วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 875 ไม้ตายของกองทัพแดนบาป


ตอนที่  875  ไม้ตายของกองทัพแดนบาป
 ...กองทัพ!’
คอลลินเกือบคิดว่าเขาตาฝาด  กองทัพ, แดนบาปมีกองทัพ!’  แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับรูปแบบกระบวนศึกของพวกเขา  แต่เขาไม่เคยเห็นรูปขบวนที่ยุ่งเหยิงมาก่อน  แต่คอลลินมั่นใจเต็มร้อยว่านั่นคือกองทัพ  กองทัพจริงๆ!

 แดนบาปมีกองทัพ!’
หัวใจของเขากระตุกวูบ  เขารู้ว่าเขาผิดพลาด, วิหารผิดพลาด, ทุกคนผิดพลาด!
ในข้อมูลทั้งหมดที่เขาติดต่อได้มา วิธีการต่อสู้ของแดนบาปคือคนเดียวยกระดับพลัง  แดนบาปรู้แต่วิธีสู้รบของส่วนบุคคลและไม่มีกองทัพ ในข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้  นี่เป็นการวิเคราะห์ไว้อย่างละเอียด
คอลลินเชื่อในเรื่องนี้อย่างเต็มที่  เขาไม่เคยคิดว่าวิหารกวงหมิงจะทำข้อผิดพลาดเช่นนั้นในเรื่องสำคัญขนาดนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าวิหารกวงหมิงผิดถนัด  แดนบาปผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปแล้วโดยที่วิหารกวงหมิงไม่รู้เรื่อง
 เดินหมากผิดไปหนึ่งตาก็ล่มสลายทั้งกระดานได้’
การวางแผนทั้งหมดของเขามีโครงร่างเพื่อต่อต้านการสนับสนุนเส้นทางต่อสู้ของแดนบาป  และในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเขาทำผิดไปมาก  แทบจะทันที คอลลินเข้าใจจุดสำคัญของศัตรูสองสามจุด
 พวกเขาฉลาดมากกว่าที่ข้าคิดไว้’
 ที่เรียกว่าป้อมปราการเป็นเหมือนฝาครอบ ไม้ตายที่แท้จริงของแดนบาปก็คือกองทัพของพวกเขา!  พวกเขาเจ้าเล่ห์มาก ที่ส่งหน่วยสอดแนมจำนวนมากมาในตอนแรกเริ่ม เพื่อฆ่าหน่วยสอดแนมของข้า  หน่วยสอดแนมแดนบาปที่คอลลินคุ้นเคยอยู่นานทำให้เขาสั่น
คอลลินคาดได้อย่างรวดเร็ว  “ดูสิ”  พวกหน่วยสอดแนม  พวกเขาทั้งหมดมีพลังส่วนตัวแข็งแกร่ง  แต่ขาดระบบรวมตัว  พวกเขาไม่มีกระบวนรบใดๆ  และด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาล  คอลลินเพียงแต่ต้องรักษารูปกระบวนทัพไว้ให้สำเร็จ เพื่อป้องกันหน่วยสอดแนมโดยปลุกเร้าทหารไว้  และคงไม่มีอะไรต้องกลัว
 แต่งานทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ศัตรูต้องการให้ข้าเห็น
 และมีป้อมอยู่ตรงนั้น!’
ป้อมปราการทำให้เป้าหมายสมบูรณ์แบบ  ตราบใดที่เขายึดป้อมได้  เขาสามารถคลี่คลายการสู้รบได้  นี่คือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดที่จัดเตรียมไว้เพื่อเขา  มันสมบูรณ์แบบมากจนคอลลินไม่อาจปฏิเสธได้  เวลา สิ่งที่ขาดมากที่สุดก็คือเวลา  สิ่งที่วิหารกวงหมิงขาดมากที่สุดก็คือเวลา
ดังนั้นคอลลินจึงนำอาวุธเรือรบมาด้วยสองสามชนิด  และวางแผนล้อมป้อม  แต่โดยไม่รู้ตัว พวกเขาเล่นอยู่ในเงื้อมมือศัตรูไปแล้ว
กับดักเป็นชุด เพิ่งจะเปิดเผยอาวุธที่ทรงพลังมากที่สุด
