ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 808 มันเกิดอะไรขึ้น!

ตอนที่  808  มันเกิดอะไรขึ้น!

ฝูเจิ้งจือรู้สึกเหมือนกับว่าปอดของเขากำลังติดไฟ  คอของเขาเต็มไปด้วยควันและเถ้า ขณะที่เขามองจี๋เจ๋อที่อยู่ใกล้เขา  หน้าของจี๋เจ๋อเต็มไปด้วยเหงื่อ แสงสีเลือดเข้มยังลอยออกมาจากตัวของเขา ขณะที่เขายังคงไม่ขยับเหมือนกับตุ๊กตา

ฝูเจิ้งจืออดรู้สึกอิจฉาไม่ได้  ‘อายุเยาว์ช่างดีจริงๆ!’  แน่นอน, เขาอิจฉาดาบพิศวงของจี๋เจ๋อ ไม่เพียงแต่ดาบพิศวงใหม่จะส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิตศัตรูเท่านั้น  แต่ขณะเดียวกันมันสามารถใช้รักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาได้และลดความเหนื่อยล้า

 “เตรียมตัวรอบที่ 213 กลยุทธที่ 33

เสียงของถังเทียนดังอู้อี้ เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไร้ชีวิต

ฝูเจิ้งจือสั่นสะท้าน และปัดความคิดออกไปจากใจ  จี๋เจ๋อที่เป็นเหมือนรูปปั้นดูเหมือนกลับมามีชีวิตเช่นกัน  ร่างกายที่เกร็งของเขาผ่อนคลายทันที ขณะที่เขาลืมตา ลมหายใจหนักหน่วง หน้าของเขาเต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง  ส่วนคนที่เหลือตั้งสมาธิทันที   ทั้งหมดแสดงสีหน้าที่เหนื่อยล้า  แต่ทุกคนยังทำอย่างดีที่สุดและตั้งใจเป็นอย่างดี

พวกเขากำลังใช้กลยุทธที่ 33 อย่างดีที่สุด

เป็นการฝึกที่เป็นฝันร้ายชัดๆ  แต่ทุกคนชินชาเสียแล้ว และแม้แต่คนที่ดื้อดึงและหยิ่งยโสก็ไม่อาจถือโทษโกรธได้  ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่กล้า  แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะทำเช่นนั้น  ไม่มีความแตกต่างระหว่างวันและคืน มีแต่ให้พวกเขาพยายามฝึกสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง

ตอนแรกทุกคนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผสานกฎธรรมชาติ  เป็นเรื่องใหม่!  ทุกคนเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่การผสานพลังจะปลดปล่อยออกมา

แต่หลังจากผ่านไป 500 รอบของการพิสูนจ์ ก้าวหน้าอีกครั้ง แล้วก่อตั้งกระบวนใหม่อีกครั้ง ทุกคนรู้สึกเหมือนศีรษะจะแตกเป็นเสี่ยงและเหนื่อยจัด  ในที่สุดไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไรออกมา พวกเขาแทบจะเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ

ไม่มีใครพูดคุยเรื่องการผสานกฎธรรมชาติ  และต่อให้พวกเขามีพลังงานเหลือ พวกเขาก่นด่าว่าผสานพลังกฎบัดซบ

แต่ช่างน่าเสียดาย พวกเขาไม่มีพลังแม้แต่น้อย

ทุกคนในตอนนี้สรรเสริญนายท่านถังเทียนอย่างสุดใจ  ‘ดูเขาสิ, นายท่านยังมีพลังเหลือเฟือและยังคงตั้งใจ  การฝึกครั้งนี้สำหรับเขาเหมือนกับเดินรับลมในสวน เขาไม่รู้จักเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย?’

พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

และเมื่อถังเทียนเอาคู่มือกลยุทธเล่มหนาออกมาและโยนให้พวกเขาสั่งให้พวกเขาจำให้ได้ทั้งหมด  คนทั้ง 200 คนยืนตะลึงเป็นทหารดินเผาในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้

กลยุทธรูปแบบต่างๆ 67 ชนิด และการผสานพลัง 328 แบบขนาดต่างๆ  ที่ง่ายที่สุดก็คือการผสานพลังของสองคน และที่ซับซ้อนที่สุดก็คือผสานพลังของ 12 คน แค่ดูจำนวนที่ทำนี้ทำให้ตาของพวกเขามีแววสับสน หนังศีรษะชา  นอกจากนี้กลยุทธเหล่านี้ยังมีการผสานพลังรูปแบบต่างๆ ความถี่การโจมตีและรู้แบบการร่วมมือที่ต่างกันทั้งหมด

ระดับของความซับซ้อนมากจนน่ามึนงง!

 ‘นายท่าน ท่านต้องล้อเล่นแน่ๆ  ใช่แล้ว ท่านต้องล้อ...’

พวกทหารที่มีอารมณ์ซึมเซา  อ้าปากค้างมองดูเจ้านายผู้มีสายตาไร้ความรู้สึก

หลังฝึกไป 500 รอบ  การฝึกผสานรูปแบบต่างๆ จะทำให้พวกเขาเหนื่อยเพียงไหน?  แม้แต่พวกเขาเองยังไม่รู้ ทุกวันตารางการฝึกของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 ‘แต่นายท่านจะให้พวกเขาจำได้หมดจริงๆ!’

ทหารที่เป็นเหมือนทหารดินเผาในสุสานตกใจจนพวกเขาแทบจะแตกเป็นชิ้นๆ  ‘นี่นายท่านเป็นคนหรือเปล่า?!’

ทหารที่ตะลึงเป็นหุ่นดินเผาเริ่มจดจำคู่มือกลยุทธทั้ง 120 หน้าไว้อย่างเจ็บปวด เทียบกับคู่มือกลยุทธนี้แล้ว การเผชิญหน้ากับท่านตู้เค่อไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว ‘นายท่าน  ให้เราไปช่วยฆ่าตู้เค่อดีไหม?  แค่ปล่อยเราไป...’

 “ใส่ใจกับลำดับการโจมตีด้วย

สายตาของถังเทียนกวาดมองทุกคน  เขาไม่พอใจเลย นี่เป็นการฝึกรอบที่ 213 ของพวกเขาแล้ว  แต่พวกเขาทั้งหมดยังคงไม่ค่อยชำนาญเต็มที่และทำให้ผิดพลาดบ่อยครั้ง  และความผิดนับไม่ถ้วนก็เริ่มปรากฏในการฝึกฝน  แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของเขาสะดุดลง เนื่องจากแม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่ากลยุทธมีความซับซ้อนมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยู่ในสภาวะเกราะเทพเจ้า  เขาจะไม่สามารถทำหนังสือคู่มือกลยุทธได้สำเร็จเลย และแม้แต่จะจำก็ยังเป็นเรื่องยาก  ในสภาวะเกราะเทพเจ้า  การผสานพลังทั้งหมดนี้เป็นเรื่องง่ายเหมือนกับอ่าน ก ข ค ง สำหรับเขา

แต่เขามีแต่ต้องพึ่งเกราะเทพเจ้า

ถังเทียนเข้าใจจุดนี้ชัดเจน  เขาที่อยู่ในเกราะเทพเจ้าจะมีสติปัญญาที่ไว  เขาไม่ใช่แม่ทัพทหารจริงๆ และไม่มีประสบการณ์ในกลยุทธแต่อย่างใด  แต่ความเข้าใจกฎของเขาทำให้เขาสามารถหลอมรวมความสามารถต่อสู้ของพวกเขาได้

มันเพียงพอ  เขาไม่เข้าใจเรื่องกลยุทธ  ดังนั้นเขาจะใช้พลังเพื่อพูด  ตราบเท่าที่เขาสามารถทำเช่นนั้นได้  คน 200 คนสามารถระเบิดพลังที่น่าทึ่งและอาจกำจัดศัตรูต่อหน้าพวกเขาด้วย

