วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 814 ประตูบาป


ตอนที่  814  ประตูบาป
ในท้องฟ้าระยะห่าง จู่ๆ ก็มีกลุ่มจุดเล็กๆ ปรากฏ จุดเล็กนั้นมีมากมองดูเหมือนฝูงแตนสีดำมากมายไม่สิ้นสุด
เสียงสั่นสะเทือนดังหึ่งๆ เหมือนกับเสียงกระพือปีกของผึ้ง

หลังจากกำหนดตำแหน่งของแหล่งเสียงได้แล้ว นี่ไม่ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ แต่กลับเกิดความเย็นยะเยียบเสียดกระดูกแล่นตั้งแต่เท้าเบื้องต่ำขึ้นไปบนศีรษะ  ร่างกายของพวกเขาแข็งชะงักอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง ไม่สามารถขยับได้สักนิ้ว
กึกๆๆ เสียงฟันสั่นกระทบกันฟังได้ยิน
เหวินกังพูดทั้งที่ลิ้นสั่นระรัว หน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ  ตาของเขาเหลือแต่แววหวาดกลัว
 มีคนอยู่เท่าใดกันนี่?
 นับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
พวกเขาไม่เคยพบกับสถานการณ์เช่นนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้เรียกหา  ทางผ่านเข้าประตูบาปถูกเรียกว่า ทางมรณะสู่มาตุภูมิ  และมีซากศพกองมากมายกลายเป็นเถ้าถ่านสีเทาเมื่อเวลาผ่านไป  และตอนนี้เส้นทางมรณะสู่มาตุภูมิกลายเป็นหนทางสีเทา
ในช่วงปีแรกๆ ที่ถูกผลักดันไปที่แดนบาป  มีคนกี่คนต้องตายไปบนเส้นทางสายนี้?  นับไม่ถ้วนเลย  ขณะนั้น พลเมืองแดนบาปหยิ่งยโสไม่กลัวตาย และบุกเข้าประตูบาปอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนั้นมีกองทหารรักษาการณ์ที่ประตูบาปสองกองทัพ  ไม่ใช่กองทัพเดียว
การปราบปรามอย่างนองเลือดทำให้ทางผ่านเต็มไปด้วยกระดูก  ชื่อของทางมรณะสู่มาตุภูมิจึงค่อยๆ มีชื่อ และหลังจากนั้นพลเมืองที่บุกประตูบาปก็ลดน้อยลง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เหวินกังและพวกเฝ้ารักษาอย่างสบายใจ พวกเขาพบกับคนไม่กี่คนที่พยายามผ่านเส้นทาง
พวกเขาสามารถเผชิญฉากภาพที่ตระการตานี้ได้ยังไง?
คนนับไม่ถ้วนจู่ๆ ก็ปรากฏในก้อนเมฆเป็นคลื่นคลุมทั้งท้องฟ้า
เสียงสั่นสะเทือนหึ่งๆ ดังใกล้เข้ามาเหมือนคลื่นน้ำ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นเสียงพวกเขากำลังบิน
พร้อมกับเสียงสั่นสะเทือน ดังมาพร้อมกับกลองศึก
ตง  ตง  ตง.....
จากนั้นพวกเขาเห็นกองทัพกำลังห้าพันนายตั้งรูปขบวนอย่างสมบูรณ์แบบ ทหารทุกคนปลดปล่อยจานใสสุญญากาศทุกย่างก้าว  ทั้งห้าพันคนก้าวย่างรวดเร็วราวสายฟ้ากระแทกใส่จานสุญญากาศพร้อมกัน ทำให้เสียงดังหนักเหมือนกลอง และกระแสอากาศรอบๆ ตัวพวกเขาแหวกกระจายออก แรงกดดันมาจากพวกเขากระจายล้อมประตูบาป
ตู้เค่อมองดูหน่วยสุญญตาด้วยความอิจฉา
อาจกล่าวได้ว่ามันคือกองกำลังโจมตีเต็มรูปแบบ ไม่เพียงแต่กองทัพของถังเทียนและตู้เค่อเท่านั้นที่เคลื่อนไหวออกมา แม้แต่กองทัพที่เพิ่งก่อตั้งสองสามกองทัพก็ติดตามมาด้วย  ถังเทียนไม่สนใจพวกเขา  ตู้เค่อไม่ปฏิเสธพวกเขา  ตู้เค่อไม่มีแม้แต่ความคิดใช้ฝูงชนระดมเข้าสู้รบ  แต่แดนบาปก็ยังเป็นบ้านของเขา  เขาหวังว่าการสู้รบจะสามารถนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่แดนบาปที่เสื่อมถอย  วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ผู้คนเห็นการสู้รบมากขึ้น
