ตอนที่ 545 ประชุมกันแบ่งปันผลประโยชน์!
หลิงซิ่วหยีตามองดูคนทั้งสอง “พวกเจ้าต้องการเรียนวิชาหอกจากข้างั้นหรือ?”
อยู่ต่อหน้าของเขาโอวหยางซือและจั่วเยี่ยนยืนตัวตรง
หลิงซิ่วในปัจจุบันไม่ใช่เด็กหนุ่มพเนจรธรรมดาอีกต่อไป หลังจากสู้รบมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเจ็ดดาวเหนือที่ซึ่งให้เขาได้ควงหอกขับขี่อาชาต่อสู้กับเซียนมาเป็นเวลานานมาก
เขาจึงกลายเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างมาก
สองคนที่อยู่ต่อหน้าของเขา
โอวหยางซือและจั่วเยี่ยนรู้สึกใจเต้นแรงด้วยความกลัว หลิงซิ่วเหมือนพระยามัจจุราชที่มาจากยมโลกร่างของเขาเต็มไปด้วยปราณฆ่าฟัน
พวกเขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยำเกรง รังสีฆ่าฟันที่ซึมออกมาจากร่างของหลิงซิ่วหนาแน่นเหมือนกับสุราดีกรีแรง แต่ไม่มีความกระหายเลือดหรืออำมหิตแม้แต่น้อย
เมื่อหลิงซิ่วมองดูพวกเขา
หัวใจของพวกเขาตกวูบทันที แต่ไม่ทำให้พวกเขาท้อถอย
บนเส้นทางแห่งความยากลำบากจะช่วยขัดเกลาความมุ่งมั่นของพวกเขาให้มีจิตใจมั่นคงขึ้น
โอวหยางซือยืดหลังตรงและตะโกนด้วยเสียงอันดัง “ข้าหวังว่าอาจารย์จะรับสอนพวกเราด้วย”
“ทำไมข้าจะต้องสอนพวกเจ้าทั้งสองคนด้วย?” หลิงซิ่วพูดเฉื่อยชา
โอวหยางซือมีนิสัยซื่อตรงตะลึงทันที คำถามที่ทำให้พวกเขาสะดุด ใช่แล้ว
ทำไมอาจารย์หลิงซิ่วจะต้องสอนให้พวกเขาด้วย?
พวกเขาไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับหลิงซิ่ว และเป็นแม้แต่ศิษย์ของศัตรูของพวกเขาดังนั้นทำไมอาจารย์หลิงซิ่วจะต้องสอนพวกเขา?
จั่วเยี่ยนผู้เงียบอยู่เสมอพูดออกมาทันที “เพราะกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจะมีเพียงคนเดียวไม่ได้!”
แกะน้ำแข็งเงิน....
หลิงซิ่วหยีตา
ประกายตาเจิดจ้ารุนแรงมากขึ้น ทั้งสองคนสำลัก
ตลอดทั้งร่างเริ่มสั่นสะท้าน
การเผชิญหน้ากับหลิงซิ่ว พลังของพวกเขาช่างเล็กน้อยเหลือเกิน
แม้ว่าหน้าของจั่วเยี่ยนจะซีดขาว แต่เขารวบรวมความกล้า “อาจารย์, กองกำลังแกะน้ำแข็งเงินเท่านั้นถึงฟื้นฟูกลุ่มดาวแกะได้
(เมษ)!
มีแต่กองกำลังแกะน้ำแข็งเงินเท่านั้นจึงจะทำให้ประชาชนกลุ่มดาวแกะกู้ความรุ่งเรืองที่สูญหายกลับคืนมา! อาจารย์
ถึงเวลาฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินแล้ว
ก็คือที่นี่”
“ฟื้นคืนกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน?”
หลิงซิ่วมองดูพวกเขา และหัวเราะเยาะ
“แค่เจ้าสองคนน่ะหรือจะฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน?”
หน้าของโอวหยางซือและจั่วเยี่ยนกลายเป็นสีแดงทันที
“อาจารย์, โปรดอย่าดูแคลนพวกเราเลย!”
