วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 877 กลัวและอ่อนแอ


ตอนที่  877  กลัวและอ่อนแอ
ภายในเรือรบรังสีกัมปนาท

ทุกคนกลั้นลมหายใจดวงตาลุกโพลง ราวกับว่าพวกเขากำลังมองเห็นศัตรูที่ทรงพลัง  พวกเขามีประสบการณ์ในการสู้รบมามากมายทุกคน  แต่ขณะนั้นเอง กลับมีอาการกระวนกระวายที่ยากจะเห็นได้  ในอดีตการสู้รบจะทำในลักษณะที่พวกเขาคุ้นเคย ซึ่งแม้แต่ในแดนบาป  กลยุทธที่ไม่คุ้นเคยหลายอย่างก็ยังอยู่ในความเข้าใจของพวกเขา  แต่การรบแบบยุทธนาวี แตกต่างจากวิธีที่พวกเขาเคยสู้รบ  เป็นการสู้รบในวิถีแบบใหม่
ทุกคนฝึกกันอย่างขมขื่นและละเอียดลออ  แต่ก็ยังไม่สามารถลบรอยกังวลในหัวใจของทุกคนได้
ต้องทราบไว้ก่อนว่า เรือรบที่ใหญ่โตอย่างน่าทึ่งนี้เป็นชิ้นส่วนวัสดุที่รวมรวมมาจากกองขยะ  แม้ว่าจะได้รับการตกแต่งสร้างใหม่  แต่มันจะทรงพลังได้ยังไง  แม้แต่เซรีนก็ยังไม่กล้ารับรองอะไรทั้งนั้น
เนี่ยชิวรู้ว่าทุกกองทัพของพวกเขา  ทุกชัยชนะของพวกเขาสามารถส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมอย่างมาก  พวกเขาอยู่ในดินแดนศัตรู  และถ้าพวกเขาประมาทไปแม้แต่น้อย อาจหมายถึงการถูกกำจัด  แต่ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะศึกได้  กำลังคนของศัตรูจะลดลงต่อเนื่องอีก  และความตึงเครียดของกองทัพที่มีอยู่แต่ก่อน  ก็จะหนักมากขึ้นกว่าเดิม
เขาไม่รู้แผนเต็มของถังเทียน  แต่เขาสามารถเห็นได้ว่าแผนการของเจ้านายสำคัญมาก  เขาไม่หวังว่าแผนของเจ้านายจะล้มเหลวเพราะความล้มเหลวของหน่วยสุญญตา  นั่นคือสิ่งที่เขาไม่มีทางยอมรับได้
เพราะเขาไม่มีโอกาสอะไร  เนี่ยชิวจึงออกจากกลุ่มดาวราชสีห์เข้าร่วมใต้ร่มธงของถังเทียน  ถังเทียนเองไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อเขา  แต่กลับเชื่อใจเขาอย่างมาก  ซึ่งเขาก็รู้ว่าไม่ง่ายที่จะทำเช่นนั้น  ทหารจะตายเพื่อผู้ยกย่องเขา  นั่นไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่า
เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดเรื่องนั้น  แต่หน่วยสุญญตาทุกคนก็คิดเหมือนกัน
กำลังหลักของหน่วยสุญญตามาจากเผ่าหมาป่าที่อุทิศตนและมีความจงรักภักดีต่อถังเทียน  พร้อมๆ กับอาโมรี่ หานปิงหนิง ฯลฯ ทุกคนเป็นสหายของถังเทียนตั้งแต่อายุน้อย  พวกเขาทุกคนรู้ชัดเจนว่าศัตรูแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน
นอกจากชนะ  พวกเขาไม่มีทางอื่นให้เลือก
เป็นแรงกดดันที่มองไม่เห็น
ภายใต้การนำของจงหลีไป๋  กองทัพสัตว์ประหลาดสู้รบต่อเนื่องอย่างสวยงาม ทำให้หน่วยสุญญตามีแรงกดดันเช่นกัน  ตอนแรกเมื่อหน่วยสุญญตาเฉิดฉายอยู่ในสมรภูมิ กองทัพสัตว์ประหลาดยังคงเป็นกลุ่มโจร!
