ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 257 ปัญหายุ่งยาก

 

ตอนที่  257  ปัญหายุ่งยาก

“นี่คือรายงานเกี่ยวกับกลุ่มดาวหมาป่า  จากการวิเคราะห์ของเรา  นี่คือเส้นทางการเดินทางที่พวกเรากำหนดไว้” ผี่ผากล่าวเสียงนุ่มนวล

ขลุ่ยวิเศษเวทนาสงสารกับอาการป่วยหนักของผี่ผา  ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อย  เร็วๆ นี้ติงตังรู้สึกอารมณ์หม่นหมอง หลังจากวิเคราะห์และยืนยันแล้วว่าหยดเลือดที่ได้มานั้นใช้ไม่ได้  เรื่องนี้สร้างผลกระทบทางความรู้สึกให้กับติงตัง  ขณะที่ผี่ผาไม่รู้สึกอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ทุกคนเป็นมิตรกับเด็กสาวทั้งสองเป็นอย่างดี  หลางจากเซรีนได้รับทราบอาการของผี่ผาแล้ว นางถึงกับร้องไห้สงสาร  แม้แต่ปิงที่หัวใจแข็งกระด้างดุจเหล็กก็ยังเริ่มแสดงความสุภาพกับผี่ผามากขึ้น

แม้ว่าอารมณ์ของติงตังจะหม่นหมอง  แต่นางก็ไม่ลืมงานของนาง

นางเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องข้อมูล  นางรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับกลุ่มดาวหมาป่าทันที  แต่ท่าทีต่อมาของติงตังทำให้ทุกคนประหลาดใจ

ติงตังตกใจทำข้อมูลมากมายตกใส่ผี่ผา

ตอนนี้เองจึงได้มีคนตระหนักถึงเรื่องนี้  ผี่ผาที่อ่อนแออยู่แล้วเหมือนกับจะถูกลมหอบพัดได้มีความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ดี  ข้อมูลมหาศาลทั้งหมดที่นางได้รับนั้นผ่านการวิเคราะห์ประเมินเป็นอย่างดี นางไม่ได้ถูกข้อมูลท่วมทับ  แต่สามารถประเมินแต่ละส่วนและสรุปผลรายงานเป็นวาจาถึงสิ่งที่ควรทำต่อไป

ผี่ผามีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่น่าตกใจซึ่งเซรีนและปิงจับตาดูอยู่

เซรีนส่งแบบพิมพ์เขียวป้อมบรอนซ์ให้ผี่ผาทันที ในเวลาเพียงไม่กี่วันผี่ผาก็รายงานรายละเอียดให้เซรีน  เซรีนดีใจมากถึงกับวิ่งมากอดผี่ผาและจูบแก้มนาง  ผี่ผาขัดขืนท่าทีเช่นนั้นเพราะนางเขิน

ขณะเดียวกัน ผี่ผากลายเป็นที่ปรึกษาของปิง  จนถึงตอนนี้สองคนนี้เพียงรับผิดชอบคอยให้คำแนะนำและวางแผนให้กับกลุ่มต่อไป

แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง  แต่ผี่ผาก็อ่านหนังสือมามากมาย มีความรู้อยู่ในสมองของนางมากมาย ผ่านการวิเคราะห์มาเป็นเวลานาน  ทำให้ปิงได้รับประเด็นปัญหาที่สำคัญทั้งหมด เรื่องนี้ทำให้ปิงให้ความสำคัญกับการสร้างสถานที่ฝึกอบรมของเขาได้

ภายในช่วงเวลาสั้นๆ  ผี่ผาผู้อ่อนแอก็ได้รับความยอมรับนับถือจากทุกคน

การช่วยให้ผี่ผาฟื้นฟูสุขภาพนับเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกของกลุ่ม

