วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 899 กองทัพตระกูลชิว


ตอนที่  899  กองทัพตระกูลชิว
 “หวินฉีถูกฆ่า?  เป่ยฟงได้รับบาดเจ็บและกองกำลังส่วนตัวของเขาถูกทำลาย? และตอนนี้เบาะแสของเขาไม่ทราบชัด?”

เสียงคำรามด้วยความโกรธภายในลานด้านหลังในเมืองเมฆาภายในทวีปเซียนดังขึ้น
ชิวเทียนชิงคำรามเต็มที่ ความโกรธของเขาถึงขีดจำกัด ทำให้เกิดระลอกพลังเป็นชั้นๆ รอบตัวเขา  อากาศในห้องโถงเกิดความไม่เสถียรขณะที่รังสีฆ่าของเขากระจายออกไปข้างนอก
ทุกคนที่อยู่ภายใต้สีหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเขามีนัยน์ตาแดงดังสายเลือด  ตระกูลชิวไม่เคยถูกหยามอัปยศแบบนั้นมาก่อน ไม่มีเหตุผลอะไรเลย คนสำคัญของตระกูลชิวจู่ๆ ก็ถูกสังหารแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นวิหารหรืออัศวินพิเศษกวงหมิงก็ตาม ตระกูลชิวไม่มีทางยอมรับ
ชิวหวินฉีและชิวเป่ยฟงเป็นเด็กชุดแรกของตระกูลชิว  แม้ว่าชิวเป่ยฟงจะนำกองกำลังส่วนตัวไป 100 คน  แต่พวกเขาเป็นพวกมีพลังต่อสู้ทั้งนั้นและมีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลชิว  และในบรรดากองทัพตระกูลชิวพวกเขาถูกจัดอยู่ในระดับห้าสุดยอด
การสูญเสียครั้งใหญ่ทำให้ตระกูลชิวประสบปัญหาอย่างหนัก
ชิวเทียนชิงมีลักษณะธรรมดา  แต่เมื่อเขาโกรธ  เขาดูเหมือนราชสีห์  สายตาของเขากวาดมองขุนพลต่างๆ  ตาของเขาเย็นชาจนไม่มีร่องรอยความอบอุ่นอยู่ในนั้น  เขาหัวเราะขึ้นทันใดราวกับว่าเป็นสัตว์ป่าที่เตรียมจะจับคนกิน บุคลิกภาพของเขาสามารถทำลายทุกคนได้
 “ตระกูลชิวกลายเป็นแกะบูชายัญที่รอถูกคนอื่นฆ่าตามต้องการตั้งแต่เมื่อไหร่?”
แม่ทัพทั้งหมดที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่กล้าส่งเสียง
ชิวเทียนชิงรู้ชัดถึงเหตุผลที่โซเฟียลงมือ  และรู้ความเคลื่อนไหวและการกระทำที่ตระกูลชิวกระทำในความมืด  แต่แล้วยังไงเล่า?  แม้ว่าวิหารยังไม่กล้าประกาศความเกี่ยวโยงใดๆ ระหว่างตระกูลชิวกับการปลงพระชนม์โอรสศักดิ์สิทธิ์  ความเคลื่อนไหวของอัศวินพิเศษกวงหมิงที่ทำกับตระกูลชิวเป็นสัญลักษณ์ของการล้ำเส้น
โซเฟียต้องการฆ่าเพื่ออำนาจ  แต่น่าเสียดายนางเลือกผิดคน ตระกูลชิวไม่ใช่กลุ่มคนที่จะทนรับเรื่องแบบนั้นง่ายๆ
ปากของชิวเทียนชิงยิ้มเยือกเย็น
ขณะนั้นสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทันที  พร้อมกับคนที่ไม่รู้จักวิ่งเข้ามา
ตาของชิวเทียนชิงเป็นประกาย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเย็นชามากขึ้น  “ดูนั่น, นี่คือโลกที่ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอ  ถ้าเจ้าอ่อนแอ อย่างนั้นเจ้าจะถูกกลืนกินจนไม่เหลือกระดูก”
พูดแค่นั้นเขาเดินออกไป
แม่ทัพนายกองต่างๆ เดินตามหลังชิวเทียนชิง
ภายในห้องที่หรูหรางดงาม เมืองเมฆพลิ้ว บุรุษวัยกลางคนได้ยินสัญญาณเตือนภัยแหลมชัด  เขางานที่กำลังทำและเงยหน้าขึ้น  “สัญญาณเตือนภัยดังมาจากไหน?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นองครักษ์คนหนึ่งวิ่งออกไปทันทันที  หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาวิ่งกลับมารายงาน  “มาจากสำนักงานกองทัพตระกูลชิว!
