วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 529 ชัยชนะเด็ดขาด

ตอนที่  529  ชัยชนะเด็ดขาด
ภูเขาทะลุเมฆเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในกลุ่มดาวหมีใหญ่  ความสูงเกิน 12 กิโลเมตรมีครึ่งหนึ่งที่อยู่ต่ำกว่าเมฆ
หลังแนวเขาทะลุเมฆ มีกองทัพจักรกลเดินทางและไต่ไปตามแนวเขาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเข้าไปในกลุ่มเมฆอย่างรวดเร็ว

พวกเขาไต่ระดับสูงขึ้นไปในชั้นที่มีเมฆปกคลุมและเลี้ยวลงที่สันเขา  กองกำลังระมัดระวังและเคร่งขรึมทันที  ความเร็วของพวกเขาลดลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผันผวนของพลังงานขนาดใหญ่   ขณะที่บินช้าๆ ความผันผวนของพลังงานจะลดลงมาก
สภาพอากาศในตอนนี้นับว่าดี มีชั้นเมฆที่หนาทึบ สามารถช่วยกรองความผันผวนของพลังงานจากกองทัพจักรกลได้
ในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพจักรกลก็เข้าประจำตำแหน่งจู่โจม  ขณะที่กองพลแสงอุทัยยังไม่ทันได้รู้ตัว
ท้องฟ้าเป็นของเซียน
คำพูดเหล่านี้ถ่ายทอดวนเวียนมาเกินกว่าหมื่นปีแล้ว  ใบหน้าไพ่ของปิงสงบเหมือนเคย  อย่างไรก็ตามอารมณ์ของเขากำลังปั่นป่วนเหมือนถูกไฟรุมล้อม  เขาต้องการบอกโลกว่านอกจากเซียนที่อยู่ในท้องฟ้าแล้ว  ท้องฟ้ายังเป็นของคนกลุ่มหนึ่งอีกด้วย
นักสู้จักรกลผู้ที่ถูกโลกลืมเลือนมานานเกินไปแล้ว
เราอยู่ที่นี่ ณ ที่นี้เราจะเอาท้องฟ้ากลับมาเป็นของเรา!
ปิงข่มโทสะในใจของเขาเต็มที่ เขาเปลี่ยนทีท่าเคร่งขรึมกล่าวเสียงทุ้ม  “ทุกคน เตรียมตัวบุก!”
กองทัพจักรกลปรับตัวเข้าประจำตำแหน่งนานแล้วเหมือนกับฝูงปลา พวกเขาทะลุผ่านเมฆ
กองพลแสงอุทัยเป็นของสาขาระดับทองที่สิบเอ็ดในสมาพันธ์ชาวยุทธ  สาขาระดับทองที่สิบเอ็ดไม่ถือว่าเป็นสาขาที่แข็งแกร่ง  แต่พวกเขามีคุณลักษณะที่ไม่เหมือนใคร  วิชาแพทย์ของสาขาทองที่สิบเอ็ดลึกล้ำที่สุด  นักสู้ชั้นทองของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาแพทย์  วิชาแพทย์ไม่เหมาะกับการรบ และเพื่อไล่ตามความสามารถในการต่อสู้พวกเขาเดินตามเส้นทางพิเศษ
ใช้วิชาแพทย์เพื่อแก้ไขและยกระดับร่างกายพวกเขา
นี่เองทำให้นักสู้ระดับทองในสาขาทองที่สิบเอ็ดไม่เหมือนกับหน่วยอื่น   ในช่วงซ้อมรบของกองทัพสมาพันธ์ชาวยุทธ  กองพลแสงอุทัยเป็นคู่ต่อสู้ที่ทุกคนไม่ยินดีพบเจอ  ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาไม่นับว่าแข็งแกร่งทรงพลัง  แต่พวกเขามีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก  ในสนามต่อสู้ นี่คือข้อได้เปรียบใหญ่  ตัวอย่างเช่น เมื่อพวกเขาได้รับบาดแผลชั่วคราว ก็ยังดำเนินการต่อสู้ได้ต่อไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้วยหลักประกันวิทยายุทธสำหรับการรักษาที่แกร่งกล้า  ตราบใดที่ทหารยังไม่ตายระหว่างสู้รบ  พวกเขาก็จะไม่เป็นอะไร  นี่ทำให้พวกทหารไม่กลัวต่อการบาดเจ็บ  เพราะพวกเขาได้ค้นคว้าและเชี่ยวชาญวิชารักษาบาดแผลได้
