตระกูลบาลุคเป็นตระกูลเก่าแก่และได้รับอานิสงส์ความเป็นตระกูลเก่าแก่ทำให้มีของมีค่าหายากอยู่มากมาย
โชคร้ายแม้แต่สมบัติสะสมมากมายก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานหลายปีมานี้ได้ประมูลและขายออกไปมาก
มาถึงตอนนี้ จำนวนสมบัติที่มีค่ามากในตระกูลมีอยู่น้อยมาก
ลินลี่ย์ไม่สามารถช่วยอะไรได้แต่หันไปจ้องมองนาฬิกาของปู่“ข้าสงสัยว่านาฬิกาเรือนนี้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่ก่อนจะถูกขายออกไป”
บุรุษวัยกลางคนตัวสูงผอมสีทองมีราศีของคนชั้นสูงก้าวเดินเข้าในอาคารพร้อมๆ
กับฮ็อก ลินลี่ย์สามารถเดาได้ทันที่ว่าบุรษวัยกลางคนผู้นี้ก็คือฟิลิป
“โอว..พ่อหนูน่ารักคนนี้คงเป็นบุตรชายของท่านใช่ไหมฮ็อก?” ฟิลิปยิ้มให้ลินลี่ย์อย่างอบุ่น “ลินลี่ย์
บาลุคใช่ไหม? ขอเรียกเจ้าว่าลินลี่ย์ได้ไหม?”
“นับเป็นเกียรติของข้าขอรับ”
ลินลี่ย์ทาบมือขวาไว้ที่อกและน้อมตัวคารวะ
“ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ”ดูเหมือนฟิลิปจะยินดีมาก
ฮ็อกที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะ
“ฟิลิป อย่าเสียเวลากับเด็กเลย ดู ราชสีห์คลั่งที่ท่านต้องการมานานมาถึงแล้ว”
ขณะที่พูดฮิลแมนบอกประติมากรรมหินขนาดใหญ่เข้ามาในห้องโถงและวางลงอย่างง่ายดาย
รูปสลักหินหนักร่วมพันปอนด์แต่ในมือของฮิลแมน
มันดูเหมือนแค่ตุ๊กตาของเล่นตัวหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงพละกำลังของฮิลแมน
“ท่านฮิลแมน
พลังของท่านช่างน่าทึ่งในคฤหาสน์ของข้าไม่มีใครที่พลังเท่าท่าน
แม้ว่าข้าจะดูแลเมืองถึง 12 เมือง” ฟิลิปยิ้มขณะที่พูด
แต่ความหมายใจวาจาเป็นที่เข้าใจได้ชัดว่าต้องการชวนให้ฮิลแมนไปทำงานให้เขา
ฮิลแมนตอบอย่างเย็นชา“อู่ซันคือบ้านเกิดข้าขอรับ”
“งั้นข้า ก็ขอโทษด้วย”
ฟิลิปรีบกล่าวคำขอโทษ
ฟิลิปหันมามองฮ็อก“ท่านฮ็อก
ข้าต้องพูดล่ะนะ แม้ว่าข้าจะชอบรูปสลักนี้มาก
แต่งานสลักศิลปะอย่างราชสีห์คลั่งนี้ยังไม่จัดว่าเป็นงานชั้นยอด
มันด้อยกว่าผลงานชิ้นโบว์แดงของปรมาจารย์เหล่านั้น
“ฟิลิป, ถ้าท่านไม่ต้องการซื้อมัน อย่างนั้นก็ลืมเสียเถอะ”
ฮ็อกพูดกระชับ
ฟิลิปหรี่นัยน์ตาอย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นเขาก็หัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า...ฮ็อก,อย่าเพิ่งเคืองกันสิ, ข้าไม่ได้บอกว่าข้าไม่ต้องการซื้อ
ข้าแค่กำลังพูดความจริง เรื่องนี้ ข้าตั้งใจจะซื้อรูปสลักนี้ 500เหรียญทอง
ท่านคิดว่ายังไง?
