ตอนที่ 888 สูญเสียทรัพยากร
ถังเทียนพุ่งเข้าไปในใต้เรือรบไร้เทียมทาน
และเกาะติดกับผิวเรือ
เขามาถึงที่ด้านข้างเรือ
เมื่อถังเทียนลอยตัวขึ้นมา เขาจึงได้รู้ว่าไม่มีใครอยู่เลย
และไม่มีทหารปรากฏอยู่เลยสักคน เขาส่ายหน้า ‘เรือรบชั้นทองนี้เสียของจริงๆ
เมื่ออยู่ในเมือของกลุ่มการค้าอลิซาเบธ’
เขามีทหารมากมาอยู่ใต้บัญชาการเขา
แต่เขากล้ารับรองว่าจะไม่มีใครในพวกเขาเข้าร่วมสนุกต่อสู้ตะลุมบอนโดยไม่รู้จักตื่นตัวแบบพื้นฐานแน่
รายละเอียดเล็กๆ ดังกล่าวแสดงให้เห็นแนวโน้มทั่วไป และในใจถัเงทียน
พลังในการต่อสู้ของกองทัพของกลุ่มการค้าอลิซาเบธตกลงไป
การตัดสินของถังเทียนจะมากหรือน้อยก็ตาม แต่เขาไม่รู้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ธรรมดามากในทวีปกวงหมิง กองทัพของทวีปกวงหมิงเชี่ยวชาญในการสู้รบถือว่ายกระดับผ่านแผนการระยะยาว ก่อนที่จะยกทัพลงภูมิภาคใต้ แม้ว่าจะไม่มีการสู้รบขนาดใหญ่
แต่ก็ยังมีการสู้รบขนาดเล็กเกิดขึ้น
นอกจากนี้ความสนใจในการพัฒนาของวิหารกวงหมิง กองทัพของวิหารฯ จึงมีพลังแข็งแกร่งมาก
แต่กองทัพของกลุ่มการค้ามีภาพแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ความปลอดภัยในทวีปกวงหมิงต้องกล่าวกันว่าดีที่สุดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจก็ดีที่สุด ด้วยความคงอยู่ของวิหาร
การสู้รบและการต่อสู้ระหว่างกลุ่มการค้าจึงถูกควบคุม
ดังนั้นกองทัพของกลุ่มองค์กรการค้าโดยปกติแล้วจะด้อยประสบการณ์
พวกเขารับพวกขุนพลแม่ทัพทหารที่เกษียณจากกองทัพของวิหาร แม่ทัพนายกองที่โดดเด่นเหล่านี้ทั้งหมดสามารถนำเอามาตรฐานที่ดีมาช่วยฝึกฝนและออกแบบกลยุทธที่โดดเด่น
แต่แม้แต่แม่ทัพนายกองทหารก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในเรื่องขาดโอกาสในการสู้รบจริง
เนื่องจากจำนวนของโจรและขโมยในทวีปกวงหมิงถือได้ว่าน้อยมาก
การขาดประสบการณ์ในการต่อสู้จริงกลายเป็นปัญหาทั่วไปสำหรับกองทัพขององค์กรการค้าในทวีปกวงหมิง ทุกคนรู้ปัญหานี้ แต่ไม่มีใครคิดจริงจัง ความจริงก็เห็นได้ชัดและทุกคนก็อยู่กับมัน
ไม่มีใครคิดว่าสงครามจะมาถึงอย่างรวดเร็ว และไม่มีใครมีความคิดว่าสงครามจะส่งผลต่อพวกเขาโดยตรง
แต่กลุ่มการค้าส่วนใหญ่จะถูกคาดหวัง
และตื่นเต้นต่อการการลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์
แผนของิหารและความทะเยอทะยานไม่ใช่ความลับต่อตระกูลชั้นสูงเหล่านี้
พวกเขาเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าวิหารจะได้ชัยชนะสุดท้าย
และมักจะคาดหวังเช่นนั้นเพราะต้องการจะได้ส่วนหนึ่งของผลประโยชน์ มันคือความมั่งคั่งมหาศาลที่แม้มีแค่ส่วนหนึ่งก็สามารถสร้างสุดยอดเส้นทางการค้าได้
แต่ความแข็งแกร่งของวิหารไม่เหลืองานคั่งค้างอะไรไว้ให้พวกเขาแม้แต่ปลายเล็บ ในทวีปกวงหมิงไม่มีใครกล้าต่อต้านวิหาร
ถึงขนาดที่ตระกูลชั้นสูงยังไม่กล้าแม้แต่จะก่อตั้งความเป็นพันธมิตร
แต่ด้วยการลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์
เป็นการส่งสัญญาณและโอกาสที่ตระกูลระดับสูงโหยหามาทั้งวันและทั้งคืน และตระกูลต่างๆ
ทั้งหมดต่างเคลื่อนไหวด้วยความตื่นเต้น
เป็นโอกาสลงทุนที่หายากมาก!