โดยไม่คำนึงถึงอะไร  พวกเขาไม่อาจถูกครอบงำโดยผลงานของกองพลสัตว์ประหลาดได้
นี่คือพลังแห่งการแข่งขัน
ขณะนั้น สมาชิกหน่วยสุญญตาภายในเรือเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ตื่นเต้น กังวล เป็นอารมณ์ที่แตกต่างหลากหลาย  แต่การฝึกฝนอย่างรุนแรงทำให้พวกเขายังคงรักษาความมั่นคงได้  พวกเขามองดูเรือรบของศัตรูใกล้เข้ามาทุกที  ขณะที่ภายในเรือรบรังสีกัมปนาท ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย นับว่าเงียบมาก
เหมือนกับความสงบก่อนเกิดพายุ!
ภายในความเงียบงัน ตาของเนี่ยชิวเป็นประกายรัศมี ขณะที่เขาพูดเสียงดัง  “เตรียมตัวรบ!”
วืด.. สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนยืดหลังตรงพร้อมกัน  ตาของพวกเขาเป็นประกายแสงแวววาว  เหมือนพยัคฆ์ร้ายกำลังจะออกจากถ้ำ รังสีฆ่าฟันทะลักออกมาจากตัวเรือทันที
 “โจมตี!”
คำสั่งของเนี่ยชิวเป็นการเปิดฉากการสู้รบ
ทุกคนที่ประจำตำแหน่งรบเปล่งรัศมีสว่าง เหมือนปลาวาฬยักษ์ที่ดำน้ำลึก  ตัวเรือรบรังสีกัมปนาทสว่างเป็นจุดแสงหลายจุดทันที  เรือโบราณนี้หลับใหลมาสองสามศตวรรษ ดูเหมือนจะตื่นขึ้นและอวดเขี้ยวเล็บต่อชาวโลกอีกครั้ง
โดยไม่มีคำเตือน กลุ่มแสงพร่างพรายข้างหน้ากองทัพของโอลิเวอร์สว่างวาบทันที
กลุ่มแสงครอบคลุมทุกซอกมุมสายตาของพวกเขา  แสงสว่างเจิดจ้าทำให้ทุกคนถึงกับตาพร่า
รังสีฆ่าฟันแผ่กระจาย
ผู้บังคับการเรือกลืนเมฆคำรามลั่นเมื่อเขารู้สึกได้ “ศัตรู...”
ก่อนที่เขาจะเปล่งคำว่า “..ลอบโจมตี” ออกมา เสียงของเขาก็ถูกแสงกลืนไปด้วย เหมือนกับว่าเรือรบกลืนเมฆกระทบกับยอดเขา ทั่วทั้งตัวเรือสั่นสะเทือน  พลังรุนแรงทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าชนกับฝูงสัตว์ร้ายจนสูญเสียสมดุลและบินออกทันที
ปัง!
ความเจ็บปวดรุนแรงมาจากด้านหลังของเขา  เขาไม่สามารถขยับเอวได้  เขาไม่รู้ว่าหน้าผากของเขากระแทกกับอะไร  แต่บางอย่างดูเหมือนจะหยดไหลออกมา
 น่าจะเป็นเลือด’
แต่ขณะนั้น  เขาไม่อาจสนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองได้  ความกลัวมากมายท่วมทะลักใจของเขา
 เรือรบชั้นสูงสุด!’
ชื่อนั้นวาบขึ้นมาในใจของเขาเหมือนสายฟ้า ทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว  ใช่แล้ว เรือรบชั้นสูงสุด, เรือรบชั้นสูงสุดแน่นอน  ในชีวิตสิบหกปีที่เป็นผู้บังคับการเรือ  เขาไม่เคยเข้าใจผิด  พลังทำลายล้างที่น่ากลัวมีแต่จะสร้างขึ้นมาจากเรือรบชั้นสูงสุดเท่านั้น
 นี่คือเรือรบชั้นสูงสุดจริงๆ!’