“ห้าร้อยหรือ?” ฮ็อกขมวดคิ้ว
ราคานี้ต่ำกว่าที่ฮ็อกหวังไว้มาก
เขาหวังว่าอย่างน้อยก็ต้องได้แปดร้อยเหรียญ
ในทวีปยูลานหนึ่งเหรียญทองเท่ากับสิบเหรียญเงิน
เท่ากับพันเหรียญทองแดงคนโดยทั่วไปสามารถหารายได้เพียง 20-30
เหรียญทองต่อปีแม้แต่ทหารโดยทั่วไปก็ทำได้เพียงร้อยเหรียญทองหรือมากกว่านั้นบ้าง
“ราคาต่ำเกินไป”
ฮ็อกส่ายหน้า
“ฮ็อก!
ท่านต้องรู้ว่าตลอดหมื่นปีที่ผ่านมาในทวีปยูลาน มีงานแกะสลักหินนับไม่ถ้วน
คุณค่าที่แท้จริงของรูปสลัก คุณค่าที่แท้จริงของรูปสลักนี้.. เอ่อ..
อ่า..ก็อย่างที่ข้าบอก ข้าชอบมัน ห้าร้อยเหรียญทองคือราคาสูงสุดที่ข้าจะให้ได้
ถ้าท่านไม่ยอมรับ อยางนั้นก็ลืมมันเสียเถอะ”
ฟิลิปหัวเราะขณะที่หันไปดูนาฬิกาของท่านปู่ในห้องโถง
สายตาเขาเป็นประกายพูดว่า “ฮ็อก,ถ้าท่านจะขายนาฬิกาเรือนนี้ ข้าจะจ่ายให้พันเหรียญทองเลย”
ฮ็อกมีสีหน้าเย็นชาทันที
“อะแฮ่ม..
สองพันเหรียญทองก็ได้นี่คือข้อเสนอสูงสุดของข้าแล้ว” ฟิลิปรีบพูด
ฮ็อกส่ายหัวหนักแน่นเด็ดเดี่ยว“นาฬิกาท่านปู่ไม่ได้มีไว้ขาย
สำหรับรูปสลัก หกร้อยเหรียญทองแล้วเอาไปได้เลย”
ฟิลิปดูฮ็อกอย่างระมัดระวังครู่หนึ่งจากนั้นหัวเราะเบาๆ
“ก็ได้ ฮ็อก, เห็นแก่หน้าท่าน
หกร้อยเหรียญทองก็ได้ พ่อบ้าน!เอามาให้ข้าหกร้อยเหรียญทอง”
ผู้ดูแลคฤหาสน์ของเขายืนรออยู่ข้างนอกตลอดเวลา รีบวิ่งเข้ามาพร้อมถุงทอง
ถุงเหรียญทองหกถุง
“หกร้อยเหรียญทอง, ฮ็อก ท่านนับดูได้ถ้าต้องการ” ฟิลิปยิ้ม
ฮ็อกยกถุงแค่กะดูจากน้ำหนักอย่างเดียวฮ็อกมั่นใจว่ามีเหรียญทองหกร้อยเหรียญในถุงนี้ถุงละร้อยเหรียญ
ฮ็อกยิ้มแล้วพยักหน้า “ฟิลิปอยู่กินมื้อค่ำกับพวกเราเป็นไง?”
“ไม่ต้องก็ได้
ข้ายังมีธุระต้องกลับไปบ้าน” ฟิลิปหัวเราะ
พ่อบ้านของฟิลิปสั่งให้นักรบที่แข็งแรงช่วยยกและแบกรูปสลักหินออกไปซึ่งพวกเขาแบกออกไปอย่างยากลำบาก
หลังจากฟิลิปและผู้ติดตามแยกกลับไปแล้วฮ็อกจ้องมองถุงเหรียญทองหกถุงด้วยแววตาหม่นหมอง
ตอนนี้เขาขายรูปสลักหินออกไปแล้ว ครั้งต่อไปเล่า?
