วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-13 สมบัติสำคัญ




ตอนที่  7-13  สมบัติสำคัญ

 “องค์ชายชาร์ค ขอบคุณอีกครั้งที่ท่านช่วยเหลือ  เราแยกกันตรงนี้เถอะ”  เจ้าชายหลุยส์พูดพลางยิ้มพลาง

องค์ชายชาร์คทำหน้าเคร่งขรึมทันที เขากล่าวอย่างไม่สบายใจ “องค์ชายหลุยส์  ทำไมรีบร้อนนักเล่า? ตอนนี้บริเวณนี้เต็มไปด้วยอสูรเวท และเจ้าก็เหลือกันเพียงเจ็ดคน ถ้าพวกเจ้าพบอสูรเวทในระหว่างทางอีก จะอันตรายมาก  มาพร้อมกับเราเถอะ รวมพลังกันเราจะปลอดภัยมากขึ้นเช่นกัน”
องค์ชายหลุยส์รีบกล่าว “องค์ชายชาร์ค, ไม่...”
 “อย่าได้ปฏิเสธ  มิฉะนั้นข้าจะโกรธ” ชาร์คพูดขึงขังเหมือนจะโกรธ
องค์ชายหลุยส์มีท่าทีอึดอัด  แต่ในใจของเขา  เขาโกรธเช่นกัน  เขา, องค์ชายหลุยส์ไม่ใช่คนโง่  เขารู้ว่าการกระทำของบริวารของเขาที่รวบรวมถุงจากศพยิ่งน่าสงสัย
เป็นความจริง
ถุงของบริวารของเขาบรรจุสมบัติสำคัญของราชวงศ์ฮั่นไว้ ราชวงศ์ฮั่นก่อตั้งมานานเกินกว่าพันปี แม้ว่าประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จะไม่ยาวนานเท่ากับราชวงศ์เฟนไลก็ตาม แต่ก็ยังมีความมั่งคั่งอย่างน่าทึ่งและมีสมบัติที่สำคัญ  อย่างไรก็ตามราชวงศ์ของพวกเขาไม่มีแหวนมิติเก็บสมบัติ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องขนสมบัติกันเอง
ความจริงในยุคที่สับสนวุ่นวายเช่นนั้น ตระกูลชนชั้นสูงของเฟนไลและฮั่นมากมายหลายตระกูลได้แต่โกยสมบัติมีค่าและการ์ดเครดิตเวทใส่ถุงแล้วเผ่นหนี  จำนวนคนทั่วทั้งทวีปที่มีแหวนมิติเก็บสมบัติมีน้อยมาก  แม้แต่หน่วยงานที่ทรงอำนาจอย่างหอศิลป์พรูกซ์ก็ยังมีอยู่แค่วงเดียวซึ่งเป็นของผู้อำนวยการไมอา
 “ชาร์คผู้นี้ไม่มีเจตนาที่ดีอย่างแน่นอน”  หลุยส์กังวลใจอย่างมาก
เขาต้องการปฏิเสธ  แต่เขาเกรงว่าชาร์คจะมีเรื่องทะเลาะกับเขา
อัศวินคนหนึ่งที่อยู่ข้างตัวองค์ชายหลุยส์สะกิดเขา จากนั้นก้าวไปข้างหน้า  อัศวินผู้นี้คืออาจารย์ขององค์ชายหลุยส์  “เนื่องจากองค์ชายชาร์คมีความจริงใจ อย่างนั้นเราจะเดินทางร่วมกับกองกำลังของท่าน  เพียงแต่เรารู้สึกเสียใจที่ต้องรบกวนท่าน องค์ชายชาร์ค!
 “ไม่เป็นการรบกวนแต่อย่างใดเลย  ฮ่าฮ่า ไปด้วยกันเถอะ” ชาร์คหัวเราะลั่น
แค่ตัดสินจากลักษณะเพียงอย่างเดียว บุรุษร่างบึกบึนสูงสองเมตรนี้ดูเหมือนคนหยาบกร้านโง่เขลา แต่เมื่อเติบโตอยู่ในราชตระกูล ชาร์คจะโง่เขลาจริงๆ ได้อย่างไร? เขาเองก็เช่นกัน สามารถคาดเดาสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังคิด  อย่างไรก็ตามเขาพาทุกคนเดินทางมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือ
 “เจ้านาย, บรรยากาศดูเหมือนจะแปลกจริงๆ”  บีบีคุยทางใจกับลินลี่ย์
ลินลี่ย์หัวเราะในใจ  องค์ชายหลุยส์นั้นไม่กล้าต่อต้านองค์ชายชาร์คมากนัก  แต่เขาต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้องค์ชายชาร์ครู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับเขา  การเดินทางครั้งจึงพิเศษมากกว่าธรรมดา เมื่อมองดูทั้งสองฝ่าย ลินลี่ย์รู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
หลังจากสนทนากับองค์ชายหลุยส์ชั่วครู่  องค์ชายชาร์คก็แยกออกไป จากนั้นก็ขับขี่ม้าตรงมาหาลินลี่ย์ และพูดเบาๆ “ใต้เท้าลินลี่ย์, เจ้าเห็นไหม?”
