ตอนที่
870 ชัยชนะ
กระบวนศึกรูปเขาแกะเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่อง
พวกเขาเหมือนกับเกลียวสายฟ้าสองสายพันกันอยู่ในอากาศ
ทั่วทั้งกระบวนรบคล้ายกับสายฟ้าคะนองที่หมุนปั่นพันกันลากหางแสงเป็นแนวยาวซึ่งยิงระลอกพลังออกมาต่อเนื่อง
ทะเลพลังงานรอบตัวพวกเขาปั่นป่วน
ทหารและขุนพลนายกองที่อยู่บนเรือรบตะลึงกับการเคลื่อนไหวของกองกำลังน้ำแข็งเงิน
และหลงงุนงงไปชั่วขณะ แต่ในขณะสั้นๆ
นั้นเอง กองกำลังน้ำแข็งเงินก็รุกเข้ามาในรัศมีการโจมตีแล้ว
นายกองตื่นจากอาการงุนงง และตะโกนลั่น “ยิง!”
ทหารสั่นและยิงกันทุกคน
ในสมรภูมิ ความยิ่งใหญ่
หรือความแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก
สร้างอิทธิพลต่อการต่อสู้ในแทบทุกด้านทั้งความมุ่งมั่น ความตั้งใจ
ความมั่นใจตัวเอง ฯลฯ รวมทั้งพลังที่ทหารแสดงออกมาล้วนมีความสัมพันธ์โดยตรง
เรือรบขนาดเล็กทั้งสามแต่ละลำจะติดตั้งอาวุธเรือรบหกชุด
อาวุธเรือรบรวมสิบแปดชุดถือเป็นปัจจัยของความเชื่อมั่นที่สำคัญที่สุดของนายทหารทวีปกวงหมิง สำหรับพวกเขาอาวุธเรือรบทุกอย่างอย่างถือว่าได้เปรียบมากเมื่อเทียบกับการโจมตีของกองทัพทั่วไป
ในการสู้รบในทะเลพลังงาน มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการมีเรือรบ และไม่มี
เมื่อไม่มีเรือรบ
ทหารจำเป็นต้องทนต่อพลังกัดกร่อนในทะเลพลังงานและทำให้การประสานพลังกันเป็นเรื่องยากมาก
อาวุธเรือรบเป็นเพียงอาวุธที่จำเป็นอย่างเดียวที่ควบคุมได้ พลังงานที่สนับสนุนจากเรือรบ
ขณะที่เรือรบสามารถป้องกันให้ทหารได้
สิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าจะเป็นเรือรบขนาดเล็ก แต่เรือรบทุกลำมีคุณภาพยอดเยี่ยม
และความสามารถในการสู้รบที่เหนือกว่าเรือรบธรรมดาที่พบในท้องตลาด
แต่ความเชื่อมั่นทั้งหมดนี้
พังทลายเมื่อเผชิญกับการโจมตี
ทั่วทั้งทะเลพลังงานดูเหมือนจะสั่นสะเทือน แม้แต่ภายในเรือรบ
ทหารก็สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่น่ากลัวได้ชัดเจน
ความหวาดกลัวอย่างหนักเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วใจของพวกทหาร พวกเขาผ่านศึกและมีประสบการณ์มามากแล้วทุกคน
และมีสัญชาตญาณต่ออันตรายเป็นพิเศษ
แม้ว่าจะไม่มีนายกองคอยกระตุ้นเตือนก็ตาม
พวกเขาโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
พวกเขาปล่อยรังสีกระบี่เจิดจ้าและยิงใส่ศัตรู
บนเรือรบล้วนเป็นทหารที่ผ่านการสู้ศึกมาแล้ว
เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อต่อต้านความกลัวและอันตราย
หลิงซิ่วไม่กังวลแม้แต่น้อย ดวงตาสีแดงเพลิงเป็นประกายลุกโชนเหมือนไฟ
เขาไม่เคยเปลี่ยนความคิดของเขาต่อความเข้าใจการสู้รบมาก่อน
หนึ่งหอกคร่าชีวิต!
