วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 545 ประชุมกันแบ่งปันผลประโยชน์!


ตอนที่  545  ประชุมกันแบ่งปันผลประโยชน์!
หลิงซิ่วหยีตามองดูคนทั้งสอง  “พวกเจ้าต้องการเรียนวิชาหอกจากข้างั้นหรือ?”
อยู่ต่อหน้าของเขาโอวหยางซือและจั่วเยี่ยนยืนตัวตรง

หลิงซิ่วในปัจจุบันไม่ใช่เด็กหนุ่มพเนจรธรรมดาอีกต่อไป  หลังจากสู้รบมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเจ็ดดาวเหนือที่ซึ่งให้เขาได้ควงหอกขับขี่อาชาต่อสู้กับเซียนมาเป็นเวลานานมาก เขาจึงกลายเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างมาก  สองคนที่อยู่ต่อหน้าของเขา โอวหยางซือและจั่วเยี่ยนรู้สึกใจเต้นแรงด้วยความกลัว  หลิงซิ่วเหมือนพระยามัจจุราชที่มาจากยมโลกร่างของเขาเต็มไปด้วยปราณฆ่าฟัน
พวกเขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยำเกรง  รังสีฆ่าฟันที่ซึมออกมาจากร่างของหลิงซิ่วหนาแน่นเหมือนกับสุราดีกรีแรง  แต่ไม่มีความกระหายเลือดหรืออำมหิตแม้แต่น้อย
เมื่อหลิงซิ่วมองดูพวกเขา  หัวใจของพวกเขาตกวูบทันที  แต่ไม่ทำให้พวกเขาท้อถอย  บนเส้นทางแห่งความยากลำบากจะช่วยขัดเกลาความมุ่งมั่นของพวกเขาให้มีจิตใจมั่นคงขึ้น
โอวหยางซือยืดหลังตรงและตะโกนด้วยเสียงอันดัง  “ข้าหวังว่าอาจารย์จะรับสอนพวกเราด้วย”
 “ทำไมข้าจะต้องสอนพวกเจ้าทั้งสองคนด้วย?”  หลิงซิ่วพูดเฉื่อยชา
โอวหยางซือมีนิสัยซื่อตรงตะลึงทันที   คำถามที่ทำให้พวกเขาสะดุด  ใช่แล้ว ทำไมอาจารย์หลิงซิ่วจะต้องสอนให้พวกเขาด้วย?  พวกเขาไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับหลิงซิ่ว และเป็นแม้แต่ศิษย์ของศัตรูของพวกเขาดังนั้นทำไมอาจารย์หลิงซิ่วจะต้องสอนพวกเขา?
จั่วเยี่ยนผู้เงียบอยู่เสมอพูดออกมาทันที  “เพราะกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจะมีเพียงคนเดียวไม่ได้!
แกะน้ำแข็งเงิน....
หลิงซิ่วหยีตา  ประกายตาเจิดจ้ารุนแรงมากขึ้น ทั้งสองคนสำลัก ตลอดทั้งร่างเริ่มสั่นสะท้าน  การเผชิญหน้ากับหลิงซิ่ว พลังของพวกเขาช่างเล็กน้อยเหลือเกิน
แม้ว่าหน้าของจั่วเยี่ยนจะซีดขาว  แต่เขารวบรวมความกล้า  “อาจารย์, กองกำลังแกะน้ำแข็งเงินเท่านั้นถึงฟื้นฟูกลุ่มดาวแกะได้ (เมษ)! มีแต่กองกำลังแกะน้ำแข็งเงินเท่านั้นจึงจะทำให้ประชาชนกลุ่มดาวแกะกู้ความรุ่งเรืองที่สูญหายกลับคืนมา!  อาจารย์ ถึงเวลาฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินแล้ว  ก็คือที่นี่”
 “ฟื้นคืนกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน?”  หลิงซิ่วมองดูพวกเขา และหัวเราะเยาะ  “แค่เจ้าสองคนน่ะหรือจะฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน?”
หน้าของโอวหยางซือและจั่วเยี่ยนกลายเป็นสีแดงทันที
 “อาจารย์, โปรดอย่าดูแคลนพวกเราเลย!
 “อาจารย์,  เรื่องการทดสอบ เราพร้อมจะยอมรับ!
หลิงซิ่วปฏิเสธแสดงความคิดเห็น แต่กล่าวว่า “รอจนกว่าพวกเจ้าผ่านการฝึกฝนเสียก่อนค่อยพูดเรื่องอนาคต  โอว, ข้าเกือบลืมแจ้งพวกเจ้าไป กลุ่มดาวหมีใหญ่รับสมัครเข้าฝึกฝนโหดสุดๆ มีตายกันบ่อย ถ้าพวกเจ้ารู้สึกว่ายากจะทนได้ ก็ไม่ต้องฝืน”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขาหลิงซิ่วไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ปฏิเสธ และเรียกพวกทหารพาพวกเขาเข้าค่ายฝึกฝนทันที
 “พี่หลิง, ท่านอยากฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจริงๆ หรือ?”  เว่ยเว่ยอันถามด้วยความสงสัย
 “จริงๆ แล้วข้ายังไม่รู้”  หลิงซิ่วคิดชั่วขณะ จากนั้นพึมพำ “ข้าคิดว่าอาจารย์คงหวังจะให้ข้าทำเช่นนั้น  แต่ข้าไม่มีความรู้สึกว่าข้าเป็นคนของกลุ่มดาวแกะ การปกป้องกลุ่มดาวแกะนั้นข้าไม่ยินดีทำเลยแม้แต่น้อย  โอว, ข้าจะไปหาถังห้าวเสียหน่อย อาจจะขอให้เขาช่วยโค่นกลุ่มดาวแกะดูก็ได้ บางทีอาจใช้วิธียิงกระสุนนัดเดียวฆ่านกได้สองตัวก็ได้”
ขณะนั้นอุปกรณ์สมบัติสื่อสารที่เขามีเริ่มทำงาน
 “ถังห้าวกำลังเรียกทุกคนมาประชุม”  หลิงซิ่วคำราม  “เขาจะเล่นอะไรอีก? ไปเถอะ ข้าอยากจะซ้อมมือกับเขาสักเล็กน้อย”
ความตั้งใจต่อสู้กับเขาเพิ่มขึ้นมาก
*********************