กองพลแสงอรุณเชี่ยวชาญในการต่อสู้ยืดเยื้อ ตราบใดที่พวกเขาเข้าสู่สภาวะที่ยันกัน พวกเขามักจะเป็นฝ่ายชนะ  เมื่อเห็นศัตรูของพวกเขาแขนขาใช้ไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังโถมตัวเองไปข้างหน้าโดยไม่กลัวตาย ภาพเช่นนั้นถือเป็นฝันร้ายของศัตรู
 “เราอยู่ห่างจากเมืองศีรษะหมีเท่าไหร่?”  เลสเตอร์ถาม
 “ตัดสินจากความเร็วในปัจจุบันของเรา  เราจะไปถึงเมืองศีรษะหมีราวบ่ายของวันพรุ่งนี้” นายทหารผู้ช่วยของเขาคำนวณคำตอบอย่างมืออาชีพ
เลสเตอร์ขมวดคิ้ว  “เราต้องรอจนถึงบ่ายวันพรุ่งนี้เชียวหรือ?”
 “ใช่”  นายทหารผู้ช่วยมองดูผู้บัญชาการอย่างระมัดระวัง  ผู้บัญชาการของเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก  ดังนั้นเขาอธิบายอย่างรวดเร็ว  “เราใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุดแล้ว  ถ้าเราต้องการไปให้ถึงเร็วขึ้น  เราจะต้องเพิ่มความเร็ว”
เลสเตอร์ไม่ใช่ผู้นำทหารระดับอาชีพ  แต่เขาค่อนข้างเชี่ยวชาญในการศึกษากลยุทธ์สู้รบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับกลุ่มที่เท่าเทียมกันในอดีต เขาสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนได้  เมื่อสาขาทองที่สิบเอ็ดกำลังเตรียมตัวสร้างกองพลแสงอรุณ  เขาเสนอบริการของเขาเพิ่มขึ้นจากรูปลักษณ์ที่ดูลึกซึ้งของเขา  เขาได้รับตำแหน่งอย่างประสบความสำเร็จ
เลสเตอร์ค่อนข้างเจ้าอารมณ์  นิสัยของเขาใจร้อนเหมือนไฟ และกลยุทธ์สู้ยอมสละชีวิตทำให้กองทัพอื่นปวดหัวจากน้ำมือของเขา
เลสเตอร์มองดูทหารที่ดูเหนื่อยอ่อนทุกคนและส่ายศีรษะ  “จัดสรรเวลาพักไว้ ปล่อยทีมเล็กสามทีมคอยคุ้มกัน  ส่วนที่เหลือจะใช้พลังแสงอรุณ”
พลังแสงอรุณคือวิชายุทธที่ใช้ในการรักษาที่สำคัญที่สุดของกองพลแสงอรุณ  มันจะช่วยทำให้ทหารฟื้นคืนความแข็งแรงและปราณแท้ในช่วงเวลาสั้นๆ  ผลกระทบของมันเกินกว่าวิชาแพทย์ที่กองทัพใช้โดยปกติ  ต้องใช้เวลาสามชั่วโมงเพื่อให้ทหารฟื้นคืนความแข็งแรงตามปกติของพวกเขา    ข้อเสียเปรียบเพียงประการเดียวก็คือเมื่อพวกเขาใช้พลังแสงอรุณ  พลังป้องกันของกองพลจะอ่อนลง
ขณะที่ใช้พลังแสงอรุณรักษา นักสู้จะอยู่ในสภาวะไร้ความรู้สึกและถ้าพวกเขารักษายังไม่สำเร็จ ก็ยากที่จะออกไปได้
 “หน่วยย่อยสามหน่วย น้อยเกินไปหรือเปล่า?”  นายทหารผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง
 “ก็แค่หน่วยย่อยสามหน่วย!  เลสเตอร์พูดอย่างตัดสินใจ  “เลือกนักสู้ระดับทองทุกคนเลย  นักสู้ระดับทอง 30 คน  ข้าไม่เชื่อเลยว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่หรือใครอื่นจะสามารถคุกคามเราได้”
นายทหารผู้ช่วยของเขาเตือน  “ศัตรูมีกองทัพจักรกล....”
