ตอนที่ 897 ความตายของชาร์ลส์
ชาร์ลส์รู้สึกตัวว่าไม่ปลอดภัย
อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่าโซเฟียไม่ได้อยู่ใกล้เขา
ตั้งแต่ยังเด็กโซเฟียมักเป็นองครักษ์พิทักษ์เขาอยู่เสมอ แทบจะไม่แยกจากกัน
แม้ว่าหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงก็ไม่เคยลาดตระเวณห่างไกลจากเขา
เมื่อไม่มีโซเฟียอยู่ใกล้ๆ
ก็รู้สึกเหมือนกับว่าวิหารที่คุ้นเคยกลายเป็นว่างเปล่า
ชาร์ลส์มีความเข้าใจผิดว่าดูเหมือนมีดวงตาที่คอยสังเกตเขาอยู่เงียบๆจากในเงาด้านหลังเขา
เขาหัวเราะเยาะตนเอง
‘นี่คือวิหาร ที่ซึ่งพลังงานแสงสว่างแข็งแกร่งมากที่สุด แล้วจะมีเงาซ่อนอยู่ได้ยังไง?’ วิหารซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งแสง มีแสงเจิดจ้าเข้มข้นโดยรอบ เป็นแสงที่อ่อนโยน อบอุ่น ขณะที่แสงสว่างมีอยู่ทั่วไปในวิหาร
‘แสงคือความนิรันดร์’
‘บางทีข้าคงจะไม่คุ้นเคยกับการไม่มีโซเฟียอยู่ใกล้ๆ’ ชาร์ลส์หัวเราะ
เมื่อคิดเกี่ยวกับสถานการณ์แล้ว ชาร์ลส์ขมวดคิ้ว
ในอดีตเมื่อเขามีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลที่มีชื่อ
เขามักรู้สึกว่าพวกเขามักจะเชื่อฟังต่อวิหาร แต่ตอนนี้พวกเขาทำลายความคิดของเขาไปหมด
ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเข้าใจถึงเหตุผลที่ผู้อาวุโสตระกูลต้องการปราบปรามพวกตระกูลต่างๆ
ตระกูลที่มีชื่อเสียงเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่มีเขี้ยว
กรงเล็บและดูเหมือนจะเชื่อง
แต่สัตว์ร้ายก็ยังเป็นร้าย
ไม่ว่าพวกมันสามารถปลอมตัวได้ยังไงก็ตามเมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญ ความดุร้ายของพวกมันมักจะปรากฏออกมาเสมอ
ภายในตระกูลชิวชาร์ลส์พึมพำกับตนเอง เหมือนกับกำลังครุ่นคิด
สำหรับชาร์ลส์ความขัดแย้งระหว่างตระกูลชิวและกลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นตระกูลชิวเริ่มก่อน ‘พวกเขาต้องการส่งข้อความอะไรไปให้ตระกูลอื่นกันแน่?’
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการค้าเมซฟิลด์และตระกูลอลิซาเบธเป็นความขัดแย้งสองตระกูลระดับเดียวกัน ตระกูลชิวไม่มีเหตุผลจะเข้าไปแทรกแซงเอง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้หนุนหลังตระกูลอลิซาเบธก็ตาม ชาร์ลส์รู้พฤติกรรมของตระกูลชั้นสูง
ถ้าตระกูลระดับสูงหาเรื่องกับตระกูลอลิซาเบธ ตระกูลชิวจะต้องลงมือ แต่ถ้าตระกูลอ่อนแอกว่าเอาชนะตระกูลอลิซาเบธได้ ตระกูลชิวจะไม่ลงมือแน่นอน
‘เพราะพวกเขาจะได้ความอับอายขายหน้า’
‘ถ้าบริวารของพวกเขาเองไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับเท่ากัน จะมีคุณสมบัติอะไรให้พวกเขาเป็นบริวารตระกูลชิว
ชาร์ลส์แค่นเสียงใส่ต่อข่าวลือที่กระจายไป
กล่าวกันว่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นฝ่ายเริ่มตอแยซึ่งสำหรับเขาเป็นเรื่องไร้สาระ ‘ความแข็งแกร่งของตระกูลเมซฟิลด์ก็งั้นๆ พวกเขาไม่สามารถสร้างการคุกคามอะไรๆ
กับตระกูลชิวได้ ทำไมชิวเป่ยฟงถึงส่งทหารของเขาไปเอาหน้าด้วย?’