เพียงแต่เวลาเดียวที่เหมาะกับโอกาสนี้ก็คือเมื่อทวีปกวงหมิงเริ่มสงครามใหญ่เพื่อผนวกดินแดนทวีปอื่น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว
ตระกูลชั้นหนึ่งทั้งหลายถูกสร้างขึ้นมาจากสงครามไม่ใช่หรือ?
ตระกูลชั้นหนึ่งทั้งหมดในทวีปกวงหมิงถูกสร้างขึ้นมาในแนวทางเดียวกันผ่านการทำสงคราม
พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงเมื่อโอกาสเช่นนั้นมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา?
No one dared to seize the gains of victories from Temple,
they only wanted to partake in the banquet of wealth.
สำหรับพวกเขา การลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงการส่งสัญญาณที่วิหารเผชิญพบชั่วคราว
ไม่มีใครรู้ชัดกว่าพวกเขาถึงพลังประหลาดของวิหาร
และพวกเขาทั้งหมดรู้ว่าวิหารสั่งสมความมั่งคั่งมาอย่างลึกล้ำเพียงไหน วิหารจะแพ้?
นั่นเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์
คนที่ส่งเสียงแสดงความเห็นว่าวิหารจะไม่มีทางยอมแพ้ได้ง่ายๆ
วิหารในปัจจุบันนี้แข็งแกร่งกว่าวิหารในอดีตหลายเท่า!
ไม่มีใครกล้าชิงเอาชัยชนะไปจากวิหารได้
พวกเขาเพียงแต่ต้องการส่วนแบ่งผลประโยชน์ในการจัดเลี้ยงความมั่งคั่ง
บางคนเห็นไกลกว่านั้นว่า ถ้าพวกเขาพิชิตสวรรค์วิถีได้
อย่างนั้นการรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็คงอยู่ในอนาคตอันใกล้ไม่ใช่หรือ?
ความร่ำรวยและสภาพแวดล้อมที่ดีด้วยสายตาที่มองการณ์ไกลนี้ทำให้ทุกคนดีใจ พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในการรบ กองทัพที่พวกเขาใช้จ่ายเงินสร้างขึ้นมาจะไม่มีส่วนร่วมได้ยัไง?