ตอนนี้ นักสู้ฝีมือดีมารวมตัวอยู่ในเมืองสามวิญญาณแล้ว  มีผู้เฒ่าบอดซอกำศรวล, บ่าวใบ้, ขลุ่ยวิเศษและปิงมาสมทบกันหมดแล้ว  กลุ่มนี้มีพลังไม่ธรรมดากับเงินจำนวนสองพันล้านในมือ มีวิศวกรจักรกลคอยดูแลการปฏิบัติการทั้งหมดและมีนักวิเคราะห์ข้อมูลมืออาชีพ  นับเป็นการรวมกลุ่มที่ทรงพลัง

แผนการสร้างป้อมบรอนซ์ดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ที่งานยุ่งน้อยที่สุดในกลุ่มก็คือขลุ่ยวิเศษ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นคนคอยส่งข่าวระหว่างถังเทียนและเมืองสามวิญญาณ

เมื่อถังเทียนได้รับข้อมูลจากขลุ่ยวิเศษ  เขาจะร่วมวิเคราะห์ข้อมูลนั้นกับอาเฮ่อ  หลิงซิ่วไม่ค่อยอดทนกับเรื่องเช่นนี้  และเนื่องจากเพิ่งจะแพ้ถังอี้มา  หลิงซิ่วจึงไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนั้นเอาแต่ฝึกหนักทุกวันนับแต่นั้นมา

และคู่หูช่วยฝึกฝนเขาก็คือถังอี้นั่นเอง

ถังอี้ไม่ค่อยจะมีปัญญาเท่าใดนัก และนั่นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา เนื่องจากเขาเคร่งครัดคำสั่งของถังเทียนโดยไม่ลังเล  ระหว่างฝึกฝน เขาจึงไม่มีการออมฝีมือกดดันหลิงซิ่วจนหมดเรี่ยวแรงในพริบตา

มันรู้สึกแตกต่างแน่นอนเมื่อมีอาชีพอย่างถังเทียนและอาเฮ่อคอยดูแลดำเนินการทั้งหมด  เนื่องจากพวกเขาเป็นพวกกำหนดแผนและวิเคราะห์ข้อมูล  ต่างจากเมื่อก่อนนั้นเมื่อถังเทียนยังไม่รู้เรื่องอะไรเนื่องจากข้อมูลที่รวบรวมได้ยังไม่น่าเชื่อถือ  ตอนนี้ข้อมูลจากกลุ่มดาวหมาป่าถูกต้องและเชื่อถือได้

 “ในตอนนี้กลุ่มดาวหมาป่าอยู่ในความวุ่นวาย”  แม้ว่าติงตังจะเคยเตือนถึงปัญหาเรื่องนี้กับเขาไว้ก่อนแล้ว  แต่ถังเทียนถึงกับผงะเมื่อได้ทราบข่าว

กลุ่มดาวหมาป่าในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ชั่วร้ายไปแล้ว

คนในดาวหมาป่าปกติมีนิสัยเย็นชา ป่าเถื่อนโหดร้าย  ในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ทั้งหมด กลุ่มดาวหมาป่ากันดารที่สุดแทบไม่มีอารยธรรม  ไม่มีเส้นทางการค้าและเกิดสงครามต่อเนื่อง ซึ่งพวกที่เหลือโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก

กลุ่มดาวหมาป่าคือดาวที่แห้งแล้งกันดารคล้ายกับกลุ่มดาวอีกา  อย่างไรก็ตามกลุ่มดาวอีกากว้างใหญ่แต่ประชากรเบาบาง  ขณะที่ประชากรในกลุ่มดาวหมาป่าจะหนาแน่นมากกว่า  อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนกลัวคนจากดาวหมาป่าก็เนื่องมาจากฝีมือของพวกเขาสามารถทำซ้ำๆ กันได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขาดแคลนพื้นในกลุ่มดาวหมาป่า  ประชากรจึงหนาแน่นมาก ดังนั้นจึงทำให้เกิดความวุ่นวายมากกว่ากลุ่มดาวอื่นมาก

กลุ่มดาวหมาป่ามีกองกำลังชั่วร้ายนับไม่ถ้วน  แต่มีสามกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดก็คือ กลุ่มพระจันทร์สีเงิน, กลุ่มตะขอสวรรค์และกลุ่มนักสู้ศักดินา

