วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 214 กรงเล็บเพลิงจ้าวปีศาจ

ตอนที่  214  กรงเล็บเพลิงจ้าวปีศาจ

เบื้องหลังประตูแสง กรงเล็บภูตพรายมีร่างที่เลือนรางมากและลอยอยู่ในอากาศ

เขาอยู่ในอาการมึนงง มองดูถังเทียนคำราม ดูถุงมือเพลิงภูตพรายของถังเทียน ดูแสงลุกโชนในมือของถังทียน  มองดูถังเทียนใช้เคล็ดสังหารของเขาเผชิญหน้ากับแสงที่โจมตีลงมาจากเมฆ
แสงสีเงินแพรวพราวจากนิ้วทั้งสิบของถังเทียน บอลแสงสว่างจ้าสิบลูกเหมือนกับดวงดาวสิบดวงในท้องฟ้ายามราตรี
นั่น... กรงเล็บเพลิงภูตพราย
เฒ่ากรงเล็บภูตพรายมองดูอย่างมึนงง
เหมือนกับว่าเวลาชะงักค้าง  ดวงดาวในตาของเขาขยายประกาย  เมื่อเทียบกับประกายที่เกิดจากการเสียดสีอากาศ  พลังนี้แข็งแกร่งกว่ามาก  และยังห่างไกลกว่ามาก เหมือนกับว่าเขาสามารถรู้สึกได้ถึงปราณที่น่าทึ่งออกมาจากประกายที่กระเด็นออกมาจากฝ่ามือของถังเทียน
แข็งแกร่ง.... นั่นแข็งแกร่งจริงๆ....
อย่างนั้น.... การแผดเผาปราณแท้ก็คือความหมายแท้จริงของกรงเล็บเพลิงภูตพรายสินะ!
นั่นคือกรงเล็บเพลิงภูตพรายของจริง!
ถังเทียน, เจ้าทำได้ดี!
กรงเล็บภูตพรายมีรอยยิ้มแห้งๆ และค่อยๆ ขยายกลายเป็นยิ้มเต็มหน้า และหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ทันใดนั้นเขาหยุดเสียงหัวเราะ นิ้วที่ซูบอ่อนแอแต่เหมือนเหล็กกำหมัดทันที  หน้าที่ตะลึงของเขาแสดงออกว่ามีความสุข  เขาหันหน้ามาทางประตูดวงดาวและพูดหนักแน่นว่า “ถังเทียน, เจ้าทำได้ดี!
เหมือนกับว่าเขากำลังขยายแสงกำเนิดใหม่  ความมืดและความงงที่ปรากฏบนใบหน้าเขาที่หายไปแล้ว  รอยย่นของเขาหายไปและเขายืดหลังขึ้น
พ่อหนุ่ม, ข้าเห็นทุกอย่างที่เจ้าต้องการให้ข้าเห็น...
หนุ่มชาวฟ้า  ขอบใจเจ้ามาก
หนุ่มน้อย  ข้าต้องขอบใจเจ้าจริงๆ....
ใบหน้าที่แห้งและบางของกรงเล็บภูตพราย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น  ทุกอย่างที่ห่อหุ้มหัวใจเขา  ความปรารถนาทั้งปวง สลายหายไปทั้งหมด สิ่งที่เหลืออยู่เป็นความรู้สึกพอใจและโล่งใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หนุ่มน้อย  นับจากนี้ไปข้าคงไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าได้อีกแล้ว
แต่โปรดอย่าได้เศร้าเสียใจเพราะข้าเลย  วิญญาณนี้เสียหายหนัก  แค่นี้ก็น่าพอใจแล้ว
หนุ่มน้อย, ขอบคุณเจ้า ข้าต้องขอบคุณเจ้าจากก้นบึ้งหัวใจข้าจริงๆ
โปรดรับของขวัญชิ้นสุดท้ายของข้าไว้ด้วย
แม้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของข้าจะมืดมนไปแล้ว  แม้ว่าปณิธานข้าจะสลายไปแล้ว แม้ว่าข้าจะต้องสลายไปกับสายลม และแม้ว่าข้าจะต้องตัดความเชื่อมโยงเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารการเกิดใหม่อีกครั้ง