และอาวุธที่รุนแรงมากที่สุด ก็คือกองทัพแดนบาป
ความคิดของคอลลินถูกจัดระเบียบอย่างหนัก  และเขารู้ว่าเขาแพ้แล้ว
 แม้ว่าไม้ตายสุดท้ายของเขาถูกคิดเอาไว้อย่างรอบคอบ  ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางหน่วยสอดแนมที่กระจัดกระจายและบ้าคลั่งก็คือโอกาสที่พวกเขาจะโจมตี’
 ทรงพลังอย่างแท้จริง!’
 รังสีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเข้ามาในสายตาของคอลลิน
สมรภูมิที่รุนแรงสงบลงทันที แรงกดดันที่ที่ไม่อาจอธิบายได้ครอบคลุมไปทั่วสถานที่  แม้แต่พลังงานที่ใช้งานสำหรับตั้งกระบวนรบก็ซบเซาลง  จนถึงขนาดที่หดตัวลง
กองทัพแดนบาปเข้าสู่สภาพพร้อมรบอย่างสมบูรณ์
เมื่อตู้เค่อสร้างกองทัพแดนบาป  เขาได้รวมกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดและมีพรสวรรค์ทุกคนจากแดนบาป  ซึ่งแม้แต่กองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียนก็ยังไม่อาจเทียบกับกองพลแดนบาปของตู้เค่อได้ในแง่คุณภาพของคน  อาจกล่าวได้ว่ากองทัพของตู้เค่อประกอบไปด้วยนักสู้ฝีมือดีทั่วทั้งแดนบาป
พวกเขาทุกคนภูมิใจจนดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น  แต่พอถูกกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียนข่มไว้ได้  กองพลเกราะเทพเจ้าประกอบไปด้วยกำลังพล 200 คน สามารถครอบงำพวกเขาในแง่พลังต่อสู้  ดังนั้นคนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ  จะทนกล้ำกลืนได้อย่างไร?
พวกเขาเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ต่างจากที่ทุกคนเคยทำเหมือนเมื่อก่อน!
สำหรับอัจฉริยะเหล่านี้ที่เติบโตในสถานที่อบรมขัดเกลา  การฝึกฝนมาตลอดชีวิตของพวกเขาเป็นสถานการณ์ธรรมดา  ในแดนบาปที่โหดร้ายและอำมหิต ผู้คนต้องทุ่มเทชีวิตเพื่อให้อยู่รอด  เทียบกันตรงนี้ การฝึกอย่างบ้าคลั่งหนักหน่วงจะมีอะไร?
พวกเขาทุกคนเก็บงำความไม่พอใจไว้ในใจพวกเขา
นอกจากนี้  พวกเขายังเผชิญหน้ากับทวีปกวงหมิง!
ความเกลียดชังระหว่างแดนบาปและทวีปกวงหมิงทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องมีการสั่งการ  ทั่วทั้งแดนบาปไม่ต้องการถูกควบคุม  ตาของทุกคนแดงเป็นเลือด  ดูเหมือนกองทหารบ้าคลั่งกำลังมีไฟลุกโชนอยู่ในหัวใจพวกเขา
นักสู้แดนบาปทุกคนเหล่านี้ถูกตู้เค่อระดมมาก่อนหน้านั้น  ตู้เค่อสามารถรวบรวมคนได้เท่าใดกันแน่?  ไม่มีใครรู้  แม้แต่ตู้เค่อเองก็ตอบไม่ได้  แต่ทุกคนเห็นว่าครอบครัวตระกูลของนักสู้คนแล้วคนเล่าหลั่งไหลเข้าประตูบาป รวมแล้วคนที่เข้ามาในทวีปรกร้างเกินหมื่นคน
ความจริง ทหารกองทัพแดนบาป ไม่หวังอะไรมากกับนักสู้เหล่านี้
อาวุธของพวกเขาหักพังและชำรุดตั้งแต่แรก  พวกเขามีพลังต่อสู้และพรสวรรค์ปานกลาง  และทหารที่เต็มไปด้วยความภูมิใจเหล่านี้ คนแดนบาปถือว่าเป็นแค่กระสุนมนุษย์