เขารู้ว่าการตัดสินของเขาถูกต้อง  แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของเขาแตกต่างไปจากเดิม  ในการเผชิญหน้ากับเรือรบชั้นสูงสุด  เรือกลืนเมฆเป็นเรือรบขนาดกลาง ไม่มีความสามารถต้านทานได้  ทั้งสองฝ่ายมีระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นพลังรับหรือรุก  เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนแกะที่อยู่ต่อหน้าพยัคฆ์  เขาไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง  และไม่รู้ว่าเขาควรจะหนียังไง  เหมือนกับว่าเขาเห็นฟันแหลมคมที่มีน้ำลายหกปนเลือดออกมา  ความกลัวครอบงำเขาจนทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านยิ่งขึ้น
การเยาะเย้ยและการล้อเลียนทั้งหมดก่อนหน้านั้น เมื่อเผชิญกับพลังยิงที่น่ากลัวก็เท่ากับล้อเล่นกับพระยามัจจุราชชัดๆ
การระเบิดอย่างรุนแรงดังอึกทึกต่อเนื่อง ทั้งมีความเข้มข้น ทำให้รู้สึกเหมือนโดนกระแทกหนักหน่วงจากกระแสลมกระชากรุนแรง  ตัวเรือเป็นเหมือนกระสอบทรายสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ไฟลุกโชติช่วงรุนแรงเหมือนกับดอกไม้แห่งความตาย
อย่างไรก็ตาม ระเบิดไม่สามารถเทียบได้จากการโจมตีของศัตรู ขณะที่ผู้บังคับการเรือของเรือกลืนเมฆเริ่มฟื้นทัศนวิสัยขึ้นมาบ้าง
เมื่อเขาเห็นภาพที่อยู่ต่อหน้า  เขามีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังตกนรก เขาตะลึงทันที
หัวเรือกลืนเมฆหายไปทั้งหมดไม่เหลือ และพายุทำให้เกิดกระแสย้อนกลับ ทำให้เปลวเพลิงที่ด้านหลังของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้น เสียงแตกหักดังขึ้นทุกทีเหมือนกับจะเร่งเพลิงให้แรงขึ้น  ภายในเพลิงได้ยินเสียงแผดเสียงร้องโหยหวน และทหารจำนวนมากโดดลงจากเรือรบ ไม้กระดานที่มอดไหม้เต็มไปด้วยเลือด เรือที่มั่นคงมองเห็นแต่รอยแตกหัก ทำให้ทั่วทั้งเรือดูเป็นสภาพที่น่ากลัว  ข้างหน้าเขาว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง เรือหักทำลายและเขาอยู่ในกลางอากาศ
แค่โจมตีครั้งเดียว แต่เรือกลืนเมฆถูกตัดเป็นสองท่อนทันทีและสูญเสียความสามารถในการต่อสู้
 นี่คือพลังของเรือรบชั้นสูงสุดหรือ?’
เขาก้าวเดินไปได้สองสามก้าว มาถึงไม้กระดานและมองดูสมรภูมิจากรูโหว่
สิ่งที่เขาเห็นก็คือลำแสงหนายิงตรงใส่เรือแสงเหนือและทำลายได้ทันที  สองวินาทีต่อมาเพลิงไม้รุนแรงจากภายในเรือรบ  เพลิงน้ำเงินยิงออกมาจากหน้าต่างทั้งสองด้าน และพวยพุ่งออกมาจากช่องเปิดที่ลำแสงยิงเข้าไป
ผู้บังคับการเรือกลืนเมฆชะงักค้างอยู่กับที่
เขารู้ว่าเพลิงน้ำเงินน่ากลัวมาก เหมือนกับสร้างขึ้นจากระเบิดหินดวงดาวที่สะสมอยู่ในเรือรบ  อุณหภูมิของมันสูงมาก และไม่มีใครสามารถทนความร้อนสูงได้  เมื่อเพลิงน้ำเงินนั้นปรากฏ  ก็หมายความว่าเรือรบจบสิ้นกัน และที่น่ากลัวยิ่งกว่า  ไม่มีใครหลบหนีได้
 ใช่แล้ว เรือกลืนเมฆก็ไม่ต่างจากเรือรบแสงเหนือ
