วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 246 ตัวก่อปัญหา

ตอนที่  246  ตัวก่อปัญหา

ถังเทียนตะลึง  คนในกระจกแปลกตาเกินไปและกลิ่นอายที่เฉื่อยชาไม่อนาทรนั้นเป็นครั้งแรกสำหรับเขา  หลังจากนั้นชั่วขณะ  จุดแหลมเล็กในม่านตาของเขาก็หายไปพร้อมกับกลิ่นอายที่เฉื่อยชานั้นอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว

นั่นต้องเป็นภาพลวงตาแน่!
ถังเทียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า หนุ่มชาวฟ้านี้เป็นบุรุษเลือดอุ่นสีฟ้าอย่างแน่นอน  เขาหันหน้าเข้าหากระจกเงาและยิ้มเห็นฟันสีขาวหิมะพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นสดใส
ถังเทียนรีบผลักความสงสัยนี้ไว้เบื้องหลัง  จิตวิญญาณพลังยุทธที่เสริมพลังได้เพิ่มสัญชาตญาณให้กับเขา  สัมผัสที่หกของเขาไวขึ้นและรอบตัวดูเหมือนจะเป็นโลกที่ซับซ้อนขึ้น
ถังเทียนต้องการเวลากับการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงนี้
 “หิมะสายฟ้า  มาทดสอบกันเถอะ!
ทันทีที่ถังเทียนเริ่มควบคุมหิมะสายฟ้า  เขาสังเกตว่ามีความแตกต่างอย่างมาก  หิมะสายฟ้าดูเหมือนจะมีความเข้าใจทุกอย่างได้เร็วขึ้นและมันฉลาดขึ้นมาก  ก่อนหน้านี้ เมื่อถังเทียนออกคำสั่งมัน หิมะสายฟ้ามักจะลังเลอยู่บ้าง แม้ว่าจะอยู่ภายใต้การสนับสนุนให้กำลังใจของเขา  อาการลังเลใจเหล่านี้ถึงจะลดลงไปมาก แต่ก็ยังคงมีอยู่
แต่ตอนนี้ถังเทียนไม่รู้สึกถึงความลังเลหรือชะงักงันเลย  หิมะสายฟ้าแทบจะมีปฏิกิริยาทันทีที่เขาคิด
หิมะสายฟ้ากลายเป็นฉลาดและแม่นยำขึ้น
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจอย่างแท้จริงก็คือความคุ้นเคยของหิมะสายฟ้ากับวิทยายุทธสามรูปแบบ เท้าดาบถานถุ่ย, ประทับหัตถ์ใหญ่และวังวนวิหคขาว ที่ทำให้ประหลาดใจมากยิ่งขึ้นก็คือมันสามารถใช้ได้กระทั่งเคล็ดสังหาร
เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อเขาใช้เพลิงวิญญาณของเขาฝึกให้หิมะสายฟ้า  ความเข้าใจของเขาในวิชาเหล่านี้ หิมะสายฟ้าก็สามารถซึมซับรับเอาไปด้วย?
ถังเทียนคิดอยู่นาน ก็ยังไม่แน่ใจ เขาเลยถามหิมะสายฟ้าตรงๆ
 “ใช่...ใช่แล้ว”
เสียงที่ไม่คุ้นเคยและห้าวดังขึ้นในใจของถังเทียน  ตาของถังเทียนแทบถลน ตกตะลึง ผ่านไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเรียกความรู้สึกกลับมาได้ และถูกความตื่นเต้นครอบงำทันที  "หิมะสายฟ้า นั่นเจ้าหรือเปล่า? เมื่อกี๊..เจ้าพูดใช่หรือเปล่า?”