กองทัพแดนบาปเชื่ออย่างหนักแน่นว่าพวกเขาเป็นปัจจัยตัดสินการสู้รบ
ใช่แล้ว พวกเขาเป็นปัจจัยอย่างแท้จริง  พวกเขารับผิดชอบในการโจมตีสุดท้าย
แต่เมื่อพวกเขาเห็นนักสู้ธรรมดาเหล่านี้ทุกคน  คนเหล่านี้ทุกคนที่พวกเขาแทบจะไม่เหลียวมองซ้ำสอง กลับโจมตีอย่างดุดันโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง  การโจมตีของพวกเขาที่ไม่คำนึงถึงผลตามมาทั้งหมดยากจะพบเห็นได้ในแดนบาป  แต่ทุกคนจากคลื่นมหาชนกำลังทำอยู่   ใบหน้าที่กระตือรือร้นของพวกเขา  เสียงคำรามดุดันของพวกเขา  การใช้ร่างของตนเองกระแทกเข้ากับม่านพลังงาน  ตราบใดที่รอยแยกถูกสร้างขึ้นบนม่านพลังป้องกัน  คนนับไม่ถ้วนจะวิ่งกรูกันเข้าไป  แม้เมื่อพวกเขารู้ว่าเข้าไปในม่านพลังงานแล้ว พวกเขาจะต้องตาย
ทุกคนตามหลังกันไปติดๆ
ตกตะลึง  เป็นเรื่องน่าตกตะลึงอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นักสู้ผู้หยิ่งยโสทุกคนในกองทัพแดนบาปตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง!
ทุกคนรู้สึกลมหายใจเริ่มถี่กระชั้น  ตาของพวกเขาแดง ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยล้นเอ่อออกมาจากหัวใจ
มันรู้สึกราวกับว่าพวกเขาทุกคนแบกภาระหนักหน่วงอยู่บนหลังพวกเขา
เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้สึก  ในแดนบาป การฆ่าและการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดเป็นความรู้สึกที่ทุกคนคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
ตรรกะที่ตู้เค่อและพวกที่เหลือพูดถึง  ทุกคนเข้าใจเหมือนกับว่าพวกเขาฉลาด
ความมุ่งมั่นของชาวแดนบาปคืออะไร  ทะเลโลหิตและความเกลียดชังเกิน 300 ปี มันคือความหวังเดียวของแดนบาปที่ถูกทิ้งไว้ที่แดนจองจำนั้น  เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่จะสู้รบเพื่อเอาสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของพวกเขากลับมา
พวกเขาทุกคนเข้าใจเรื่องนั้น
แต่พวกเขาไม่รู้สึกลึกซึ้งเท่ากับพวกที่มองดูเหมือนกับนักสู้ธรรมดา
พวกเขาทุกคนทุ่มชีวิตเข้าสู้!
คนพวกที่พวกเขาเห็นว่าเป็นมดแมลงในแดนบาป  พวกเขาแต่ละคนเสี่ยงชีวิตเข้าต่อสู้ และทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขามี
ทำไมกัน?
ตู้เค่อข่มความความตื่นเต้นที่ครอบงำอยู่เต็มหัวใจของเขา  เขาไม่เคยคาดเลยว่าการสู้รบจะกลับกลายเป็นรุนแรงมาก  เมื่อเขาเดินทางไปที่แดนบาป  เขาเพียงแต่หวังว่าจะให้ผู้คนมาช่วยสนับสนุนการต่อสู้ในทวีปรกร้าง  จำนวนคนที่มาร่วมมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้  และวิธีการที่พวกเขาสู้ก็ทุ่มต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงก็ยังเป็นเรื่องเกินคาด  ไม่มีใครเข้าใจได้ชัดเจนมากกว่าเขา  ในอดีต 300 ปี  ทวีปกวงหมิงได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้กับประชาชนชาวแดนบาป  ในช่วงเวลา 300 ปี ประตูบาปกองไว้ด้วยกระดูกมากมายทำให้พลเมืองแดนบาปสูญเสียความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณต่อสู้