 สำนักงานใหญ่กองทัพตระกูลชิว!  บุรุษวัยกลางคนหรี่ตา ตระกูลชิวตั้งค่ายเผชิญหน้า เมื่อคิดถึงเรื่องรายงานล่าสุดที่เขาอ่าน บุรุษวัยกลางคนรู้สึกไม่สบายใจ
 หรือว่าพวกเขาประเมินปฏิกิริยาของวิหารผิดไป?
เมื่อคืนก่อนฐานของตระกูลชิวในเมืองหิมะถูกกวาดล้าง  ชิวหวินฉีถูกฆ่าตาย กองกำลังส่วนตัวถูกทำลาย  และชิวเป่ยฟงได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไปไม่ทราบเบาะแสที่แน่ชัด
ผู้รับผิดชอบก็คือหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิง! ไม่มีเหตุผล, ไม่มีการแจ้งเตือน, เป็นการซุ่มโจมตียามราตรีและสังหารคนของตระกูลชิวโดยตรง  ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นการยืนยันว่าผู้ก่อเหตุคือหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิง ปฏิกิริยาแรกของของบุรุษวัยกลางคนก็คงสงสัยว่ามีคนจงใจทำให้เกิดปัญหา เพราะนั่นไม่ใช่รูปแบบที่วิหารทำ
พวกเขากวาดล้างฐานของตระกูลชิวในเมืองหิมะในคืนก่อน  และในวันต่อมาพวกเขามุ่งตรงไปที่สำนักใหญ่กองทัพตระกูลชิว
 ความต้องการของวิหารรุนแรงมากขึ้น เขามีความกังวลอยู่ในใจ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เขาคาดหวังไว้สิ้นเชิง  ความไม่พอใจของตระกูลชั้นสูงต่างๆ ที่มีต่อวิหารสะสมมาเป็นเวลายาวนาน  ขณะที่วิหารก็เหมือนสัตว์ประหลาดที่เติบโตต่อเนื่องและกลืนกินสถานที่ที่ทุกคนสามารถมีชีวิตอยู่อย่างต่อเนื่อง
วิหารที่ถูกสร้างในทวีปกวงหมิงในอดีตและในปัจจุบันต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ในอดีตวิหารได้ทำข้อตกลงกับตระกูลชั้นสูงว่าจะแบ่งกันปกครองทวีปกวงหมิง  แต่วิหารแข็งแกร่งมากขึ้นทุกทีทำให้ตระกูลชั้นสูงต้องถดถอยมาหลายปี  โดยเฉพาะเมื่อวิหารทิ้งไพ่สนับสนุนที่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากตระกูลมีชื่อเสียงทั้งหลาย  ตระกูลเล็กกลุ่มใหม่เริ่มมีท่าทีคุกคามตระกูลสูงส่งชั้นหนึ่ง
ชื่อเสียงของตระกูลชั้นสูงชั้นหนึ่งตระกูลแล้วตระกูลเล่าต้องตกต่ำ ทำให้พวกเขาทั้งหมดเต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรง
พวกเขาต้องการเปลี่ยนทุกอย่าง  แต่วิหารปกครองได้อย่างดีและมั่นคงไม่เปิดเผยจุดอ่อนแต่อย่างใด  เพียงแต่เมื่อระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น ตระกูลระดับสูงชั้นหนึ่งตระหนักได้ทันทีว่าโอกาสที่พวกเขารอคอยมาตลอดปรากฏขึ้นแล้ว
เขาเรียกความรู้สึกกลับมา ไม่เชื่อว่าวิหารจะกล้าทำลายล้างอย่างไม่สนใจอะไร  ทวีปกวงหมิงเป็นของวิหารกวงหมิง  ต่อให้พวกเขาสามารถครอบครองผลประโยชน์บางอย่างจากวิหาร  แต่ก็ไม่เปลี่ยนความจริงข้อนี้
 นอกจากนี้, วิหาร เจ้ายังมีหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงเท่านั้นที่เหลืออยู่  เจ้าคิดไหมว่าเจ้าเคยเป็นอย่างนั้นมาก่อน?