แต่หนุ่มน้อย, ก่อนที่ข้าจะหายไป โปรดรับพลังสุดท้ายของข้าไว้ด้วย
ในเสียงตะโกนของถังเทียน ขณะที่ถุงมือกรงเล็บเพลิงเปล่งประกายรัศมีแพรวพราวในท่ามกลางกิลโยตินกาเพลิงที่น่ากลัว  ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายเดินกลับมาที่ประตูแสง
ที่ประตูแสง การ์ดทองเรียงออกมาเป็นแถวทีละใบ
หมัดประกายไฟ, หมัดทลายน้อย, เท้าดาบถานถุ่ย, วังวน....
เคล็ดวิชาทั้งหมดที่ถังเทียนฝึกฝนทุกวัน ทุกวิชาได้ปลุกเคล็ดสังหารทั้งหมด  เคล็ดทั้งหมดปรากฏอยู่หลังประตูแสง  ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นการ์ดทอง จนถึงวันนี้ จำนวนการ์ดบนประตูแสงมีจำนวนไม่น้อย
แต่เรื่องน่าเสียดายเรื่องเดียวก็คือ วิทยายุทธเหล่านั้น ไม่มีวิชาระดับสุดยอดเลยแม้แต่วิชาเดียว
สายตาของกรงเล็บภูตพรายหยุดนิ่งอยู่ที่การ์ดกรงเล็บเพลิงภูตพรายที่เพิ่งจะปรากฏ  ปิงเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องประตูแสงมาก่อน  ข้างหลังมันจะเป็นผนังวิทยายุทธเก่า วิทยายุทธของกองทหารของปิงทั้งหมดมีอยู่บนนั้น  แต่ตอนนี้  วิทยายุทธทั้งหมดหายไปแล้ว นี่คือสาเหตุที่เขาต้องการสอนวิทยายุทธถังเทียน แต่ไม่มีทางเลือก และสามารถทำได้เพียงพัฒนาการวิธีฝึกฝนเขาให้ก้าวหน้าเท่านั้น
ปิงยังคงพูดถึงเรื่องการใช้ประตูแสงในลักษณะอื่น เช่นอนุมานหรือสรุปจากวิทยายุทธอื่น
ผนังวิทยายุทธครอบคลุมไปด้วยวิทยายุทธมากมาย  การหลอมรวมกันระหว่างการ์ดวิทยายุทธได้สร้างวิทยายุทธใหม่ๆ ขึ้น  แต่การหลอมรวมนี้จำเป็นต้องได้การหนุนเสริมจากจิตวิญญาณพลังยุทธ
เมื่อมองเห็นวิทยายุทธที่อยู่เบื้องหลังผนังแสง  ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายยกนิ้วลูบการ์ดกรงเล็บเพลิงภูตพราย
ร่างผอมแห้งของกรงเล็บภูตพรายมีแสงเรืองบางๆ รอบตัวเขา ขณะที่แสงไหลไปตามนิ้วของเขาและถ่ายเข้าไปอยู่ในวิชากรงเล็บเพลิงภูตพราย 
ในท่ามกลางแสง  ร่างของผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายจางลงทุกทีและดูผอมมากขึ้น
หน้าของกรงเล็บภูตพรายแสดงความไม่พอใจทันที แล้วจู่ๆ เขาตะโกน “พ่อหนุ่มชาวฟ้า เจ้าต้องทำได้ดีที่สุดแน่นอน!
ทั้งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า กรงเล็บภูตพรายจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังประตูแสง ไม่มีใครอยู่ในนั้นอีก
การ์ดวิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายอยู่บนผนังเก็บวิทยายุทธ ฉาบด้วยแสงสีหมองคล้ำเป็นพิเศษ
 “หนุ่มน้อยชาวฟ้า, เจ้าต้องพยายามต่อไป!
เสียงอ้อยอิ่งดังก้องสะท้อนผ่านเข้ามา
※※※

