วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-11 พญางูหลามดำ




ตอนที่  7-11  พญางูหลามดำ

เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น  สิ่งเดียวที่คนผู้หนึ่งสามารถทำได้ก็คือทำใจยอมรับ

หลังจากออกจากเมืองอู่ซานลินลี่ย์กับบีบีมุ่งหน้าขึ้นเหนือ  ทุกอย่างที่ลินลี่ย์พบเห็นมีแต่ทำให้เขายิ่งเงียบขรึม  ทั่วทั้งอาณาจักรเฟนไลกลายเป็นพื้นที่เล่นสนุกของอสูรเวท และซากศพมนุษย์ไม่ต่างอะไรจากอาหารของมัน
ตามเส้นทางขึ้นเหนือมองเห็นอสูรเวทเป็นจุดๆ เป็นระยะๆ ไม่เห็นมนุษย์ที่ยังมีชีวิตแม้แต่คนเดียว
ทันใดนั้นร่างมนุษย์คนหนึ่งปรากฏอยู่ที่สุดถนน  ร่างมนุษย์นั้นกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกำลังถูกอสูรเวทหลายตัวเห่าหอนไล่ล่า แต่เมื่อประกายแสงสีม่วงวูบวาบไม่กี่ครา  อสูรเวทเหล่านั้นก็ถูกตัดกลายเป็นชิ้นเนื้อลูกเต๋าและร่างมนุษย์นั้นยังคงมุ่งขึ้นเหนือต่อไป  บนไหล่ของคนผู้นี้ มีหนูเงาสีดำตัวเล็กน่ารักอยู่ตัวหนึ่ง
 “เจ้านาย!  เราน่าจะหาที่พักกันก่อนดีไหม?  ข้าชักหิวขึ้นมาแล้ว”  บีบียืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์สนทนาทางใจกับลินลี่ย์
ลินลี่ย์อดมองบีบีไม่ได้
ตลอดเส้นทาง เขาเป็นคนที่เคลื่อนไหวเดินทางอย่างแข็งขัน  ขณะที่บีบีเอาแต่ยืนอยู่บนไหล่ของเขาเพลิดเพลินกับสายลมลูบไล้หรือไม่ก็หลับอยู่ในชุดของลินลี่ย์  แล้วมันจะเหนื่อยได้ยังไง?
 “ก็ดีเหมือนกัน  มีภูเขาลูกหนึ่งอยู่ข้างหน้า  เราไปหาฆ่าอสูรเวทสองสามตัวและเอามาปรุงอาหารกันเถอะ”  ลินลี่ย์ยังคงดูแลเอาใจใส่และตามใจบีบีเหมือนเคย  สำหรับลินลี่ย์นอกจากพี่น้องของเขาสามคนและวอร์ตันน้องชายของเขาที่อยู่กับลุงฮิลแมนและพ่อบ้านแอชลี่ย์แล้ว เขาไม่มีญาติสนิท แต่การจะได้พบกับวอร์ตันกับพี่น้องทั้งสามเป็นเรื่องที่ยากมาก
มีแต่บีบีเท่านั้นที่มักอยู่ข้างกายเขาเสมอ
ในใจของลินลี่ย์  เขาเห็นบีบีเหมือนกับเป็นน้องชายที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่
 “เทพกระบี่เลือดม่วงนี้ยังคงเหมาะกับมือดีเมื่อต้องใช้จัดการอสูรเวทระดับเจ็ดหรือระดับแปด  แต่ค่อนข้างจะยากสำหรับใช้แทงทะลุผ่านพลังป้องกันของอสูรเวทระดับเก้าทั้งยากจะทำให้เกิดบาดแผลที่ร้ายแรงได้” ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูกระบี่ในมือและถอนหายใจ
เทพกระบี่เลือดม่วงมีความคมมาก ไวมากและสามารถโค้งงอได้ดังใจนึก ดังนั้นจึงมีประโยชน์มากเมื่อใช้จัดการศัตรูที่อ่อนแอจำนวนมากได้  แต่เมื่อต้องใช้รับมืออสูรเวทที่ทรงพลังตัวเดียว เทพกระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์นี้ก็ยังดีไม่เท่ากับกรงเล็บและหางมังกรของลินลี่ย์เอง
