วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 807 บรรลุระดับใหม่


ตอนที่  807  บรรลุระดับใหม่
ไม่เคยมีใครคิดว่าตู้เค่อและบุรุษหน้ากากผีจะลงเอยด้วยการเป็นพันธมิตรแม้แต่ถังเทียนเองก็ตาม  แต่หลังจากคิดดูแล้ว ถังเทียนเทียนรู้สึกว่าเป็นเหตุผลที่ธรรมดามาก

มีแต่คนที่ยินดีทำให้แดนบาปเป็นบ้านของพวกเขาถึงเห็นว่าถังเทียนเป็นศัตรูของพวกเขา  สำหรับตู้เค่อ บุรุษที่กล้าบุกประตูบาป บุรุษที่ยืนอยู่บนจุดสุดยอดจะมีความคิดเช่นนั้นได้อย่างไร?
ถังเทียนเห็นว่าตู้เค่อเป็นคนดีที่ควรคบ  เขาเห็นคนในแดนบาปมามากมาย, แต่ตู้เค่อเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สูญเสียไฟ  ถังเทียนไม่ชอบแดนบาป  เพราะเขาเกลียดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เป็นที่ไม่มีคนกล้าเหมือนกับนกกระจอกเทศที่เอาแต่ฝังหัวลงทรายอยู่ด้วยความกลัว  เขารู้สึกว้าวุ่นและหนุ่มชาวฟ้าก็เกลียดเรื่องที่ทำให้ว้าวุ่น
แน่นอนว่า ผู้อาวุโสตู้สามารถบอกได้ว่าถังเทียนไม่ใช่คนธรรมดา  สายตาของเขาเข้มแข็งมาก! นั่นหมายความว่าทั้งสองคนเหมือนกัน คนหนึ่งอายุมาก คนหนึ่งเยาว์วัย และบุรุษวัยกลางคนนั้นก็มีหัวใจเหมือนกับคนอายุเยาว์
ตู้เค่อคือนักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาป และต้องการมาตรฐานบ้าง
สิ่งที่ถังเทียนไม่รู้ก็คือ ตู้เค่อไม่ได้มีแค่นั้น
หลังจากตู้เค่อประกาศความเป็นพันธมิตรกับบุรุษหน้ากากผีอย่างสายฟ้าแล่บ เขารีบควบคุมตระกูลอื่นของสี่เมืองใหญ่อย่างรวดเร็ว  เหตุผลในตอนแรกสี่เมืองใหญ่ต้องการถ่วงดุลอำนาจ  แต่ใช้ไม่ได้กับตู้เค่อ
ถังเทียนไม่ได้เอาใจใส่เรื่องรูปกระบวนทัพ  เขาเองมีหลายอย่างที่ต้องทำ  หน่วยสุญญตาและจงหลีไป๋ต่างกลับมารวมตัวที่เมืองพายุอีกครั้ง  และพวกเขาทุกคนไม่ได้มัวแต่ดื่มด่ำกับการดีใจที่ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง   เนื่องจากพวกเขาทุกคนมุ่งหน้ากลับเข้าไปฝึกกันต่อ  หลังจากประสบความยากลำบากในแดนบาป  ทุกคนตระหนักรู้ได้อย่างลึกซึ้งว่าพลังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
การเป็นพันธมิตรกับตู้เค่อก็หมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการสู้รบในแดนบาปอีกต่อไป  สิ่งเดียวที่เหลือก็คือ การตะลุยผ่านเส้นทางกลับมาตุภูมิไปให้ถึงประตูบาป
ตู้เค่อเคยบุกไปที่ประตูบาปด้วยตนเองมาครั้งหนึ่งแล้ว  แต่ต้องล้มเหลวกลับมา  ทวีปกวงหมิงวางการป้องกันอย่างแข็งแกร่งไว้ที่ประตูบาป
