วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 878 เรือรบไร้เทียมทาน


ตอนที่  878  เรือรบไร้เทียมทาน
ความสนใจของเนี่ยชิวไม่เคยหย่อนยาน เขาเกิดมาตาบอด แต่มีสัมผัสความรู้สึกที่คมชัด  ความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงของพลังเล็กน้อยเขาสามารถรับรู้ได้  สำหรับเขา โลกมืดไม่เคยหม่นหมอง  เป็นที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความลึกลับนับไม่ถ้วน

มันคือโลกของเขา
เมื่อเรือรบศัตรูแยกกันออกไปเหมือนนก  เขาเข้าใจทันทีว่าขุนพลฝ่ายศัตรูพยายามจะทำอะไร
 “ระวังให้ดี  ศัตรูต้องการสู้ระยะประชิดกับเรา”  เนี่ยชิวเตือน  “หลังจากศัตรูแยกกำลังกันประจำที่แล้ว พวกเขาจะโจมตีเราจากทุกตำแหน่ง!"
 “เข้าใจแล้ว”  หานปิงหนิงตอบรับโดยตรง
อาโมรี่แค่นเสียง  “พวกเขาดูถูกพลังรุกของเราจริงๆ”
คนอื่นๆ ก็แค่นเสียงว่าเช่นกัน  ในช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ในการฝึกฝน  พวกเขาคุ้นเคยมากกับพลังรุกของเรือรบรังสีกัมปนาท  ถ้าจะกล่าวกันว่าระบบป้องกันที่เซรีนและลั่วซือสร้างขึ้นมาไม่น่าเชื่อถือ  อย่างนั้นระบบรุกที่พวกเขาทำย่อมคุ้มค่าอย่างแน่นอน  และมันแข็งแกร่งมาก  ทวีปซางโจวพัฒนาอาวุธเรือรบนั่นผ่านการทดสอบมาแล้ว  นอกจากนี้โลหะพิเศษที่ปรับสร้างขึ้นโดยเมืองสามวิญญาณ  และสมบัติดวงดาวที่ใช้กับอาวุธเรือรบ เป็นระดับที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน
แม้แต่ช่างฝีมือท้องถิ่นของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังรู้สึกกลัวไม่กล้าวิจารณ์อาวุธเรือรบที่ทรงพลัง
หลังจากผ่านการฝึกฝนขัดเกลาในแดนบาป  หน่วยสุญญตามีประสบการณ์การสู้รบอย่างทหารบก  แม้ว่าพวกเขาจะกังวลเนื่องจากวิถีการต่อสู้แบบใหม่  แต่ลูกไฟสองลูกที่ยิงทำลายเรือรบศัตรูสองลำทำให้พวกเขารู้สึกตัว    นี่คือความแตกต่างระหว่างทหารผ่านศึกกับทหารเกณฑ์ใหม่  ทหารผ่านศึกแข็งแกร่งมีความสามารถประเมินตนเองได้ เข้าใจคุณภาพของสภาพจิตใจในการสู้รบ
 “ตอนนี้เราจะเริ่มแบ่งเป้าหมายกัน”  เนี่ยชิวพูดอย่างรวดเร็ว
ทุกคนที่หยอกล้อและหัวเราะกันกระจายหายไปทันที  เรือรบเงียบสงัด แม้แต่เข็มตกก็ยังได้ยิน  เนี่ยชิวไม่พูดเสียงดัง  แต่เสียงของเขาสามารถได้ยินชัดเจนในทุกมุม
ทุกคนสลายยิ้มและเพ่งมองอย่างจริงจัง  เนื่องจากพวกเขาจำงานของตนเองได้
เนี่ยชิวลอยตัวอยู่ในกลางอากาศในท่านั่งขัดสมาธิ  ตากลวงของเขาน่ากลัวดูเหมือนจะสามารถสังเกตการสมรภูมิจากที่ไกลได้  รังสีฆ่าฟันที่มองไม่เห็นเริ่มแผ่ขยายออกมาจากภายในเรือรบรังสีกัมปนาท ขณะที่อุณหภูมิเริ่มต่ำลง