ในลานบ้านช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิมาถึง กิ่งก้านดอกไม้สั่นพริ้ว บนโต๊ะไม้ไผ่ที่เย็นยะเยือกมีชุดแก้วชาตั้งไว้  อาเฮ่อนั่งยิ้มเต็มใบหน้า  “เสี่ยวตั่ว  เราไม่พบกันเสียนาน เจ้าน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ”
เสี่ยวตั่วอดยิ้มไม่ได้ “ขอบคุณที่ชมเชยเจ้าค่ะ องค์ชาย”
ข้างๆ เสี่ยวตั่วนั่งไว้ด้วยสุภาพสตรีรูปงามนั่งเคียงข้างกัน  พวกนางทุกคนมองดูองค์ชายอาเฮ่อที่สุภาพอ่อนโยนต่อหน้าพวกนาง และแสดงท่าทีชื่นชม สุภาพสตรีที่สูงอายุคนหนึ่งเอ่ยขึ้น  “ก่อนที่จะมานี้ องค์ราชินีสั่งให้ข้าส่งข้อความถึงท่าน  ถ้ามีอะไรสร้างความลำบากให้กับองค์ชาย กลุ่มดาวคนธนูยินดีให้การสนับสนุนองค์ชายเสมอ”
สุภาพสตรีนี้นามว่าหนีอวี่หงเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งในกลุ่มดาวคนธนูและเป็นที่เชื่อใจของราชินี
อาเฮ่อคำนับอย่างนอบน้อม  “ช่วยข้าขอบคุณท่านป้าด้วย”
อาเฮ่อในปัจจุบันนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก อ่อนโยนและจิตใจกว้างขวางยิ่งกว่าที่เคยเป็น  เมื่อเห็นความตั้งใจดีของท่านป้าของเขา เขาไม่ปฏิเสธด้วยอาการเย็นชากีดกันผู้คนจนห่างไกลเป็นพันไมล์  แต่กลับยิ้มและขอบคุณแทน
ศิษย์สำนักกระเรียนต่างหลั่งไหลเข้ามาในกลุ่มดาวหมีใหญ่กันทุกคน  หลังจากพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วเจ้าสำนักใหญ่ตัดสินใจย้ายสำนักกระเรียนเข้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่  สภาพแวดล้อมของกลุ่มดาวหมีใหญ่แข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มดาวกระเรียนมากมายหลายเท่า  ไม่เพียงแต่สำนักกระเรียนเท่านั้น  แม้แต่ตระกูลซ่างกวนจากกลุ่มดาวเพอร์ซูสก็ยังอพยพเข้ามาด้วย
และอาเฮ่อในปัจจุบันนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงของสำนักกระเรียนไปโดยปริยาย  เขาคือเซียนคนที่สองของสำนักตั้งแต่ปรมาจารย์ก่อตั้งสำนักกระเรียนขึ้นมา  นอกจากนี้เขายังอายุน้อยมาก ทั้งยังเป็นสมาชิกแกนนำของกลุ่มดาวหมีใหญ่  นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยกล้าคิดมาก่อน
แววชื่นชมปรากฏอยู่ในดวงตาหนีอวี่หง  องค์ชายเอาเฮ่อสง่างามและมีทัศนคติสูงส่งการแสดงออกทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ  หลังจากติดตามราชินีมาเป็นเวลานาน  นางรู้ว่าความคิดและการกระทำของราชินีเป็นอย่างไร  ราชินีไม่เคยแต่งงานและไม่มีทายาท  ดังนั้นนางจึงจับตามองหลานชายของนาง  ผลงานของอาเฮ่อในช่วงสองปีที่ผ่านมาพิสูจน์ได้แล้วว่าเขามีความสามารถรับสืบทอดกลุ่มดาวคนธนูได้