น้อยคนนักจะรู้ว่าตู้เค่อเคยบุกประตูบาปมาครั้งหนึ่งแล้ว  ไม่มีใครอื่นที่เข้าใจชัดเจนมากกว่าเขาต่อความยากลำบากในการผ่านประตูบาป  แม้ว่าจะได้ความช่วยเหลือของถังเทียนเขาก็ยังทำใจว่าเหมือนกับการสู้รบครั้งสุดท้ายของเขา จะมีชีวิตรอดหลังจากได้ชัยชนะ และตายในการพ่ายแพ้
ตู้เค่อทำใจและเขารู้สึกสงบมากขึ้น และเห็นมามากครั้ง
เขาจับตาดูที่หน่วยสุญญตามากที่สุด  การแสดงมาตรฐานของหน่วยสุญญตาอยู่เหนือกองทัพอื่น และตู้เค่อฝันว่าสักวันกองทัพของเขาจะไปถึงระดับนั้นบ้าง
ถังเทียนจับตาดูประตูบาป
ประตูบาปก่อสร้างขึ้นจากลักษณะของภูเขา เป็นผนังกำแพงหนาและตั้งอยู่ในหุบเขาทำให้ประตูใหญ่มหึมาเหมือนกับประตูน้ำกั้นระหว่างหุบเขา  กำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะขาวเหมือนหิมะ บนผิวกำแพงมีประติมากรรมสลักเครื่องหมายของทวีปกวงหมิงเป็นรูปดวงอาทิตย์เปล่งแสงแพรวพราวสีขาวเหมือนกับดวงอาทิตย์จริง
 “ป้อมกวงหมิง!”  หน้าจงหลีไป๋กลายเป็นน่าเกลียดทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตู้เค่อถาม  “นั่นเกี่ยวกับอะไร?”
 “มันเป็นเรื่องลำบากมาก”  จงหลีไป๋บ่น
สมาพันธ์ชาวยุทธ (กลุ่มกวงหมิง) เป็นพวกที่น่ากลัวที่สุดสำหรับสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา และเป็นหัวข้อศึกษามากที่สุดของสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา  กลุ่มดาวอื่นจะเพ่งความสนใจวิทยายุทธต่างๆ ของสมาพันธ์ชาวยุทธมากขึ้น  แต่กลุ่มดาวราชสีห์ที่เต็มไปด้วยแม่ทัพนายกองที่มีพรสวรรค์   จะค่อนข้างเน้นในเรื่องเกี่ยวกับสงครามของสมาพันธ์ชาวยุทธ  และหนึ่งในนั้นก็คือป้อมรบของสมาพันธ์ชาวยุทธ
เนี่ยชิวที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น “สมาพันธ์ชาวยุทธ โอว..  ซึ่งก็คือทวีปกวงหมิงของท่านนั่นแหละ ป้อมโครงสร้างของพวกเขาเข้าเกณฑ์มาตรฐาน  พวกเขามีความรอบคอบมากกับจุดอ่อนเล็กน้อยไม่กี่จุด และคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดที่มีก็คือใช้สนับสนุนการปราบปราม”
ตู้เค่อสับสน  “สนับสนุนปราบปราม?”
 “ที่เรียกว่าใช้สนับสนุนการปราบปรามไม่ได้หมายถึงโจมตีเป้าหมายของมันโดยตรง  แต่ด้วยวิธีสนับสนุนบางประการ มันใช้ยับยั้งและทำให้เป้าหมายของพวกเขาอ่อนแอ”  เนี่ยชิวอธิบาย  “เครื่องหมายดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่บนประตูเมืองจะปล่อยแสงสีขาว เรียกว่าแสงประจำป้อม และเป็นวิธีจัดการอย่งเดียวสำหรับป้อมพวกกวงหมิง  พวกเขาสามารถสร้างความเข้มข้นของพลังงานแสงได้”
ตู้เค่อพึมพำ  “ใช่ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น...”
เขาคือบุรุษอันดับหนึ่งของแดนบาป และทำความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎธรรมชาติ ไม่มีใครในแดนบาปเป็นศัตรูกับเขา  เขาเข้าใจได้โดยเร็วทำไมผู้คนถึงล้มเหลวทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี
 “เครื่องหมายนี้มีลักษณะที่มั่นคง ซึ่งพอเวลาผ่านไป พลังงานแสงที่มีจะหนาแน่นขึ้น  ขณะที่พวกเขาอยู่ในหุบเขาพื้นที่คับแคบ  มันเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับการสะสมพลังงาน นี่คือจุดแข็งที่สุดของป้อมกวงหมิง  ป้อมอื่นมีแต่จะอ่อนแอเมื่อเวลาผ่านไป  แต่ป้อมกวงหมิงกลับตรงกันข้าม  เราได้ข้อสรุปบางอย่าง  ถ้าป้อมกวงหมิงสร้างมานานเกิน 500 ปี กำแพงของพวกเขาจะเข้มแข็งต่อเนื่องโดยมีแสงตกผลึก ป้อมกวงหมิงใดๆ ที่ตกผลึกจะผ่านเข้าไปไม่ได้”
เนี่ยชิวพูดอย่างใจเย็น  แต่ทุกคนรอบตัวเขาสูดหายใจหนาวเหน็บ
จากนั้นจงหลีไป๋เสริมต่อ  “และนอกจากนี้ การเสริมการปราบปรามของพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่นั้น  พลังงานแสงที่หนาแน่นจะทำให้เขามีอิสระส่งเสริมการปราบปรามศัตรูได้  วิธีนี้ผสมกับแสง ไม่สามารถตรวจจับได้ง่าย  แต่คนที่ล้อมโจมตีจะพบกับปัญหาพลังลดลงไปมาก  ตัวอย่างเช่นพลังร่างกายจะหมดไปจากร่าง  เราจะเหน็ดเหนื่อยก่อน  พลังงานแสงนั้นอาจจะดูเหมือนนุ่มนวล  แต่ในความเป็นจริงหลังจากเข้มข้นเกินไปในระดับหนึ่ง มันจะมีคุณสมบัติขับพลัง  พลังงานที่มีคุณสมบัติอย่างอื่นจะถูกสะกดข่ม และจากที่เห็นลักษณะของมัน ไม่เพียงแสงพลังงานที่ได้รับผลเท่านั้น แต่กฎธรรมชาติก็ได้รับผลเช่นกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวี่เย่และคนที่เหลือรอบตัวถังเทียนทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป พลังของเนี่ยชิวและจงหลีไป๋ได้รับการยอมรับจากทุกคน  แต่สวี่เย่และพวกที่เหลือชินกับการแข่งขันของทั้งคู่ดี และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นกับตาว่าทั้งสองต่างพูดคนละประโยคแต่สนับสนุนกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตู้ซินหวี่และพวกก็ประหลาดใจเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้ ทุกคนพยายามกระตุ้นกฎธรรมชาติของพวกเขา  แต่หลังจากนั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทุกคน
พวกเขาตระหนักว่ามีบางอย่างขัดขวางไม่ให้เขาสร้างผิวกฎธรรมชาติได้
การคาดเดาของตู้เค่อถูกต้อง  แต่เขาไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น  ความเข้าใจในกฎธรรมชาติของเขาลึกซึ้งที่สุด  แต่เขาเหมือนแปลกหน้าต่อพลังงาน  ประตูบาปปล่อยรัศมีที่เขาไม่ชอบ และเขาคิดว่าเป็นเพราะความตายที่เกิดขึ้น  เขาไม่เคยคิดว่าแสงที่นุ่มนวลจะเป็นหายนะของแดนบาปจริงๆ
แต่แม้ว่าเขาจะรู้สาเหตุมาจากแสงสีขาว  แต่เขาไม่รู้ว่าจะคลี่คลายยังไง  สนามพลังกฎธรรมชาติของเขาไม่ได้รับผลของแสงสีขาวมากนัก  แต่เขารู้ว่ากำแพงนั้นแข็งแกร่งทนทานเพียงไหน
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้อิทธิพลก็รุนแรงเท่านั้น
ตู้เค่อเงยหน้า  “เจ้าทั้งสองมีแผนอะไรบ้างไหม?”
เนี่ยชิวพูด “ไม่ใช่ว่าข้าไม่มีอะไร  แต่มันจะส่งผลหรือไม่ เราได้แต่ทดลองจึงจะรู้  ข้าได้ยินว่าท่านตู้ก็เคยบุกประตูบาปมาครั้งหนึ่ง  ท่านพอจะบอกสถานการณ์ให้เราทราบบ้างได้หรือไม่”
ถังเทียนแปลกหน้าไม่คุ้นเคยต่อการควบคุมการสู้รบ  ถ้าปิงอยู่ที่นี่เขาคงจะทำเรื่องต่างๆ สำเร็จก่อนจะเคลื่อนกำลังออกไป
 “ไม่มีปัญหา” ตู้เค่อพูดอย่างเยือกเย็น
ตู้ซินหวี่และพวกที่เหลือตกใจ  พวกเขาไม่เคยรู้ว่าตู้เค่อพยายามบุกประตูบาปมาก่อน
*********************