“ดังนั้นแล้วไงถ้ากองทัพของเราอ่อนประสบการณ์? ด้วยการมีส่วนร่วมในการสู้รบ ประสบการณ์ของพวกเขาจะมาเองโดยธรรมชาติ
กลุ่มการค้าอลิซาเบธก็มีความคิดเหมือนกับพวกเขา แม้ว่าจะขาดประสบการณ์ไปบ้าง
แต่ด้วยเรือรบไร้เทียมทาน การป้องกันรักษาตัวเองย่อมไม่เป็นปัญหา ถ้าพวกเขาเผชิญกับอันตราย เมื่อเวลาผ่านไปและด้วยประสบการณ์ที่พานพบ ความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ
กลุ่มการค้าอลิซาเบธคงไม่มีทางคาดได้ว่าพวกเขาจะเผชิญพบกับถังเทียน
สมาชิกลูกเรือบนเรือไปออรวมตัวกันอยู่ที่เรือข้างเดียวและสังเกตดูการต่อสู้ ขณะที่อีกด้านหนึ่งว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเมื่อถังเทียนขึ้นเรือ
ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลย
เป็นความหละหลวมเกินไปที่ถังเทียนเองยังทนไม่ได้
ม่านพลังงานของเรือรบไร้เทียมทานยังไม่เปิดใช้งาน
บางทีกับเรือสินค้าของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามก็ได้ แต่โชคดีสำหรับถังเทียน
ที่ม่านพลังงานไม่ได้เปิดใช้งาน
มิฉะนั้นคงเป็นปัญหาสำหรับเขาเมื่อเวลาที่เขาขึ้นมาบนเรือ แม้ว่าถังเทียนจะมีพลังแข็งแกร่ง
แต่ก็ยังเป็นงานยากที่จะใช้พลังส่วนตัวผ่านเข้าไปในม่านพลังงานเรือรบชั้นทองได้
คนเดียวที่ถังเทียนมองหาก็คือคลอเดีย
นางดูเด่นเกินไปในขณะที่ทุกคนกำลังร่วมมือกัน มีเพียงคลอเดียที่อยู่คนเดียว แฮงค์และกลุ่มของเขาร่วมกำลังกันต่อสู้
ขณะที่องครักษ์อื่นไม่กล้าเข้ามาใกล้คลอเดีย เนื่องจากคลอเดียไม่พอใจกับการรวมกลุ่ม
เกี่ยวกับความปลอดภัย
‘เราอยู่ในเรือรบไร้เทียมทาน ทำไมต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วยเล่า? นอกจากนี้ยังมีคนบนเรืออยู่มากมาย ยังจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก?’ ไมมีใครกล้าขัดใจต่อหน้าคลอเดีย นอกจากนั้นอารมณ์ของคลอเดียยังไม่ดี
และด้วยความโกรธจัดจากความอับอายที่นางได้รับไม่มีใครอยากเป็นแพะรับบาป
ถังเทียนสังเกตได้ทันทีว่าคลอเดียชะงักนิ่งและจากนั้นหันไปมองรอบๆ
และตระหนักได้ทันทีว่าคลอเดียรู้ว่าเขาหายไปแล้วและกำลังมองหาเขา
ถังเทียนลงมือทันทีโดยไม่ลังเล ความลังเลใดๆ ในช่วงเวลาที่วิกฤติอย่างนั้นจะนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด และถ้าคลอเดียรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
และเข้าไปอยู่ในความปกป้องขององครักษ์นางทันที
ถังเทียนคงจะตกอยู่ในความยุ่งยาก
แต่ถังเทียนก็ประเมินคลอเดียต่ำไปอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อคลอเดียตระหนักได้ว่าถังเทียนไม่อยู่ในห่วงต้องห้าม
ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือว่า ถังเทียนหลบไปได้และไม่เคยคิดมาก่อนว่าถังเทียนไม่เพียงแค่หลบไปได้เท่านั้น
แต่ยังลอบขึ้นเรือและเล็งเป้าหมายอยู่ที่ตัวนาง
ทันใดนั้นตัวนางรู้สึกว่าหายใจไม่ออกและตัวลอยจากพื้น
ท้องฟ้าในสายตานางหมุนคว้างเนื่องจากเรี่ยวแรงที่ทรงพลังบีบรัดจนนางหายใจไม่ออก ดวงตาของนางกลอกกลับไปข้างหลัง
นางตะลึงอย่างสิ้นเชิงขณะที่ความคิดของนางว่างเปล่า
นางรู้สึกตัวกลับมาหลังจากไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปเท่าใด ‘ข้าถูกลอบทำร้ายจริงๆ...’