 “ใช่” เสียงของหิมะสายฟ้าดังชัดมากกว่าเดิม  “ถังเทียน, ข้าคือหิมะสายฟ้า”
เสียงของหิมะสายฟ้าเหมือนกับเด็กน้อยขี้อาย
 “ว้าว ว้าว ว้าว! หิมะสายฟ้าพูดได้ด้วย!  ถังเทียนแทบกระโดดโลดเต้นดีใจ  นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย  “ข้าจะเพิ่มแก่นพลังวิญญาณให้เจ้า  หิมะสายฟ้า เจ้าจะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
 “โปรดอย่าทำ!  หิมะสายฟ้าตอบเช่นนี้ทำให้ถังเทียนตะลึง  “ข้าถึงขีดจำกัดเท่าที่ทองอีกาจะทนได้แล้ว  ดังนั้น จิตวิญญาณพลังยุทธของข้าไม่อาจเสริมพลังมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว”
เมื่อตระหนักได้เช่นนั้นถังเทียนงง “อย่างนั้นข้าจะให้เซรีนช่วยเรื่องนี้”
 “โปรดใช้เวลาช่วงนี้ฝึกฝนให้เต็มที่ดีกว่า”  หิมะสายฟ้าเตือนถังเทียนด้วยน้ำเสียงแฝงความอาย  “ข้ายังแข็งแกร่งไม่พอ  ดังนั้นข้าขอเรียนวิทยายุทธทั้งสามของท่านดีกว่า  เราจำเป็นต้องมีวิชาอื่นๆ อีก โปรดอย่าเพิ่งวางใจ”
 “หิมะสายฟ้าน้อย  เจ้าพูดถูก”  ถังเทียนพูดขึงขัง  “มีเวลาอีกสามวันก่อนการแข่งขันจริง  เราต้องฝึกฝนอย่างหนัก!  ทีมสายฟ้ากะหิมะ สู้สู้สู้!
หิมะสายฟ้าแย้งเสียงอ่อย  “โปรดอย่าทำอย่างนี้  คำว่าหิมะ เป็นชื่อผู้หญิง...”
 “ไอ้หยา.. หิมะสายฟ้าน้อย  อย่าทำตัวเป็นจิตวิญญาณพลังยุทธที่เคร่งเครียดนักเลย  หลังจากการแข่งขันนี้แล้ว  ข้าก็ไม่ใช้อีกต่อไปแล้ว”  ถังเทียนพูดอย่างไม่ไยดี
 “แต่ว่า....”
 “อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย!  ไปฝึกกันได้แล้ว!
ถังเทียนหมกมุ่นกับการฝึกฝนของเขาเสียแล้ว
ขณะที่เวลาผ่านไป เขายิ่งเข้าใจอาวุธจักรกลได้ดีขึ้น  อาวุธจักรกลและสมบัติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง   สมบัติดวงดาวนั้นมีพลังอยู่แต่แรก และนักสู้เพียงปลดปล่อยพลังเหล่านี้ออกมา  ในขณะที่อาวุธจักรกลไม่มีพลังงานในตัวเอง และมันจะใช้พลังจากนักสู้จนถึงระดับสูงสุดเท่านั้น
จิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลและสมบัติดวงดาวก็มีการใช้งานที่แตกต่างเช่นกัน
จิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลเป็นแกนระหว่างนักสู้และอาวุธจักรกล มันช่วยกรองปราณแท้ที่นักสู้ถ่ายเทเข้ามาในอาวุธจักรกล เพิ่มพลังปราณแท้ก่อนปล่อยออกมาในรูปวิทยายุทธ เหมือนกับสมองของอาวุธจักรกล
ในทางตรงกันข้าม จิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติจะอยู่ที่แก่นพลังสมบัติ  มันจะค่อยๆ ดูดซับพลังงานและเก็บกักเอาไว้ในสมบัติ  วิธีนี้คล้ายกับการฝึกฝนพลังภายในของนักสู้
แต่ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจักรกลหรือสมบัติก็ตาม  ความสำคัญของจิตวิญญาณพลังยุทธไม่จำเป็นต้องพูดถึงกันแล้ว