ที่เชิงภูเขาที่มีแต่ตอไม้  ลินลี่ย์และบีบีกำลังย่างขาหมาป่าคู่หนึ่ง  บีบีและลินลี่ย์ยังไม่ออกไปไม่พ้นจากอาณาเขตของอาณาจักรเฟนไล ดังนั้นในพื้นที่จึงมีอสูรเวทเพ่นพ่านอยู่ให้เห็น  แต่ด้วยพลังของลินลี่ย์และบีบีในปัจจุบัน ตราบใดที่พวกเขาไม่เผชิญหน้ากับอสูรเวทระดับเซียน พวกเขาจะยังปลอดภัยอยู่
 “สุกแล้ว” บีบีคว้าขาหมาป่าและเริ่มแทะกินทันที
ด้วยพลังคลื่นในมือของเขา ลินลี่ย์ก็สามารถดับไฟได้ จากนั้นเขาคว้าขาหมาป่าย่างและเริ่มกินด้วยเช่นกัน  ขาหมาป่าย่างนี้ เมื่อปรุงกับสมุนไพรและหญ้าบางชนิดจะได้รสชาติที่อร่อย  ในพื้นที่ป่าเขามักพบส่วนผสมที่สามารถใช้ปรุงอาหารได้ นี่คือทักษะเอาตัวรอดที่เขาได้เรียนรู้ในเทือกเขาอสูรเวทและลินลี่ย์ก็รู้เรื่องนี้เช่นนี้
ขาหมาป่าข้างนั้นใหญ่กว่าตัวบีบีมาก  แต่บีบีกินเสร็จก่อนลินลี่ย์เสียอีก  เมื่อเวลาผ่านไปลินลี่ย์กินได้ครึ่งหนึ่ง ขณะที่บีบีจัดการส่วนแบ่งของมันเสร็จแล้ว
 “ครืดดดด  ครืดดดด”
ทันใดนั้น เสียงเคลื่อนไหวเบาได้ยินมาแต่ไกล  ลินลี่ย์หยุดกินอาหารที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ขณะที่หูของบีบีเชิดขึ้นเช่นกัน  ในเวลาเดียวกัน ทั้งมนุษย์และอสูรเวทหันไปมองที่ด้านหลังของพวกเขา
เป็นงูหลามตัวหนึ่ง
งูหลามขนาดมหึมา พอๆ กับบ้าน ดวงตาประหลาดของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานนี้เหมือนกับโคมยักษ์  ขนาดตัวมันยาวราวๆ สิบเมตรที่เห็นเฉพาะจากนอกป่า  แต่เพียงตัดสินจากความจริงที่ว่าร่างของมันหนาสามเมตร  ลินลี่ย์ก็สามารถนึกภาพได้ง่ายว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ ความจริงมีขนาดใหญ่โตน่ากลัวเพียงไหน
ส่วนที่มองเห็นสิบเมตรหรือราวๆ นั้น อาจจะแค่ส่วนน้อยของมัน
เมื่อเห็นผิวดำมะเมื่อมลวดลายมีเส้นสีเหลือง สีหน้าลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
 “มันคือพญางูหลามดำ” ลินลี่ย์ระบุสายพันธุ์ของอสูรเวทนี้อย่างมั่นใจทันที
พญางูหลามดำเป็นหนึ่งในอสูรประเภทงูที่ทรงพลังมาก กล่าวโดยทั่วไปพญางูหลามดำตัวเต็มวัยจะเป็นอสูรเวทระดับเก้า แข็งแกร่งพอๆ กับอสรพิษเก้าหัว ในบรรดาอสูรเวทประเภทงูใหญ่ พญางูหลามดำขึ้นชื่อในฐานะเป็นเครื่องจักรสงคราม
ถ้าท่านปล่อยพญางูหลามดำในท่ามกลางกองทัพ มันสามารถสังหารทหารได้เป็นแสน
มันคืออสูรเวทสายธาตุมืดมีพลังป้องกันที่เหลือเชื่อ เขี้ยวของมันมีพิษ  นี่เป็นลักษณะพิเศษของพญางูหลามดำ
 “ฟู่..  ฟู่...” ลิ้นงอสองแฉกของพญางูหลามดำตวัดเข้าและออก และดวงตาเย็นชาของมันจ้องลินลี่ย์กับบีบี  เห็นได้ชัดว่าพญางูหลามดำนี้ตั้งใจแล้วว่าลินลี่ย์กับบีบีจะเป็นอาหารมื้อต่อไปของมัน
 “บีบี ระวัง!
