เล่มที่ 10 บาลุค – ตอนที่ 7 เดลี่
ชาวบ้านแท้ๆ ทุกคนในหมู่บ้านลับในดินแดนอนารยชนตอนใต้นี้อยู่รวมกันที่นี่กำลังจ้องมองมิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์ขณะที่พวกเขากำลังบินลงมา
คนนับพันเหล่านั้นตื่นเต้นทันทีและเริ่มเรียกขานชื่อของเซียนทั้งสอง
“มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!”
“ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!”
คลื่นเสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั้งหุบเขา บรรยากาศที่นี่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานมาก มิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์บินเข้ามาอยู่ตรงกลาง มิลเลอร์เหยียดมือและบอกให้ทุกคนเงียบเสียง
ทุกคนจ้องมองคนทั้งสามที่อยู่ตรงกลาง
และหลายคนสังเกตเห็นหนูเงาน้อยที่อยู่บนไหล่ลินลี่ย์
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของมิลเลอร์ “ปีนี้จะเป็นเหมือนเช่นเคย เราจะเริ่มการแข่งขันประจำปีของเรา
อย่างไรก็ตามปีนี้มีอยู่อย่างหนึ่งที่แตกต่าง ประการแรก มีผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันประจำปีนี้ถึง
1022 คนซึ่งมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และประการที่สอง...
ปีนี้อาจารย์ลินลี่ย์ผู้มีชื่อเสียงทั่วทั้งทวีปยูลานก็มาร่วมด้วย!”
อาจารย์ลินลี่ย์?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ชาวบ้านนับพันคนตกอยู่ในความเงียบ
และหันไปมองลินลี่ย์..จากนั้นทั่วทั้งหมู่บ้านระเบิดเสียงโห่ร้องต้อนรับ
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นว่าเซียนอัจฉริยะในตำนานผู้นั้นก็มาร่วมด้วย
“ขอโทษ,
ขอทางหน่อย” เรย์โนลด์เบียดตัวเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
แต่มีคนมากมายเกินไป เรย์โนลด์มักจะทำตัวไม่โดดเด่นแต่แรกในกลุ่มชาวบ้าน แต่ตอนนี้ เขากำลังเบียดไปข้างหน้า
“ทำไมเจ้าถึงเบียดขึ้นหน้าเล่า?” เสียงตะโกนไม่พอใจดังขึ้น
เรย์โนลด์หันหน้าไปดูและเห็นเป็นไวเดล ชายหนุ่มที่มีความแค้นกับเขา
ตอนนี้พื้นที่เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง แต่ไวเดลจ้องหน้าเรย์โนลด์อย่างเย็นชาและกระซิบ “อะไร,
เจ้าต้องการดูหน้าอาจารย์ลินลี่ย์หรือ? ฮะฮะ.... ตลกว่ะ!”
แต่เรย์โนลด์ผ่านไวเดลไปโดยไม่สนใจ และเบียดตัวขึ้นหน้าต่อไป
“ทุกคน!
เงียบ” มิลเลอร์เหยียดแขนและโบกมือ และชาวบ้านทุกคนเริ่มตกอยู่ในควมเงียบ แต่ขณะที่มิลเลอร์เตรียมจะพูด มีเสียงหนึ่งดังมาจากกลุ่มผู้คน “พี่สาม!”
ลินลี่ย์ที่พูดคุยหัวเราะกับลิฟวิงสโตนอยู่ก็พลอยเงียบไปด้วย แต่ทันใดนั้น หน้าของเขากระด้างทันที เมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป
ลิฟวิงสโตนอดตกใจไม่ได้ เขากระซิบ “ลินลี่ย์?” แต่ดูเหมือนว่าลินลี่ย์จะไม่ได้ยินเขาเนื่องจากเขาหันหน้าไปทางตำแหน่งเสียงนั้น
ร่างที่คุ้นเคยนั้นรวมอยู่กับกลุ่มชาวบ้าน...