‘ถ้าตระกูลชิวต้องการสร้างอำนาจ พวกเขาไม่ควรต่อต้านกับตระกูลอื่น แต่ควรทำต่อวิหาร’
ชาร์ลส์ไม่ชอบการกระทำของตระกูลชิว ถ้าตระกูลชิวเป็นฝ่ายผิด
ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีแบบนั้นแสดงอำนาจพลังของพวกเขา เขาจะมีความรู้สึกที่ดีต่อพวกเขามากขึ้น วิหารกวงหมิงยินดีร่วมมือกับตระกูลชั้นสูงอยู่แล้ว
แต่เมื่อตระกูลชิวมาถึงในทวีปเซียนพวกเขาไม่ทำแม้แต่เดินทางเข้ามาที่ตำหนักกวงหมิงเพื่อทักทายเคารพประมุขผู้อาวุโส พวกเขาไม่ทักทายเขา ไม่ทำตามมารยาทอะไรที่เป็นการทักทายที่ตำหนักกวงหมิง แต่กลับเริ่มลงโทษเพื่อเป็นการเตือนคนอื่นๆ
ชาร์ลส์โกรธ,
ตระกูลชิวไม่เคยเห็นวิหารอยู่ในสายตา และเนื่องจากเขาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้
ตระกูลชิวจะไม่เปิดเผยความตั้งใจที่จะเผชิญหน้าเขา
เขาส่งโซเฟียไปดูตระกูลชิว
ถ้าตระกูลชิวกล้าขัดคำสั่งวิหาร
เขาจะลงโทษพวกเขาเป็นการเตือนตระกูลที่เหลือ
มีตระกูลชั้นสูงอยู่มากมาย
ถ้าเขาไม่ฆ่าคนสักคนหรือสองคน
ก็จะไม่มีใครฟังคำสั่ง
ชาร์ลส์รู้ว่านั่นเป็นบททดสอบที่ประมุขผู้อาวุโสมอบให้ ถ้าเขาสามารถควบคุมและจัดการสถานการณ์ได้ สถานะของเขาจะไม่ถูกโยกคลอน ถ้าเขาทำไม่ได้ เขาจะตกอยู่ในอันตราย
เมื่อรู้สึกถึงอันตราย
ชาร์ลส์รู้ว่าเขาต้องสู้
ไม่อย่างนั้นก็ตาย
มีโซเฟียนำกองกำลังอัศวินพิเศษกวงหมิง ไม่มีตระกูลใดกล้าต่อต้านพวกเขา
ทหารคนหนึ่งเดินขึ้นมาหาและเรียนด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท,
ประมุขผู้อาวุโสขอให้ท่านมาหา”
ชาร์ลส์จำทหารได้ และพยักหน้า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
ชาร์ลส์เดินเข้าไปในตำหนัก
อัศวินกวงหมิงผู้เฝ้าประตูเดินตามเขา
โซเฟียพาหน่วยอัศวินกวงหมิงออกไปข้างนอก
แต่เหลืออัศวินไว้สิบคนเพื่อประกันความปลอดภัยของชาร์ลส์ แม้ว่าชาร์ลส์จะไม่เห็นความจำเป็น แต่เขาก็ซาบซึ้งการกระทำของนาง
ทหารเดินนำชาร์ลส์เดินตามหลัง ชาร์ลส์ถาม
“มีอะไรเกิดขึ้น?”