สายตาของลินลี่ย์จับจ้องอยู่ที่พญางูหลามดำไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย  ขณะเดียวกันเกล็ดหนาดำเริ่มแผ่คลุมผิวของลินลี่ย์และแถบหนามงอกออกมาจากหลังของเขา หน้าผาก, ข้อศอกและเข่ามีหนามแหลมงอกออกมาด้วยเช่นกัน
 “ควั่บ ควั่บ” หางมังกรของลินลี่ย์หวดใส่พื้นสองสามครั้ง   บีบีที่อยู่ข้างตัวลินลี่ย์มีขนลุกตั้งชัน
เมื่อเห็นแบบนี้พญางูหลามดำตั้งลำยกตัวสูงขึ้นในอากาศทันที  เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้มันป้องกันตัวและตื่นตัวด้วยเช่นกัน
 “ควั่บ!
พญางูหลามดำฉกมาข้างหน้าทั้งตัวเหมือนกับพายุหมุน ในเสี้ยววินาทีลำตัวที่ยาวถึงร้อยเมตรของมันก็พุ่งใส่ลินลี่ย์และบีบีซึ่งทั้งสองก็เปิดฉากโจมตีพญางูหลามแทบจะพร้อมกัน
 “ควั่บ!” ประกายม่วงปรากฏวูบขึ้น
 “แคล้ง!  ลินลี่ย์ได้ยินเสียงคล้ายค้อนเหล็กหวดใส่ทั่งเหล็ก เทพกระบี่เลือดม่วงของเขาแค่สร้างรอยขีดข่วนสีขาวไว้บนผิวของพญางูหลามดำ ไม่มีแผลเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
 “มันทนมากจริงๆ”
ร่างใหญ่มหึมาของพญางูหลามดำเริ่มรัดรอบตัวลินลี่ย์  ลินลี่ย์รู้ว่าถ้าเขาปล่อยให้มันรวบรัดตัวเขาได้  ไม่เพียงแต่เขาจะหายใจไม่ได้เท่านั้น แต่พลังบีบรัดที่น่ากลัวก็สามารถบดขยี้เขาจนตายได้
 “ฮ่าาาาา!
กรงเล็บที่แหลมคมของลินลี่ย์แทงเข้าในร่างของพญางูหลามดำ  เสียงดังฉัวะ.. กรงเล็บของเขาทะลุเกล็ดชั้นนอกของพญางูหลามดำ  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์รู้สึกว่ากรงเล็บของเขาไม่สามารถแทงลึกลงไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว   ภายใต้เกล็ดของมันลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงพลังทนทานที่น่าอัศจรรย์
 “ควั่บ!” พญางูเตรียมจะรัดตัวลินลี่ย์!
ลินลี่ย์หัวเราะเย็นชา  ทันใดนั้นเขาใช้กรงเล็บของเขาตวัดฟันและกระโจนหลุดออกมานอกวงขนดของพญางูหลามดำ  ขณะเดียวกันเขากระแทกศอกใส่พญางูหลามดำ ศอกของลินลี่ย์มีหนามแหลมคมซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของมังกรเกราะหนามและมีพลังอย่างน่าทึ่ง
 “ฉึก!” หนามแหลมแทงทะลุเกล็ดดำและค่อยๆ ทะลวงลงมาเรื่อยๆ
 “อะไรอยู่ใต้เกล็ดของพญางูหลามดำกันแน่? พลังป้องกันของมันถึงได้น่ากลัวนัก”  ศอกหนามแหลมของลินลี่ย์สามารถทะลวงไปได้ครึ่งหนึ่งก่อนที่จะหยุด
 “อ๊าคคค”
พญางูหลามดำแสดงความโกรธและคำรามอย่างเจ็บปวด ในชั่วแวบเดียวศีรษะมหึมาของมันฉกเข้าหาลินลี่ย์ มันอ้าปากสีแดงเลือด ทันใดนั้นมันฉีดของเหลวสีดำออกมาจากปากใส่ลินลี่ย์
 “พิษ”  ลินลี่ย์กระโจนออกห่างจากร่างของพญางูหลามดำและถอยหลบอย่างเร่งร้อน
แต่พิษดำปริมาณมากนั้นรุนแรงและครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก พิษบางส่วนยังกระเซ็นถูกขาลินลี่ย์
 “ซี่... ซี่....” เสียงประหลาดได้ยินมาจากขาของลินลี่ย์
ลินลี่ย์รู้สึกได้ว่าพิษดำที่กระเซ็นถูกขาของเขาถูกเกล็ดมังกรป้องกันไว้  พลังป้องกันของมังกรเกราะหนามน่ากลัวมาก และพิษไม่มีผลทำอันตรายต่อเกล็ดได้เท่าใดนัก
 “เจ้านาย, หนีกันเถอะ,  พญางูหลามดำนั่นทนเป็นบ้า  เกล็ดและเนื้อของมันหนาเกินไป”
 “วิ่ง”
ลินลี่ย์และบีบีไม่ลังเลแม้แต่น้อย เผ่นหนีไปทางทิศเหนือ พญางูหลามดำเลื้อยไล่ตามไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  มันติดตามอยู่ชั่วขณะ  แต่ในที่สุดลินลี่ย์และบีบีทิ้งแต่ฝุ่นไว้ให้มัน
หลังจากหลบหนีการไล่กวดของพญางูหลามดำแล้ว ลินลี่ย์กับบีบีก็ออกจากอาณาเขตอาณาจักรเฟนไลเดิม   อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะออกจากเขตแดนเฟนไลมาแล้วก็ตาม  แต่พวกเขาก็ยังมองเห็นแต่ภาพรกร้าง  ดูเหมือนว่าราชันย์แห่งเทือกเขาอสูรวิเศษจะพูดความจริง
พวกเขาตั้งใจจะชิงพื้นที่ของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่ง
 “ฉัวะ!