ตู้เค่อรู้เรื่องนั้น และไม่เคยฝากความหวังไว้กับคนอื่น  และทุกอย่างที่เขาทำสืบเนื่องจากเขาไม่เต็มใจ
แต่ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขามีอารมณ์ตื้นตัน
ไม่ใช่แต่เพียงเขาเท่านั้น  ตู้ซินหวี่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน  นางไม่เพียงแค่ตื่นเต้นเพราะทัศนคติที่ไม่เอื้ออำนวยของทุกคน  แต่เป็นความปลาบปลื้มเพราะนางเห็นโอกาสชนะ  นางจัดการและวางแผนทุกอย่าง และในแผนของนาง  นักสู้ธรรมดาเพียงแต่คุ้นชินกับการซ่อนตัวอยู่หลังกองทัพแดนบาป  แต่นางไม่เคยคาดเลยว่านักสู้ธรรมดาจะมีประโยชน์มากกว่าที่นางวางแผนไว้
เมื่อเห็นม่านพลังงานถูกระลอกโจมตีกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง  ตู้ซินหวี่รู้ว่าโอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว!
 โอกาสเอาชนะได้มาถึงแล้ว!’
ตราบใดที่พวกเขาพังทลายม่านพลังของศัตรูได้  จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสชนะได้มาก!  การสู้ระยะใกล้หรือในท่ามกลางความสับสนไม่สำคัญ   ทวีปกวงหมิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่นอน!
นางไม่มีความลังเลและตวาดสุดเสียง  “กลยุทธหมายเลขเก้า!
เกือบทุกคนในกองทัพแดนบาปรู้สึกใจสั่นสะท้าน!
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะต้องใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เริ่มแรก  กลยุทธหมายเลขเก้า เนื่องจากนางเคยเห็นกับตาว่ากองพลเกราะเทพเจ้าใช้กลยุทธหมายเลขเก้าเพื่อพิชิตประตูบาป  ตู้ซินหวี่ได้รับผลกระทบอย่างมาก และตัดสินใจสร้างกลยุทธสำหรับกองทัพแดนบาป!
ตู้เค่อและนางใช้ความพยายามอย่างหนักสร้างท่าไม้ตายออกมาได้  และตู้ซินหวี่ปรับใช้ในชื่อเดียวกัน  กลยุทธหมายเลขเก้า
ในใจนาง กลยุทธหมายเลขเก้าคือกลยุทธที่แข็งแกร่งที่สุด!
ไม่มีใครคาดว่าตู้ซินหวี่จะใช้กลยุทธหมายเลขเก้าตั้งแต่เริ่มต้น  แม้แต่ตู้เค่อก็ยังคาดไม่ถึง  แต่ในกองทัพแดนบาป  ตู้ซินหวี่ถือได้ว่ามีอำนาจมากที่สุด ขนาดที่ตู้เค่อยังต้องฟังคำสั่งจากนาง
ขณะนั้น ตู้เค่อมีแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่  เมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของตู้ซินหวี่  เขาเข้าร่วมเคลื่อนไหวทันที
รัศมีแสงเหมือนทองกระจายจากใต้เท้าของตู้เค่อ ซึ่งแพร่กระจายออกไปในทุกตำแหน่ง คลุมทั้งกองทัพแดนบาปอย่างรวดเร็ว  กองทัพแดนบาปดูเหมือนกำลังยืนอยู่ในของเหลวสีทอง รัศมีสีทองนับไม่ถ้วนฉายออกจากพื้นลำแสงแล้วลำแสงเล่าพันเป็นเกลียวในอากาศ