 ข้ายังหลบทันไหม?’  ผู้บังคับการเรือหัวเราะอย่างสุดฝืน  หน้าของเขาที่มีเขม่าปกคลุมเต็มไปด้วยแววสิ้นหวัง
ด้านหลังเรือรบเคิร์ทและกั๊ตหน้าซีดขาว พวกเขาตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
 “เรือรบชั้นสูงสุด...”  เคิร์ทพึมพำ  เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
เรือรบสุดอัปลักษณ์คือเรือรบชั้นสูงสุดจริงๆ!
แต่กั๊ตที่อยู่ข้างเขาเอามือกุมศีรษะ เขาแทบไม่อาจเชื่อสายตาตนเองได้  แต่ลูกเพลิงขนาดใหญ่ทั้งสองลูกเตือนพวกเขาให้รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้าความรุนแรงของพลังโจมตีที่เรือขยะเริ่มก่อนเป็นที่แน่นอนว่าคือเรือรบชั้นสูงสุด!
กั๊ตสูดหายใจหนาวเหน็บสั่นไปทั้งตัว ขณะที่เขาข่มความกลัวในตัวเอง  เขาสงบอารมณ์ตนเองและกล่าว  “ดูเหมือนว่าเราพบกับความยุ่งยากเสียแล้ว”
มีความเงียบที่แปลกชั่วคราวอยู่ในเรือรบ
การเยาะเย้ยทั้งหมดที่ทำต่อเรือขยะทำให้เคิร์ทรู้สึกโง่และอับอาย  เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาต้องกลายเป็นคนโง่  ความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงทำให้เขายอมรับมันชัดเจนขึ้น
ทันใดนั้นกั๊ตตบไหล่ของเขา ทำให้เขาเงยหน้าขณะที่รู้สึกสูญเสีย
กั๊ตพูดเสียงดัง  “อย่าลังเล!  ไม่สำคัญว่าเรือรบชั้นสูงสุดจะทรงพลังขนาดไหน  พวกเขามีเรืออยู่ลำเดียว!  เรายังมีโอกาส!”
เสียงของกั๊ตดังมาก  ทำให้ทั่วทั้งกองเรือรบได้ยินเขา
เคิร์ทสะท้าน  เขาเรียกความรู้สึกกลับมาได้ทันที และตำหนิตนเอง  ข้าทำอะไรอยู่?  ข้าจะสูญเสียกำลังใจที่ข้ามีได้ยังไง?  เขามองดูกั๊ตด้วยความรู้สึกขอบคุณ และพูดเสียงดังเช่นกัน  “ถูกแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะทรงพลังเพียงไหน  พวกเขาก็มีเรือเพียงลำเดียว เรามีเรืออยู่มากมายหลายลำ  ตราบใดที่ทุกคนทุ่มเทกำลัง  เราจะชนะแน่นอน!”
นี่ทำให้ดวงตาของทหารหลายคนเปลี่ยนเป็นสว่างสดใส
พวกเขาตกตะลึงกับพลังโจมตีที่น่ากลัวจากเรือรบชั้นสูงสุด  แต่สองขุนพลกระตุ้นให้พวกเขากระหายชัยชนะ  ใช่แล้ว แม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่ง  แต่เรามีจำนวนมาก
เมื่อขจัดสภาวะผิดหวังได้แล้ว ความคิดของเคิร์ทเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว  “การโจมตีของศัตรูทรงพลังมาก  เราควรจะแบ่งกำลังของเราและกระจายอำนาจในการยิงของศัตรู  เรือรบศัตรูไม่มีม่านพลังงาน  การป้องกันไม่ควรจะเข้มแข็งนัก นั่นจะเป็นโอกาสของเรา”
ทหารอีกหลายคนพยักหน้า  ม่านพลังงานไม่เหมือนอาวุธเรือรบที่สามารถติดตั้งได้ตามใจต้องการ  สำหรับเรือรบลำหนึ่ง วิทยาการป้องกันจะสูงมากกว่าพลังรบ  ม่านพลังงานของเรือรบลำหนึ่งไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยลูกเรือ  แต่กระตุ้นโดยลำเรือ