ไม่มีใครต้องการตายในช่วงเวลาสำคัญ
สมาชิกส่วนใหญ่ของหน่วยสุญญตาที่กลับคืนมาต้องรีบทำความคุ้นเคยกับวิธีการต่อสู้แบบใหม่  แม้แต่ซือหม่าเซี่ยวจำต้องวางสถานะของเขาลงก่อน และทำตัวเหมือนเป็นสมาชิกธรรมดา  เขาหมกมุ่นกับการฝึก
กลุ่มที่ฝึกอย่างเต็มที่ก็คือจงหลีไป๋และหน่วยบูรพาอมตะ ที่ตั้งชื่อง่ายๆว่าหน่วยจง  เป็นเพราะกองกำลังของเขาขยายตัวมากกว่าระดับที่เคยเป็นมา  เมื่อตู้เค่อประกาศความต้องการของเขาว่าต้องการสร้างกองทัพ  หัวหน้าโจรหลายคนหันหางหนีไปตามลำพัง ทิ้งกลุ่มโจรบริวารที่ไร้ผู้นำไว้เบื้องหลัง  และพวกเหล่านี้ทั้งหมดถูกจงหลีไป๋กวาดเข้ามาไว้หมด  สิ่งที่ทำให้จงหลีไป๋ไม่สบายใจก็คือการรวมตัวทั้งหมดเสร็จสิ้นโดยความช่วยเหลือของหน่วยสุญญตา
หน่วยของจงหลีไป๋ใหญ่กว่ากองกำลังหน่วยสุญญตามาก และหลังจากกระบวนการคัดเลือกทำอย่างระมัดระวังโดยจงหลีไป๋แล้ว  เขายังมีคนเหลืออยู่หมื่นคน  แต่ความสามารถต่อสู้ของพวกเขายังอ่อนด้อยนักเมื่อเทียบกับหน่วยสุญญตา  จงหลีไป๋ไม่อาจทนเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาต้องทำตัวเป็นกระสุนหรือโล่มนุษย์  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคิดว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณเนี่ยชิวขนาดไหน ก็ให้รู้สึกเหมือนกับกลืนกินยุงลงไป  เขาได้แต่เป็นหนี้เนี่ยชิวมากขึ้นทุกทีจนจงหลีไป๋ต้องไประบายลงกับกองทัพของเขา  นั่นทำให้การฝึกพิเศษของกองพลปีศาจจงเริ่มรูดม่านขึ้น
จงหลีไป๋เต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดจนเขาต้องตั้งค่ายของเขาอยู่ใกล้หน่วยสุญญตา  และนั่นคือแนวทางที่หน่วยทั้งสองเริ่มมีการแข่งขันกัน
ถังเทียนมังยุ่งอยู่กับเกราะเทพเจ้าของตัวเขาเอง  ทั้งเนี่ยชิวและจงหลีไป๋ไม่สามารถสะท้อนผิวกฎธรรมชาติได้สำเร็จ  และมีแต่เพียงถังเทียนที่ทำได้  พลังของการสะท้อนกฎผิวกฎธรรมชาติทำให้พวกเขาตะลึงกันทั้งคู่  แต่เขายังจำเป็นต้องฝึกเพื่อนำไปใช้จริงๆ
โชคดีสำหรับถังเทียน เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกำลังใจ แม้ว่าเขากับตู้เค่อจะร่วมเป็นพันธมิตร  แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาดูเหมือนกับว่าเอาแต่มองตะลึงอย่างเดียว  นี่ทำให้ถังเทียนไม่พอใจ นี่อาจเป็นศักดิ์ศรีเล่าตู้ หึหึ เจ้ารอจนกว่าเราไปถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์กันเจ้าจะรู้ว่าหนุ่มชาวฟ้าทรงพลังขนาดไหน!’