เหวินกังและพวกตื่นตระหนกในตอนแรก แต่ก็สงบใจได้อย่างรวดเร็ว  ในตอนแรกเพื่อป้องกันแดนบาป ป้อมของพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาด้วยมาตรฐานที่สูงส่ง  และเวลานั้นเป็นเพราะศัตรูมีจำนวนมาก เนื่องจากมีคนมากมายถูกจองจำในแดนบาป  เป็นเหตุให้ป้อมอ่อนแอมากในสมัยนั้น
ปัจจุบันนี้ ป้อมกวงหมิงที่ถูกสร้างมานานเกินกว่า 200 ปี ผ่านกระแสเวลากลายเป็นป้อมแข็งแกร่งขึ้นมาก  ประตูบาปเป็นเหมือนกุญแจล่ามคอแดนบาป
มีกองพลสองกองทัพประจำการอยู่ในตอนแรก และลดลงเหลือหนึ่ง  และกองกำลังหลักดั้งเดิมกลายเป็นกองกำลังธรรมดา
ทุกอย่างเป็นเพราะป้อมมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจก็คือ จำนวนพลเมืองแดนบาป  เหวินกังและพวกตื่นจากฝันร้าย และรายงานสถานการณ์ทันที ทหารที่ลืมตัวในตอนแรกเริ่มมุ่งหน้าไปที่กำแพงเมือง
อู่ซวนมึนเมาลงมาที่กำแพง และเมื่อเขาเห็นกองทัพใหญ่ข้างล่าง เขาตื่นจากอาการตกตะลึง
แต่เมื่อเขาเห็นกลุ่มพวกนั้นเริ่มถอย  เขาก็ใจเย็นลงได้
เมื่อคิดถึงป้อมที่ทรงพลังที่เขากำลังยืนอยู่  ความกลัวของเขาหายไปหมด  ประตูบาปมีประวัติศาสตร์มานานและอยู่มานานเกิน 200 ปี  แม้ว่าจะเป็นอีก 200 ปีข้างที่ตกผลึก แต่มันก็จะยิ่งทรงพลัง  ตัวอย่างเช่น แสงของป้อมตอนนี้คลุมพื้นที่มากกว่า 60 กิโลเมตร  เมื่อตอนแรกที่สร้างมันคลุมพื้นที่ไม่ถึง 5 กิโลเมตร
และแสงของป้อมในตอนแรกเริ่มเพิ่มไปถึงระดับกลางแล้ว พลังของมันอาจเพิ่มคุณภาพได้เช่นกัน
แสงของป้อมปราการยังไม่ถือว่าเด็ดขาดร้ายกาจ  แต่ภายในพื้นที่ซึ่งแสงล้อมรอบ กฎธรรมชาติจะถูกข่มลงโดยพลังงานแสง ที่หนาแน่น
แม้ว่าอู่ซวนจะถูกบังคับให้มาประจำอยู่ที่นี่  แต่เขาก็ยังมีมาตรฐานฝีมือ เขารู้ว่าตราบใดที่กฎธรรมชาติได้รับผลกระทบ กองทัพเบื้องล่างเขาจะอ่อนแอเหมือนลูกไก่  นอกจากฆ่าพวกเขา พวกเขาไม่มีทางออกอื่น
 “นายท่าน, นี่คือโอกาส”  นายทหารผู้ช่วยพูดขึ้นทันที
 “หือ?” อู่ซวนไม่เข้าใจ
ตาของผู้ช่วยนายทหารมีแววตื่นเต้น  “นายท่าน, สี่คือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต! มีพลเมืองแดนบาปมากเกินไป  กี่ปีมาแล้วที่พวกเขาเคยมาอย่างนั้น?  นี่คือความดีความชอบจริง!  เรื่องในอดีตผ่านไปนานแล้ว และอาจมีผู้เคราะห์ร้ายที่ลืมมันไปแล้ว  เราควรจะคว้าความดีความชอบนี้หาคนมาช่วยพูด  บางทีอาจได้กลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”
อู่ซวนร่างชะงักค้าง เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทันที  “ใช่แล้ว!  ตราบใดที่เราฆ่าพวกมันให้หมด เราจะได้ความดีความชอบครั้งใหญ่!
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งตื่นเต้น  ยิ่งเขาตื่นเต้น เขายิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม
เขาเบื่อกับการอยู่กับสถานที่เก่าและถูกทอดทิ้งมานานเต็มที!
ตราบใดที่เขาทำความดีความชอบได้สำเร็จ  เขาจะมีข้ออ้างให้จากไป  อู่ซวนแยกอารมณ์และความคิดของเขาออกจากกัน  คิดถึงเครือข่ายที่เขาสามารถระดมได้  แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรั้วกำแพงมาเป็นเวลานาน  เขาสามารถหาเครือข่ายได้  ในอดีตเขาไม่มีข้ออ้าง  และไม่มีประโยชน์ที่เขาจะใช้เครือข่ายติดต่อ  แต่ตอนนี้โอกาสอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา
เขาไม่รู้ว่าบางคนกำลังจ้องมองทางเขา

6 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Little Boy Bomb กล่าวว่า...

ขอบคุนครับผม

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ถังจะใช้กรงเล็บไหมนะ 555

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น