ประกายสีม่วงฟันใส่เหยี่ยวมังกรขาดเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย
 “บีบี, บอกข้าที ทำไมเราถึงได้จัดการกับอสูรเวทระดับเก้าได้ยากเย็นนัก?”  ตอนนี้ลินลี่ย์เผชิญหน้ากับอสูรเวทระดับเก้ามาหลายตัวแล้ว เช่นมังกรดำและหมีลายม่วงในเมืองเฟนไล  เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเหล่านี้  ลินลี่ย์ได้แต่ฝืนใจหลบหนี  ไม่มีทางที่เขาจะเผชิญหน้ากับพวกมันโดยตรงได้
แม้เมื่อดวลกับหมีลายม่วงที่เชื่องช้าและพญางูหลามดำ ลินลี่ย์ก็ไม่สามารถทำร้ายพวกมันได้จริงๆ
บีบีก็พูดไม่ออกเช่นกัน
บีบีและลินลี่ย์พบปัญหาเดียวกันทั้งคู่  ปัญหาของบีบีก็คือร่างที่เล็กของมันและบางทีมันไม่สามารถกัดทะลุผิวหนังที่หนาของคู่ต่อสู้ได้ด้วยฟันของมัน  แล้วมันจะทำร้ายศัตรูได้อย่างไร?
 “ลินลี่ย์” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังออกมา
ลินลี่ย์ค่อยรู้สึกตัวทันที
จริงสิ ทำไม่ถึงไม่ถามปู่เดลิน?  ปู่เดลินมีประสบการณ์มากมาย และพบเห็นนักสู้ระดับเซียนมามากมาย  ท่านต้องเข้าใจเรื่องอย่างนี้เป็นแน่
 “ลินลี่ย์ เจ้าคงหงุดหงิดจากข้อสงสัยในการรับมืออสูรเวทระดับเก้าใช่ไหม?”
ลินลี่ย์พยักหน้า  “ถูกแล้วปู่เดลิน  ปู่รู้ไหมว่าข้าควรจะทำเช่นไร?”
เดลิน โคเวิร์ทกล่าวต่อ  “ลินลี่ย์! ความจริงเทพกระบี่เลือดม่วงของเจ้าทรงพลังมากอยู่แล้ว  แต่ปัญหาก็คือร่างก่อนแปลงเป็นมังกรของเจ้าเท่ากับนักรบระดับเจ็ด ร่างมังกรของเจ้ายังเท่ากับนักรบระดับเก้าขั้นต้น  ในฐานะนักรบระดับเก้าขั้นต้น เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถฆ่าอสูรเวทระดับเก้าได้อย่างนั้นหรือ?”
ลินลี่ย์สะดุ้ง
จริงด้วย ปัญหาก็คือเขาแข็งแกร่งไม่พอ
 “เมื่อเจ้าเข้าสู่ขอบเขตระดับแปด  เจ้าถึงจะเป็นสุดยอดนักรบระดับเก้าในร่างมังกรแปลง  จากนั้นเจ้าจึงจะสามารถทำอันตรายอสูรเวทระดับเก้าได้โดยใช้กรงเล็บหรือใช้กระบี่เลือดม่วง”  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะหึหึ  “อย่างไรก็ตาม ก็ยังพอเป็นไปได้ที่ระดับพลังของเจ้าในปัจจุบันจะสามารถรับมืออสูรเวทระดับเก้าได้เช่นกัน”
 “ทำได้ยังไง?”  ลินลี่ย์ดีใจ  ปู่เดลิน โคเวิร์ทรู้วิธีจริงๆ ด้วย
เดลิน โคเวิร์ทกล่าว “ลินลี่ย์!  เจ้าสังเกตไหมว่าทั้งไกเซอร์และเคลย์ใช้ดาบยักษ์?”