 “เห็น?  เห็นอะไร?” ลินลี่ย์มองดูชาร์ค
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีคนขององค์ชายหลุยส์อยู่ใกล้ๆ  องค์ชายชาร์คจึงพูดเบาๆ  “ราชตระกูลฮั่นอยู่ในระหว่างหนีภัย  พวกเขาจะต้องขนสมบัติสำคัญไปกับตัวด้วย  สมบัติที่สั่งสมมาเป็นเวลาเกินกว่าพันปี  ในความคิดคำนวณของข้า ถุงของพวกอัศวินคงเต็มไปด้วยสมบัติสำคัญแน่”  ลินลี่ย์รู้ว่าการมีอยู่ของธนาคารโกลเดนแบงค์ของสี่อาณาจักรทำให้บัตรเครดิตเวทเป็นที่นิยมมาก
แม้แต่ตระกูลและราชวงศ์ใหญ่ก็ยังใช้บัตรเครดิตเวท  ตระกูลทั้งหลายเหล่านี้ครอบครองทองหลายร้อยล้านเหรียญ สมบัติเกือบทั้งหมดไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตัวอย่างเช่นเมื่อพวกเขากำลังหนี ตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้ไม่สามารถจะรวบรวมของบางอย่างเช่น หญ้าใจฟ้าซึ่งมีราคาถึงแสนเหรียญทองได้
สิ่งที่พวกเขาจะขนไปส่วนใหญ่จะต้องเป็นสมบัติสำคัญ ทั้งหมดราคาเกินล้านเหรียญทอง อย่างเช่นแก่นเวทของอสูรระดับเก้าหรือระดับเซียน หรืออาจเป็นสมบัติจากดินแดนอื่นหรือสมบัติระดับเทพ...
 “ใต้เท้าลินลี่ย์ ตราบใดที่เจ้ายินดีช่วยเหลือ เมื่อเราแบ่งสมบัติเจ้าจะมีส่วนแบ่งด้วยเช่นกัน ไม่สิ สองส่วน เจ้าจะว่ายังไง?  ในสายตาของข้าสมบัติต้องมีมูลค่าอย่างน้อยหลายล้านเหรียญทอง”  ชาร์คพูดเบาๆ
ชาร์ครู้ดีว่าราชตระกูลมีสมบัติรวมมากมายขนาดไหน  เพราะในมือของเขาเองก็มีการ์ดเครดิตเวทถึงห้าร้อยล้านเหรียญทอง
อาณาจักรฮั่นไม่ด้อยไปกว่าอาณาจักรเฟนไล  พวกเขาครอบสมบัติความมั่งคั่งในระดับเดียวกัน  แล้วสมบัติสำคัญที่พวกเขาขนไปด้วยจะเป็นของคุณภาพทรามได้อย่างไร?
 “ก็ได้”  ลินลี่ย์พยักหน้า  “ท่านตั้งใจเคลื่อนไหวเมื่อใด ก็ส่งสัญญาณให้ข้าทราบด้วยว่าท่านต้องการให้ทำอะไร”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชาร์คตื่นเต้นมาก
บางทีเมื่อพวกเขากำลังหนี นักเวทอาจเป็นอุปสรรค  แต่เมื่อพวกเขาสามารถทำสงครามได้  พลังของพวกเขาก็ยังน่าทึ่ง  ลินลี่ย์เป็นจอมเวทระดับเจ็บสองสายธาตุ  ด้วยการตั้งรับของฝ่ายตรงข้าม แค่เขาเพียงลำพังก็สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ถึงครึ่ง
ลินลี่ย์สังเกตดูคนของฝ่ายองค์ชายหลุยส์ทั้งเจ็ดคนอย่างระมัดระวัง  ตอนนี้พวกเขาแต่ละคนแบกถุงคนละสี่ถึงห้าถุง โดยเฉพาะ...
 “หืม..?”