แน่นอน  สิ่งที่ต้องมีก่อนก็คือความคิดของเขาที่สามารถรู้ได้

ฝึก 213 รอบไม่ได้สูญเปล่า  แม้ว่าสมาชิกจะเหน็ดเหนื่อยเหลือทน  แต่พวกเขาก็ทำได้ดีกว่าแต่ก่อน  พวกเขาทุกคนผ่อนคลายร่างกายและลมหายใจช้าลง พวกเขาเพ่งสมาธิและร่างของแต่ละคนดูเหมือนกับคันธนูที่ถูกเหนี่ยวช้าๆ

รังสีฆ่าฟันแผ่ออกเงียบงัน

ถังเทียนในปัจจุบันมีความรู้สึกที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน  เขารู้สึกได้ชัดเจนถึงรังสีฆ่าฟันที่แผ่อยู่ในอากาศ  และรู้สึกถึงสภาวะของสมาชิกทุกคนได้ชัดเจน

สีหน้าของถังเทียนไม่เปลี่ยน  แต่พลังสมาธิของเขาถึงระดับสูง  เขาคือแกนกลางของกองทัพ และคอยควบคุมจังหวะโจมตีของกองทัพทั้งหมด  ผิวกฎของสมาชิกทุกคนต้องเชื่อมโยงกับเขาจึงจะสามารถสะท้อนพลังผิวกฎธรรมชาติได้สำเร็จ  ถ้าเป็นการจับคู่ผสานพลัง ก็หมายความว่าเขาต้องจัดการกับการสะท้อน 100 ครั้ง

รูปแบบรบของกองทัพเกราะเทพเจ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีกองทัพอื่นแทนได้  เว้นแต่พวกเขาจะมีคนที่เหมือนกับถังเทียนที่มีความสามารถเชื่อมโยงกับผิวกฎธรรมชาติของทุกคนได้

กองทัพเกราะเทพเจ้าอยู่ในอากาศอยู่ในความเงียบที่แปลกประหลาดทันที  และอากาศรอบตัวพวกเขาพลันเปลี่ยนไป

 “โจมตี!”

คำสั่งหนาวยะเยือกดังก้องในอากาศ

ฝูเจิ้งจือเคลื่อนไหว เขาชักกระบี่พญาเขียวของเขา และหมอกเขียวที่กัดกร่อนปรากฏอยู่ในอากาศเหนือศีรษะพวกเขาทันที  หลังจากนั้น สมาชิกข้างตัวเขาก็เคลื่อนไหวเช่นกัน  มองดูจากข้างล่าง เป็นราวกับว่ามีแส้ที่มองไม่เห็น และปลายทั้งสองด้านเริ่มเคลื่อนไปในตำแหน่งเดียวกัน

หลังจากนั้นแส้ที่มองไม่เห็นทั้งสองด้านนั้นพลันเปล่งแสงสว่างงดงามพร้อมกัน  และผลึกน้ำแข็งมากมายพร้อมกับพายุดาบนับไม่ถ้วนผสานเข้าด้วยกัน เป็นกฎธรรมชาติน้ำแข็งและกฎธรรมชาติลม ผสานกันได้อย่างสมบูรณ์เกิดเป็นพายุลูกเห็บสีขาวส่งเสียงกรีดร้องหวิว

นี่คือผลของสมาชิกสิบคนโจมตีพร้อมกัน

ก่อนที่พายุลูกเห็บจะลดลง สมาชิกอีก 13 คนที่ฝึกมาทางดาบน้ำก็ลงมือเคลื่อนไหว  ลูกโป่งน้ำปริมาณมากมายคลุมรอบพายุลูกเห็บ  เมื่อลูกโป่งน้ำสัมผัสพายุลูกเห็บ  จะถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว  แต่ดาบน้ำมีความยืดหยุ่นและไวได้แยกพายุลูกเห็บออกเป็น 13 ส่วน สมาชิกห้าคนที่ฝึกมาทางพลังกฎวังวนลงมือพร้อมกัน พายุลูกทั้ง 13 ส่วนถูกบีบอัดอย่างรวดเร็ว  จากนั้นยืดออก แล้วควงสว่าน  และพายุลูกเห็บยาวมีหอกน้ำแข็งอยู่รอบพุ่งอยู่ในอากาศด้วยความเร็วสูงปลดปล่อยเสียงหวีดหวิวหนาวเหน็บดังขึ้น