แม้ว่าคฤหาสน์จะยังมีของมีค่าเหลือมากมาย แต่ไม่ช้ามันคงจะหมดไม่เหลืออะไร
“ท่านพ่อ
ข้าต้องการเรียนเป็นช่างสลัก”ลินลี่ย์พูดทันที
ลินลี่ย์รู้ดีว่าในทวีปยูลาน
ช่างสลักผู้มีฝีมือเหล่านั้นสามารถสร้างสรรค์งานมีราคาถึงหมื่นเหรียญทองต่อชิ้น
ช่างแกะสลักที่มีชื่อเสียงบางคนสร้างรายได้ถึงแสนเหรียญต่อชิ้นนอกจากความร่ำรวยแล้ว
ระดับสถานะทางสังคมของช่างแกะสลักก็สูงส่งมาก
“ถ้าข้าเป็นช่างแกะสลักที่มีฝีมือได้อย่างนั้น...อย่างนั้นท่านพ่อก็ไม่ต้องขายสมบัติของตระกูลเราต่อไป”นี่คือสิ่งที่ลินลี่ย์คิด
“แกะสลักหรือ?” ฮ็อกจ้องลินลี่ย์ สายตาของเขาเย็นชา
“ลินลี่ย์เจ้ารู้ไหมว่าบรรดาประชากรร้อยล้านในสหภาพศักดิ์สิทธิ์มีคนอย่างน้อยก็หลายล้านเรียนวิชาแกะสลัก
แต่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
จำนวนยอดฝีมือนักแกะสลักที่แท้จริงแทบจะนับนิ้วมือได้
ถ้าเจ้าไม่มีคนสอนที่ดีเจ้าไม่มีทางสำเร็จได้ด้วยตัวเองแน่”
“ในวงการนักแกะสลักไม่ใช่ที่ๆ
คนธรรมดาจะเข้าถึงได้ เจ้าเพียงแต่ดูราคาสูงลิ่วของยอดฝีมือนักแกะสลัก
แต่เจ้ารู้ไหมว่านักแกะสลักส่วนใหญ่ทำรายได้ปีหนึ่งไม่กี่สิบเหรียญทอง?”
เสียงของฮ็อกเกรี้ยวกราด
ลินลี่ย์กลัวมากเขาคุกเข่าลงทันทีตอนนี้เขาพูดไปเพราะคิดว่าการแกะสลักสามารถยกฐานะครอบครัวได้
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้บิดาเขาพูดมากและสั่งสอนเขาอย่างหนักขนาดนี้
“พอแล้ว
หอบรรพบุรุษจำเป็นต้องทำความสะอาด หลังมื้อกลางวัน
ไปทำความสะอาดซะ”ฮ็อกพูดเสียงเย็นชา
“ขอรับ
ท่านพ่อ” ลินลี่ย์พูดอย่างนอบน้อม
พอมองดูลินลี่ย์แล้วฮ็อกลอบถอนใจ
“แกะสลักหรือ? โธ่เอ๋ย, เด็กน้อย เจ้ารู้ไหมว่าในอดีตข้าก็ฝึกแกะสลักมาก่อน?
ข้าใช้เวลาสิบปีเต็มเพื่อเรียนรู้ แต่โชคร้าย รูปสลักของข้าไม่มีราคาสักเหรียญ”
ฮ็อกก็เช่นกัน
เคยมีความฝันโง่ๆอยากเป็นช่างแกะสลักผู้เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับสถานะครอบครัวด้วยเช่นกัน
แต่ในใจเขาเขารู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์มาก
เสียเวลาฝึกถึงสิบปีงานสลักของเขากลับไม่มีค่างวดอะไร
ด้านการแกะสลักนั้นมีอธิบายได้เหมือนกับปิรามิด
ยอดฝีมือนักแกะสลักที่มีชื่อเป็นยอดบนของปิรามิด
พวกเขาเพลิดเพลินกับสถานะอันสูงสุดและงานแต่ละชิ้นทำราคาได้เป็นแสนเหรียญต่อชิ้น
แต่คุณค่าของงานช่างแกะสลักฝีมือระดับต่ำนับไม่ถ้วนก็เหมือนกับฐานปิรามิด
มีราคาต่ำ
งานของพวกเขาถูกคนธรรมดาซื้อในราคาไม่กี่เหรียญเงินเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับบ้านเท่านั้น
2 ความคิดเห็น:
เป็นพ่อที่โง่ เป็นผู้นำที่ไม่ได้เรื่อง แล้วจะสอนลูกออกมาได้ดีเหรอ
รักท่านพ่อค่า💗💗
แสดงความคิดเห็น