ถังเทียนมองดูพวกเขาอย่างไม่พอใจ และเพิ่มความยากในการฝึกเงียบๆ ทำให้กองกำลังเกราะเทพเจ้ากระโดดมาอยู่ข้างหน้าทันที
เล่าตู้ผู้หายไปสองสามวันมาปรากฏตัวในสนามฝึกของถังเทียนอีกครั้ง พร้อมกับสตรีผู้เย็นชาดุจน้ำแข็งด้านหลังเขา
ตู้ซินหวี่จับตามองค่ายฝึกด้วยความอยากรู้ สนามฝึกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย  ทุกอย่างไม่เป็นที่คุ้นเคยของนางเป็นอย่างมาก  ตั้งแต่พี่ชายนางตัดสินใจสร้างกองทัพ นางเห็นด้วยและทำใจกับเรื่องนี้  นางไปที่บริเวณใกล้เคียงเมืองม้าบินและสังเกตดูการสู้รบระหว่างหน่วยสุญญตาและพวกโจร
ในเรื่องของสติปัญญาและการมองการณ์ไกล ตู้ซินหวี่เป็นอันดับหนึ่งในตระกูลตู้อย่างมิต้องสงสัย และนั่นคือเหตุผลให้ตู้เค่อให้นางรับหน้าที่สร้างกองทัพ  นางไม่รานความหวังเขา และในเวลารวดเร็วก็ดำเนินกระบวนการที่ยิ่งใหญ่  แต่นางไม่เคยเย่อหยิ่งหรือถือตัว  นางรู้ว่านางดีกว่าเมื่อเทียบกับหน่วยสุญญตา  เนื่องจากยอดฝีมือของแดนบาปทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของนาง
พวกเขาทั้งหมดมีประสบการณ์สู้รบนับไม่ถ้วนและมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น  ด้วยการให้คำแนะนำเล็กน้อย  พวกเขาก็ทำความเข้าใจเรื่องนั้นได้เร็ว  ในช่วงเวลาสั้นๆ กองทัพแรกได้ถูกนางสร้างขึ้น
แต่ทุกสิ่งที่นางกำลังเห็นประจักษ์แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่นางรู้
ไม่เพียงแต่ตู้ซินหวี่เท่านั้น  แต่ตู้เค่อเองก็ตกใจเหมือนกัน
 นั่น... นั่นถังเทียนหรือ?’
ตู้เค่อเพ่งสายตามอง ใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ  ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นถังเทียน เขารู้สึกว่าถังเทียนเป็นคนตรงไปตรงมาและมีนิสัยที่ดี  แต่ถังเทียนแข็งแกร่งทรงพลังขนาดไหน ในความเป็นจริงตู้เค่อไม่ได้หวังอะไรมาก  สำหรับเขา คนที่เขาสามารถพึ่งพาได้ยังคงเป็นตัวเขาเอง  และกองทัพแดนบาป  ความเป็นพันธมิตรของเขากับถังเทียนก็แค่ว่าเขาหวังจะยืมพลังของหน่วยสุญญตา
ตู้เค่อยังสามารถรับรู้ถึงพลังของหน่วยสุญญตาว่าสามารถเป็นครูให้กองทัพแดนบาปได้  และจากสิ่งที่เขาได้ยิน  เขากับถังเทียนไม่มีความขัดแย้งกันในเรื่องความสนใจ  ดังนั้นเมื่อเขาพบกับถังเทียนเมื่อเร็วๆ นี้ เขาไม่เห็นพลังของถังเทียนอยู่ในสายตาของเขา แต่เขาก็ไม่ถึงกับละเลย
แต่....
 นี่ดูเหมือนจะเป็นคนใจเย็นและเฉยเมยห่อตัวอยู่ภายในกฎธรรมชาติ เหมือนกับว่าเขาถือกำเนิดมาจากสวรรค์  ถังเทียนจริงๆ หรือนี่?  ทำไมร่างของเขาจึงหุ้มล้อมไปด้วยกฎธรรมชาติ?  ทำไมรัศมีของถังเทียนจึงแปลกประหลาดนัก?  ตู้เค่อเห็นยอดฝีมือมามากผู้มีพลังทุกรูปแบบ พวกเขาทุกคนมีรัศมีและพลังที่ทำให้ตัวพวกเขาไม่เหมือนใคร  แต่ตู้เค่อไม่เคยเห็นรัศมีอย่างที่ถังเทียนเปล่งออกมาเลย
ไม่ใช่ความเย็นเสียดกระดูก แต่ถังเทียนเป็นเหมือนเทพเจ้าที่เฉยเมยไม่แยแสราวกับเขาเข้าใจสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้ชัดเจน
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของตู้เค่อ  เขากลัวตัวเอง  เทพเจ้า? บ้าจริงๆ! นี่ข้ากำลังคิดเรื่องอะไร? ตลกน่ะ...