เลสเตอร์หัวเราะลั่น  “พวกเขาถูกส่งไปไกลแล้ว  เมื่อเราเคลื่อนไหว  พวกเขายังคงอยู่ในกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์  เรามีพลังแสงอรุณคอยเพิ่มความเร็วให้เราอย่างเต็มที่  และพวกเขาจะเร็วกว่าเราได้ยังไง?  มันเป็นไปไม่ได้นอกจากพวกเขามีมากกว่าสองขา”
นายทหารผู้ช่วยของเขาคิดอีก  ผู้บัญชาการของเขาพูดถูก  พวกเขาวิ่งผ่านไปตามถนน นอกจากจะฟื้นฟูด้วยพลังของแสงอรุณในระหว่างทางแล้ว  พวกเขาไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้นเลย  ศัตรูของพวกเขาจะไวกว่าพวกเขาได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้เลย
ในเวลาอันรวดเร็ว ค่ายก็สว่างไสวไปด้วยไฟอบอุ่น  ในแสงสว่างหน้าของทหารเต็มไปด้วยความพึงพอใจ  เลสเตอร์เข้าไปในแสงสว่าง  เขาเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทำให้เขาเหนื่อยหนัก  นายทหารผู้ช่วยของเขาเดินตามเข้ามาข้างใน  เขารู้ว่าการเดินทางยังต้องไปอีกไกล  ถ้าไม่ใช่เพราะพลังแสงอรุณคอยช่วยฟื้นฟู  เขาไม่แน่ใจว่า เขาจะสามารถติดตามกองทัพใหญ่ไปได้หรือไม่
นักสู้ระดับทอง 30 คนที่ได้รับเลือก แยกกระจายอยู่รอบๆ ค่าย
 “นี่เป็นชีวิตที่ลำบากอย่างแท้จริง ข้าเองก็เหนื่อยมากอยู่เหมือนกัน  กลุ่มเจ้าบ้าพวกนี้รู้จักเสพสุขนัก  รอบต่อไปข้าจะขอเพลิดเพลินกับพลังแสงอรุณบ้าง”
 “หยุดบ่นเถอะน่า  ถ้านายได้ยิน เจ้าเป็นได้เจอดีแน่”
 “ฮ่าฮ่า  ข้าเพียงแต่พูดเฉพาะต่อหน้าเจ้าเท่านั้น  ข้าไม่อาจรอให้เราไปโผล่ที่เมืองศีรษะหมีในทันใด แล้วมองดูหน้าเจ้าพวกคนบ้านอก ฮ่าฮ่า คงเป็นภาพที่น่าทึ่ง!
 “ฮ่าฮ่า ด้วยวิธีที่เจ้าพูด   เจ้าก็มองไปข้างหน้าเหมือนสินะ... เอ่... นั่นเสียงอะไร?”
 “เสียง?  เจ้าประสาทหลอนไปแล้ว  นี่คือที่แม้แต่นกก็ไม่กล้าวางไข่  แล้วยังจะมีเสียงอะไรอีก?”
 “ไม่, ฟังดูสิ!
 “เอ่! มีจริงๆ ด้วย... เดี๋ยวก่อน... นั่นอะไร?”