“ดูเหมือนจะเป็นเรื่องตระกูลชิว” ทหารคนหนึ่งขมวดคิ้วและพูดขึ้น
ชาร์ลส์คิดอยู่ชั่วขณะ
‘หรือว่าประมุขผู้อาวุโสมีอะไรกับตระกูลชิว? มีประมุขผู้อาวุโสยืนยันด้วยตนเอง, เขาไม่สามารถทนต้านทานพวกเขาได้แน่ ถ้าเป็นประมุขผู้อาวุโส, เขาจะจัดการพวกนั้นได้ยังไง? ประมุขผู้อาวุโสมีสายตามองการณ์ไกลที่ยิ่งใหญ่ ใครจะรู้ว่ามีอะไรลึกในใจ
ความคิดชาร์ลโบยบินไปไกล ในเวลาอันรวดเร็ว
ใครก็ตามจะรู้สึกถึงแรงกดดันเมื่อมาถึงประมุขผู้อาวุโส เขาเองก็ไม่ยกเว้น ผู้ที่ยกเว้นอยู่คนเดียวก็คือโซเฟีย
ทหารนำชาร์ลส์มาถึงทางเข้าด้านข้างห้องโถงใหญ่และหยุดเดิน
คำนับเขา “ฝ่าบาท ได้โปรด, ประมุขผู้อาวุโสอยู่ข้างใน”
ชาร์ลส์สำรวมความคิดและมองดูห้องโถง ‘ที่นี่เงียบงัน ประมุขผู้อาวุโสมักชอบที่อย่างนั้นเสมอ
แม้จะมีตำแหน่งสูงส่ง
ประมุขผู้อาวุโสก็ค่อนข้างเรียบง่าย
เป็นเรื่องหนึ่งที่ทุกคนในวิหารนับถือ’
“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่” ชาร์ลส์พูดกับอัศวินทั้งสอง
อัศวินทั้งสองรับคำและยืนอารักขา เนื่องจากตำแหน่งของพวกเขาสูงส่ง
พวกเขาจึงสามารถเข้าตำหนักได้ง่ายสะดวกสบาย และมีเพียงเหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่สามารถไปตามอำเภอใจได้
เป็นเพราะประมุขผู้อาวุโส
โซเฟียไม่กลัวประมุขผู้อาวุโส
นั่นเป็นเพราะความสัมพันธ์ของนางกับประมุขผู้อาวุโสเหมือนกับบิดากับบุตรี
แต่ประมุขผู้อาวุโสไม่ได้ออกหน้ากับคนที่เหลือ
และพวกเขาเคยเห็นแค่เพียงสองสามครั้ง
นอกจากนี้ เพลิงศักดิ์สิทธิ์ประมุขผู้อาวุโสมีอยู่รอบตัวนั้น
สามารถปล่อยแรงกดดันที่หนาแน่นรุนแรงจนพวกเขารู้สึกกลัว
ทหารสองคนยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก
ความจริงก็กังวลว่าฝ่าบาทอาจเรียกหาพวกเขาให้เข้าไป
ทันใดนั้นความผันผวนของพลังแหลมคมที่แทบตรวจสอบไม่ได้ก้องออกมาจากภายในห้อง อัศวินทั้งสองสีหน้าเปลี่ยน
และวิ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล
เพียงแค่ทั้งสองคนเข้าไปเท่านั้น
พวกเขาเห็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์กำลังนอนอยู่บนพื้น
นัยน์ตาของพวกเขาเบิกกว้าง
คอของเขามีรูขนาดเท่ากำปั้น มีเลือดฉีดออกมาจากลำคอของเขา
อัศวินทั้งสองสะท้านราวกับถูกฟ้าผ่า พวกเขาค่อยตั้งหลักได้หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที ‘ลอบสังหาร! โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ถูกลอบสังหาร!’