“อาจารย์, เรื่องการทดสอบ เราพร้อมจะยอมรับ!”
หลิงซิ่วปฏิเสธแสดงความคิดเห็น แต่กล่าวว่า “รอจนกว่าพวกเจ้าผ่านการฝึกฝนเสียก่อนค่อยพูดเรื่องอนาคต โอว, ข้าเกือบลืมแจ้งพวกเจ้าไป
กลุ่มดาวหมีใหญ่รับสมัครเข้าฝึกฝนโหดสุดๆ มีตายกันบ่อย
ถ้าพวกเจ้ารู้สึกว่ายากจะทนได้ ก็ไม่ต้องฝืน”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขาหลิงซิ่วไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ปฏิเสธ
และเรียกพวกทหารพาพวกเขาเข้าค่ายฝึกฝนทันที
“พี่หลิง, ท่านอยากฟื้นฟูกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจริงๆ
หรือ?” เว่ยเว่ยอันถามด้วยความสงสัย
“จริงๆ แล้วข้ายังไม่รู้”
หลิงซิ่วคิดชั่วขณะ จากนั้นพึมพำ “ข้าคิดว่าอาจารย์คงหวังจะให้ข้าทำเช่นนั้น
แต่ข้าไม่มีความรู้สึกว่าข้าเป็นคนของกลุ่มดาวแกะ
การปกป้องกลุ่มดาวแกะนั้นข้าไม่ยินดีทำเลยแม้แต่น้อย โอว, ข้าจะไปหาถังห้าวเสียหน่อย อาจจะขอให้เขาช่วยโค่นกลุ่มดาวแกะดูก็ได้
บางทีอาจใช้วิธียิงกระสุนนัดเดียวฆ่านกได้สองตัวก็ได้”
ขณะนั้นอุปกรณ์สมบัติสื่อสารที่เขามีเริ่มทำงาน
“ถังห้าวกำลังเรียกทุกคนมาประชุม” หลิงซิ่วคำราม
“เขาจะเล่นอะไรอีก? ไปเถอะ ข้าอยากจะซ้อมมือกับเขาสักเล็กน้อย”
ความตั้งใจต่อสู้กับเขาเพิ่มขึ้นมาก
*********************
ในลานบ้านช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิมาถึง
กิ่งก้านดอกไม้สั่นพริ้ว บนโต๊ะไม้ไผ่ที่เย็นยะเยือกมีชุดแก้วชาตั้งไว้ อาเฮ่อนั่งยิ้มเต็มใบหน้า “เสี่ยวตั่ว
เราไม่พบกันเสียนาน เจ้าน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ”
เสี่ยวตั่วอดยิ้มไม่ได้ “ขอบคุณที่ชมเชยเจ้าค่ะ องค์ชาย”
ข้างๆ
เสี่ยวตั่วนั่งไว้ด้วยสุภาพสตรีรูปงามนั่งเคียงข้างกัน พวกนางทุกคนมองดูองค์ชายอาเฮ่อที่สุภาพอ่อนโยนต่อหน้าพวกนาง
และแสดงท่าทีชื่นชม สุภาพสตรีที่สูงอายุคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ก่อนที่จะมานี้
องค์ราชินีสั่งให้ข้าส่งข้อความถึงท่าน
ถ้ามีอะไรสร้างความลำบากให้กับองค์ชาย
กลุ่มดาวคนธนูยินดีให้การสนับสนุนองค์ชายเสมอ”
สุภาพสตรีนี้นามว่าหนีอวี่หงเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งในกลุ่มดาวคนธนูและเป็นที่เชื่อใจของราชินี
อาเฮ่อคำนับอย่างนอบน้อม
“ช่วยข้าขอบคุณท่านป้าด้วย”
อาเฮ่อในปัจจุบันนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
อ่อนโยนและจิตใจกว้างขวางยิ่งกว่าที่เคยเป็น
เมื่อเห็นความตั้งใจดีของท่านป้าของเขา เขาไม่ปฏิเสธด้วยอาการเย็นชากีดกันผู้คนจนห่างไกลเป็นพันไมล์ แต่กลับยิ้มและขอบคุณแทน