“พี่สาม...” เรย์โนลด์ตื่นเต้นมากจนสั่นไปทั้งตัว
“น้องสี่!” ลินลี่ย์ทั้งดีใจและตื่นเต้นจนลืมไปว่ามิลเลอร์และลิฟวิงสโตนพูดว่าอะไร
ร่างของเขาเลือนรางและวิ่งไปหาเรย์โนลด์ที่เบียดผู้คนเข้ามา สองพี่น้องกอดกันทันที
พวกเขากอดกันแน่นมาก!
หลังจากรู้ความจริงว่าเบื้องหลังนั้นเรย์โนลด์
‘ตาย’ ยังไง
ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และสังหารเจ้าชายจูเลียน
เมื่อลินลี่ย์ได้รู้ว่าฮิวจ์เป็นคนฆ่าเรย์โนลด์ ลินลี่ย์ตั้งใจจะฆ่าฮิวจ์ที่ค่ายทหารเพื่อแก้แค้นให้น้องของเขา
แต่หลังจากนั้น
เขาจึงได้ทราบว่าเรย์โนลด์ยังไม่ตาย
จากนั้นลินลี่ย์ยับยั้งใจไม่ฆ่าเขา
ลินลี่ย์ไม่ใช่ทหาร ในใจของเขา
เขาไม่สนใจระดับของตระกูลหรือยศทหาร
ตามศักดิ์ศรีของขุนนาง หากจะกล่าวว่า ถ้ากษัตริย์สั่งให้ตายอย่างเป็นทางการ ข้าราชสำนักคงไม่มีทางเลือกนอกจากตาย แต่เจ้าชายจูเลียนนี้กลัวตาย
ปล่อยให้เรย์โนลด์ตายอย่างไร้ประโยชน์ เขาทำเช่นนี้เพราะตามศักดิ์ของขุนนาง
อำนาจของเจ้าเมืองยิ่งใหญ่มากกว่าเรื่องอื่นมากนัก
แต่สำหรับลินลี่ย์?
เหลวไหล!
ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่สำคัญเท่ากับพี่น้องของเขา จัดการกับจักรพรรดิจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร? เขาเกิดมาในราชตระกูลและได้รับมอบราชสมบัติ แล้วไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องมีเกียรติมากกว่าพี่น้องของลินลี่ย์อย่างนั้นหรือ? นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าคนทั่วๆ
ไปที่ไม่รู้จักคิด ลินลี่ย์ไม่สนใจคนพวกนั้นแม้แต่น้อย
“เรย์โนลด์และอาจารย์ลินลี่ย์...
แต่...” ทุกคนตะลึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวเดล
ไอ้หนุ่มรูปงามเรย์โนลด์กอดกับลินลี่ย์เสียแน่นเชียว? พวกเขามีความสัมพันธ์ใดกันแน่
ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ค่อยคลายอ้อมแขนกัน
เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นลินลี่ย์มีสีหน้าดีใจ เมื่อหันไปมองมิลเลอร์และลิฟวิงสโตน เขาบอก “ท่านมิลเลอร์ ข้าขออภัยจริงๆ
ที่ขัดจังหวะการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
“ไม่เป็นไร” มิลเลอร์รีบกล่าว แต่จากนั้นเขามองลินลี่ย์ด้วยความสับสน “น้องลินลี่ย์ เจ้ากับเรย์โนลด์..?”
ลินลี่ย์วางมือบนไหล่ของเรย์โนลด์ตามปกติ “เรย์โนลด์คือสหายของข้า หนึ่งในพี่น้องของข้าที่สนิทที่สุด
รักที่สุดเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ” เรย์โนลด์หัวเราะขณะที่ตบไหล่ลินลี่ย์
“พี่สาม, ท่านไม่ต้องเยินยอขนาดนั้นก็ได้”
“ฮ่าฮ่า..” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างมีความสุขมาก
การแข่งขันประจำหมู่บ้านจัดขึ้นโดยใช้กฎเกณฑ์ปกติ
แต่กลุ่มคนรุ่นเยาว์หลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์กับเรย์โนลด์อยู่ด้วยกัน
ก็รู้สึกตกตะลึง
พวกเขาเคยรังแกเรย์โนลด์ในอดีต ทั้งเตะทั้งต่อย ถ้าเรย์โนลด์บอกลินลี่ย์ และลินลี่ย์บอกมิลเลอร์...