แม้ว่าตอนนี้เขากำลังนำหน่วยออกรบ ความคิดนี้ไม่เคยเปลี่ยน การเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ถือว่าตรงและทรงประสิทธิภาพ
ไม่คำนึงว่าคู่ต่อสู้จะมีความสำคัญหรือลึกซึ้งเหมือนทะเล เขามักจะทุ่มสุดตัวไม่มีถอย นี่ถือมรรคาวิชาหอกของเขา
เป็นวิธีที่เขาใช้ต่อสู้
หลังจากเขาเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตำแหน่งของหลิงซิ่วยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า
และเมื่อหลิงซิ่วมาถึงข้างหน้าหน่วย ความสง่าและการโจมตีของพวกเขาก็พุ่งถึงระดับสูง
แสงสีเงินของผนึกเขาแกะก็ฉายเจิดจ้าทำให้แสงสว่างคลุมไปทั้งตัวหลิงซิ่วกลายเป็นร่างเจิดจ้าแพรวพราวตา
รังสีแหลมคมขยายกินบริเวณไปทั่วแสงเงินที่พันกันสองสายมาจากด้านข้างและรวมกันเป็นหนึ่งกลายเป็นหอกตรง
ขณะที่หลิงซิ่วอยู่ในรัศมีสว่างแพรวพราว กลับกลายเป็นลายเส้นที่คมชัดที่สุด
บุคลิกของหลิงซิ่วส่งผลโดยตรงต่อกองกำลังน้ำแข็งเงิน และความห้าวหาญไม่กลัวตายกลายเป็นลักษณะเฉพาะที่สุดเกี่ยวกับกองกำลังน้ำแข็งเงินนี้
แสงสีเงินที่มีการเผาผลาญและบีบอัด
กลายสภาพเป็นแสงเยื่อบาง
ลำแสงที่กร้าวแกร่งและคมและรัศมีดาบปะทะกันภายในเยื่อแสงเบาบาง
ลำแสงและรังสีกระบี่แตกสลายเหมือนขนมกรอบร่วนกลายเป็นชิ้นๆ
และร่วงโปรยลงคล้ายหยดแสง
ขณะที่พลังโจมตีของกองกำลังน้ำแข็งเงินไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ถ้าจะต้องพูดว่าก่อนนี้พวกเขามีแต่เพียงสัญชาตญาณอันตราย จากนั้นในชั่วขณะ
แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็คงบอกได้ว่าสถานการณ์ห่างไกลจากคำว่าดี
‘แย่แล้ว!
การโจมตีของเรือรบไม่มีประโยชน์ต่อเยื่อพลังเบาบางนั้นเลย!
“โจมตี! โจมตีเต็มกำลัง!
นายกองตะโกนลั่น
ทหารทุกคนตกอยู่ในความบ้าคลั่ง ภัยคุกคามชีวิตพวกเขาทำให้พวกเขาดึงเอาศักยภาพทั้งหมดของพวกเขาออกมา ขณะที่พวกเขาทุ่มเทโจมตีไม่คิดชีวิต
แม้ว่าจะทำให้พวกเขาบาดเจ็บก็ตาม
ทหารหลายคนเริ่มมีโลหิตไหลออกจากปาก
ทำให้ใบหน้าที่ดูน่ากลัวอยู่แล้วกลับดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
รังสีกระบี่, แสงรัศมี
ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นดูหนาแน่น
รัศมีแสงเพิ่มความเข้มข้นขึ้นทันทีส่งผลต่อการมองเห็นภาพของทหาร แต่ขณะนั้นไม่มีใครสนใจ
เนื่องจากพวกเขามีความคิดอยู่อย่างเดียวในใจพวกเขา
โจมตี! โจมตี! โจมตีเต็มกำลัง!