ที่อยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา  เรือรบรังสีกัมปนาทเกินกว่าที่พวกเขาจะยอมรับได้  มันถูกเปลี่ยนจนดูยุ่งเหยิงไปหมด  ลำเรือเสียหายอย่างมาก  และม่านพลังงานก็ไม่สามารถใช้ได้  นี่คือเหตุผลที่หลังจากจอดนิ่งที่สุสานเรือรบมาเป็นเวลาหลายปี จึงไม่มีใครตั้งใจจะเอาเรือรบรังสีกัมปนาทมาใช้
เมื่อมันถูกตกแต่งสร้างใหม่ ม่านพลังงานดั้งเดิมก็ต้องถูกทำลาย  และเพราะเรือรบรังสีกัมปนาทซึ่งตัวลำเรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะนำมาตกแต่งสร้างใหม่
พวกเขามีเรือรบที่ไม่มีม่านพลังป้องกัน  แม้ว่าพวกเขาจะมีหลายร้อยวิธีเพื่อสร้างรอบลำเรือ  แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างม่านพลังป้องกันได้สมบูรณ์แบบ
สำหรับเรือรบลำใดๆ ม่านพลังป้องกันสำคัญมากกว่าอาวุธเรือรบเสียอีก  เรือรบที่ไม่มีม่านพลังป้องกัน โอกาสรอดเป็นศูนย์ และไม่มีประโยชน์ใดๆ ในทางปฏิบัติ
ถุงขยะที่ห้อยอยู่รอบลำเรือแกว่งไกวอยู่ในอากาศ  แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ภายใน  แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าของที่ห้อยอย่างนุ่มนวลนอกเรือนั้น จะมีความสามารถในการป้องกันเรือ
 “เมื่อเราแยกกัน  เราจะเดินหน้าทั้งหมดใช้ความเร็วเต็มที่เข้าหาศัตรูจากทิศทางของเรา  ตราบใดที่หนึ่งในเรือรบสมารถเข้าไปในแนวยิงได้  พวกเขาจะจบสิ้นกัน!”
เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้าย เคิร์ทใช้หมัดทุบ สีหน้าของเขาน่ากลัว
ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น  หน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน  กั๊ตรู้สึกเลือดลมเดือดพล่าน ความตั้งใจต่อสู้ลุกฮืออยู่ในใจ  เขาชูแขนตะโกนลั่น  “ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ทุกคนตะโกนพร้อมกัน  “ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ตาของเคิร์ทเป็นประกายเยือกเย็น  การต่อสู้เพิ่งเริ่ม!’

8 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

งงอ๊ะจะทำไม? กล่าวว่า...

ฮ่า หายไปอย่างเร็วอะ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

นึกถึง id4 เดี๋ยวเจอม่านเอเลี่ยนยิงมาเถอะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Kino กล่าวว่า...

เดี๋ยวก็รู้ใครหมู่ใครจ่า 555

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ผมว่าพี่ถังเอาปืนซ่อนไว้หลังถุงพลาสติกอ่ะ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ💗💗

แสดงความคิดเห็น