ภายในห้องโถง โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ถูกลอบสังหาร
อัศวินทั้งสองคนหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
เรื่องอย่างนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์วิหาร วิหารเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย และคนนอกไม่สามารถลอบเข้ามาได้
‘คนภายนอกไม่มีทาง
จุดทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคนภายในที่วางแผนทุกอย่างละเอียดลออ
ทั้งสองคนคิดถึงทหารที่เดินนำทางทันที
หนึ่งในอัศวินหายวับไปปรากฏนอกห้องโถงใหญ่ทันทีและเมื่อนั้นเองเขาถึงได้เห็นศีรษะของทหารผู้นั้นถูกกระแทกแหลกไปแล้ว
เสียงเตือนภายในโหยหวนดังก้องไปทั่ววิหาร
เมืองหิมะขาว
สีหน้าโซเฟียเปลี่ยนไป
นางกุมหน้าอกนางราวกับว่ามีมีดแทงเข้าไปในหัวใจของนาง ร่างนางสั่นสะท้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ฝ่าบาท...”
ร่างของนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง นางงอตัวลงเหมือนกับว่ากำลังได้รับความทรมานจากความเจ็บปวดและเศร้าโศกรุนแรง
อัศวินพิเศษกวงหมิงทุกคนรอบตัวนางตกใจ พวกเขาไม่เคยเห็นผู้บัญชาการเจ็บปวดช่วยตัวเองไม่ได้อย่างนั้นมาก่อน
หนึ่งในอัศวินถามขึ้น
“ผู้บัญชาการ!,
เกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาท?”
โซเฟียพยายามยืนตัวตรงแม้ว่านางจะสั่นบ้าง แต่นางอดทน
ใบหน้าซีดของนางไม่มีสีเลือด
ตาของนางลึก ตลอดทั้งตัวเปล่งกลิ่นอายน่ากลัว
“ชาร์ลส์ตายแล้ว!”
โซเฟียเปล่งคำพูดแต่ละคำอย่างชัดเจน รังสีฆ่าฟันทะลักอยู่ทั่วตัวนาง ตอนนี้นางเหมือนกับยมทูตที่ออกมาจากนรก
“ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์?”
อัศวินพิเศษกวงหมิงตะลึง
อารมณ์ของพวกเขาพลันว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว
‘ฝ่าบาทถูกปลงพระชนม์!’
‘โอวพระเจ้า! เป็นไปได้ยังไง?’
‘ใครทำ?’
“ต้องเป็นการกระทำของพวกตระกูลชั้นสูงเหล่านั้น”
เสียงของนางเย็นชา
“มือสังหารต้องคุ้นเคยกับวิหารมีความสามารถและพลังทั้งควบคุมเวลาได้อย่างแม่นยำ
ไม่มีใครอื่นทำเช่นนั้นได้”
“แต่ว่าใครกันเล่า?”
หนึ่งในอัศวินถามด้วยความโกรธ
“ข้าไม่รู้ว่าใคร”
โซเฟียตอบอย่างเย็นชา ขณะที่นางชักดาบที่เอวนาง
“แต่ข้ารู้ว่าตระกูลชิวจะหลีกความรับผิดไปไม่ได้ ก่อนนี้ข้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก ทำไมชิวเป่ยฟงถึงได้มาเมืองหิมะ? ตอนนี้ข้ารู้แล้ว
เป้าหมายของพวกเขาเพื่อให้เราระดมกำลังทหารออกห่างจากฝ่าบาท”
อัศวินพากันโกรธแค้นกันหมด
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”
“เราควรจะฆ่พวกตระกูลชั้นสูงให้หมด!”
“เราจะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้!”
โซเฟียชักดาบออกมาแล้วมองดูรอบๆ น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“วิหารมีคนทรยศที่สมรู้ร่วมคิดกับตระกูลชั้นสูงและเข้านอกออกในได้ ด้วยความตายของฝ่าบาท ใครจะได้ประโยชน์? คนอื่นๆ ที่มีศักยภาพ
ผู้อาวุโสวิหารจะต้องขอให้เลือกโอรสศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ วิหารจะต้องมีโอรสศักดิ์สิทธิ์ นอกจกนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติมาก เป็นโอกาสสมบูรณ์แบบที่พวกเขาจะได้รับเลือกโดยที่ความคิดเล็กๆ
น้อยๆ ก่อให้เกิดผลกระทบตามมา พวกตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ทั้งหมดสามารถผนึกกำลังกันและบีบบังคับวิหารสละอำนาจ
และเพื่อเห็นแก่ภาพรวม แม้แต่ประมุขผู้อาวุโสก็จะต้องก้มหัวให้”
ทุกคนตกตะลึงขณะที่ฟังโซเฟียอธิบาย
หนึ่งในอัศวินอารมณ์ร้อนพูดออกมา
“หรือว่าพวกเขาไม่กลัวว่าสถานการณ์จะพังทลาย?”