นางหัวเราะ  “องค์ราชินีตรัสบอกว่า องค์ชายคือตัวแทนอนาคตซึ่งก็ทำให้ข้าเคยสงสัย  แต่หลังจากเห็นองค์ชายประจักษ์กับตาตนเองในวันนี้ ตอนนี้ข้าถึงได้รู้ถึงปัญญาความฉลาดขององค์ราชินี  อนาคตของกลุ่มดาวคนธนูที่ฝากไว้ในมือองค์ชายจะต้องรุ่งเรืองอย่างแน่นอน”
ผู้คนรอบๆ นางมีสีหน้าประหลาดใจ  แม้ว่าข่าวลือเรื่ององค์ชายอาเฮ่อจะได้ปกครองกลุ่มดาวคนธนูจะไม่ใช่เรื่องใหม่  แต่เพราะหนีอวี่หงพูด้วยตนเองนั่นก็สื่อความได้ทั้งหมด
 “ท่านป้าประเมินผู้หลานสูงเกินไปแล้ว”  ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอาเฮ่อยังคงเดิม  คำพูดของเขายังซ่อนนัยยะว่า “ท่านป้ายังอายุไม่มาก ยังอยู่ในช่วงสุดยอด  เรื่องทั้งหมดนี้ยังเร็วเกินไป และข้ายังรู้สึกสะดวกสบายมีความสุขอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ และไม่ต้องการจะย้ายที่”
หนีอวี่หงมองดูอาเฮ่ออย่างลึกซึ้งและกล่าวอย่างมีความหมาย  “กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็นับว่าดี  แต่องค์ชายไม่ใช่เจ้ากลุ่มดาว  และในสามถึงห้าปี  กลุ่มดาวคนธนูก็สามารถส่งมอบให้องค์ชายได้แล้ว”
อาเฮ่อหัวเราะ  “ทำไมจะต้องเป็นเจ้ากลุ่มดาวด้วยเล่า?  ความหวังทั้งชีวิตของข้าก็คือฟื้นฟูสำนักกระเรียน และหาสถานที่ประจำให้กับสำนักกระเรียน และตอนนี้ข้าก็เติมเต็มความปรารถนานี้แล้ว และยังขยายได้มากกว่าที่ข้าคิด ยังมีอะไรอื่นทำให้ข้าไม่พอใจอีก?”
หนีอวี่หงต้องการพูดต่อ  แต่อาเฮ่อโบกมือ  “ท่านป้าไม่ต้องแนะนำข้าอีกต่อไปแล้ว  อาเฮ่อไม่มีความทะเยอทะยาน และยังเป็นคนที่ราชาที่ไหนๆ ไม่สามารถรั้งให้อยู่ได้  กลุ่มดาวหมีใหญ่กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านความยากลำบากมามากมายและสามารถพูดได้ว่า ต้องย่ำผ่านเปือกตมและเลือดเนื้อ  ทุกคนต่อสู้เคียงข้างกันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของปณิธานเป็นเสมือนป้อมปราการที่เข้มแข็งจนถึงทุกวันนี้  ข้าได้ต่อสู้ร่วมกับทุกคนที่นี่ และยังได้รับบาดเจ็บอยู่ที่นี่ ยังไม่ต้องการคิดจะจากไป  ไม่ว่าตอนนี้กลุ่มดาวคนธนูจะดีเพียงใดก็ตาม  แต่ยังไม่ใช่สถานที่ที่อาเฮ่อต้องการจะปกป้อง”
สุภาพสตรีทุกคนไม่รู้จะพูดยังไงดี
เครื่องมือสมบัติสื่อสารของอาเฮ่อสั่นเตือน  อาเฮ่อขยับมองด้วยความสนใจจากนั้นเงยหน้าแจ้งสุภาพสตรีข้างหน้า  “ข้าต้องขออภัย ดูเหมือนถังห้าวกำลังตามข้าให้ไปร่วมประชุม ข้าจะขอตัวจากไปก่อน”
หนีอวี่หงฝืนหัวเราะ  “คงมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนมากกว่า”
อาเฮ่อคำนับ จากนั้นเดินออกมา