ศิษย์สำนักกระเรียนต่างหลั่งไหลเข้ามาในกลุ่มดาวหมีใหญ่กันทุกคน
หลังจากพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วเจ้าสำนักใหญ่ตัดสินใจย้ายสำนักกระเรียนเข้าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่
สภาพแวดล้อมของกลุ่มดาวหมีใหญ่แข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มดาวกระเรียนมากมายหลายเท่า ไม่เพียงแต่สำนักกระเรียนเท่านั้น แม้แต่ตระกูลซ่างกวนจากกลุ่มดาวเพอร์ซูสก็ยังอพยพเข้ามาด้วย
และอาเฮ่อในปัจจุบันนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงของสำนักกระเรียนไปโดยปริยาย เขาคือเซียนคนที่สองของสำนักตั้งแต่ปรมาจารย์ก่อตั้งสำนักกระเรียนขึ้นมา นอกจากนี้เขายังอายุน้อยมาก
ทั้งยังเป็นสมาชิกแกนนำของกลุ่มดาวหมีใหญ่
นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยกล้าคิดมาก่อน
แววชื่นชมปรากฏอยู่ในดวงตาหนีอวี่หง องค์ชายเอาเฮ่อสง่างามและมีทัศนคติสูงส่งการแสดงออกทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากติดตามราชินีมาเป็นเวลานาน
นางรู้ว่าความคิดและการกระทำของราชินีเป็นอย่างไร ราชินีไม่เคยแต่งงานและไม่มีทายาท ดังนั้นนางจึงจับตามองหลานชายของนาง
ผลงานของอาเฮ่อในช่วงสองปีที่ผ่านมาพิสูจน์ได้แล้วว่าเขามีความสามารถรับสืบทอดกลุ่มดาวคนธนูได้
นางหัวเราะ
“องค์ราชินีตรัสบอกว่า องค์ชายคือตัวแทนอนาคตซึ่งก็ทำให้ข้าเคยสงสัย
แต่หลังจากเห็นองค์ชายประจักษ์กับตาตนเองในวันนี้
ตอนนี้ข้าถึงได้รู้ถึงปัญญาความฉลาดขององค์ราชินี
อนาคตของกลุ่มดาวคนธนูที่ฝากไว้ในมือองค์ชายจะต้องรุ่งเรืองอย่างแน่นอน”
ผู้คนรอบๆ นางมีสีหน้าประหลาดใจ
แม้ว่าข่าวลือเรื่ององค์ชายอาเฮ่อจะได้ปกครองกลุ่มดาวคนธนูจะไม่ใช่เรื่องใหม่
แต่เพราะหนีอวี่หงพูด้วยตนเองนั่นก็สื่อความได้ทั้งหมด
“ท่านป้าประเมินผู้หลานสูงเกินไปแล้ว” ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอาเฮ่อยังคงเดิม คำพูดของเขายังซ่อนนัยยะว่า
“ท่านป้ายังอายุไม่มาก ยังอยู่ในช่วงสุดยอด
เรื่องทั้งหมดนี้ยังเร็วเกินไป
และข้ายังรู้สึกสะดวกสบายมีความสุขอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ และไม่ต้องการจะย้ายที่”
หนีอวี่หงมองดูอาเฮ่ออย่างลึกซึ้งและกล่าวอย่างมีความหมาย “กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็นับว่าดี แต่องค์ชายไม่ใช่เจ้ากลุ่มดาว และในสามถึงห้าปี กลุ่มดาวคนธนูก็สามารถส่งมอบให้องค์ชายได้แล้ว”
อาเฮ่อหัวเราะ
“ทำไมจะต้องเป็นเจ้ากลุ่มดาวด้วยเล่า?