จากนั้นรัศมีแพรวพราวมากมายฉายไปบนหลาวน้ำแข็งพายุลูกเห็บทั้งสิบสาม ซึ่งคลุมไปด้วยเปลวเพลิง พิษ รังสีมรณะ ฯลฯ

สมาชิกผู้ฝึกกฎอวกาศเตรียมพร้อมแล้ว พลังผันผวนของมิติปรากฏในกระบวนพยุหะ และพายุลูกเห็บหลาวน้ำแข็งที่มีคมทั้งหมดกระเพื่อมเห็นจุดดำลางๆ ระลอกพลังยากตรวจสอบเริ่มแผ่ออกมาจากใจกลางจุดดำ

ระลอกพลังนั้นคือมีดมิติสร้างขึ้นจากกฎธรรมชาติอวกาศและทำหน้าที่เหมือนเป็นหัวหอก

ตู้เค่อไม่สามารถละสายตาจากพายุลูกเห็บหลาวน้ำแข็งได้  ถ้าเราต้องอธิบาย ก็คือสายตาของถังเทียนเป็นตัวการทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ  จากนั้นพายุลูกเห็บหลาวน้ำแข็งทั้ง 13 ก่อตัวทำให้เขาหัวใจของเขาเต้นรัวและแรง  ทำให้เขาให้ความสนใจความเคลื่อนไหวของพวกเขา

 ‘มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!’

เขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง แม้หลาวที่สร้างโดยสนามพลังกฎธรรมชาติของยอดฝีมือก็ยังไม่สามารถทำให้เขาตกใจได้เท่ากับพายุลูกเห็นหลาวน้ำแข็งทั้งสิบสาม  “นี่ข้ากำลังดูอะไรอยู่? การผสานพลัง!  การผสานพลังกฎธรรมชาติ!’

 ‘กฎธรรมชาติสามารถหลอมรวมได้!  โอวพระเจ้า!’

เขานึกถึงภาพที่หลาวเหล่านั้นโจมตีใส่ร่างของศัตรูโดยไม่รู้ตัว ไม่มีทางป้องกัน ไม่มีทางหยุดหลาวที่น่ากลัวนั้นได้  แม้แต่ตัวเขาเองก็ตาม  เมื่อเผชิญหน้ากับหลาวนั้นตรงๆ เป็นไปได้ว่าสนามพลังกฎธรรมชาติของเขาก็คงพังทลาย  นอกจากนี้ ยังมีระลอกหมอกพิษที่ปั่นป่วนอยู่ในมิติอวกาศซึ่งจะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงก่อน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาเกินความรู้ของเขาอย่างสิ้นเชิง

เขาฝืนข่มความตกใจที่เกิดขึ้นในใจของเขา  สายตาที่เต็มไปด้วยความกลัวของเขากวาดผ่านพยุหะรบของถังเทียน

ในพยุหะนี้ ยังมีฉากแสงอีกอย่างหนึ่ง แสงที่รวมตัวกันสร้างเป็นบอลสายฟ้ามากมาย  ทันใดนั้นเงาร่างจากรูปกระบวนปรากฏออกมาเป็นร่างสีดำที่กลืนกินบอลสายฟ้าและหายไปในทันที