ภายในห้องประชุม อาเฮ่อ หลิงซิ่ว จิ่งหาว คุณชายขลุ่ยวิเศษ ติงม่านและหน่วยเซียนที่นางเป็นผู้นำ  อาโมรี่ หานปิงหนิงและพวกเดินเรียงแถวเข้ามา  แต่เมื่อทุกคนเข้ามาในห้องประชุม  ตาของทุกคนก็ถูกตรึงไว้ที่กลางห้องทันที  สีหน้าทุกคนตะลึงซึมเซา
ที่กลางห้องประชุมมีกองสมบัติวิญญาณ
ทุกคนมีสีหน้าตะลึง  แม้แต่จิ่งหาวผู้ใจเย็นที่สุดดูเหมือนกับจะสูญเสียจิตวิญญาณ    ทันทีที่ก้าวเข้ามาข้างใน  สายตาของเขาไม่อาจละจากกล่องกระบี่ข้างหน้าที่รวมอยู่ในสมบัติวิญญาณได้
 “ข้าเรียกทุกคนมาที่นี่เพื่อแบ่งของที่เราปล้นได้ เอ๊ย.. ปันผลสินสงคราม!
เสียงของถังเทียนได้ยินไกลถึงทุกคนเหมือนกับเมฆที่ลอยอยู่ในที่สูงมาก  ทุกคนรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนกองนุ่น ขาของพวกเขารู้สึกอ่อนแรง
ถังเทียนยืนอยู่ข้างกองสมบัติวิญญาณ  มองดูเหมือนเป็นเจ้าของร้านขายของเลหลังเตรียมปิดกิจการ
 “พี่จิ่งหาว นี่คือ “ดื่มเลือดเซียน” ยกให้ท่าน”  ถังเทียนโยนกระบี่สีดำให้จิ่งหาวโดยไม่ลังเล ซึ่งเขายอมรับไว้โดยไม่รู้ตัว พอกระบี่เข้ามาอยู่ในมือของเขา ปณิธานของกระบี่ก็แพร่เข้าสู่หัวใจเขา  จิ่งหาวสั่นเหมือนกับว่าถูกแช่อยู่ในอ่างน้ำแข็งในฤดูหนาว ตัวตนของเขาตื่นขึ้นทันที
ปณิธานกระบี่ที่กล้าแข็งนัก!
ใบหน้าของจิ่งหาวแสดงออกว่ามีความสุขหลงใหลจริงๆ  ความรักของมือกระบี่ทุกคนที่มีต่อกระบี่สมบัติล้วนออกมาจากหัวใจ
กระบี่นี้เป็นเพียงกระบี่เล่มเดียวที่ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋เก็บไว้!
ตัวกระบี่มีสีดำสนิท เรียบง่ายไม่มีการประดับตกแต่ง หนาและไม่มีขอบคม มีแถวคำอยู่สองบรรทัด ดื่มเลือดเซียน  แค่เพียงรับรู้รสชาติ
จากบันทึกของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ทำให้เขารู้ประวัติของกระบี่ดื่มเลือดเซียนและเริ่มทบทวนคำเหล่านั้นออกมา
 “กระบี่ดื่มเลือดเซียนนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่  หลายๆ ปีนานมากแล้ว มีมือกระบี่ผู้บ้าคลั่งคนหนึ่งมายังโลกนี้และตระเวนท่องเที่ยวไปทั่วสวรรค์วิถีท้าทายเหล่าเซียนไปทุกที่ เอาชนะคู่ต่อสู้ภายในสิบกระบวนท่า ทำให้ชื่อของเขาขจรไกล เซียนทุกคนที่พ่ายแพ้เขาจึงลอบรวมหัวกันวางแผนลอบทำร้ายและเล่นงานเขา  แต่ผลก็คือเขาฟันเซียนสามสิบคนได้และจากไปอย่างง่ายดาย และไม่มีผู้ใดไล่ล่าตามเขาตั้งแต่นั้นมา กระบี่นี้คือกระบี่ที่ดื่มเลือดเซียนมาแล้ว ดังนั้นจึงได้ชื่อว่า ดื่มเลือดเซียน เนื่องจากมันดื่มมาเฉพาะแต่เลือดเซียน”
จิ่งหาวตื่นเต้นมาก  เขาลูบคลำตัวกระบี่  ความภูมิใจและมุมมองด้านหลังกระบี่ปรากฏในสายตาของเขา  เขารู้จักกระบี่นี้ และผู้อาวุโสไม่เคยทิ้งชื่อของกระบี่ไว้เบื้องหลัง  แต่มันกลายเป็นหัวข้อต้องห้ามที่ไม่เคยหยิบยกพูดถึง  สมาพันธ์ชาวยุทธก็มีส่วนพัวพันด้วย  ด้วยคำพูดที่ปรากฏอยู่บนตัวกระบี่ ทำให้เขาตระหนักได้ถึงบุคลิกของมือกระบี่