ความหวังทั้งชีวิตของข้าก็คือฟื้นฟูสำนักกระเรียน และหาสถานที่ประจำให้กับสำนักกระเรียน
และตอนนี้ข้าก็เติมเต็มความปรารถนานี้แล้ว และยังขยายได้มากกว่าที่ข้าคิด ยังมีอะไรอื่นทำให้ข้าไม่พอใจอีก?”
หนีอวี่หงต้องการพูดต่อ
แต่อาเฮ่อโบกมือ
“ท่านป้าไม่ต้องแนะนำข้าอีกต่อไปแล้ว
อาเฮ่อไม่มีความทะเยอทะยาน และยังเป็นคนที่ราชาที่ไหนๆ ไม่สามารถรั้งให้อยู่ได้
กลุ่มดาวหมีใหญ่กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านความยากลำบากมามากมายและสามารถพูดได้ว่า
ต้องย่ำผ่านเปือกตมและเลือดเนื้อ
ทุกคนต่อสู้เคียงข้างกันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของปณิธานเป็นเสมือนป้อมปราการที่เข้มแข็งจนถึงทุกวันนี้ ข้าได้ต่อสู้ร่วมกับทุกคนที่นี่
และยังได้รับบาดเจ็บอยู่ที่นี่ ยังไม่ต้องการคิดจะจากไป ไม่ว่าตอนนี้กลุ่มดาวคนธนูจะดีเพียงใดก็ตาม แต่ยังไม่ใช่สถานที่ที่อาเฮ่อต้องการจะปกป้อง”
สุภาพสตรีทุกคนไม่รู้จะพูดยังไงดี
เครื่องมือสมบัติสื่อสารของอาเฮ่อสั่นเตือน อาเฮ่อขยับมองด้วยความสนใจจากนั้นเงยหน้าแจ้งสุภาพสตรีข้างหน้า “ข้าต้องขออภัย
ดูเหมือนถังห้าวกำลังตามข้าให้ไปร่วมประชุม ข้าจะขอตัวจากไปก่อน”
หนีอวี่หงฝืนหัวเราะ
“คงมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนมากกว่า”
อาเฮ่อคำนับ จากนั้นเดินออกมา
ภายในห้องประชุม อาเฮ่อ หลิงซิ่ว จิ่งหาว คุณชายขลุ่ยวิเศษ
ติงม่านและหน่วยเซียนที่นางเป็นผู้นำ
อาโมรี่ หานปิงหนิงและพวกเดินเรียงแถวเข้ามา แต่เมื่อทุกคนเข้ามาในห้องประชุม ตาของทุกคนก็ถูกตรึงไว้ที่กลางห้องทันที สีหน้าทุกคนตะลึงซึมเซา
ที่กลางห้องประชุมมีกองสมบัติวิญญาณ
ทุกคนมีสีหน้าตะลึง
แม้แต่จิ่งหาวผู้ใจเย็นที่สุดดูเหมือนกับจะสูญเสียจิตวิญญาณ ทันทีที่ก้าวเข้ามาข้างใน สายตาของเขาไม่อาจละจากกล่องกระบี่ข้างหน้าที่รวมอยู่ในสมบัติวิญญาณได้
“ข้าเรียกทุกคนมาที่นี่เพื่อแบ่งของที่เราปล้นได้
เอ๊ย.. ปันผลสินสงคราม!”
เสียงของถังเทียนได้ยินไกลถึงทุกคนเหมือนกับเมฆที่ลอยอยู่ในที่สูงมาก ทุกคนรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนกองนุ่น
ขาของพวกเขารู้สึกอ่อนแรง
ถังเทียนยืนอยู่ข้างกองสมบัติวิญญาณ มองดูเหมือนเป็นเจ้าของร้านขายของเลหลังเตรียมปิดกิจการ
“พี่จิ่งหาว นี่คือ “ดื่มเลือดเซียน”
ยกให้ท่าน”
ถังเทียนโยนกระบี่สีดำให้จิ่งหาวโดยไม่ลังเล ซึ่งเขายอมรับไว้โดยไม่รู้ตัว
พอกระบี่เข้ามาอยู่ในมือของเขา ปณิธานของกระบี่ก็แพร่เข้าสู่หัวใจเขา
จิ่งหาวสั่นเหมือนกับว่าถูกแช่อยู่ในอ่างน้ำแข็งในฤดูหนาว
ตัวตนของเขาตื่นขึ้นทันที
ปณิธานกระบี่ที่กล้าแข็งนัก!