หน้าของหานปิงหนิงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง นางควบคุมเรือรบอย่างใจเย็น  กระบี่แสงสีน้ำเงิน 36 สายลอยอยู่รอบตัวนาง  เหมือนฝูงปลาสีน้ำเงิน  นี่คืออาวุธเรือรบที่เซรีนออกแบบให้นางโดยเฉพาะกระบี่มังกรยะเยือก
อาโมรี่มีท่าทางกระตือรือร้น  ร่างของเขาโน้มไปข้างหน้า แขนทั้งสองข้างปล่อยห้อยลง  แม้ว่าจะไม่มีอะไรในมือ แต่เขาดูเหมือนกับว่าเขากำลังถือดาบเล่มใหญ่  บนหลังของเขาเป็นแสงผนึกสีแดงคล้ายกับกรงเล็บหมีที่กระพริบอยู่เรื่อย  นี่คืออาวุธอีกชิ้นหนึ่งที่เซรีนสร้างให้เขาเป็นพิเศษ ดาบปีศาจหมีใหญ่
ทั้งสองคนเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหน่วยสุญญตา ถึงขั้นที่พวกเขาสามารถอาศัยกำลังของพวกเขาเองควบคุมอาวุธเรือรบ  เพราะเพื่อประโยชน์ในการปลดปล่อยความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขา เซรีนจึงทุ่มเทความคิดและความสามารถกับอาวุธเรือรบทั้งสอง  องค์ประกอบหลักกระบี่มังกรน้ำแข็งเป็นสมบัติระดับทองจากกลุ่มดาวมังกร กระบี่มังกร ขณะที่องค์ประกอบหลักของดาบปีศาจหมีใหญ่ก็เป็นสมบัติดวงดาวระดับทองจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ซึ่งก็คือขวานเล็บหมี
อาวุธเรือรบทั้งสองไม่ใช่มีความหมายอย่างอาวุธเรือรบธรรมดาต่อไป ไม่เพียงแต่เซรีนใช้องค์ประกอบหลักเป็นสมบัติชั้นทอง  แต่ยังเพิ่มสมบัติวิญญาณปรับแต่งเข้าไปด้วย  จึงทำให้น่ากลัวมาก  ด้วยพลังที่เกินกว่าใครจะคาดคิด จุดอ่อนประการเดียวก็คือไม่สามารถลดพลังโจมตีได้ ทำให้หานปิงหนิงและอาโมรี่กลัวการใช้เต็มกำลังในเวลาฝึก
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถปลดปล่อยทุกอย่างในสมรภูมิได้  อาโมรี่รู้สึกเหมือนกับว่าเขาท่วมท้นไปด้วยพลัง  ถ้าเป็นในอดีต เขาคงตื่นเต้นแหงนหน้าโห่ร้อง อยากจะทะยานออกไปต่อสู้ใจจะขาด  แต่หลังจากผ่านการฝึกฝนในกองทัพมายาวนาน  เขาไม่ได้เอาแต่ใจหรือใจร้อนเหมือนในอดีต  เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ในที่สุด
เขากำลังรอคำสั่ง
ทุกๆ รายละเอียดเล็กน้อยในสนามรบสะท้อนอยู่ในใจของเนี่ยชิวเหมือนกับน้ำใสในทะเลสาบ  เมื่อเรือรบลำแรกเข้ามาในวิถียิง  เขาไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย  เพียงแต่หลังจากเรือรบลำที่สี่เข้ามาในแนวยิงของเรือรบรังสีกัมปนาท  เขาเงยหน้า เสียงของเขาเยือกเย็นมากเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันกึกก้องไปทั้งเรือ เหมือนกับสายฟ้าผ่าทั้งลำเรือ
 “ฆ่า!