นักสู้ชั้นทองนี้เหม่อมองจ้องท้องฟ้า จุดดำเล็กๆ พุ่งออกมาจากเมฆด้วยความเร็วน่าตื่นตระหนกขณะที่พวกเขาลงสู่พื้น จุดดำเหล่านั้นลงมาด้วยความเร็วสูง  ในพริบตาพวกเขาก็ขยายขึ้นหลายเท่าต่อหน้าต่อตานักสู้ระดับทอง ทำให้พวกเขามองเห็นชัดขึ้น
อาวุธจักรกลวิญญาณ!
เป็นรูปแบบของอาวุธจักรกลวิญญาณที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน!
ลอบจู่โจม!
สีหน้าของนักสู้ระดับทองทั้ง 30 คนเปลี่ยน  ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิว  ฝ่ายตรงข้ามกำลังเร่งเข้ามา
อาวุธจักรกลวิญญาณ 1000 ชุดคลุมเต็มท้องฟ้า และฉากภาพที่อาวุธจักรกลพันชุดบุกเข้ามาพร้อมกันเหมือนกับภูเขาไท้ซานถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาทุกคน
นักสู้ระดับทอง 30 คนเผชิญกับการโจมตีที่กำลังจะมาถึงอ่อนแอเป็นเหมือนกิ่งไม้แห้งในพายุ  ทุกคนหน้าซีดขาว จิตใจว่างเปล่า นัยน์ตาสับสนเต็มไปด้วยความกลัว
ในสายตาของพวกเขา กลุ่มสีดำหนาแน่นก็คืออาวุธจักรกลวิญญาณทั้งหมด
อาวุธจักรกลวิญญาณที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง แต่ละเครื่องมีลักษณะที่น่ากลัว  ทำให้ดูเหมือนบ้านน้ำแข็งถล่ม
ถ้ามีผู้นำทหารที่โดดเด่น เมื่อเห็นประจักษ์การระดมโจมตี  เขาอาจจะหันหลังและวิ่งหนีโดยไม่ลังเล
อาวุธจักรกลวิญญาณ 1000 เครื่องที่พุ่งลงมา ในขณะที่พวกเขาโฉบลงมาด้วยความเร็วสูงสุด ก็ยังคงตั้งขบวนได้เป็นชั้นๆ  ถ้าผู้นำทหารคนหนึ่งมีความโดดเด่นพอ เขาจะตระหนักได้ถึงสิ่งที่ปิงพยายามทำ
 “ฆ่า!
เสียงเยือกเย็นดังขึ้นจากจากอาวุธจักรกลวิญญาณแถวหน้าที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง  แม้แต่ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิว  ไม่สามารถทำลายน้ำแข็งได้ด้วยเสียงหวีดหวิวไม่สามารถทำลายได้ด้วยเสียงตะโกน
เมฆครึ้มม้วนตัวแต่ไกล พร้อมกับเปล่งแสงสว่างมาก
อาวุธจักรกลทั้งหมดตาสว่างเป็นประกาย
 “ฆ่า!
นักสู้พันคนในชุดอาวุธจักรกลวิญญาณตะโกนกราดเกรี้ยว  ท้องฟ้าระเบิดเหมือนกับมีสายฟ้า  นักสู้ชั้นทองตกใจมึนงงหูอื้อ
อาวุธจักรกลพันชุดปลดปล่อยรังสีมีดพร้อมกัน
รังสีมีดกระบี่นับไม่ถ้วนเหมือนกับฝูงปลาขนาดใหญ่ถาโถมใส่ปิงอย่างบ้าคลั่ง
นักสู้ชั้นทองมองดูท้องฟ้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า แสงเจิดจ้าทำให้พวกเขานัยน์ตาพร่า
แต่เมื่อแสงสลัวลงทันที  การมองเห็นของนักสู้ชั้นทองกลับคืนสู่สภาพปกติทันที  ขณะที่พวกเขาพยายามมองให้ชัด  หน้าของเขาว่างเปล่า  ความตั้งใจจะป้องกันหายไปหมดไม่มีเหลือ ขณะที่พวกเขาทุกคนหันหลังและวิ่งหนีโดยไม่ลังเล
บอลแสงขนาดมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าสามสิบเมตรปรากฏอยู่ต่อหน้าอาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้า
บอลแสงไม่ได้สว่างเจิดจ้า แต่ค่อนข้างจะสลัว แต่มันปล่อยปราณที่น่ากลัวและนักสู้ระดับทองทั้งสามสิบคนไม่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อต่อต้านได้
ลูกกลมแสงสีคล้ำคลุมไปด้วยรังสีดาบจากอาวุธจักรกลทั้งพันชุด
พลังของรังสีดาบที่อาวุธจักรกลวิญญาณปล่อยออกมาทรงพลังมากกว่าวิทยายุทธของนักสู้ในขอบเขตชั้นเดียวกัน  เพราะผ่านการเติมพลังหินดวงดาวแล้วจึงปล่อยออกมา  ความคล่องแคล่วของอาวุธจักรกลวิญญาณไม่สามารถเทียบได้กับนักสู้  ดังนั้นนักสู้จักรกลผู้ขัดขวางจึงใช้ความได้เปรียบในการสู้ตัวต่อตัว
อย่างไรก็ตาม,  เมื่อรังสีดาบพันสายถูกปลดปล่อย  จากนั้นรวมตัวและสร้างเป็นบอลแสงขนาด 30 เมตร....