สำนักใหญ่กองทัพตระกูลชิวมีกองกำลังจู่โจมของตระกูลชิวประจำการอยู่  นั่นเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลชิว  ทั้งยังแข็งแกร่งเหนือกว่ากองกำลังส่วนตัวของชิวเป่ยฟงมากมายนักอย่างเทียบไม่ได้  วิหารต้องการใช้ตระกูลชิวเป็นแบบอย่างคุกคามให้ตระกูลอื่นกลัว  แต่ชิวเทียนชิงเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน  เขาจะไม่ยอมแพ้โดยไม่ได้ทำการต่อสู้
 จะต้องมีเรื่องสนุกๆ ให้ได้ดูกันแน่!’
บุรุษวัยกลางคนคิดในใจ  วิหารมีแต่กองกำลังอัศวินพิเศษกวงหมิง  ถ้ากองพลจู่โจมของตระกูลชิวสู้โดยไม่คำนึงถึงอะไร  ทั้งสองฝ่ายจะต้องเสียหายกันอย่างหนัก  ไม่, ต่อให้พวกเขาสามารถทำอันตรายอัศวินพิเศษกวงหมิงได้บ้าง  สถานการณ์ของวิหารจะตกอยู่ในความลำบากมากขึ้น
 ชิวเทียนชิง,  อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ
กองพลจู่โจมตระกูลชิวอยู่ในฐานของตระกูลชิว  แต่ภายในทวีปเซียนนอกจากวิหารแล้วไม่มีใครได้รับอนุญาตให้สร้างป้อมปราการ  สำนักงานใหญ่กองทัพตระกูลชิวเป็นเพียงลานว่างธรรมดา ซึ่งตระกูลชิวทำการปรับปรุงเล็กน้อยเพิ่มการป้องกันและรักษาความปลอดภัย
ชิวเทียนชิงยืนอยู่บนจุดที่สูงสุดและมองออกไปข้างหน้า
เรือสินค้าที่ไม่มีตราเครื่องหมายหยุดอยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ตระกูลชิงออกไป 3 กิโลเมตร  ลำเรือไม่ใหญ่ และดูธรรมดามาก  ชิวเทียนชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย  เขายังงงอยู่ ไม่รู้ว่ามีความแปลกประหลาดอย่างไร  แต่กลับรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เรือสินค้าเปิดประตูซึ่งมีแต่ความมืดไม่มีใครมองลอดผ่านไปได้  ทั่วทั้งกองทัพตระกูลชิวกลั้นลมหายใจลืมตากว้าง
 “ข้าไปก่อน”  ถังเทียนตบอกและพูดกับเชียนฮุ่ยอย่างกล้าหาญ
 “ระวัง, อย่าพยายามอวดความกล้า”  เชียนฮุ่ยตอบเสียงนุ่มนวล
 หวานนัก, นางอ่อนหวานยิ่งนัก ยิ่งกว่าน้ำผึ้งเสียอีก!  ถังเทียนมองดูเหมือนอยู่ในสภาพลุ่มหลง ไม่สิ ใจของเขามึนเมา  เขาลอบสะท้อนใจ  ตำราว่าไว้ถูก วีรบุรุษมีจุดอ่อนเพราะเสน่ห์ของสตรี  วีรบุรุษที่แท้จริงมีจุดอ่อนที่เสน่ห์ของสตรีอย่างแท้จริง!’
 โอว..ข้าไม่เข้าใจเลย  ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...
ซือหม่าเซี่ยวทนไม่ได้อีกต่อไป, เขากระแอมครั้งหนึ่ง  “พวกเจ้าค่อยสนิทสนมกันหลังสู้รบก็ได้”
เมื่อเห็นเชียนฮุ่ยหน้าแดง ถังเทียนทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไร  และโบกมือขณะตะโกน  “เคลื่อนกำลัง  ลุยสำนักงานใหญ่กองทัพตระกูลชิว!
เพียงแค่นั้น เขากระโดดลงมาจากประตู
กลุ่มคนกระโดดออกมาขณะโห่ร้องตะโกนเหมือนกับฝูงหมาป่าหิวโหย
หลังจากแยกออกมาจากเรือสินค้า เมื่อถังเทียนรู้สึกว่าเชียนฮุ่ยไม่สามารถได้ยินเขาอีกต่อไป  เขากระแอมและพูดขึ้น  “พวกเจ้ารู้ไหม ทำไมข้าไม่ต้องการลอบโจมตีในวันนี้?”
 “เพราะการป้องกันของศัตรูหนาแน่น...”  ฝูเจิ้งจือรู้สึกทันทีเหมือนกับว่าความคิดของเขามึนชาและเปลี่ยนคำพูด “นายท่าน ท่านหมายความว่ายังไง?”