ความรับรู้และประโยชน์เหล่านี้ลึกซึ้งเกินไปสำหรับถังเทียน
ขณะที่ถังเทียนและหิมะสายฟ้ากำลังซึมซับในการฝึกฝนของพวกเขา เสียงสับสนวุ่นวายดังมาจากนอกประตูและเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของเซรีนแว่วดังมา
ถังเทียนหยุด ด้วยสีหน้าเย็นชา เขาควบคุมหิมะสายฟ้าวิ่งออกไป
เมื่อวิ่งมาถึงที่ทางเข้าลาน เสียงบ่นของเซรีนดังจนได้ยิน
 “เราเช่าบ้านหลังนี้ไว้แล้ว เงินก็จ่ายไปและเซ็นสัญญาไปแล้ว เจ้ามีสิทธิอะไรถึงให้เรามายกบ้านให้เจ้า?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเทียนเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นขณะที่เขาเดินออกมา
อาวุธจักรกลจำนวนหนึ่งรายล้อมประตูไว้  และบุรุษที่หน้าแหลมเหมือนหนูแค่นเสียงเย็นชา  “สัญญาหรือ?  เราก็มีสัญญาฉบับคัดลอกเหมือนกัน  จ่ายหรือ? เราก็จ่ายเหมือนกัน?  ทำไม? ข้าต้องการที่ดินผืนนี้  ขึ้นอยู่กับเจ้าจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเจ้า หรือยังไง หึหึหึ”
การวิวาทกันของทั้งสองฝ่ายสร้างความสนใจให้กับคนหลายคน  คนส่วนใหญ่จำคนเหล่านี้ได้  พวกเขาคือนักเลงท้องถิ่นของเมืองม่อเฉิง และคนที่พูดก็คือม่อลิ่ว  ในเมืองม่อเฉิง คนแซ่ม่อมักจะมีสายสัมพันธ์กับตระกูลม่อ และม่อลิ่วเป็นนักเลงคุมถนนสายนี้  เขามักจะมีธุรกิจสกปรก แต่เนื่องจากตระกูลม่อปล่อยให้เขาเหิมเกริม  เขาจึงกลายเป็นนักเลงท้องถิ่น
พวกเขาเดินเข้ามาใกล้
คนจิตใจดีบางคนแนะนำเซรีน  “แม่นาง, ยอมถอยสักก้าวเถอะ  อย่าเอาพิมเสนไปแลกเกลือเลย”
เซรีนไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนั้น นางโกรธจนแทบจะร้องไห้
ม่อลิ่วยังคงโอหัง  เขามองเซรีนด้วยสายตาที่มีแววหื่นกระหาย  เขาเลียริมฝีปาก  “แหกตาให้กว้างไว้   นี่คือถิ่นข้า  แต่ข้าเห็นว่าเจ้าก็ดูดีเหมือนกันนะ หึหึ...”
ทันใดนั้น เงาร่างน้ำเงินปรากฏวูบอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนั้น
ปัง!
คำพูดของม่อลิ่วชะงักกระทันหัน และเขาลอยละลิ่วเหมือนเหมือนกระสอบทรายก่อนจะร่วงลงกับพื้นอย่างหนัก  แรงเตะของหิมะสายฟ้าทรงพลังมากจนม่อลิ่วสลบเหมือดกับพื้น เลือดไหลออกจากมุมปากเขา
หิมะสายฟ้าปรากฏอยู่หน้าคนกลุ่มนี้
 “กล้าดียังไงมาก่อเรื่องหน้าบ้านข้า  พวกเจ้าเบื่อหน่ายชีวิตกันแล้วใช่ไหม?”  ถังเทียนส่งเสียงคำรามเย็นชาดังออกมาจากหิมะสายฟ้า
 “บังอาจจริงๆ!  บุรุษวัยกลางคนกระชากเสียง  “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลม่อ”
ถังเทียนไม่สนใจคำต่อรองอะไรของพวกเขา และพูดตามตรง  “เจ้าต้องการจะสู้หรือเปล่า?”