แต่ละกองกำลังจะปกครองโดยนักสู้สวรรค์วิถี   แต่ละกองกำลังจะมีความโดดเด่นในหมู่ดาวและมีกองทัพที่ทรงพลังภายใต้บัญชาการของพวกเขา  เพราะพวกเขาทำสงครามกันเองต่อเนื่องมาตลอด  พวกเขาพยายามจะปราบปรามกลุ่มพลังอีกฝ่ายให้ได้

หัวหน้ากองกำลังจันทร์เงินก็คือคานท์, หัวหน้ากลุ่มตะขอสวรรค์คือหวยเป๋ยหัว หัวกลุ่มนักสู้ศักดินาคืออูเถี่ยหวี่  ทั้งสามคนเป็นนักสู้สวรรค์วิถี คานท์อันดับที่ 9256  หวยอันดับที่ 9278  อูอันดับที่ 9293  พวกเขามีระดับที่ใกล้เคียงกันมาก ขณะที่พลังของพวกเขาก็แทบจะพอๆ กัน

ในแต่ละกองกำลัง ก็ยังมีนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  กลุ่มจันทร์เงินแข็งแกร่งที่สุด มีนักสู้เช่นนั้นถึงห้าคน อีกสองกองกำลังนอกนี้ก็มีสี่คน

แม้ว่ากลุ่มดาวหมาป่าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีนักสู้ในสวรรค์วิถีสิบห้าคน ยังมากกว่ากลุ่มดาวอีกามากนัก  แม้ว่ากลุ่มดาวหมาป่าจะมีนักสู้ทรงพลังอย่างนั้น  แต่พวกเขาไม่มีความปรารถนาจะขยายไปยังดินแดนอื่น ประชาชนส่วนใหญ่ในหมู่ดาวจะมีพลังสายเลือดเฉพาะที่เกิดในหมู่ดาวเหล่านั้น  พลังสายเลือดนี้ต้องได้ของพิเศษเพื่อปลุกพลังของมัน

ของพิเศษนี้ก็คือ ‘น้ำพุปลุกสายเลือด’

น้ำพุปลุกพลังสายเลือดมีค่ามาก เหตุผลที่สามกองกำลังสามารถมีอิทธิพลในหมู่ดาวหมาป่าได้ก็เนื่องมาจากทักษะที่ทรงพลังของพวกเขาและเพราะพวกเขาครอบครองน้ำพุปลุกพลังสายเลือด

น้ำพุปลุกพลังสายเลือดมีอยู่แต่ในเฉพาะกลุ่มดาวหมาป่า  น้ำพุเหล่านี้มีสีแดงเหมือนเลือด นั่นคือเหตุผลที่คนในกลุ่มดาวสามารถกระตุ้นพลังสายเลือดภายในได้

 “แข็งแกร่งทรงพลังมาก”  อาเฮ่อตกใจ  ในทางตรงกันข้าม กลุ่มดาวกระเรียนฟ้ายังอ่อนแอกว่ามาก

จนถึงวันนี้ หมู่ดาวกระเรียนฟ้าไม่ได้มีนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีเลย  นักสู้สิบห้าคนที่พำนักอยู่ในกลุ่มดาวหมาป่า หากจำเป็นก็สามารถถล่มกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าได้ทั้งหมด  อาเฮ่อรู้วิธีฟื้นฟูสำนักกระเรียนแล้ว  เขาต้องฟื้นฟูกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าด้วยเช่นกัน เขาได้รับถ่ายทอดความความพลังกระเรียนให้สำนักแล้ว แต่จะฟื้นฟูสำนักกลับคืนไม่ใช่งานง่ายๆ

ถังเทียนไม่ได้กังวลปัญหาของอาเฮ่อ  “เราก็แค่สู้ไปตามแนวคิดของเรา”