สมาชิกหน่วยสุญญตาทั้งหมดผู้สะสมพลังรอ ลงมือโดยไม่ลังเล
คนแรกที่เคลื่อนไหวก็คืออาโมรี่  ผนึกแสงกรงเล็บหมีสีแดงข้างหลังเขาสว่าง และแสงสีแดงนับไม่ถ้วนคลุมทั่วตัวของเขา  แสงสีแดงเหมือนงูแดงตัวเล็กที่พลิกตัวร่วงจากตัวเขาลงบนฝ่ามือของเขา  ฝ่ามือของอาโมรี่อยู่ในท่าเหมือนกับว่าเขากำลังถืออะไรบางอย่างที่เริ่มเรืองแสง ตาของเขาจ้องมอง  กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างของเขาเริ่มตึง  ขณะที่เขาฟันมือลงทันทีด้วยฝ่ามือที่เรืองแสงสีแดง
ดาบมารพิฆาต!
ดาบแสงสีแดงยิงออกไปทันที
ก่อนที่ดาบแสงสีแดงจะบินออกจากเรือรบ  รัศมีแสงระเบิดจากใต้เท้าของอาโมรี่เหมือนกับว่ามันพยายามจะกลืนเขา
แสงสีแดงฉานขยายเป็น 10 เท่าทันที  ภายในรังสีแดง จะมีร่างเงาปีศาจร้ายร่างหนึ่ง ปีศาจร้ายย่างเท้าไปข้างหน้า  ก่อนที่มันจะย่างเท้าครบก้าว มันหายไปในทันที
เรือรบลำหนึ่งห่างออกไปสิบลี้มีแสงแพรวพราวทันที  ขณะที่รังสีแดงฉานระเบิดขึ้นข้างหน้าพวกเขาโดยไม่มีเค้าลาง
แสงสีแดงจำนวนมากไม่มีที่สุดทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในทะเลเลือด
 นั่นมันพลังโจมตีอะไร?
ทหารบนเรือรบทุกคนถูกความตกใจครอบงำ  ก่อนที่พวกเขาจะทันตั้งตัว เรือรบใต้เท้าของเขาก็สั่นอย่างรุนแรง  เหมือนกับว่าพวกเขาชนกับภูเขา  พลังที่รุนแรงถูกส่งเข้ามาทำให้เรือพวกเขาสูญเสียการควบคุมลำเรือและปลิวออกไปร่วงลงพื้นและกลิ้งไปทั้งหมด
 “หนักแน่นเข้าไว้!  ผู้บังคับการเรือรู้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์อันตราย จึงคำรามเสียงดังลั่น เศษเรือแตกกระทบที่หน้าผากของเขา ทำให้เลือดไหลนองเต็มหน้าเขา ทำให้เขามองดูน่ากลัว
ทหารที่แข็งแกร่งสองสามคนไม่สนใจความเจ็บปวดของตนเอง และพยายามคลานกลับขึ้นมา
ผู้บังคับการเรือเช็ดเลือดที่หน้าและร้องตะโกน “ม่านพลังงาน!   เปิดการทำงานของม่านพลังงานเดี๋ยวนี้!
ทหารคนหนึ่งมีสีหน้าแตกตื่นขณะที่เขาตอบด้วยเสียงสั่นสะท้าน  “ม่านพลังงาน.... ม่านพลังงานมีรอยแตก....”
 “ซวยแล้ว!  ผู้บังคับการเรือสบถ  หน้าของเขามีความหวาดผวา  แค่โจมตีเพียงครั้งเดียวแต่ม่านพลังก็มีรอยแตกเสียแล้ว  นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่เผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้น
 เรือรบชั้นสูงสุด... นี่คือพลังของเรือรบชั้นสูงสุดหรือ?
 พลังโจมตีของมันน่ากลัวเกินไป...
ผู้บังคับการเรือไม่รู้ว่าพวกเขาพวกเขาสามารถเดินหน้าได้ต่อไป  แต่ขณะนั้นเอง แม้แต่ความลังเลเล็กน้อยมีแต่จะเร่งให้พวกเขาตายเร็วขึ้น
 “แล่นเข้าไป!  เร่งความเร็ว!  อย่าหยุด!