พลังที่บอลแสงบรรจุไว้นับว่าน่ากลัวจริงๆ
หลังจากผ่านการเพิ่มขนาดจากอาวุธจักรกลวิญญาณ  พลังของรังสีดาบกร้าวแกร่งขึ้น  แต่ในเวลาเดียวกันก็ควบคุมยากขึ้น  ดังนั้นสำหรับผู้นำทหารจึงสามารถใช้รังสีควบคุมของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
อาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้าที่จะควบคุมรังสีดาบได้นั้นแทบจะนึกภาพไม่ออก  แม้แต่ผู้นำทหารชั้นยอดสองสามคนก็ยังไม่สามารถทำได้
เมื่อเห็นด้วยตาตนเอง  พวกเขาคงไม่อยากจะเชื่อ  แต่ตอนนี้ในหัวของพวกเขามีความคิดเดียว “หนี”
ออกไปจากที่นี่  รีบออกไปจากที่นี่...
ปัง!
บอลแสงขยายขนาดตามหลังพวกเขา  ความผันผวนของพลังงานนั้นน่ากลัวราวกับโลกถึงกาลอวสานจนทำให้พวกเขาแทบลืมหายใจ  นักสู้ระดับทองสองสามคนที่วิ่งช้ากว่าถูกแสงกลืนเข้าไป ไม่มีอะไรเหลือ
คลื่นกระแทกที่น่ากลัวกระแทกออกไปฉับพลัน  เหมือนกับกระแสอากาศที่คล้ายกำแพงเหล็ก แรงปะทะหนักหน่วงกระแทกไล่หลังนักสู้ระดับทอง
ขณะที่พวกเขาถูกกระแทกอย่างหนัก  พวกเขากระอักโลหิตแทบจะทันที ร่างปลิวกระเด็นออกไป
ใจของพวกเขาว่างเปล่ หลังจากพวกเขากระแทกลงพื้น  พวกเขาตะเกียกตะกายลุกขึ้น ปากพวกเขาร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่งและพวกเขาวิ่งต่อไปข้างหน้า เมื่อตกอยู่ในสภาพบ้าคลั่งไปแล้ว  พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าอาวุธจักรกลวิญญาณไล่กวาดล้างตามหลังมาอย่างเงียบๆ
อาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านี้ลอยตัวมีโลหะที่สีเข้มมันเงา  ร่างขนาดใหญ่ของพวกมันคล่องแคล่วเหมือนกับนักล่าที่แฝงตัวอยู่ในความมืด  เข้ามาใกล้เป้าหมายของพวกมันทุกที
พวกมันเงื้อมือขึ้นและสับดาบลงทันที

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Boybravo กล่าวว่า...

Thanks

windwolf กล่าวว่า...

สนุกมากครับ ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

บอลเกนกิป่ะเนี่ยบขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น