ทันใดนั้นลินลี่ย์สังเกตได้ว่าเสียงกีบเท้าม้าตัวหนึ่งของบุรุษวัยกลางคนดังมาก  นอกจากนี้  ม้าตัวนั้นดูเหมือนจะเหน็ดเหนื่อยมากกว่าม้าตัวอื่นๆ เช่นกัน  ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือบุรุษวัยกลางคนนั้นมีม้าอีกตัวคอยวิ่งอยู่ข้างเขา  เขาคนเดียวต้องใช้ม้าถึงสองตัว
เห็นได้ชัดว่าบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนม้าบ่อยๆ
 “ม้าทั้งสองตัวนี้เป็นม้าดี  แม้ว่าพวกมันจะบรรทุกคนสามหรือสี่คนก็ตาม  พวกมันก็ยังวิ่งห้อได้ดุจสายลม  ทำไมบุรุษวัยกลางคนผู้นี้ถึงได้ทำให้ม้าเหล่านี้เหน็ดเหนื่อยได้มากมายเพียงนี้  เพราะสาเหตุอะไรเขาถึงได้เปลี่ยนม้าบ่อยมาก?” ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลได้ในทันที
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้ตัวหนักมาก
หรือเป็นไปได้อีกประการหนึ่งก็คือ สิ่งของที่บุรุษผู้นี้บรรทุกไว้หนักมาก  “แต่บุรุษวัยกลางคนผู้นี้พกแต่กระบี่สั้น  หรือว่ามันจะอยู่ภายในถุง...”  คำอธิบายของลินลี่ย์ก็คือถุงสี่ใบที่บุรุษวัยกลางคนบรรทุกไปมีน้ำหนักรวมกันที่หนักมาก
ลมพัดหวีดหวิว
คนขององค์ชายหลุยส์และองค์ชายชาร์คแยกย้ายกันพักตอนกลางคืน  คนเราไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ยังต้องการเวลาพัก  นักรบทั้งหกคนขององค์ชายหลุยส์พักรวมกันทั้งหมด  ขณะที่คนขององค์ชายชาร์คแยกย้ายกันนอนสี่คนบ้าง ห้าคนบ้าง กำลังคนของทั้งสองฝ่ายนอนคนละตำแหน่ง
 “อาจารย์, เราควรจะแยกจากไปเมื่อไหร่?”  องค์ชายหลุยกระซิบเบาๆ  คนอีกห้าคนแกล้งทำเป็นนอนเช่นกัน
 “รอคอยอีกนิด  เมื่อพวกเขาหลับกันหมด  เราจะขึ้นพาหนะแล้วจากไป”  บุรุษวัยกลางคนพูดเบาๆ
การหลบหนีในคืนเดือนมืดเป็นยุทธวิธีที่ใช้กันทั่วไป  เป็นยุทธวิธีร่วมสมัยเพราะหลายๆ คนก็ใช้วิธีนี้..และหลายๆ คนใช้เพราะว่าได้ผลดี
คนฝ่ายขององค์ชายชาร์คก็ทำเป็นเหมือนหลับเช่นกัน ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวที่หลับจริงๆ ทุกคนรู้ว่าจะมีการต่อสู้  และพวกเขาต้องต่อสู้ในคืนนี้
 “ใต้เท้าลินลี่ย์”  องค์ชายชาร์คปรากฏตัวข้างๆ ลินลี่ย์  เขาร้องเรียกลินลี่ย์เบาๆ
 “หืม?”  ลินลี่ย์หันมามองชาร์ค
องค์ชายชาร์คพูดต่อ  “ใต้เท้าลินลี่ย์, เตรียมตัวลอบร่ายเวทด้วย  การใช้เวทนี้จะช่วยเล่นงานพวกที่ตั้งท่าป้องกันทำให้พวกเขาสูญเสียอย่างหนัก  นักรบของข้าจึงค่อยโจมตีจัดการพวกเขาทั้งหมด  ใต้เท้าลินลี่ย์ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว”
 “ได้เลย”  ลินลี่ย์พยักหน้า
การลอบโจมตีโดยใช้เวทยามราตรีเป็นเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามมิอาจคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน
ริมฝีปากของลินลี่ย์เริ่มขยับเบาๆ ขณะที่เขาร่ายบทเวทอยู่เงียบๆ องค์ชายชาร์ครออยู่ข้างๆ เขาอย่างอดทน องค์ชายหลุยส์ที่น่าสงสารและคนของเขาความจริงต้องการรอนานอีกหน่อยแล้วจึงค่อยหนีไปหลังจากองค์ชายชาร์คและคนของเขาหลับแล้ว
ซวบ ซวบ ซวบ!