ผู้บังคับการเรือคำรามลั่นทั้งลำเรือได้ยินกันทั่ว  ทหารทั้งหมดหน้าซีดขาวและตัวสั่นตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  พวกเขาเข้าไปในรัศมียิงของศัตรูแล้ว  และเป็นเหมือนกับแกะที่รอถูกเชือด  แล้วพวกเขาจะมีพลังตอบโต้ได้ยังไง  พวกเขาได้แต่ภาวนาในใจ  ภาวนาว่าพวกเขาจะสามารถผ่านช่วงนี้ไปได้
เสียงระเบิดด้านนอกดังต่อเนื่อง เข้มข้นหนาแน่นจนทำให้หัวใจทุกคนเต้นสะท้านเร็ว
ผู้บังคับการเรือผู้กล้าหาญมองดูด้านนอกหน้าต่างของเขา และสิ่งที่เขาเห็น เขาจะไม่ลืมไปชั่วชีวิต
ปัง!
เสียงที่เกิดจากการยิงสิบครั้งซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นเสียงที่ทุ้มต่ำแหวกอากาศ เหมือนกับคนใช้ค้อนยักษ์หวดใส่หัวใจทุกคน  หน้าของผู้บังคับการเรือตกตะลึง เขาสั่นและสีหน้าว่างเปล่า  เขามองดูแสงสิบสายถูกยิงออกมาจากเรือรบของศัตรูอย่างมึนงง  ประกายเพลิงแปลบปลาบสีแดงเหมือนกับดอกไม้แห่งความตาย  เรือรบขนาดเล็กปะทะกับพลังยิงโดยตรง  และก่อนที่ซากหักพังของเรือรบจะสามารถบินออกไปได้  พวกมันก็ถูกเปลวเพลิงกลืนทั้งลำ
ผู้บังคับการเรือไม่เคยเห็นฉากภาพที่น่ากลัวอย่างนั้นมาก่อน  หน้าของเขาซีดขาวยิ่งกว่ากระดาษ
 เรือรบชั้นสูงสุด...  สายตาของเขาหันไปมองเรือรบรังสีกัมปนาท
แสงรังสีนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากเรือรบรังสีกัมปนาท  ดูเหมือนกับเม่นที่ปกคลุมด้วยหนามแสง
กั๊ตและเคิร์ทมีสีหน้าเหมือนกัน  ถ้าจะบอกว่าเรือกลืนเมฆและเรือแสงเหนือที่ถูกทำลายเป็นการพิสูจน์ว่าเรือรบรังสีกัมนาทมีพลังโจมตีของเรือรบชั้นสูงสุดอย่างแท้จริง  อย่างนั้นพวกเขาได้พบกับตัวเองว่า มันทำให้พวกเขารู้ว่าเข้าใจผิดไปมากมายเพียงไหน
 พลังโจมตีของเรือรบชั้นสูงสุด?  ไม่!’
แม้ว่าเคิร์ทและกั๊ตจะไม่เคยทำหน้าที่บนเรือรบชั้นสูงสุดมาก่อน  แต่พวกเขายังมีความรู้เรื่องพลังโจมตีของมัน  เนื่องจากพวกเขาเคยเห็นพลังโจมตีของเรือรบชั้นสูงสุดมาแล้ว  แต่มันไม่อาจเทียบได้กับสิ่งที่พวกเขาเห็นประจักษ์อยู่ข้างหน้านี้เลย
ฝนแสง  วลีนี้ถูกนำมาใช้อธิบายถึงความรุนแรงของการโจมตีถี่  แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เห็นเรือรบรังสีกัมปนาทจึงจะรับรู้ความหมายที่แท้จริงของฝนแสง
มันบ้ามาก
สมรภูมิคลุมเต็มไปด้วยฝนแสงถึงขั้นที่เขาไม่สามารถเห็นเรือรบฝ่ายเขาได้   เห็นได้แต่แสงที่ระดมยิงเป็นสายฝน ไม่ จะเรียกว่าฝนแสงอีกต่อไปไม่ได้ นั่นทะเลแสง
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สามารถจินตนาการได้ก็คือพลังโจมตีที่น่ากลัวอย่างแท้จริง มาจากเรือลำเดียว  นั่นคือเหตุผลให้เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรือรบที่มีพลังโจมตีระดับชั้นสูงสุดอีกต่อไป  เพราะไม่มีเรือรบระดับสูงสุดลำไหนสามารถยิงพลังที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาได้
 ไม่มีอย่างแน่นอน!’