ถังเทียนเบิกตากว้าง ขณะที่สายลมหวีดหวิวอยู่ข้างหูเขา  ในสายตาของเขา กิลโยตินกาเพลิงกำลังบดกระแทกลงมาจากท้องฟ้า
พลังปราณเที่ยงแท้ที่เผาผลาญอยู่ที่ปลายนิ้วของเขา  ปราณกระเรียนในร่างของเขาที่อยู่ในสภาพสูงสุดอัดเข้าไปในนิ้วทั้งห้า  แต่ละนิ้วถูกคลุมไปด้วยบอลแสงสว่างสีแดง
บอลเพลิงแดงแต่ละลูกสว่างเหมือนดาวสีแดง  เมื่อเขากางนิ้วทั้งสิบออก เป็นเหมือนว่านิ้วของเขาถือดาวไว้สิบดวง
พลังปราณเที่ยงแท้ไหลเข้าไปในบอลแสงอย่างต่อเนื่องและแผดเผาต่อเนื่อง
ไม่มีทาง!
มันยังไม่พอ!
ใบหน้าถังเทียนดุร้าย ขณะที่เขาเบิกตากว้างซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ  ใจของเขามีแค่เพียงความคิดเดียว
ข้าต้องทำให้ได้  ต้องให้ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายได้เห็นภาพนี้
เห็นภาพความเฉิดฉายของกรงเล็บเพลิงภูตพรายให้ได้
อย่างแน่นอน
ถังเทียนตะโกนลั่นเหมือนสัตว์ป่า  ปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในตัวของเขาโคจรเข้าไปในนิ้วทั้งสิบ  เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขาด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
จงมา..ปราณเที่ยงแท้, ปราณเที่ยงแท้, ปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดของข้า
ไม่พอ, ไม่พอ ยังไม่พอ!
ทันใดนั้น ตาของถังเทียนหรี่แคบ ช่วงเวลาที่วิกฤติอย่างนั้น เขาไม่ได้สำรองปราณเที่ยงแท้เก็บไว้ในร่างเลย
หลังจากนิ่งงันถังเทียนโกรธทันที
ไม่!
เขากระตุ้นปราณกระเรียนอย่างบ้าคลั่ง  ปราณแท้ เขาต้องการปราณแท้เพิ่มขึ้นอีก
แต่เส้นชีพจรของเขาไม่มีปราณแท้สำรองเหลือไว้เลยแม้แต่น้อย
กิลโยตินกาเพลิงใกล้เข้ามาขณะที่ถังเทียนจ้องมองอย่างสิ้นหวัง  เขารู้ว่าวิชานี้สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แน่นอน  แต่เขาจำต้องได้ปราณเที่ยงแท้อย่างเพียงพอ
ยิ่งเขาเผาผลาญปราณเที่ยงแท้มาก พลังของวิชานี้ก็จะทรงพลังมาก
ถังเทียนกัดริมฝีปากขณะที่เขาจ้องมองกิลโยตินกาเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างเขม็ง  เขาใช้พลังทั้งหมดกระตุ้นปราณกระเรียน
ในมุมหนึ่งของตู้เก็บอาวุธอควาเรียสยังเหลือของที่เขาลืมไปแล้ว  กระเรียนบรอนซ์เริ่มเปล่งแสง  นั่นคือนกกระเรียนบรอนซ์ที่ถังเทียนได้มาจากเมืองสามวิญญาณ
กระเรียนบรอนซ์เปลี่ยนเป็นรัศมีเขียวสว่างชอนไชอยู่ในร่างของถังเทียน
แม้แต่ถังเทียนรู้สึกเหมือนถูกธนูยิง  เขาชะงัก ขณะที่ม่านตาขยายอย่างรวดเร็ว  นี่...
พลังปราณเที่ยงแท้ที่สามารถบดทำลายโลกระเบิดออกมาจากตันเถียนของเขาไม่มีวี่แวว  เหมือนสายน้ำบ่าโคจรไปตามเส้นชีพจรที่เหือดแห้งของเขา
เส้นชีพจรเป็นเหมือนร่องน้ำใหญ่ที่แห้งผาก
ขณะที่ปราณเที่ยงแท้โคจรไปตามเส้นชีพจรที่แห้งผากนี้ มันไหลบ่าไปโดยไม่มีอะไรขวางกั้น  ถังเทียนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน  แต่ละครั้งที่ปราณเที่ยงแท้ผ่านจุดชีพจรและเส้นเดินปราณ ทำให้ร่างของเขาสั่น
ร่างของเขาสั่นเขย่าอย่างแรงเหมือนตะแกรง
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับตันเถียนของเขาในฐานะที่เป็นจุดศูนย์กลางพลังขยายออกไปตามร่างกายแต่ละส่วนของเขา  สมมติว่าหากถังเทียนไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรๆ ระลอกคลื่นและรูปแบบที่ปราณแท้โคจรจะสามารถเห็นได้ ขณะที่มันขยายออกมาจากตันเถียนไปทั่วร่างกาย
ปราณแท้โคจรอย่างสะดวกผ่านคอของถังเทียนขึ้นไปถึงสมองของเขา  ทันใดนั้น ถังเทียนชะงักค้างขณะที่ความกระหายเลือดในดวงตาหายไป  แต่ในตาเขามีเงาร่างกระเรียนขาวดังหิมะตัวหนึ่ง