เนื่องจากการลงทัณฑ์ในอดีตของมิลเลอร์ยังคงเป็นตำนาน พวกเขาคงต้องหดหู่เป็นแน่
“เจ้าเรย์โนลด์นี่...
เรย์โนลด์นี่เข้ามาเกี่ยวข้องกับอาจารย์ลินลี่ย์ได้ยังไง?” ไวเดลและเด็กหนุ่มอื่นรู้สึกเสียใจ
หลังจากที่เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางเสร็จแล้ว
มิลเลอร์ ลิฟวิงสโตน ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ก็แยกออกมาพร้อมกัน
มุ่งหน้าไปยังพื้นที่หวงห้าม
บ้านของโมนิกา
“ลุงมิลเลอร์,
ข้าไม่ควรไปด้วย” เรย์โนลด์เห็นดงไม้ไกลๆ และกล่าวทันที
นี่เป็นพื้นที่หวงห้าม
มิลเลอร์หัวเราะ “ไม่จำเป็น เนื่องจากเจ้าเป็นน้องของลินลี่ย์ มากับเราได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก” มิลเลอร์ขมวดคิ้วและหัวเราะ “เรย์โนลด์
เจ้าเรียกข้าว่าลุงมิลเลอร์.. ข้ากลับนับลินลี่ย์เป็นน้อง
นี่.. นี่มันช่างน่าประหลาดเสียจริง ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ตกใจทั้งคู่ ตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้ตัวเช่นกัน
ลิฟวิงสโตนหัวเราะเช่นกัน “มิลเลอร์
พูดเล่นกันพอแล้ว
พวกเจ้าแต่ละคนก็ควรมีสถานะของแต่ละคน
เจ้าและข้าทั้งสองคนอายุเกินพันปีแล้ว
เรายังรู้จักเซียนที่อายุเกินสี่หรือห้าพันปีด้วย เราทั้งหมดก็ยังอยู่ร่วมกันได้เลยไม่ใช่หรือ?”
“ข้าก็แค่พูดหยอกล้อ” มิลเลอร์เม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ
เรย์โนลด์ก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน
แม้ว่าโดยปกติมิลเลอร์จะมีสีหน้าเย็นชาแต่เขาก็มีด้านอารมณ์ขันอยู่เหมือนกัน
และมีทางเป็นไปได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนในหมู่บ้านที่เคยเห็นมิลเลอร์หัวเราะ เรย์โนลด์เข้าใจ.. มีเพียงอยู่ต่อหน้ายอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา พวกเขาจึงจะแสดงอารมณ์สนุกสนานได้ตามปกติ
“ท่านมิลเลอร์
รีบๆ เถอะ
ข้าอยากรู้จักยอดฝีมือที่ท่านได้พูดถึง” ลินลี่ย์กระตุ้น
ลินลี่ย์มักจะรู้สึกคาดหวังว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องยอดฝีมือในหมู่บ้านลึกลับ เขารู้ว่า..ยอดฝีมือเหล่านี้บางทีอาจมีคนที่เทพสงครามได้พูดถึงไว้ ยอดฝีมือเหล่านั้นฝึกฝนอย่างเงียบๆ สันโดษ
ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ค่อยรู้จักกันมากนักในทวีปในช่วงเวลานี้ บางทีก็นานมาแล้ว พวกเขามีชื่อเสียงมาก ยอดฝีมือเหล่านี้ว่าในเรื่องพลัง
ยังแข็งแกร่งมากกว่ายอดฝีมือในยุคปัจจุบัน
เมื่อผ่านดงไม้หนาแน่นไป พวกเขาก็มาถึงพื้นที่สนามหญ้ากว้างใหญ่