ราวกับว่าเขารู้สึกได้ถึงความสนใจของตู้เค่อ  ถังเทียนที่อยู่ในอากาศชำเลืองมองมาทางตู้เค่อ
ความรู้สึกอันตรายรุนแรงที่อธิบายไม่ได้รุมล้อมทั้งตัวตู้เค่อทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้ตู้เค่อสงบใจและสำรวมเพื่อเผชิญเหตุเปลี่ยนแปลงสุดท้าย
ตั้งแต่เขาก้าวเข้าสู่ดินแดนสนามพลังกฎธรรมชาติ  ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้  และสัญชาติที่มีต่ออันตรายกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย  เนื่องจากเขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเป็นเมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกอย่างนี้  แต่เขารู้ว่าความรู้สึกถึงอันตรายไม่ใช่เพราะถังเทียนมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเขา  แต่เกิดจากปฏิกิริยาสัญชาตญาณของเขาเองที่มีต่อการชำเลืองมองของถังเทียน
สัญชาตญาณของเขารู้สึกต่ออันตรายที่ทำให้ตู้เค่อรู้สึกกลัวและตกใจ
นั่นหมายความว่าในจิตใต้สำนึกของเขา  ถังเทียนแข็งแกร่งพอจะคุกคามเขาได้  ถ้าเป็นคนอื่น  พวกเขาคงจะกล่าวอ้างว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน  และสงสัยความรู้สึกของตัวพวกเขาเอง  แต่ตู้เค่อไม่  เข้าใจและเชื่อถือสัมผัสรู้ของเขา  และสัญชาตญาณของเขาที่มีต่อพลังและอันตรายกลายเป็นสัญชาตญาณของเขามานานแล้ว  ที่ระดับของเขา เขาได้รับความเข้าใจต่อตัวเองและชาวโลกอย่างลึกซึ้ง
เขารู้ชัดว่าถ้าเขาสัมผัสรู้ถึงอันตราย  อย่างนั้นก็หมายความว่าอันตรายมีอยู่รอบตัวเขาแท้จริง
สำหรับคนที่ไม่ได้ก้าวเข้าดินแดนสนามพลังกฎธรรมชาติสามารถมีท่าทีคุกคามเขาได้ คำตอบย่อมต้องอยู่บนเกราะบนร่างกายของถังเทียนแน่นอน  ความเข้าใจกฎธรรมชาติของตู้เค่อคือสิ่งที่ไม่มีใครในแดนบาปสามารถต่อกรได้  ด้วยการมองครั้งเดียว เขาสามารถบอกได้ว่า เกราะบนตัวถังเทียนสร้างขึ้นจากสายใยกฎธรรมชาตินับไม่ถ้วน  สายใยกฎธรรมชาติเหล่านี้แปลกประหลาดยอดเยี่ยมทุกคำอธิบาย  และระหว่างสายใยกฎนั้นเอง ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และเหมือนกับการปนกันของกฎทั้งหมด ถึงขนาดที่มีบางกฎที่แม้แต่ตู้เค่อพบว่าไม่คุ้นเคย
ตู้เค่อไม่เคยเห็นเกราะแบบนั้นมาก่อน
ตู้เค่อตกตะลึง แต่แม้จะตื่นเต้นขึ้นมากและเริ่มมีการกรองกฎ  สายใยกฎทั้งหมดไม่ได้ยุ่งเหยิงจริงๆ  แต่เหมือนกับว่าพวกมันถักสานเข้าด้วยกัน
ถังเทียนรู้ว่าตู้เค่อเพียงแลดูวูบเดียวก็มองเห็นความลึกซึ้งและลึกลับของเกราะเทพเจ้าทั้งหมด เขาคงจะตกใจเหมือนกัน  เกราะเทพเจ้าตื่นรู้ของถังเทียนมีความก้าวหน้ามาก  เนื่องจากเขาได้รับการรู้แจ้งจากดาบพิศวง
สายใยกฎธรรมชาติที่มากับร่างของเขาผสานและถักทอเหมือนอย่างที่ดาบพิศวงได้ทำ