กองกำลังน้ำแข็งเงินไม่สนใจพยายามหลบหลีกจากพลังโจมตีของพวกเขา ทำให้เรือรบทั้งสามลำโจมตีได้สะดวก เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศเล็ง
ยิงอยู่ทิศเดียว
รังสีกระบี่และรังสีหอกชุดแล้วชุดเล่าปะทะใส่ศัตรูของพวกเขา
กลายเป็นรัศมีแตกกระจาย
พลังโจมตีรุนแรงมาก
ก่อนที่รังสีจะแตกกระจายหายไป
คลื่นรังสีที่แตกกระจายลูกแล้วลูกเล่าระเบิด ในพริบตา
กองกำลังน้ำแข็งเงินก็ถูกรังสีที่แตกกระจายกลืนทำให้ยากจะมองเห็นพวกเขา แต่เรือรบทั้งสามลำไม่มีความตั้งใจจะหยุด
หรือพวกเขายังมีความกล้า ขณะที่พวกเขายังโจมตีต่อไป
ปัง
ปัง ปัง!
พลังงานหนาแน่นปั่นป่วนสร้างแรงระเบิดหลายครั้ง
เปลวเพลิงสีส้มและสีแดงเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่ทำลายดักแด้ออกมากลืนกินทุกอย่างรอบตัว สมรภูมิท่วมไปด้วยพลังงานที่ไม่เสถียร
กลายเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้อย่างดีที่สุด
ในช่วงเวลาที่สั้นๆ เกิดการระเบิดไปทั่วทุกที่
คลื่นระเบิดรุนแรงทรงพลังมหาศาล แม้แต่กองเรือก็ยังได้รับผลกระทบ เนื่องจากพวกเขาถูกระเบิดกระเด็นออกไปมากกว่า
30 เมตร
ทุกอย่างในฉากภาพหายไปหมดทิ้งไว้แต่สีแดงที่น่ากลัว
ม่านพลังปกป้องของเรือรบถึงขีดจำกัดทำให้ทหารรู้สึกถึงพลังความร้อนสูง
‘ระเบิดที่น่ากลัวนัก!’
ทุกคนกำลังสั่นด้วยความกลัว แต่ก็โล่งใจมากขึ้น ในแรงระเบิดที่กลัว ไม่มีการปกป้องจากเรือ ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตได้ ความเครียดผ่อนคลายลงทันที
และทหารที่เหน็ดเหนื่อยอย่างยาวนานต่างนั่งลงกับพื้นกันหมด แม้ว่าการสู้รบจะใช้เวลาสั้นๆ
แต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขาทุกคนผ่านประตูนรกและกลับขึ้นมา
เป็นการสู้รบที่สิ้นหวังมาก
ทันใดนั้น
ทหารที่สามารถมองเห็นได้ปกติบังเอิญมองไปนอกหน้าต่าง ตะลึงเป็นไก่ตาแตก
เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด
แต่เขาตั้งหลักได้เร็ว
ใบหน้าซีดขาวและตะโกนสุดเสียง “พวกมันยังมีชีวิตอยู่!”