เต็มไปด้วยดอกไม้และม้านั่งหินโต๊ะหินตั้งไว้ในบริเวณใกล้ๆ อีกด้วย
ตรงกลางพื้นสนามหญ้ามีทะเลสาบกลม
ผ่านพื้นที่สนามหญ้า
พวกเขามาถึงสนามฝึกฝนเชิงเขา ใกล้ๆ เชิงเขาจะมีบ้านศิลาหลายหลัง ที่เชิงเขาเองก็ขุดอุโมงค์เอาไว้หลายที่
พี่เรย์โนลด์!” เสียงตื่นเต้นและมีความสุขดังขึ้น
และจากอุโมงค์ที่อยู่ใกล้ มีร่างหนึ่งสวมชุดขาววิ่งออกมา เมื่อเห็นเด็กสาวผมสีหยกแล้ว ลินลี่ย์หันไปดูสีหน้าของเรย์โนลด์
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ “น้องสี่,
มิน่าเล่าเจ้าถึงไม่ยินดีกลับบ้าน”
เรย์โนลด์ได้แต่หัวเราะอย่างเก้อเขิน
ท่าทางที่ลินลี่ย์มองหน้าเรย์โนลด์ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนว่าเขาเคยเห็นภาพที่คุ้นเคย เรย์โนลด์จอมกะล่อนสามารถเขินอายได้จริงๆ หรือ? หรือว่าในครั้งนี้ เรย์โนลด์จะตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ?
“พี่เรย์โนลด์,
ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
โมนิกาจับมือเรย์โนลด์
นางตื่นเต้นมาก
เรย์โนลด์เดินมาใกล้โมนิกาทันที
จากนั้นกระซิบและอธิบายให้โมนิกาที่หันไปมองดูลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ “เขาคือลินลี่ย์หรือ?”
“ฮ่าฮ่า,
ข้าได้ยินว่าลินลี่ย์มาหรือนี่?” เสียงหัวเราะดังขึ้นจนได้ยิน
มีเงาร่างสามคนโผล่ออกมาจากด้านข้างหนึ่งของสนามหญ้า คนที่พูดเป็นชายชราผมหงอกแต่ผิวของเขาเหมือนเด็ก อีกสองคน? คนหนึ่งเป็นบุรุษวัยกลางคนค่อนข้างท้วม
มีท่าทีเป็นมิตร
ขณะที่บุรุษอีกคนหนึ่งที่เดินคั่นระหว่างพวกเขาเป็นบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามไว้ผมยาวสีดำสวมชุดยาวสีขาวนวลเหมือนดวงจันทร์
เห็นได้ชัดว่าบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามนี้คือผู้นำของคนทั้งสาม
“ท่านพ่อ” โมนิกาวิ่งเข้าไปหาบุรุษที่สง่างามทันที
ฉุดแขนของเขาขณะที่ชี้มาที่เรย์โนลด์และแนะนำเขาทันที “ท่านพ่อ
คนนี้คือเรย์โนลด์ที่ข้าพูดให้ท่านพ่อฟังไงเล่า”
โมนิกาแนะนำเรย์โนลด์ทันทีทำให้เขากระวนกระวาย
นี่เป็นการได้พบว่าที่พ่อตาของเขาเป็นครั้งแรก ที่สำคัญคือ... ว่าที่พ่อตาของเขาดูเหมือนจะเป็นคนน่าทึ่งมาก
“ไม่เลว” บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่าชมเรย์โนลด์และยิ้มอย่างเป็นมิตร มิลเลอร์รีบแนะนำทันที “ใต้เท้า
เรย์โนลด์ผู้นี้เดิมทีเป็นนักเรียนอยู่สถาบันเดียวกับลินลี่ย์ พวกเขาเป็นสหายสนิทกัน
สำหรับพวกเขาสามารถพบกับเราได้ที่นี่ก็หมายความว่ามีโซ่วาสนาผูกพันกับเราเข้าด้วยกัน”