มือที่บีบรัดรอบลำคอนางรู้สึกเหมือนกับเป็นปลอกเหล็ก คลอเดียรู้สึกว่านางหายใจไม่ออก ความกลัวท่วมไปทั้งตัวนาง
ทำให้นางสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด
‘ข้ากำลังจะตาย...’
นางต้องการกรีดร้อง
แต่ลำคอนางถูกกำไว้แน่นป้องกันไม่ให้นางส่งเสียง นางหวาดกลัวมากจนสั่นไปทั้งตัวและจากนั้นจึงได้ตระหนักว่าความสวยที่นางภูมิใจ
ครอบครัวที่น่าภูมิใจซึ่งคอยหนุนหลังล้วนไร้ประโยชน์ทั้งหมด นางไม่กล้าต่อสู้ดิ้นรนด้วยกลัวว่าบุรุษผู้นี้จะหักคอนางเอง
องครักษ์บนเรือเพิ่งจะตื่นจากฝันกลางวันเมื่อถังเทียนบีบคอคลอเดียลอยขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของเรือรบไร้เทียมทาน
ราวกับว่าถังเทียนแหย่รังแตน
“เจ้าบังอาจนัก! รีบปล่อยคุณหนูลง! หรือว่าอยากตาย!”
“เจ้ากำลังหาที่ตาย!”
“เจ้าคนเสียสติ!
รู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรลงไป?
เจ้ากำลังสร้างหายนะใหญ่ให้กับตัวเจ้าเอง!”
“เจ้าอย่าทำอะไรดีกว่า เราสามารถพูดคุยกันได้ จะไม่มีอันตรายกับการพูดจากัน
ไม่ว่าเจ้ามีเงื่อนไขอะไร
ตราบใดที่เจ้ายอมปล่อยคุณหนูไป
เราสามารถพูดคุยกันได้!”
….
แฮงค์ที่กำลังสังเกตการณ์สู้รบได้ยินเสียงความโกลาหลบนเรือรบไร้เทียมทานทันที
และเขาหันไปมอง ในทันทีที่เห็นเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณแทบหลุดจากร่าง มือและเท้าเย็นเฉียบแทบกลายเป็นน้ำแข็ง ที่ยอดเรือรบไร้เทียมทานมีบุรุษสวมหน้ากากยืนอยู่
มือของเขากำอยู่ที่คอของคลอเดีย
ใจของแฮงค์สั่นสะท้าน
เขาอาจไม่ใส่ใจอารมณ์ของคลอเดีย
แต่เขาต้องรับประกันความปลอดภัยของนางด้วยการทุ่มเททุกอย่าง เขาหันไปมองที่ห่วงต้องห้ามโดยไม่รู้ตัว ม่านตาของเขาหดลีบ เนื่องจากไม่มีอะไรถูกผนึกไว้ในห่วงต้องห้าม
ความเย็นยะเยือกแผ่จากเท้าแล่นไปในใจเขา
‘เขาหลบหนีจากห่วงต้องห้ามได้จริงๆ! และข้าไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้!
‘เป็น...เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...’
ความตื่นตระหนกครอบงำใจแฮงค์ ถ้าศัตรูออกมาจากห่วงต้องห้ามได้อย่างง่ายๆ
เขาคงไม่มีปฏิกิริยาขนาดนั้น ‘เป็นไปได้ยังไงที่เขาหลุดรอดออกมาจากห่วงต้องห้ามโดยเขาไม่รู้ตัว? เขารู้จักห่วงต้องห้ามดีนักหรือ? แต่,
ข้าเป็นคนสร้างวิชาห่วงต้องห้ามขึ้นมาเอง...’