ถังเทียนอ่านเนื้อหาออกมาในชั่วอึดใจ  จากนั้นหยิบแก้วผลึกที่ดูเหมือนปีกคู่หนึ่งและโยนให้อาเฮ่อ
ปีกให้ความรู้สึกเหมือนไม่มีน้ำหนัก  ขนนกทุกเส้นที่อยู่บนปีกเหมือนกับน้ำบริสุทธิ์ บนผิวจะมีชั้นรัศมีสายรุ้งบางๆ  ปีกจะปลดปล่อยพลังงานผันผวนที่ไม่กล้าแข็งนัก  แต่ด้วยจังหวะที่เฉพาะตัวให้ความรู้สึกจับใจอาเฮ่อ
 “ปีกคู่นี้ ข้าคิดว่ามันชื่อว่าปีกมาร  มันคือสมบัติวิญญาณที่มาจากดินแดนตะวันออกไกล และข้าไม่รู้จักเรื่องของมัน สำนักกระเรียนของเจ้าตกทอดมาจากต้นกำเนิดทางดินแดนบูรพา  ข้ารู้สึกว่าปีกมารจะเหมาะกับเจ้ามาก  แดนบูรพาก็มีสมบัติวิญญาณกับเขาด้วย  น่าแปลกจริงๆ”
หัวใจของถังเทียนคิดฟุ้งซ่าน โธ่เอ๊ย.. เมื่อเสี่ยวเฮ่อติดปีก เขาจะดูหล่อเหลาราวเทพบุตรแม้แต่สาวๆ ก็ยังต้องอิจฉาเขาแน่
ถ้าทำได้ข้าจะเสกให้เสี่ยวเฮ่อกลายเป็นผู้หญิงในอนาคต  จากนั้นก็จะไม่มีใครอ่อนโยนเท่ากับหนุ่มชาวฟ้าอีกแล้ว
อาเฮ่อดื่มด่ำกับปีกมารที่มีความสงบสุขและเร้นลับไกลๆ  มันเต็มไปด้วยความรู้สึกและจังหวะที่เร้นลับ ทำให้ร่างของอาเฮ่อปรับไปตามจังหวะกระแสของมันโดยไม่รู้ตัว
 “เสี่ยวซิ่วซิ่ว  ผนึกเขาแกะหิมะเงินนี้เป็นของเจ้าเท่านั้น ข้าได้ยินมาว่ามีแต่ผู้นำกองกำลังแกะหิมะเงินเท่านั้นจึงจะกวัดแกว่งมันได้  รสนิยมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ช่างซับซ้อนจริงๆ  ถึงกับเก็บของอย่างนี้เอาไว้กับเค้าด้วย..”
ถังเทียนพึมพำ  ขณะที่เขาโยนผนึกแกะน้ำแข็งเงินให้หลิงซิ่ว
ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงิน...
ความคิดของหลิงซิ่วว่างเปล่า เขารับผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินที่ถังเทียนโยนให้โดยไม่รู้ตัว  ผนึกดูไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษ  เขาเเกะที่ตรงเหมือนดาบ ประทับตราผนึกอยู่ด้านข้าง  มีตราประจำตำแหน่งของพาหนะน้ำแข็งเงินสลักเอาไว้ภายใน
หลิงซิ่วรู้ซึ้งถึงความสำคัญของมัน  ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินคือสัญลักษณ์ของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ มีเพียงผู้นำของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจึงจะมีคุณสมบัติถือเอาไว้
ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินสว่างวาบเป็นประกายกระพริบทันที และเปลี่ยนเป็นแสงเงินเข้าไปในร่างของหลิงซิ่ว
ถังเทียนไม่มีเวลาสนใจเขาและยังคงแบ่งปันสมบัติที่พบต่อไป
ภายในเตาหลอมพลังวิญญาณ  เสี่ยวเอ้อกำลังร่ำร้อง  หัวใจของเขารู้สึกเหมือนมีดกรีดเฉือนครั้งแล้วครั้งเล่า