 “เป้าหมายของเราก็คือเมืองซีชิง  จากตรงนั้น เราสามารถเข้าถึงประตูดวงดาวเพื่อเข้าสู่กลุ่มดาววาฬ” อาเฮ่อกล่าว  นี่ก็หมายความว่าเราต้องเผชิญหน้ากับสามกองกำลังที่ทรงอิทธิพลอย่างน้อยก็หนึ่งกองกำลัง  ชาวหมู่ดาวหมาป่ามักจะเป็นปฏิปักษ์กับคนภายนอก  พวกเขาไม่มีความเมตตาให้”

 “เฮ้, เสี่ยวเฮ่อ, ตอนนี้เจ้ากลัวแล้วเหรอ?”  ถังเทียนจ้องมองอาเฮ่อ ผิดหวังกับสิ่งที่เขาเพิ่งกล่าว

อาเฮ่อกล่าว “ข้าแค่ต้องการเตือนให้เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งถัดไป”

ถังเทียนกำหมัดแน่นและกล่าวเสียงดังลั่น “ใครก็ตามที่ขวางทางเรา พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับเรา  ข้าอาจจะไม่ฉลาดนัก  แต่เมื่อถึงเวลาต่อสู้  ข้าก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

เขาหันมามองอาเฮ่อด้วยความภูมิใจ  “เสี่ยวเฮ่อ, ปัจจุบันนี้เข้าติดอันดับนักสู้สวรรค์วิถีที่ 9637 แล้ว!”

นอกจากถังเทียนแล้ว หลิงซิ่วและอาเฮ่อยังคงติดอันดับไปด้วย  อาเฮ่ออันดับที่ 9771  ขณะที่หลิงซิ่วอันดับที่ 9789  หลิงซิ่วผิดหวังที่เขาติดอันดับท้ายสุดของกลุ่ม เนื่องจากเขาทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก

 “นั่นโชคไม่ดีเลย” อาเฮ่อกล่าว  “กลุ่มดาวหมาป่ามีนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีถึงสิบห้าคน และสิบสามคนมีอันที่สูงกว่าเจ้า  สิ่งที่โชคร้ายยิ่งกว่าก็คือทั้งสิบสามคนนี้ มีสามคนที่มีอิทธิพลอำนาจเช่นกัน”

 “ฮึ,  วางใจได้ ข้าจะต้องเอาชนะพวกเขาให้ได้เมื่อเรารบ!” ถังเทียนกล่าวอย่างขุ่นเคือง  “ข้าจะกลับไปฝึกล่ะ” 

ถังเทียนเข้าไปในค่ายทหารใหม่และมุ่งมั่นกับการฝึกฝน

นอกจากงานที่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ  ถังเทียนจะใช้เวลาของเขาที่เหลือฝึกฝนโดยไม่พักเท่าใดนัก มีปัญหาอีกมากที่ถังเทียนไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากเขายังด้อยปัญญา  แต่สิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ เขาชดเชยด้วยการฝึกหนักยิ่งขึ้น

เขาไม่กลัวการต่อสู้ เพราะตอนนี้เขาใช้ความพยายามหนักกว่าใครๆ

ด้วยการช่วยของกลุ่มดาวกางเขนใต้และด้วยขุนพลวิญญาณที่ทรงพลังอย่างนั้น  ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่พยายามอย่างเต็มที่

การฝึกฝนไม่น่าสนใจและน่าเบื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกฝนระดับสูงเหล่านั้น  อย่างไรก็ตาม ถังเทียนลองใช้ดูทั้งหมด  แม้ว่าจะครอบครองลูกปัดกระเรียนฟ้า  แต่ถังเทียนก็ไม่พักชื่นชมตัวเองและฝึกหนักต่อไป  หลังจากใช้หินดวงดาวแล้วถังเทียนก็เริ่มฝึกฝนอย่างมีนัยสำคัญ

ความก้าวหน้าสามารถเห็นได้ในวิชาโล่อากาศโจมตีและวิชาลมพราง

ถังเทียนฝึกวิชาโล่อากาศโจมตีในห้องฝึกฝนพิเศษ  ในห้องนี้ มีหินนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่รอบๆ  เหมือนกับว่าเป็นทะเลก้อนหิน  หินเหล่านี้เคลื่อนไหวสุ่มๆ และรวดเร็วมาก  ถังเทียนต้องใช้โล่ตะลุยเลือดป้องกันกระสุนหินทั้งหมดที่พุ่งมาหาเขา