ใบหน้าของจิ่งหาวแสดงออกว่ามีความสุขหลงใหลจริงๆ
ความรักของมือกระบี่ทุกคนที่มีต่อกระบี่สมบัติล้วนออกมาจากหัวใจ
กระบี่นี้เป็นเพียงกระบี่เล่มเดียวที่ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋เก็บไว้!
ตัวกระบี่มีสีดำสนิท เรียบง่ายไม่มีการประดับตกแต่ง
หนาและไม่มีขอบคม มีแถวคำอยู่สองบรรทัด ‘ดื่มเลือดเซียน แค่เพียงรับรู้รสชาติ”
จากบันทึกของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ทำให้เขารู้ประวัติของกระบี่ดื่มเลือดเซียนและเริ่มทบทวนคำเหล่านั้นออกมา
“กระบี่ดื่มเลือดเซียนนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ หลายๆ ปีนานมากแล้ว
มีมือกระบี่ผู้บ้าคลั่งคนหนึ่งมายังโลกนี้และตระเวนท่องเที่ยวไปทั่วสวรรค์วิถีท้าทายเหล่าเซียนไปทุกที่
เอาชนะคู่ต่อสู้ภายในสิบกระบวนท่า ทำให้ชื่อของเขาขจรไกล
เซียนทุกคนที่พ่ายแพ้เขาจึงลอบรวมหัวกันวางแผนลอบทำร้ายและเล่นงานเขา แต่ผลก็คือเขาฟันเซียนสามสิบคนได้และจากไปอย่างง่ายดาย
และไม่มีผู้ใดไล่ล่าตามเขาตั้งแต่นั้นมา
กระบี่นี้คือกระบี่ที่ดื่มเลือดเซียนมาแล้ว ดังนั้นจึงได้ชื่อว่า ดื่มเลือดเซียน
เนื่องจากมันดื่มมาเฉพาะแต่เลือดเซียน”
จิ่งหาวตื่นเต้นมาก
เขาลูบคลำตัวกระบี่ ความภูมิใจและมุมมองด้านหลังกระบี่ปรากฏในสายตาของเขา เขารู้จักกระบี่นี้
และผู้อาวุโสไม่เคยทิ้งชื่อของกระบี่ไว้เบื้องหลัง แต่มันกลายเป็นหัวข้อต้องห้ามที่ไม่เคยหยิบยกพูดถึง สมาพันธ์ชาวยุทธก็มีส่วนพัวพันด้วย ด้วยคำพูดที่ปรากฏอยู่บนตัวกระบี่
ทำให้เขาตระหนักได้ถึงบุคลิกของมือกระบี่
ถังเทียนอ่านเนื้อหาออกมาในชั่วอึดใจ
จากนั้นหยิบแก้วผลึกที่ดูเหมือนปีกคู่หนึ่งและโยนให้อาเฮ่อ
ปีกให้ความรู้สึกเหมือนไม่มีน้ำหนัก ขนนกทุกเส้นที่อยู่บนปีกเหมือนกับน้ำบริสุทธิ์
บนผิวจะมีชั้นรัศมีสายรุ้งบางๆ
ปีกจะปลดปล่อยพลังงานผันผวนที่ไม่กล้าแข็งนัก แต่ด้วยจังหวะที่เฉพาะตัวให้ความรู้สึกจับใจอาเฮ่อ
“ปีกคู่นี้ ข้าคิดว่ามันชื่อว่าปีกมาร มันคือสมบัติวิญญาณที่มาจากดินแดนตะวันออกไกล
และข้าไม่รู้จักเรื่องของมัน
สำนักกระเรียนของเจ้าตกทอดมาจากต้นกำเนิดทางดินแดนบูรพา ข้ารู้สึกว่าปีกมารจะเหมาะกับเจ้ามาก แดนบูรพาก็มีสมบัติวิญญาณกับเขาด้วย น่าแปลกจริงๆ”
หัวใจของถังเทียนคิดฟุ้งซ่าน โธ่เอ๊ย..