16 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Su.suksom กล่าวว่า...

พี่ถังใจดีแจก

มีตน กล่าวว่า...

ถังเปย์

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอด ขอบคุณครับบ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ลั่นตรง แบ่งของที่เราปล้นมา เอ๊ย สินสงคราม ฮ่าๆๆๆ

Boybravo กล่าวว่า...

เปย์หนักมาก แต่เสี่ยวเอ้ออิจฉาแทบตาย 555

Unknown กล่าวว่า...

เสี่ยวเอ้อบอก ของๆข้า ของรักของข้าาา

aloha777 กล่าวว่า...

เซียนกักสมุทร ซ้ำในตายไปแล้วมั้ง ตั้งแค่ออกมาอยู่กับพี่ถังห้าวนี่เหมือนจะเจ็บไปหลายดอก

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

สมบัติของข้าา

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ของผมล่ะ

Unknown กล่าวว่า...

เสี่ยวเอ้อถึงจะร้องไห้แค่ไหนพี่ถังเค้าก็ไม่ได้ยินหรอกนะ

Pcha กล่าวว่า...

ขอให้พี่ถังไปถล่มดาวแกะป่าเถื่อนจิงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

555555555555....พี่แก มี ฮาตลอด

WingF กล่าวว่า...

ครั้งที่แล้วติดอาวุธกันยันฟัน ครั้งนี้แจกๆๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น