ห้องฝึกฝนนี้เรียกว่าฟ้าถล่ม มักใช้ฝึกฝนด้านการป้องกันเป็นพิเศษ มีความยากอยู่สามระดับ  ห้องฝึกนี้ถังอี้แนะนำให้ถังเทียนฝึก เนื่องจากเขาคุ้นเคยกับพื้นที่ค่ายทหารใหม่

ครั้งแรกที่ถังเทียนเข้าห้องฟ้าถล่มนั้น เขาตกใจกับการพุ่งชนของหินขนาดใหญ่

ในวันแรก ถังเทียนบาดเจ็บไปทั้งตัวรวมทั้งฟกช้ำหลังจากหินในห้องฟ้าถล่มพุ่งชน นี่ตั้งค่าความยากไว้ในระดับต่ำเท่านั้น  ตามมุมมองของถังอี้ ทหารดาบโล่จากกลุ่มดาวคนแบกงูที่อยู่ในค่ายทหารใหม่ครั้งสุดท้าย สามารถทำสำเร็จได้เมื่อพวกเขาตั้งระดับความยากไว้ที่ระดับสอง  สูงกว่าที่ถังเทียนฝึกเสียอีก

ถังเทียนรู้สิ่งที่เขาต้องการทำแล้ว  ถังอี้ไม่จำเป็นต้องพูดอีกต่อไป

ถังเทียนตอนแรกกำลังเตรียมจะพัก  หลังจากได้ยินถังอี้พูด ก็ตัดสินใจกลับไปฝึกที่ห้องฟ้าถล่มอีกครั้ง

แม้ว่าการ์ดม่วงทองจะมีราคาที่แพง แต่พลังที่สะสมอยู่ในการ์ดก็ยังมากกว่าการ์ดระดับทอง  ด้วยความช่วยเหลือของการ์ด  ถังเทียนสามารถเร่งฝึกฝนได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว  แม้ว่าถังอี้จะไม่พูดคำเหล่านั้นออกมา  แต่ถังเทียนก็ยังกัดฟันและกลับไปฝึกฝนอย่างหนัก  คำพูดเหล่านั้นช่วยจุดไฟให้ถังเทียนมากยิ่งขึ้น

ถังเทียนยังคงรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพดาวกางเขนใต้  ทุกครั้งที่ปิงพูดเกี่ยวกับทหารดาวคนแบกงู  มักจะเป็นเรื่องเสื่อมเสียหน้าเสมอ  ถังเทียนไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถยกระดับมาจนเท่ากับทหารของดาวคนแบกงูได้

ในที่สุดถังเทียนก็ฝึกระดับที่ง่ายที่สุดสำเร็จหลังจากผ่านไปสามวัน

และเกือบจะทันทีคือ การฝึกฝนในระดับยากปานกลางได้ทำลายการตั้งความหวังภายในไว้สูงของถังเทียน  เพราะต่อมาอีกห้าวัน ไม่ว่าเขาจะพยายามหนักมากเพียงไหน  เขาก็ยังไม่สามารถทนได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมง

นี่เป็นวันที่หกแล้ว

ปัง!

หินใหญ่ขนาดถาดกระแทกใส่โล่ของถังเทียน  หลังจากระเบิดแล้ว ถังเทียนไม่สามารถดึงโล่มาป้องกันได้ จึงมีช่องว่างเปิดให้ก้อนหินพุ่งเข้าโจมตีเขา  เขารู้ว่าเขาอยู่ในความยุ่งยาก  แต่ไม่มีเวลาสนองตอบ  หินหลายก้อนพุ่งเข้าใส่เขา

ปัง ปัง ปัง!

ถังเทียนไม่รู้ว่าโดนกระแทกไปมากเท่าไหร่  เขาพุ่งเข้าหาห้องฟ้าถล่ม

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวทองแดง