วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 22 ข่มขู่คุกคาม


เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 22 ข่มขู่คุกคาม
ขณะที่บาร์นาสและพวกถอยกลับเมฆแยกสลายเปิดช่องให้ดวงอาทิตย์สาดแสงลงมาที่ปราสาทเลือดมังกรอีกครั้ง

กลุ่มคนที่อยู่ในปราสาทเลือดมังกรทุกคนต่างจ้องมองเด็กหนุ่มสองคนนี้อย่างเหลือเชื่อ  ตอนนั้นบาร์นาสเพิ่งจะไล่ต้อนทารอสลงไปอยู่บนพื้นและต้องการฆ่าทุกคน แต่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับถูกเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำลายแทน สิ่งที่น่าประหลาดที่สุดก็คือ...
เด็กหนุ่มทั้งสองที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาก็คือจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งคู่!
 “ฮาร์ท, ฮาร์วี่ย์?” ลินลี่ย์พูดอย่างค่อนข้างจะลังเล
 “ฮ่าฮ่า..”  เสียงหัวเราะดังลั่นสามารถได้ยินได้  เป็นเสียงหัวเราะของทารอสขณะกำลังเดินเข้ามาหา  “ข้าไม่เคยเข้าใจเลยว่าลูกชายของลอร์ดเบรุตที่อายุก็ไม่ได้น้อยกว่าข้าและอยู่มาเป็นล้านปีจะทรงพลังมากมายขนาดไหน เป็นไปได้ยังไงที่เป็นระดับเซียนอยู่ได้ตลอดเวลา  ข้ามักจะสงสัยว่าพวกเจ้าสามพี่น้องต้องซ่อนพลังที่แท้จริงไว้แน่  ตอนนี้ดูเหมือนว่าเป็นที่แน่นอนแล้ว!
ฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์สองพี่น้องหัวเราะ
ลินลี่ย์เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใจทันที ในอดีต เขาไม่รู้ว่าฮาร์กับฮาร์วี่ย์มีชีวิตอยู่มานานเท่าใดแล้ว
ตอนนี้เที่ฟังดู พวกเขามีชีวิตอยู่มานานเป็นล้านปี  ด้วยการใช้ชีวิตที่ยาวนานแบบนั้นและบิดาของเขาคือลอร์ดเบรุตเทพชั้นสูงและเป็นทูตมหาเทพ.. ถ้าแฮรี่, ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์ยังคงเป็นเซียนอยู่จริงๆ  นั่นคงเป็นเรื่องประหลาด
 “ข้ารู้สึกอิจฉาจริงๆ”  ไดลินถอนหายใจ  “ฮาร์ท, ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าสองพี่น้องถือสมบัติเทพชั้นสูงด้วยหรือ?
 “ถูกต้อง”  ฮาร์ทที่อยู่ในชุดม่วงพยักหน้า
 “ท่านพ่อของเราให้สมบัติเหล่านี้กับเราไว้เมื่อเรากลายเป็นเทพตอนแรก”  ฮาร์วี่ย์ในชุดทองพูดขึ้น
ทารอส ไดลิน เทพสงคราม ซีซาร์และคนอื่นๆ ถอนหายใจและคิดในเรื่องเดียวกัน ไม่มีทางจะเทียบได้กับพวกเขา
สำหรับพวกเขา การได้รับสมบัติเทพชั้นสูงเป็นเรื่องเหมือนฝัน
แต่ฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์ไม่เพียงแต่ได้รับสมบัติเทพชั้นสูงเท่านั้น  พวกเขามีสมบัติเทพชั้นสูงให้กับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองด้วย
 “อ่อยจับขโมย!” ลินลี่ย์นึกถึงคำพูดนี้ทันที
เนื่องจากลินลี่ย์เห็นดังนั้น ลอร์ดเบรุตคงใช้อำนาจของเขาเพื่อสร้างสมบัติเทพชั้นสูงให้ลูกๆ เขา  นั่นสมเหตุผลแล้ว,  ลอร์ดเบรุตเป็นผู้จัดการสุสานเทพเจ้า  คงไม่ใช่เรื่องยากในการจัดหาสมบัติเทพชั้นสูงให้ลูกๆ เขาแทน
 “มิน่าเล่า, กระบี่เลือดม่วงของข้าถึงถูกเอาไปใช้ช่วงปิดผนึกวงเวท  “ลินลี่ย์เข้าใจตอนนี้แล้ว
สำหรับลอร์ดเบรุต อาวุธเทพชั้นสูงไม่ใช่เรื่องใหญ่
มิน่าเล่า ในวันแต่งงานของเขา เบรุตจึงให้ประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นของขวัญเขา
เดเลียหัวเราะ  “ทุกท่าน, อย่าเอาแต่ยืนเฉยอยู่ตรงนั้นเลย  เมื่อฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์มาร่วมกำลังด้วย พวกเขาจึงได้ข่มขู่ศัตรูจนหวาดกลัวหนีไป  เท่าที่ข้าเห็น จากวันนี้ไป ปราสาทเลือดมังกรคงจะอยู่อย่างสงบไปสักระยะหนึ่ง นี่คือเรื่องที่ยอดเยี่ยม  เราคงต้องฉลองกันแล้ว!
พ่อบ้านแอชลี่ย์หัวเราะเบาๆ  “ข้าจะสั่งให้เตรียมงานจัดเลี้ยงทันที!
ทุกคนในปราสาทเลือดมังกรอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ดี  ทุกคนเข้าใจว่าเพื่อจะปกป้องบีบี ลอร์ดเบรุตจะไม่ยอมปล่อยให้อะไรก็ตามคุกคามปราสาทเลือดมังกร ครั้งนี้แค่ฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์เท่านั้นที่เคลื่อนไหว...
กองกำลังของศัตรูถูกข่มขู่คุกคาม!
ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องนี้แม้แต่น้อย
ฝ่ายบาร์นาสมาอย่างอาจหาญ กระจายรัศมีครอบคลุมทุกที่ขณะที่พวกเขาโจมตีปราสาทเลือดมังกร ได้ดึงดูดยอดฝีมือตามรายทาง ยอดฝีมือเหล่านั้นใช้สัมผัสเทพของตนเรียกสหายของพวกเขา  เพื่อที่ว่าเมื่อสงครามเกิดขึ้น จะได้มีเทพและเซียนที่ซ่อนตัวอยู่ห่างออกไปจากปราสาทเลือดมังกรจะได้เห็นการสู้รบ
เป็นธรรมดาที่ยอดฝีมือเหล่านี้ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างสู้รบนี้
ลักษณะที่ฮันบริทใช้โจมตีทำให้โลกเปลี่ยนสีเองทำให้โลกเปลี่ยนสีสันไป ทำให้ยอดฝีมือหลายคนกลั้นหายใจด้วยความตกใจ
ทารอสใช้พลังป้องกันการโจมตีจากฮันบริททำให้พวกเขาถึงกับบอกตัวเองว่าพลังของเทพแท้ผู้นี้น่ากลัวอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบาร์นาสโจมตี  ยอดฝีมือทุกคนถึงกับตกตะลึง  แม้แต่เทพแท้ทั้งสองที่ซ่อนอยู่ใกล้ๆ ก็ยังตกใจทึ่งอย่างหนัก  ใจของพวกเขาสั่นสะท้านกับพลังของสมบัติเทพชั้นสูงในมือของบาร์นาส  เพียงแต่...ใครจะคาดคิดกันเล่าว่าฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์จะลงมือโจมตีทันที?
ยอดฝีมือทุกคนรู้สึกหงุดหงิด
ในพริบตาเดียวฝ่ายของบาร์นาสบาดเจ็บสาหัส  ขณะที่บาร์นาสสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์!
พลังของฮาร์ทกับฮาร์วี่ย์ทำให้ทุกคนในที่นั้นประหลาดใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำพูดที่พวกเขากล่าว  “ปราสาทเลือดมังกรเป็นสถานที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของลอร์ดเบรุต  ไปบอกแอดกินส์เลยว่าเขาอย่าได้ปล่อยคนของเขามาเพ่นพ่านที่นี่อีกในอนาคต มิฉะนั้นครั้งต่อไป จะไม่ใช่ลงโทษแค่เพียงทำลายหนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเท่านั้น”
ขณะนั้น เด็กหนุ่มชุดม่วงนามว่าฮาร์ทกระจายเสียงดังออกไปในระยะไกล
ยอดฝีมือเหล่านั้นเข้าใจได้ทันทีว่าปราสาทเลือดมังกรตอนนี้อยู่ภายใต้การปกป้องของลอร์ดเบรุต  และลอร์ดเบรุตจะไม่สนใจว่าแอดกินส์เป็นเทพชั้นสูงที่ทรงพลังเพียงไหนก็ตาม แล้วอย่างนั้นจะให้ระดับเทียมเทพ และระดับเทพแท้เหล่านั้นกล้าล่วงเกินปราสาทเลือดมังกรได้ยังไง?
ยอดฝีมือเหล่านี้ช่วยกันแพร่กระจายข่าวออกไปกว้างไกล
ยอดฝีมือหลายคนซ่อนตัวอยู่ในทวีปยูลานได้รับรู้อย่างรวดเร็วว่าปราสาทเลือดมังกรไม่ใช่ที่ๆ มีแต่เพียงเทพทั้งหลายปกป้อง  แต่ยังอยู่ในความคุ้มครองของลอร์ดเบรุต  ไม่ต้องสงสัยกันแล้ว.. ไม่มีใครในระดับต่ำกว่าเทพชั้นสูงกล้าล่วงเกินท้าทายลอดร์ดเบรุต!
ชื่อเสียงของปราสาทเลือดมังกร  รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับลินลี่ย์เจ้าของสถานที่นั้นกลายเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่ยอดฝีมืออย่างรวดเร็ว
วังหลวง จักรวรรดิโอเบรียน
ลมหนาวพัดแรงผ่านชุดยาวที่โบกสะบัดของบาร์นาสและคนอื่นๆ
บาร์นาส เกเทนบี โอจวินและฮันบริท ทั้งหมดยืนเข้าแถวด้วยกันทำความเคารพแอดกินส์  หน้าของแอดกินส์บึ้ง  ตอนนี้ที่มือขวาของเขาถือแก้วเหล้าองุ่นแดง  เขากวาดสายตาราวกับมีดมองดูบริวารทั้งสี่
 “บาร์นาส, ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าถูกทำลายหรือ?”  แอดกินส์สามารถบอกได้ทันทีว่าบาร์นาสบาดเจ็บสาหัส
 “ถูกแล้ว”  บาร์นาสพยักหน้าเบาๆ
 “บัดซบ!  แอดกินส์ส่งเสียดุร้าย ขว้างแก้วเหล้าลงกับพื้น  “เพล้ง” แก้วเหล้าแตกกระจาย  เสียงแก้วแตกดูเหมือนมีผลกระทบต่อจิตใจบาร์นาส โอจวินและคนอื่น  แอดกินส์ที่หน้าตาหล่อตอนนี้ดูดุร้ายเหมือนเสือดำ
 “มากับข้า!
หน้าของแอดกินส์ดุดันและโหดเหี้ยม  “เราจะตรงไปยังปราสาทเลือดมังกร  เราจะทำลายพวกมันให้หมด!!!
บาร์นาส โอจวิน เกเทนบีและฮันบริทตกใจอย่างหนัก  มีแต่โอจวินที่มีแววดีใจอยู่ในสายตา  ถ้าแอดกินส์ลงมือโจมตีด้วยตนเอง  อย่างนั้นเขาคงมีโอกาสล้างแค้นให้ลูกชาย
 “ลอร์ดแอดกินส์!  บาร์นาสรีบกล่าว  “ลอร์ดแอดกินส์ ท่านจะทำอย่างนั้นไม่ได้!
แอดกินส์หันมาจ้องเขาด้วยความโกรธ และพูดอย่างฉุนเฉียว  “ปู่บาร์นาส, ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของท่านถูกทำลาย  นั่นหมายความว่าท่านเสียไปหนึ่งชีวิต เราจะไม่ชำระแค้นนี้ได้ยังไง?”
ฮันบริทและโอจวินที่อยู่ใกล้ตะลึง
ปู่บาร์นาส?
อย่างไรก็ตามเกเทนบีที่อยู่ใกล้ๆ ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย  เขาติดตามลอร์ดแอดกินส์มาเป็นเวลานาน  เขารู้สัมพันธ์ระหว่างบาร์นาสกับแอดกินส์
ก่อนที่แอดกินส์กับบาร์นาสจะถึงระดับเทพ  ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนก็คือนายน้อยกับพ่อบ้าน
บาร์นาสมักจะตามดูแลแอดกินส์เสมอ  ความจริงพูดกันตามตรงบาร์นาสเข้าถึงระดับเทพก่อน และหลังจากนั้นเขาจึงตามดูแลแอดกินส์  แอดกินส์ค่อนข้างจะมีอารมณ์ร้อน  แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนมาก  เพราะเขาเองจึงเป็นต้นเหตุให้ผู้ดูแลประตูทางพิภพโกรธ
พิภพยูลานในยุคของเขา  บาร์นาสกับแอดกินส์ทั้งสองคนถูกจองจำในพิภพเกบาโดส
ในพิภพจองจำเกบาโดส บาร์นาสจะคอยดูแลแอดกินส์ตลอดเวลา  ในที่สุดพลังของแอดกินส์ก็เหนือล้ำกว่าบาร์นาสและเขาเข้าถึงระดับเทพชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ในใจของเขา บาร์นาสเป็นคนที่สนิทที่สุด เชื่อใจที่สุดเท่าที่แอดกินส์รู้จัก
บาร์นาสมีท่าทีขมขื่นใจอยู่ในสีหน้า  “แอดกินส์, อย่าเพิ่งหัวเสียเลย!
หัวเสีย?  ถ้าใครอื่นพูดคำนี้กับแอดกินส์  แอดกินส์จะฆ่าเขาทันที  แต่คนที่พูดคำนี้คือบาร์นาส
 “ลอร์ดแอดกินส์ ท่านอย่าปล่อยให้ข้าต้องพบจุดจบเลย  ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าถูกทำลายจริง  แต่มันถูกทำลายด้วยพลังของเบรุต  ปราสาทเลือดมังกรอยู่ในความคุ้มครองของเบรุต  ถ้าเราไปที่นั่นอีก  ก็หมายความว่าเราจะเป็นศัตรูกับเบรุตอย่างเปิดเผย”
 “ฮึ่ม.. เด็กหนุ่มที่ฝึกมาเพียงไม่กี่ล้านปี!  ตาของแอดกินส์เปล่งประกายเย็นชา  “แล้วไงเล่า ถ้าเขาจะเป็นทูตของมหาเทพ?  ข้าไม่เชื่อว่าข้าฆ่าเขาไม่ได้!
แอดกินส์นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ  แม้แต่ในพิภพเกบาโดส ที่ซึ่งยอดฝีมือธรรมดามีทั่วไปดาษดื่น  มีอยู่กลุ่มเดียวที่ทำให้เขายอมรับก็คือ ห้าราชันย์  สำหรับเบรุต ก็แค่มีความจริงที่ว่าเบรุตฝึกฝนมาไม่กี่ล้านปีเท่านั้น  แอดกินส์รู้สึกดูถูกเหยียดหยามเขา
เพียงแต่สถานะของเบรุตก็คือทูตของมหาเทพ ทำให้แอดกินส์ลังเลเล็กน้อย
บาร์นาสกระตุ้นเตือนเขาอย่างจริงจัง  “ลอร์ดแอดกินส์ ท่านรู้ไหมว่าร่างทั้งสี่นั้นใช้อาวุธอะไร?”
 “อาวุธอะไร?”  แอดกินส์หัวเราะเยือกเย็น
 “ทั้งหมดนั้นใช้อาวุธเทพระดับสูง!  บาร์นาสพูดเคร่งขรึม
แอดกินส์อดสะดุ้งไม่ได้  สมบัติเทพระดับสูง  นั่นคือสิ่งที่เทพระดับสูงสร้างขึ้นหลังจากฝึกฝนใช้สิ่งนั้นมานานนับปีไม่ถ้วน  พูดโดยทั่วไป ยอดฝีมือผู้เข้าถึงชั้นเทพระดับสูงไม่นานจะไม่มีอาวุธเทพระดับสูง
แม้ว่าแอดกินส์เองจะทรงพลังมาก  แม้ว่าจะผ่านมานานหลายปี  เขาก็มีอาวุธเทพชั้นสูงเพียงไม่กี่ชิ้น  ให้บาร์นาสชิ้นหนึ่ง  เขาเก็บไว้ใช้เองสองชิ้น
แต่คนทั้งสี่นี้ใช้อาวุธเทพชั้นสูงกันทั้งหมด
 “ฮึ่ม.. ไม่มีอะไรมากไปกว่าของขวัญจากมหาเทพ”  แอดกินแค่นเสียง
บาร์นาสฝืนใจกระตุ้นเตือน  “ลอร์ดแอดกินส์  นั่นไม่ใช่ตัวเบรุตเอง  แค่บริวารของเขา  สี่ร่างนั้นความจริงคือคนสองคน แต่ละคนมีสองร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่คนทั้งสองก็มีสมบัติเทพชั้นสูงคนละสองชิ้น  ลอร์ดแอดกินส์ ท่านคิดดู แล้วตัวเบรุตจะเป็นยังไง?”
ตอนนี้ในใจของแอดกินส์เริ่มลังเลแล้ว