 “อย่านึกว่าเป็นเพราะเจ้าสอบผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้...”
บุรุษวัยกลางคนยังไม่ทันพูดจบประโยคเมื่อร่างสีฟ้ามาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาราวกับประกายไฟ  หนังตาเขากระตุกและได้แต่อุทานในใจขณะถอยกลับทันที  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะดุร้ายขนาดลงมือก่อน เจ้าผู้นี้ไม่เห็นหรือว่าเขามีคนมากกว่า?
ฮึ่ม!
เงาขาร่างสีฟ้าเฉียดผ่านหน้าเขาไป
บุรุษวัยกลางคนค่อยรู้สึกโล่งใจและแหกปากตะโกน  “เนื่องจากเจ้าไร้เหตุผลเกินไป....”
ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดจบประโยค ม่านตาของเขาหดลีบกะทันหัน หน้าของเขาแสดงอาการหวาดกลัว เงาขาสีฟ้านั้นอยู่นอกเหนือหลักการวิทยาศาสตร์จริงๆ มันงอและตวัดกลับในกลางอากาศขณะที่ดีดยิงดาบออกไปจากตัว  รังสีรูปขาสีทองพร่างพรายกระแทกเข้ากลางอกอาวุธจักรกลของเขา
เท้าดาบถานถุ่ย!
ปัง!
อาวุธจักรกลหนาแข็งไม่สามารถทนรับพลังเตะนี้ได้ เหมือนกับว่าอกของเขาถูกค้อนหวดกระหน่ำจนกระอักเลือด  อาวุธจักรกลขนาดมหึมากระเด็นถอยหลังไปหลายหลา
เท้าดาบถานถุ่ยที่ใช้ออกโดยหิมะสายฟ้าทรงพลังน่าตกใจ  ดาบแสงน้ำเงินแข็งที่ยิงออกมามีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรและแข็ง
ไม่ต้องรอให้อาวุธจักรกลนี้ร่วงลงถึงพื้น  ถังเทียนวิ่งเข้ามาถึงกลางวงอาวุธจักรกลที่เหลือ
คนกลุ่มนี้ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจแม้แต่น้อย  พวกเขารู้ว่าถังเทียนสอบผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงพาคนมาอย่างเพียงพอ  ด้วยอาวุธจักรกลเจ็ดชุดเรียงรายกัน  ต่อให้เป็นนักสู้สายจักรกลที่ทรงพลังที่สุด เขาก็ต้องคิดหนัก
ถังเทียนไม่แม้แต่จะทักทายพวกเขาและลงมือทันที ทำให้พวกเขาตะลึง
สหายของพวกเขาปลิวกระเด็นจากการโจมตีทีเดียวทำให้พวกเขาตะลึง
เมื่อหิมะสายฟ้าปรากฏตัวด้านข้างพวกเขา  พวกเขาสะดุ้งรู้สึกตัว  แต่จากนั้นร่างสีน้ำเงินเลือนรางก็ปล่อยพลังเหมือนกับน้ำพุ
ปัง ปัง ปัง!