ตอนนี้เกราะเทพเจ้าบนตัวถังเทียนไม่ยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อก่อน แต่มีโครงร่างคร่าวๆ ของเกราะจริง  ก็แค่ว่ามีกฎธรรมชาติหลายสายที่ล่องลอยอยู่ด้านนอก  เนื่องจากความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติของถังเทียนยังตื้น กฎธรรมชาติมากมาเหล่านี้ที่พรั่งพรูออกมามาก และการจัดเรียงก็ต้องใช้พลังใจไปมาก
แต่แน่นอน ความพยายามนี้ไม่สูญเปล่า  แม้ว่าเขาจะสางออกไปส่วนหนึ่ง  แต่พลังของเกราะเทพเจ้าก็เพิ่มขึ้นมากมาย
นี่สามารถเห็นได้เมื่อเขาพยายามผสาน การผสานของเขาทำได้ก้าวหน้ามากขึ้น
การเพิ่มพลังในการผสานทำให้ถังเทียนพอใจ  แต่มีปัญหาหลายอย่างที่เผยออกมาในตอนฝึกทำให้ถังเทียนรู้สึกหงุดหงิด ความคิดของเขาก่อนนี้เกี่ยวกับการรวมพลังของผิวกฎ 200 อย่างให้เป็นหนึ่งคือพลังโจมตีที่ไร้เทียมทานแน่นอน
แต่หลังจากการฝึกฝนที่ผ่านมา  ถังเทียนพบว่ายังไม่สามารถรู้ได้
เป็นเพราะคุณสมบัติของกฎธรรมชาติ ในบรรดากฎธรรมชาติทั้งหลายมีอยู่หลายกฎที่โดยพื้นฐานไม่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้  ความจริงเรื่องนี้ทำให้ถังเทียนรู้สึกเครียด  แต่หลังจากถังเทียนพบว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้
ในเรื่องของพลังแม้ว่ามันอาจไม่สามารถถึงระดับที่น่ากลัวดังคาด  แต่ความหลากหลายของการโจมตีก็ทำให้ได้รับประโยชน์เช่นกัน  การรวมและการผสานกฎธรรมชาติที่แตกต่างสามารถสร้างรูปแบบที่แตกต่าง  และทำให้การโจมตีเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงหลากหลาย  สำหรับศัตรู นับเป็นฝันร้ายแน่นอน  เนื่องจากหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถคาดการณ์โจมตีได้ถูก
แม้แต่จี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือก็ยังตื่นเต้นกับจุดนี้
ทุกคนพยายามรวมผสมด้วยความตั้งใจมากมาย  เมื่อว่ารูปแบบการโจมตีเช่นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้  นี่เป็นโลกใหม่ พวกเขาทุกคนเพียงแต่ฝึกฝนมาในรูปแบบกฎเดียว  และพวกเขาไม่เคยคิดว่าพลังของกฎธรรมชาติจะผสานกันได้แบบนั้น
แค่ถือเอาตามแนวคิดนี้ก็เพียงพอทำให้พวกเขาตื่นเต้นกันหมด  กฎธรรมชาติที่กว้างใหญ่และไร้พรมแดนสามารถรวมกันและแปลงได้ ทำให้โลกยิ่งกว้างขวางไร้พรมแดนมากขึ้น
ทันใดนั้นตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองดูฉากภาพที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมจนตลอดชีวิต

6 ความคิดเห็น:

นั่นมันน กล่าวว่า...

พี่ถังโหดด

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้าาาาาา

แอบอ่าน กล่าวว่า...

คิดจะหลอกพี่ถังคิดผิดแล้ว พี่ถังโง่ ไม่ต้องหลอก 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น