เสียงร้องของนกกระเรียนดังชัดเจนอยู่ในหัวของถังเทียน
ปัง!
ปราณเที่ยงแท้ไหลโคจรเข้าไปในแขนของเขา ผ่านข้อมือเข้าสู่นิ้วทั้งสิบ
รอบๆ นิ้วมือของถังเทียนมีบอลแสง และแสงนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวเงินอย่างรวดเร็ว
แสงสว่างเจิดจ้ายิงออกจากนิ้วทั้งสิบของเขาสร้างความรู้สึกประหนึ่งนั่นคือแสงสว่างจากดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดในจักรวาล
เมื่อสูญเสียการเพ่งจ้อง ถังเทียนคิดว่าเขาเห็นกระเรียนสีขาวงดงามกำลังเต้นไปรอบๆ
เขารู้สึกว่าความรู้สึกแสบร้อนจากนิ้วมือของเขาทำให้เขาสั่นระรัว
นี่คือปราณเที่ยงแท้
ใช่แล้ว นี่คือปราณแท้!
ทันใดนั้น ถังเทียนกลับมาสู่ความเป็นจริง กระเรียนขาวที่ร่ายระบำหายไป ลำแสงรูปกามาปรากฏถึงตรงหน้าเขาแล้ว  คมขอบของแสงเล็งตรงมาที่เขา
ถังเทียนจ้องมองทั้งที่ยังสับสน!
มาเลย!
โดยไม่มีอะไรต้องคิดมาก  เขากางนิ้วทั้งสิบขณะคว้าจับลำแสงดำ
ดาวทั้งสิบลอยออกจากนิ้วของเขา ขณะที่ดาวเหล่านั้นลอยอยู่ในอากาศ ก็เปลี่ยนสภาพเป็นลำแสงสว่างเจิดจ้าสิบสาย  แสงสว่างสดใสที่เหมือนกับหิ่งห้อยบินเข้าหาลำแสงสีดำ
เมื่อมองดูแสงสว่างสิบสาย ถังเทียนสงบทันที
กรงเล็บภูตพราย ท่านเห็นหรือเปล่า?
กรงเล็บเพลิงภูตพราย นี่คือความสว่างรุ่งเรืองของกรงเล็บเพลิงภูตพราย!
งดงามไม่ใช่หรือ!
นี่เรียกว่าหิ่งห้อยจ้าวปีศาจ  นั่นเป็นชื่อที่เหมาะสมในตอนนี้มาก
ถังเทียนสะอื้นและน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว  เขาเม้มริมฝีปากแน่น ขณะมองดูภาพประกายไฟข้างหน้าที่พุ่งออกไปราวกับดาวตก
แสงสว่างเจิดจ้าทั้งสิบและกาแสงเริ่มเข้าใกล้กัน
ความโกรธทำให้ถังเทียนร่ำร้องตะโกนอยู่ในใจของเขา
จงเปล่งประกาย, หิ่งห้อยจ้าวปีศาจ!
ปัง ปัง!
แสงรังสีนับไม่ถ้วนบินกระจายออกอยู่ต่อหน้าเขา อากาศระเบิดทันที ขณะที่ระลอกคลื่นปราณ กวาดกระจายออกไปโดยรอบกวาดทุกสิ่งทุกอย่างออกไป  กัวตงที่กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศเป็นเหมือนกับใบไม้ ภาพการมองของเขาสั่นไหวทันที
ทันใดนั้น หิ่งห้อยแสงสามจุดโผล่ออกมาจากแรงระเบิดและพุ่งเข้าหากัวตง
กัวตงหน้าถอดสี  ในขณะที่กำลังแตกตื่น  เขาใช้กระบี่กาเพลิงยะเยือกเป็นโล่ป้องกันเขา   จุดไฟสามจุดปะทะลงบนตัวกระบี่ ปัง ปัง ปัง กระบี่กาเพลิงยะเยือกแตกหักเป็นสามท่อน
กัวตงบาดเจ็บจากพลังโจมตีครั้งเดียวขณะที่เขาปลิวกระเด็น  เขากระอักโลหิตมองดูด้วยแววตาเหลือเชื่อ
เป็นไปไม่ได้....
ถังเทียนไม่ได้รู้ถึงชัยชนะ หรือมีความสุขแต่อย่างใด
เขามองดูกัวตงกระเด็นลอยออกไป
เมื่อเห็นกัวตงฝืนตนเองกระตุ้นปราณเที่ยงแท้  ร่างของเขาเต็มไปด้วยเพลิงแดงเข้มมองดูเหมือนกาเพลิง  เขาพุ่งไปอยู่ต่อหน้าปิงเพื่อขัดขวางการโจมตีที่หนักหน่วง ขณะที่เขาฉวยโอกาสนี้ช่วยกัวอวี่ที่ได้รับบาดเจ็บ
ถังเทียนไม่ได้ไล่ตาม  เขายืนงงอยู่ที่เดิม  หัวใจเต็มไปด้วยความเสียใจ
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย, ท่านเห็นภาพนั้นหรือเปล่า?
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย, ทำไมข้าไม่รู้สึกถึงปราณของท่าน?
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย...
ทันใดนั้น ดูเหมือนเสียงเลือนรางดังมาตามสายลม
 “หนุ่มน้อยชาวฟ้า, เจ้าจงพยายามต่อไป”
ถังเทียนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลได้อีกต่อไป เขาตะโกนเรียกทันที
※※※