อาวุธจักรกลสองเครื่องถูกโจมตีกระเด็น  อกของพวกเขามีรอยแตกอย่างเห็นได้ชัด  อาวุธจักรนั้นยังคงนอนอยู่กับพื้น  เห็นได้ชัดว่านักสู้สายจักรกลที่อยู่ในนั้นหมดสติไปแล้ว
ตาของถังเทียนเต็มไปด้วยเพลิงอำมหิต
เขาไม่เคยเป็นฝ่ายยั่วยุลงมือก่อน  แต่ทันทีที่เปิดศึก เขาไม่เคยถอยสักก้าว
อาวุธจักรกลเป็นเหมือนแว่นขยาย  พลังของมันตัดสินกันที่สามจุด  จุดแรกคือความสามารถของมัน  ประการต่อมาคือพลังของนักสู้ และสุดท้ายก็คือความเข้ากันได้ระหว่างอาวุธจักรกลและนักสู้
ในบรรดานักสู้สายจักรกล  ถังเทียนเองมีความสามารถที่ทรงพลังแน่นอน
ความเข้ากันได้ระหว่างถังเทียนและหิมะสายฟ้าก็ถึงระดับเชื่อมใจถึงใจอันเนื่องมาจากการฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธ  แม้ว่าเนื่องจากข้อจำกัดธรรมชาติ  หิมะสายฟ้าจะมีพลังด้อยกว่าพยัคฆ์ฟ้าอยู่มากก็ตาม  แต่ความสามารถของมันก็ยังเหนือกว่าอาวุธจักรกลธรรมดามากมายนัก  เนื่องจากเซรีนต้องการใช้มันเปิดตัว
หิมะสายฟ้าแสดงพลังรบที่น่าตื่นตะลึง
ดาบที่รุนแรงพุ่งเข้ามาปานสายฟ้า
เท้าดาบถานถุ่ย วิทยายุทธระดับห้านี้ เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของหิมะสายฟ้าก็ยิ่งใช้ออกได้อย่างน่าตื่นตะลึง
หิมะสายฟ้าไม่มีความเคลื่อนไหวอื่น  ทันทีที่ระเบิดพลังมันก็มาปรากฏตัวต่อหน้าอาวุธจักรกลอื่นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า  อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีเวลาตั้งหลัก แสงน้ำเงินวาบจากด้านล่างขึ้นมาบดบังการมองเห็นของเขาทัน
เลือดกระเซ็นออกจากกลางมีด
อาวุธจักรกลนี้ถูกผ่าเป็นสองส่วน   เท้าดาบถานถุ่ยของหิมะสายฟ้าครั้งนี้ผ่าอาวุธจักรกลของอีกฝ่ายจากตรงกลาง
 “มีคนถูกฆ่า!  มีคนถูกฆ่า!
สองสามคนที่เหลือตกใจจนคิดอะไรไม่ออก  พวกเขาเป็นแค่อันธพาลท้องถิ่น  ปกติพวกเขาสามารถขู่คนธรรมดาได้  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่ง  พวกเขาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
อย่างไรก็ตาม อยู่ต่อหน้าถังเทียน แล้วหันหลังให้นับเป็นการตัดสินใจที่เลวร้ายอย่างแน่นอน
ไม่จำเป็นต้องพูด  ถังเทียนโจมตีโดยตรง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
รังสีดาบสีน้ำเงินแหวกฝ่าอากาศ  หิมะสายฟ้าเป็นเหมือนสายฟ้าน้ำเงินไล่ตามอาวุธจักรกลที่กำลังหลบหนี
อาวุธจักรกลที่เหลือวิ่งเตลิดเปิดเปิงสูญเสียการควบคุมทันที กระแทกลงกับพื้นและนอนกับพื้นอย่างไร้ความรู้สึก
สถานที่นั้นเงียบราวกับป่าช้า
ทุกคนตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวที่แข็งกร้าวและอำมหิตของถังเทียน  แม้แต่เซรีนได้แต่จ้องมองอาวุธจักรกลที่อยู่บนพื้นอย่างงุนงง ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
หลังจากนั้นชั่วขณะ กลุ่มคนก็เริ่มซุบซิบกัน
 “พวกเขาทำลงไปแล้ว  กล้าดียังไงถึงได้ล่วงเกินตระกูลม่อ!
 “พวกเขาได้ตายแน่!  ป้าของม่อลิ่วเป็นสมาชิกโดยตรงของตระกูลม่อ!
… …

ตระกูลม่อ?
ถังเทียนมีประกายตาเย็นชา  มีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับพวกที่มาเยือน  ต้องมีบางคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง
สิ่งที่ถังเทียนทำต่อมา ทำให้ทุกคนตกตะลึง

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ (ค้างงงงงงงงงง 5555)

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบตุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น