ขณะที่มิลเลอร์พูด เขาเดินเข้าหาบุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่า ขณะเดียวกัน เขากระซิบบางอย่าง
หน้าของบุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามชะงักค้างอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นก็กลับคืนเป็นปกติ
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีใครให้ความสนใจ
เขาลอบมองหนูเงาน้อย ‘บีบี’ บนไหล่ของลินลี่ย์ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขามีแววเป็นมิตรเพิ่มอีก 30%
“ลินลี่ย์,
สวัสดี ยินดีมากจริงๆ ที่ได้พบกับเจ้า.. ฮ่าฮ่า.. ข้าขอแนะนำเจ้าก่อน” บุรุษวัยกลางคนพูดด้วยกิริยาที่เป็นมิตร เขาชี้มาที่บุรุษที่ใบหน้าอวบอูมกล่าว “นี่คือสหายสนิทที่มาที่นี่พร้อมกับข้า ฮาร์เวิร์ด
เขาเป็นจอมเวทเช่นกันแต่เป็นจอมเวทสายธาตุไฟ”
ฮาร์เวิร์ดที่มีใบหน้าแดงหัวเราะให้ลินลี่ย์ “เป็นจอมเวทระดับเก้าตอนอายุยี่สิบเจ็ดปี
น่าชื่นชมจริงๆ”
“สุภาพบุรุษท่านนี้ชื่อโฟร์แมน เขาเป็นนักรบระดับเซียน
และก็เหมือนกับเจ้า
เขาฝึกกฎธรรมชาติธาตุดิน”
บุรุษวัยกลางคนสง่างามหัวเราะ
“ข้ายังมีสหายอีกคนหนึ่งที่ยังอยู่ในระหว่างฝึกฝน อีกสักครู่เขาน่าจะมาถึง โอวจริงสิ
ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย”
บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่ายิ้มขณะมองดูลินลี่ย์ “ข้าชื่อเดลี่ ข้าฝึกตามกฎธรรมชาติธาตุแสง”
หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย
เป็นเขาจริงๆ ด้วย
ตามที่เทพสงครามบอกไว้
ทั่วทวีปยูลานมีสุดยอดเซียนอยู่ห้าคนเป็นผู้ที่ขาดอีกก้าวเดียวจะเข้าสู่ระดับเทพ
เฟนแห่งวิทยาลัยเทพสงครามก็เป็นหนึ่งในนั้น ขณะที่อีกคนหนึ่งก็คือยอดฝีมือนามว่าเดลี่ในแดนอนารยชน
ลินลี่ย์เข้าใจว่าคนเหล่านี้สามารถเอาชนะเขาได้ภายในกระบวนท่าเดียว
เช่นเดียวกับเฟนที่ทำให้เขาร่วงได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว
ทั้งเฟนและเดลี่ถึงปากประตูระดับเทพแล้ว
เพียงก้าวเดียวก็จะผ่านประตูนั้นไป เข้าถึงอีกระดับหนึ่ง แต่ก้าวนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก ซีซาร์ที่ก่อนหน้านี้ก็ฝีมือพอๆ
กับเฟนต้องใช้เวลาหลายพันปีเช่นกัน
แต่เมื่อผ่านก้าวสุดท้ายไปแล้ว
เขาก็กลายเป็นเทพชั้นต้น
“ข้าขอคารวะท่านเดลี่” ลินลี่ย์พูดอย่างนอบน้อม
เดลี่หัวเราะอย่างใจเย็น “มาเถอะ, ไปนั่งคุยกันข้างใน ภรรยาข้าน่าจะมาถึงในไม่ช้านี้”
ทุกคนมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ใกล้ๆ
“โอว”
ลินลี่ย์จ้องมองสถาปัตยกรรมในภูเขาด้วยความประหลาดใจ ภายในถูกขุดออกสร้างเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่