ลินลี่ย์นึกย้อนถึงการต่อสู้ของเขา  จริงด้วย ไกเซอร์กับเคลย์ทั้งสองคนใช้ดาบยักษ์ด้วยเช่นกัน
 “เจ้ารู้ไหมทำไมพวกเขาใช้ดาบยักษ์?”  เดลิน โคเวิร์ทถาม
ลินลี่ย์ยิ่งเพิ่มความสงสัย  ใช่แล้ว ในฐานะนักรบระดับเก้า เคลย์และไกเซอร์ตามธรรมดาก็รู้ว่าการใช้อาวุธเบาจะคล่องตัวรวดเร็ว  ทำไมพวกเขาเลือกใช้ดาบยักษ์แทนล่า?  ลินลี่ย์อดนึกถึงการต่อสู้ระหว่างเขากับไกเซอร์ไม่ได้
 “ลินลี่ย์  เมื่อตอนข้ายังอายุน้อย  ข้าจำได้ว่าเมื่อใดก็ตามบิดาข้าตัดโค่นต้นไม้  เขามักจะใช้ขวานหนักแทนที่จะใช้ลูกขวาน  ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?”  เดลิน โคเวิร์ทแนะนำอย่างอดทน
ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจเลือนลาง
 “อาวุธเบาจะคมกล้า  เมื่อใช้จัดการศัตรูกลุ่มใหญ่ก็จะใช้ได้ผลมาก  แต่เมื่อต้องสู้เดี่ยวกับศัตรูที่ทรงพลัง  อาวุธเหล่านั้นจะด้อยกว่าอาวุธหนัก  เมื่อใช้อาวุธหนัก ผู้ใช้จะต้องใช้พลังเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มความรุนแรงในการโจมตี  และสำหรับนักรบระดับเก้า ต่อให้เป็นอาวุธหนักเป็นร้อยกิโลกรัมก็ไม่ทำให้เขาชะลอชักช้าเท่าใด
ตอนนี้ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจอย่างแท้จริง
ขอเพียงใช้อาวุธหนัก ก็สามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่พวกเขามีได้
ตัวอย่างเช่นบุรุษผู้แข็งแกร่งมีพลังโจมตีมากขึ้นโดยใช้กระบองใหญ่หรือดาบเบาเล่า?  นักรบเลือดมังกรสามารถยกก้อนหินหนักเป็นสิบๆ ตันได้  พลังของพวกเขามากมายน่าทึ่ง
 “มิน่าเล่า ทำไมเมื่อข้าเผชิญหน้ากับพญางูหลามดำข้ารู้สึกว่าการใช้เทพกระบี่เลือดม่วงยังไม่มีผลดีเท่าหมัดและกรงเล็บของข้า”  ลินลี่ย์กล่าว  “บางทีข้าควรหาอาวุธหนักมาใช้ด้วยเช่นกัน”
ขณะที่คุยกัน ลินลี่ย์ยังคงไปตามทางมุ่งสู่เหนือเข้าสู่พื้นที่ป่ารกร้าง
 “เจ้านาย  มีกองอัศวินอยู่ข้างหน้า”  จู่ๆ บีบีพูดทางใจกับเขา
ลินลี่ย์มองดูอย่างระมัดระวัง ข้างหน้ามีกองอัศวินอยู่แน่นอน  ลินลี่ย์เผชิญกับทหารสองสามคนมาบ้างแล้ว  กล่าวโดยทั่วไป หน่วยทหารที่รอดอยู่ได้ในดินแดนที่อสูรเวทครอบครอง นับว่าเป็นทหารฝีมือดีของตระกูลสำคัญ
 “ไม่จำเป็นต้องไปสนใจพวกเขา”  ลินลี่ย์ไม่สนใจคนพวกนี้  ยังคงเดินหน้าต่อไป
แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้  ทันใดนั้นลินลี่ย์สังเกตได้ว่ามีใบหน้าที่เขาคุ้นเคย
 “ชาร์ค?  องค์ชายรองชาร์ค?”  ลินลี่ย์ตะลึง
ในฐานะผู้พิพากษาศาลนักเวทของอาณาจักรเฟนไล ลินลี่ย์รู้จักทั้งรัชทายาทองค์ชายคาร์ล และองค์ชายรองชาร์ค
 

1 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ ในผลงานทุกๆตอน ทุกเรื่อง

แสดงความคิดเห็น