เมื่อเสี่ยวเฮ่อติดปีก เขาจะดูหล่อเหลาราวเทพบุตรแม้แต่สาวๆ ก็ยังต้องอิจฉาเขาแน่
ถ้าทำได้ข้าจะเสกให้เสี่ยวเฮ่อกลายเป็นผู้หญิงในอนาคต
จากนั้นก็จะไม่มีใครอ่อนโยนเท่ากับหนุ่มชาวฟ้าอีกแล้ว
อาเฮ่อดื่มด่ำกับปีกมารที่มีความสงบสุขและเร้นลับไกลๆ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกและจังหวะที่เร้นลับ
ทำให้ร่างของอาเฮ่อปรับไปตามจังหวะกระแสของมันโดยไม่รู้ตัว
“เสี่ยวซิ่วซิ่ว
ผนึกเขาแกะหิมะเงินนี้เป็นของเจ้าเท่านั้น
ข้าได้ยินมาว่ามีแต่ผู้นำกองกำลังแกะหิมะเงินเท่านั้นจึงจะกวัดแกว่งมันได้
รสนิยมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ช่างซับซ้อนจริงๆ ถึงกับเก็บของอย่างนี้เอาไว้กับเค้าด้วย..”
ถังเทียนพึมพำ ขณะที่เขาโยนผนึกแกะน้ำแข็งเงินให้หลิงซิ่ว
ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงิน...
ความคิดของหลิงซิ่วว่างเปล่า
เขารับผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินที่ถังเทียนโยนให้โดยไม่รู้ตัว ผนึกดูไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษ เขาเเกะที่ตรงเหมือนดาบ
ประทับตราผนึกอยู่ด้านข้าง
มีตราประจำตำแหน่งของพาหนะน้ำแข็งเงินสลักเอาไว้ภายใน
หลิงซิ่วรู้ซึ้งถึงความสำคัญของมัน
ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินคือสัญลักษณ์ของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน
และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ
มีเพียงผู้นำของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินจึงจะมีคุณสมบัติถือเอาไว้
ผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินสว่างวาบเป็นประกายกระพริบทันที
และเปลี่ยนเป็นแสงเงินเข้าไปในร่างของหลิงซิ่ว
ถังเทียนไม่มีเวลาสนใจเขาและยังคงแบ่งปันสมบัติที่พบต่อไป
ภายในเตาหลอมพลังวิญญาณ
เสี่ยวเอ้อกำลังร่ำร้อง
หัวใจของเขารู้สึกเหมือนมีดกรีดเฉือนครั้งแล้วครั้งเล่า

16 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
พี่ถังใจดีแจก
ถังเปย์
สุดยอด ขอบคุณครับบ
ลั่นตรง แบ่งของที่เราปล้นมา เอ๊ย สินสงคราม ฮ่าๆๆๆ
เปย์หนักมาก แต่เสี่ยวเอ้ออิจฉาแทบตาย 555
เสี่ยวเอ้อบอก ของๆข้า ของรักของข้าาา
เซียนกักสมุทร ซ้ำในตายไปแล้วมั้ง ตั้งแค่ออกมาอยู่กับพี่ถังห้าวนี่เหมือนจะเจ็บไปหลายดอก
สมบัติของข้าา
ของผมล่ะ
เสี่ยวเอ้อถึงจะร้องไห้แค่ไหนพี่ถังเค้าก็ไม่ได้ยินหรอกนะ
ขอให้พี่ถังไปถล่มดาวแกะป่าเถื่อนจิงๆ
555555555555....พี่แก มี ฮาตลอด
ครั้งที่แล้วติดอาวุธกันยันฟัน ครั้งนี้แจกๆๆๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุนคับ
แสดงความคิดเห็น