 นี่ขัดกับมาตรฐานทั่วไปจริงๆ!’
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเพิ่มจำนวนตำแหน่งประจำการรบและอาวุธเรือรบบนเรือ  แต่ไม่เคยมีใครทำอย่างนั้นมาก่อน
เพราะทหารไม่สามารถทนรับพลังได้
อาวุธเรือรบนั้นแข็งแกร่ง  ยิ่งสะสมพลังหนักเกินไป ภาระหนักจะไปตกอยู่ที่ทหาร ไม่ใช่ว่าไม่มีอาวุธเรือรบที่แข็งแกร่ง  แต่พลังงานที่สะสม ทหารสามารถรับได้สูงจนถึงจุดที่มันสามารถทำร้ายทหารผู้ใช้อาวุธจนบาดเจ็บไม่อาจกอบกู้ได้
แต่เรือรบลำนี้พลิกคว่ำองค์ความรู้ของเคิร์ท
พลังโจมตีของศัตรูทรงพลังเกินไป จากเท่าที่ดูเขาคาดว่าพวกเขาต้องมีทหารนับไม่ถ้วนที่สามารถทำเช่นนั้นได้  อาวุธเรือรบระดับนั้น ปกติจะสร้างจากอาวุธเรือรบใหญ่  แต่พลังโจมตีทั้งหมดที่มาจากเรือรบรังสีกัมปนาทนั้นทรงพลังจริงๆ
 พวกเขาจะต้องใช้ทหารเท่าใดกันแน่!  ต้องเป็นจำนวนที่น่าประหลาดแน่
 แต่ต่อให้เราใช้เรือรบชั้นสูงสุด เนื่องจากเป็นเรือรบมหึมา  ไม่น่าจะพอดีกับคนขนาดนั้น
และสิ่งที่ทำให้เคิร์ทรู้สึกสิ้นหวังยิ่งขึ้นก็คือความถี่ของการโจมตีเรือของศัตรู ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
เหมือนกับว่าพวกเขาไม่มีการหยุด  พลังโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่าไม่รู้จักเหนื่อยล้า
 พวกเขาไม่รู้ว่าอาวุธเรือรบจะสร้างพลังงานที่สะท้อนใส่ทหารหรือ?
เคิร์ทรู้สึกงุนงงเหมือนอยู่ในดินแดนความฝัน  เขาไม่เคยเห็นอาวุธเรือรบแบบนั้นมาก่อน  เขาไม่เคยเห็นการโจมตีถี่ๆ แบบนั้นมาก่อน และไม่เคยเห็นทะเลแสงแบบนั้น
 หวังว่านี่จะเป็นแค่ความฝัน
 “ไป ไป ไป!” กั๊ตเหมือนสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งน่ากลัว ที่ฝืนตัวเองอย่างสิ้นหวัง  เขาคำรามลั่น  “นั่นคือไม้ตายของศัตรู  ไม้ตายของพวกเขา!  พวกเขาต้องมีจุดอ่อน!  เรือรบทุกลำมีจุดอ่อนทั้งนั้น! ลุยเข้าไป, ลุยจนกว่าเราชนะ!
เรือรบทุกลำเดินหน้าอย่างบ้าคลั่ง เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ  พวกเขาบุกเข้าไปในทะเลแสง

9 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นั่นมันน กล่าวว่า...

พลังไม่มีหมด+ปืนไม่แตก 555

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เข้าไปให้ทดลองพลังอีกแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

SaMiiz กล่าวว่า...

บ้ายบายยยย หนูทดลองงง

แสดงความคิดเห็น