ม่านความมืดมิดที่เปลี่ยนแปลงจากกฎธรรมชาติราตรีครอบคลุมบอลสายฟ้าอำพรางแสงรัศมีไว้ทั้งหมด มันกลืนบอลสายฟ้าลูกแล้วลูกเล่าโดยกดข่มทั้งหมดไว้ในม่านมืด  ถ้าบอลสายฟ้าไม่สามารถถูกปลดปล่อยพลัง  พลังของมันจะมากมายเหลือเชื่อ  ม่านความมืดที่คลุมบอลสายฟ้าไว้เหมือนกับฉลามที่ว่ายอยู่ในน้ำทะเลลึกซึ่งสามารถทำร้ายอย่างรุนแรงเมื่อใดก็ได้

ม่านตาตู้เค่อสั่นอีกครั้ง

บอลสายฟ้าที่ถูกบีบอัดอย่างดีก็ว่าดีแล้ว แต่การโจมตีอย่างนั้นสามารถป้องกันได้ ถ้าเตรียมตัวไว้ดี  แต่การใช้ม่านความมืดบดบังบอลสายฟ้าไว้ในสมรภูมิที่วุ่นวายจะกลายเป็นอาวุธลอบโจมตีที่ดีที่สุด

บอลสายฟ้าที่ผ่านการบีบอัดกดดันอย่างสูงหากไม่มีการเตรียมตัวป้องกันจะต้องถูกบดขยี้รุนแรงกระทบถึงอวัยวะภายใน

ดาบพิศวงของจี๋เจ่อปล่อยแสงฉากสีเลือดที่มีรูหลายรู้เปลี่ยนเป็นตาข่ายเลือด ฝนแสงสีขียวเลือนรางที่เหมือนน้ำพุรดลงบนใยสีเลือดทำให้มีจุดสีเขียวเกิดขึ้นบนใยสีเลือด  นั่นคือต้นอ่อนผลผลิตของกฎธรรมชาติชีวิต เมื่อสัมผัสเข้ากับศัตรู มันจะเริ่มดูดซึมซับพลังชีวิตของศัตรูและเติบโตกล้าแข็งขึ้น

สายตาของตู้เค่อสั่นสะท้านอีกครั้ง และทันใดนั้น แม้แต่ของเขาก็พลอยสั่นไปด้วย

 ‘น่ากลัวมาก,  อำมหิตเหลือเกิน!’

ใยดูดเลือดกับต้นอ่อนพลังชีวิต  ตราบใดที่ใครสัมผัสแม้แต่น้อย พวกเขาจะถูกดูดจนแห้ง

ภายในกระบวนรบจานแสงที่ดินออกมรดูเหมือนดวงอาทิตย์อุทัย แสงทั้งหมดเหล่านี้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและเหมือนกับแม่เหล็ก พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นจานแสงขนาดขนาดใหญ่  จานแสงขนาดใหญ่นี้เป็นรูปแบบการโจมตีด้วยแสงที่ธรรมดา  แต่เมื่อมีจานแสงหลอมรวมกันมากกว่าสิบมันกลับกลายเป็นพลังที่น่ากลัว

จานแสงขยายเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเกินกว่า 10 เมตรไม่ได้สว่างเท่ากับแผ่นจานแสงเดิมแต่กลับมีฟันที่แผ่นแสงเป็นแนวสีทอง

 ‘วิ่ง’

ตู้เค่อผวาตกใจจากแนวความคิดที่เพิ่งเกิดขึ้นที่เข้ามาในใจของเขาโดยตรง  ‘เดี๋ยวก่อน!’

ตาของเขาดูเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง และเมื่อเขากวาดตาผ่านจานแสง ม่านตาของเขาขยายออกทันที

กระบี่แสงเล่มหนึ่ง ฉายประกายอยู่ด้านหลังแสงโดยไม่มีร่องรอยอะไร

 ‘แค่ยอมแพ้เสียตอนนี้!’

นั่นคือความคิดเดียวที่ปรากฏในใจของตู้เค่อ

ตู้ซินหวี่ที่อยู่ข้างตัวเขาหน้าซีดขาว  ขานางก้าวเข้าไปโดยไม่รู้ตัวทำให้นางลงไปบนพื้น