 “ลอบโจมตีแล้วมันเท่ตรงไหน?  นั่นจะแสดงความแข็งแกร่งของเราได้ยังไง?”  ถังเทียนโบกมือ “เพราะการต่อสู้วันนี้ ไม่เพียงแต่เราต้องได้รับชัยชนะเท่านั้น  เราต้องแสดงผลงานของเราเอง และต้องแสดงอย่างสง่างาม  ข้าจะด่าพวกเจ้าอย่างไม่เกรงใจหรอกนะ  ถ้าข้าพบว่าพวกเจ้าเกียจคร้านและไม่แสดงฝีมือให้ดี ทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าเชียนฮุ่ย  เมื่อทุกอย่างจบลง เราคงต้องคุยปรึกษากัน  เช่นเรื่องการฝึก หึหึหึหึ!
เสียงหัวเราะชั่วร้ายประกอบกับวิธีพูดที่น่ากลัวว่า “ฝึกเพิ่มเติม”  ทำให้ทุกคนใจสั่นสะท้าน
 “เจ้านายไม่ต้องห่วง!  เราจะไม่ยอมให้นายท่านเสียหน้าต่อหน้านายหญิงแน่นอน”  จี๋เจ๋อตบอกให้สัญญาทันที
ถังเทียนดีใจ  “เสี่ยวเจ๋อเจ๋อ, เจ้าเยี่ยมมาก!  มาเถอะ, ใครมีแผนบ้างไหม?  เราต้องทำให้ใหญ่โต!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูเจิ้งจือไม่พอใจ  ข้าไม่ยอมปล่อยให้เป็นเช่นนี้แน่ ข้าเทียบกับจี๋เจ๋อไม่ได้ตรงไหน?  เขาแค่นเสียงทันที  “ทุกคน, เตรียมกระตือรือร้นให้ดี  พวกเจ้าจงเชิดหน้ายืดอกเอาไว้  ต้องเด็ดขาด ต้องมั่นคง  เสี่ยวอู่ สีหน้าของเจ้าต้องกระเหี้ยนกระหือยิ่งกว่านี้”
ถังเทียนพยักหน้าของเขา  “ดี ดี ดีมาก!
จี๋เจ๋อรับคำทันที  “ยอดฝีมือที่แท้จริง เที่ยวไปอย่างเสรี สบายใจ  คงจะเป็นเรื่องจงใจเกินไป ถ้าเราจะแสดงราศีที่คุกคามเกินไป  ไม่ควรจะแสดงราศีของยอดฝีมือจะดีกว่า” 
ถังเทียนเห็นด้วย  “จริง จริง!
พวกทหารสับสน  “.....”
ชิวเทียนชิงมองดูคนร้อยคนที่ออกมาจากเรือสินค้า  จำนวนของพวกเขาดูเหมือนจะเท่ากับอัศวินพิเศษ  แต่ว่า...
ชิวเทียนชิงผู้คำรามพร้อมกับแผ่รังสีฆ่าฟันที่มีอยู่ก่อนนั้นขมวดคิ้ว  เขาระงับอารมณ์ไว้  ทำไมคนพวกนี้ถึงสวมหน้ากากมีท่าทีแปลกประหลาดอย่างนั้น?  และพวกเขาไม่เผยให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา...
ยิ่งชิวเทียนชิงมองดูพวกเขา ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นกลุ่มแก๊งอันธพาลที่เดินเรียกเก็บค่าคุ้มครองตามท้องถนน 
 พวกเขาทำตัวเหมือนกับเป็นศัตรูที่อ่อนแอหรือเปล่า?  ชิวเทียนชิงรีบส่ายศีรษะ  การตั้งกระบวนของศัตรูดูยุ่งเหยิง  และยังไม่ได้มาตรฐานแม้เท่ามือสมัครเล่น ไม่สำคัญว่าอัศวินกวงหมิงจะพยายามปลอมตัวยังไงก็ตาม  พวกเขาก็ไม่น่าจะแย่ขนาดนั้น
ความสงสัยในใจของชิวเทียนชิงเพิ่มมากขึ้นมากขึ้นทุกที  พวกเขาเป็นใครกัน?
บนเรือสินค้า เสี่ยวม่านและอาซิ่นจ้องมองกองพลเกราะเทพเจ้าอย่างตะลึง ที่พวกเขาไม่มีรูปแบบอะเลย
 “พวกเขา..มีความสามารถพอจะสู้ได้หรือนั่น?”  เสี่ยวม่านถามเบาๆ  น้ำเสียงของนางค่อนข้างแปลก
อาซิ่นไม่แน่ใจ  “บางทีพวกเขาอาจจงใจตั้งกระบวนเป็นอย่างนั้นกระมัง?”
ทั้งสองเป็นระดับแม่ทัพนายกองทหาร  และเชี่ยวชาญในการชี้นำและต่อสู้ด้วยกลศึกและรูปแบบกระบวนรบและกำลังเคลื่อนไหวเหมือนกับว่าไม่สามารถร่วมมือกันได้
 นี่เป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพ
 “เราน่าจะเตรียมตัวช่วยพวกเขา”  เสี่ยวม่านรำลึกถึงความทรงจำของนาง  ฝูงเจิ้งจือและจี๋เจ๋อทั้งสองคนเป็นพวกจอมประจบ ประจบถังเทียนยังไม่พอ  พวกเขายังประจบเชียนฮุ่ยอีกดวย