ภายในเปลวเพลิงลุกโชน
กลุ่มร่างสีเงินพุ่งออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือกองกำลังน้ำแข็งเงิน บนเยื่อแสงที่เบาบางยังมีเศษเปลวไฟเหลืออยู่
และเทียบกับครั้งก่อน เยื่อหุ้มแสงบางกลายเป็นหมองลง
แทบโปร่งใสเหมือนกับฟองลูกโป่งสามารถแตกได้ทุกเมื่อเสื้อผ้าบนร่างของพวกเขาได้รับความเสียหายในระดับแตกต่างกัน
สมาชิกกองกำลังน้ำแข็งเงินที่อ่อนแอจะได้รับความเสียหายหนักกว่า
แต่ไม่มีใครถอยเลยสักคน ทุกคนถือหอกเงินพลังงานทะลักออกจากร่างของพวกเขาเข้าไปบนผนึกเขาแกะเหนือศีรษะพวกเขา
รัศมีแสงของผนึกเขาแกะแผ่ขยายทันทีและปล่อยแสงสีเงินหนาแน่นยิ่งขึ้น เยื่อแสงที่บางแต่เดิมเข้มข้นขึ้น และแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน
รังสีที่คมจากหอกของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น
ก่อนนี้รังสีคมที่เรือรบทั้งสามรู้สึกได้มาจากกองกำลังน้ำแข็งเงินที่ปล่อยออกมาทั่วสมรภูมิ แต่รัศมีที่ทรงพลังใหม่นี้หนาแน่นและคม มาจากการที่พวกเขาบีบอัดรัศมีและรวมไว้ที่ร่างของพวกเขา
ความรู้สึกแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
ม่านพลังป้องกันของเรือรบไม่สามารถทำให้ทหารรู้สึกถึงความปลอดภัยใดๆ
ได้เลย
พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดเล็งมาที่คอพวกเขา เลือดในร่างของพวกเขาแข็ง
และความเจ็บกระจายไปทั่วผิวหนังราวกับว่าพวกเขากำลังถูกตัด
พวกทหารจ้องมองแสงสีเงินขณะที่มันขยายใหญ่ขึ้นในสายตาของพวกเขา
ปัง!
ม่านพลังที่ไม่สามารถเบี่ยงเบนหักเหแสงสีเงินได้แตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เหมือนกับกระดาษ
กองกำลังน้ำแข็งเงินเป็นเหมือนหอกเงินที่คมกริบพุ่งผ่านเข้าไปในลำเรือลำหนึ่งโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร
เรือที่แข็งแรงมั่นคงไม่สามารถหยุดกองกำลังน้ำแข็งเงินได้
ที่ใดก็ตามที่กองกำลังน้ำแข็งเงินผ่านไปแผ่นไม้และแขนขาจะปลิวกระจาย ก่อนที่ทหารจะทันได้ร้องโหยหวน
หลิงซิ่วก็พากองกำลังน้ำแข็งเงินผ่านพวกเขาไปแล้ว
แครก... เรือรบถูกตัดขาดราวกับถูกดาบยักษ์ตัด
แยกออกเป็นสองส่วน ทหารบนเรือสั่นสะท้าน
พวกเขาไม่สนใจทุกสิ่ง ความคิดอย่างเดียวที่มีอยู่ในใจคือเผ่นหนี!
ก่อนที่พวกเขาจะทันหลบได้
เสียงดังสนั่นขณะที่แสงแพรวพราวฉายวาบกลืนทหารทั้งหมดที่ไม่มีเวลาหนี
หลิงซิ่วและหน่วยของเขาหันกลับมาและเริ่มพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
ไม่มีอะไรน่ากังวล
เหมือนกับมีดร้อนหั่นลงบนเนย เรือรบลำที่สองถูกตัดขาดกลายเป็นกองเพลิงสองกอง
การระเบิดของเรือรบทำลายกำลังใจของศัตรูอย่างสิ้นเชิง
ทำให้เรือรบและเรือลำเลียงสองลำที่เหลือหันหางหนี
แต่เพื่อประโยชน์ในการใช้พลังยิงได้เข้มข้นมากขึ้น เรือรบทั้งสามลำแล่นชิดติดกัน
และก่อนที่เรือรบลำที่สามจะเคลื่อนไปไกลเกิน 300 เมตร หลิงซิ่วและกองกำลังน้ำแข็งเงินก็ไล่ตามทัน
และมันถูกทำลายสิ้นเชิง