ก่อตัวเป็นรูปตำหนักสีทองและขณะเดียวกันรังสีนับไม่ถ้วนสร้างอยู่ภายในตำหนัก
บางส่วนกระพริบวาบด้วยแสง  แสงที่เหมือนกล้ามเนื้อพันขึ้นไปตามตำหนักทองเหมือนกับงู  บางส่วนก็สร้างลมด้วยมือของพวกเขา  ดาบสายลมหวีดหวิวและรายล้อมอยู่รอบตำหนัก  บางส่วนก็ปล่อยรัศมีเย็นและขยายเข้าไปในตำหนักทอง...
ทุกๆ คนปลดปล่อยพลังกฎธรรมชาติของเขาระดับสูงสุด!
หลายคนเข้าสู่ดินแดนของผิวกฎธรรมชาตินานแล้ว  และกลายเป็นผู้ทรงพลังมาก
ในครั้งนี้ ตำหนักทองสว่างไสวด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย  ฟ้าแล่บฟ้าผ่าระเบิดสนั่น  พายุลูกเห็บถูกเรียกออกมา และเพลิงรุนแรงอยุ่ในอากาศ
แต่ไม่ว่ารัศมีจะทรงพลังมากเพียงไหน ตำหนักทองตั้งตระหง่านอยู่กับที่เด่นสง่าไม่มีอันตราย  เพราะนั่นคือสนามพลังกฎธรรมชาติของตู้เค่อ
มีคนผู้เดียวที่ได้รับการรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติ  ภายใต้แรงกดดันจากกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียน  ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งที่สุดถึงกฎธรรมชาติของเขา  และด้วยสติปัญญาของตู้ซินหวี่  ขณะที่มียอดฝีมือจากแดนบาปที่ทรงพลังอยู่ด้วยเช่นกัน  พวกเขาจึงสร้างไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา
ตำหนักทองดูเหมือนจะคลุมไปด้วยสีมากมายดูสง่างาม
แสงรัศมีทั้งหมดในท้องฟ้าดูเหมือนจะถูกกลืนหาย  เกิดเป็นฉากหลังที่ดีที่สุด  เสียงคำรามทั้งหมดในสมรภูมิหายไป  เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง  อากาศมีพลังงานซึมเซาและไม่เคลื่อนเป็นกระแส
ความเงียบและความกดดันอย่างไม่เคยมีมาก่อนตรึงอยู่ทั่วสมรภูมิทั้งหมด
ภายในสนามรบที่ยุ่งเหยิง  ทุกคนหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำและมองดูท้องฟ้าอย่างมึนงง  ตำหนักที่หลากสีสัน
ตำหนักชนเข้ากับม่านพลังงานไม่มีเสียง
พิง!!!
เสียงเหมือนแก้วแตกดังขึ้นในใจของทุกคน
ในสายตาคอลลิน  ม่านพลังงานหนาแน่นมากแตกทำลายอย่างสิ้นเชิง
เรียบราวกับป่าช้า
หลังจากนั้น พื้นดินสั่นสะเทือนเสียงคำรามดังออกมา เหมือนเป็นพายุหมุนใหญ่ที่กลืนกินเขาได้อย่างง่ายดาย

8 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

minibull กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

คอลลิน ลาก่อง ...

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ตายไปอีก1 ขอบคุณคับ😄😁🙃

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ คอลลิน ไม่น่ารอด

Unknown กล่าวว่า...

ลาก่อย คอลลิน หมดเวลาตัวปลากรอบ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ และแล้วก็ละลายหายไปอีกกองทัพหนึ่ง

Anny กล่าวว่า...

อลังการ😁💗💗

แสดงความคิดเห็น