ห้องและลานถูกสร้างอยู่ภายใน
ที่สำคัญที่สุดเพดานประดับไปด้วยอัญมณีหลากหลาย
ทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยแสงหลากหลายแพรวพราวเหมือนกับภาพฝัน
ภายในภูเขา
เสียงน้ำไหลรินจากน้ำผุดได้ยินอย่างต่อเนื่อง ฟังดูเงียบสงบ
อุณหภูมิวันนี้ค่อนข้างต่ำ แต่ภายในภูเขาจะอบอุ่นและสบายมาก ในพื้นที่ว่าง
มีโต๊ะสี่เหลี่ยมหลายตัวเต็มไปด้วยผลไม้หลากหลาย
“ลินลี่ย์,
นั่งลงก่อน ข้าจะไปเรียกภรรยาของข้า
ฮาร์เวิร์ด เจ้าและคนอื่นคุยกับลินลี่ย์ไปก่อน” เดลี่ยิ้ม จากนั้นเดินลึกเข้าไปในข้างใน หลังจากเดินลดเลี้ยวไปมา เดลี่ก็มาถึงห้องศิลาที่ปิดผนึก
เสียงหินสะเทือนสามารถได้ยิน
และประตูหินเปิดออก
สตรีงดงามผมสีหยกอยู่ในชุดขาวสง่าเดินชดช้อยออกมา นางมองดูคล้ายโมนิกา
เพียงแต่เมื่อเพ่งมองให้ดีจะสังเกตได้ว่านางเป็นผู้ใหญ่กว่าโมนิกา
“ที่รัก” เดลีหัวเราะขณะที่เขามองดูสตรีนี้ “มาเถอะ
วันนี้ไม่เพียงแต่ลินลี่ย์เท่านั้นที่มา
แต่เรย์โนลด์ก็มาด้วยเช่นกัน”
สตรีงามนั้นขมวดคิ้ว “ทำไมเรย์โนลด์ผู้นั้นถึงมาด้วย?”
นางไม่ชอบเด็กหนุ่มรูปงามที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าและต้องการตามติดพันธิดาของนาง
“เรย์โนลด์และลินลี่ย์เป็นสหายสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน” เดลี่อธิบาย
“งั้นพวกเขาจะเป็นยังไง? ลินลี่ย์ไม่มีอะไรนอกจากอัจฉริยะคนหนึ่ง” หญิงงามไม่ได้สนใจลินลี่ย์เป็นพิเศษแต่อย่างใด “ถ้าไม่ใช่เพราะระดับความเร็วในการฝึกฝนของเขาเร็วมาก
และถ้าเราเพียงแต่มองระดับพลังของเขาในปัจจุบัน
เขายังคู่ควรให้ข้าต้องออกจากห้องฝึกไปต้อนรับเขาหรือ?”
เดลี่หัวเราะขณะที่เขาส่ายศีรษะ “ที่รัก,
ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรกีดกันเรย์โนลด์และลูกสาวของเราไม่ให้อยู่ด้วยกันเป็นดีที่สุด
เจ้าควรจะเปลี่ยนทัศนคติของเจ้าที่มีต่อลินลี่ย์”
“ทำไม?”
หญิงงามขมวดคิ้ว
เดลี่พูดอย่างมั่นใจ “ต้องไปดูอสูรเวทระดับเซียนที่อยู่บนไหล่ของลินลี่ย์นั้น และเจ้าจะรู้เหตุผล ข้าคิดว่า.. เมื่อเจ้าเห็นมัน เจ้าจะต้องเปลี่ยนความคิด”
13 ความคิดเห็น:
สะพานเริ่มถักทอสายใยแล้วหนทางของเรโนล์เริ่มราบรื่น
มีเนียนสปอยแน่ๆเลยเลยถูกลบเม้นเนี่ย 555
มีเนียนสปอยแน่ๆเลยเลยถูกลบเม้นเนี่ย 555
ขอบคุณครับ
เรโนล์มีกองหนุนละ จีบสบายทีนี้ 55555
ขอบคุณมากเลยนะคับ
ขอบคุณมากครับ
ซึ้งมาก พี่น้องพบกับ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ตามๆๆๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น