 “ทั้งหมดที่เขาทำก็คืออาศัยมหาเทพหนุนหลังเขา”  ใจของแอดกินส์เต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่อาจดับลงได้
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ
เบรุตอาจจะครอบครองสมบัติเทพชั้นสูงที่มีค่าหลายชิ้น  บางทีก็เป็นสมบัติที่ปกป้องวิญญาณของเทพระดับสูงก็ได้ หรือ ถ้าเบรุตครอบครองสมบัติมหาเทพ... แม้แต่เทพชั้นสูงธรรมดาผู้ครอบครองสมบัติมหาเทพที่แท้จริงคงจะต้องมีพลังที่น่ากลัวเมื่อใช้ออกมา
 “ในเมื่อลอร์ดเบรุตกล้าลงมืออย่างนั้น  เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจในตัวเองมาก”  บาร์นาสมองดูเขา  “ลอร์ดแอดกินส์,  ข้าเพียงสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไปเพียงร่างเดียว  ที่สำคัญคือข้ายังไม่ตาย  ลอร์ดแอดกินส์  สิ่งที่สำคัญจริงๆ ก็คือท่านต้องสามารถได้รับสมบัติภายในสุสานเทพเจ้าต่างหาก  นั่นคือสิ่งที่สำคัญ  ตอนนี้ดีที่สุดก็คือ อย่าเป็นศัตรูกับเบรุต”
แอดกินส์เงียบไปชั่วขณะ
 “ก็ได้.. ข้าจะอดทนอีกสักพันปี”  แอดกินส์กัดฟัน  “หลังจากข้าได้รับสิ่งที่ต้องการจากสุสานเทพเจ้าแล้ว.... ถึงเวลานั้น  ข้าจะทำให้เบรุตเสียใจที่บังอาจทำหยิ่งผยองกับข้าในวันนี้!
บาร์นาสถอนหายใจโล่งอก
เขารู้ว่าแอดกินส์หยิ่งเกินไป และมีความอดทนน้อย  อย่างไรก็ตามแอดกินส์ยังคงฟังคำแนะนำของบาร์นาส
ดังนั้นแอดกินส์จึงไม่ไปปราสาทเลือดมังกรเพื่อแก้แค้น  เขายังคงเงียบอยู่  ความเงียบของแอดกินส์ทำให้ยอดฝีมือหลายคนที่ออกจากเกบาโดสมาพิภพยูลานเชื่อว่า...
แอดกินส์กลัวเบรุต!
ไพรทมิฬ  ปราสาทโลหะ
 “แอดกินส์ผู้นี้ยังคงข่มกลั้นตัวเองได้”  เบรุตเอนกายดื่มน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ หน้าของเขามีรอยยิ้ม  “ดูเหมือนพิภพยูลานคงจะเงียบสงบไปสักระยะหนึ่ง  เพียงแต่..ฮ็อดเดิลที่อยู่ทางเหนือ คงไม่เปลี่ยวเหงาแน่”
เบรุตหันหน้าไปมองทางทิศเหนือ
สายตาของเขาดูเหมือนจะทะลุผ่านม่านหมอกความเป็นจริง เมื่อเห็นผู้ดูแลทางเข้าพิภพ ฮ็อดเดิลในดินแดนขั้วโลก
 “พวกยอดฝีมือนั่นทุกคนคิดว่าสุสานเทพเจ้าคือห้องสมบัติที่พวกเขาจะมาเอาประกายเทพชั้นสูง  สมบัติเทพชั้นสูงและแม้แต่สมบัติมหาเทพได้ตามชอบใจอย่างนั้นหรือ?... ฮ่าฮ่าน่าเสียดาย ผู้พิทักษ์สุสานเทพเจ้าก็คือข้าเอง!
เบรุตตาเป็นประกายเหมือนกับจิ้งจอก แต่ดวงตาของเขามีแววมุ่งหวัง
ที่สำคัญการอยู่ในทวีปยูลานมานานมากทำให้เบรุตรู้สึกเบื่อ
มีเรื่องบันเทิงเข้ามาเป็นครั้งคราวบ้าง ก็ดีเหมือนกัน

8 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

ลาสบอสนี้เอง

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

KiattisakPleng กล่าวว่า...

ชนะเบรุตได้น่าจะได้ของดี

Reeds กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

SaMiiz กล่าวว่า...

ลุวเบรุตตต สุดยอดดดก

แสดงความคิดเห็น