อาเฮ่อ (หนุ่มน้อยจากดาวกระเรียนฟ้า) กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางจู่ๆ ก็รู้สึกมีแรงสั่นสะเทือนรอบเอวของเขา
อาเฮ่อตกใจมองดู แต่แล้วสีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นดีใจ เมื่อหยิบกระบี่ขึ้นดู  หน้าของเขารู้สึกเหลือเชื่อ ขณะบ่นพึมพำ “ลูกปัดกระเรียนฟ้า!  ความจริงเขามีลูกปัดกระเรียนฟ้าอยู่ด้วย”
อาเฮ่อสีหน้าเคร่งขรึม ขณะที่เขาชูกระบี่ขึ้น ขานคำขึ้นว่า
 “แดนกำเนิดกระเรียนฟ้า  ในนามของหมู่ดาวกระเรียนฟ้า, จงเปิด”
กระบี่ในมือของเขาเปล่งประกายแพรวพราวทันทีและยิงแสงรังสีทอง ฉายแสงสะท้อนร่างของอาเฮ่อจนเป็นสีเหลืองทอง
อาเฮ่อ ค่อยๆ ลดกระบี่ลงช้าๆ
มันทิ้งรังสีทองสว่างเจิดจ้าที่ไม่ได้จางหายไป ในวินาทีต่อมาแสงนั้นเปลี่ยนสภาพเป็นประตูบานหนึ่ง
อาเฮ่อสอดกระบี่กลับมาไว้ที่เอวและจัดชุดยาวของเขา สีหน้าดูเคร่งเครียดจริงจัง  เขาเดินเข้าไปในประตูแสง
ข้ากำลังมาแล้ว!

*******************************
 

11 ความคิดเห็น:

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sky กล่าวว่า...

เศร้าอ่ะ น้ำตาจะไหล ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายจะหายไปจริงๆเหรอ เศร้ามากเลย ฮือออออออ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุบคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ แด่เฒ่ากงเล็บภูตพราย ./\.

Unknown กล่าวว่า...

ไม่นะ ผมอุตส่าเชียร์ตาแก่บ้านนอกให้สู้กับปิงซักครั้ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พอหมดห่วงก็หายไป พอสรุปตอนจบได้ละ ดราม่าแน่นอน

Lucky กล่าวว่า...

ขัดใจฉิบหายจะมัวนิ่งทำซากไรแทนที่จะพุ่งเข้าไปซ้ำ

Unknown กล่าวว่า...

โคตรเศร้าาาอะ

Unknown กล่าวว่า...

บรรยายเยอะ

แสดงความคิดเห็น