นางชำเลืองมองอาซิ่น  มิน่าเล่าพวกเขาสามารถเข้ากับเขาได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย  พวกเขาเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จากเผ่าพันธุ์เดียวกันนี่เอง!’
อาซิ่นผงกหัวโดยไม่รู้ตัวว่าเขาโดนด่าอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเดินเข้าประตูสำนักงานใหญ่ตระกูลชิวอย่าง  ถังเทียนรู้สึกตื่นเต้น
 นี่เป็นครั้งแรกของข้าที่แสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าเชียนฮุ่ย  เมื่อคิดถึงว่าเป็นการต่อสู้ที่สำคัญนั้น  หนุ่มชาวฟ้ารู้ว่าทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน
ถังเทียนชูแขนขวาอย่างดุดัน  “จัดแถว!
 “นายท่านแข็งแกร่งที่สุด!
ทุกคนตะโกนเสียงดัง  และกระจายตัวเหมือนกับกระโปรงบานและชูดาบกระบี่ ขณะที่บางคนมีน้ำลายกระเด็นจากปาก  สิ่งเดียวที่ยังขาดก็คือรอยสักรูปพยัคฆ์หรือมังกรบนร่างพวกเขา  มิฉะนั้นพวกเขาคงจะดูคล้ายกับแก๊งยากูซ่าที่ท้าทายศัตรูต่อยตี
ชิวเทียนชิงตะลึงไปหมด  เขาผ่านการสู้รบมาทุกประเภท  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฉากภาพนี้กับตา
บุรุษวัยกลางคนที่เพิ่งวิ่งเข้ามาถึงตะลึงด้วยเช่นกัน  มีเพียงประโยคเดียวที่อยู่ในใจเขาก็คือ  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
บนเรือสินค้า เสี่ยวม่านพลอยตะลึงไปด้วย  นางก็เคยต่อสู้ในวิถีของนางผ่านภูเขาและทะเลซากศพมามากมาย และวิญญาณอีกนับล้านก็ยังตะลึงจ้องมองถังเทียน
ตาของอาซิ่นเป็นประกาย  เขาอดชมเชยไม่ได้  “เท่มาก!
 “ข้าว่าพวกท่านคงไม่ยอมแพ้สินะ”
คำพูดของถังเทียนดังกึกก้อง  แต่ขณะที่ทุกคนยังไม่หายตกใจ  ในความเงียบเช่นนี้ เสียงของเขาดังชัดเจนมาก
 “อย่างนั้นข้าจะบุกเข้าไปล่ะ!
ถังเทียนตะโกน เขาตั้งอยู่ในท่านั่งม้าทันที  ภายใต้สายตาคลางแคลงใจนับไม่ถ้วน   แขนขวาของเขายกขึ้นช้าๆ และดึงรั้งมาอยู่ข้างตัว
ตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น  และนิ้วทั้งห้ารวบกำเป็นรูปหมัด
เกิดความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

16 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ทำเท่อวดสาว

เทพ3บาท กล่าวว่า...

เท่ห์จริงๆ 5555

Kontumblog กล่าวว่า...

ซวยแยบงงๆ วันไหนไม่โดนมาโดนวันอวดสาว น่าจะโดนหนักสุดรอบนี้555+

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แอบอ่าน กล่าวว่า...

แค่อยากจะโชว์ 555

Darksun กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Janjaow กล่าวว่า...

เพียงเพราะเสี่ยวเทียนเทียนอยากเท่
ตระกูลชิวเลยเจอกับความฉิบหายใหญ่หลวง

pmt กล่าวว่า...

ขอบตุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

พี่แกคึกจริงๆ 555

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ไอ้ขี้อวดเอ๊ย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ถ้าเซียนฮุยไม่มาดูไอ้ชิวตายไปนานละ 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

พี่ถังเท่มากกกค่า

แสดงความคิดเห็น