เรือลำเลียงที่มีความเร็วช้าไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
วินัยที่เข้มงวดของทวีปกวงหมิงไม่อาจปฏิเสธได้ย่อมส่งผลอย่างมิต้องสงสัย พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เรือลำเลียงสองลำก็ยังไม่ยอมแพ้
ในเส้นทางเดินเรือ
สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเพลิงที่ลุกไหม้
ไม่มีผู้ใดรอด
สมาชิกกองกำลังน้ำแข็งเงิน
เห็นผลสำเร็จของการสู้รบ และแต่ละคนค่อยๆ สงบใจจากความตื่นเต้นของพวกเขาได้
ใครบางคนอดพูดขึ้นไม่ได้ “พวกเขาดื้อด้านจริงๆ”
“ใช่,
ไม่มีใครยอมแพ้ มิน่าเล่าทวีปกวงหมิงถึงได้ทรงพลังยิ่งนัก”
ดูเหมือนว่าความดีใจกับชัยชนะของพวกเขาลดลง
แม้ศิษย์จากห้าตระกูลเกาะใต้ก็ยังมีสีหน้าขึงขัง ร่องรอยเบาบางพอจะเห็นจากภาพรวม
พิสูจน์ว่าทวีปกวงหมิงไม่ใช่ศัตรูที่จะเอาชนะง่ายๆ
ห้าตระกูลเกาะใต้มีความเกลียดทวีปกวงหมิงอย่างลึกล้ำ
และศัตรูนี้ก็แข็งแกร่งมากกว่าที่พวกเขาคาด
หลิงซิ่วไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกแม้แต่น้อย ในสวรรค์วิถี
เขาเห็นวิธีที่พวกวิหารเซียนคุกคามแม่ทัพนายกองของพวกเขา เขารู้ว่าไม่ใช่ว่าพวกทหารไม่ต้องการยอมแพ้
เป็นแต่พวกเขาไม่กล้ายอมแพ้
เนื่องจากเกี่ยวข้องกับครอบครัวพวกเขา
แม้ว่ากลยุทธนี้จะมีแรงกดดันสูงแต่ก็สามารถให้ผลบางอย่างได้ แต่มันไม่ได้มาจากศรัทธาของตนเอง และเมื่อถึงระดับหนึ่ง มันจะสลายไปอย่างรวดเร็ว
แต่เขาไม่อธิบายเรื่องนี้ให้สหายของเขาทราบ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะหยิ่งกับชัยชนะเพียงเล็กน้อย
หลิงซิ่วอารมณ์ค่อนข้างดี ไม่ว่ายังไงชัยชนะก็ทำให้หน่วยของเขามีความก้าวหน้าเล็กๆ
เป็นสิ่งที่คุ้มค่าและมีความสุข
“คุณชาย,
เราจะเอาชนะทวีปกวงหมิงได้จริงๆ หรือ?”
เมื่อสมาชิกอื่นได้ยินเช่นนั้น
พวกเขาทุกคนหยุดทุกอย่างที่พวกเขากำลังกระทำและมองดูหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วขมวดคิ้ว “เจ้าไม่ต้องพูด”
“แต่ศัตรูดื้อรั้นยืนกราน..”
สมาชิกบ่น เป็นเพราะได้รับผลกระทบใหญ่ที่แม้แต่เรือลำเลียงก็ยังดื้อรั้นยืนกรานนัก
หลิงซิ่วหยุดทันที
สายตาเขาแหลมคมราวกับดาบขณะที่เขากวาดตามองทุกคน ทำให้บางคนก้มหน้าลง แต่มีบางคนมองหน้าเขาตรงๆ เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ตราบใดที่พวกเจ้าดื้อรั้นยืนกรานมากกว่าพวกเขา”
หลิงซิ่งตอบเย็นชา
เมื่อเห็นสมาชิกต่อหน้าเขาดูเหมือนจะมีความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง
เขาค่อนข้างจะหงุดหงิด
เนื่องจากเขาตระหนักว่ากองกำลังน้ำแข็งเงินของเขาไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เขาประกาศอย่างเฉยเมย “พรุ่งนี้จะต้องฝึกเพิ่มอีก”
เสียงบ่นของกองกำลังน้ำแข็งเงินเต็มพื้นที่ทันที
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
พี่ซิ่วววกลับมาแล้วววว
ขอบใจจ้าาาา
หายไปนานเลย ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น