ไม่ใช่แค่แฮงค์เท่านั้น สหายที่อยู่ข้างๆ
เขาเมื่อสังเกตได้ว่าในลำแสงมีแต่ความว่างเปล่า
และถังเทียนไปอยู่บนเรือรบไร้เทียมทาน
ทุกคนมีสีหน้าเหมือนกับเห็ผี
และการต่อสู้ที่รุนแรงในอากาศก็หยุดทันทีเมื่อสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนเรือรบไร้เทียมทาน ทุกคนจากกลุ่มการค้าอลิซาเบธกังวลกันทุกคน
ราวกับว่าพวกเขาเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัว
ถ้าคลอเดียประสบอุบัติเหตุอะไรไป ทุกคนเจอปัญหาแน่นอน
สำหรับจี๋เจ๋อและพวก
เหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในช่วงการแสดงที่ดี
พวกเขากลับไปที่เรือสินค้าและถลกแขนและเริ่มพูดคุยกันเองในกลุ่ม
“หึหึ, นายท่านไม่รู้จักปกป้องทนุถนอมความรู้สึกและไม่อ่อนโยนต่อสตรีเสียเลย! ทั้งที่นางงดงามอย่างนั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆ
“อ่อนโยนต่อสตรีน่ะหรือ? หึหึ
มันทำให้เจ้ากินได้ไหมเล่า?
ถ้าเจ้าสงสารนางก็ไปหานางเลย นายท่านจะได้สงสารเจ้าเป็นอย่างดีแน่นอน”
“อย่างไรก็ตาม
ตายเพื่อสาวงามไม่ใช่นิสัยของข้าเสียด้วย
ข้ามีความรู้สึกว่ากลุ่มการค้าอลิซาเบธ คงได้เสียเลือดกันบ้าง”
“ทำไมข้าก็รู้สึกอย่างนั้น?”
…..
เมื่อได้ยินจี๋เจ๋อกับฝูเจิ้งจือคุยกัน
หน้าของเมลิซซาซีดขาว
การกระทำของถังเทียนทำให้ทุกคนพึงใจ
แต่ก็เป็นการกระทบกระทั่งผ่านการสู้รบระหว่างสองกลุ่มการค้า กลุ่มการค้าต่อสู้กันโดยเปิดเผยและลอบเร้น
แต่มีกฎที่เข้มงวดซึ่งพวกเขาไม่สามารถละเมิดได้ และนั่นก็คือ
ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำอันตรายต่อทายาทของตระกูลที่จ้างโดยตรง การละเมิดกฎนี้จะนำความตายมาให้คนอื่นๆ ในกลุ่ม
คลอเดียเป็นเจ้าหญิงของกลุ่มการค้าอลิซาเบธและเป็นที่รักและเอาใจใส่ของทุกคน
ที่สำคัญยิ่งกว่าคลอเดียเป็นผู้สืบทอดของกลุ่มการค้าอลิซาเบธ
ความเคลื่อนไหวของถังเทียนมีแนวโน้มว่าจะไปกระตุ้นสงครามระหว่างกลุ่มการค้าทั้งสอง
หน้าของเมลิซซากลับเป็นปกติอย่างรวดเร็วขณะที่นางฝืนหัวเราะ ‘ก็ได้, ด้วยนิสัยของถังเทียน
เขามีบุคลิกยิ่งใหญ่อยู่แล้ว’ นางสูดหายใจลึก ตาของนางกลับคืนสู่ความมุ่งมั่น ‘ตอนนี้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์เข้าร่วมกับถังเทียนแล้ว ข้าไม่ควรจะบ่นอะไรมากมาย’
เมื่อสงบลงได้แล้ว เมลิซซาชักสงสัยว่าถังเทียนจะหาข้อสรุปเรื่องนี้ได้ยังไง

5 ความคิดเห็น:
ข้อสรุปหรอง่ายมากอยากรอดก็จงจ่ายมา
ขอบคุณครับ ได้เวลาตบทรัพย์ความถนัดของถังเทียน
เอาเรือมาแลกดิ ฮ่าๆ
ขอบใจจ้าาาา
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น