พื้นปริมณฑลในรัศมีสิบเมตร มีหลาวธาตุดินที่แหลมคมนับสิบผุดออกมาจากพื้น “อ๊า”  เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หลาวดินแทงร่างนับรบและเสียบทะลุร่าง องค์ชายหลุยส์ผู้น่าสงสารก็ถูกหลาวแทงสังหารตายด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือเขาอ่อนแอที่สุดในคนกลุ่มนั้น
หลาวดินที่แน่นหนาผุดขึ้นเป็นแถวเพียงพอทำให้หัวใจผู้คนแข็งค้างได้
เวทสายธาตุดินระดับเจ็ด – พยุหะหลาวดิน
นักรบระดับเจ็ดสี่คนในฝ่ายขององค์ชายหลุยส์เสียชีวิตคาที่  ขณะที่นักรบระดับแปดที่เหลือบาดเจ็บสาหัสเนื่องตั้งท่าป้องกันไว้
 “ฆ่า”
สมาชิกสามสิบคนในหน่วยพายุสายฟ้าที่แกล้งหลับก่อนหน้านั้น  แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวน ทุกคนต่างพุ่งออกมาจากค่ายเพื่อรอรับคำสั่ง  พวกเขาโจมตีนักรบระดับแปดอีกสามคนที่ยังบาดเจ็บทันที สามสิบต่อสามคน
นี่ถือว่าเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม ยิ่งไปกว่านั้น หน่วยพายุสายฟ้ามีสิบคนเป็นนักรบระดับแปด
ฉัวะ  ฉัวะ!
นักรบระดับแปดที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสามคนถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย  พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้เลย
 “องค์ชายรอง  พวกเขาตายหมดแล้ว”  หัวหน้าหน่วยพายุสายฟ้าที่เป็นบุรุษวัยกลางคนผมทอง กระตือรือร้นรายงาน
ชาร์คดีใจมาก  “ฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยมจริงๆ! เร็วเข้าเอาถุงเหล่านั้นมาให้ข้า  สำหรับการลงมือในครั้งเดียวนี้ ข้าจะให้รางวัลพวกเจ้าหนึ่งแสนเหรียญทอง  เมื่อเราไปสมทบกับพระบิดาของข้า  ข้าจะจ่ายเป็นทองให้” ชาร์คตื่นเต้นมาก
มีคนสามสิบคนในหน่วยพายุสายฟ้า  ทองคนละแสนเหรียญทองรวมแล้วก็เพียงสามล้านเหรียญทอง  แต่สมบัติที่อยู่ในถุงสิบใบนี้มีค่ามากกว่าร้อยล้านเหรียญทองแน่นอน
 “มานี่เถอะ ใต้เท้าลินลี่ย์ เจ้าเลือกไปเลยสองใบ”  ชาร์คพูดกับลินลี่ย์อย่างใจกว้าง
ประโยชน์เต็มที่ของจอมเวทในกลุ่มการต่อสู้ได้แสดงออกอย่างเต็มที่แล้ว  ครั้งนี้ลินลี่ย์ลอบใช้เวทโจมตีทำให้สังหารคนได้สี่คนและเหลือคนบาดเจ็บสาหัสอีกสามคน  ถ้าชาร์คสั่งคนของเขาให้โจมตีโดยตรง บางทีอาจมีสองสามคนต้องตายก็เป็นได้
ลินลี่ย์เดินตรงไปที่ศพบุรุษวัยกลางคนอาจารย์ขององค์ชายหลุยส์  เขายกถุงทั้งสี่แต่ละใบไว้  ขณะที่ทำเช่นนี้ ลินลี่ย์สังเกตได้ว่ามีบางอย่างประหลาด ถุงบรรจุสามใบนั้นเบามากเป็นธรรมดา
แต่ใบสุดท้าย ดูเหมือนจะเล็กมาก และของที่อยู่ข้างในมีขนาดเพียงฝ่ามือบุรุษ แต่น้ำหนักของมัน.... เกินกว่าพันปอนด์
 “ของบางอย่างที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่มีน้ำหนักถึงพันปอนด์หรือนี่?”
ลินลี่ย์ตะลึง
เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีวัตถุอะไรที่แน่นและหนักขนาดนี้  ต่อให้เป็นทองและเพชรก็ยังเบากว่าวัสดุนี้  ขนาดเท่าฝ่ามือแต่หนักเกินพันปอนด์
 “ใต้เท้าลินลี่ย์?” ชาร์คเดินเข้ามา  “เลือกเสร็จหรือยัง?”