“พวกเขากลัว
แต่พวกเขาเห็นได้ชัดมากกว่าว่าเป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะทำให้วิหารก้มหน้าให้” โซเฟียสงบจิตใจได้แล้วและกลายเป็นเย็นชา “เพราะเราแม้จะกลัวมาก แต่พวกผู้อาวุโสวิหารจะกลัวมากกว่า”
ทุกคนยังคงเงียบ
พวกเขาตกใจกับการคาดเดาของผู้บัญชาการของเขา
บางคนพูดทำลายความเงียบ
“อย่างนั้นตอนนี้เราจะทำยังไง?”
“เราต้องล้างแค้นให้ชาร์ลส์” ตาของโซเฟียเป็นประกายเย็นชา “ชิวเป่ยฟงต้องตาย!”
“แต่เราไม่มีข้อพิสูจน์”
โซเฟียเดินออกมาและพูดโดยไม่หันหน้ากลับมา “เราไม่ต้องการข้อพิสูจน์”

15 ความคิดเห็น:
ฆ่ากันเอง เข้าทาง ถังห้าวเลย
ขอบคุณครับ
โถ่ ศัตรูรอบตัวยังไม่พอ จะมีหนอนทำลายจากภายในอีก ชักเริ่มสงสาร
เอาละสิ เหมือนพี่ถังจะได้แนวร่วม 555+
เป็นแผนของชาร์ลแกล้งตายหรือป่าว ประมาณสร้างสถานการณ์เพื่อควบคุม เพราะถ้าถ้าตายจริงดูมันง่ายไป
แผนของแฟนพี่ถัง ฝีมือขุนพลวิญญานของเซียวม่าเซียงซาน ใช้พลังสกดจิตใส่ทหารยาม เพื่อเปิดใช้กลยุทธ์ไส้ศึก (มโน)
ขอบใจจ้า เรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ
แผนลอบสังหารของพี่ถัง
ตอนก่อนพี่ถังบอกต้องทำงาน ตอนต่อมาชาร์ลส์ตาย พี่ถังน่าสงสัยสุด แต่มีคนรับผิดแทนละ 555
ใครฆ่า ไปตามไอเด็กแว่นมาดิ๊
1.ชาร์ลไม่ได้ง่ายๆน่ะผมว่า
2.พี่ถังอาจจะเป็นฆาตกรอาจใช้วิชา(ห่วงต้องห้าม)
ที่พึ่งรู้แจ้งเข้าไปในวิหารและจับอัศวินมาสะกดจิต
เพราะพี่ถังสามารถเอาขุนพลวิญญานติดตามไปได้
ทุกที่
3.ถ้าตระกูลชั้นสูงสมคบคิดมันยากหน่อยเพราะ
ผู้แต่งบอกมาแค่ กลุ่มเมซฟิส อลิซาเบส ตระกูล
ชิว กลุ่มการค้าตระวันตกและพวกหน่วยทหารในกวงหมิง ซึ่งพวกนี้ไม่น่าทรยศยกเว้นเมซฟิสแต่กลุ่มนี้ไม่ใช้ชนชั้นสูง
4.ถ้าทรยศคงเป็นพวกว่าที่โอรสศักดิ์สิทธแต่ไม่เคยเห็นตัวเคยแต่ได้ยินไม่รู้เด็กคนไหน
5.ชาร์ลแกล้งตายไม่น่าใช้เพราะโซเฟียยังสัมผัสได้คงคล้ายๆปิงสัมผัสถังเทียนได้
6.ตระกูลชิวอาจเป็นแพ้ แป๊ะ แปะๆๆๆ
ขอบคุณครับ
นึกว่าจริง เชื่อไปแล้ว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น