 “ไม่จำเป็นต้องเลือก ข้าขอแค่สองใบนี้ก็พอ”  ลินลี่ย์สุ่มหยิบอีกใบจากที่เหลือสามใบ จากนั้นแบกถุงทั้งสองใบขึ้นหลัง
เมื่อเห็นเช่นนี้ชาร์ครู้สึกพอใจเช่นกัน สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือลินลี่ย์จะเปิดถุงตรวจดูทุกใบแล้วค่อยตัดสินใจ นี่ค่อนข้างจะไม่ยุติธรรมสำหรับเขา  แต่ลินลี่ย์แค่ยกถุงจากคนๆ เดียวจากนั้นเลือกเก็บไว้เพียงสองใบ
ตอนนี้บริวารของชาร์คแบกถุงกันทุกคน
 “ไปกันเถอะ”  เวลานี้ชาร์คอารมณ์ดีมาก
ลินลี่ย์ก็ขี่ม้าเช่นกัน  แต่ขณะที่ขี่ม้า ลินลี่ย์ร่ายเวทให้เขาลอยตัวด้วย ด้วยพลังของจอมเวทระดับเจ็ด ใช้เวทระดับห้าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก  ลินลี่ย์ใช้พลังลอยตัวจากเวทลอยตัวก็เพื่อต้านน้ำหนักที่มากเป็นพิเศษของวัตถุลึกลับ
นี่ทำให้ม้าที่เขากำลังขี่ควบต่อไปได้โดยไม่รู้สึกเครียด
 “ปู่เดลิน” ลินลี่ย์สื่อสารถึงเขาทันที  “ช่วยตรวจดูทีว่าในถุงใหม่สองใบที่ข้าเพิ่งได้มามีอะไรอยู่ข้างใน?”
 “โอว, เจ้าได้สมบัติมาหรือนี่?”  เดลิน โคเวิร์ทที่กำลังงีบหลับอยู่ในแหวนมังกรขนดตื่นตัวเต็มที่  เขาใช้พลังวิญญาณส่งความรู้สึกเข้าไปภายในถุงสองใบของลินลี่ย์ทันที
 “ภายในถุงใบแรกเป็นกล่องที่ห่อด้วยผ้าหลายชั้น  ภายในกล่องมีหยกใสงดงามคู่หนึ่ง หยกทั้งคู่นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานทีเดียว  แต่ข้าไม่รู้ว่ามันมาจากไหน”  เดลิน โคเวิร์ทกล่าว
 “ถุงใบที่สอง..อ่า?”
เดลิน โคเวิร์ทร้องออกมาอย่างประหลาดใจ  “อะไรกันนี่?”  หัวใจลินลี่ย์ตื่นเต้นตึงเครียด  เขารู้ว่าถุงใบที่สองต้องมีของแปลกประหลาดถึงได้มีน้ำหนักพันปอนด์  เพราะของที่อยู่ภายในถุงใบที่สองไม่ใช่กล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สมบูรณ์แบบนัก
 “อดาแมนเทียม  แร่อดาแมนเทียม มีแร่อดาแมนเทียมขนาดเท่ากำปั้น อดาแมนเทียมในทวีปยูลาน นี่... นี่มันน่าประหลาดจริงๆ”  เดลิน โคเวิร์ทพูดอย่างอัศจรรย์ใจ
พอได้ยินคำว่า อดาแมนเทียม หัวใจลินลี่ย์ตึงเครียดอีกครั้ง  อดาแมนเทียมไม่ใช่วัสดุที่มีอยู่ในดาวดวงนี้ มันต้องมาจากดาวอื่น และมันมีความแข็งทนทานมากแม้แต่นักรบชั้นเทพแทบทั้งหมดยังไม่อาจทำลายได้ง่ายๆ  เมื่อตอนที่เขาถูกจองจำอยู่ในโบสถ์เจิดจรัส ส่วนที่เป็นกรงสร้างจากอดาแมนเทียมอัลลอยด์ แม้แต่นักรบระดับเซียนยังยากจะทำลายได้ จากตรงนี้เองก็คงจะบอกได้ว่าอดาแมนเทียมนั้นแข็งทนทานขนาดไหน
 “แร่อดาแมนเทียมขนาดเท่ากำปั้น  นี่... นี่มีค่ามากกว่าแก่นเวทระดับเซียนเสียอีก   มีแร่ก้อนมหึมาขนาดนี้อยู่ในโลกได้ยังไง?”  เดลิน โคเวิร์ทยังไม่อยากจะเชื่อ
 “ขนาดกำปั้นนี่นะ มหึมา?”  ลินลี่ย์สับสนมากกว่า

1 ความคิดเห็น:

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น